ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.จัดทัพสินค้าเที่ยวระยองขาย“แคมปิ้งเกาะ-แรลลี่ทะเล”ฤดูหนาวถึงปี’64 หลังโควิดคนไทยใช้เงินลดแรงหัวละพันบาท-ตั้งเป้าดันเทศกาลผลไม้ฟื้นรายได้

 

ททท.จัดทัพสินค้าเที่ยวระยองขาย“แคมปิ้งเกาะ-แรลลี่ทะเล”ฤดูหนาวถึงปี’64

หลังโควิดคนไทยใช้เงินลดแรงหัวละพันบาท-ตั้งเป้าดันเทศกาลผลไม้ฟื้นรายได้

คิงเพาเวอร์นำทัพเครื่องหนังไทยแบรนด์“หลงใหล”เปิดใหม่3ไอเท็มเทรนด์แรง

พูลแมนคิงเพาเวอร์ขายSHOPCATIONลดค่าห้องพัก40%+ช้อปฟรี 500 บาท

ททท.ชวน“รถ/เรือ/ยอร์ช”สมัครฟรีเข้าร่วมSHAบูมเที่ยวไทยคึกคักปลายปี’63

ททท.จับมือจส.100ตลุยทำข้อมูลเส้นทางลัดเสิร์ฟเที่ยววันหยุดยาวข้ามปี’64

TCEBแชมป์2ปีซ้อน“สุดยอดองค์การมหาชน”ปี’63 Thailand’s Most Admire

หนาวนี้ชวนกันออกไปลุยเที่ยวเมืองไทยพิชิตภูสวยสุดๆ“ภูสอยดาว-ภูกระดึง”

จะไปพบแพทย์ตรวจสุขภาพ “วัยไหน-เตรียมตัวอย่างไร-เจาะเลือดเพื่ออะไร”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้“ท่องเที่ยวไทย”เศรษฐกิจส่งสัญญาณคึกคักปลายQ1ปี’64

เปิดเบื้องหลัง“การบินไทย”Q3ปี’63ใช้จ่ายเฉียด2หมื่นล้านทำขาดทุนพุ่ง 360 %

 

อัครวิชย์ เทพาสิต 

ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #ทททระยอง  #PullmanKingPowerShopCaption #มาตรฐานSHAรถเรือยอร์ช #เปิดเบื้องหลังบินไทยขาดทุน360%

ช่วงที่ 1 เกาะติดภารกิจ “อัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง” จัดทัพสินค้าท่องเที่ยวดูดตลาดคนไทยนิยมเทรนด์“แคมปิ้งอุทยานบนเกาะในทะเล-กีฬาเทรนด์ใหม่พาย SUB” เสริมด้วย “แรลลี่ซีเอสอาร์” พร้อม กอดคอสนามกอล์ฟลุยเจาะ “Expat ตลาดต่างชาติในไทย” จัดแคมเปญเล่นกอล์ฟวันธรรมดา พ.ย.63-ม.ค.64 หลังค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเที่ยวระยองหลังโควิดวูบลงกว่า 1,000 บาท/คน/วัน รอเทงบบูมหนัก ๆ โกยรายได้ “เทศกาลท่องเที่ยวมหานครผลไม้” เดือน เม.ย.64 ส่วนหนาวนี้ทะเล และหมู่เกาะ ทั่วระยอง สวย อาหารทะเลสดราคาถูกแบบโดน ๆ แวะมาอุดหนุนกันได้เลย

นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเผยว่า เตรียมความพร้อมเปิดรับฤดูการท่องเที่ยวปลายปี 2563 แหล่งท่องเที่ยวทะเลและหมู่เกาะมีความสวยงาม เทรนด์ยอดนิยมปีนี้ กลุ่มที่ 1 ท่องเที่ยวแคมปิ้งตามอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ไฮไลต์ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า เขาชะเมา เขาจุก มีภาคเอกชนอยู่ติดพื้นที่อ่างเก็บน้ำก็กระตุ้นการท่องเที่ยวกางเต็นท์สัมผัสธรรมชาติ

ททท.ร่วมกับอุทยานแห่งชาติ และผู้ประกอบการ ให้ความสำคัญเรื่องมาตรฐานการท่องเที่ยววิถีใหมที่จะให้นักท่องเที่ยวทุกคนตระหนักถึงการดูแลป้องกันความปลอดภัยด้านสุขอนามัยต้องมาเป็นอันดับแรก ๆ โดยเฉพาะการแคมปิ้ง ททท.เข้าไปเสริมเรื่องพื้นที่ธรรมชาติขอความร่วมมือรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ นอกเหนือจากด้านสาธารณสุข



กลุ่มที่ 2 การท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยเฉพาะการพาย SUB BROAD ทะเล บึงน้ำขนาดใหญ่ หรือสวนพฤกษศาสตร์ ตอนนี้คนวัยต่าง ๆ เดินทางเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนต่อเนื่องทุกสัปดาห์

ส่วนการวางกลยุทธ์เพิ่มวันพักค้างคืน เพิ่มรายได้ และเพิ่มความถี่ จากนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่ระยอง นั้น จะให้น้ำหนักกลยุทธ์ตามแผนหลักสอดคล้องกับการใช้เงินงบประมาณ จะบุกตลาดการขายอย่างหนักช่วงเมษายน 2564 เป็นต้นไป ต้อนรับการท่องเที่ยวมหานครผลไม้ ระหว่างนี้ก็จะใช้วิธีจับมือกับหน่วยงานอื่น เช่น ทำโครงการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดระยองจัดกิจกรรม ส่งเสริมเพิ่มระยะเวลาท่องเที่ยวเกาะต่าง ๆ ขยายเวลาบริการท่าเรือข้ามไปท่องเที่ยวเกาะจาก 18.00 น. เป็น 20.00 น.

