ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เปิดใจ ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผอ.สถาบันอาหารคนใหม่2567


ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ 
ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร


 เปิดใจ“ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์”ผอ.ใหม่สถาบันอาหาร

ตั้งศูนย์ฮาลาลแห่งชาติ-ลุยซอฟท์เพาเวอร์3โปรเจกต์

ปี67โหมจัด2บิ๊กอีเวนต์“FutureFood-Halal Gastronomy

โชว์พาสปอร์ตไทยช้อปคิงเพาเวอร์4สนามบินลดทันที

คิงเพาเวอร์ผนึกEsteeแจก2ต่อที่สุวรรณภูมิ/ดอนเมือง

สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับ2ต่อ/3.5หมื่นบินฟรีฮ่องกง

สุดาวรรณชู7นโยบายดึงกีฬาช่วยท่องเที่ยวโกย3.5ล้าน

บางจากแจก3คุ้มสมาชิกกรีนไมล์รับด่วนถึง29ก.พ.67

สุขทันทีเที่ยวใต้14เส้นทางไฮไลต์ “ยะลา/นรา/ปัตตานี”

กินน้ำผลไม้ปั่น“ประโยชน์-เคล็ดลับเลือก-ข้อควรระวัง”

“บิ๊กหิน”ประธานบอร์ดAOTลั่นทำ6สนามบินดีสุดในโลก

ด่วน!ญี่ปุ่นเริ่มเช็คอินนอกสนามบินคันไซรับเอ็กซโป’68

 

วันเสาร์ที่ 20 มกราคม  2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #สถาบันอาหาร  #Ufi #ศุภวรรณตีระรัตน์

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/pH1z2ybYgG/?mibextid=UyTHkb



 

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (Ufi) เปิดแผนนำอุตสาหกรรมอาหารผงาดในตลาดโลก ปี67 งบกว่า 1,200 ล้านบาท นำร่องขับเคลื่อน 2 โปรเจกต์ ใช้งบกลาง 100 ล้าน ตั้งศูนย์ฮาลาลแห่งชาติ ตามด้วย “ซอฟท์ เพาเวอร์” เปิดโมเดล 3  โครงการ “ผลิต 1 เชฟ 1 หมู่บ้าน” หมื่นราย ดันแพลตฟอร์ม “Thai Food Chanel” นำ SMEs รุกตลาดอินเตอร์ ปั้น “ร้านอาหารชุมชน” 100 ร้าน ต่อยอดส่งออกวัตถุดิบท้องถิ่น ดึงนักท่องเที่ยวในและต่างประเทศ ปี67 ชิมลางจัด 2 บิ๊กอีเวนต์ “Future Food” กับ “Halal Gastronomy

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร (Ufi) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำคนใหม่เตรียมเดินหน้าองค์กรสถาบันมูลนิธิอุตสาหกรรมที่ก่อตั้งกว่า 30 ปี สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวมอยู่ในเครือข่าย 11 อุตสาหกรรมเป้าหมาย  บทบาทโดยตรงต้องส่งเสริมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านอาหารทั้งห่วงโซ่อุปสงค์ อุปทาน หรือ Value Chain ตั้งแต่ “ต้นน้ำ” ด้านการเกษตรในฐานะผู้ผลิต “กลางน้ำ” ทำการตลาดให้ผู้ประกอบการ “ปลายน้ำ” นำผลผลิตสู่ผู้บริโภค รวมทั้งเชื่อมโยงตลาดระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อทั้งผู้บริโภคและคู่ค้าทางธุรกิจ เป็น One Stop Service หากมีผู้สนใจจะแหล่งข้อมูล โรงงานนำร่องต้นแบบ หรือ Pilot Plant เครื่องจักร 

แล้วก็ยังมี “LAB-ห้องตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานสินค้า” เพื่อขอฉลากจากองค์การอาหารและยา แล้วยังมีศูนย์นวัตกรรมอาหาร เป็นความร่วมมือกับทางมิเอะ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ สามารถผลิตอาหารแปรรูปใหม่ ๆ สู่ท้องตลาด ล่าสุดมีสินค้าใหม่ได้แก่  ข้าวพอง กับกระเพาะปลาน้ำแดง

 


ส่วนใหญ่จะมีคนนิยมมาใช้ข้อมูล โดยมีศูนย์บริการข้อมูลครบวงจรที่ทำงานร่วมกับพันธมิตรหลากหลายเครือข่าย สำคัญสุดหากผู้ประกอบการขาดความรู้ทางเทคโนโลยีก็สามารถทำหน้าที่เจรจากับคู่ธุรกิจ หรือ Business Matching ให้ได้ รวมทั้งช่วยทางด้านการใช้กฎระเบียบต่าง ๆ ในเวทีต่างประเทศ และในเมืองไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นบริการเพียงแห่งเดียวที่เรียกกันว่า “สถาบันอาหารแห่งชาติ” ดูแลครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง

จึงมีส่วนสำคัญด้านการขับเคลื่อนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม SMEs อุตสาหกรรมอาหารทั่วประเทศไทยมีอยู่ 1 แสนราย มีบางส่วนเป็นสมาชิกของสถาบันอาหาร จำเป็นจะต้องพัฒนาก้าวไปสู่ตลาดโลกอาหารยุคอนาคตใหม่ หรือ Future Food เป็นเทรนด์หรือแนวโน้มของโลก ขณะนี้ไทยมีคนรุ่นใหม่ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารสุขภาพเป็นจำนวนมากซึ่งอยู่ในกลุ่มอาหารอนาคต ทั้ง วีแกน Functional food แปรรูปทำเป็นเมดิคัล หรือ Personal life food ต่อเนื่องถึงสิ่งที่กำลังพุ่งเป้าหมายทำอย่างเต็มที่อีกอย่างคือ “อาหารฮาลาล” ค่อนข้างมาก คนที่รักสุขภาพในไทยและทั่วโลกต้องการบริโภคมากขึ้น

ตามที่รัฐบาลไทยมีนโยบายปี 2567 เป็นต้นไป มอบหมายให้สถาบันอาหารรับผิดชอบการขับเคลื่อนการก่อตั้ง “ศูนย์ฮาลาลแห่งชาติ” ดูแลและเป็นพี่เลี้ยงก่อนจะจัดตั้งแล้วขยายเครือข่ายไปสู่ด้านอื่น ๆ ต่อไป โดยจะนำร่องทำ 2 โครงการ ได้แก่

