ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจันทบุรี
“วณิชชา”ประธานสภาทัวร์นำจันทบุรีผงาดเมืองหลักปี67
รวมพลังปลุก4ล้านคน-ก.พ.เปิดเขาคิชฌกูฏรับล้านคน
วอนรัฐอัดฉีด4เรื่องด่วนดันเศรษฐกิจจังหวัดฟื้นตามเป้า
คิงเพาเวอร์จัดเต็ม3คุ้มช้อปออนไลน์รับวนไปถึง31ม.ค.
ช้อปปัง!!คิงเพาเวอร์10บัตรเครดิตแจกเงินคืนสูงสุด17%
ททท.หารือคณะจีนบูมปีมังกรทองตรุษจีนในไทยก.พ.67
บางจาก-BTSเปิดแล้วบริการมอไซต์ไฟฟ้าปิ่นโตรักษ์โลก
สุขทันทีที่เที่ยว“พิษณุโลก”ทัวร์สายบุญสายธรรม9วัดดัง
5อาหารเครื่องดื่มหาได้ใกล้ตัวช่วยการทำงานของสมอง
เฮ!!บินไทยเปิดรีฟันด์คืนเงินค่าตั๋วบัตรทัวร์ใน45-90วัน
ไทยทุบสถิติปี66โลเคชั่นถ่ายทำหนังโลกโกย6.6พันล้าน
วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #TCEB #บางจาก #สุขทันทีที่เที่ยวพิษณุโลก9วัด #วณิชชาวัฒนพงศ์
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/pz6x7YsEf7/?mibextid=UyTHkb
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “นางสาววณิชชา วัฒนพงศ์”
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี นำทัพ 1 ใน 10 พื้นที่นำร่องเมืองรองสู่เมืองหลัก
ท่ามกลางความท้าทายต้องเพิ่มเป้าปี’67 อีกกว่า 1.2 ล้านคน งัดสินค้าเด่นซอฟท์เพาเวอร์ “อาหาร”
ปั้นจันทบุรีขึ้นทะเบียนยูเนสโกเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร กับ” “งานเทศกาล” ไฮไลต์ ไตรมาสแรก ก.พ.-มี.ค.จัดเต็ม 4 งาน “นมัสการพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ” ลุ้น 1
ล้านคน
นอนแคมป์ “เที่ยวงานกล้วยไม้เหลืองจ้นทน์” เยือนแหล่งปลูกลำไยเขาสอยดาว
“บูชาดาวนพเคราะห์” วัดเขตร์นาบุญ เสนอ 4 ปัจจัยสู่ความสำเร็จ
อัดฉีดงบกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองรอง
จัดวันหยุดต่อเนื่องเพิ่มวันพักค้างตลาดคนวัยทำงาน ครอบครัว
นางสาววณิชชา วัฒนพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี
เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอกชนในพื้นที่นำร่องของหอการค้าไทยและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) ปี 2567 จะให้จันทบุรีเป็น
1 ใน 10 เมืองรองสู่เมืองหลัก
ซึ่งมีทั้งความท้าทายและยินดีที่ต้องเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าจังหวัดให้ได้ตามเป้า 4
ล้านคน จากปัจจุบัน 2.8 ล้านคน เท่ากับต้องกระตุ้นคนมาเที่ยวเพิ่มอีกอย่างน้อย
1.2 ล้านคน
ทำให้เอกชนต้องทำการบ้านค่อนข้างหนัก
แต่ก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่จะบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างทางส่วนกลางกับทั้งจังหวัดจันทบุรี
ซึ่งก่อนสถานการณ์โควิดเป็นเมืองรองดาวเด่นแต่พอเกิดโรคระบาดต้องกลับมาเริ่มต้นกันใหม่
โดยมีจุดเด่นทางด้าน ซอฟท์ เพาเวอร์
ได้แก่ 1.Food อาหารวิถีถิ่นขึ้นชื่อหลายอย่างโดยมีแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงกันซึ่งสามารถ 2.Festival/เทศกาล ซึ่งจะมีงานดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ครั้งละเป็นจำนวนมากโดยมีอีเวนต์ใหญ่ 3 งาน คือ
งานแรก
นมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ
(พระบาทพลวง) เปิดให้ผู้เลื่อมใสท่องเที่ยวสายบุญได้สักการะต่อเนื่องกัน 2 เดือน
สถิติที่ผ่านมาจะมีคนเดินทางมาร่วมเฉพาะงานนี้ปีละกว่า 1 ล้านคนขึ้นไป ทำให้เกิดการพักค้างคืนเกือบ 100
%
งานที่ 2 สงกรานต์ จันทบุรีมีความน่ารักไม่แพ้จังหวัดอื่น ผสมผสานกันอย่างโดดเด่นด้านวัฒนธรรมบริเวณเมืองเก่าถนนสายวัฒนธรรมปลายกรุงศรีอยุธยาที่มีวัดอยู่จำนวนมาก ไฮไลต์คือกิจกรรมชักเย่อพระบาทช่วงสงกรานต์ รวมทั้งจะมีกิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์กลางคืนในตัวเมืองจันทบุรี สามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวเติบโตมากขึ้นทุกปี และงานที่ 3 คริสต์มาส มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาชมพิธีคริสจักรบริเวณริมแม่น้ำจันทบูร
นางสาววณิชชา กล่าวว่า หากจันทบุรีจะยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลัก ซึ่งที่ผ่านมาการท่องเที่ยวเป็น 1 ใน 4 เสาหลักเศรษฐกิจของจังหวัด หากจะทำให้สำเร็จต้องเน้นความร่วมมือเชิงบูรณการของรัฐกับเอกชนทั้งหมด โดยเฉพาะการใช้งบประมาณบูรณาการที่จะต้องเริ่มต้นจัดอีเวนต์เทศกาลระดับนานาชาติ นั่นคือการขับเคลื่อนซอฟท์ เพาเวอร์เรื่อง Food/อาหาร ขณะนี้กำลังเตรียมเสนอให้จันทบุรีขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร หรือ Creative Citie Gastronomy ทุกฝ่ายทั้งจังหวัด ทั้งหน่วยงานรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.)การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด สหกรณ์การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอีกหลากหลายหน่วย พร้อมใจกันทำรายละเอียดได้พอสมควรแล้วตั้งใจจะยื่นในรอบปีต่อไป ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลโปรดักซ์ เส้นทาง และอื่น ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องในห่วงโซ่วิถีชีวิตคนจันทบุรี
โดยมีจังหวะที่ดีมีงานวิจัยของหลายภาคส่วนเกี่ยวกับเรื่องอาหาร
เพราะจันทบุรีเป็นแหล่งต้นน้ำวัตถุดิบแหล่งปลูกพืชสมุนไพรอาหารขึ้นชื่อ ได้แก่
“พริกไทย” มายาวนานตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ แล้วก็ส่งออกไปขายทั่วโลก
และแหล่งปลูกลูกกะวาน นอกจากนี้ก็มีผลไม้โด่งดังอย่างทุเรียน
การนำเสนอเมนูท้องถิ่นในเวทีนานาชาติ
ถึงเวลาต้องริเริ่มทำโมเดลให้สอดคล้องกันทุกภาคส่วนก้าวสู่เป้าหมายเมืองท่องเที่ยวหลักก็น่าจะเป็นนิมิตดีที่สุดปี
2567
ส่วนกลยุทธ์กระตุ้นคนเดินทางเข้าไปเที่ยวจันทบุรีไตรมาส
1 ระหว่างมกราคม-มีนาคม
2567
ไฮไลต์จะเชิญชวนเที่ยวจันทบุรีเต็มที่ 4 งานยอดนิยม
ได้แก่
งานที่
1 นมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ
เริ่มตั้งแต่ 10 กุมภาพันธ์ -9
เมษายน 2567 เปิดต่อเนื่องตลอด 2 เดือน เพื่อรองรับคนไทยแสวงบุญ
กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชื่นชอบวิวทิวทัศน์สวยงามมาก
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่น QQ ของการท่องเที่ยวได้ ตั้งเป้า
จะได้ใกล้เคียงปีปกติ 2562 ประมาณ
800,000 -1,000,000 คน
งานที่
2 “รักษ์เหลืองจันท์” วันดอกไม้บาน ระหว่างวันที่ 10-18
กุมภาพันธ์ จัดโดย
มหาวิทยาลัยเทคโลโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออกจันทบุรี จัดเต็มให้ชมความสวยงามกล้วยไม้พื้นเมืองเหลืองจันทบูร
ราชนีกล้วยไม้แห่งภาคตะวันออก สามารถร่วมกิจกรรมมากมาย แล้วนำกลับไปปลูกที่บ้านได้
งานที่ 3 Chanthaburi ART & CAMP Under The Moon Light ระหว่างวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ ชื่อตอน “ชวนกันมาลำไย” ที่ เดอะเนเชอรัล การ์เด้น รีสอร์ท เทือกเขาสอยดาว จ.จันทบุรี ซึ่งจะนำเสนอแหล่งปลูกลำไยขึ้นชื่อเขาสอยดาว แหล่งท่องเที่ยวอันงดงาม สามารถกางเตนท์พักแรมท่ามกลางธรรมชาติ
งานที่
4 บูชาดาวนพเคราะห์ ระหว่างวันที่ 22-28 กุมภาพันธ์ 2567 ที่วัดเขตร์นาบุญญาราม อำเภอเมือง จันทบุรี
เป็นวัดสืบเชื้อสายมาจากชาวเวียดนามจัดพิธีบูชาดาวนพเคราะห์
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสะเดาะเคราะห์ ทำบุญ เสริมสิริมงคล
จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวสวนผลไม้
ทั่วจังหวัดจันทบุรี จะเป็นช่วงการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ต่อเนื่องตั้งแต่เมษายน-สิงหาคม 2567
สำหรับการท่องเที่ยวจันบุรีไตรมาส
1 ปีนี้
ทางผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก พร้อมจัดโปรโมชั่นต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้สมกับ
“จันทบุรี เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ราคาสมคุณภาพ”
เนื่องจากเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่เป็นคนพื้นที่จึงพร้อมมอบประสบการณ์ความประทับใจให้ทุกคนทุกเทศกาล
แนะนำให้พักค้างแรมสัก 1 คืน
กับสัมผัสวิถีชีวิตจันทบุรี
นางสาววณิชชา
กล่าวว่า
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจันทบุรีพร้อมเผชิญความท้าทายที่จะร่วมกับรัฐบาลและทุกภาคส่วนยกระดับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลัก
เพียงแต่การก้าวสู่เป้าหมายให้สำเร็จได้อาจจะต้องได้รับปัจจัยหนุน 2 เรื่อง ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 การสนับสนุนจากภาครัฐ ระดับประเทศจากรัฐบาลไทย
เรื่องที่ 2 นโยบายวันหยุดต่อเนื่องเพราะเป็นช่วงดีที่สุดจะเพิ่มจำนวนและรายได้กระจายเข้าสู่พื้นที่ได้มากขึ้น
เพื่อกระตุ้นคนวัยทำงาน ครอบครัวที่มีลูก เติมเต็มวีคเอนด์มีโอกาสเดินทางและพักค้างต่างจังหวัด
เรื่องที่ 3 ต้องได้แรงเสริมเรื่องเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจอีก
2-3 ปี
เพราะสภาพความเป็นจริงปัจจุบันเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวต่างจังหวัดยังฟื้นได้ไม่เหมือนเดิม
ทางด้านของธุรกิจเอกชนมั่นใจในศักยภาพของโปรดักซ์ท่องเที่ยวสามารถเดินไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตอีกหลายปี
เพียงแต่ช่วงนี้หลังสถานการณ์โควิด
หากได้เม็ดเงินภาครัฐอัดฉีดจัดกิจกรรมงานอีเวนต์กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างน้อย 10
จังหวัด
ตามแผนยกระดับเมืองรองสู่เมืองหลัก โดยมานั่งคุยกันกำหนดทิศทาง
มีงบประมาณสนับสนุนชัดเจน ก็จะทำให้การขับเคลื่อนสามารถสำเร็จได้อย่างแน่นอน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์จัดเต็มช้อปออนไลน์รับวนไปถึง31ม.ค.นี้3คุ้ม
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ชวนทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ คิง
เพาเวอร์ ออนไลน์ พร้อมรับสิทธิประโยชน์ดีๆ
เริ่มได้เเล้วตั้งแต่วันนี้ ไปตลอดเดือนมกราคม 2567 กับมหกรรมช้อป วน ไป ได้ ไม่สิ้นสุด รับ 3 คุ้มค่า
ดังนี้
คุ้มที่ 1 : พิเศษ! สมัครสมาชิก KING POWER ONLINE รับส่วนลดทันที 800 บาท เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท พบกันสินค้าเเบรนด์ดังสุดฮอตมากมายให้คุณได้เลือกช้อป
พร้อมดีลสุดคุ้มที่มีมาให้วันนี้- 31 ม.ค. 67
คุ้มที่ 2 : คุ้มสุด! ทุกการช้อปออนไลน์
สำหรับสมาชิกที่ผูกบัญชีออนไลน์เรียบร้อยแล้ว
รับกะรัตรีวอร์ด 100 บาท = 1
กะรัต หรือจะใช้กะรัต แทนเงินสด 1 กะรัต = 1 บาท ก็ได้
คุ้มที่ 3 : ลูกค้าสามารถผ่อนสบายนานสูงสุด 10 เดือน ผ่อน 6 เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000 บาท ผ่อน 10 เดือน เมื่อช้อปครบ 15,000 บาท อีกทั้งสามารถรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 11,000 บาท ผ่านทางธนาคารที่ร่วมรายการ
หากไม่อยากพลาด ดีลพิเศษจากทางคิง เพาเวอร์ ออนไลน์ Download App King Power Online ไว้รอได้เลย!!
สำหรับสินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้า-ขาออก
ข่าวที่ 2 ช้อปปัง!!คิงเพาเวอร์ 10บัตรเครดิตแจกเงินคืนสูงสุด17%
ช้อปคุ้มฉลองปีใหม่ 2024
ช้อปผ่านบัตรเครดิต แฮปปี้ตั้งแต่ต้นปีรับคืนสุดคุ้มผ่านเครดิตที่ร่วมรายการ 1.รับ CASH
BACK คืนสูงสุด 17% แล้วยังเลือกแบ่งชำระ นานสูงสุด 10 เดือน รับเต็ม ๆ แบบนี้ มีที่ คิง เพาเวอร์ เท่านั้น
ทางพันธมิตรบัตรเครดิตธนาคารดังตบเท้าเข้าร่วมคึกคัก
1 – 31 มกราคม 2567 ที่ คิง เพาเวอร์ ช้อปได้อย่างสบายใจรับเงินคืนสูงสุด 17 % ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคารที่มีให้เลือกถึง 10
บัตรด้วยกัน 1.บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ และคาร์ดเอกซ์ 2. บัตรเครดิตกสิกรไทย 3.บัตรเครดิตอเมริกัน เอ็กซ์เพรส 4.บัตรเครดิตออมสิน
5.บัตรเครดิตซิตี้ 6.บัตรเครดิตกรุงศรี 7.บัตรเครดิตกรุงศรี เฟิร์สช้อย วีซ่า 8.บัตรเครดิต KTC 9.บัตรเครดิตทีทีบี ทีเอ็มบี และธนชาต 10.บัตรเครดิตยูโอบี
ข่าวที่
3 ททท.หารือคณะจีนบูมปีมังกรทองตรุษจีนในไทยก.พ.67
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้นำคณะผู้บริหาร ททท. ร่วมหารือกับ Ms. Chang Yumeng ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน Mr. Que Xiao Hua ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน
และคณะ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 เตรียมจัดงานเทศกาลตรุษจีน
ปีมังกรทองปี 2567 ในประเทศไทย เพื่อเฉลิมฉลองพร้อมกันใน 2
โอกาสสำคัญปีนี้ คือ การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน
ครบรอบ 49 ปี และความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
ระหว่าง ททท. กับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวสาธารณรัฐประชาชนจีน ครบรอบ 19
ปี
โดย ททท.ได้นำเสนอกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมไทย-จีน เดินหน้าผลักดันให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนของคนไทยและชาวต่างชาติ
ด้วยการจัดอย่างยิ่งใหญ่ ตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ด้วยกิจกรรมไฮไลต์ การตกแต่งประดับไฟ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ
ถนนเยาวราช เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-จีน ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตจีน
ประจำประเทศไทย กับศูนย์วัฒนธรรมประเทศจีน
ยินดีจะสนับสนุนการแสดงสุดพิเศษจากมณฑลฝูเจี้ยน มาร่วมแสดงช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ด้วย
ผู้ว่าฯ ฐาปนีย์ กล่าวว่า ททท . หวังให้กิจกรรมช่วงเทศกาลตรุษจีนจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้นักท่องเที่ยว รวมถึงไทยเองพร้อมสร้างประสบการณ์และความประทับใจ
สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นนักท่องท่องเที่ยวจีนเลือกเดินทางท่องเที่ยวไทยตลอดปี
2567
ให้ได้ตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน
ข่าวที่
4 “บางจาก-BTS”เปิดแล้ว!!บริการมอไซต์ไฟฟ้าปิ่นโตรักษ์โลก
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้รับเกียรติจากนายสมศักดิ์
เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานเปิดตัว
“รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto (ปิ่นโต)” โดย บริษัท สมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด (Smart EV Bike) บริษัทร่วมทุนของ บริษัท
วินโนหนี้ จำกัด (Winnonie) ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในกลุ่มบริษัท บางจาก จับมือกับ บริษัท บีทีเอส
กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง
(วินมอเตอร์ไซค์) พื้นที่บริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส
เพื่อสร้างบริการขนส่งสาธารณะระบบรอง หรือ Feeder เพิ่มความสะดวก
ปลอดภัย แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กับช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้มีอาชีพขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างสาธารณะด้วย
ทางบางจากฯ ได้นำร่องพัฒนาวินโนหนี้เป็นสตาร์ทอัพในองค์กรมาตั้งแต่ปี
2563 โดยนำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามายกระดับคุณภาพชีวิตของผู้รับจ้างสาธารณะ
ให้เช่าพร้อมกับมีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์กาวเข้าสู่ธุรกิจรถไฟฟ้าของบางจาก
และสร้าง Net Zero Ecosystem หรือระบบนิเวศให้บรรลุเป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ตามเป้าหมายปี
2593
พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายวินโนหนี้มุ่งมั่นเป็นผู้นำให้บริการแพลตฟอร์มสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Battery as a Service (BaaS) รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ปี 2573 จะมีผู้ใช้งาน 60,000 ราย และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 3,000 แห่ง เพิ่มจากปี
2566 มีในพื้นที่กรุงเทพฯ และรอบปริมณฑล มีผู้ใช้งานแล้วกว่า
1,000 ราย กับสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 120 แห่ง เป็นแผเดินหน้าส่งเสริมการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ
สนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม ผนวกรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับแนวโน้มของประเทศและของโลก
ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่ “ดีต่อเราและต่อโลก
การขับเคลื่อนครั้งนี้ถือเป็น Win-Win Solution ครบ 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ช่วยให้ชีวิตผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ดีขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเช่าใช้จักรยานยนต์ ประมาณเดือนละ 4,000 บาท หรือ 48,000 บาท/คน/ปี รวม 48 ล้านบาท/ปี ด้านที่ 2 โลกดีขึ้น จากการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
วินโนหนี้วิ่งใช้งานแล้วกว่า 42 ล้านกิโลเมตร ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปประมาณ
2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ ลดการเกิดฝุ่น PM2.5 และมลภาวะทางเสียง ด้านที่ 3 ประเทศดีขึ้น จากการที่วินโนหนี้ พัฒนาโดยคนไทยในเมืองไทย ทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรม
การพัฒนาคนและการสร้างงานในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้วินโนหนี้มีความก้าวหน้าทางธุรกิจครั้งสำคัญ ที่ได้ร่วมเริ่มต้นธุรกิจให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส
พร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนอัตโนมัติครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ
และปริมณฑล โดยเฉพาะสถานีที่จะตั้งเพิ่มเติมตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส เพิ่มความสะดวกและเพียงพอรองรับการใช้งานมากขึ้น
เพื่อให้ผู้โดยสารบีทีเอสมีประสบการณ์การเดินทางแบบ First
Mile to Last Mile ด้วยพลังงานสะอาด เริ่มตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านจนถึงกลับเข้าบ้านด้วยการบริการขนส่งสาธารณะที่ใช้ไฟฟ้าตลอดเส้นทาง
อีกทั้งการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในไทยมีโอกาสเติบโตอีกมาก หากได้รับการสนับสนุนและผลักดันจากหน่วยงานรัฐในประเด็นต่าง
ๆ อย่างน้อย 5 เรื่อง เช่น 1.การสนับสนุนค่าพลังงานไฟฟ้าในราคาพิเศษ
ตามสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 2.การจัดตั้งหน่วยงานกลางแบบ One
Stop Service ในการขออนุมัติการติดตั้งมิเตอร์ หรือ 3.การพิจารณากฏหมาย เช่น กฎหมายขนส่ง
การจดทะเบียนป้ายเหลือง การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า กฏหมายเกี่ยวกับวินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า
4.การสนับสนุนการขึ้นทะเบียนและการทำ Carbon
Credit Certificate
5.มาตรการสนับสนุนอื่นๆ เช่น การทำประกันภัยของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า การให้ใช้พื้นที่หน่วยงานภาครัฐหรือกรุงเทพมหานคร เพื่อทำจุดติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่
โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่หรือในอัตราพิเศษ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงทุนวิจัยและพัฒนา
ทั้งนี้ ในงานเปิดตัว “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto (ปิ่นโต)” เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2567 มีผู้บริหารจากแต่ละหน่วยสำคัญเข้าร่วมสนับสนุนอย่างคับคั่ง คือ นายวิศณุ
ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามมาร่วมภายหลังช่วงเยี่ยมชมการสาธิตการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายกวิน กาญจนพาสน์ และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา
ผู้บริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และแขกผู้มีเกียรติ
ซึ่งจัดขึ้นบริเวณ ลานจอดแล้วจรสถานีบีทีเอสหมอชิต
ช่วงที่ 2 สุขทันทีที่เที่ยว “พิษณุโลก” สายบุญ สายธรรมะ
ปักหมุดออกเดินทางไปเช็คอินวัดศักดิ์สิทธิ์แต่ละสไตล์ได้ 9 วัด
แล้วฟัง “5อาหารและเครื่องดื่มตัวช่วยบำรุงสมอง”
เกาะติดข่าวฮ็อตรับปีใหม่ ข่าวแรก “การบินไทยคืนเงิน” ค่าRefund ตั๋วเครื่องบิน กับบัตรท่องเที่ยว รอคิวรับได้เลย ข่าวที่สอง
“ไทยทำสถิติโกยเงิน 6,602 ล้านบาท”
โลเกชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ของทั่วโลก
ท่องเที่ยว – สุขทันทีที่เที่ยว“พิษณุโลก”ทัวร์สายบุญสายธรรม9วัดดัง
สุขทันทีที่เที่ยวเมืองไทย
ทำให้ชีวิตดี๊ดีรับปีใหม่ 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานพิษณุโลก ชวนกันไปไหว้พระ 9 วัด
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เสริมมงคลเพิ่มความปังแบบครอบจักรวาลพร้อมเก็บแต้มบุญปัง
ๆ ต้อนรับปีมังกร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวพิษณุโลก
ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั่วจังหวัดได้ถึง 9 พิกัด
พิกัดที่
1 วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร -มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วไป
เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินราช”
พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดใประเทศไทยและสวยงามที่สุดในโลก
พิกัดที่
2 วัดนางพญา -
เป็นวัดสำคัญที่บรรดาเกจิพระเครื่องจะรู้จักกันเป็นอย่างดี
เพราะมีสุดยอดพระที่เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคี เรียกกันว่า
พระนางพญาเป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยม
พิกัดที่
3 วัดราชบูรณะ -เป็นวัดที่มีอายุยาวนานนับพันปี
ทำให้มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน
พิกัดที่
4 วัดโพธิญาณ
-บริเวณอุโบสถเก่าและฐานเจดีย์เก่าที่เป็นโบราณสถานสมัยอยุธยา อายุกว่า 600 ปี โดยมีพระพุทธรูปสองพี่น้องนามว่า
"หลวงพ่อทองผุด-หลวงพ่อเงินผุด"
พิกัดที่
5 วัดจันทร์ตะวันตก -
เป็นวัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมอันวิจิตงดงาม โดดเด่นด้วย มหาวิหารสมเด็จองค์ปฐม
สีทองอร่าม และ หลวงพ่อทองไหลมา
พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรประทับยืนขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ด้านหน้า
พิกัดที่
6 วัดจันทร์ตะวันออก -เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ยังมี
"ศาลสมเด็จพระสุพรรณกัลยา" วีรสตรีผู้เสียสละเพื่อแผ่นดิน
พิกัดที่ 7 วัดตาปะขาวหาย -ไหว้สักการะศาลเทพตาปะขาว
ที่ได้เคยแสดงอภินิหารให้ปรากฏหลายครั้งหลายหนจนเป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวบ้าน
พิกัดที่ 8 วัดจุฬามณี -หากได้มาเยือนวัดแห่งนี้แล้วจะต้องไม่พลาดมากราบไหว้ขอพร
“หลวงพ่อเพชร”
พิกัดที่
9 วัดสะกัดน้ำมัน -ไหว้สักการะ และเที่ยวชมโบสถ์ของวัดสะกัดน้ำมันที่ได้สร้างขึ้นใหม่นั้นมีความงดงามมาก
ททท. สำนักงานโลก ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมทัวร์บุญ
สอบถามเพิ่มได้ทุกวันทำการปกติ เวลาราชการ จันทร์-ศุกร์ โทร.055-252742-3
สุขภาพ
–5อาหารเครื่องดื่มหาได้ใกล้ตัวช่วยการทำงานของสมอง
อาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมองเป็นหนึ่งในวิธีดูแลและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองที่หลาย
ๆ คนมองหา
เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันของหลายคนนั้นอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสมองได้โดยไม่รู้ตัว
ทั้งความเหนื่อยล้า ความเครียดจากการเรียนหรือทำงานนอนไม่หลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
จึงขอแนะนำ 1 ในวิธีการดูแลสมองอย่างง่าย ๆ ด้วยเลือกอาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมอง
ที่คนทั่วไปสามารถทำได้
เผื่อว่าใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลสุขภาพสมองอยู่จะได้ศึกษาและหามาลองดื่มกัน
5 อาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมอง ตัวช่วยดูแลสมองที่หาได้ใกล้ตัว
มีดังนี้
1. ซุปไก่สกัด -ปัจจุบัน
ซุปไก่สกัดถือเป็นเครื่องดื่มที่หาดื่มได้ค่อนข้างง่าย ประกอบไปด้วยอะมิโนไดเปปไทด์ อย่างแอนเซอรีน
และคาร์โนซีน
เป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายช่วยสร้างและซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ
ของร่างกาย รวมถึงอาจมีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของร่างกายตามอายุได้อีกด้วย
งานวิจัยบางชิ้นพบว่า การที่ร่างกายได้รับอะมิโน 2 ชนิดนี้อาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของกระบวนการคิดและการรับรู้ของสมองได้
หากดื่มซุปไก่สกัดเป็นประจำอาจมีส่วนช่วยให้เลือดในร่างกายไหลเวียนนำออกซิเจน
ไปเลี้ยงสมองส่วนหน้าได้ดีขึ้น ที่ทำหน้าที่ความจำและควบคุมสมาธิ
2. ขิง อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด
โดยในด้านประโยชน์ต่อสมอง มีงานวิจัยที่พบว่า ขิงอาจมีส่วนช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์ประสาท
(Neurodegenerative
Diseases) ได้ โดยตัวอย่างโรคกลุ่มนีเช่น โรคพาร์กินสัน
หรือโรคอัลไซเมอร์
3. ธัญพืชเต็มเมล็ด หรือธัญพืชไม่ขัดสี (Whole Grains) เช่น
ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด หรือควินัว เป็นกลุ่มอาหารที่ให้สารอาหารดี ๆ มากมาย
โดยเฉพาะกลุ่มวิตามินบี สำคัญต่อระบบการทำงานของประสาทและสมอง แตกต่างกันไป เช่น บี
3 เป็นวิตามินทำงานของสมองในด้านความจำ อีกทั้งยังมีงานวิจัยบอกว่าอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์
ช่วยให้กระบวนการทำงานของสมองด้านความคิด ความจำ
และการรับรู้ดีขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้ และวิตามินบี 6 , 9, 12 อาจมีส่วนช่วยควบคุมระดับโฮโมซิสเทอีน
หรือโปรตีนชนิดหนึ่งที่หากมีการสะสมในร่างกายมากเกินไป อาจส่งผลให้สมองและเซลล์ประสาทมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอจนเพิ่มความเสี่ยงให้ร่างกายเกิดภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้
4. น้ำมันมะพร้าว หนึ่งในวัตถุดิบที่อาจมีส่วนช่วยบำรุงสมอง
จะมีสารอาหารหลัก ๆ อย่าง ไขมันอิ่มตัวที่เป็นไตรกลีเซอไรด์สายยาวปานกลาง (Medium Chain Triglyceride: MCT) และสารช่วยต้านการอักเสบอยู่มาก
ซึ่งอาจมีส่วนช่วยบำรุงสมองด้านกระบวนการคิด ความจำ การรับรู้ และการตัดสินใจ
5. โสม เป็นพืชที่มักพบสารจินเซนโนไซด์ และสารจินโทนิน
อยู่มาก ถือเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน
ซึ่งรวมถึงอวัยวะสำคัญอย่างสมองด้วยเช่นกัน งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการบริโภคโสมเป็นประจำติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหลายปีอาจมีส่วนช่วยให้กระบวนการคิด
ความจำ หรือการตัดสินใจของสมองในช่วงที่เริ่มมีอายุมากขึ้นทำงานดีขึ้นได้
แม้อาหารและเครื่องดื่มบำรุงสมองจะมีประโยชน์
แต่การบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ และสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพใด ๆ
อยู่ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อนเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก
–เฮ!!บินไทยเปิดรีฟันด์คืนเงินค่าตั๋วบัตรทัวร์ใน45-90วัน
บริษัท การบินไทย จำกัด
(มหาชน) รายงานว่า ขณะนี้การบินไทยเปิดให้ผู้โดยสารหรือเจ้าหนี้ที่ที่ยื่นเรื่อง “ขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสาร”
หรือขอทำ Refund ตั๋วการบินไทยหลังวันที่
14 กันยายน 2563 พร้อมเอกสารหลักฐานที่สมบูรณ์ ผ่าน THAI Contact Center และห้องตั๋วโดยสารการบินไทย ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการและรอคิวการคืนเงินตามช่องทางเดิมในการซื้อตั๋วเครื่องบินและการชำระเงิน
กรณีซื้อผ่านเอเย่นต์หรือตัวแทนขายตั๋วการบินไทย จะต้องติดต่อตรงกับบริษัทที่ผู้โดยสารซื้อมาตั้งแต่แรก
ช่องทางการคืนเงินจะโอนเข้าบัตรเครดิตหรือคืนเงินสด โดยจะใช้เวลาดำเนินการภายใน
45-90 วัน
สำหรับแนวทางการคืนเงินค่าตั๋วโดยสารของการบิน
ปัจจุบันยังคงมีจำนวนคงค้างอยู่ในระบบ และรอการคืนเงินตามลำดับการยื่นเอกสาร หากก่อนหน้าผู้โดยสารที่ไม่ได้แจ้งความประสงค์การขอคืนเงิน
ทาง บมจ.การบินไทย จะเปิดช่องทางให้แจ้งความจำนงยื่นขอคืนเงินค่าตั๋วดังกล่าว และขอคืนบัตรกำนัล
รวมถึงตรวจสอบสถานะการขอคืนเงินตั๋วกับบัตรกำนัลดังกล่าวผ่านลิงค์เว็บไซต์แยกตามประเภท
3 ช่องทาง ดังต่อไปนี้
ช่องทางที่ 1 ขอเงินคืนค่าตั๋วโดยสาร หรือ Refund Ticket
ผ่านเว็บไซต์ https://www.thaiairways.com/en_TH/help/contact_us/request_refund_ticket.page
ช่องทางที่
2 ขอคืนเงินบัตรกำนัล หรือ Refund Travel
Voucher ผ่านเว็บไซต์
https://www.thaiairways.com/en_TH/help/contact_us/request_refund_tva.page
ช่องทางที่
3 ตรวจสอบสถานะการขอคืนเงินตั๋วและบัตรกำนัล หรือ Check
refund status ผ่านเว็บไวต์
https://www.thaiairways.com/en_TH/book/check_refund_status.page
รวมทั้งผู้โดยสารหรือลูกค้าการบินไทย
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ THAI Contact Center 0-2356-1111
ตลอด 24 ชั่วโมง และ Email : contact@thaiairways.com
ข่าวที่สอง
-ไทยทุบสถิติปี66โลเคชั่นถ่ายทำหนังโลกโกย6.6พันล้าน
นายจาตุรนต์
ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่า ทางกรมการท่องเที่ยวมีรายงานสถิติของต่างประเทศเลือกไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์นานาชาติปี
2566 ของกรมการท่องเที่ยวตามข้อมูล ณ วันที่31
ธันวาคม 2566
ทั่วโลกเข้ามาถ่ายทำ 40 ประเทศ รวมทั้งหมด
466 เรื่อง กระจายใช้เงินลงทุนเข้าสู่การท่องเที่ยวทั่วเมืองไทยในภาพรวมกว่า
6,602 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2565
เกือบ 2,000 ล้านบาท โดยไทยได้รับความสนใจและใช้เงินลงทุนมากที่สุด
อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา
34 เรื่อง ใช้เงินลงทุนกว่า 3,184
ล้านบาท อันดับ 2 เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ใช้เงินลงทุนกว่า 707 ล้านบาท และรองลงไปตามลำดับอีก 3 ประเทศ
คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน เยอรมนี เกาหลี
ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีทำให้สถานที่ท่องเที่ยวของไทยเป็นทำเลในตลาดถ่ายทำภาพยนตร์หรือ
Film Location เนื่องจากรัฐบาลกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย
หรือ Incentive Measure สร้างแรงจูงใจในรูปแบบคืนเงินสูงสุด
20 % กระตุ้นให้กองถ่ายทำภาพยนตร์นานาชาติตัดสินใจเข้ามาลุงทุนถ่ายทำในไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตลอดปีที่ผ่านมา
สำหรับกองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศ
(TFO Thailand Film Office) ได้จัดอันดับในประเทศที่ผู้สร้างภาพยนตร์ทั่วโลกนิยมเลือกทำเลถ่ายทำมากที่สุด
5 จังหวัดแรก ประกอบด้วย
อันดับที่ 1
กรุงเทพมหานคร จำนวน 282 เรื่อง เช่น วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร สถานีรถไฟหัวลำโพง
และอื่น ๆ
อันดับที่ 2
ชลบุรี จำนวน 77 เรื่อง เช่น ถนนเรียบชาดหายพัทยา เกาะล้าน
เกาะสีชัง
อันดับที่ 3
สมุทรปราการ จำนวน 60 เรื่อง เช่น เมืองโบราณ The Studio
Park ท่าเรือศุภนาวา
อันดับที่ 4
ปทุมธานี จำนวน 52 เรื่อง เช่น ACTS Studio มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
มหาวิทยาลัยรังสิต
อันดับที่ 5
ภูเก็ต จำนวน 47 เรื่อง เช่น หาดพาราไดซ์ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต
พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี
นายจาตุรนต์ กล่าวว่านอกจากมาตรการส่งเสริมแรงจูงใจแล้ว
การที่คณะจากต่างประเทศทั่วโลกเลือกเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง
ช่วยตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศมีขีดความสามารถพร้อมเป็นโลเคชั่นดังกล่าวตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้สร้างหนังได้เป็นอย่างดี
กระจายรายได้สู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผนวกกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ก่อให้เกิดห่วงโซ่ในระบบเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งเด่น 4 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่ 1 การจ้างงานทีมคนไทย เรื่องที่ 2 ใช้จ่ายเงินเช่าสถานที่และอุปกรณ์การถ่ายทำ
เรื่องที่ 3 เพิ่มรายได้สู่อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร
สินค้าท้องถิ่น และอื่น ๆ เรื่องที่ 4 ประชาสัมพันธ์ซอฟท์ เพาเวอร์ 1 ใน 5F คือ F:Film ด้านต่าง ๆ ของเมืองไทยผ่านกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ
สร้างการรับรู้สู่สายตาผู้ชมทั่วโลกทำให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวจากนานาประเทศหันมาเลือกเดินทางตามรอยการถ่ายทำภาพยนตร์ในอนาคตเข้ามายังไทยเพิ่มขึ้นตามนโยบายรัฐบาลต่อไป
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น