ผอ.อัครวิชย์กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวภายในประเทศที่เดินทางไปใช้จ่ายเงินในระยอง เฉลี่ยคนละประมาณ 2,900 บาท/คน/วัน พอเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จนทำให้ต้องล็อกดาวน์พื้นที่ไประยะหนึ่งแล้วเริ่มกลับมาเปิดบริการอีกครั้งมีผลให้การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวลดลงจากสถานการณ์ปกติไปเฉลี่ยกว่า 1,000 บาท/คน/วัน อัตราการเข้าพักโรงแรมเหลือเพียง 52 % จึงต้องส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างเข้มข้นต่อเนื่องต่อไป

ส่วนกิจกรรมที่จะเสริมเพิ่มเพื่อดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวเข้าสู่ระยองมากขึ้น ล่าสุดมีข่าวดีจากภาครัฐบาล และจังหวัด ที่จะร่วมกันส่งเสริม “เทศกาลอาหารระยอง” ส่วน ททท.จะเน้นทำตามแผนหนักไปทางส่งเสริมหน่วยงาน บริษัทห้างร้านต่าง ๆ เข้าไปทำกิจกรรม “ท่องเที่ยวเชิงบำเพ็ญประโยชน์” หรือ CSR เร็ว ๆ นี้ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง (สจล.) กับทางสมาคม เตรียมจัดคาราวานแรลลี่มาทำซีเอสอาร์ในระยอง จำนวน 200 คัน รวมประมาณ 1,000 คน ทยอยมาช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม นี้ เดือนละ 500 คน โครงการนี้ตั้งเป้าหารายได้ไปสร้างโรงพยาบาลเพื่อสร้างรายได้เข้าพื้นที่และทำประโยชน์คืนสู่สังคม แรลลี่เป็นอีกกิจกรรมที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวชื่นชอบอาหาร ซื้อของฝาก ก็ทำให้เกิดการกระจายเงินหมุนเวียนเข้าถึงมือชุมชน



สถานที่ท่องเที่ยวจุดหมายของนักท่องเที่ยวกลุ่มแรลลี่ จะเป็นพื้นที่หลักตามคำแนะนำของ ททท. เช่น ชุมชน แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม เช่น วัดหลวงปู่ทิมองค์ใหญ่ ได้ปรับปรุงเป็น “อุทยานทางศาสนา” รวมถึงกิจกรรมเลือกทำในแถบชุมชนปากน้ำประแสร์ ได้แก่ การปลูกหญ้าทะเลให้สัตว์น้ำมีที่อยู่อาศัย การทำซั้งเชือกบ้านปลา บ้านปู ต่าง ๆ

และกำลังจะเปิดโครงการ ร่วมกับทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบ้านเพ กิจกรรมให้อาหารปลา เหมาะกับกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีเวลาเพียงพอ โดย ททท.จะสนับสนุนการทำกิจกรรม แต่ถ้าจัดกันมาเองก็จ่ายเพียงคนละ 50-100 บาท โดยขอให้นักท่องเที่ยวประสานมายัง ททท.ระยอง เพื่อแจ้งไปยังทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบ้านเพคอยต้อนรับ ตามปกติการให้อาหารปลาทางพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไม่ได้คิดค่าบริการ แต่สามารถร่วมบริจาคเป็นค่าซื้ออาหารปลา หรือเต่าทะเล ได้

ผอ.อัครวิชย์ กล่าวถึง แผนกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักในไทย (expat) เริ่มเดินหน้าตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา จัดกิจกรรมการแข่งขันกอล์ฟให้ชาวต่างชาติ ระหว่างวันนี้-มกราคม 2564 โดยแบ่งนักท่องเที่ยวที่จะออกรอบเล่นกอล์ฟในโครงการเป็น 2 โซนได้แก่ โซนยุโรป กับ โซนเอเชีย ซึ่งมีความชอบต่างกัน จะจัดกอล์ฟ 2 เดือน 1 ครั้ง จากนั้นก็จะรวมจัดกอล์ฟรอบใหม่มีทั้ง ไทย ยุโรป เอเชีย ตีกอล์ฟด้วยกัน โครงการนี้ทำเสริมการเพิ่มรายได้ช่วงวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี ของแต่ละสัปดาห์ เฉลี่ยค่าเล่นกอล์ฟรวมทุกอย่าง ค่ากรีนฟี แคดดี้ จ่ายเพียงคนละเพียง 1,200 บาทเท่านั้น



สำหรับ “อาหารในสนามกอล์ฟ” แต่ละแห่งมีเมนูเป็นสัญลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ททท.จึงแนะนำให้ลองสั่งรับประทาน สามารถเพิ่มรายได้หมวดอาหารให้สนามกอล์ฟได้ด้วย

ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจในระยอง หลังจาก ททท.เปิดตัวโครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA นั้นเอกชนมีความตื่นตัวลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการรับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA ของ ททท.กลุ่มหลัก คือธุรกิจโรงแรม สอบถามถึงการเข้าร่วมตราสัญลักษณ์ SHA กลุ่มโรงแรมหลักและโรงแรมรองจะทำอย่างไรได้บ้าง แสดงความสนใจอย่างต่อเนื่อง ส่วนตอนนี้ ททท.เชิญชวนมากขึ้นคือกลุ่มร้านขายของที่ระลึก ซึ่งยังเข้าร่วมจำนวนน้อย

ปลายปี 2563 ระยองเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายการท่องเที่ยวที่มีความสะดวกสบาย ถนนสายมอเตอร์ คมนาคมภายในจังหวัด ประการสำคัญหนาวนี้ทะเลอ่าวไทยสวยงาม มีอาหารทะเลสดพร้อมเสิร์ฟในราคาย่อมเยา มาท่องเที่ยวกันมาก ๆ เพื่อการพักผ่อนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติไปพร้อม ๆ กัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์นำทัพเครื่องหนังไทยแบรนด์“หลงใหล”เปิดใหม่3ไอเท็มเทรนด์แรง