โครงการที่ 1 ศูนย์ฮาลาลแห่งชาติ เพื่อสร้างการรับรู้เป็นวงกว้าง การทำกิจกรรม และผลิตผู้ประกอบการอาหารมาตรฐานฮาลาลเพิ่มมากขึ้น โดยได้รับจัดสรรงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้กับภาคเอกชน จัดทำให้ครอบคลุมทั้งทางด้าน Safty and Security อาหารฮาลาลอย่างถูกต้อง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพของตลาดผู้บริโภคอย่างไรบ้าง ผนวกกับการพัฒนาสินค้ากับทำการตลาด

 

โครงการที่ 2 ซอฟท์ เพาเวอร์ กำลังรอนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แนวโน้มจะได้รับงบประมาณปีนี้ราว 600 ล้านบาท ผ่านทางกระทรวงอุตสาหกรรมส่งต่อมายังสถาบันอาหาร ขณะนี้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซอฟท์ เพาเวอร์ อย่างเป็นทางการรวม 11 สาขา โดยมี “สาขาอาหาร” รวมอยู่ด้วย ต้องการใช้ทุนทางวัฒนธรรมของไทยซึ่งมีเสน่ห์และอัตลักษณ์เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ซึ่งทางสถาบันอาหารได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานซอฟท์ เพาเวอร์ 3 โครงการ ประกอบด้วย

โครงการที่ 1 ผลิตเชฟอาหารไทยทั่วประเทศให้ได้ 10,000 ราย  ได้รับงบประมาณจากโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดรายได้อย่างแท้จริง พร้อมกับสร้างงานให้คนไทยในหมู่บ้าน ชุมชน ประชาชนที่สนใจทั่วประเทศ ทำหลักสูตรผลิตเชฟให้ได้ 10,000 คน โดยจะเปิดรับสมัครเรียนทฤษฎีผ่านช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ ฉนั้นผู้เรียนไม่เฉพาะคนในประเทศ คนไทยในต่างประเทศก็สามารถเรียนได้ด้วย เป็นโครงการทำร่วมกับทางเชฟชุมชน ประธานฝ่ายเอกชนด้านอาหาร เมื่อเรียนทฤษฎีเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบ เพื่อเรียนภาคปฏิบัติการทำอาหารไทยเต็มรูปแบบ   โดยจะต้องสอบผ่านคุณวุฒิสถาบันวิชาชีพกับแรงงานแห่งชาติ เมื่อได้รับใบประกาศนียบัตรรับรองครบตามขั้นตอน จากนั้นก็กระจายสู่อาชีพเชฟอาหารไทยทั้งในและต่างประเทศได้

 

โครงการที่ 2 Thai Food Chanel มุ่งสร้างแพลตฟอร์ม อี-คอมเมอร์ซ ให้ผู้ซื้อมาพบกับผู้ขายผ่านทางออนไลน์ สื่อสารผ่านโซเชียล มีเดีย จะเน้นเรื่องของ Super Food Super Products รวมเรื่องวิธีทำอาหาร เพื่อกระจายเชฟอาหารไทยผ่านออนไลน์มากขึ้น ต่อเนื่องถึงการทำตลาดต่างประเทศ นำเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งไม่มีแพลตฟอร์มทำตลาดก็จะได้รับการสนับสนุนไปร่วมโร้ดโชว์ เทรดโชว์ งานเกี่ยวกับอาหารในและต่างประเทศด้วย

 

โครงการที่ 3 ร้านอาหารเชฟชุมชน/อาหารถิ่น ตั้งเป้ายกระดับเชฟตามร้านอาหารตามหมู่บ้านและพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 100 ร้าน โดยจะพัฒนาทักษะด้านการปรุง การเสิร์ฟ ต่อยอดใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น เมื่อสถานที่ได้รับการยกระดับแล้วก็จะติดโลโก้ Chef Best เพื่อยืนยันเป็นร้านผ่านการประเมินยกระดับเรียบร้อยแล้ว เพื่อดึงดูดผู้คนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น จึงสามารถขยายฐานสินค้าในท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียงเข้าสู่ตลาดอาหารได้ด้วย

 

ผอ.ศุภวรรณ กล่าวว่า ทางสถาบันอาหารจัดทำแผนตามยุทธศาสตร์ ซอฟท์ เพาเวอร์ ไว้รองรับทั้ง 3 โครงการดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ปี 2567 ต่อเนื่องถึงปี 2568 ตอนนี้จะมีวงเงินเหลือใช้พัฒนาประมาณ 1,200 ล้านบาท เพราะหากโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะจัดสรรกระจายไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป เบื้องต้นทางสถาบันอาหารได้นำเสนองบประมาณปี 2568 เข้าไปด้วย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารในตลาดทั่วโลก ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา อิตาลี เมื่อมีผู้สนใจเข้าร้านอาหารแล้วก็จะขยายฐานซื้อวัตถุดิบอาหารพ่วงเข้าไปด้วย

 

ดังนั้นจึงสามารถเชื่อมโยงซอฟท์ เพาเวอร์ ทางด้านอาหารไทยกับตลาดนักท่องเที่ยวนานาชาติที่เดินทางเข้ามาเมืองไทยได้ด้วย สร้างเส้นทางหรือโปรแกรมของเชฟที่ได้พัฒนาปรัชญาวิถีชุมชน ทั้งร้านอาหารตำรับท้องถิ่น ชุมชน มาโฆษณาประชาสัมพันธ์ กับนำเสนอผ่านโครงการ Thai Food Chanel รวบรวมเมนูเด็ด ๆ ที่น่าสนใจ มีกลุ่ม Influencer มาสร้างแรงบรรดาลใจดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการร้านอาหารแต่ละแห่ง เช่นเดียวกับโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ หากมีผู้สนใจด้านอาหารทางสถาบันก็จะผลักดันเข้าสู่อาชีพ ส่วนใหญ่จากการทำสำรวจจะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ท้องถิ่นหรือจังหวัดของตนเองเป็นหลัก จึงเชื่อมโยงการฝึกงานหรือทำอาชีพในสถานประกอบการต่อไปได้

 

ผอ.ศุภวรรณ กล่าวว่า ปี 2567 สถาบันอาหารมีแผนจะจัด 2 อีเวนต์ใหญ่ ได้แก่ อีเวนต์แรก มหกรรมงาน Future Food รวมเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารแห่งอนาคต มาไว้ที่เดียวกัน เพราะเสียงตอบรับค่อนข้างดีมาก โดยมีโซนอาหารฮาลาล มาร่วมออกบูธด้วย อีเวนต์ที่ 2 จัดทำเส้นทางอาหาร Halal Gastronomy โดยจะผสมผสานการตลาดเข้ากับอุตสาหกรรม MICE สร้างความสำเร็จได้มากขึ้น ดึงงานอีเวนต์การจัดประชุมตามเส้นทางพื้นที่ชุมชนฮาลาลเข้ามาเสริมรายได้เป็นอย่างดี

 

ส่วนการเข้าสู่ ESG :Environment/สิ่งแวดล้อม Social/สังคม และ Government/ธรรมมาภิบาล ทางสถาบันอาหารได้เข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาสินค้าชุมชนให้หลายองค์กรแล้ว อย่างแรก ลดขยะอาหาร ลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนฟรุตปริ๊นท์ให้น้อยลง ต่อไปจะมีตัวชี้วัดปริมาณการปล่อยคาร์บอนจากขั้นตอนในห่วงโซ่การผลิตอาหาร รวมทั้งจะรณรงค์เข้าสู่การสร้างสมดุลคาร์บอนเป็นศูนย์ Carbon Neutral เรื่องที่ 2 พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารภาคเกษตรตั้งแต่ท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ ทำบรรจุภัณฑ์หีบห่อสวยงาม อบรมมาตรฐานต่าง ๆ สามารถขายได้ทั่วประเทศและส่งออกทั่วโลก ปี 2567 จะจับมือกับพันธมิตรมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ห้องแล็บตรวจสอบมาตรฐานอาหารครบวงจร ไปจนถึงที่ปรึกษาทางด้านอาหารให้กับธุรกิจอาหารของไทยทั้งหมด

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1 โชว์พาสปอร์ตไทยช้อปคิงเพาเวอร์4สนามบินลดทันที

มีไฟลต์รับต้นปี 2024 อย่าลืมเผื่อเวลาช้อปดีลดีที่สนามบิน “คิง เพาเวอร์” ชวนมาสวยตั้งแต่ต้นปี รับส่วนลดทันทีเมื่อช้อปที่แผนกน้ำหอม และเครื่องสำอาง 1 – 31 มกราคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ ทั้งที่ 4 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

1.พิเศษสำหรับนักเดินทางชาวไทย เพียงแสดงพาสปอร์ตไทย แล้วรับส่วนลด 500 บาท เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

2.ช้อปครบและสมัครสมาชิกใหม่ NAVY หรือ SCARLET รับส่วนลด 700 บาท* เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ


ข่าวที่
2 คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ/ดอนเมือง-Estee Lauderแจก2ต่อ 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำเสนอทริปบินครั้งนี้ทาง Estee Lauder มอบของขวัญสุด Exclusive 2 ต่อที่ คิง เพาเวอร์ 2 สนามบิน สุวรรณภูมิ และดอนเมือง รับ 2 ต่อ

 

ต่อที่ 1 เพียงแวะชมผลิตภัณฑ์ Estee Lauder ที่เคาน์เตอร์ในสนามบิน*

 

รับฟรี !! ทันที Advanced Night Repair Eye Supercharge  Gel-Creme ขนาดทดลอง

 

ต่อที่ 2 พิเศษ ร่วมสนุกลุ้นรับ Advanced Night Repair Serum 50ml  และ Advanced Night Repair Eye Supercharged  Gel-Creme 15ml ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ – 1 ก.พ. 67 ประกาศผลผู้โชคดีวันที่ 5 ก.พ. 67 ทาง Facebook King Power ทำตามกติกาง่าย ๆ ดังนี้

 1.กดติดตามโซเชียลมีเดีย King Power Official ทุกช่องทาง

2.ถ่ายภาพคู่กับผลิตภัณฑ์ Estee Lauder ที่คุณชื่นชอบที่เคาน์เตอร์ Estee Lauder คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานดอนเมือง

 

3.Comment ใต้โพสต์ พร้อม Tag เพื่อน

สินค้าสมนาคุณมีจำนวนจำกัด รับได้คนละ 1 สิทธิ์ เปิดให้ลูกค้าที่ร่วมกิจกรรมและกดรับสิทธิ์ได้ที่เคาน์เตอร์ สาขาสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เท่านั้น

 


ข่าวที่ 3 สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับ2ฟรี/ช้อป3.5หมื่นบินฟรีฮ่องกง

สมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับส่วนลดคุ้มค่า กว่าที่เคย เพียง สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ม.ค. 67 นี้เท่านั้น

1.สมาชิก SCARLET และเติมเงิน 20,000 บาท รับฟรี !! ต่อที่ 1 คูปองส่วนลด 2,000 บาท  ใช้ช้อปได้ไม่มีขั้นต่ำ ต่อที่ 2 ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง เมื่อมียอดช้อป 35,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

2.สมัครสมาชิก NAVY และเติมเงิน 1,000 บาทรับฟรี! คูปองส่วนลด 10% สำหรับซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ 1 ชิ้น พร้อมรับส่วนลดทุกการช้อปสูงสุด 10% สิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิก คิง เพาเวอร์ อีกมากมาย

มาร่วมเป็นสมาชิกคิง เพาเวอร์ สมัครได้ง่าย ๆ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต  หรือ LINE Official Account : @KINGPOWER

ข่าวที่ 4 “สุดาวรรณ”ชู7นโยบายดึงกีฬาดันท่องเที่ยวโกย3.5ล้านล้าน

 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมประกาศนโยบายสำคัญปี 2567 มุ่งพลิกโฉมการท่องเที่ยว และกีฬาของไทย สร้างรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศรวม 3.5 ล้านล้านบาท โดยจะเพิ่มมูลค่ากีฬาไทยขยับเป็น 1 % คิดเป็น 455,800 ล้านบาทจากปัจจุบันทำได้เพียง 0.58 % จากส่วนแบ่งตลาดอุตสาหกรรมกีฬาโลกมีสูงถึง 45.58 ล้านล้านบาท  

 

ล่าสุดได้ประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องในกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อจะขับเคลื่อน 7 นโยบายหลัก โดยจะทยอยขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

 

นโยบายแรก ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 2567 จากเชิงปริมาณสู่โหมดคุณภาพ จากในและต่างประเทศ ตามโจทย์ของนายกรัฐมนตรีต้องการให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเมืองไทยคึกคักตลอดทั้งปี ทั้งจากตลาดต่างชาติและคนไทย ทำให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายหลายทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี (High season on year round tourism destination) ทั้ง 365 วัน ขณะนี้เตรียมอีเวนต์เทศกาลต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น ตรุษจีน สงกรานต์ จะจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี หลังยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ

 

นโยบายที่ 2 จะใช้ซอฟท์ เพาเวอร์  เป็นพลังขับเคลื่อน 2 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ถือเป็นเครื่องจักใหม่ หรือ Engine the New Power นำจุดเด่นเรื่องกีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนพร้อมกับสร้างภาพลักษณ์ใหม่ประเทศไทยในเวทีโลกควบคู่กับกระตุ้นความต้องการเดินทางท่องเที่ยวและเมืองกีฬาเติบโตเพิ่มมากขึ้น

 

นโยบายที่ 3 นำประเทศไทยความสำคัญเรื่องความปลอดภัยทั้งฮอสพิทาลิตี้และความปลอดภัย ทำให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่น “เมืองไทยปลอดภัย” มาแล้วได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยจะต้องเข้มงวดด้านการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามเรื่องนักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงเอาเปรียบ

 

นโยบายที่ 4 เน้นการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ (Responsibility) และท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป จะทำอย่างจริงจังชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดึงท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมทำการท่องเที่ยวยั่งยืน

 

นโยบายที่ 5 จะใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สานต่อนโยบายของนายกรัฐมนตรีซึ่งให้ความสำคัญกับการเดินทางเชื่อมโยงภายทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว ปลายเดือนมกราคม 2567 จะมีประเด็นหารือกันในหัวข้อ ASEAN Connect ยกระดับการเดินทางเชื่อมโยงทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก

 

นโยบายที่ 6 เพิ่มด้านกีฬาพื้นฐานโดยวิธีวางระบบพัฒนาทั่วประเทศเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริม พัฒนาการการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา ทุกคนออกกำลังกายเป็นวิถีชีวิต สามารถเข้าถึงกีฬาได้ทุกกลุ่ม ทั้งคนทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งจะส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาเพื่ออาชีพที่จะต้องทำในทุกระดับและบุคลากร รวมทั้งพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา นำวิทยาศาสตร์มาเพิ่มสมรรถนะให้นักกีฬาไทยแข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันระดับนานาชาติ หรือกีฬาอาชีพ

 

รวมทั้งต้องผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ สุดท้ายคือ E-Sport ถือเป็นกิจกรรมกีฬาใหม่ที่ต้องส่งเสริมเพราะสามารถสร้างทักษะให้กับเยาวชน สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเติบโตขึ้นได้

 

นโยบายที่ 7 เตรียมพร้อมต้อนรับมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปี 2567 จะมีการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการ ทั้งส่งนักกีฬาไปร่วมแข่งขันในโอลิมปิกปารีส 2024 และเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน ได้แก่ เอเชียนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์, จักรยานยนต์โมโตจีพี, เจ็ตสกีชิงแชมป์โลก, ฮอนด้า แอลพีจี เอ ไทยแลนด์ 2024  รวมถึงเตรียมเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ปี 2568 มีเจ้าภาพร่วมกันจัด 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพ ชลบุรี สงขลา

 

รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า ปี 2566 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสบความสำเร็จนำต่างชาติเที่ยวเมืองไทยได้เกินกว่าเป้าหมาย 28 ล้านคน ทำรายได้ 2 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.38 ล้านล้านบาท แต่เปรียบเทียบกับปี 2565 แล้ว เพิ่มขึ้น 100 %  ขณะที่ผลงานด้านกีฬาปี 2566 นักกีฬาไทยชนิดกีฬาสากลดีขึ้น แล้วไทยมีโอกาสจัดกีฬาระดับนานาชาติอีกหลายรายการใหญ่ ได้แก่ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023 ครั้งที่ 16 การแข่งขันโมโตจีพี 2023 การแข่งขันรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2023 ทุกรายการมีแฟนกีฬาทั้งไทย และต่างประเทศเข้าชมจำนวนมาก  สร้างรายได้กระจายลงสู่ท้องถิ่น และผู้ประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ

 

ข่าวที่ 5 บางจากแจก3คุ้มสมาชิกกรีนไมล์รับด่วนถึง29ก.พ.67

 

   

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ต้อนรับศักราชใหม่ระหว่าง มกราคม-29กุมภาพันธ์  2567 เปิดให้สมาชิกบางจากกรีนไมลส์รับฟรีสุดคุ้มกับกิจกรรมเติมบางจากดีเซลคุ้ม 3 ต่อ” คุ้มที่ 1 รับฟรี! M – 150  เมื่อเติมน้ำมันบางจากดีเซลทุกชนิดครบทุก 1,200 บาท คุ้มที่ 2 รับฟรี! น้ำดื่มขวดใหญ่ขนาด 1.5 ลิตร เมื่อเติมน้ำมันบางจากทุกชนิดครบทุก 900 บาท คุ้มที่ 3  เมื่อเติมบางจากดีเซลรับคะแนนสะสม x 2  ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากและสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่เดิมทั่วประเทศที่ร่วมรายการ 

 

          โดยสมาชิกบางจากกรีนไมล์รับความคุ้มค่าได้ตามการเลือกใช้บริการแต่ละครั้งต่อเนื่องตลอดแคมเปญสมนาคุณ ดังนี้

 

คุ้มที่ 1  เติมน้ำมันบางจากดีเซลทุกชนิดครบทุก 1,200 บาท รับฟรีเครื่องดื่ม M-150 จำนวน 1 ขวด มูลค่า 12 บาท

 

 คุ้มที่ 2 รับฟรี! น้ำดื่มขวดใหญ่ ขนาด 1.5  ลิตร จำนวน 1 ขวด มูลค่า 15 บาท เมื่อเติมน้ำมันบางจากทุกชนิดครบทุก 900 บาท  

 

คุ้มที่ 3 สมาชิกบางจากกรีนไมลส์ เติมบางจากดีเซลรับคะแนน  x 2   สามารถสะสมคะแนนแล้วนำไปใช้แลกซื้อสินค้าในเครือบางจากในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ด้วย

 

สำหรับน้ำมันบางจากดีเซลมีคุณภาพสูง ทั้งบางจากไฮพรีเมียมดีเซล S และบางจากไฮดีเซล S ด้วยเทคโนโลยีสารเพิ่มคุณภาพสูตรพิเศษจากสหรัฐอเมริกา ทให้เครื่องยนต์สะอาด เร่งได้แรงทุกเส้นทางการขับขี่ ทั้งทางราบและทางชัน ช่วยให้ประหยัด ไปได้ไกลกว่า สามารถเลือกเพิ่มประสบการณ์พลังงานทางเลือกได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่สถานีบริการน้ำมันบางจากและเอสโซ่เดิมทั่วประเทศที่ร่วมรายการ พร้อมต้อนรับผู้ใช้บริการอย่างเป็นมิตรกับลูกค้าและสิ่งแวดล้อมตลอดไป

 

 

            ช่วงที่ 2 จัดปฏิทินเที่ยวไทยตามไปหรอยแรง แหล่งใต้ สุขทันทีเที่ยวใต้ 14 เส้นทาง ชวนกันไปเปิดประสบการณ์ดื่มด่ำธรรมชาติ อาหาร วัฒนธรรม 3 แดนใต้ “ยะลา-นราธิวาส-ปัตตานี” แล้วดูแลสุขภาพ “กินน้ำผลไม้ปั่น” รู้ไว้ถึงประโยชน์-เคล็ดลับ-ข้อควรระวัง แล้วฟังข่าวเจาะลึก ข่าวแรก “เปิดใจ บิ๊กหิน ประธานบอร์ดคนใหม่ AOT” ลั่นนำ6สนามบินอินเตอร์ขึ้นชั้นดีสุดในโลก ข่าวที่สอง “แอร์พอร์ตอิงค์” ญี่ปุ่นนำร่องเปิดเช็คอินนอกสนามบินคันไซ ปูทางรับมือเอ็กซโป 2025

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีเที่ยวใต้14เส้นทางไฮไลต์ “ยะลา/นรา/ปัตตานี”

 

ปฏิทินเที่ยวเมืองไทย กับเส้นทางท่องเที่ยวแจกความสุขแบบทันใจ   ชวนกันไป “สุขทันที..ที่เที่ยวภาคใต้ 14 เส้นทาง” การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดโปรแกรมตัวอย่าง 3 วัน 2 คืน ให้ชวนกันไป “หรอยแรง แหล่งใต้” เที่ยวปักษ์ใต้ หรอยแรงปักใจไปกับ อาหาร ท้องทะเล ธรรมชาติ วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่จะชวนก๊วนเพื่อนไปพักผ่อนและเติมประสบการณ์แบบใหม่ไม่ซ้ำใคร รวมทุกไฮไลท์ ทุกสไตล์ เหมาะกับทุกคน จะเที่ยวด้วยตัวเองกับคนรู้ใจ หรือจะให้บริษัทนำเที่ยวจัดทริปเที่ยวให้ตามที่ชอบก็ได้เช่นกัน

 

เที่ยวกับธีมไฮไลต์พื้นที่สุขทันทีที่เที่ยวภาคใต้ 14 จังหวัด  ปักหมุดได้ตามใจชอบได้ตามนี้

 

 1.ยะลา-เบตง  2.นราธิวาส 3.ปัตตานี  4.ชวนเที่ยว “เกาะหลีเป๊ะ” จังหวัดสตูล 5.ท่องเที่ยวสงขลา 6.เที่ยวใต้ให้ปังต้อง...พังงา  7.ทริปเที่ยวทะเลกระบี่ ฟิน กิน เที่ยว @เกาะจำ แนวคาร์บอนไม่สูง 8.เก็ต Like A Local” โปรแกรมท่องเที่ยวภูเก็ต 9.ตรังยุทธจักรความอร่อย : 9 มื้อเด็ดเสร็จที่ตรัง  10.“เที่ยวไปตามใจปาก” นครศรีธรรมราช  11.กรุงเทพ - เกาะสมุย- เกาะแตน-เกาะมัดสุม 12.เที่ยวสุราษฎร์ธานี 13.เที่ยวจังหวัดระนอง และ 14.ท่องเที่ยวชุมพร

 

 สุดแดนใต้ท่องเที่ยวเมืองไทยได้ทั้ง 365 วัน ตลอดปี 2567 ครบทุกสไตล์ 3 จังหวัด 3 พิกัด 3 เส้นทาง สุขได้ทุกวันทั้ง 365 วัน

 

เส้นทางแรก “เบตง ใต้สุดแดนสยาม” เมืองขึ้นชื่อ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดดเด่นเรื่องอาหารขึ้นชื่ออย่าง ไก่เบตง เฉาก๊วย แล้วยังมีจานเด็ดให้เลือกอีกหลากหลายทั้ง เคาหยก ผัดถั่วเจี๋ยน ผัดผักน้ำ หมี่เบตง เมนูติ่มซำหากินยากอย่าง จี๊ฉ่องฝัน  ข้าวเหนียวไก่ ขนมเผือกนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้มันแกว มะเขือยาวยัดไส้ ขนมโบราณก็มีเช่นกัน

 

ส่วนแหล่งท่องเที่ยวฟินธรรมชาติและสายหมอกท่ามกลางหุบเขาสูง อากาศดี มีเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา เชื่อมต่อกับ จ.นราธิวาส และมาเลเซีย มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง “สกายวอล์คอัยเยอร์เวง” และยอดเขา “ฆูนุงซีลีปัต” จุดชมทะเลหมอกแบบ 360 องศา ยอดฮิตเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และถูกโอบล้อมท่ามกลางสายหมอก 

 

เที่ยวเบตง-ยะลา ต้องห้ามพลาด 10 อย่าง คือ 1.สะพานข้ามทะเลสาบเหนือเขื่อนบางลาง 2.ท่าอากาศยานนานาชาติเบตง 3.วัดพุทธาวาส 4.วัดกวนอิม 5.Street Art 8 วิถีเบตง กับ Street Art เมืองยะลา6.ข้าวมันไก่เบตง 7.อุโมงค์ปิยะมิตร 8.สวนไม้ดอกเมืองหนาว 9.สกายวอล์คอัยเยอร์เวง 10.ศาลหลักเมือง  

  

เส้นทาง 2 ท่องเที่ยวนราธิวาส เป็นดินแดนพหุวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ของพี่น้องที่อยู่ร่วมกันทั้ง มุสลิม ไทยพุทธ และจีน ถ่ายทอดผ่าน อาหาร ศาสนา สถาปัตยกรรม โดยเฉพาะอาหารมุสลิมดั้งเดิม เช่น นาซิดาแฆ นาซิลือเมาะ ละแซ แนะนำให้ลิ้มลองขนมโบราณอีกมากมาย พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชาวเลที่ได้นำศิลปะมาวาดลวดลายไว้บนเรือ หรือจะขึ้นภูเขาในบรรยากาศแบบเมืองเหนือก็มีให้ได้สัมผัสเช่นกัน   

 

เที่ยวนราธิวาส ต้องห้ามพลาด 10 อย่าง คือ 1.อู่ต่อเรือกอและ 2.ศาลเจ้าโกวเล้งจี่ 3.ตลาดน้ำยะกังขนม 100 ปี 4.วิสาหกิจชุมชนการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 5.ล่องแก่งต้นน้ำสายบุรี 6.พิพิธภัณฑ์คอมมิวนิสต์มาลายา 7.ทะเลหมอกเขาน้ำใส 8.กรือโป๊ะ 9.ไก่ฆอและ 10.เซตเมนูกรม 10

 

เส้นทาง 3 ท่องเที่ยวปัตตานี  สัมผัสเสน่ห์ชายแดนใต้ “เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธา ถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้”  ภายในจังหวัดมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ด้านวัฒนธรรม ศาสนา ภาษา วิถีชีวิตความเป็นอยู่ เปิดประสบการณ์กินเที่ยว ในชุมชนท่องเที่ยวบ้านทรายขาว (วิถีชุมชนสองศาสนิกไทย-พุทธ-มุสลิม) กับชุมชนบาราโหม สนุกกับกิจกรรมผจญภัย และชิมอาหารท้องถิ่น นาสิอีแดกำปง สาเต๊ะไก่ / เนื้อ และ รอเยาะแบบปัตตานี  

 

เที่ยวปัตตานีต้องห้ามพลาด 5 อย่าง คือ 1.วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม 2.ชุมชนบ้านทรายขาว 3.มัสยิดกลางปัตตานี 4.เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว 5.บางตาวา แอดเวนเจอร์ 5.ชุมชนท่องเที่ยวบาราโหม 5.ตลาดเทศวิวัฒน์ 6.ปัตตานีสกายวอล์ค

 

                จะรออะไร !! ไปเที่ยวเมืองไทย สุขทันใจ สุขทันที ทุกวัน เลือกได้ไม่ต้อง หรอยแรง 3 เส้นทางแดนใต้ กำลังรอต้อนรับทุกวัน

 

สุขภาพ – กินน้ำผลไม้ปั่น“ประโยชน์-เคล็ดลับเลือก-ข้อควรระวัง”

 

การเลือกรับประทาน “น้ำผลไม้ปั่น”ให้เกิดประโยชน์และยังการคงคุณค่าทางสารอาหารเอาไว้ โดยเฉพาะใยอาหาร เพราะน้ำผลไม้ปั่นเป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการผสมกันของผลไม้ทั้งผล ทั้งเนื้อและน้ำ

เติมวัตถุดิบอื่น ๆ เข้าไปในกระบวนการทำได้ง่ายด้วย ซึ่งก็จะเพิ่มสารอาหารให้ร่างกายได้อีกทาง โดยวัตถุดิบที่มักถูกนำมาใช้ก็เช่น นม โยเกิร์ต และโปรตีนผง

 

ส่วนประโยชน์ในด้านสุขภาพ ประโยชน์ของน้ำผลไม้ปั่นจะต่างกันไปตามชนิดของผลไม้และวัตถุดิบอื่น ๆ ที่นำมาปั่นรวมกัน หากใครที่ต้องการประโยชน์หลากหลาย สิ่งที่ควรคำนึงถึงก็ควรเป็นการเลือกชนิดของผลไม้ให้หลากสีเข้าไว้ เพราะสีของผลไม้แต่ละสีมักจะมีคุณค่าทางสารอาหารแตกต่างกัน

 

จึงขอแนะนำตัวอย่าง “ผลไม้” ที่เป็นเครื่องดื่มประเภทปั่นแล้วให้คุณค่าต่อร่างกาย เช่น

 

1.กล้วย กล้วยเป็นผลไม้ที่ให้คาร์โบไฮเดรตสูง อีกทั้งยังมีแร่ธาตุดี ๆ อย่าง แมกนีเซียมและโพแทสเซียม

 

2.ฝรั่ง ฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารดี ๆ อยู่หลายชนิด โดยชนิดที่เด่น ๆ ก็เช่น วิตามินซี และใยอาหาร

 

3.มะม่วง มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ค่อนข้างสูง

 

4.แตงโม แตงโมเป็นผลไม้ให้พลังงานต่ำให้วิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 5 โพแทสเซียม และทองแดง

 

5.อะโวคาโด แม้อะโวคาโดจะเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง แต่อะโวคาโดก็เป็นผลไม้ที่ให้สารอาหารดี ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไขมันดี ใยอาหาร วิตามินซี วิตามินอี และโฟเลท

 

6.กีวี กีวีเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานที่ต่ำและให้สารอาหารดี ๆ หลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซี

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับน้ำผลไม้ปั่น - แม้น้ำผลไม้ปั่นจะเป็นเครื่องดื่มที่สามารถช่วยเพิ่มสารอาหารดี ๆ ให้กับร่างกาย แต่ถ้าดื่มมากเกินไปก็อาจส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินความจำเป็นได้เช่นกัน ดังนั้น นอกจากเรื่องของสารอาหารแล้ว ควรจำกัดปริมาณการดื่มให้พอเหมาะ หากใครมีโรคประจำตัวใด ๆ อยู่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนถึงปริมาณและชนิดของผลไม้ที่สามารถรับประทานได้

ระวัง !! ผู้ที่ดื่มน้ำผลไม้ปั่นควรให้ความสำคัญกับปริมาณการ “เติมน้ำตาล” เพื่อปรุงรสน้ำผลไม้ปั่นด้วย เพราะการใช้น้ำตาลปรุงรสมากเกินไปอาจเพิ่มพลังงานให้ร่างกายมากเกินไป ที่สำคัญอีกอย่างก็คือเรื่องของความสะอาด โดยให้เลือกซื้อผลไม้จากแหล่งที่น่าเชื่อถือเท่านั้น และที่สำคัญควร “ล้างผลไม้” ห้สะอาดดีก่อนรับประทานเสมอ เพื่อป้องกันร่างกายจากสารปนเปื้อนต่าง ๆ ด้วย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –“บิ๊กหิน”ประธานบอร์ดAOTลั่นทำ6สนามบินดีสุดในโลก

 

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ  บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” นำคณะกรรมการ(บอร์ด) ใหม่ รับฟัง ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT พร้อมผู้บริหารสรุปภารกิจการดำเนินงานและตรวจเยี่ยมพื้นที่อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1)

 จากนั้น พล.ต.อ.วิสนุ หรือ “บิ๊กหิน” เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์การนั่งประธานบอร์ด AOT พร้อมยกระดับเป็น “ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค สู่ประตูการบินของโลก”  ขับเคลื่อนให้ติดสนามบินดีสุดอันดับต้นของโลกให้ได้ ด้วยกุญแจความสำเร็จ 5 เรื่อง นโยบายเร่งด่วน 2 เรื่อง และ

 

วิสัยทัศน์หลัก 5 เรื่อง ประกอบด้วย

 

เรื่องที่ 1 ให้คุณค่ากับบุคลากรทุกระดับทุกฝ่าย

เรื่องที่ 2  สร้างความมั่นใจทางธุรกิจ เพื่อความมั่นคงในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เรื่องที่ 3  ความโปร่งใสตรวจสอบได้ คือหัวใจสำคัญของ AOT

เรื่องที่ 4  สร้างการยอมรับจากสังคม ประชาชน ผู้ใช้บริการ ทุกส่วนในอุตสาหกรรมการบิน

เรื่องที่ 5  บูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการบินในรูป Home team มุ่งสู่ความสำเร็จร่วมกัน

 

นโยบายเร่งด่วนต้องเร่งทำทันทีอีก 3 เรื่อง

 

เรื่องที่ 1 เร่งปรับปรุงพื้นที่ทางกายภาพและระบบอำนวยความสะดวกทั้งระบบในและนอกอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ให้พร้อมตอบสนองนโยบายเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติของรัฐบาล                  

 

เรื่องที่ 2  เร่งบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับสุวรรณภูมิเป็นสนามบินชั้นนำตามมาตรฐานสากลให้ได้ในปี 2567

           

นโยบายระยะต่อเนื่องโครงการแฟลกชิพสำคัญ 4 โครงการ ประกอบด้วย

โครงการที่ 1 เร่งขยายอาคารผู้โดยสาร 2 สนามบินหลัก สุวรรณภูมิ กับดอนเมือง โดยจะสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสาร “สุวรรณภูมิฝั่งทิศเหนือ” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารให้ได้ปีละ 90 ล้านคนขณะนี้ทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำลังพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณต่อไป

 

ส่วน “ดอนเมือง” พื้นที่เริ่มคับแคบเพราะขณะที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เตรียมปรับปรุงก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ หลังที่ 1 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ  เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็นปีละ 50 ล้านคน จาก 30 ล้าน ขณะนี้ ครม.อนุมัติงบประมาณแล้ว

 

โครงการที่ 2  เร่งติดตั้งระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ Automatic Channels เพื่อสนับสนุนงานตรวจ  คนเข้าเมืองที่สุวรรณภูมิและดอนเมือง เพราะเครื่องเดิมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอายุกว่า 10 ปี และมีจำนวนน้อย ไม่พอรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศเพิ่ม คาดจะช่วยระบายความหนาแน่นผู้โดยสารระหว่างประเทศได้คล่องตัวขึ้น สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ

 

โครงการที่ 3  เพิ่มทางวิ่งเส้นที่ 3 หรือ 3rd Runway ที่ ทสภ. เพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มเป็น 94 เที่ยว/ชั่วโมง จาก 64 เที่ยว รวมทั้งปรับปรุงหลุมจอดที่ดอนเมือง อยู่ระหว่างการออกแบบและขออนุญาต รออนุมัติได้เดือนธันวาคม 2567  จะเริ่มก่อสร้างกรกฎาคม 2568 - ธันวาคม 2573

 

โครงการที่ 4  จัดทำ Application “SAWASDEE บนสมาร์ทโฟน 10 ฟังก์ชั่น เพื่อรองรับผู้ใช้บริการสนามบิน มีทั้งการค้า (Commercial) หรือ AOT Point และฟังก์ชันบริการอีก 9 รายการ เช่น เช็คอิน เที่ยวบินและสัมภาระกระเป๋า (Flight & Baggage)  แผนที่และระบบแนะนำการเดินทาง (Map & Navigation) การคมนาคม (Transportation) บริการสนามบิน (Airport Service) ช้อปปิ้ง เช็คเที่ยวบินแบบเร่งด่วน (Check Flight & Alert) และเคาน์เตอร์ขอความช่วยเหลือ (Help Desk)

 

ขณะนี้กำลังพัฒนาฟังก์ชันเกี่ยวกับ Customer Feedback และ Contact Us รวมถึง Queue Time และ Taxi Reservation มาใช้งานด้วย รวมถึงการใช้ CUPPS : Common Use Passenger Processing System มาใช้รองรับบริการสนามบิน AOT ทั้ง 6 แห่ง

 

“บิ๊กหิน” ยืนยันเรื่องนโยบายสร้างผลกำไรในฐานะบริษัทมหาชน ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างการตลาดเชิงรุกทางการบิน สร้างโอกาสแก่สายการบิน วิเคราะห์ตลาด การเงิน เส้นทางการบิน ให้ความสำคัญกับการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อนาคตเตรียมทยอยโอนสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยานมาให้ AOT ดูแลอีก 3 สนามบิน ได้แก่ บุรีรัมย์ อุดรธานี และกระบี่ เปิดประตูประเทศบานใหมต้อนรรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาสร้างรายได้แต่ละพื้นที่เติบโตอย่างยั่งยืน

 

            โดยคาดหวังให้สนามบินทั้งหมดของ AOT คือโลจิสติกส์ฮับเป็น Cross Border E-Commerce การขนส่งทางอากาศของภูมิภาคที่ทั่วโลกยอมรับ และจะต้องคำนึงถึงปัจจัยขับเคลื่อนทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายขนส่งสาธารณะ การบริหารพื้นที่อาคาร การพัฒนาระบบบริการโรงซ่อมขนาดเบาอากาศยาน ประการสำคัญคือต้องพัฒนาบนพื้นฐานความเข้าใจ ทั้งคู่ค้า ลูกค้า และคู่แข่ง เพื่อวางกลยุทธ์ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์สูงสุดควบคู่กันไป  

 

ข่าวที่สอง -ด่วน!ญี่ปุ่นเริ่มแล้วเช็คอินนอกสนามบินคันไซรับเอ็กซโป2025

 

แอร์พอร์เตอร์ อิงค์ รายงานว่า ได้จัดมือกับเอ็มยูไอซี คันไซ (MUIC Kansai) หรือศูนย์นวัตกรรมคันไซ/Kansai Innovation Center เปิดระบบใหม่ให้บริการเช็คอินนอกสนามบินครั้งแรกในญี่ปุ่น นำร่องที่ “ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ” เพื่อปรับปรุงกระบวนการจัดการกระเป๋าเดินทางผู้โดยสารขาออก สามารถจัดส่งสัมภาระกระเป๋าจากโรงแรมที่พักหรือจุดที่กำหนดส่งตรงไปยังสนามบินต้นทางของญี่ปุ่น แล้วนำส่งต่อไปยังสนามบินปลายทางในต่างประเทศได้อย่างสะดวกถูกต้องปลอดภัย

 

ขณะนี้ได้ทดสอบระบบสาธิต (PoC) บริการใหม่นี้กับผู้โดยสารสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ หรือ JAL ที่เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติคันไซไปแล้วประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ทางแอร์พอร์เตอร์กับเอ็มยูไอซี คันไซ ในอนาคตเตรียมเดินหน้านำบริการดังกล่าวทำร่วมกับสายการบินใหญ่ทั่วเอเชียที่มีนักเดินทางต่างชาติมาเยือนญี่ปุ่นมักใช้บริการอยู่บ่อย ๆ จำนวนมาก สร้างประสิทธิภาพที่ดีแก่นักท่องเที่ยวด้วย

สำหรับบริการใหม่เช็คอินนอกท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น จะสร้างประโยชน์กับการเดินทางของคนทั่วโลกที่เดินทางเข้าออกญี่ปุ่น 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย

เรื่องที่ 1  แอร์พอร์เตอร์ให้บริการจัดส่งสัมภาระในวันเดียวกันระหว่างสนามบินกับโรงแรม แล้วขยายต่อไปยังสนามบินนานาชาติเพื่อช่วยให้ผู้โดยสารเดินตัวเปล่าโดยไม่ต้องแบกสัมภาระจากโรงแรมไปยังสนามบินปลายทางในต่างประเทศด้วย

 

เรื่องที่ 2 นำบริการจัดส่งสัมภาระในวันเดียวกันของแอร์พอร์เตอร์ มารวมเข้ากับบริการเช็คอินออนไลน์ของสายการบินต่าง ๆ ด้วยขั้นตอนขึ้นเครื่องเป็นดิจิทัล ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวยาวอีกต่อไป

 

เรื่องที่ 3  ในปี 2568 ทางเมืองโอซาก้าได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดเอ็กซ์โปรายการใหญ่คือ “Expo 2025 Osaka, Kansai” ดังนั้นทางโอซาก้าจึงวางแผนเริ่มทดสอบระบบสาธิตก่อนเป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่กรกฎาคม 2566 กับผู้โดยสารสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ที่เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติคันไซ เพื่อยืนยันและพิสูจน์การปฏิบัติงานบริการสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง

 

ขณะเดียวกันทั้ง “แอร์พอร์เตอร์และเอ็มยูไอซี คันไซ” ได้ประเมินสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในอนาคตรองรับไว้ ประกอบด้วย 2 ส่วน

 

ส่วนที่ 1 มีแผนยกระดับบริการตั้งเป้าขยายตัวเต็มรูปแบบ ต้อนรับมหกรรมเอ็กซ์โป 2025 โอซาก้า คันไซ กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มขยายความร่วมมือกับสายการบินหลักทั่วเอเชียที่มีต่างชาติเลือกใช้บริการเข้ามายังญี่ปุ่น

 

ส่วนที่ 2 ตั้งเป้าพัฒนาอุปกรณ์รองรับบริการนี้โดยเฉพาะ เพื่อนำไปติดตั้งในโรงแรม สถานี และสถานที่อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารเช็คอินสัมภาระ ที่จุดให้บริการต่าง ๆ ภายในเมืองได้ ช่วยเช็คอินสัมภาระได้อย่างสะดวกสบายระหว่างการเดินทาง ณ จุดที่ให้บริการได้อย่างคล่องตัว   

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง