ททท.ผนึกแกร็บแท็กซี่นำร่องธุรกิจขนส่งเข้ามาตรฐานSHAปี’63 ดึงคนขับรถแห่ร่วมSHAกว่า600คน-ลุยจัดอบรมด้านสุขอนามัย
ททท.ผนึกแกร็บแท็กซี่นำร่องธุรกิจขนส่งเข้ามาตรฐานSHAปี’63
ดึงคนขับรถแห่ร่วมSHAกว่า600คน-ลุยจัดอบรมด้านสุขอนามัย
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง
ใยสามเสน บล็อกเกอร์ #gurutourza
#รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97
#เกร็บแท็กซี่SHA
ททท.ผนึก “เกร็บ แท็กซี่” เร่งเครื่องนำร่องกลุ่มธุรกิจขนส่ง/โลจิสติกส์ ดึงคนขับรถแห่ร่วมลงทะเบียนมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA ปี’63 ทะลุกว่า 600 ราย ลุยทำโครงการเปิดคอร์สอบรมความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เตรียมความพร้อมสร้างความเชื่อมั่นบริการนักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติ เที่ยวไทย ปลอดภัยจากโควิด-19
สำหรับสถิติ วันที่ 30 ตุลาคม 2563
ทั่วประเทศมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวร่วมลงทะเบียนโครงการ SHA แล้ว 14,958 ราย สูงกว่าเป้าหมายที่ ททท.
ตั้งไว้ โดยมีธุรกิจหลัก 10 ประเภท
ประกอบด้วย อันดับ 1 กลุ่มผู้ประกอบการด้านโรงแรมและที่พักสถานที่จัดการประชุมได้รับตราสัญลักษณ์
SHA มากที่สุด 3,501 อันดับ 2 ผู้ประกอบการประเภทภัตตาคาร
/ ร้านอาหาร 1,873 ราย อันดับ 3 ผู้ประกอบการด้านบริษัทนำเที่ยว 1,033 ราย
ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล
ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด
กล่าวว่า ตลอดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย
ทางแกร็บประกาศใช้มาตรการพร้อมกิจกรรมต่าง ๆ
พัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของบริการการเดินทาง อาทิ
การให้ความรู้และจัดกิจกรรมให้บริการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุกกับคนขับ รวมถึงเปิดตัวแคมเปญ “แกร็บ โพรเท็ค มั่นใจไปกับแกร็บ”
พัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อป้องกันและควบคุมมาตรฐานของพาร์ทเนอร์คนขับ
การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเตรียมความพร้อมด้านยานพาหนะและมอบอุปกรณ์เสริมเพื่อป้องกันและทำความสะอาดอย่างเจลล้างมือและสเปรย์ทำความสะอาด
ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและผู้โดยสาร
อีกทั้งแกร็บยังได้ร่วมกับกรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข จัดคอร์สอบรมออนไลน์ให้คนขับในรูปแบบวิดีโอ
เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ
พร้อมให้คำแนะนำในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย ซึ่งการเข้าร่วมโครงการ SHA ครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมดี ๆ
ที่ไม่เพียงช่วยสร้างความตระหนักรู้ในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยให้กับพาร์ทเนอร์คนขับซึ่งถือเป็นด่านหน้าที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
แต่ยังช่วยยกระดับบริการและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติด้วย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วง
การเฝ้าระวังสถานการณ์โควิด-19 ผู้ประกอบการหรือผู้ขับรถแท็กซี่
ควรมีการป้องกันและสร้างสุขอนามัยที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการล้างทำความสะอาดรถทุกวันก่อนนำรถออกให้บริการ และหลังการให้บริการ
โดยเน้นการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิว 5
จุดเสี่ยงที่มีผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ ได้แก่ 1) ที่จับบริเวณประตู
2) ที่จับเหนือหัวผู้โดยสาร 3) เบาะนั่ง
4) ที่เท้าแขน และ5) กระจกภายในรถ
โดยขอให้ผู้ขับรถแท็กซี่ทำความสะอาดบริเวณทั้ง
5 จุดเสี่ยง ด้วยน้ำผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด
และแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์
ทุกครั้งที่ผู้โดยสารลงจากรถเพื่อทำลายเชื้อโรค
รวมทั้งจัดเตรียมหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการกรณีที่พบผู้โดยสารมีอาการไข้
ไอ จาม และไม่สวมหน้ากากอนามัย
เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่เดินทางกับรถแท็กซี่ผู้บริการสาธารณะที่เข้าร่วมมาตรฐานตราสัญลักษณ์
SHA ทั้งปัจจุบันและอนาคตนั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น