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนช้อปแบรนด์เครื่องหนังสัญชาติ “หลงใหล : LONGLAIW  เปิดตัวไอเท็มใหม่“Happy Goosey Night Charm & Holder Set” กระเป๋าหนังวัวแท้ที่มีดีไซน์น่ารักสดใสปนเท่ มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์หญิงสาวในยุคปัจจุบันที่ต้องการความคล่องตัวแบบมีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยกระเป๋าถูกออกแบบมาให้สามารถใส่ได้ทั้งบัตรต่างๆ รวมถึงหน้ากากอนามัย ในส่วนของพื้นที่ด้านในของกระเป๋าจะมีผ้าซับในรองรับอีกชั้น ช่วยให้การจัดเก็บหน้ากากอนามัยสะอาดยิ่งขึ้น เพิ่มความเก๋ด้วยสายคล้องกระเป๋าที่มีให้เลือกแมตช์กันถึง 3 แบบ 3 สไตล์ ได้แก่

 

“Pumpkin”  -ฟักทองมหัศจรรย์ สร้างสรรค์มาเพื่อหญิงสาวที่รักความสดใสแต่ยังคงไว้ด้วยความเรียบง่าย

“Boo” -ความหลอนสุดน่ารักที่ใครเห็นเป็นต้องหลงใหล จนลืมความหลอนกันเลยทีเดียว สายมินิมอลที่ชื่นชอบความเรียบง่ายต้องไม่พลาด

“Black Cat”-แม่มดที่แปลงร่างมาเป็นแมวดำ เพื่อล้วงความลับของเหล่าหญิงสาว เผยให้เห็นเสน่ห์ความน่ารักแถมได้ความเท่ไม่เบา

หลงใหลพร้อมแล้วที่จะให้คุณได้เป็นเจ้าของ “Happy Goosey Night Charm & Holder Set” ในราคา 390 บาท / ใบ สั่งซื้อได้ที่ช่องทางออนไลน์ของแบรนด์หลงใหล (LONGLAI) Instagram: longlaileather Facebook: longlaileatherstore, Line: @longlaileather , WeChat: Longlai_bkk



ข่าวที่ 2 พูลแมนคิงเพาเวอร์ขายSHOPCATIONห้องพักลด40%+ช้อปฟรี500าท

โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ ของ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ห้องพักหรูบรรยากาศรีสอร์ทในเมือง เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มอบข้อเสนอสุดพิเศษ ห้องพักพร้อมบัตรกำนัลเงินสดให้ช้อปเพลิน “SHOPCATION PACKAGE” ราคา 1,999 บาท สุทธิ/ห้อง/คืน เมื่อจองผ่านเว็บไซต์ Pullman Bangkok King Power ลดเพิ่มค่าที่พัก 40%  รับไปเลย จองและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 28 ธันวาคม 2563 รายละเอียดดังนี้

 

1.ห้องพักแบบซูพีเรีย* ให้คุณได้สัมผัสความอบอุ่นเสมือนอยู่บ้านด้วยหน้าต่างบานใหญ่จรดฝ้า พื้นไม้ไผ่สไตล์รีสอร์ท

2.อาหารเช้า 2 คน ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ขยายเวลาเช็กเอาต์ได้ถึง 20.00 น.

3.บัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 500 บาท สำหรับช้อปเพลินที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

โดยสามารถรับส่วนลดสูงสุด 40% ที่ห้องอาหารและบาร์ภายในโรงแรมฯ ได้แก่ ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก, ห้องอาหารเท็นชิโนะ, เดอะ จังก์ชั่น และพูลบาร์

            สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2680 9999 จองห้องพัก คลิก https://bit.ly/3kEKnMF

 


ข่าวที่ 3 ททท.ชวน“รถ/เรือ/ยอร์ช”สมัครฟรีเข้าร่วมSHAบูมเที่ยวไทยคึกคักปลายปี’63

นางสาว​ฐาปนีย์​ เกียรติ​ไพบูลย์​ รอง​ผู้ว่า​การ​ด้าน​สินค้า​และ​ธุรกิจ​ท่องเที่ยว​ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ตลอดเดือนตุลาคมต่อเนื่องพฤศจิกายน 2563 ททท.เร่งจับมือกับพันธมิตรสมาคมและบริษัทขนาดใหญ่ กระตุ้นสมาชิกผู้ประกอบการเข้าร่วมลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการมาตรฐานตราสัญลักษณ์ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย : Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA ไฮไลต์ 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 แหล่งท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ และ กลุ่มที่ 2 Grab Taxi ศูนย์บริหารจัดการขนส่งและโลจิสติกส์เพื่อการเดินทางของคนทั่วไปกับนักท่องเที่ยวไทยและนานาชาติ มีสมาชิกเป็นพันธมิตรผู้ขับแท็กซี่อยู่หลายพันคน

 

ขณะนี้ ททท.จับมือกับมิวเซียมสยาม กระตุ้นพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงความรู้ จุดจำหน่ายบัตร Thailand Museum Pass และพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศกว่า 20 แห่ง ล่าสุดได้ใช้โอกาสเปิดตัวความร่วมมือกับทางมิวเซียมสยาม ทำพิธีมอบตราสัญลักษณ์ SHA  ให้กลุ่มพันธมิตรพิพิธภัณฑ์ 32 แห่ง จากทั้งหมดทั่วประเทศมีทั้งที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานรัฐกว่า 200 แห่ง และเอกชนอีกนับพันแห่ง พยายามจะรณรงค์ให้ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการ SHA ให้ได้มากที่สุด เพื่อร่วมมือกันตอกย้ำนักท่องเที่ยวมั่นใจในการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ทั่วไทยอย่างปลอดภัยไร้กังวล ป้องกันการแพร่ระบาดลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิค-19 ด้วย

นางสาวฐาปนีย์ย้ำว่า การจัดกิจกรรมมอบมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA ให้พันธมิตรกลุ่มพิพิธภัณฑ์ไทยทั่วไทย ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในการสร้างความเชื่อมั่นให้การท่องเที่ยวภายในประเทศแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ประการสำคัญจะกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงแหล่งเรียนรู้ในพิพิธภัณฑ์  ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยเกิดการเรียนรู้ด้าน ศิลปะ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์  รวมทั้งส่งเสริมประชาชนหันมาสนใจให้ความสำคัญกับเรื่องการวางแผนการท่องเที่ยวภายใต้วิถีชีวิต New Normal เพิ่มมากขึ้น

ททท.ด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว จึงขอเชิญชวนให้คนในประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHA ซึ่งตอนนี้มีให้เลือกเที่ยวได้ตามความชอบ โดยมีพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศ

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ททท.จับมือกับบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด พันธมิตรกลุ่มธุรกิจขนส่ง/โลจิสติกส์ ททท. และกระทรวงสาธารณสุข นำสมาชิกคนขับแท็กซี่แกร็บสมัครเข้าร่วมโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย : Amazing Thailand Safty & Health Administration : SHA ลงทะเบียนแล้ว 600 คัน ล่าสุดเข้ารับตราสัญลักษณ์เรียบร้อยแล้ว 100 คัน ซึ่งคนขับแท็กซี่พร้อมใจกันกันยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค การป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างความมั่นให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศมีประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดี มีความสุข และเชื่อมั่นในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ตลอดทุกทริปการเดินทาง

โดย ททท.สถิติสรุป ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ทั่วประเทศมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวร่วมลงทะเบียนโครงการ SHA แล้ว 14,958 ราย สูงกว่าเป้าหมายที่ ททท. ตั้งไว้  โดยมีธุรกิจหลัก 10 ประเภท ประกอบด้วย อันดับ 1 กลุ่มผู้ประกอบการด้านโรงแรมและที่พักสถานที่จัดการประชุมได้รับตราสัญลักษณ์ SHA  มากที่สุด  3,501 อันดับ 2 ผู้ประกอบการประเภทภัตตาคาร / ร้านอาหาร  1,873 ราย  อันดับ 3 ผู้ประกอบการด้านบริษัทนำเที่ยว  1,033 ราย

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการตามมาตรฐาน SHA สามารถสมัครฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าไปศึกษาแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA  ดาวน์โหลด e-Book ได้ที่ www.tourismthailand.org/thailandsha หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ thailandsha@gmail.com หรือ Line Official : @thailandsha และ 1672 เพื่อนร่วมทาง

ส่วน GRAB TAXI ได้ร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดคอร์สอบรมออนไลน์ให้คนขับในรูปแบบวิดีโอเป็นระยะ ๆ เพื่อส่งเสริมความรู้  ความเข้าใจ พร้อมให้คำแนะนำในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย ซึ่งการเข้าร่วมโครงการ SHA ครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมดี ๆ ที่ไม่เพียงช่วยสร้างความตระหนักรู้ในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยให้กับพาร์ทเนอร์คนขับซึ่งถือเป็นด่านหน้าที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ยังช่วยยกระดับบริการและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติด้วย 

ทั้งนี้ ททท.ได้จัดทำคู่มือการเข้าร่วมรับมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA ประเภทกิจการ “ยานพาหนะ” ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

“ผู้ประกอบการ” ได้แก่ รถนำเที่ยว/รถตู้/เรือนำเที่ยว/เรือยอร์ช จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน รวม 18 ข้อ ได้แก่

1.จัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิของพนักงานและผู้รับบริการทุกครั้ง พร้อมทำสัญลักาณ์ให้ผู้ผ่านการคัดกรองมองเห็น 2.จัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำรองให้ผู้โดยสาร กรณีมีอาการป่วยไอหรือจาม 3.เตรียมเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือไว้บริการภายในยานพาหนะทุกประเภท โดยเฉพาะจุดขึ้น-ลง 4.กำหนดจำนวนผู้โดยสาร เพื่อมีพื้นที่ว่างหรือจัดระยะห่างที่เว้นที่ 5.ทำความสะอาดยานพาหนะทุกครั้งหลังการให้บริการ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย ๆ เช่น มือจับรถโดยสาร ประตู เบาะนั่ง ที่พักแขน

6.อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น หากมีผ้าห่ม ปลอกหมอน แผ่นรองศรีษะ ต้องเปลี่ยนทุกรอบพร้อมกับซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ 7.มีระบบระบายอากาศถ่ายเทภายในยานพาหนะอย่างเหมาะและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ 8.ทำความสะอาดภายในห้องโดยสาร ห้องน้ำ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ 9.ทำการกำจัดขยะ ของเสีย กระดาษชำระ หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสม 10.ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

11.กรณีที่มีการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม ต้องควบคุมตามหลักสุขอนามัย 12.ทำความสะอาดท่าเทียบเรือ จุดขึ้นลง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนและหลังใช้งาน เช่น ราวจับ ห้องขายตั๋ว จุดพักรอ ห้องสุขา 13.นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ทดแทนการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ 14.ควรมีระบบการจอง หรือซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้า 15.บริการชำระเงินอย่างปลอดภัย เพื่อลดการพูดคุย สัมผัส ระหว่างผู้ให้กับผู้รับบริการ 16.สื่อสารให้ความรู้ข้อแนะนำในช่องทางต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 เช่น จัดให้มีป้ายแสดงคำเตือนแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ใช้บริการ 17.ต้องให้บริการระยะทางไม่เกิน 300 กม. และ 18.ลงทะเบียนผู้โดยสารหรือผู้รับบริการ บันทึกไว้เพื่อใช้ติดตามตัวได้สะดวก

 

“ผู้ให้บริการ” จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน รวม 6 ข้อ ได้แก่

1.พนักงานขับยานพาหนะจะต้องดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย ขณะปฏิบัติงานต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า 2.ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ อย่างสม่ำเสมอ 3.หากมีอาการ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ ให้หยุดปฏ้บัติการงานแล้วไปพบแพทย์ทันที 4.เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร 5.พนักงานที่ทำหน้าที่จัดการขยะ ต้องล้างมือทันทีหลังเสร็จงาน แล้วต้องมีวิธีจัดการนำกระดาษชำระ หน้ากากหน้า หน้ากากอนามัย อย่างเหมาะสมก่อนทิ้งลงถังขยะ และ 6.ไม่ควรรับเงินโดยสัมผัสมือตรง อาจสวมถุงมือ ถาดรับเงิน และทำความสะอาดภาชนะที่รับเงินอย่างสม่ำเสมอ

“ผู้รับบริการ” จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน รวม 4 ข้อ ดังนี้

1.ให้ความร่วมมือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 2.เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1 เมตร 3.ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ อย่างสม่ำเสมอ 4.ไม่ควรชำระเงินด้วยเงินสด เพื่อลดการสัมผัสระหว่างกัน ควรชำระเงินผ่านระบบโอนเงินอัตโนมัติหรือพร้อมเพย์

 

 


ข่าวที่ 4 ททท.จับมือจส.100ลุยทำข้อมูลเส้นทางลัดเที่ยววันหยุดยาวถึงปี’64

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ  รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ร่วมกับทางคุณหญิงสุวิมล ผึ่งประเสริฐ กรรมการบริหาร บริษัท แปซิฟิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของสื่อ จส.100 เปิดตัวโครงการ “เที่ยวเมืองรอง ช่วง LONG WEEKEND” เพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว  เริ่มตั้งแต่เข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปี 2563 จนถึงสิ้นปี 2564 เน้นความร่วมือในการให้บริการข้อมูลข่าวสารทันสถานการณ์ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลและวันหยุดยาวต่อเนื่อง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างทันท่วงทีในเรื่องสภาพการจราจร เหตุฉุกเฉิน อุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น หากมีนักท่องเที่ยวสอบถามข้อมูลไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ททท.มี คอล เซนเตอร์ 1672 โดยเจ้าหน้าที่จะให้ข้อมูลเส้นทางการเดินทางตามปกติแล้ว ยังสามารถแจ้งสภาพการจราจรของเส้นทางนั้น ๆ หรือแนะนำเส้นทางสายรองเพื่อเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดได้ด้วย 

นอกจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลแล้ว ยังร่วมกันผลิตและเผยแพร่การรีวิวเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองรองช่วงวันหยุดยาว การแนะนำเส้นทางสายรองเพื่อใช้เลี่ยงการจราจรติดขัดจากเส้นทางสายหลัก เผยแพร่ลงบนออนไลน์มีเดียของ ททท. ได้แก่  Facebook Fanpage : TAT Contact Center เพื่อนร่วมทาง IG : 1672travelbuddy  Twitter : tat1672  Line : @tatcontactcenter และ ออนไลน์มีเดียของ จส.100 ได้แก่ JS100.com Facebook Page : JS100 Radio Instagram : JS100 Online Twitter: @js100radio Application : JS100 หรือสามารถค้นหาโดยพิมพ์ #หยุดยาวเที่ยวไหนดี  #1672เพื่อนร่วมทาง #เที่ยวเมืองรองไปกับ1672  ก็ได้เช่นกัน  

คุณหญิงสุวิมล ผึ่งประเสริฐ  กรรมการบริหาร บริษัท แปซิฟิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า  จส.100 ร่วมกับ ททท. มาตั้งแต่ปี 2561 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ให้เข้าร่วมพันธกิจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีความสุข สนุกกับการเดินทางที่คุ้มค่าและปลอดภัย                         จส.100 ได้ปฏิบัติภารกิจเป็นหน่วยสนับสนุนการทำงานบริการของ ททท. คอลเซนเตอร์ 1672 ให้ข้อมูลข่าวสาร การเดินทาง ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นเพื่อนร่วมเดินทางที่สร้างความมั่นใจ อุ่นใจ ความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง 

ส่วนแนวทางการทำโครงการ “เที่ยวเมืองรอง ช่วง LONG WEEKEND “ จะเริ่มตั้งแต่ปลายปี2563 นี้ไปจนถึงปี 2564 โดย จส.100 ยังคงทำภารกิจเป้าหมายเน้นสนับสนุนการทำงานของ 1672 ให้บริการการเดินทางในวันหยุดยาว ทั้งทางด้านข้อมูลการจราจร เส้นทางถนน ทางเลี่ยงต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยว สะดวก ปลอดภัย ตลอดการเดินทาง  

             รวมทั้ง ส่งเสริมการเที่ยวไทยเชิงสร้างสรรค์หรือ Creative Travel คือ การสำรวจ ค้นหาเส้นทางท่องเที่ยวที่สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางหลักแต่ยังคงผ่านจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองรองได้ ตามพฤติกรรมความชอบของแต่ละกลุ่มนักท่องเที่ยวปัจจุบัน โดยร่วมกันรวบรวมและจัดทำข้อมูลเส้นทางไว้ในช่องทางออนไลน์ของ จส.100 และ ททท.  

ทั้ง ททท. และ จส.100 ต่างมุ่งหวังที่จะอำนวยความสะดวกและเสริมความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว    ก่อนออกเดินทาง สร้างความรู้สึกอุ่นใจระหว่างการเดินทาง เสมือนว่ามีผู้ช่วยอยู่เคียงข้างไปกับนักท่องเที่ยวในทุกที่อย่างปลอดภัย

 


ข่าวที่ 5 TCEB คว้าแชมป์2ปีซ้อน“สุดยอดองค์การมหาชน”ประจำปี’63 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ทางทีมจัดทำโครงการวิจัย Thailand’s Most Admired Company 2020 ทัศนคติกลุ่มเป้าหมายปี 2563 พบว่าทีเส็บเป็นองค์การมหาชนที่ได้รับความเชื่อถือสูงสุด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2  โดยได้รับคะแนนสูงสุดทางด้านการบริหารงาน ตามด้วยคะแนนในด้านวัตกรรม ด้านการดูแลสังคม ด้านภาพลักษณ์องค์กร การดำเนินธุรกิจ และการบริการ

 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีเส็บได้รับความเชื่อถือเกิดจากความร่วมมืออย่างเป็นเอกภาพทั้งจากภายในและพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ซึ่งไมซ์เป็นงานบริการ อำนวยความสะดวก ที่ทุกคนเป็ฯเจ้าของแล้วร่วมกันเดินหน้าทำให้การบริหารความร่วมมือกับเรื่องผลงานวิจัยที่ออกมาพลังความร่วมมือของทั้งอุตสาหกรรม

สำหรับ Thailand’s Most Admired Company 2020 จัดทำขึ้นเป็นปีที่ 9 โดยความร่วมมือระหว่าง BrandAge กับ คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร  เพื่อศึกษาและแสวงหาองค์กรที่มีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ จนทำให้ได้รับความเชื่อถือของกลุ่มเป้าหมาย

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ผลจากทีเส็บกำหนดบทบาทชัดเจนในฐานะองค์กรของรัฐที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของประเทศทางด้านอุตสาหกรรมไมซ์ ครอบคลุมาภารกิจานหลักทั้ง 1.ด้านส่งเสริมการตลาด 2.การพัฒนามาตรฐาน 3.การกระจายโอกาสจากความร่วมมือระหว่างทีเส็บกับพันธมิตรทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็ง ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) สมาคมโรงแรมไทย ตลอดจนศูนย์ประชุม สถานที่จัดงาน โรงแรม ที่พัก บริษัทผู้จัดงาน รวมถึงหน่วยงานเอกชนและหน่วยงานรัฐทุกภาคส่วน ร่วมกันทำอย่างเต็มที่

ทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ไทยเป็นที่ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งด้านการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าจากการรายงานของสมาคมระหว่างประเทศด้านการประชุม (International Congress and Convention Association หรือ ICCA) และสมาคมระหว่างประเทศด้านการจัดงานแสดงสินค้า (UFI the Global Association of the Exhibition Industry)

ปัจจุบันอุตสาหกรรมไมซ์ไทยยังครองอันดับในเอเชีย ได้แก่  อันดับที่ 4 ด้านการจัดประชุมนานาชาติและอันดับที่ 7 ด้านการแสดงสินค้านานาชาติ

นายจิรุตถ์ยืนยันว่าทีเส็บให้ความสำคัญกับนวัตกรรมอย่างมาก ทั้งด้านการตลาด เช่น การสร้างแอพพลิเคชั่น BIZ Connect และช่องทางต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม เช่น MICE Intelligence Center Website & Thai MICE Connect Website และยังมีส่วนส่งเสริมนวัตกรรมในอุตสาหกรรมไมซ์ เช่น โครงการ Thailand MICE Startup เพื่อกระตุ้นนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง

ควบคู่การพัฒนามาตรฐานเพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว ด้วยการร่วมยกระดับมาตรฐานสถานที่จัดงานเพื่อให้ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและใช้เป็นมาตรฐานสำหรับอาเซียน ครอบคลุมด้านการบริการ สุขอนามัย สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย

นายจิรุตถ์ กล่าวว่าทีเส็บภูมิใจที่ได้ส่งเสริมให้เกิดการตื่นตัวต่ออุตสาหกรรมไมซ์อย่างกว้างขวาง เริ่มจากไมซ์ซิตี้เมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนนี้เกิดไมซ์ซิตี้ขึ้นมาแล้ว 7 จังหวัด และจะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะหลายจังหวัด รวมทั้งเป็นครั้งแรกในการเปิดสำนักงานภูมิภาคขึ้นทีเส็บ 4 ภาค เพื่อประสานงานและอำนวยความสะดวกในการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ชุมชนท้องถิ่น เพิ่มโอกาสให้ไมซ์กระจายไปทั่วประเทศ พร้อมกับมีบริการด้านใหม่ ๆ มาเสนอขายได้อย่างไม่จำกัด

ส่วนแผนงานเตรียมความพร้อมอุตสาหกรรมไมซ์ให้สอดรับกับกระแสโลกจากสถานการณ์โควิดนั้น ทีเส็บพัฒนาแนวกลยุทธ์ “ไมซ์วิถีใหม่ เติบโตอย่างยั่งยืน” มุ่งส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งผ่าน 4 แนวทางหลัก คือ 1.การกระตุ้นตลาดในประเทศ 2.การดึงงานนานาชาติ 3.การขับเคลื่อนไมซ์ด้วยนวัตกรรม และ 4.การพัฒนาระบบนิเวศไมซ์ไทย เพื่อสร้างโอกาสพลิกฟื้นอุตสาหกรรมไมซ์ไทยกลับสู่ปกติโดยเร็วที่สุดต่อไป

            ช่วงที่ 2 ได้เวลาออกเที่ยวรับลมหนาว พิชิตยอดภูสวย ๆ ภาคเหนือ และอีสาน แบบฟินให้สุด ๆ กันเลย แนะนำไปปีน 2 ภู “ภูสอยดาว” อุตรดิตถ์ ที่ระดับความสูง 2,102 เมตร กับ “ภูกระดึง” เมืองเลย ภูนี้คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี แต่เคยไปมาหรือยัง อย่าฟังคนอื่นเล่าอย่างเดียว ต้องเที่ยวเองบ้าง ส่วนคนที่ชอบถามไม่ได้ป่วยทำไมจะต้องไปหาหมอ ต้องฟัง “พบแพทย์ วัยไหน-เพื่อ-เจาะเลือดไปทำอะไร” ส่วนข่าวน่ารู้ฟังแล้วเกิดปัญญา ข่าวแรก “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” พยากรณ์ปลายไตรมาส 1 ปี’64 ตลาดในประเทศ หลายจังหวัดเศรษฐกิจฟื้นชัวร์ ข่าวที่สอง “เปิดเบื้องหลังการบินไทยขาดทุนยับเยิน 360 %” ไตรมาส 3 ปี’63 ทั้ง ๆ ที่เข้าสู่การฟื้นฟูกิจการตามคำสั่งศาลก็ยังคงเพลินกับค่าใช้จ่ายเฉียด 2 หมื่นล้าน จมไม่ลงหรือไม่รู้วิธีต้องจับตาดูกันต่อไป

 


หนาวนี้ชวนกันไปเที่ยวเมืองไทยพิชิตภูดังสวยสุดๆ “ภูสอยดาว-ภูกระดึง”

หนาวนี้...การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)​ ชวนคนไทยทุกคน ออกไปช่วยเมืองไทย ออกไปเที่ยวเมืองไทย” ไปขึ้นภูชมทะเลหมอกหน้า ออกไปเที่ยว ไปช่วยชาติ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ และช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ต้องไปสัมผัสรู้กันได้ที่ 2 ภูสนุกตัวแทนภาคเหนือกับอีสาน

 


ภูแรก - ชวนไปพิชิตยอด 2,102 ภูสอยดาวสุดโหด จ.อุตรดิตถ์

            ไม่ต้องแปลกใจที่ “ภูสอยดาว” แหล่งท่องเที่ยวติดชาร์ตอันดับต้น ๆ ที่ครองใจเจนวาย หนาวนี้แนะนำไปพิชิตความสวย ภูสอยดาวยังมีจุดไฮไลท์ในหน้าหนาวสำหรับขาโหดที่ต้องการพิชิตยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ที่ระดับความสูง 2,102 เมตร การจะพิชิตยอดภูสอยดาวนั้นสามารถขึ้นได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เปิดให้ขึ้นเพียง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มกราคม จากลานสนใช้เวลาเดินไปกลับ 7-8 ชั่วโมง ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร แต่เส้นทางมีความชัน ซึ่งบางจุดชันถึง 90 องศา ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการนำทางเท่านั้น พร้อมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น เชือก หมวก และถุงมือ ส่วนหน้าฝนจะเป็นแหล่งชมทุ่งดอกหงอนนาคกับวิวต้นสนในม่านหมอกบริเวณลานสน(จุดกางเต้นท์) สวยสะพรั่งตระการตา

           


ภูที่สอง -ครั้งหนึ่งที่ ภูกระดึง จ.เลย

            ต้นหนาวแบบนี้ เชื่อว่าสายเดินป่าหลายคนคงคิดถึง “ภูกระดึง” เป็นที่แรก แม้จะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวใหม่สำหรับหลายๆ คน แต่ก็สามารถไปแล้วไปอีกได้เป็นสิบๆ ครั้ง เป็นตำนานของการเดินป่า ตำนานของหมูกะทะหลังเดินป่า ตำนานของมิตรภาพที่อาจเริ่มหรือจบ ภูกระดึงเหมือนเป็นจุดตั้งต้นของการเดินป่า เป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำ และอาจเป็นจุดที่อยากส่งต่อประสบการณ์ดีๆ ให้ผู้อื่นได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ด้วยความที่เส้นทางเดินป่าไม่ยากมาก สามารถชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาได้ง่าย

มีจุดชมวิวและธรรมชาติหลายจุด ที่พักสะดวกสบาย ทั้งยังสามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องวางแผนเยอะ ขึ้นรถที่ขนส่งตอนกลางคืน ตอนเช้าถึงเลย แวะอาบน้ำ ต่อสองแถวเข้าอุทยานฯ ไม่แพงไม่ยุ่งยาก มาเมื่อไหร่ก็ได้ขอแค่ใจพร้อม และภูเปิด โดยอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้ขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม – พฤษภาคม

                เมืองไทยออกมาท่องเที่ยวแล้วจะรู้ว่าเสน่ร้อนแรงมากจริง ๆ เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม



พบแพทย์ตรวจสุขภาพ“วัยไหน-เตรียมตัวอย่างไร-เจาะเลือดเพื่ออะไร”

ไม่ว่าเราจะดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่คนบางประเภทก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูง สมควรจะไปพบกับแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและเจาะเลือด สภานพยาบาลหลายแห่งจึงจัดรายการตรวจสุขภาพ ทั้งการตรวจหาโรคหัวใจ การตรวจหาโรคมะเร็งซึ่งการตรวจบางอย่างเกินความจำเป็น

ควรจะตรวจสุขภาพตั้งแต่อายุเท่าไร - ความเป็นจริงเราเริ่มต้นตรวจสุขภาพตั้งแต่แรกเกิดเลย หลังจากคลอดคุณหมอจะนัดพาเด็กไปตรวจสุขภาพชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดรอบศีรษะและฉีดวัคซีนป้องกันโรค ส่วนผู้ใหญ่ที่แข็งแรง ไม่มีโรคทางกรรมพันธุ์ในครอบครัวก็อาจจะจะเริ่มต้นตรวจเมื่ออายุ 35 ปี แต่หากคุณเป็นคนอ้วน มีประวัติเบาหวานในครอบครัว ประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจของญาติสายตรง ไขมันสูงในครอบครัวหรือเจ็บป่วยบ่อยก็อาจจะเริ่มต้นตรวจที่อายุน้อยกว่านี้บางประเทศ เช่นในอเมริกาแนะนำให้ตรวจไขมันในเลือดตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ส่วนเรื่องความถี่ก็ขึ้นกับสิ่งที่ตรวจพบหากพบว่ามีโรคหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคก็อาจจะต้องตรวจถี่ หากไม่เสี่ยงก็อาจจะตรวจทุก 3-5 ปี

 

จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง - หากต้องการเจาะเลือดควรจะงดอาหารไปอย่างน้อย 8 ชั่วโมงหากต้องการตรวจไขมันในเลือดควรจะงดอาหาร 12 ชั่วโมง หากไม่ได้ตรวจไขมันหรือน้ำตาลก็ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร หลังจากเจาะเลือดก็ไปรับประทานอาหาร สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องทำตัวเหมือนปกติก่อนตรวจไม่ควรที่จะควบคุมตัวเองเป็นพิเศษเพื่อที่จะให้ผลตรวจออกมาดี ไม่ควรกังวลหรือดื่มสุรก่อนการตรวจ การอดอาหารหมายถึงอาหารทุกอย่างทั้งน้ำชา กาแฟ นมดื่มได้เฉพาะน้ำเท่านั้น ไม่ควรจะออกกำลังกายก่อนการเจาะเลือดเพราะมีผลต่อการตรวจเลือด

 

แพทย์เขาจะตรวจอะไรบ้าง – 1.การตรวจร่างกายโดยทั่วไปจะเริ่มต้นซักประวัติ 2.สุขภาพโดยทั่วไป 3.ประวัติโรคในครอบครัวเพื่อค้นหาโรคทางพันธุกรรม 4.ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต 5.ประวัติการใช้ยา

 

การตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง คำนวณดัชนีมวลกาย ตรวจร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า สำหรับผู้หญิงก็แนะนำเรื่องการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง และการตรวจภาย

 

การเจาะเลือดเขาตรวจดูอะไรบ้าง - ปกติก็จะมีการตรวจเลือด CBC,LFT,Lipid,Creatinin,Urine analysis,X-ray แต่หากคุณต้องการตรวจอย่างอื่นให้ปรึกษาแพทย์ ตารางที่แสดงข้างล่างจะแสดงชื่อโรค วิธีการตรวจ และข้อบ่งชี้ในการตรวจด้วย

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง



 ข่าวแรก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้เที่ยวไทยเศรษฐกิจส่งสัญญาณคึกคักปลายQ1ปี’64

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พยากรณ์ สถานการณ์ภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ไตรมาส 3 ปี 2563 จะมีรายได้ 1.8 แสนล้านบาท แนวโน้มปลายไตรมาส 1 ปี 2564 การท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวกลับสู่ปกติได้  โดยเฉพาะ “การท่องเที่ยวในประเทศ” คนไทยยังคงนิยมเดินทางไปยังจังหวัดหลัก  เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี ราชบุรี นครราชสีมาและเลย เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่หลากหลาย มีการทำการตลาดประชาสัมพันธ์ สถานที่ท่องเที่ยวต่อเนื่อง และบางจังหวัด มีระบบการคมนาคมขนส่งที่สะดวก บวกกับมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงาม รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น และที่เกี่ยวข้องคงจะต้องประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้มากขึ้น

 

สถิติคนไทยเที่ยวในประเทศตลอดปี 2563 จะประมาณ 89.5 ล้านคน-ครั้ง ลดลง 46.4% ใช้จ่ายเงินรวม 5.06 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 53.3%  ช่วงปลายไตรมาส 1 ของ ปี 2564 หลายจังหวัดมีสัญญาณที่ดีธุรกิจจะเริ่มกลับมาเป็นบวกได้ เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์  แต่ก็มีบางจังหวัดอาจฟื้นตัวช้าโดยเฉพาะในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต เนื่องจากคนยังกังวลเรื่องโควิด-19

 

ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะนำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เตรียมเครื่องมือใหม่หันมาใช้ช่องทางเทคโนโลยีเครือข่ายสังคมออนไลน์ในการสร้างการรับรู้และสร้างเทรนด์การท่องเที่ยว ตอบสนองพฤติกรรมของคนที่นิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ เพื่อจะเลือกสถานที่ท่องเที่ยว ที่พักและการใช้บริการท่องเที่ยวอื่นๆ จากการรีวิว การแชร์ภาพหรือกิจกรรมท่องเที่ยว กระตุ้นหรือดึงดูดให้คนออกเดินทางท่องเที่ยวในระยะยาวต่อไป

 

ส่วน “ต่างชาติเที่ยวไทย” จะต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามนโยบายของรัฐบาล เริ่มจากการเปิดให้ทำ Special Visa Tourism : STV จำกัดจำนวนนำเข้าไม่เกินเดือนละ 1,200 คน และจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขกระทรวงสาธารณสุขต้องกักตัวใน Alternative State Qualantine :ASQ ครั้งละ 14 วัน รวมทั้งทำตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยครบทุกมิติ


ข่าวที่สอง เบื้องหลัง“บินไทย”Q3ปี’63ใช้จ่ายเฉียด2หมื่นล้านทำขาดทุนพุ่ง360%

 

 

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของการบินไทยและบริษัทย่อยไตรมาส 3 ปี 2563 บริษัทฯ และบริษัทย่อยผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 3 ปี 2563 จำนวน 21,531 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16,851 ล้านบาท คิดเป็น 360.1% เป็นขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่  21,536 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 9.87 บาท แตกต่างจากปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 2.14 บาท

 

โดยมีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) ลดลง 95.0 %  แบ่งเป็น 

1.ด้านผู้โดยสาร มีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) ลดลง 97.8% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 34.9% ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 80.0% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 0.49 ล้านคน ลดลงจากปีก่อน 91.9% 

 

2.ด้านการขนส่งสินค้ามีปริมาณการผลิตด้านพัสดุภัณฑ์ (ADTK) ต่ำกว่าปีก่อน 96.2% โดยมีปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (RFTK) ต่ำกว่าปีก่อน 93.6% อัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์ (Freight Load Factor) เฉลี่ย 91.2% สูงกว่าปีก่อนทำไว้ 52.2%

 

โดยการบินไทยและบริษัทย่อย มีผลการดำเนินรวมดังนี้

 

1. มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,727 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 41,289 ล้านบาท หรือ 91.7% สาเหตุสำคัญมาจากทั้งรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง 37,654 ล้านบาท (95.1%) รายได้จากการบริการอื่นๆ ลดลง 1,718 ล้านบาท (56.2%) 

 

2.ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 19,375 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 28,483 ล้านบาท คิดเป็น 59.5% เนื่องจากลดค่าใช้จ่ายผันแปรลงตามปริมาณการผลิต ปริมาณการขนส่ง และจำนวนผู้โดยสาร แต่ค่าใช้จ่ายคงยังอยู่ระดับสูงทำให้การลดค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอจะชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป 

 

ส่งผลให้ขาดทุนจากการดำเนินงาน 15,648 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 12,806 ล้านบาท คิดเป็น 450.6%

 

รวมทั้งทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ดังนี้

 

2.1 ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ถาวรจำนวน 444 ล้านบาท

2.2 ผลขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 จำนวน 35 ล้านบาท

2.3 ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 5,306 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการตีมูลค่าทางบัญชี

 

2.4 ผลกำไรสำหรับการป้องกันความเสี่ยงของกลุ่มรายการของฐานะสุทธิจำนวน 32 ล้านบาท

 

 

ขณะนี้ การบินไทยเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 ตามที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ดำเนินการฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนตามที่เสนอไป

 

 

               

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai