“ณ สัทธา อุทยานไทย”จัดมหกรรมเที่ยวเทศกาลไฟILLUMINATIONราชบุรีปี63 ปลุกทัวร์บุญรับปีใหม่-ชวนเที่ยวเทรนด์“สวนผึ้ง-แมนเมด”อะเมซิ่งไทย7เส้นทาง

 

“ณ สัทธา อุทยานไทย”จัดมหกรรมเที่ยวเทศกาลไฟILLUMINATIONราชบุรีปี63

ปลุกทัวร์บุญรับปีใหม่-ชวนเที่ยวเทรนด์“สวนผึ้ง-แมนเมด”อะเมซิ่งไทย7เส้นทาง

“อภิเชษฐ์”นำพันธมิตรคิงเพาเวอร์เปิดโปรเจ็กต์ THE POWER BAND 27 พ.ย.นี้

คิงเพาเวอร์ผนึกพันธมิตรบูมขายกล้องใหม่สุดGoProHero9สมาชิกบัตรลดทันที

ททท.ชวนเที่ยว“Village Tourism Festival” 27-29พ.ย.ที่สามย่านมิตรทาวน์

ททท.-เมืองกาญจน์เปิดชมฟรีไลฟ์&ซาวนด์สะพานข้ามแม่น้ำแควเริ่ม27พ.ย.63

TCEBแนะธุรกิจไมซ์รายย่อยเร่งใช้3กลยุทธ์เด็ดปรับตัวรับตลาดยุคใหม่หลังโควิด

ท่องเที่ยวชมฟรี “พระราชวังเดิม/วังกรุงธนบรี”โอกาสพิเศษปลายปี14-28 ธ.ค.นี้

สุขภาพดีด้วยเทคนิคการเดินขึ้น-ลงบันไดดีกว่าการใช้ลิฟท์น้ำหนักลดเหลือเชื่อ

“เซ็นทาราแกรนด์ฯหัวหิน”อัดโปรห้องวิลล่าลดและแถมสิทธิ์อื้อซ่าถึง31มี.ค.64

กสอ.ปั้นแพลตฟอร์มThai LGBT CONNECTรุกตลาดท่องเที่ยวเพศทางเลือก

EVAแอร์เวย์สไต้หวันสร้างความฮือฮาจัดเที่ยวบินคนโสดคริสต์มาส-ปีใหม่64

 

นางสาวณปภา ศิริพรเลิศ

 กรรมการผู้จัดการ ณ สัทธา อุทยานไทย จังหวัดราชบุรี

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  ฟัง Live สดทางลิงค์นhttps://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1504926673034719&id=100005522016696

ช่วงที่ 1 “นางสาวณปภา ศิริพรเลิศ” กรรมการผู้จัดการ ณ สัทธา อุทยานไทย จังหวัดราชบุรี ผนึก 4 พันธมิตร ทุ่มลงทุนกว่า 5 ล้านบาท เนรมิตโปรเจ็กต์ท่องเที่ยวสุดอลังการ “Amazing Countdown Amazing Light & Life 2021 มหัศจรรย์แห่งความหวัง 2021” พบความตระการตาการประดับไฟบูรกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ร้อยเรียงเรื่องราวทั่วฟ้าเมืองไทยจำลองไว้ให้ชมอย่างจุใจ 10 โซน ระหว่าง 18-31 ธ.ค.63 ผนวกเคาน์ดาวน์ข้ามปีถึง 2 ม.ค.64 สร้างความสุข ปลุกความหวัง เพิ่มรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น ชวนคนไทยท่องเที่ยวทางบุญ เสริมพลัง มงคลชีวิตใหม่ บัตรเข้าชมถูก ๆ สุด ซื้อช่วงเออร์รี่เบิร์ดใบละแค่ 150 บาท ซื้อช่วงปกติหลัง 12 ธ.ค.นี้จ่ายคนละ 250 บาท และเที่ยวเชื่อมโยงได้ใน 7 แห่ง ไฮไลต์ “เดอะ บลูม ออร์คิดปาร์ค-เถ้าฮงไถ่-อุทยานธรรมชาติ”

นางสาวณปภา ศิริพรเลิศ กรรมการผู้จัดการ ณ สัทธา อุทยานไทย จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ลงทุนกว่า 5 ล้านบาท ประดับประดาไฟสวยงามนับล้านดวงด้วยเทคนิคไดนามิกโครงการ “Amazing Countdown Amazing Light & Life 2021 มหัศจรรย์แห่งความหวัง 2021” ร่วมกับ  4 พันธมิตร ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง  บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท SPARKLING LIGHT  และบริษัท DIGITAL PICNIC  วางกลยุทธ์จัดกิจกรรมเพื่อช่วยกันกระตุ้นรายได้ท่องเที่ยววันธรรมดา วันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ รวม 12 วัน ระหว่างวันที่ 18 –20, 24 – 27, 29 – 31 ธันวาคม 2563 และ วันที่ 1 – 2 มกราคม 2564 เข้าชม เวลา 18.00 -22.00 น.ความพิเศษในค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม2563 เวลา 18.00 – 24.00 ร่วมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

คาดการณ์จะมีคนเข้าชมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จำนวนหลักหมื่นคน จากกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวจะเป็นทั้งกลุ่มแฟนคลับ ณ สัทธา และคนไทยที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ (outbound) ที่หันมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น

ชูจุดแข็งทำให้งาน“Amazing Countdown Amazing Light & Life 2021 มหัศจรรย์แห่งความหวัง 2021” เป็นแรงบันดาลทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาชมงาน มีความหวัง กำลังใจ ที่จะใช้ชีวิตต่อไปในปีใหม่ 2564 โดยเฉพาะช่วงเคาน์ดาวน์คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จะชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมนับถอยหลังเข้าสู่วันใหม่อย่างยิ่งใหญ่ด้วยกัน

รูปแบบการจัดงานปี 2563  ได้นำไฮไลต์แสงแห่งความหวังอย่างสว่างไสวผสมผสานกัน 3 เทคนิค คือ Interactive Light Art , Projector Mapping และ Interactive Display สร้างสรรความงดงามดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ ILLUMINATION ผ่าน Lighting Immersive Art Experience อย่างตระการตา พร้อมชมดนตรี กิจกรรม ออกร้านค้าของชุมชนมากมาย

ได้แบ่งการประดับไฟอย่างสวยงามเพื่อให้นักท่องเที่ยวความอลังการไว้ทั้งหมด 10 โซน ประกอบด้วย

            โซนที่ 1 : Dynamic Lighting Suvannabhumi “ราชศรัทธา กษัตราผู้ยิ่งใหญ่” บอกเล่าเรื่องราวความเสียสละของบูรพกษัตริย์ไทย นำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขบนผืนแผ่นดินไทยทุกยุคทุกสมัย ไฮไลต์ 3 พระองค์ คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเจ้าตากสินมหาราช พระปิยะมหาราชรัชกาลที่ 5 โดยได้ใช้ลายเส้นไฟประดับร้อยเรียงเป็นภาพวัดสำคัญในแต่ละยุคสมัย ตั้งเด่นเป็นฉากหลังของสามมหาราชไทยที่ประดิษฐานเป็นสง่า ณ ลานมหาราชกษัตรา วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร : วัดในเขตพระราชฐานประจำรัชสมัย เบื้องหลังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา : วัดเด่นสมัยอยุธยา เบื้องหลังสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร : วัดประจำรัชกาลที่ 5 เบื้องหลังพระบรมรูปสมเด็จพระปิยมหาราช ไฟประดับตกแต่งเพื่อสื่อถึงความเสียสละ และความรุ่งเรืองของบูรพกษัตริย์ไทยในแผ่นดินไทย ใน ยุคของมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 3 พระองค์ จนสร้างเป็น ความศรัทธา ความภักดีของปวงชนชาวไทยต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์มาช้านาน

โซนที่ 2 : Season Change ฤดูที่แตกต่าง “เส้นทางปลุกพลังชีวิต” Paradise Route” สัมผัสความงามของธรรมชาติที่แวดล้อมด้วยน้ำ แสง เงา ไฟประดับ และภาพสะท้อนในรูปแบบของ Immersive Art & Reflection Light Garden คล้ายป่าหิมพานต์ ตลอดเส้นทางเดินสู่อาคาร ณ สัทธานุสรณ์ และ ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย ด้วยแนวคิดฤดูที่เปลี่ยนแปลงสะท้อนอารมณ์ที่หลากหลายของมนุษย์ สร้าง ความรู้สึกราวกำลังเดินในแดนสวรรค์

 

โซนที่ 3 : Ayuttaya,The Glorious Era แสงแห่งพุทธศรัทธา1  “ประทีปแห่งปัญมาทะอยุ ณ สัทธาปฏิมา 3 สมัย                                                                                    

ญา” The Light of Wisdom นำพื้นที่จัดแสดง : ฐานพระอู่ทอง / อยุธยา ร่วมจัดกรวยดอกไม้แห่งความดี ถวายเป็นพุทธบูชาต่อ พระพุทธรูปแห่งกรุงเก่า พุทธศิลป์ สมัยอู่ทอง-อยุธยา ให้สว่าง ไสวไปทั่วบริเวณฐานพระอุโบสถที่ประดับด้วยทุ่งดอกดอกบัวสีขาว เรืองแสง น้อมนำความสงบ สร้างพลัง ด้วยความรู้สึกของตัวเอง

โซนที่ 4 : Chiang Saen,The Glorious Era แสงแห่งพุทธศรัทธา 2 The Great Homage อยู่ตรงฐานพระเชียงแสน เติมเต็มจินตนาการของพระอุโบสถโบราณ ยามค่ำคืน ที่สว่างเรืองรอง ด้วยไฟประดับ สีฟ้าเป็นซุ้มทางเข้าโบสถ์อันงดงาม ผสม ผสาน ดอกบัวเรืองแสง สีขาวบริสุทธิ์

โซนที่ 5 : Secret Garden  สุขศานต์  Interactive Light ภายในถ้ำพุทธชาดก เติมเต็มจินตนาการของอุโมงค์ถ้ำที่มีเสียงน้ำตกดีไซน์ด้วย เส้นสาย เรือง แสง ถักทอเป็น “ปรากฎการณ์เรืองแสง” ท่ามกลางความเย็นฉ่ำในโถงถ้ำและเสียงน้ำตก สร้างความลื่นไหลให้กับพื้นที่ ที่จะหยุดอารมณ์ ณ เวลาเพื่อหยุดนิ่งสร้างความตรึงใจให้ทุกท่าน ขณะเดินลอดผ่าน

โซนที่ 6 : Flower Falling Beauty น้ำตกดอกไม้ Projector Mapping  บนน้ำตก ฉายภาพ มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ดอกไม้สีสันสดใส หิ่งห้อยระยิบระยับและ เกล็ดหิมะที่ร่วงพลิ้วด้วยท่วงท่านองแห่งความรื่นรมย์

โซนที่ 7 : Lighting Tunnel อุโมงค์ 3 ฤดู ดีไซน์อุโมงค์แห่งความสดใส ความเบิกบาน ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงในช่วงปี ตามฤดูกาลต่าง ๆ ที่ผ่านมา ซึ่งตอกย้ำให้คนเรารู้สึก สงบ ร่มรื่น สบาย

            โซนที่ 8 : Pray  อธิษฐานกำลังใจ รับพรที่ดีสุดเพื่อเป็นกำลังใจในชีวิตของเรา จัดทำเป็นระลอกคลื่นเคลื่อนที่ของแสง เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมกันสั่นกระดิ่งสร้างการคลื่นไหวของละลอกลูกบอลไฟประดับบริเวณแนวขาดัด ที่ลาน พระอวโลกิเตศวร ร่วมรับพรดีๆ เพิ่อเป็นกำลัง ใจ เป็นความหวัง และสิริมงคลชีวิตเพื่อการเริ่มต้นปีฉลูที่งดงาม

โซนที่ 9 : Magical  Flower คลื่นสุขใจ Lighting “แรงบันดาลใจแห่งพรรณพฤกษา’ ชวนมาสัมผัสความงามของดอกไม้ไทยประยุกต์ ทุ่งดอกไม้ เรืองแสงสีฟ้าละมุนที่ สร้างท่วงท่านองที่ลื่นไหล ให้คุณได้เข้าไปยืน อยู่ท่ามกลางความสวยงาม ด้วยความเบิกบาน

โซนที่ 10 : Blissfully Falling เป็นทางออก จึงให้ชื่อว่า “น้ำตกแห่งความหวัง” Projector Mapping เหมือนเป็นจุดสุดท้าย ที่ไม่มีทางออก แต่จริง ๆ แล้วทางออกอยู่ หลังม่านน้ำตก เปรียบเหมือนทุกทาง ทุกปัญหา ย่อมมีทางออกเป็นเหมือนความหวัง ให้ทุกคนที่กำลังจะเดินทางกลับจาก ณ สัทธา

           

            นางสาวณปภากล่าวว่า “บัตรเข้าชมงาน” แบ่งเป็น ช่วงที่ 1 “ซื้อบัตร Early Bird” ระหว่างวันนี้-12 ธันวาคม 2563 แบ่งเป็น “บัตรเข้าชมวันธรรมดา”  มีเฉพาะเข้าชมตอนกลางคืน ผู้ใหญ่ 150 บาท/คน เด็ก 80 บาท/คน  ระหว่างวันที่ 18, 24-25, 29-30 ธ.ค. 63  เวลา 18:00 - 22:00 น. “วันเสาร์-อาทิตย์และนักขัตฤกษ์” บัตรเข้าชมงานกลางคืน ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน เด็ก 100 บาท/คน ระหว่างวันที่ 19-20, 26-27, 31 ธ.ค. 63 และ 1-2 ม.ค. 64  เวลา 18:00 - 22:00 น.

ช่วงที่ 2 “บัตรปกติ” ซื้อหลังวันที่ 12 ธันวาคม 2563 บัตรเข้าชมงานกลางวัน ผู้ใหญ่ 100 บาท/คน เด็ก 70 บาท/คน บัตรเข้าชมงานกลางคืน ผู้ใหญ่ 250 บาท/คน เด็ก 150 บาท/คน ระหว่างวันที่ 19-20, 26-27, 31 ธ.ค. 63 และ 1-2 ม.ค. 64  เวลา 18:00 - 22:00 น. ส่วนบัตรเข้าชมงานทั้งวัน ผู้ใหญ่ 300 บาท/คน เด็ก 200 บาท/คน แต่ละวันเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 09:00 - 22:00 น.

ช่องทางการจองซื้อบัตรทาง Official Line : @nasatta  หรือ Facebook Inbox Message : @nasatta.thai หรือ โทร.032-383-333 มีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลทุกวัน หรือจะเดินทางไปซื้อตรงเคาน์เตอร์ทางเข้า ณ สัทธา อุทยานไทย ก็ได้เช่นกัน

            ตลอดงานจะมีกิจกรรมบริการ อาหารเครื่องดื่ม พร้อม ๆ กับทางชุมชนจะมาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน งานหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์อาหารถิ่น และปีนี้พิเศษผลไม้ทางการเกษตร และผลไม้แปรรูป พร้อมเจ้าหน้าที่นำชมแต่ละโซน

            ส่วนผลิตภัณฑ์ อัตลักษณ์ท้องถิ่นเมืองโพธาราม จังหวัดราชบุรี ก็จะมีเมนูอาหารเป็นกิมมิก เช่น  ขนมงาสลัด ขนมไทยโบราณคือกากมณี อาหารก็มีเต้าหู้ดำสินค้าชุมชนขึ้นชื่อ แต่ละสัปดาห์จะสลับสับเปลี่ยนเมนูไปตลอด รวมทั้งมีเรื่องของตาล ขนมไทย ราคาอาหารและเครื่องดื่มเริ่มต้นเพียงแค่ 30-50 บาท f

เมื่อเดินทางมาราชบุรี ช่วงปลายปี 2563 มีสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงได้ด้วยคือ 1.เดอะ บลูม ออร์คิด ปาร์ค จัดเทศกาล “มหัศจรรย์แดนมาลี” ช่วงเดียวกับ Amazing Countdown Amazing Light & Life 2021 มหัศจรรย์แห่งความหวัง 2021 ของ ณ สัทธา 2.เถ้าฮงไถ่ โรงงานปั้นโอ่งต้นตำรับเมืองราชบุรี ตอนนี้เป็นศูนย์รวมงานศิลปะ หัตถกรรม เซรามิก งานฝีมือดีรัตนโกสินทร์ 3.จิปาถะ คูบัว 4.หนังใหญ่วัดขนอน มีพิพิธภัณฑ์ 5.อุทยานพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา หรืออุทยานเขาวงค์ หากไปเช้า ๆ ก็แวะ 6.ตลาดน้ำดำเนินสะดวก 7.PASAYA โรงงานผลิตผ้าส่งออก มีผลิตภัณฑ์ของขวัญ ของฝาก แฟชั่นดีไซน์มากมาย

สำหรับการจองโรงแรมห้องพัก ต้องรีบจอง ถึงแม้จะมีโรงแรมกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดน้ำดำเนินสะดวก อำเภอเมือง อำเภอโพธาราม แต่ก็ต้องรีบติดต่อสอบถาม เพราะอาจจะเต็มได้ โดยโรงแรมที่พักแต่ละแห่งในราชบุรีจะขายหลัก 100-1,000 บาท/ห้อง/คืน เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางเข้ามาใช้บริการให้มากที่สุด

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 ข่าวที่ 1 “อภิเชษฐ์”นำพันธมิตรคิงเพาเวอร์เปิดโปรเจ็กต์ THE POWER BAND 27 พ.ย.นี้

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเอวร์ ประกาศจับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เตรียมเปิดตัวโครงการ “THE POWER BAND” วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 นี้ โดยจะมี ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นายวิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records ในช่วงเวลา 15.00 น.พบกับ “ปั๊บ โปเตโต้” ศิลปินคนรุ่นใหม่แถวหน้าของเมืองไทย จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์ แรงบันดาลใจในเส้นทางสายดนตรี พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจากวง ETC. และ Pae Sax

สำหรับการจัดงานประกวดพลังดนตรี Music Power ประจำปี 2564 ในโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ผู้มีใจรักเสียงเพลงได้แสดงพลัง “The Power Band” เปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบดนตรีลงทะเบียนสมัครที่ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc  ตั้งแต่ 9 พ.ย. – 5 ม.ค. 2564  โทร. 02-800-2525 ต่อ 3109 หรือเฟซบุ๊ก: Thailand International Wind Symphony Competition โดยมีเงินรางวัลพร้อมมอบให้ผู้ชนะรวมกว่า 680,000 บาท

อีกทั้งยังมีโปรดิวเซอร์มือทอง นักแต่งเพลงและมิวสิกไดเรกเตอร์แถวหน้า ปั้นศิลปินมาแล้วมากมาย นำโดย พล-คชภัค ผลธนโชติ โปรดิวเซอร์มือทองค่าย Boxx Music, โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ มิวสิกไดเรกเตอร์ วง Jetset’er และนิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล และอีกหลากหลายคน

สมัครเข้าร่วมประกวดดนตรี Music Power ประจำปี 2564 ได้ 2 รุ่น คือ

1.Class E (บุคคลทั่วไป) ไม่จำกัดอายุ และสัญชาติ สมาชิกในวงตั้งแต่ 8 - 14 คน ประกอบด้วย นักร้อง / กลองชุด / เบส / กีตาร์ / คีย์บอร์ด  ตำแหน่งละ 1 คน เครื่องเป่า 3 คน และเครื่องดนตรีอื่นไม่เกิน 6 คน

2.Class F (ระดับมัธยมศึกษา) กำลังศึกษาอยู่ ไม่เกินระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเดียวกันเท่านั้น

สมาชิกในวงตั้งแต่ 8 - 14 คน ประกอบด้วย นักร้อง / กลองชุด / เบส / กีตาร์ / คีย์บอร์ด  ตำแหน่งละ 1 คน เครื่องเป่า 3 คน และเครื่องดนตรีเพิ่มเติมไม่เกิน 6 คน

หากใช้เครื่องดนตรีเพิ่มเติมต้องระบุในแบบฟอร์มการสมัคร เช่น เครื่องสาย, เพอร์คัสชั่น, คอรัส, นักร้องนำหรือเครื่องเป่า และไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ Sequencer Computer Data หรือดนตรีสำเร็จที่เตรียมไว้ล่วงหน้า

สำหรับคุณสมบัติ และกติกาการคัดเลือก 1.ผู้เข้าประกวดทั้ง 2 ประเภท จะต้องไม่อยู่ภายใต้สัญญากับสังกัดค่ายเพลงใด 2.เพลงที่ใช้ในการแข่งขันรอบคัดเลือก มี 2 เพลง ประเภทเพลงเร็วและเพลงช้า ความยาวไม่ต่ำกว่า 3 นาที และไม่เกิน 6 นาที 3.อัพโหลดไฟล์วีดีโอที่ส่งเข้าประกวดขึ้น Youtube และตั้งค่าวีดีโอให้เป็น Unlisted เท่านั้น พร้อมแนบลิงค์วีดีโอที่อัพโหลดในใบสมัคร 4.Class F วงนักเรียน แนบสำเนาหนังสือรับรองการศึกษาจากสถาบัน จำนวน 1 ชุด โดยในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใส่ชุดนักเรียนของสถาบันของตัวเองเท่านั้น 5.Class E บุคคลทั่วไป แนบสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาพาสปอร์ตของสมาชิกทุกคนในวง จำนวน 1 ชุด

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์ผนึกพันธมิตรบูมขายกล้องใหม่สุดGoProHero9สมาชิกบัตรลดทันที

 

ศิลักณ์ อินทภาษี ผู้อำนวยการส่วนงานบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าและบริการสมาชิก กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ 2 พันธมิตร คือนายธนรักษ์ ธนันต์มณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เมนทาแกรม จำกัด และนายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จัดกิจกรรม “King Power’s Member Training with GoPro Hero 9” โดยให้สิทธิลูกค้าผู้ถือบัตร สมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อซื้อกล้อง GoPro Hero 9 รับทันทีส่วนลดตามหน้าบัตรสมาชิก 5-15 %

ตั้งเป้าหมายมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้ลูกค้าสมาชิก คิง เพาเวอร์ สัมผัสความพิเศษของกล้อง GoPro Hero 9 ซึ่งเป็นกล้องฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุดของ GoPro ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ผ่านการ Test Drive รถยนต์ Mercedes Benz ที่ติดตั้งกล้อง GoPro Hero 9 ณ โชว์รูม Primus Autohaus  

ข่าวที่ 3 ททท.ชวนเที่ยว“Village Tourism Festival” 27-29พ.ย.ที่สามย่านมิตรทาวน์

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมงานท่องเที่ยวชุมชนที่ชิคที่สุดในรอบปี “Village Tourism Festival” ระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.00-21.00 น. ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ โดยได้นำชุมชนที่ได้รับรางวัลสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท Thailand Rural Tourism Award 2020 นำสินค้ามาเสนอให้นักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เข้าชมงานฟรีเพื่อสัมผัสทุกพื้นที่ทั่วเมืองไทยที่ยกมาไว้ใจกลางกรุงกันแบบเต็ม ๆ  5 อย่าง คือ

 1.ชิม อาหารจานเด็ดทั่วไทย 2.ช้อป งานคราฟท์ร่วมสมัยและผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายหลากสไตล์ 3.ชีล กับการเลือกเส้นทางการท่องเที่ยวชนบทที่ชื่นชอบซึ่งทางกลุ่มบริษัทตัวแทนนำเที่ยวสตาร์ตอัพจะนำโปรโมชั่นมาวางขายในราคาพิเศษ 4.ชิคแชะแชร์ กับจุดถ่ายรูปพิเศษเฉพาะงานนี้มุมสวย ๆ มากมาย 5.ชมการแสดงสุดฟินจากศิลปินชั้นนำ ปาล์มมี่  ป๊อบ ปองกูล กัน ณภัทร LIPTA SEASON FIVE และวัชราวลี  

ผู้ที่ต้องการเข้าชมงงาน “Village Tourism Festival” สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ  แล้วสามารถเดินทางเข้าร่วมงานได้หลายช่องทาง เช่นบริการ Shuttle Bus รับส่งบริเวณ MRT สามย่าน และลิโด้ โทร.สอบถามเพิ่มที่ 1672 หรือเฟซบุ๊ค : Thailand Festivalwww.thailandfestival.org 

ข่าวที่ 4 ททท.-เมืองกาญจน์เปิดฟรีไลฟ์&ซาวนด์สะพานข้ามแม่น้ำแควเริ่ม27พ.ย.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี รายงานว่า การท่องเที่ยว “งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว (light and Sound) และงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2563” ระหว่าง27 พ.ย. - 6 ธ.ค. 2563 สรุปรอบให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแสง-เสียง ฟรี โดยจัดให้ไว้ทั้งหมด12  รอบ ซึ่งทางจังหวัดกาญจนบุรี จัดที่นั่งชมการแสดงไว้ รอบละ 1,000 ที่นั่ง โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าแถวต่อคิวทุกวัน เมื่อครบจำนวนก็จะปิดทันที เปิดวันละ 2 รอบ รอบแรก เริ่มเวลา 17.30 น. รอบที่สอง จะเปิดเวลา 19.30 น. พร้อมๆ กับจัดที่นั่งสำรองด้านนอกอีกจำนวนหนึ่งให้ชมผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ ที่ถ่ายทอดสดการแสดงให้ชมด้านนอก  

 กติกาการเข้าชมแสง-เสียง สะพานข้ามแม่น้ำแคว ครั้งนี้ 1.ผู้เข้าชมจะต้องแสดงบัตรประชาชน (หรือพาสปอร์ต กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติ) 2.ทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรองเพื่อวัดอุณหภูมิ พร้อมทั้งสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดระยะเวลาการเข้าชม  3.ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปในบริเวณที่นั่งชมภายในที่จัดไว้รอบละ 1,000 ที่นั่ง

สำหรับนักท่องเที่ยว หรือบริษัททัวร์ ที่ต้องการเข้าชมการแสดงเป็นหมู่คณะ ติดต่อจองที่นั่งเข้าชมได้ที่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี โทร.034-520-335 

 

ข่าวที่ 5 TCEBแนะธุรกิจไมซ์รายย่อยเร่งปรับใช้3กลยุทธ์รับตลาดยุคใหม่หลังโควิด

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” รายงานว่า ทางทีม Thai MICE Connect ซึ่งเป็นหน่วยขับเคลื่อนการให้ข้อมูลคำแนะนำเครือข่ายอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ล่าสุดได้ให้ข้อมูลภาคธุรกิจเร่งนำช่องทางการขายแบบออนไลน์ซึ่งเติบโตได้ดีกว่าช่องทางออฟไลน์ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัวมากขึ้น

ดังนั้นผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรม ตัวแทนบริษัทนำเที่ยว หรืออุตสาหกรรมไมซ์รายย่อย ควรเร่งปรับตัวให้ทันยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปให้ได้ ทาง Thai MICE Connect จึงนำแนวทางการปรับตัวที่ควรรู้ทำให้การขับเคลื่อนธุรกิจก้าวต่อไปได้ด้วย 3 กลยุทธ์ดังนี้

1. การเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ - ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์เกิดขึ้นใหม่มากมายเพื่อ “เป็นช่องทางให้คุณได้เพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและมากกว่าเดิม” ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยโอกาสให้หลุดไป ยิ่งเข้าร่วมบนแพลตฟอร์มหลากหลายช่องทางก็ยิ่งเพิ่มโอกาสการพบเจอลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม

2. ดึงจุดเด่นพร้อมกับใส่รายละเอียดธุรกิจให้ครบมากที่สุด - การเข้าถึงในช่องทางออนไลน์นั้นง่ายมาก จึงควรเรียกความสนใจจากลูกค้าด้วยจุดเด่นและรายละเอียดของธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะเป็นการบอกเล่าด้วยรูปภาพหลายๆ มุม หรือทำคอนเทนต์เล่ารายละเอียดที่มีทั้งหมด ทำให้เห็นความแตกต่างจากธุรกิจทั่วไป และดึงความสนใจให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ

3. ไม่พลาดการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคให้รอบด้าน เพราะบางครั้งลูกค้าของอาจจะเป็นได้มากกว่า 1 กลุ่มเป้าหมาย จึงควรศึกษากลุ่มผู้บริโภคที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคตอย่างรอบด้าน เพื่อกระจายรายได้เพิ่มหลาย ๆ ช่องทาง ควบคู่การยกระดับธุรกิจของเราให้มั่นคงมากยิ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งทั้งปัจจุบันและอนาคตด้วย

            ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองไทยในกรุงเทพฯ ปลายปีนี้ในโอกาสพิเศษ “ชมพระราชวังเดิม/พระราชวังกรุงธนบุรี” 14 -28 ธ.ค.2563 ในโอกาสพิเศษวันสถาปนาเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ แล้วลองมาฟัง “เดินขึ้น-ลงบันไดดีกว่าขึ้นลิฟท์อย่างไร” และข่าวฮ็อต ๆ เรื่องแรก “เซ็นทาราแกรนด์หัวหิน” เทโปรห้องพักสไตล์วิลลา 3 แบบ เหลือราคาเริ่มต้น 5,900 บาทลดข้ามปีไปถึง 31 มี.ค.64 ต่อด้วย “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม-กสอ.” หันมาช่วยกระพือท่องเที่ยวดึงเอกชนปั้นแพลตฟอร์ม THAI GLBT CONNECT ใช้ออนไลน์รุกขายตลาดท่องเที่ยวเพศทางเลือก และ “EVA AIRWAYS” สายการบินไต้หวันสร้างความฮือฮา จัดเที่ยวบิน “คนโสด” บินหาคู่เหนือน่านฟ้าช่วงเทศกาลคริสต์มาส ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ท่องเที่ยวชมฟรีพระราชวังเดิมวังกรุงธนโอกาสพิเศษปลายปี14-28 ธ.ค.นี้

เที่ยวเมืองไทยในกรุงเทพฯ ก็เป็นอีกพื้นที่ซึ่งมีความหลากหลาย ปลายปีนี้ “มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานภายในพระราชวังเดิม” ร่วมกับกองบัญชาการกองทัพเรือ เปิด “พระราชวังเดิม” พระราชวังเก่าแห่งกรุงธนบุรี ชวนไปท่องเที่ยวฟรี ระหว่างวันที่ 14-28 ธันวาคม 2563 แต่ละวันจะเปิดให้ชมตั้งแต่ 09.00 ถึง15.30 น.

ในโอกาสพิเศษวันสถาปนาเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ แห่งกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร ให้เข้าไปชม “พระราชวังเดิม” หรือ “พระราชวังกรุงธนบุรี” ความสำคัญตามประวัติศาสตร์คือ

 

เรื่องแรก - เป็นพระราชวังหลวงในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ มีป้อมปราการมั่นคง สามารถมองสังเกตการณ์ได้ในระยะไกล และอยู่ใกล้กับเส้นทางเดินเรือสมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี

เรื่องที่สอง - เป็นสถานที่พระราชสมภพของกษัตริย์ไทยหลายพระองค์ ทั้ง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

เรื่องที่สาม -ภายในมีโบราณสถานสำคัญมากมายให้เรียนรู้ ได้แก่ ท้องพระโรง พระที่นั่งขวาง พระตำหนักเก๋งคู่ พระตำหนักเก๋งพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อาคารเรือนเขียว ศาลศีรษะปลาวาฬ และป้อมวิไชยประสิทธิ์

ข้อแนะนำการแต่งกายเข้าชมพระราชวังเดิม “สุภาพบุรุษ” ควรสวมเสื้อมีแขน และกางเกงขายาว “สุภาพสตรี” ควรสวมเสื้อมีแขน กระโปรงคลุมเข่า หรือกางเกงขายาว ห้ามใส่กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น รองเท้าแตะ

ทางมูลนิธิไม่อนุญาตให้บันทึกภาพด้วยกล้องถ่ายรูป/กล้องวีดีโอ/โทรศัพท์มือถือ ภายในอาคารทุกอาคารเด็ดขาด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากทางมูลนิธิฯ เท่านั้น และห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าไปในเขตพระราชวังเดิมเด็ดขาด

การเข้าเยี่ยมชมพระราชวังเดิมครั้งนี้ “คนไทย” เข้าชมฟรีโดยไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตล่วงหน้า ส่วน “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ไม่อนุญาตให้เข้าชมตามลำพัง ต้องมีคนไทย หรือ ไกด์พาเข้าชม เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ

การเดินทาง 1.นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีอิสรภาพ เลือกทางออกซอยอิสรภาพ 34 จากสถานีเลี้ยวขวาเดินมาตามถนนอิสรภาพ จนเจอสามแยกแล้วเลี้ยวขวาอีกทีหนึ่ง เดินตรงมาเรื่อย ๆ จะเจอกองทัพเรือ พระราชวังเดิม 2.นั่งรถโดยสารประจำทางสาย 57 มาลงหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ 3.นั่งเรือโดยสารข้ามฝาก จากท่าเตียนมายังท่าวัดอรุณราชวราราม (ท่ายายเผือก) แล้วเดินตรงมาเข้าข้างประตูกำแพงวัดอรุณ เดินเรียบแม่น้ำเจ้าพระยาจนมาถึงอนุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน และเข้าประตูสามสมอ 4.นั่งเรือด่วน ขึ้นท่าวัดอรุณ แล้วเดินเข้าข้างประตูวัดอรุณ เข้ามาภายในพระราชวังเดิมได้เลย

5.รถยนต์สวนตัว นำรถเข้ามาจอดได้ภายในพระราชวังเดิมกองบัญชาการกองทัพเรือ เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ หากเป็นวันธรรมดา ต้องไปหาที่จอดรถรอบนอก บริเวณวัดโมลีโลกยาราม วัดหงส์รัตนาราม วัดเครือวัลย์

สอบถามเพิ่มได้ทาง เฟซบุ๊คมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม และมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม หรือโทร. 02-4754117 และ 02-4727291

สุขภาพดีด้วยเทคนิคเดินขึ้น-ลงบันไดดีกว่าการใช้ลิฟท์อย่างเหลือเชื่อ

ปัจจุบันมีหลายสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกมากขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลงส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย จึงขอแนะนำการออกกำลังแบบง่ายๆในที่ทำงาน โดยการขึ้นบันไดที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน การขึ้นบันไดมีข้อดีที่จะนำบอกกันดังนี้

ข้อดีของการออกกำลังแบบขึ้น-ลงบันได

1. สามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะในที่ทำงาน

2. เพิ่มสมรรถภาพความแข็งแรงและทนทานของระบบหัวใจ หลอดเลือด และปอด เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน

3. เพิ่มความแข็งแรงของระบบกล้ามเนื้อ

4. เป็นการออกกำลังกายที่เก็บสะสมได้จนเท่ากับการออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน

5. การขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้ ถึง 8 – 11 กิโลแคลอรีต่อนาทีซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได

      การเทียบเป็นเวลา ขึ้นบันได 1 นาที จะเผาผลาญพลังงานได้ 10 กิโลแคลอรี่ คูณจำนวนเวลา ก็จะได้จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ แต่ถ้าเราขึ้นลิฟท์ 1 นาที จะเผาผลาญพลังงานได้ 1.5 กิโลแคลอรี่ เท่านั้น แตกต่างกันถึง 10 เท่า

6. มีรายงานว่า การขึ้นบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้น สามารถลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมในเวลา 1 ปี

7. มีหลักฐานยืนยันว่า การขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

8. มีหลักฐานยืนยันว่า สามารถลดปริมาณไขมันในร่างกาย และเพิ่มปริมาณ High-density lipoprotein (HDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีได้

9. ไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ต้องการอุปกรณ์พิเศษใดๆ

10. เป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าสำหรับการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อน

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก เซ็นทาราแกรนด์ฯหัวหินอัดโปรห้องพักลดสุดแถมสิทธิ์อื้อซ่าถึง31มี.ค.64

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน จัดโปรโมชั่นรับลมหนาวกับข้อเสนอห้องพักล่าสุด 'ไพรเวท วิลลา เอสเคป' (Private Villa Escape) พักผ่อนเป็นส่วนตัวมากขึ้นสไตล์วิลลา (Villa)  3 รูปแบบ ที่มาพร้อมบริการพิเศษในคลับเลาจน์สุดหรู เดอะ คลับ สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ พร้อมบริการอาหารเช้าและค่ำตลอดการพักผ่อน จองและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 2564  1.ดีลักซ์ พูล วิลลา ราคาเริ่มต้นคืนละ 5,900 บาท 2.ดีลักซ์ สปา วิลลา ราคาเริ่มต้นคืนละ 6,500 บาท 3.พรีเมียม ดีลักซ์ พูล วิลลา ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,500 บาท

พร้อมรับส่วนลดพิเศษเพิ่มทันที 20% สำหรับสมาชิกเซ็นทารา เดอะ วัน (CentaraThe1) และรับสิทธิ์จากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อชำระเงิน 60% ของค่าบริการสุทธิ เพียงใส่ความประสงค์ใช้สิทธิ์พร้อมข้อมูลติดต่อระหว่างสำรองห้องพักออนไลน์ผ่าน www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/chbr

ข่าวที่สอง กสอ.ปั้นแพลตฟอร์มThaiLGBTCONNECTรุกตลาดท่องเที่ยวเพศทางเลือก

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)เปิดเผยว่า หลังทางบริษัท เอาท์ นาว คอนซัลติ้ง ร่วมกับ เวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต (WTM) นำผลวิจัยจาก International Gay and Lesbian Travel Association มาเปิดเผยโดยระบุถึงตลาดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือกทั่วโลกหรือ LGBTมีมูลค่าสูงถึงปีละ 6.64 ล้านล้านบาท เป็นแรงผลักดันให้ กสอ. เดินหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการพัฒนาโดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มTHAI LGBT CONNECT ซึ่งเป็นผลผลิตจากโครงการ Challenge Project by DIProm ในการเพิ่มทางเลือกใหม่ที่เข้าใจความต้องการของกลุ่มเพศทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากไทยเป็นประเทศติดอันดับเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติติด 1 ใน 3 ของโลก จึงควรใช้โอกาสนี้เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการท่องเที่ยวทุกสาขาไว้รอรับต่างชาติกลับมาเดินทางอีกครั้งหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19

แพลตฟอร์ม THAI LGBT CONNECT จะเป็นช่องทางและเครื่องมือใหม่เพื่อการท่องเที่ยวสำหรับเพศทางเลือกรายแรกของไทย ที่ได้รวมฐานข้อมูลโรงแรม ร้านอาหาร และดึงสินค้าชุมชนเข้ามาวางขายออนไลน์ เบื้องต้นเล็งสร้างรายได้ชุมชนกว่า 20 ล้านบาท  

ข่าวที่สาม EVAไต้หวันสร้างความฮือฮาจัดเที่ยวบินคนโสดคริสต์มาส-ปีใหม่64

สายการบิน EVA Airways แห่งไต้หวัน รายงานว่า ได้จับมือกับ Mobius บริษัทที่เน้นให้ประสบการณ์การเดินทางได้ร่วมกันจัดแคมเปญชื่อ ‘Fly! Love is in the Air’ สร้างสีสันจัดแคมเปญเที่ยวบิน “คนโสดพร้อมหาคู่” วางขายช่วงไฮไลต์สำคัญ “วันคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับวันปีใหม่” เปิดโอกาสให้หนุ่มโสดสาวโสดได้ประสบการณ์ออกเดทกันบนเครื่องลอยฟ้า 3 ชั่วโมงแรก

เส้นทาง ช่วงกลางวัน จะบินจากสนามบินนานาชาติเถาหยวน เมืองไทเป บินวนรอบน่านฟ้าเหนือไต้หวันโดยไม่ลงจอด ให้คนโสดได้ชมวิวอย่างเทือกเขาที่ทอดยาวจากเมืองฮัวเหลียนทางตอนเหนือไปยังไถตงเมืองทางตอนใต้ “เที่ยวบินกลางคืน” จะบินข้ามชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะเพื่อให้ชมเมืองต่าง ๆ ของไต้หวันสว่างไสวท่ามกลางความมืดยามค่ำคืนเหนือท้องฟ้า

เมื่อนำเครื่องลงจอดก็จะให้บรรดาคนโสดได้ออกเดทสุดโรแมนติกบนบกต่ออีก 2 ชั่วโมง พร้อม ๆ กับเชิญ ‘โมโตเกะ นากามูระ’ เชฟระดับมิชลินสตาร์มาปรุงอาหารให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอาหารเมนูเด็ด ๆ

ทั้งนี้การเดินทางแต่ละเที่ยวบินอาจต่างกันเล็กน้อยคือ เที่ยวบินวันคริสต์มาสจะจัดกิจกรรมดื่มน้ำชายามบ่ายบนพื้นดิน ส่วนวันส่งท้ายปีเก่าเริ่มต้นด้วยอาหารค่ำใต้แสงเทียนก่อนเชิญลูกค้าขึ้นเครื่องร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2021 ด้วยกัน แล้วเช้าวันปีใหม่ 1 มกราคม 2564 จะจัดให้รับประทานอาหารเช้ามื้อแรกร่วมกัน

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.