ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.งัดสินค้ามาแรง60 POWER SPOTลุยขายโกยเงินเทศกาลปีใหม่ ชูเทรนด์ใหม่สร้างความฮือฮา“WAT-ศรัทธานำทาง-เส้นทางท่องเที่ยว”


 

ททท.งัดสินค้ามาแรง60 POWER SPOTลุยขายโกยเงินเทศกาลปีใหม่

ชูเทรนด์ใหม่สร้างความฮือฮา“WAT-ศรัทธานำทาง-เส้นทางท่องเที่ยว”

คิง เพาเวอร์ชวนช้อปสนุกของขวัญปีใหม่4กิจกรรมความสุข-30พ.ย.63

คิงเพาเวอร์เปิดแข่งขันดนตรีผสมเครื่องเป่าปี’64ลุ้นรางวัล6.9แสนบาท

ร้านมายาณะคิงเพาเวอร์พัทยา/ภูเก็ตสั่งเมนูจานเดี่ยวลด30%ถึงธ.ค.นี้

ททท.จับมือจังหวัดสุรินทร์จัดเต็มไลฟ์แอนด์ซาวน์งานช้าง 12-23พ.ย.

TCEBดึงงานTBEX Asia 2021จัดกระหึ่มที่ภูเก็ตเปิดจุดขายใหม่ต.ค.64

ทัวร์วัดวังพิพิธภัณฑ์โบราณในวังหินเมืองละโว้-ทุ่งทานตะวัน 3 แสนไร่

เคล็ดไม่ลับสร้างความพร้อมวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแข็งแรงยาว

เปิดแน่ถนนเที่ยวสายใหม่“ไทยแลนด์ริเวียร่า-นาคาวิถี-บูรพาคีรี"ปี65

ไทยลุยเจรจารมว.กลุ่มGMSเร่งโปรเจ็กต์จ้างราง-โลจิสติกส์ข้ามแดน

โรงแรมดิโอกุระเสิร์ฟมื้อพิเศษลันช์-ดินเนอร์ที่ยามาซาโตะ1-22ธ.ค.63

 

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ททท60PPOWERSPOT  #WATศรัทธานำทางเส้นทางท่องเที่ยว  #KingPowerGlobalBrandMegaSale   

ช่วงที่ 1 “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชูแนวรุกทัพสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ชิมรางวางขายทั่วไทยรับมงคลปีใหม่ด้วยโปรเจ็กต์ “60 POWER SPOT TRAVEL -อาบป่า มหาสมุทร บำบัด” ต่อด้วย โปรเจ็กต์ “วัด : WAT : Warship Activity Traditional : ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” เชิญชวนนักท่องเที่ยวเพิ่มยอดแชร์แหล่งท่องเที่ยวดี ๆ ทั่วไทย ยกระดับสินค้าภาคใต้สู่เป้าหมาย “มหานครท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเรือยอร์ช” ส่วนปลายปี’63 ลุยแจกใหญ่ Best of SHA กระตุ้นธุรกิจที่ได้ตราสัญลักษณ์มียอดรีวิวรักษามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเป็นเลิศรับไปเลยประกาศนียบัตรความดี

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า พร้อมเดินหน้าพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวภาคใต้หลังคณะรัฐมนตรีสัญจรลงพื้นที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมทางด้านธรรมชาติหาดทรายชายทะเล ซึ่งจะต้องเพิ่มจุดขายใหม่ให้ครบทุกมิติเสริมเข้าไปเพราะทั้งภูเก็ต สมุย คนไทยก็ต้องการจะเดินทางไปท่องเที่ยวจึงเตรียมความพร้อมอีกหลายกลุ่ม โดยเฉพาะการผลักดันภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Medical Health & Wellness of Asia ต่อเนื่องการเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy City

ประเภทสินค้าท่องเที่ยวในภูเก็ตพร้อมขายช่วงไตรมาสส่งท้ายปี 2563 จุดหมายปลายทางการฟื้นฟูสุขภาพ ทำสปา การรักษาสุขภาพด้วยภูมิปัญญาไทย เป็นสถานที่สงบฟื้นฟูสุขภาพดูแลจิตใจ ตอนนี้ ททท.เพิ่มเติมสีสันเส้นทางท่องเที่ยวด้วยโปรเจ็กต์ไฮไลต์ใหม่ โครงการแรก “60 POWER SPOT TRAVEL -อาบป่า มหาสมุทร บำบัด” นำความโดดเด่นเรื่องความศรัทธาเข้ามากระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเสริมทัพชุดใหญ่ ขณะนี้เตรียมผลิตหนังสือคู่มือท่องเที่ยวโครงการดังกล่าว ผนวกกับโครงการที่ 2 การท่องเที่ยวลักชัวรี่หรูหราทั้งภูเก็ตและสมุย มีท่าเทียบเรือยอร์ช มอบหมายให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ผลิตแพกเกจท่องเที่ยวเรือยอร์ชและซูเปอร์ยอร์ชวางขาย รองรับตลาดกลุ่มหลักมหาเศรษฐกิจคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย (expat) และจำนวนมาก โครงการที่ 3 การท่องเที่ยวคอง เดอ วู ร่วมกับ จัดการพบปะสังสรรค์กึ่งร่วมการแข่งขันสนุก ๆ โดยร่วมกับกะตะล็อกจัดงานนี้

 

โครงการที่ 4 เติมเต็มโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ผนวกเข้ากับโครงการ Workation Thailand กระจายรายได้ให้กลุ่มโรงแรมที่พัก โดยเพิ่มวันพักค้างคืนเพิ่มขึ้น โดยระหว่างการประชุม ครม.สัญจรทางผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตก็ได้เสนอรัฐบาลผลักดันภาครัฐและเอกชนลงพื้นที่ไปใช้บริการตามแนวทาง Workation ภูเก็ต สมุย ททท.ก็รับภารกิจดังกล่าวมาเพื่อจะไปพูดคุยกับบริษัทขนาดใหญ่ (corporate) จัดทัศนศึกษาทั้งสองจังหวัด

โครงการที่ 5 การสร้างสินค้าท่องเที่ยวชุมชน หรือ Community Base Tourism : CBT ซึ่งมีอัตลักษณ์จุดแข็งแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า การขับเคลื่อนสินค้าทั้ง 5 โครงการ จะทำไปพร้อมๆ กับการกระตุ้นรณรงค์ให้ธุรกิจแต่ละประเภทเข้าร่วมมาตรฐานตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA  ขณะนี้ได้เห็นผู้ประกอบการภาคใต้โดยรวมเข้าร่วม SHA มากถึง 25 % ของผู้สมัครทั้งประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวชุมชนมีหลายแห่งทยอยเข้าร่วมจากทั้งภูเก็ต หรือการท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่ความสนใจเฉพาะ เช่น พิพิธภัณฑ์ภูเก็ต 3D พิพิธภัณฑ์ไทยหัว วิสาหกิจชุมชนตำบลม่วงกลาง จ.ระนอง

ส่วนกิจกรรมประเพณีก็เป็นอีกความสนใจของนักท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเดียวกัน เน้นการพักค้าง เพิ่มรายได้ไหลเข้าสู่ชุมชนอย่างแท้จริง ดังนั้นช่วงปลายปี 2563 จะมีกิจกรรมแสง สี เสียง บวกการท่องเที่ยวเชิงอาหาร มากขึ้นส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

 

ขณะเดียวกัน ททท.ก็มุ่งนำมาตรฐาน SHA เข้าไปในกลุ่มธุรกิจเวลเนส สปา ด้วยเช่นกัน ตามปกติมาตรฐานสากลของสถานประกอบการโรงพยาบาลเชิงสุขภาพ ทางกระทรวงสาธารณสุขจะกำกับดูแล ส่วนมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA จะดูแลกลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่พัก สุขภาพ ความงาม สปา และแหล่งท่องเที่ยวนันทนาการ เพราะปัจจุบันต่างประเทศทั่วโลกให้ความสนใจนำมาตรฐาน SHA เข้าไปเป็นแบบอย่างสร้างความเชื่อมั่น กำกับป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งกลุ่มสถานประกอบการ ผู้ใช้บริการ พนักงาน เป็น 3 ประสานสำคัญในการผลักดันมาตรฐาน SHA ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นต่อไป

ททท.จึงพยายามผลักดัน กลุ่มแรก ธุรกิจที่ยังไม่ได้รับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA เข้ามาลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการให้ได้มากที่สุด กลุ่มที่ 2 ธุรกิจที่ได้รับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA เรียบร้อยแล้ว ก็จะต่อยอดโดยจัดโครงการประกวด Best of SHA มอบประกาศนียบัตรให้แก่สถานประกอบการที่รักษาสถานะการดูแลมาตรฐานไว้ในขั้นดีมาก ประเมินจากแต่ละแห่งจะมีเลขรันตามลำดับอยู่ในฐานข้อมูล แล้วมีกลุ่มผู้ใช้บริการเข้าไปรีวิวก็จะใช้จำนวนผู้รีวิวประเมินและคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบการรายใดมีมาตรฐานดีสุดตามลำดับ จะได้รับการพิจารณาเข้ารับประกาศนียบัตรกลุ่มแรกช่วงปลายปี 2563

สถิติล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2563 มีธุรกิจ 10 ประเภท สมัครเข้าร่วมรับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA กว่า 11,000 ราย ได้การรับรองรับตรามาตรฐานเรียบร้อย 8,400 ราย ในจำนวนนี้เป็นธุรกิจจากภาคใต้สมัครเข้าร่วมมาตรฐาน SHA ประมาณ 2,272 ราย ผ่านการประเมินแล้ว 1,718 ราย กลุ่มผ่านมากสุดคือ ที่พัก/โรงแรม ตามมาด้วย ภัตตาคาร บริษัทนำเที่ยว และยานพาหนะ

 

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ททท.วางแผนจัดกิจกรรมเคาน์ดาวน์ ส่งท้ายปีเก่า 2563 ต้อนรับปีใหม่ 2564 เนื่องจากการนำเข้านักท่องเที่ยวต้องทำภายใต้เงื่อนไขของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขเรื่องการกักตัว ดังนั้นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ยังต้องพึ่งตลาดในประเทศกลุ่มคนไทยและต่างชาติที่พำนักในไทย (expat) เป้าหมายต้อง เพิ่มวันพักค้างคืน ททท.จึงต้องทุ่มจัดงานและสนับสนุนการจัดงานกระจายตามพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเน้นสร้างสีสันบรรยากาศการเดินทางมากขึ้นเพื่อเพิ่มวันพักเฉลี่ย ตอบโจทย์การใช้จ่ายเงินมากขึ้น ทดแทนรายได้จากต่างชาติที่หายไป


ทาง ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.มีนโยบายร่วมกับฝ่ายบริหารทุกฝ่าย แบ่งพื้นที่จัดงานเคาน์ดาวน์ออกเป็น “กรุงเทพฯ” ททท.จัดงานใหญ่ 2 พื้นที่ ได้แก่ 1.ไอคอนสยาม ต่อเชื่อมไปถึงเอเชีย ทีค 2.ใจกลางเมืองจัดตรงบริเวณเซนทรัล เวิลด์ ต่อเชื่อมไปยังราชประสงค์ อาจจะรวมตัวกันของผู้ประกอบการโรงแรมทั้งราชประสงค์ ตกแต่งประดับไฟเทรนด์ใหม่ ILLUMINATION เพื่อดึงดูดกระตุ้นนักท่องเที่ยวด้วยแสงไฟระยับสวยงามให้คนมาพักค้างคืนมากขึ้น รวมทั้งรัฐบาลได้ปลดล็อกโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ต่อไปจนถึงเดือนมกราคม 2564 นักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดที่จะเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็สามารถใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกันลดหย่อนค่าใช้จ่ายได้ด้วย และวันธรรมดาก็ได้งบเพิ่มอีกคนละ 900 บาท/วัน กระตุ้นการใช้จ่ายได้จริง

 

สำหรับพื้นที่จัดงานเคาน์ดาวน์ต่างจังหวัด ปีนี้ ททท.จะเลือกจัดตามเมืองหลัก ได้แก่ กระบี่ จะนำความเป็นเอกลักษณ์มาสร้างสีสันความแปลกใหม่ให้ทั่วโลกได้เห็นศักยภาพการท่องเที่ยวเมืองไทย สุโชทัย ร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์ เน้นการใช้เทคนิคพิเศษแสง สี ประดับศิลปะไฟสไตล์ ILLUMINATIO โดยยังคงรักษาอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นไว้ให้เห็นในงานแต่ละพื้นที่เพราะเป็นจุดแข็งต้องเน้นย้ำซึ่งมีความสำคัญมาก

 

จากนั้นเตรียมสินค้าปูพรมสินค้าท่องเที่ยวต้อนรับต้นปี 2564 เพื่อขาย “ตลาดต่างประเทศ” จะย้ำเน้น Amazing Thailand ทำให้ประเทศไทย เป็น Top of Mind ครองใจคนทั่วโลก จะชู กลุ่มแรก สินค้าท่องเที่ยวลักชัวรี่หรูหรา กลุ่มสุขภาพ Health & Wellness กลุ่ม 2 สินค้าท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ (special interest) เช่น การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (gastronomy) และอื่น ๆ กลุ่มที่ 3 สินค้าท่องเที่ยวเชิงศิลปะวัฒนธรรม (Culture Art) กลุ่มที่ 4 สินค้าท่องเที่ยวธรรมชาติ ททท.จะเดินหน้าทำการตลาดให้เป็นสินค้าหลักที่จะครองใจนักท่องเที่ยวนานาประเทศทุกตลาด ซึ่งแต่ละตลาดก็มีความสนใจแตกต่างกันไป

 


สำหรับ “ตลาดคนไทย” ทางฝ่ายสินค้าจะบูมขาย “สินค้าท่องเที่ยวด้านจิตวิญญาณ POWER SPOTเริ่มจาก 60 POWER SPOT -ฟื้นฟูจิตวิญญาณ อาบป่า มหาสมุทร บำบัด” แล้ว ททท.ยังจับมือกับการบินไทย นำร่องทำโครงการ “บินทั่วไทย ได้มงคลทั่วทิศ” เปิดเส้นทางโดยนำเครื่องของการบินไทยบนอยู่บนฟ้าเหนือวัดก็จะได้รับมงคล จากนั้นจะทยอยเปิดตัวกิจกรรมสินค้าไฮไลต์ใหม่มาแรงโครงการ “วัด : WAT : Warship Activity Traditional” ก่อให้เกิดการเดินทางในโครงการ “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” เปิดตัววัดต่าง ๆ ด้วยพื้นฐานคนไทยมีความเชื่ออยู่แล้ว ผนวกศรัทธาการทำบุญเข้าวัดได้รับปลูกฝังตั้งแต่เล็กจนโต จะเริ่มขายสินค้านี้ช่วงต้อนรับปีใหม่ นำสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิตของนักท่องเที่ยวทุกคน

โครงการ “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” จะไฮไลต์การท่องเที่ยววัดอันซีน ไทยแลนด์ ที่มีอยู่มากมายตามคอนเซ็ปต์หลัก ได้แก่ วัดบนเขา วัดในป่า วัดริมน้ำ วัดกลางตลาด วัดลับแล วัดเก่า วัดเด่นดัง จะรวบรวมมาให้คนไทยได้ท่องเที่ยว ทำบุญ ผสมผสานการทำงานร่วมกันระหว่าง ททท.กับพันธมิตร เช่น การบินไทย หรือหากมีโครงการอื่น ๆ ก็สามารถเข้ามาร่วมกันทำงานได้

นางสาวฐาปนีย์ย้ำว่าทุกวันนี้ไวรัสโควิด-19 ยังไม่ได้หายไปไหน ททท.จึงยังคงเน้นขอให้ทุกคนร่วมมือกันอย่าการ์ดตกเรื่องการปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันดูแลด้านสุขอนามัย หลังจากพยายามกระตุ้นตลาดคนไทยและชาวต่างชาติพำนักในประเทศ (expat) แล้ว ก็ต้องดูแลมาตรฐานบริการและสาธารณสุขควบคู่กันไป ดังนั้นจึงจะขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวเมื่อไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ต้องเที่ยวอย่างรักษ์โลกและรับผิดชอบ พร้อม ๆ กับแชร์เรื่องราวบรรยากาศใหม่ ๆ ดี ๆ ผ่านโซเชียล มีเดีย ควบคู่การดูแลรักษาธรรมชาติ ภูมิปัญญา อัตลักษณ์ท้องถิ่นกิจกรรม ประเพณี ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน บอกให้โลกรู้ว่าเมืองไทยยังคงมหาอำนาจทางการท่องเที่ยวของโลกอย่างแท้จริง

  ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 ข่าวที่ 1 คิง เพาเวอร์ชวนช้อปของขวัญปีใหม่4กิจกรรมความสุขถึง30พ.ย.63

      

            กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบความสุขส่งท้ายปี ให้คุณได้ช้อปของขวัญเตรียมไว้แจกช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วย 4 กิจกรรมความสุข ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2563 ทางเว็บไซต์ kinpower.com และ kingpower Application และร้านสาขา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต  ดังนี้

ความสุขที่ 1 ช้อปคุ้มด้วยบัตรกำนัลเงินสดหรือ Cash Card  สามารถรับมูลค่าเพิ่มสูงสุดถึง 78,000 บาท โดย 1.ซื้อบัตรมูลค่า 50,000 บาท รับเพิ่มบัตรของขวัญ (Gift Card) มูลค่า 6,000 บาท รวมเป็นเงินที่นำไปซื้อสินค้าได้ทั้งสิ้น 56,000 บาท 2.ซื้อบัตรมูลค่า 250,000 บาท รับเพิ่ม Gift Card มูลค่า 36,000 บาท รวมเป็นเงินที่นำไปซื้อสินค้าได้ทั้งสิ้น286,000 บาท 3.ซื้อบัตรมูลค่า 500,000 บาท รับเพิ่ม Gift Card มูลค่า 78,000 บาท รวมเป็นเงินที่นำไปซื้อสินค้าได้ทั้งสิ้น578,000 บาท

ต่อด้วย ความสุขที่ 2 รับ Gift Voucher เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป ด้วยการกรอกรหัส SV Code จากนั้นก็ตลุยช้อปภายในวันเดียว 1.ครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับทันที Gift Voucher 200 บาท 2.ครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับ Gift Voucher 500 บาท 3.ครบ 20,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับ Gift Voucher 1,200 บาท โดยจำกัดคนละ 1 สิทธิ์ /วัน

ตามมาด้วย ความสุขที่ 3 ช้อปดี มีคืน รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท เมื่อช้อปสินค้าบริการส่งตรงถึงบ้าน (Home Delivery) หรือสินค้าป้ายฟ้า (Blue Price Tag) ซื้อแล้วสามารถถือกลับบ้านได้เอง เมื่อสะสมยอดช้อปภายในวันเดียวครบ 30,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ทางคิง เพาเวอร์ เพิ่มคูปองส่วนลดพิเศษให้อีก 1,500 บาท โดยจำกัดคนละ 1 สิทธิ์/ตลอดรายการ

ปิดท้ายด้วย “ความสุขที่ 4 ช้อปอิ่มฟรี” รับคูปองรับประทานอาหาร 300 บาท ที่ ศูนย์รวมร้านอาหารดัง ไทย เทสต์ ฮับ ชั้น 3 หรือห้อง ECLIPSE คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สิทธิ์อิ่มฟรี 300 บาท จะมอบให้ลูกค้าคนไทยที่มียอดช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จำกัด คนละ1 สิทธิ์ / วัน

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์รับสมัครแข่งขันดนตรีผสมเครื่องเป่าปี64ลุ้นรับุ6.9แสนบาท

 


กลุ่มบริษัท คิง เพาเอวร์ จับมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานประกวดพลังดนตรี Music Power ประจำปี 2564 ในโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ผู้มีใจรักเสียงเพลงได้แสดงพลัง “The Power Band” สมัครที่ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc  ตั้งแต่ 9 พ.ย. – 5 ม.ค. 2564  โทร. 02-800-2525 ต่อ 3109 หรือเฟซบุ๊ก: Thailand International Wind Symphony Competition โดยมีเงินรางวัลพร้อมมอบให้ผู้ชนะรวมกว่า 680,000 บาท

อีกทั้งยังมีโปรดิวเซอร์มือทอง นักแต่งเพลงและมิวสิกไดเรกเตอร์แถวหน้า ปั้นศิลปินมาแล้วมากมาย นำโดย พล-คชภัค ผลธนโชติ โปรดิวเซอร์มือทองค่าย Boxx Music, โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ มิวสิกไดเรกเตอร์ วง Jetset’er และนิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล และอีกหลากหลายคน

สมัครเข้าร่วมประกวดดนตรี Music Power ประจำปี 2564 ได้ 2 รุ่น คือ

           1.Class E (บุคคลทั่วไป) ไม่จำกัดอายุ และสัญชาติ สมาชิกในวงตั้งแต่ 8 - 14 คน ประกอบด้วย นักร้อง / กลองชุด / เบส / กีตาร์ / คีย์บอร์ด  ตำแหน่งละ 1 คน เครื่องเป่า 3 คน และเครื่องดนตรีอื่นไม่เกิน 6 คน

2.Class F (ระดับมัธยมศึกษา) กำลังศึกษาอยู่ ไม่เกินระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเดียวกันเท่านั้น

สมาชิกในวงตั้งแต่ 8 - 14 คน ประกอบด้วย นักร้อง / กลองชุด / เบส / กีตาร์ / คีย์บอร์ด  ตำแหน่งละ 1 คน เครื่องเป่า 3 คน และเครื่องดนตรีเพิ่มเติมไม่เกิน 6 คน

หากใช้เครื่องดนตรีเพิ่มเติมต้องระบุในแบบฟอร์มการสมัคร เช่น เครื่องสาย, เพอร์คัสชั่น, คอรัส, นักร้องนำหรือเครื่องเป่า และไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ Sequencer Computer Data หรือดนตรีสำเร็จที่เตรียมไว้ล่วงหน้า

สำหรับคุณสมบัติ และกติกาการคัดเลือก 1.ผู้เข้าประกวดทั้ง 2 ประเภท จะต้องไม่อยู่ภายใต้สัญญากับสังกัดค่ายเพลงใด 2.เพลงที่ใช้ในการแข่งขันรอบคัดเลือก มี 2 เพลง ประเภทเพลงเร็วและเพลงช้า ความยาวไม่ต่ำกว่า 3 นาที และไม่เกิน 6 นาที 3.อัพโหลดไฟล์วีดีโอที่ส่งเข้าประกวดขึ้น Youtube และตั้งค่าวีดีโอให้เป็น Unlisted เท่านั้น พร้อมแนบลิงค์วีดีโอที่อัพโหลดในใบสมัคร 4.Class F วงนักเรียน แนบสำเนาหนังสือรับรองการศึกษาจากสถาบัน จำนวน 1 ชุด โดยในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใส่ชุดนักเรียนของสถาบันของตัวเองเท่านั้น 5.Class E บุคคลทั่วไป แนบสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาพาสปอร์ตของสมาชิกทุกคนในวง จำนวน 1 ชุด

ข่าวที่ 3 ร้านมายาณะคิงเพาเวอร์พัทยา/ภูเก็ตสั่งเมนูจานเดี่ยวลด30%ถึง31ธ.ค.นี้

 


ร้านอาหาร ภัตตาคารามายณะ สาขาคิง เพาเวอร์ พัทยา และภูเก็ต ของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มอบส่วนลด 30 % ให้สมาชิก คิง เพาเวอร์ ประเภท VEGA, CROWN, ONYX, SCARLET และ NAVY เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564  เมื่อสั่งเมนูอาหารจานเดี่ยว เมนู A LA CATE ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป 

 

            ก่อนสั่งอาหารแสดงสถานะสมาชิก คิง เพาเวอร์ ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการ ณ ภัตตาคารามายณะ คิง เพาเวอร์ พัทยา และ ภูเก็ต พร้อมทั้งให้สมาชิก คิง เพาเวอร์ 1 สิทธิ์ มีผู้ติดตามใช้บริการได้สูงสุด 9 คน และลดเฉพาะรายการอาหารที่ร่วมรายการเท่านั้น ไม่ร่วมกับเครื่องดื่ม ไม่สามารถใช้ร่วมกับการส่งเสริมการขายอื่นได้ ไม่สามารถใช้ร่วมกับคูปอง On Top ที่ได้รับจากการสมัครสมาชิกใหม่ ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์  Birthday Celebration, E-Purse, E- Cash, Cash Card, Gift Card,Gift Voucher, Cash Voucher รวมถึงคูปองส่วนลดอื่น ๆ

สอบถามได้ที่ King Power Contact Centre 1631

ข่าวที่ 4 ททท.จับมือจังหวัดสุรินทร์บูมไลฟ์แอนด์ซาวน์งานช้าง12-23พ.ย.63



นายสุวพงศ์  กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2563 ระหว่าง 12-23 พ.ย. 2563 ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ โดยจะจัดอย่างยิ่งใหญ่พิธีซ้อมใหญ่ เริ่มทำซ้อมรำบวงสรวง วันที่ 10 พ.ย.และทำพิธีรำบวงสรวงจริง วันที่ 12 พ.ย.บริเวณลานอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร โดยจะมีนางรำแต่ละอำเภอในสุรินทร์เข้าร่วมรำบวงสรวง 8,000-10,000 คน

 

จัดงานเลี้ยงอาหารช้าง วันที่ 19 -20 พ.ย. บริเวณถนนกรุงศรีนอก เริ่มตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง จัดขบวนแห่รถขบวนอาหารช้าง ตั้งแต่หน้าโรงเรียนสิรินธร ถึงหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร เวลา 15.00  น. พร้อมชมสาธิตขบวนช้างเผือกคู่พระบารมี และขบวนช้างศึก เพื่อให้รำลึกถึงคุณงามความดีของช้างไทย ร่วมขบวนแห่ด้วย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มวันพักค้างคืนมากขึ้น

                สำหรับวันที่ 20 พ.ย.จะจัดพิธีบวงสรวง ปราสาทศรีขรภูมิ และจัดผลิตภัณฑ์ของดีศรีขรภูมิ ออกร้านจำหน่าย การประกวดออกบูธด้วย

ส่วนไฮไลต์งานแสดงช้างและงาน Light & Sound Elephant Show ระหว่าง 21-22 พฤศจิกายน 2563 ณ สนามแสดงช้าง แบ่งเป็น การแสดงกลางวัน จำนวน 4 องค์ (ฉาก) 2ชั่วโมงครึ่ง กลางคืน Light & Sound จำนวน 5 องค์ (ฉาก) 1 ชั่วโมงครึ่ง          

นอกจากนี้ตลอดงานจะมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมสุรินทร์ จำนวน 3 รายการ Happy ช้าง เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวนั่งช้างมีบริการรวม 160 เชือก

สำหรับค่าเข้าชมงานแสดงช้าง แบ่งเป็น  2 ราคา คนละ 300 บาท และ 500 บาท ส่วนบัตรเข้าชมการแสดงแสงสีเสียง Light & Sound คนละ 100 บาท

 

ข่าวที่ 5 TCEBดึงงานTBEX Asia 2021จัดใหญ่ที่ภูเก็ตเปิดจุดขายใหม่ต.ค.64

 


นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บชิงการประมูลชนะการดึงงาน TBEX Asia 2021 ของกลุ่มบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวจากนานาชาติกลุ่มผู้อิทธิพลทั่วโลกในการผลิตเนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดีย 600 คน มาจัดงานในไทยที่จังหวัดภูเก็ตช่วงเดือนตุลาคม 2564  มารวมตัวกันเพื่อสร้างประสบการณ์ดี ๆ 

ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตพร้อมสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่บุกตลาดไมซ์ ด้วยกลยุทธ์เน้นจุดแข็งทางด้านมรดกทางวัฒนธรรมของเกาะท่องเที่ยวอันดามัน การค้าแบบดั้งเดิม และวิถีชีวิตแบบพื้นเมือง

การเป็นเจ้าภาพจัดงาน TBEX Asia ที่ภูเก็ต ระหว่าง 20-22 ตุลาคม 2564 ถือเป็นการตอบสนองต่อกลยุทธ์ของทีเส็บที่จะใช้เวทีและโอกาสครั้งนี้เผยอัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ของเมืองไมซ์ซึ่งเป็นเกาะให้กลุ่มบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวจากประเทศแถบเอเชีย และการสัมมนาเสมือนจริงกับบล็อกเกอร์ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมได้จากยุโรป และอเมริกา ช่วยกันผลิตเนื้อหาเผยแพร่ภูเก็ตวิถีใหม่สู่สายตาไมซ์ทั่วโลกควบคู่กันไปด้วย

การจัดงานครั้งนี้ ทีเส็บได้รับร่วมมือจากพันธมิตรหลัก คือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจังหวัดภูเก็ต จัด Media and Blogger Inspection Trip ระหว่าง 6–8 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาเพื่อให้บล็อกเกอร์ในไทยได้ศึกษาเรียนรู้ตัวอย่างจุดขายของภูเก็ต ปัจจุบันมีมากกว่าแสงแดดหาดทรายชายทะเล หากแต่บนเกาะแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ ชุมชนเมืองเก่าอันน่าประทับใจ

โดยเฉพาะมรดกของชาวจีนยุคบุกเบิกร่วมกันกับชาวเล สร้างย่านการค้าแบบดั้งเดิม เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ใน พิพิธภัณฑ์บ้านอาจอร์และโฮมสเตย์คฤหาสน์ที่สร้างโดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวจีนผู้มั่งคั่งเมื่อปี 2479 ได้รับการบูรณะให้กลับมาสวยงามดังเดิม และศาลเจ้าจีนโบราณ เรื่อยไปจนถึงฟาร์มกุ้งก้ามกรามลอยน้ำของชาวเล และเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่พร้อมจะเปิดสู่สาธารณะในโอกาสต่อไป

                ช่วงที่ 2 ทริปนี้ชวนไปรับลมหนาวท่องเที่ยว “วัด-วัง-พิพิธภัณฑ์ โบราณ” กันที่ตำบลวังหิน เมืองละโว้-ลพบุรี กับไปตลุยเที่ยวทุ่งดอกทานตะวันสุดลูกหูลูกตา 3 ไร่ พร้อมข้อแนะนำ “เคล็ดไม่ลับสร้างความพร้อมวิ่งออกกำลังกาย 4 วิธี” และข่าวฮ็อตแห่งสัปดาห์ “กรมทางหลวงผุดถนนท่องเที่ยวสายใหม่” 3 โซน “ไทยแลนด์ริเวียร่า” เลียบทะเลลงใต้ “นาคาวิถี” เลาะอีสานริมฝั่งโขง “บูรพาคีรี” ผ่าภูเขาฝั่งตะวันออก “คมนาคมถกรัฐมนตรี GMS” เร่งโปรเจ็กต์ระบบรางและโลจิสติกส์เชื่อมท่องเที่ยว การค้า เพื่อนบ้าน “โรงแรมดิ โอกุระ” ชวนชิมที่ “ยามาซาโตะ” ห้องอาหารญี่ปุ่นแชมป์มิชลินเพทเสิร์ฟเมนูพิเศษมื้อกลางวันและค่ำ 1,700-4,700 บาท

ทัวร์วัดวังพิพิธภัณฑ์โบราณในวังหินเมืองละโว้-ลุยทุ่งทานตะวัน3แสนไร่

        ลมเย็น ๆ พัดมากระตุ้นคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวปลายปี เล็งจุดหมายปลายทางไปในเมืองใกล้ ๆ กรุงเทพฯ กันที่ “ละโว้-ลพบุรี” ปักหมุดท่องเที่ยวสถานที่ไฮไลต์สัก 5 แห่ง

ขับรถวนท่องเที่ยวเป็นวงกลมใน ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี มีแหล่งท่องเที่ยววัดวังโบราณให้เยี่ยมชมแล้วถึง 4 แห่ง ปักหมุดจุดแรกสองสถานที่อยู่ในบริเวณเดยวกันคือ พระนารายณ์ราชนิเวศน์” กับ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์”  มีเรื่องราวน่าสนใจในฐานะ พระที่นั่งสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ออกแบบและสร้างโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศสและอิตาลี เมื่อเข้าไปยังภายในก็จะได้ชมศิลปะโบราณวัตถุตามอาคารและพระที่นั่งต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชม ทุกวันพุธ-อาทิตย์ ส่วนวันจันทร์-อังคาร ปิดบริการ

สถานที่สาม ศาลพระกาฬ และพระปรางค์สามยอด”   นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะนิยมไปสักการะขอพรจากเจ้าพ่อพระกาฬคู่บ้านคู่เมืองลพบุรี ชมความน่ารักซุกซนของลิง  และชมพระปรางค์สามยอด ที่โดดเด่นด้วยลักษณะทาสถาปัตยกรรมเขมรในศิลปะบายน มีลักษณะเป็นปราสาทปรางค์เรียงเชื่อมต่อกัน 3 องค์ เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของลพบุรี  

สถานที่สี่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ”  แวะไปกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ณ ปรางค์ประธาน สถาปัตยกรรมแบบไทยองค์แรก และเป็นปรางค์แม่แบบของปรางค์อีกหลายแห่งในกรุงศรีอยุธยา พร้อมชมความโดดเด่น และหาชมได้ยากของเจดีย์ทรงกลีบมะเฟือง 



สถานที่ห้า ทุ่งทานตะวันบาน”  ปลูกกระจายตามอำเภอต่าง ๆ ทั้งที่พัฒนานิคม ชัยบาบาล บริเวณมากสุดอยู่ตรงเขาจีนแล รวม ๆ แล้วราว 2-3 แสนไร่ ดอกทานตะวันจะบานเหลืองสะพรั่งช่วงพฤศจิกายน-มกราคม เกษตรกรนิยมปลูกทดแทนข้าวโพด เมล็ดทานตะวันมีสารอาหารที่มีคุณค่า นิยมนำไปสกัดทำน้ำมันปรุงอาหาร อบแห้งเพื่อรับประทาน หรือใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง และสามารถเลี้ยงผึ้งเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย

ปิดท้าย แวะ บ้านสวนขวัญ”  ขับรถตรงไป ตำบลบางขาม อำเภอบ้านหมี่ ชีลกับการนั่งจิบกาแฟริมคลอง ล่องเรือชมธรรมชาติและวิถีชีวิตริมน้ำ วัฒนธรรมท้องถิ่น ชมบ้านไม้โบราณ และเรื่องเล่าจากคลองบางขาม เรียนรู้กับภูมิปัญญาไทย ดูการทำผ้าบาติก น้ำเต้าหู้ ชมพิพิธภัณฑ์เกษตรวิถีถิ่น ชมงานฝีมือสานตะกร้า อุดหนุนสินค้าพื้นบ้านกระจายรายได้สู่ชุมชน

เที่ยวเมืองไทย ดีต่อเศรษฐกิจแถมยังได้กระจายเม็ดเงินตรงถึงมือชุมชนด้วย ฤดูหนาวปลายปี 2563 ออกมาพักผ่อนเดินทางท่องเที่ยวกันเถอะนะพี่น้องชาวไทย

เคล็ดไม่ลับสร้างความพร้อมวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแข็งแรงยาว

 การวิ่งเป็นประจำช่วยให้มีสุขภาพดี เพราะทำให้หัวใจ หลอดเลือด ปอด กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ แข็งแรง อย่างไรก็ตามก่อนการวิ่งทุกครั้ง ควรมีการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม

1.วอร์มก่อนลงสนามเสมอ - การอบอุ่นร่างกาย (Warm-up) ก่อนออกวิ่ง เป็นการบอกร่างกายให้เตรียมพร้อม ที่จะรับมือกับเลือดที่สูบฉีดไปตามอวัยวะต่างๆ กล้ามเนื้อที่จะเกิดแรงกระแทก ยืดเหยียดตลอดระยะเวลาที่ออกไปวิ่ง การวอร์มอัพ จะลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้

2.วิ่งปลอดภัยสำคัญที่สุด - เส้นชัยอาจจะเป็นจุดหมายของนักวิ่งทุกคน แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือการวิ่งอย่างปลอดภัยไปถึงเส้นชัย ทุกก้าวอย่าลืมฟังเสียงร่างกายตัวเองว่าเป็นอย่างไร ไม่ฝืนจนเกินขีดจำกัดของร่างกาย ค่อยเป็นค่อยไป เฝ้าระวังสิ่งรอบข้างเพื่อไม่ให้ประสบอุบัติเหตุสำคัญที่สุด

3.ดื่มน้ำ - การเติมน้ำให้ร่างกายอย่างพอเหมาะ เป็นสิ่งที่ต้องทำเสมอในการวิ่ง เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย เมื่อออกไปวิ่งร่างกายจะเสียเหงื่อซึ่งก็คือน้ำไป และการขาดน้ำอาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน หมดสติ เป็นตะคริว และอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้

4.คูลดาวน์เสมอ - หลังการวิ่ง กล้ามเนื้อจะมีการดึงเอาออกซิเจนมาใช้เป็นพลังงานในการเคลื่อนไหว และก่อให้เกิดกรดแลคติก หรือของเสียจากกระบวนการดึงเอาพลังงานมาใช้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้า การยืดเหยียด หรือเดินช้าๆ ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ เลือดไหลไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เต็มที่มากขึ้น และช่วยสลายกรดแลคติกได้ การคูลดาวน์จึงทำให้การวิ่งครั้งต่อไปสนุกขึ้น

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 




ข่าวแรก เปิดถนนท่องเที่ยวสายใหม่“ไทยแลนด์ริเวียร่า-นาคาวิถี-บูรพาคีรี"ปี65

นายปฐม เฉลยวาเรศ  อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้นการท่องเที่ยวของประเทศตาม แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (ปี2561-2580) กรมทางหลวงชนบทจึงมีนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพของโครงข่ายสายทางเพื่อพัฒนาให้ เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวและเส้นทางชมวิวทิวทัศน์ (Scenic Route) โดยเน้นปรับปรุงสายทางให้สะดวกสบายเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวจากแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไปยังแหล่ง ท่องเที่ยวใหม่ รวมทั้งยังปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นจุดชมวิว จุดพักรถ และแหล่งเรียนรู้ชุมชนไปด้วย โดยในปัจจุบัน ทช.ได้มีการดำเนินการเส้นทางท่องเที่ยวอยู่ 3 สายทาง ประกอบด้วย 1.ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (thailand Riviera) 2.ถนนเลียบแม่น้ำโขงชื่อ "นาคาวิถี" และ 3.ถนนเลียบชายเขาด้านทิศใต้ของเขาใหญ่ “บูรพาคีรี”

 


ถนนท่องเที่ยวสายที่ 1 เลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (thailand Riviera)นั้นจะเป็นเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งทะเลด้าน ตะวันตกของอ่าวไทย จากจังหวัดสมุทรปราการ ถึง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเส้นทางนี้จะแบ่งการดำเนินการออกเป็น 4 ระยะ คือ 

 

ระยะที่ 1 จากจังหวัดสมุทรสงครามถึงจังหวัดชุมพร ระยะทางรวมประมาณ 659 กม. เป็นถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทประมาณ 515 กม.ซึ่งปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 421 กม.หรือก่อสร้างไปกว่า 81.74%และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2566

ระยะที่ 2 จากจังหวัดชุมพรถึงจังหวัดสงขลา ระยะทางประมาณ 555 กม. เริ่มตันก่อสร้างบางช่วงแล้ว ในปี 2563 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2569

 

ระยะที่ 3 จากจังหวัดสมุทรปรการถึงจังหวัดสมุทรสงคราม ระยะทางรวมประมาณ 155 กม. ซึ่งจะเริ่มต้นที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ผ่านป้อมพระจุลจอมเกล้า ชายทะเลบางขุนเทียน คลองบ้านประมง ศาลพันท้ายนรสิงห์ สะพานแค ศูนย์วิจัยป่าชายเลนสมุทรสาคร วัดศรีสุทธารม วัดโกรกกราก ปากอ่วมหาชัย ชายทะเลบางกระเจ้า ชายทะเลกะช้าขาว ชายทะเลกาหลง ชายทะเลรางจันทร์ ดอนหอยหลอด และศูนย์อนุรักษ์บำชายเลนคลองโคน จนไปบรรจบกับโครงการระยะที่ 1 ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสำรวจออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มตันก่อสร้างได้ในปี 2566


ระยะที่ 4 จากจังหวัดสงขลาถึงจังหวัดนราธิวาส ระยะทางประมาณ 190 กม.คาดออกแบบในปี 2566

นอกจากนั้น ยังมีการสำรวจออกแบบถนนเพิ่มเติมด้านตะวันตกของถนนเพชรเกษม เลียบเทือกเขาตะนาวศรีพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเชื่อนแก่งกระจานวัดห้วยมงคล โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ และเขื่อนปราณบุรี เป็นต้น ระยะทางประมาณ250 กม.



ถนนท่องเที่ยวสายที่ 2 ภาคอีสาน จะเป็นถนนเลียบแม่น้ำโขงชื่อ "นาคาวิถี" สนับสนุนขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโซง จากจังหวัดเลยถึงอุบลราชธานี ระยะทางรวมประมาณ 750 กิโลมตร ปัจจุบันดำเนินการสำรวจออกแบบระยะที่ 1 แล้ว เริ่มต้นจากมุกดาหารถึงนครพนม ระยะทางประมาณ 42 กม. ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 พิพิธภัณฑ์หนูฮัก พูมสะหวัน หาดมโนภิรมย์ วัดสองคอน แก่งกะบา และพระธาตุพนม ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปื 2565 และจะดำเนิการสำรวจออกแบบส่วนที่เหลือในระยะถัดไป   

           ถนนท่องเที่ยวสายที่ 3  "บูรพาคีรี" จะพัฒนาเส้นทางถนนเลียบชายเขาด้านทิศใต้ของเขาใหญ่ ระยะทางประมาณ 175 กม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างสำรวจออกแบบจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในนครนายก นครราชสีมา ปราจีนบุรี และสระแก้ว เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา และอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา

 

ข่าวที่สอง คมนาคมถกรมว.กลุ่มGMSเร่งโปรเจ็กต์สัญญาจ้างราง-โลจิสติกส์ข้ามแดน

 

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้แทนรัฐมนตรีประจำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (GMS Minister) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเจ้าหน้าที่ไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี แผนงาน GMS ครั้งที่ 24 (24th GMS Ministerial Conference) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ภายใต้หัวข้อ “มุ่งปูทางเพื่อการบูรณาการที่เพิ่มขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อความยั่งยืน และความเจริญมั่งคั่งในอนุภูมิภาค GMS” ซึ่งกระทรวงการคลัง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB)    เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2563

ไทยได้ย้ำเจตนารมย์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ 1.โครงการลงนามในสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้า เครื่องกล จัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร โครงการรถไฟความเร็วสูงภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีน วงเงิน 50,633 ล้านบาท เพื่อยกระดับให้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ - ใต้ (NSEC) 2.เรื่องการอำนวยความสะดวกกิจกรรมทางเศรษฐกิจข้ามพรมแดน ภายใต้ความตกลงการอำนวยความสะดวกคมนาคมขนส่งข้ามพรมแดนใน GMS หรือความตกลง CBTA โดยเฉพาะเร่งปรับปรุงกฎระเบียบ  การดำเนินงานในด่านพรมแดนและโลจิสติกส์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและมีความปลอดภัย เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและเพื่อนบ้าน

 ข่าวที่สาม โรงแรมดิโอกุระเสิร์ฟมื้อพิเศษลันช์-ดินเนอร์ที่ห้องยามาซาโตะ 1-22ธ.ค.63

 

 


โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ นำห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 ที่ได้รับ ‘มิชลิน เพลท’ (MICHELIN Plate) จาก ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ประจำปี 2563 ฉบับ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงาต่อเนื่องปีที่ 3 เตรียมอาหารชุดพิเศษสำหรับให้บริการทั้งมื้อกลางวัน (lunch) และมื้อค่ำ(dinner) ให้แต่ละครอบครัวและคนพิเศษมาเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุข ระหว่างวันที่ 1 -22 ธันวาคม 2563 โดยเชฟชิเงรุ ฮางิวาระ (Shigeru Hagiwara)  หัวหน้าพ่อครัว ได้รังสรรค์อาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับจากวัตถุดิบชั้นดีหลายชนิดเพื่อให้บริการเป็นอาหารชุดพิเศษในช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปีที่ทุกคนรอคอย

อาหารชุดมื้อกลางวัน ให้บริการตั้งแต่เวลา 11.30 น. ถึง 14.30 น. ราคาชุดละ 1,600++ บาท ประกอบด้วย หอยเชลล์ย่าง ลูกมะเดื่อแห้ง กุ้ง และเห็ดไมทาเกะคลุกน้ำส้มสายชูวอลนัท ซุปเกี๊ยวปูใส่เห็ดชิเมจิและผักนานาชนิด ซาชิมิชั้นดี 5 ชนิด (ปลาทูน่า, ปลาหางเหลือง, ปลากะพงขาว, กุ้งหวาน และหอยปีกนก) ปลากะพงขาวและเห็ดย่างราดซอสมัสตาร์ด ลูกชิ้นเนื้อเป็ดตุ๋นกับหัวไช้เท้า ผักโขม แครอท และเห็ดหลวงญี่ปุ่น เทมปุระกุ้ง ปลาทราย และผักต่างๆ ข้าวอบหอยนางรม โรยด้วยสาหร่ายและไข่ปลาแซลมอนเสิร์ฟพร้อมซุปมิโซะ และผักดอง ส่วนขนมหวานให้บริการแพนเค้กราดถั่วแดงและซอสชาเขียวเสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล

ส่วน "มื้อค่ำ" ให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. ราคาชุดละ 4,700++ บาท บริการอาหารชุด “ไคเซกิ” ตามแบบราชสำนักญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย  ฟองเต้าหู้กับกระเจี๊ยบญี่ปุ่นใส่ไข่หอยเม่น ตับปลามังค์ฟิช กุ้ง และเห็ดไมทาเกะย่างราดซอสมิโซะผสมน้ำส้มบัลซามิก ซุปเกี๊ยวไข่ปลา เห็ดหอม และผักญี่ปุ่น ปลาดิบชั้นดี 4 ชนิด (ปลาทูน่า, ปลาแมคเคอเรลดอง, ปลาหางเหลือง และกุ้งหวาน) ปลาแมคเคอเรลและเนื้อย่างเสิร์ฟกับแครอท มะเขือม่วง เห็ดหลวงญี่ปุ่นและซูกินิราดซอสมันฝรั่งผสมมิโซะและมายองเนส ฟองเต้าหู้ห่อใบเฟิร์นกับไข่ปลาตุ๋น เทมปุระปูหิมะ ปลาเงินญี่ปุ่นและผักนานาชนิด  เทมปุระปูหิมะ ปลาเงินญี่ปุ่น มันหวาน เห็ดไมทาเกะ และหน่อไม้ฝรั่ง เส้นหมี่น้ำญี่ปุ่นหน้าหอยนางรมเสิร์ฟกับข้าวห่อสาหร่ายไส้ผักดอง  สุดท้ายให้บริการแอปเปิ้ลอบน้ำผึ้งราดซอสชาเขียวและถั่วแดง เสิร์ฟกับไอศครีมวานิลลาเป็นขนมหวานจานพิเศษ สอบถามเพิ่มหรือสำรองที่นั่ง โทร. 02 687 9000

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง