“ธรรมจักร เหลืองประเสริฐ”ผ่าตลาดซื้อขายเปลี่ยนมือธุรกิจโรงแรมไทย
ทุนไทย/ต่างชาติเฮช้อป“บูติก3ดาว”เน้น3ปัจจัย“เดสติเนชั่น-ราคา-ทำเล”
คิงเพาเวอร์พูลแมนจัดโปรห้องพักรายสัปดาห์5คืนจ่ายแค่ 5,999 บาท
สั่งออนไลน์ได้เลย!!เมนูอร่อย5ห้องอาหารโรงแรมพูลแมนคิงเพาเวอร์
ททท.เปิด6จุดอะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิมรอนักท่องเที่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
รมว.พิพัฒน์เร่งททท.ชงศบค.เพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ใหม่2ภาค7จังหวัด
“TCEB”รุกนวัตกรรมไมซ์ปี65“โดเมสติก2Go-อินเตอร์ BestAlliances”
เที่ยว“นครพนม-มุกดาหาร”ริมโขงธรรมชาติชีลกินฟินเมนูถิ่นที่พักชิคๆ
“5วิธี”แนะนำการดูแลรักษาสายตาเพื่อการมองเห็นที่ดีไว้ใช้งานยาวๆ
“AWC”ผนึกIHGทุ่มลงทุนเดอะวีคแยทท์พัทยาแห่งแรกในไทยเปิดปี’67
“วีวิลล่าภูเก็ต”เปิดใหม่เอ็มแกลเลอรี่หรู19หลังจัดโปรพักยาวลด30%
โอเชียนปาร์คฮ่องกงลุกปรับโฉมรับคนเมืองปลุกนักท่องเที่ยวครั้งใหม่
ซีอีโอ บริษัท อาจารย์ณา แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด
วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม
2564 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #Kingpower #TAT
#อาจารย์ณาแอสเซทแมเนจเมนท์ #arjarnnarassetmanagementgroup
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1705613256299392&id=100005522016696
ช่วงที่
1 สำรวจอาการเปลี่ยนมือโรงแรมกับ
“ธรรมจักร เหลืองประเสริฐ” ซีอีโอ บริษัท อาจารย์ณา แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด
ธุรกิจทั่วไทยระดับ 3 ดาว บูติกโฮเต็ลไม่เกิน 100
ห้องเนื้อหอม 2
กลุ่มหลัก “เบื่อทำต่อ-สายป่านขาด” ล่อใจ “ทุนไทย-ต่างชาติ”
จ่อรอจังหวะเข้าซื้อกิจการด้วย 3 ปัจจัย
“ราคา-เดสติเนชั่น-โลเคชั่น” กรุงเทพ ภูเก็ต พัทยา เข้าตาสุดๆ ส่วน “อีสาน-เหนือ”
ขายยาก ในฐานะที่ปรึกษาการลงทุนยามวิกฤตยึดหลัก “วิน วิน” ช่วย “ผู้ขาย” ได้ดีลราคาเป็นธรรมมีเงินเหลือเก็บบ้าง
ส่วน “ผู้ซื้อ” ได้ต่อยอดศักยภาพโรงแรมก้าวสู่เทรนด์ใหม่ ๆ หลังโควิด
นายธรรมจักร เหลืองประเสริฐ ซีอีโอ บริษัท อาจารย์ณา แอสเซท แมเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์โดยรวมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กลุ่มธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยมีการเปลี่ยนมือกันไปบ้างแล้ว โดยมี “ผู้ซื้อ” 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรก คนไทยที่มีเงินเย็นอยู่ในมือจำนวนมาก กลุ่มที่สอง นักลงทุนต่างชาติ ส่วนโรงแรมที่เสนอขายมีทั้งใน ภูเก็ต กรุงเทพฯ กระจายการขายผ่านกลุ่มตัวแทนต่าง ๆ ที่น่าสนใจคือตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ได้อยู่ในจุดต่ำสุด ทำให้นักลงทุนจึงรอจังหวะและโอกาสเข้าซื้อต่อไป
ขณะที่ “ผู้ขาย” แบ่งเป็น กลุ่มแรก ทำธุรกิจมานานแล้วเบื่อจะดูแลกิจการต่อไป กลุ่มที่ 2 ภาวะจำเป็นทางเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตอาจจะไม่สามารถพยุงกิจการไว้ได้ ปล่อยขายให้กลุ่มทุนอื่นอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
ปัจจัยหลักคือ “ราคาซื้อขายโรงแรม”
เพราะทาง “กลุ่มผู้ซื้อ” เองก็ต้องการได้ราคาถูก
เพราะเมื่อซื้อแล้วจะต้องรอเวลาให้การท่องเที่ยวฟื้นกลับมาต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า
1 ปี
จึงต้องบริหารเงินลงทุนอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันทางฝั่ง “เจ้าของโรงแรม”
อาจจะยังทำไม่ได้ เช่น โรงแรมเคยมีมูลค่าการขาย 100ล้านบาท
แต่ตอนนี้อาจจะลดค่าเหลือประมาณ 80 ล้านบาท
ตลอดวิกฤตโควิด-19 สถานการณ์ของธุรกิจโรงแรมเมืองไทยยังไม่ได้ถือว่าลงไปต่ำสุดจนถึงก้นเหว จึงทำให้ยอดการเปลี่ยนมือซื้อขายโรงแรมไม่หวือหวา เพียงแต่ยังคงบอกขายกันตามปกติ อีกทั้ง “นักลงทุน” ยังคงรอเวลาและรอเลือกทำเลที่ต้องการ ซึ่งมีอย่างหลากหลาย เพราะสามารถเลือกได้ทั้งการเข้าซื้อโรงแรมในประเทศต่าง ๆ หรือหากเลือกไทย ก็มีทำเล กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา หัวหิน เชียงใหม่
ตอนนี้มีอยู่หลายเคสที่กำลังเปลี่ยนมือโรงแรม มูลค่าตลอดปี 2564 ช่วงวิกฤตโควิดมูลค่าการขายโรงแรมขนาดเล็กอาจจะถึงหลักเกินพันล้านบาทขึ้นไป
แต่ “จะขายได้ราคาดีขนาดไหน”
แบ่งธุรกิจโรงแรมในตลาดที่ต้องการเปลี่ยนมือตอนนี้ได้ 2 กลุ่ม
ได้แก่
กลุ่มแรก
โรงแรมระดับบนขึ้นไประดับ 4 ดาวพลัสขึ้นไป
ราคาจะขึ้นอยู่กับ Location
&Destination นั่นคือ “ทำเลที่ตั้ง” กับพื้นที่
“จุดหมายปลายทาง” อยู่ในเขตเมืองท่องเที่ยวหรือธุรกิจหรือไม่ และ2.จำนวนห้องพัก
กลุ่มนี้มีมูลค่าการขายสูงแต่ละแห่งมูลค่ากอาจจะเป็นหลัก 1,000 ล้านบาท/โครงการ
กลุ่มที่สอง โรงแรมระดับ 3 ดาวลงมา ได้รับความสนใจในสายตานักลงทุน เนื่องจากมีจำนวนห้องไม่มากหรือเป็นสตล์ “บูติกโฮเตล” ซื้อแล้วสามารถนำไปพัฒนาและให้บริการได้ง่ายและเร็วกว่า
ขณะนี้โรงแรมที่มีขนาดห้องพัก 200-300 ห้องขึ้นไป/โครงการ จะต้องเร่งปรับตัวการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนโรงแรมที่มีห้องจำนวนน้อยต่ำกว่า 100 ห้องลงมา การทำตลาดมีทางเลือกทำได้ง่ายกว่าโดยการหาลูกค้ากำลังซื้อระดับบนมาใช้บริการ
นายธรรมจักรกล่าวว่า “แรงจูงใจหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อหรือขาย” มี 3 ปัจจัยหลัก 1.จุดหมายปลายทางเป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา 2.ทำเลที่ตั้งของแต่ละโรงแรม มีศักยภาพมากน้อยเพียงใด บวกกับโรงแรมมีอนาคตขนาดไหน 3.ราคาสมเหตุสมผลเพียงใด ซึ่งเป็นโจทย์ยากสุดที่จะทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายพึงพอใจ
สำหรับกลุ่มโรงแรมที่ปล่อยออกสู่ตลาดการขายโครงการได้ง่ายเป็นที่ต้องการของนักลงทุนขณะนี้ คือ “โรงแรม” ที่ตั้งราคาขายทั้งโครงการ “ต่ำกว่าพันล้านบาท”
ตอนนี้ “ภาคอีสาน” น่าจะเป็นภาคที่ขายกิจการโรงแรมได้ยากที่สุด เพราะโอกาสทางการท่องเที่ยวน้อยกว่าภาคอื่น ๆ รองลงมาคือ “ภาคเหนือ” จะมีเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น เช่น เชียงใหม่ มีหลายแห่งอยู่ในทำเลที่ได้รับความสนใจ แต่ก็มีข้อพิจารณาประกอบอื่นอีกหลายอย่าง เช่น โรงแรมที่จะขายเหล่านั้น “ตรงใจนักลงทุน” หรือเปล่า ? เพราะนักลงทุนบางคนมีกลยุทธ์ต้องการมองหาโรงแรมที่ตอบสนองลูกค้ากลุ่มเฉพาะ (niche market) จำนวนห้องพักไม่มาก มีวัตถุประสงค์ต้องการพัฒนาธุรกิจที่อาจจะไม่ใช่โรงแรมร้อยเปอร์เซนต์
ส่วนเป้าหมายของนักลงทุนที่เคลื่อนไหวอยู่ในตลาดซื้อขายขณะนี้ ยังค่อนข้างมองยากว่าซื้อไปพัฒนาเป็นธุรกิจที่มากกว่าโรงแรมหรือไม่นั้น ช่วงต้นปี 2565 น่าจะได้เห็นเทรนด์การธุรกิจโรงแรมที่ถูกนักลงทุนซื้อไปเปลี่ยนแปลงสู่ “เทรนด์ใหม่” อย่างแน่นอน
นายธรรมจักรกล่าวว่า ในฐานะซีอีโอบริษัทตัวแทนซื้อขายโรงแรมในไทย มีข้อแนะนำเจ้าของกิจการ 1.ต้องพยายามหาแหล่งเงินมาพยุงกิจการให้รอดวิกฤตช่วง โดยมีใจจะทำธุรกิจต่อไป 2.กลุ่มที่ทำกิจการมานาน 20 ปีขึ้นไป ไม่มีทายาทสานต่อ หาแหล่งเงินทุนไม่ได้ แนะนำให้เลิกกิจการได้ด้วยการขายให้นักลงทุนรายอื่น แต่การเปลี่ยนมือควรจะมีเงินเหลือไว้ใช้บ้าง โดยแนะนำให้ผู้ขายเลือกขายนักลงทุนคนไทยด้วยกัน ส่วนผู้ซื้อพูดได้แต่เพียง “อย่าไปกดราคา” ผู้ซื้อมากนัก ขอให้จ่ายในราคาแบบสมเหตุผล บวกกับแนะนำโอกาสที่จะนำโรงแรมที่ซื้อแล้วไปต่อยอดเรื่องศักยภาพให้ได้มากที่สุด เมื่อการท่องเที่ยวกลับมาธุรกิจก็จะยืนอยู่ได้
ประการสำคัญการทำอาชีพตัวแทนการให้คำปรึกษาซื้อขายเปลี่ยนมือโรงแรมของ
บริษัท อาจารย์ณา แอสเซท แมเนจเมนท์ คือ “สร้างความเป็นธรรมทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ”
เนื่องจากเป็นคนไทยเติบโตมากับธุรกิจโรงแรมค่อนข้างยาวนาน ทำทุกอย่างด้วยใจ
สร้างความโปร่งใส ทำให้เกิดราคาอย่างเหมาะสม
ก็จะทำให้ธุรกิจบริษัทที่ปรึกษาของเราเติบโตด้วยความสบายใจยืนอยู่ได้อย่างแข็งแรง
ทางบริษัทจึงยึดการขับเคลื่อนการเปลี่ยนมือโรงแรมให้เจ้าของกิจการและนายทุนใหม่ บนพื้นฐานของ
ควบคู่กัน 2 ส่วน
คือ
1.ดีลที่ยุติธรรม (fare deal) 2.ราคาสมเหตุผล
(reasonable prize) เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ผู้ซื้อเมื่อได้กิจการแล้วก็สามารถนำไปพัฒนาต่อได้
ส่วนผู้ขายเมื่อปล่อยกิจการออกไปแล้วก็สบายใจ ยังเหลือเงินส่วนหนึ่งไว้ชดเชยความเหนื่อยยากตลอดช่วงที่ผ่านมา
เป็นการทำธุรกิจสร้างจุดสมดุลโดยไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
ทางบริษัทอาจารย์ณาฯ
จะไม่ทำเด็ดขาดคือ กดราคาซื้อลงไปถูกสุด ๆ เพื่อให้ผู้ขายได้ประโยชน์อย่างเดียว
หรือทำราคาขายให้แพงสุดเพื่อให้ผู้ขายได้ประโยชน์แล้วปล่อยให้ผู้ซื้อไปตายเอาดาบหน้า
เพราะการทำเช่นนี้จะไม่เกิดความยั่งยืนกับทุก ๆ ฝ่าย
นายธรรมจักรกล่าวว่า ถึงแม้สถานการณ์วิกฤตจะส่งผลกระทบกับการเปลี่ยนมือธุรกิจโรงแรม แต่ในสนามแข่งขันของกลุ่มบริษัทที่หันมาเป็นผู้เล่นในตลาดที่ปรึกษาการซื้อขายโรงแรมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ อาจจะยังมี “จำนวนไม่มาก” เนื่องจากมีผู้ที่รู้ลึก รู้จริง อย่างลึกซึ้งในอุตสาหกรรมโรงแรมไม่ได้เยอะมาก
แล้วก็ขอฝากให้กลุ่มธุรกิจ
“สู้ต่อไปโดยใช้ทุกกลยุทธ์” เพื่อเอาตัวรอดประคองตัวไว้ให้ได้
ในภาวะที่ไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ ยกเว้น “สู้ไม่ไหวจริง”
ก็อย่าไปฝืนพยายามหาทางออกให้เหมาะสมกับแต่ละโรงแรมของตนเองให้ได้มากสุด
โดยยังคงมีความหวังอยู่เสมอว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันภายใต้ความอดทนและมีพลังในการต่อสู้ร่วมกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์พูลแมนจัดโปรห้องพักรายสัปดาห์5คืนจ่ายแค่5,999บาท
โรงแรมพูลแมน
คิง เพาเวอร์ เสนอแพ็คเกจห้องพักรายสัปดาห์ 5 คืน ราคารวมเริ่มต้นเพียง
5,999 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2564
ชวนมาเปลี่ยนห้องพักโรงแรมให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของแต่ละคน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบและฟรี
Wi-Fi ประกอบด้วย
1.ห้องพักซูพีเรีย32 ตารางเมตร สำหรับ 5 คืน ราคา 5,999 บาทสุทธิ 2.รวมอาหารเช้า1 คน ที่ห้องอาหาร ควิซีน อันปลั๊ก ชั้นล็อบบี้ คนที่ 2 จ่ายเพิ่ม
300 บาทสุทธิ 3.ฟรีอินเทอร์เน็ต Wi-Fi 4.เช็คอิน 14.00 น. และ
เช็คเอาท์ 12.00 น. 5.ซื้อชุดอาหารเพื่อสุขภาพ 3 คอร์ส
ราคาเริ่มต้น 800 บาทสุทธิ/คน
6.รับส่วนลด 50% ในการอัพเกรดห้องพักเป็นแบบดีลักซ์ เอ็กเซคคิวทีฟ หรือ ห้องสวีท 7.บริการรูมเซอร์ลด 20% และ 8.เลือกรับประทานอาหารในโรงแรมและบาร์ลดสูงสุด 40%
จองห้องพักได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โทร. 02 680 9999 หรืออีเมลล์ H6323-RE2@ACCOR.COM
ข่าวที่ 2 สั่งออนไลน์ได้เลย!!เมนูอร่อย4ห้องอาหารโรงแรมพูลแมนคิงเพาเวอร์
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบ “เดลิเวอรี” มีบริการส่งทุกที่กับอาหารจานโปรด ทั้งที่บ้านหรือที่ทำงาน สามารถเลือกสั่งได้สารพัดเมนู ทั้ง ขนมอบ พาสต้า พิซซ่า อาหารไทย อาหารนานาชาติ ข้าวกล่องญี่ปุ่น และเมนูโอมากาเสะใส่กล่องระดับพรีเมียม
เลือกและสั่งอาหารพร้อมชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ของโรงแรม หรือจ่ายผ่านแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี ได้แก่ โรบินฮู้ด (Robinhood) และ ไลน์แมน (LINE MAN )
รวมทั้งมีบริการอาหารใส่กล่องสั่งกลับบ้านหรือ “Takeaway” เลือกมารับด้วยตนเองได้ที่จุด Drive Thru ไม่ต้องลงจากรถ สะดวก ปลอดภัย สั่งอาหารออนไลน์ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 – 19.00 น. สอบถามหรือสั่งอาหารได้ที่โทร. 0 2680 9999
สามารถผ่านช่องทางสั่งออนไลน์ Takeaway l LINE MAN รับออร์เดอร์ทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 – 19.00 น. จากแต่ละห้องอาหารของโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้ดังนี้
1.ห้อง “เดอะ จังชั่น : THE JUNCTION” มีขนมอบจากเตา ราคาชิ้นละ 55 บาท กลิ่นหอมละมุน สดใหม่ เนื้อนุ่มหอมฉ่ำเนย พร้อมเสิร์ฟ 12 เมนู ได้แก่ ครัวซองต์เนย ครัวซองต์ช็อกโกแลต ครัวซองต์รัมเรซิ่น เดนิชอัลมอนด์ เดนิชชินนาม่อน เดนิชช็อกโกแลตคาราเมล เดนิชครีมชีส เดนิชแคนเบอร์รี่ เดนิชคาราเมลนัท เดนิชสับปะรด เดนิชบลูเบอร์รี่ และเดนิชราสเบอร์รี่
2.ห้อง “ครุยซีน อันปลั๊ก : CUISINE UNPLUGGED” เปิด 11.00 – 19.00 น. แนะนำเมนูพิซซ่าและพาสต้าโฮมเมด ราคาพิซซ่าเริ่มต้น 169 บาท/เมนู รังสรรค์จากแป้งนำเข้าจากอิตาลีบ่มนานถึง 72 ชั่วโมง เพื่อให้ได้พิซซ่ากรอบและหนึบ เสิร์ฟสดใหม่ทุกวัน มีให้เลือก 8 หน้า ได้แก่ มาร์เกริต้า ซีส ฮาวายเอี้ยน พาร์ม่าแฮม ไก่ติกก้า ซีฟู้ด แซลมอนรมควัน และปูอัด ส่วนพาสต้าอีก 4 เมนูได้แก่ เพนน่าอาราเบียตต้า สปาเกตตี้โบโลเนส สปาเก็ตตี้ซีฟู้ดกับซอสมะเขือเทศ และพาสต้าโอลิโอ้ รวมทั้งมีอาหารไทย ต้มข่าไก่เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องดื่มด้วย
3.ห้อง “เท็นชิโน : TENSHINO” เปิด 11.00 – 19.00 น. เติมความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ได้ที่บ้านกับเมนูข้าวกล่องญี่ปุ่นหรือดงบุริ ราคาเริ่มต้น 190 บาท/เมนู เลือกได้ 8 หน้า ได้แก่ กุ้งทอด ปลาไหลย่าง สเต๊กเนื้อ หมูย่างมิโสะ หมูอิเบริโค ปลาแซลมอนย่างเกลือ แซลมอนย่างเทอริยากิ ไก่ย่าง และสลัดซีฟู้ด
5.ห้อง “เท็นโกะ :TENKO” ความอร่อยระดับพรีเมียมส่งตรงถึงบ้าน ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท/กล่อง เสิร์ฟแบบจัดเต็มถึงบ้าน ให้ผู้ที่ชื่นชอบรับประทานโอมากาเสะ “Omakase Box” ได้คัดวัตถุดิบคุณภาพสูง อาทิ นิกิริซูชิแบบดั้งเดิมกับเนื้อปลาสดใหม่ “เชฟ โกจิ โคบายาชิ” ผู้เคยร่วมงานที่ Wako ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ในเมืองซานฟรานซิสโก ภูมิใจนำเสนอ 3 เมนู ได้แก่ Bara Chirashi, Omakase Chirashi และ Premium Sushi Set
สั่งจอง
Omakase Box ล่วงหน้าอย่างน้อย 1
วัน ทางโรงแรมเปิดบริการเฉพาะวันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ เวลา 11.00 – 19.00 น.
ข่าวที่ 3 ททท.เปิด6จุดอะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิมรอนักท่องเที่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ
ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ระหว่างรอโควิด-19 คลี่คลาย
ททท.ภาคกลางมีสถานที่มาแนะนำนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติวางแผนล่วงหน้า
เมื่อโควิดจางหายชวนกันไปขับรถชมทิวทัศน์และขุนเขาเขียวขจี ไปดื่มด่ำน้ำตกสวย ๆ ในอำเภอแก่งคอย
จังหวัดสระบุรี กับธรรมชาติมุมใหม่ อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิมไฮไลต์ 6 จุด คือ
จุดที่
1 บีบีจี บ้านริมธาร โฮมสเตย์ ที่พักท่ามกลางธรรมชาติ
เงียบสงบ เหมาะจะไปนอนฟังเสียงนก และการพลิ้วไหวของต้นไม้ใบหญ้า เสียงธารน้ำไหล
ซึ่งสามารถเล่นน้ำได้
จุดที่
2
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า สูดโอโซนธรรมชาติให้เต็มปอดท่ามกลางพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์กว่า
13,000 ไร่
จุดที่
3 น้ำตกเจ็ดคด เขตรอยต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีน้ำตกเล็ก-ใหญ่ซ่อนตัวอยู่มากมาย
สามารถใช้เวลา 40 นาที เดินเล่นศึกษาธรรมชาติบริเวณทางเข้าน้ำตก
พอไปถึงก็ลงเล่นน้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจ
จุดที่
4 น้ำตกโกรกอีดก สูง8 ชั้น
งดงามดั่งภาพวาด เดินเท้าชมธรรมชาติ ไป-กลับตามระยะทาง 8
กิโลเมตร
จุดที่
5 วัดป่าสว่างบุญ แวะสักการะ “พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ”
หรือคนส่วนใหญ่เรียกว่า พระมหาเจดีย์ 500 ยอด
จุดที่
6 “แอนติกา คาเฟ่ :Antika cafe' มีมุมผ่อนคลายในอ้อมกอดธรรมชาติ
ตกแต่งด้วยไม้สบายตา ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะไปนั่งทอดอารมณ์จิบเครื่องดื่มคู่ขนมหวานหลากหลายเมนู
ข่าวที่ 4 รมว.พิพัฒน์เร่งททท.ชงศบค.เพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ใหม่2ภาค7จังหวัด
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มอบนโยบายให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมเสนอแผนเปิดพื้นที่นำร่องใหม่ในระบบแซนด์บ็อกซ์รับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มเติมให้ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) พิจารณาภายเปิดได้ภายในเดือนตุลาคม 2564 อีก 2 ภาค 7 จังหวัด คือ ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ตราด ระยอง จันทบุรี เริ่มจากพื้นที่เกาะก่อนอันดับแรก เช่น เกาะช้าง เกาะกูด เกาะมันนอก จ.ตราด เกาะเสม็ด จ.ระยอง และ ภาคอีสาน 4 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย และบึงกาฬ
พื้นที่เปิดนำร่องใหม่ที่จะเสนอ
ศบค.จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเช่นเดียวกันกับพื้นที่แซนด์บ็อกซ์อื่น
ๆ คือ
1.ประชากรในพื้นที่ต้องฉีดวัคซีนครบเรียบร้อยลไม่น้อยกว่า 70%
2.จำนวนการติดเชื้อในพื้นที่ต้องกำหนดเกณฑ์ชัดเจน โดยผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดกับสาธารณสุขจังหวัดต้องทำมาตรการและแนวทางปฏิบัติ (SOP) ตามความพร้อมของพื้นที่ตนเองซึ่ง SOP บางพื้นที่อาจแตกต่างกัน
โดยก่อนหน้านี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ ททท.เคยเสนอ ศบค.และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติพร้อมมีประกาศเป็นทางการไปแล้วถึงการเปิดพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด แล้วมาเหลือ 9 จังหวัด เพราะล่าตัดบุรีรัมย์ออกเนื่องจากเลื่อนจัดแข่งขันโมโตจีพี
ส่วนที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัวอยู่ขณะนี้มี 1.ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เริ่ม 1 ก.ค. 2.สมุยพลัสโมเดล เริ่ม 15 ก.ค. 2564
3.เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงจากภูเก็ตกับอีก 3 จังหวัด รวม 9 แห่ง ตามสูตรขยายการเดินทาง 7+7 หรือ 7+7 Phuket Extension เริ่ม 15 ส.ค.2564 นักท่องเที่ยวอยู่ภูเก็ต 7 วัน หลังจากนั้นไปเที่ยวต่อยังพื้นที่กำหนดได้ 7 วัน ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน จ.กระบี่ ที่ เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ จ.พังงา ที่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่
รมว.พิพัฒน์กล่าวว่า มั่นใจแนวโน้มรัฐบาลไทยจะกระจายฉีดวัคซีนได้ตามเป้าหมาย หลังนายกรัฐมนตรีเจรจากับทางผู้บริหารวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้าส่งมอบได้แล้ว 61 ล้านโดส ควบคู่การเดินหน้าจัดหาให้ครบ 120 ล้านโดส เพื่อกระจายวัคซีนถึงประชาชนขานรับนโยบายเปิดประเทศ โดยมีเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ เตรียมเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่ 5 “TCEB”รุกนวัตกรรมไมซ์ปี65“โดเมสติก2Go-อินเตอร์ BestAlliances”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดทำมาตรฐานแนวทางปฏิบัติการจัดงาน เสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) เตรียมปลดล็อกอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อเตรียมสร้างรายได้กระจายการจัดงานสู่ภูมิภาค Regional Economy ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ โดยเน้นการทำแผนฟื้นฟูตลาดให้กลับมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีบวกกับไฮบริดออนไลน์ผ่านแคมเปญต่าง ๆ ช่วยเหลือผู้ประกอบการกระตุ้นจัดงานไมซ์ในประเทศฟื้นอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย การฟื้นฟูไมซ์ตามแผนการตลาดดังนี้
“ตลาดในประเทศ” จัดทำ
2
แคมเปญหลัก ได้แก่ แคมเปญแรก “ทั่วไทยภูมิใจช่วยชาติ :Domestic Convention Recovery
Campaign”
นำไฮบริดเทคโนโลยีออนไลน์เข้ามาใช้ ทีเส็บจะสนับสนุนโดยเฉพาะการจัดแสดงสินค้าหรือ Exihibitionสร้างรายได้ปีละ
3
แสนล้านบาท MPower แบ่งเป็น
2 ส่วน 1.ขนาด S & M
ขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นไฮบริดเข้ามาด้วยกัน เน้นให้ภูมิภาคลุกขึ้นมาจัด
สนับสนุนค่าเช่าฮอล์ การก่อสร้าง สนับสนุนจัดเอ็กซิบิชั่น
แคมเปญที่สอง “2(ทู) GO CAMPAIGN” จัดงานประชุมทั่วไทยปลอดภัย พร้อมก้าวไกลสู่สากล กระตุ้นการใช้ 2 Go คือ
1.Go Hybrid Campaign ประชุมปลอดภัยได้ทุกสถานการณ์ โดยใช้เงินอุดหนุนให้ผู้ประกอบการจัดงานได้ในสถานการณ์โควิด วงเงิน 100,000 บาท/งาน จัดงานแบบ O2O
2.Go Global Campaign พัฒนาชาติด้วยเครือข่ายทุนทางปัญญาระดับสากล สนับสนุนงานที่สามารถสร้างเครือข่ายผู้เข้าร่วมงานจาก 3 ประเทศขึ้นไป มีผู้ร่วมงานไม่น้อยกว่า 30 คน ทีเส็บพร้อมจะสนับสนุนเงินอุดหนุนเครือข่ายดังกล่าว 30,000 บาท/งาน
ส่วน
“ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”เฟส 2 ได้ขยายเวลาขอสนับสนุนไปถึงสิ้นปีนี้
31 ธันวาคม
2564
พร้อมกับปรับเงื่อนไขรูปแบบการจัดงาน
โดยสามารถจัดภายในจังหวัดแล้วสามารถขอเงินสนับสนุนจากทีเส็บได้
ต่างจากเดิมกำหนดให้จัดนอกพื้นที่จึงจะได้เงินสนับสนุน เป็นการทำต่อเนื่องจาก
เฟสแรกที่มีคนเข้าร่วมกว่า 1,000 กลุ่ม มีผู้จัดงานไมซ์ทั่วประเทศกว่า 60,000 คน
ส่วนเฟส 2
ขณะที่
“ตลาดต่างประเทศ” กำลังเตรียมต้อนรับตลาดกลุ่มอินเซนทีฟจากอิสราเอล 2
กลุ่มแรก ช่วงตุลาคม 2564
และมกราคม 2565
“ทีเส็บ”
ต้องการตอกย้ำถึงศักยภาพ MICE
CITY 10 เมือง ข้อดืคือ
กระจายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
ดึงงานระดับโลกมากระจายจัดให้เกิด Regional Economy เป็นการสร้าง Build and Develop ทีเส็บพัฒนาศักยภาพของเมือง
สร้างเมืองคุณภาพรองรับงานต่าง ๆ ผลิตคน และให้การสนับสนุนจัดงาน ผู้ประมูลชิงงานมาจัดในไทย
หรือการประมูลนำ Specialize
World Expo มาจัดที่ภูเก็ต
ไฮไลต์คือ BEST ALLIANCES CAMPAIGN : รวมพลังพันธมิตรร่วมใจช่วยชาติ ในลักษณะ One Community ที่จะจัดทำร่วมกัน โดยมีทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าต่างประเทศ สมาคมการจัดการของประเทศไทย สมาคมพีแม็ก
ทางทีเส็บเตรียมจัดสัมมนารายการใหญ่ งานแรก วันที่ 9 เดือน 9 ทางรอดของวิกฤต โดยมี ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาล ขึ้นเวทีปาฐกถา งานที่ 2 จัดกิจกรรม THAI MICE CONNECT สร้างเส้นทางใหม่ทั่วประเทศ เชิญชวนให้คนเข้าร่วมแข่งขันกว่า 100 ราย จะเปิดให้เข้าร่วมได้ในวันที่ 15 กันยายน 2564 และ งานที่ 3 WINNOVATION TECNO MART วันที่ 21 กันยายน 2564
ช่วงที่ 2 แจกแผนที่เส้นทางเที่ยว “นครพนม-มุกดาหาร” เสพธรรมชาติริมโขง 2 วัน 1 คืน อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
กับแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ร้านอาหารถิ่น คาเฟ่เก๋ ๆ แล้วรอฟัง “5วิธีดูแลรักษาสายตาที่ดี” ไว้ใช้แบบยาว ๆ ห้ามพลาดข่าวฮ็อตท้ายชั่วโมง “AWC” เงินเหลือเพียบผนึกยักษ์โลกไอเอชจีเปิดโรงแรมหรู “เดอะวีคแยทท์ พัทยา”
แห่งแรกในเอเชียปี’67 ส่วน “วี วิลล่าภูเก็ต”
เงินหนาทุ่มสร้างวิลล่าหรู “เอ็มแกลเลอรี่” 19 หลัง
อัดโปรพักระยะยาวลด 30 % และ “โอเชียน ปาร์ค ฮ่องกง”
คืนชีพเร่งปรับโฉมใหม่รับคนเมืองดึงนักท่องเที่ยวทั่วเอเชีย
เที่ยว“นครพนม-มุกดาหาร”ริมโขงธรรมชาติชีลกินฟินเมนูถิ่นที่พักชิคๆ
คิดถึงเสน่ห์ริมฝั่งโขง วิถีชีวิตผู้คน และวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล จนอยากกลับไปเยือนอีกครั้งเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีแผนที่ชวนเตรียมตัวออกเที่ยว ด้วยการเติมความสุข และเรื่องราวอันหลากหลายจากมากมายสถานที่ และอิ่มเอมกับเมนูอาหารถิ่นริมโขงที่ “นครพนม – มุกดาหาร” 2 วัน 1 คืน
“วันแรก” ปักหมุดแวะเที่ยวแวะกินแวะพัก “วัดสองคอน” ชมโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
สร้างเป็นอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติบุญราศี 7 ท่าน
ได้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า ไฮไลต์ต้องห้ามพลาดชมคือ “สถาปัตยกรรม”
อันงดงาม ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมป์เมื่อปี
2539
“แก่งกะเบา” พักผ่อนริมแม่น้ำโขง บริเวณแลนด์มาร์กสำคัญคือประติมากรรมปูนปั้นเกล็ดหินอ่อนของ
“พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” สุดอลังการ
“พระธาตุพนม”
พระอารามหลวงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพระธาตุประจำวันเกิดคนวันอาทิตย์ และมีความเชื่อเรื่องการขอ
"ลูก" ที่ทำให้ครอบครัวหลายคู่สมหวังมาแล้ว
ส่วนสถานที่กิน !! ต้องที่ “เตี๋ยวเต็มโต๊ะ” ร้านอร่อยย่านถนนคนเดิน
ตกแต่งแบบย้อนยุคสไตล์อีสาน มีเมนูเด็ดต้องสั่งมาชิมคือ
"ก๋วยเตี๋ยวชาบู" แซบเวอร์จริง ๆ
เช็คอิน “ที่พัก" ต้องลอง“เดอะ ริเวอร์ โฮเต็ล” โ รงแรมโรแมนติกริมแม่น้ำสไตล์โมเดิร์น สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย ครบจบที่เดียว
“วันที่สอง”
ตลุยเที่ยวต่อ เริ่มจากหาประสบการณ์ชิมอาหารเช้าแบบท้องถิ่นที่ “กูบาเฮาส์” ร้านสไตล์ไทย-เวียดนาม ลองสักครั้งไม่เสียหลาย
เดินทางต่อไปชมประวัติศาสตร์ “บ้านลุงโฮจิมินห์” อดีตผู้นำเวียดนาม ที่นี่มีชุดเวียดนามให้นักท่องเที่ยวเช่าชุดสวมใส่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเก๋
ๆ ได้ด้วย
เลี้ยวมาที่ “76 A The Space” ร้านกาแฟสุดชิคสไตล์ลอฟท์ ตามผนังมีภาพวาดน่ารัก ๆ เหมาะกับการพักผ่อนชีล ๆ เปลี่ยนร้านกาแฟให้สถานที่ทำงานได้เลย
อย่าลืม!! เรามีนัดหลังโควิดไปเติมความสุข
กินของอร่อย ที่นครพนม-มุกดาหาร ลองสัก 2 วัน 1 คืน ถ้าติดใจพักผ่อนอยู่แบบได้เลย เพราะเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
ทุกที่ ทุกเวลา
5วิธีแนะนำการดูแลรักษาสายตาเพื่อการมองเห็นที่ดีไว้ใช้งานได้ยาว
มีงานวิจัยพบว่าช่วงโควิดระบาดคนส่วนใหญ่ใช้สายตาหนักมากขึ้น ดังนั้นการรับประทานอาหารอย่างเดียวอาจไม่พอจะบำรุงสายตา จึงควรหันมาใส่ใจลดอาการ
ตาแห้งน้อยลง ไม่ปวดตา ไม่ปวดหัว และยังช่วยให้สุขภาพตาเสื่อมช้าลงอีกด้วย
1.พักสายตาบ่อย ๆ สถาบันจักษุวิทยา American Academy of Ophthalmology
แนะนำให้ปฏิบัติตามกฎ “20-20-20” เพื่อบรรเทาอาการเมื่อยล้าของดวงตา
หากจ้องหน้าคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนเกือบทั้งวัน ให้พักสายตาทุก ๆ 20 นาที จากนั้นให้มองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต
เป็นเวลา 20 วินาที
วิธีนี้จะช่วยให้ดวงตาไม่ล้าจากการใช้งานมากเกินไป
2.กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตา กลุ่มที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินซี และวิตามินอี ได้แก่ อาหารจำพวกผักสีเขียว ปลาแซลมอน ไข่
และผลไม้รสเปรี้ยว
สารอาหารเหล่านี้อาจช่วยลดโอกาสในการพัฒนาความเสื่อมของจอประสาทตา หรือต้อกระจก
อาหารเพื่อสุขภาพยังลดโอกาสของโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการทำให้ตาบอดได้
3.สวมแว่นตากันแดดทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
การใช้แว่นกันแดดราคาถูกไม่ช่วยป้องกันรังสียูวีได้ 100% ลงทุนซื้อแว่นกันแดดที่เหมาะสมที่ช่วยปกป้องดวงตาของเราจากรังสียูวีของดวงอาทิตย์
การรับแสงยูวีมากเกินไปจะเพิ่มโอกาสในการเป็นต้อกระจกได้
ให้มองหาแว่นกันแดดที่มีการป้องกันรังวี UVA และ UVB
99-100%
4.ทิ้งเครื่องสำอางเก่า
ๆ
รู้หรือไม่ว่าแบคทีเรียเติบโตได้อย่างรวดเร็วหากใช้เครื่องสำอางเก่าที่มีอายุนานเกินไป
เปลี่ยนเครื่องสำอางทุก ๆ 3 เดือนเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อในดวงตา
อย่าใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น
และทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบก่อนทั้งก่อนและหลังแต่งหน้า
5.ตรวจสุขภาพดวงตาทุกปี ทุกคนควรได้รับการตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำ
จักษุแพทย์จะทำการตรวจโดยรวมเกี่ยวกับดวงตาของเรา การตรวจสุขภาพและประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคตา
เช่น โรคต้อหิน หรือการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา การตรวจวัดสายตา
การตรวจสอบจอประสาทตา
การทดสอบการหักเหของแสงเพื่อกำหนดความคมชัดในการมองเห็นระยะใกล้
ทุกคนที่มีอาการหรือประวัติครอบครัวเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตา โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูงควรมีการตรวจตาเป็นประจำ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “AWC”ผนึกIHGทุ่มลงทุนเดอะวีคแยทท์พัทยาแห่งแรกในไทยเปิดปี’67
นายราจิต สุขุมารัน กรรมการบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี ไอเอชจี โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ตส : IHG Hotels & Resorts เปิดเผยว่า ได้นำแบรนด์ใหม่มาเปิดตัวในเมืองไทยคือ “เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น แบรนด์ใหม่ภายใต้ คอลเล็คชั่น Luxury & Lifestyle โดยร่วมกับพันธมิตรผู้นำอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของประเทศไทย บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ถือเป็น 1 ใน 2 โรงแรมแห่งแรกของโลกที่กำลังเซ็นสัญญา จะเปิดตัวที่พัทยาช่วงต้นปี 2567 มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร โดยตั้งอยู่ในโครงการ อควอทีค (Aquatique) คอมเพล็กซ์
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า AWC เป็นกลุ่มแรกในเอเชียที่นำโรงแรมใหม่แบรนด์ "เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น" ของ IHG Hotels & Resorts เข้ามาบริหารจัดการโรงแรมที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น ในพัทยาเมืองชายทะเลที่มีชีวิตชีวา สดใส
ภายในโรงแรม เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็คชั่น ได้ออกแบบเป็นเอกลักษณ์มีสไตล์เฉพาะตัว ด้วยห้องพัก 234 ห้อง ร้านอาหาร รูฟท็อปบาร์ สระว่ายน้ำ สปา ห้องประชุมพื้นที่กว่า 670 ตารางเมตร พร้อมเป็นจุดหมายปลายทางชายหาดชั้นนำดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก เดินทางมาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษหลังโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน
สำหรับ “โครงการ อควอทีค” เป็นคอมเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์และความบันเทิงแห่งแรกในพัทยา นอกจาก เดอะ วีนแยทท์ คอลเลคชั่น แล้ว ยังมีอีกหนึ่งโรงแรมเซ็นสัญญาภายใต้แบรนด์ใหม่คือ “Hotel X” โรงแรมระดับห้าดาว มีร้านอาหารและศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ ใจกลาง Fortitude Valley ในเมืองบริสเบน ออสเตรเลีย รวมอยู่ด้วย
ข่าวที่สอง “วีวิลล่าภูเก็ต”เปิดใหม่เอ็มแกลเลอรี่19หลังจัดโปรพักยาวลด30%
วี วิลล่า ภูเก็ต รายงานว่า ได้เปิดตัว “เอ็มแกลเลอรี่” คอลเลคชั่นการที่พักผ่อนแห่งใหม่ในภูเก็ตเป็นรีสอร์ทพูลวิลล่า 19 หลัง มีให้เลือกทั้งแบบ 1, 3 และ 4 ห้องนอน โดยมีห้องอาหาร บาร์ และสปาที่เสมือนลอยอยู่กลางต้นไม้ กลมกลืนไปกับเนินเขา และเชื่อมต่อกับพื้นที่กลางแจ้งได้อย่างลงตัว วัสดุธรรมชาติ งานดีไซน์ที่สั่งทำพิเศษ และผลงานศิลปะสไตล์ท้องถิ่นถูกนำมาใช้ในการตกแต่งเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่น่าจดจำ
ช่วงเปิดตัวมีโปรโมชั่นแนะนำ “เอ็มแกลเลอรี”ด้วยส่วนลดสูงสุด 30% เมื่อจองใช้แพ็คเกจเข้าพักระยะยาว 1.เข้าพัก 7 คืน ลด 20% 2.เข้าพัก 10 คืน ลด 25% 3.เข้าพัก 14 คืน ลด 30%
แพกเกจดังกล่าวรวม ห้องพัก อาหารเช้า และหากพัก 14 คืน รับเพิ่มสปาทรีทเมนท์ 7 ชั่วโมง พัก 30 คืน ฟรีสปาทรีทเมนท์ 14 ชั่วโมง บริการรับส่งสนามบิน มินิบาร์ไม่รวมแอลกอฮอล์ และอาหารและสปา ส่วนลด 20% สำรองห้องพักหรือสอบถามแพกเกจโปรโมชั่นได้ที่ โทร 076 630 939
สำหรับ
“วิลลา เอ็มแกลอรี่” แต่ละหลังตกแต่งอย่างมีเสน่ห์ด้วยโทนสีธรรมชาติ
หน้าต่างสูงโปร่ง
และชานไม้ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อพื้นที่ภายในเข้ากับภายนอกอย่างลงตัวทำให้สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
นักเดินทาง ครอบครัวและคู่รักสามารถเพลินเพลินไปกับห้องนอนขนาดกว้างขวาง
ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำสปาแบบคู่ สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ส่วนตัว
และบริการผู้ช่วยส่วนตัวหรือบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่สาม โอเชียนปาร์คฮ่องกงลุกปรับโฉมรับคนเมืองปลุกนักท่องเที่ยวครั้งใหม่
นายเลา หมิง เหว่ย (Lau Ming-wai) ประธานโอเชียน ปาร์ค คอร์ปอเรชั่น ฮ่องกง เปิดเผยว่า ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังโอเชียน ปาร์ค ทางตอนใต้ของเกาะฮ่องกง ให้กลายเป็นไข่มุกแห่งใหม่ที่พร้อมกลับมาเป็นแม่เหล็กดึงดูดรายได้จากการท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยได้จับมือกับรัฐบาลเดินหน้าพัฒนาโครงการตั้งแต่มกราคม 2564 เน้นการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ความยั่งยืน เช่น การอนุรักษ์น้ำ การจัดการของเสียและการรีไซเคิล กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และอื่นๆ
โอเชียน ปาร์ค โฉมใหม่ มีพื้นที่ให้บริการรวมประมาณ 376,000 ตร.ม. ประกอบด้วย 1ร้านค้าปลีก 2.โซนร้านอาหารและความบันเทิง (RDE) 3.โซนสวนสาธารณะ 89,000 ตรม. 4.โซนผจญภัย ประมาณ 125,000 ตรม. 5.สุขภาพโซน 162,000 ตรม.
ผลจากการทำแบบสอบถาม ได้รับคำตอบแบบสอบถามสามารถส่งความสนใจให้เดินหน้าพัฒนาโซนหลักคือ Adventure and Wellness ซึ่งในโซนสุขภาพจะเป็นที่แรกคือส่วนใต้สุดของอุทยาน ส่วนแรก บริเวณชั้นบนปัจจุบันมีเครื่องเล่นหวาดเสียวอยู่ และส่วนที่สองคือพื้นที่ติดกันทางฝั่งตะวันตกของวอเตอร์เวิลด์แห่งใหม่ Wellness Zone จะมอบประสบการณ์ที่แท้จริงและดื่มด่ำที่ส่งเสริมมิติที่แตกต่างกันของสุขภาพและเป็นหนทางหลีกหนีจากชีวิตประจำวันในเมือง
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น