ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อรุษ นวราช จัดบิ๊กอีเวนต์งานมหกรรมสังคมสุขใจ 2567


อรุษ นวราช 
ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดลและเลขามูลนิธิสังคมสุขใจ


 “อรุษ นวราช”นำทัพธุรกิจอินทรีย์เปิดสังคมสุขใจ

ดึงTCEBจับคู่ธุรกิจ-ททท.ขายเส้นทางทัวร์ทั่วไทย

ปี67ผู้ผลิตโต20%/TOCAงัดฟีเจอร์ใหม่ลดคาร์บอน

ช้อปสุขที่คิงเพาเวอร์ออนไลน์แจกโปรปังลด15%

 สมาชิกคิงเพาเวอร์HappySave/ช้อปรับตั๋วบินฟรี

บางจากผนึกสีสันดอยตุงชวนท่องเที่ยวลดคาร์บอน

ททท.งัดExperienceForum2024ดึงเมกา1.4ล้านคน

เที่ยวเหนือชมนางพญาเสือโคร่ง5จังหวัด26เส้นทาง

แนะกิน7ผักต้านมะเร็งหารับประทานได้ง่ายใกล้ตัว

สมาคมTTAAบูมเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกโกย300ล้าน

สิงคโปร์แอร์เปิดปังบัตรเดินทางUOBคริสฟลายเออร์

วันเสาร์ที่  21 มกราคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #เทศกาลเที่ยวดอกพญาเสือโคร่งภาคเหนือ  #อรุษนวราช #งานสังคมสุขใจ2567

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/pIkSgljYg8/?mibextid=UyTHkb

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ “อรุษ นวราช” ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดล และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ เปิดพื้นที่สวนสามพราน ดึงเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วไทย 200 บูธ ร่วมงานใหญ่ “สังคมสุขใจ” 26-28 ม.ค.67 ชวน TCEB หนุนเวทีจับคู่ธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร พบผู้ผลิต ปี67 พร้อมโต 20 % ส่วน “ททท.” ผนึก TEATA เปิดเส้นทางเที่ยวเกษตรอินทรีย์เมืองยอดนิยม ร่วมผลักดันแหล่งเพาะปลูกโตมาก 1 ล้านไร่ นำสมาคม TOCA ต่อยอดแพลตฟอร์มเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ วัดค่าคาร์บอน ชี้เป้ารายละเอียดเครือข่ายสมาชิก

 

นายอรุษ นวราช ผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดล และเลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ เปิดเผยว่า เตรียมต้อนรับปีใหม่ 2567 จัดมหกรรมงาน “สังคมสุขใจ” ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 26-28 มกราคม 2567 บริเวณตลาดสุขใจ สวนสามพราน จ.นครปฐม เป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ในการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์โดยมีเกษตรกรทุกภาคของทั่วประเทศนำสินค้าไร้สารเคมีมาร่วมออกบูธฟรีเพื่อร่วมมือกันขยายตลาดการขายกว่า 200 บูธ มีทั้งผลิตภัณฑ์สด แปรรูป กับไฮไลต์สำคัญที่จะช่วยสร้างรายได้ และเศรษฐกิจควบคู่กันไปอีก 5 ส่วน

 

ส่วนที่ 1 เปิดพื้นที่จับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตกับคู่ค้าโรงแรม ร้านอาหาร ในวันที่ 26 มกราคม เวลา 14.00 น. โดยมีสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ส่งเสริมให้ผู้ซื้อกับผู้ขายจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ได้มาแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างกัน

 

ส่วนที่ 2 นำเสนอขายแพกเกจท่องเที่ยวเส้นทางเกษตรอินทรีย์ โดยมี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนทางสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA) รองรับความต้องการของผู้บริโภคนอกจากซื้อสินค้าอินทรีย์แล้ว ยังสนใจจะเดินทางไปตามเส้นทางซึ่งเป็นแหล่งผลิตเพื่อสร้างประสบการณ์เรียนรู้วิธีทำ เพื่อนำไปใช้ประยุกต์ใช้ในครอบครัว เพราะบางครั้งเกษตรกรก็สามารถเป็นพันธมิตรกับเราได้

ส่วนที่ 3 พื้นที่เครือข่ายเกษตรกรแหล่งผลิตโดยได้รับการสนับสนุนจากห้างสรรพสินค้าเครือเซนทรัล นำพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ปลูกและผลิตสินค้าอินทรีย์ต่าง ๆ วางขายในห้างสรรพสินค้าของเซ็นทรัล ทั่วประเทศ

ส่วนที่ 4 กิจกรรมเวิร์คช้อป เรียนรู้การทำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเกษตรอินทรีย์ ให้ผู้บริโภคที่เข้าเยี่ยมชมงาน นำความรู้ต่าง ๆ กลับไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้

ส่วนที่ 5 เปิดคลินิกเกษตรอินทรีย์ โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะได้นำนวัตกรรใหม่ ๆ มาเสนอเพื่อเปิดโลกกว้างให้กับผู้บริโภค และผู้ที่สนใจจะลงลึกเรื่องต่าง ๆ ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญด้านวิชากร และเกษตรกรที่มีประสบการณ์ลงมือเพาะปลูกด้วยตนเอง เนื่องจากเกษตรกรต้นน้ำสามารถเป็นได้ทั้งแหล่งความรู้ และมีความเป็นมืออาชีพทางด้านการปฏิบัติด้วย

 


นายอรุษ กล่าวว่า แนวโน้มปี 2567 สถานการณ์ของอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 “ผู้ผลิต” เติบโตประมาณ 20 % ยังค่อนข้างน้อย มีพื้นที่เพาะปลูกพืชอินทรีย์เพื่อบริโภคเพียง 1 ล้านไร่ ไม่ถึง 1 % ของพื้นที่ทั้งหมด จากเปรียบเทียบกับแหล่งทำการเกษตรทั้งประเทศมีอยู่ทั้งหมดถึง 150 ล้านไร่ “ผู้บริโภค” ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงการค้นหาแหล่งผลิตจริง ทางมูลนิธิกับทางสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ หรือ TOCA จึงต้องพัฒนาแพลตฟอร์มสร้างเครื่องมือให้เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างโปร่งใสเชื่อมั่นได้ตลอดห่วงโซ่การใช้บริการ

เนื่องจากปัจจุบันเกษตรอินทรีย์เป็นโมเดลขับเคลื่อน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ลดคาร์บอนไดออกไซต์ และคาร์บอนฟุตปริ๊นท์ให้กับประเทศและโลกที่กำลังก้าวสู่ภาวะโลกเดือดซึ่งรุนแรงกว่าโลกร้อน แนวทางการยกระดับเกษตรอินทรีย์ของเมืองไทยขยายตัวมากขึ้นจึงเป็นกลไกสำคัญ 2.เป็นเครื่องมือนำไปใช้ลดภาษีการปล่อยคาร์บอนในอนาคตได้ ตอนนี้จึงทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่หันมาสนใจซื้อสินค้าอินทรีย์มากขึ้น ทางสมาคม TOCA เองก็มีงานวิจัยซึ่งทำร่วมกับทาง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมมือกันประเมินสินค้าอินทรีย์แต่ละชนิดปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าสินค้าทั่วไปมากน้อยเท่าไร  ซึ่งจะนำมาจัดแสดงในงานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 9 ด้วย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ต่อไปได้


 

ส่วนสถานการณ์ “ตลาดการขายสินค้าเกษตรอินทรีย์” ในเมืองไทย ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นตามเทรนด์ เห็นได้จากเริ่มมีป้ายบิลบอร์ดโฆษณาเพิ่มขึ้นตามจังหวัดต่าง ๆ แต่ปัญหาตอนนี้ยังต้องพัฒนาปรับปรุงแต่ละจุดอ่อน เพราะผู้บริโภคยังหาผู้ผลิตที่แท้จริงไม่ค่อยเจอ ส่วนการเปิดเส้นทางท่องเที่ยว “วิถีอินทรีย์” ได้ร่วมกับทาง ททท.และสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย พัฒนาร่วมกันใน เชียงใหม่ ภูเก็ต และจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ผนวกกับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือ Eco Tourism ซึ่งจะเป็นช่องทางที่ดีทำให้ผู้บริโภคได้ไปรู้จักกับเกษตรกรตามแหล่งผลิต สร้างความตื่นตัวให้คนส่วนใหญ่หันมาตระหนักรู้ถึงการเข้ามามีส่วนร่วมเลือกกินอาหารอินทรีย์เพื่อช่วยลดคาร์บอนกับโลกร้อนได้ด้วย

นายอรุษกล่าวว่าปี 2567 ทางสมาคม TOCA วางแผนปี 2567 ผลักดัน TOCA Platform Version 2 ต่อยอดจากเวอร์ชั่นแรกพยายามเชื่อมโยงเกษตรกรอินทรีย์กับโรงแรมที่บริโภค ปีนี้จะต่อยอดเพิ่ม 1.ฟีเจอร์ เรื่อง “ปริมาณการซื้อสินค้าอินทรีย์ไปบริโภค” แล้วจะสามารถลดปริมาณคาร์บอนได้จำนวนเท่าไร 2.กิจกรรมอื่น ๆ เกี่ยวกับชีวิตสีเขียว Green Environment 3.รายชื่อร้านอาหารอินทรีย์ เส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งทางสมาคมมีทีมลงพื้นที่ภาคสนามขยายพื้นที่สังคมอินทรีย์ตามจังหวัดท่องเที่ยวแต่ละภาคของประเทศ เช่น ภาคเหนือ จังหวัดน่าน ภาคตะวันออก จังหวัดตราด และอื่น ๆ โดยมี ททท.เป็นกำลังสำคัญ 4.อัพโหลดโปรไฟล์ของเกษตรกรในแต่ละจังหวัด ซึ่งมีบริการแบบครบวงจร ปัจจุบันมีอยู่แล้วประมาณ 1,000 ราย จะทยอยเพิ่มรายละเอียดแต่ละแห่งเข้าไปให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้รับประโยชน์มากที่สุด

 


ในปี 2567 หวังจะให้สังคมอินทรีย์ตื่นตัวเรื่องหลัก ๆ ได้แก่ 1.เกษตกร เข้าร่วม PGS สินค้าอินทรีย์ของไทยสามารถมีใบรับรองมาตรฐานเทียบชั้นสากล 2.ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ใส่ใจเรื่องการบริหารจัดการขยะอาหารแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ แก้ปัญหาขยะซึ่งปัจจุบันยังใช้วิธีฝังกลบเป็นปัญหากับสิ่งแวดล้อมของประเทศและโลกอยู่มาก ในงานสังคมสุขใจจะสอนวิธีทำขยะอาหารเป็นปุ๋ยแบบง่าย ๆ รวมถึงลดต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 3.ผู้บริโภคทุกการเดินทางไปท่องเที่ยวตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองไทย นอกจากความสนุกสนานแล้วก็สามารถช่วยเหลือสังคมด้วยการเข้าร่วมสังคมอินทรีย์ รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมไปด้วยกัน

ดังนั้นจึงเชิญชวนให้มาร่วมชมงาน “สังคมสุขใจ” ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 26-28 มกราคม 2567 ได้จัดเตรียมทุกกิจกรรมให้ทุกคนมาเพิ่มประสบการณ์เรียนรู้ได้แบบครบจบในงานในเดียวนั่นเอง

ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 ช้อปสุขที่คิงเพาเวอร์ออนไลน์โปรปังลดแรง15%

 

ช้อปสุข…สนุกรับปีใหม่กับดีลดีสุดปัง HAPPY NEW JOURNEY รับปีมังกร 2024   ที่ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์เท่านั้น! โปรปังพร้อมเที่ยว รวมไอเทมแบรนด์ดังที่ให้คุณลูกค้าช้อปอย่างจุใจ ทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง แฟชั่นกระเป๋า แว่นตา นาฬิกา ไลฟ์สไตล์และอื่นๆอีกมากมาย

 

จัดเลย! พร้อมรอรับสินค้าง่ายๆสะดวกสบายที่สนามบิน ได้ทั้งขาเข้าและขาออก เริ่มตั้งแต่ต้นปี กับ NEW DROPS THIS MONTH  วันนี้ - 24  มกราคม 2567 ยกมาให้เลือกจุใจสินค้าแฟชั่นสุดอินเทรนด์ กระเป๋า แว่นตา  นาฬิกา และ Accessories มากมาย นำโดยแบรนด์ MCM, FURLA, COACH, SALVATORE FERRAGAMO, COCCINELLE, SWAROVSKI, DANIEL WELLINGTON, SEIKO, PRADA และแบรนด์ดังอีกมาก  ดีลสุดคุ้มขนาดนี้ ห้ามพลาด รีบช้อปและรอรับของที่สนามบิน  กับโปรดีได้เที่ยวฟรีด้วย ดังนี้

 

ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท รหัสส่วนลด JAN10

ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด JAN15

 

สำหรับสินค้า Duty Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน ช้อปได้ทั้งขาเข้าขาออก

 

รับสิทธิที่ต้องห้ามพลาด 1.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน  2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง  (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) 4. รับเลย! ส่วนลด 200 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์  5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ) 

 


ข่าวที่ 2  สมาชิกคิงเพาเวอร์HappySave/ช้อปรับตั๋วบินฟรี

 

คิง เพาเวอร์ ให้ฉลองความสุข Happy Save Happy 2024   สมัครสมาชิกใหม่ คิง เพาเวอร์ วันนี้ 31 มกราคม 2567 เติมเงินแล้วรอรับฟรีทันที 2,000 บาท นำไปใช้แลกซื้อสินค้าได้ที่คิง เพาเวอร์ ทั่วประเทศ และทางออนไลน์ที่ kingpower.com และแอป King Power ใช้ได้กับสินค้าและแบรนด์ที่ร่วมรายการ ที่ร้านสาขาในเมืองของคิง เพาเวอร์ ทั้ง 4 แห่ง คือ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต

 

ส่วนสมาชิกใหม่สมัครบัตร SCARLET ช้อปสนุกให้ครบ 35,000 บาท รับไปเลยตั๋วเครื่องบินฟรี กรุงเทพฯ ไปฮ่องกง เมื่อได้แล้วก็ให้วางแผนจองการเดินทางเที่ยวฮ่องกงให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 30 มิถุนายน 2567 ผู้โดยสารต้องจ่ายเพิ่มเองคือ ภาษีสนามบินและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ รีบสำรองที่นั่งด้วย เพราะสายการบินจะมีจำนวนจำกัด โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดธนาคาร 

 

บอกไว้ล่วงหน้า เมื่อจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้โดยสารได้ แคมเปญส่งเสริมการขายรายการนี้ห้ามนำไปขายต่อให้คนอื่น และรหัสการจองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและคืนไม่ได้

 

สอบถามเพิ่มได้ที่ ติดต่อ King Power Contact Center 1631

 

ข่าวที่ 3 ททท.งัดExperienceForum2024ดึงเมกา 1.4 ล้านคน

 

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. เปิดเผยว่า ททท. จัดกิจกรรม Amazing Thailand Experience Forum 2024 ภายใต้แนวคิด Come Discover Your Thailand  เมื่อ 13 – 19 มกราคม 2567 โดยนำนำผู้ประกอบการไทยกลุ่ม Luxury จากแคนาดาและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่าย Virtuoso จำนวน 35 ราย ตั้งโต๊ะเจรจาซื้อขายหรือ Table Top Sales กับผู้ประกอบการไทย 70 ราย  คาดสร้างให้เกิดการนัดหมายทางธุรกิจไม่ต่ำกว่า 2,450 นัดหมาย   รวมถึงได้ชวนมาทัศนศึกษาตามเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองไทย นำเสนอประสบการณ์ Meaningful Travel      ขยายฐานตลาดคุณภาพด้วยความพร้อมสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีความพร้อมและมาตรฐานสูง

 

ปี 2567 ททท. ตั้งเป้าหมายภาพรวมจะนำนักท่องเที่ยวภูมิภาคอเมริกาเที่ยวเมืองไทยให้ได้ทั้งสิ้นกว่า 1,400,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 100,000 ล้านบาท

 

ส่วนการจัด Amazing Thailand Experience Forum 2024 ต้อนรับตลาดหรูหรา Luxury เดือนมกราคม นี้ ได้นำเนอสินค้าที่โดดเด่น 3 หมวดหลัก ได้แก่ หมวดที่ 1 ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หมวดที่ 2 วัฒนธรรมไทยที่ทรงคุณค่า หมวดที่ 3 อัธยาศรัยไมตรีการต้อนรับของคนไทยอย่างอบอุ่นเป็นมิตร กับสมาชิกในเครือข่าย Virtuoso ซึ่งเป็นองค์กร Travel Consortium เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวลักชัวรี่ที่เดินทางมาเมืองไทยเข้าร่วมซื้อขายท่องเที่ยว สำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มาจากสหรัฐอเมริกา 20 ราย แคนาดา 15 ราย โดยได้ร่วมเจรจาธุรกิจ อัปเดตสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทยกับผู้ประกอบการไทย 70 ราย ที่โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok  

 

และเดินทางทัศนศึกษาสำรวจสินค้าการท่องเที่ยว 7 เส้นทาง แบ่งเป็น แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 5 เส้นทาง คือ เชียงใหม่ เชียงราย พังงา-ภูเก็ต (เกาะยาวใหญ่) และกระบี่  ผนวกกับเส้นทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Route) 2 พื้นที่ คือ กรุงเทพมหานคร และ พระนครศรีอยุธยา ภายใต้เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STG) กระตุ้นให้เกิดการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวตลาดลักชัวรี่ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพมีพฤติกรรมการใช้จ่ายสูงกว่าตลาดภูมิภาคอเมริกาทั่วไปถึง 4.25 เท่า  

 

นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ททท.ใช้โอกาสที่ได้เชิญผู้ประกอบการทวีปไกลจาก แคนาดาและอเมริกา มาสำรวจเมืองไทยขยายโอกาสเรื่องการเผยแพร่ภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพหลักคือ Luxury Travel แล้วยังวางแผนนำเอกชนไทยไปโร้ดโชว์ เทรดโชว์ส่งเสริมตลาดกระตุ้นคนในภูมิภาคอเมริกาเดินทางมาไทยตลอดทั้งปี  เพราะเป็นตลาดมีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยตามสถิติปี 2566 พบว่านักท่องเที่ยวภูมิภาคอเมริกามาเที่ยวเมืองไทยทั้งสิ้น 1,255,936 คน ติด 5 อันดับแรกของต่างชาติเที่ยวเมืองไทย

 

ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา 905,753 คน แคนาดา 209,040 คน บราซิล 49,708 คน และนเม็กซิโก 31,277 คน ปี 2567 ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีพันธมิตรหลักเป็นปัจจัยสนับสนุน โดยเฉพาะ สายการบิน เช่น แอร์แคนาดา เปิดเส้นทางบินจากเมืองแวนคูเวอร์ – กรุงเทพฯ บินตรง 16 ชั่วโมงมายังไทย ช่วงตารางบินฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 จนถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2567 โดยช่วงที่มีความต้องการเดินทางสูงระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2567 จะให้บริการวันละ 1 เที่ยว (Daily Flight) หรือสัปดาห์ละ 7 วัน จากนั้นเดือนอื่น ๆ จะให้บริการสัปดาห์ละ 4 เที่ยว

 

ข่าวที่ 4 บางจากผนึกสีสันดอยตุงชวนท่องเที่ยวลดคาร์บอน

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  ชวนเที่ยวงานเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 10” ในแนวคิด “ดอกไม้ระบายดอย” ที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย  ทุกวันเสาร์- อาทิตย์ ตั้งแต่วันนี- 28 มกราคม 2567 ซึ่งทางบางจากได้ร่วมสนับสนุนการจัดงานและการชดเชย #คาร์บอนฟุตพริ้นท์ตลอดการจัดงานสีสันแห่งดอยตุง ประจำปี 2567 เพื่อร่วมรณรงค์นักท่องเที่ยวและผู้เข้าเยี่ยมชมงานตลอดเดือนหันมาใส่ใจให้ความร่วมในโครงการที่จะนำประเทศไทยเข้าสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ให้ได้ตามเป้าหมายในอนาคตปี 25693  

 

ภายในงาน “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 10” นักท่องเที่ยวจะได้พบกับไฮไลต์ 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1สวนแม่ฟ้าหลวงผสานภูมิทัศน์รูปแบบใหม่ เป็นทุ่งดอกไม้กว่า 100,000 ต้น โซนที่ 2 กิจกรรม workshop งานมือ บูธสิ่งแวดล้อม ร่วมสนุกกับเกมส์ bingo สิ่งแวดล้อม

สามารถสนุกไปด้วยกันกับประสบการณ์ใหม่ เทศกาลแห่งความสุขสูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมกิจกรรมที่ครบ! ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวอีกถึง 5 กิจกรรม ได้แก่

1.แชะ & แชร์10 ดอกไม้ฤดูหนาว กับมุมถ่ายรูปที่ตื่นตาตื่นใจกว่าทุกปี

2.ชิล กับ 10 กิจกรรมเพลิดเพลิน อาทิ ดนตรีอินดอย การแสดงชนเผ่า เวิร์กช็อปงานมือ

3.ชิม 10 เมนูเด็ดจากครอบครัว 6 ชนเผ่า ที่หาทานได้ยาก

4.ช้อป10 สินค้างานมือแรงบันดาลใจจากดอกไม้ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่หลากหลายบนดอยตุง

5.ช่วยโลก เพราะเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ได้ตั้งเป้าหมายให้เป็นงานที่เข้าร่วมโครงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น “ศูนย์” เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ปลุกจิตสำนึกผู้คนได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบโลกเดือด และโลกร้อน ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของทุกคน

 

            ช่วงที่ 2 ฤดูตามล่าสัมผัสความนางพญาเสือโคร่งมาถึงแล้ว ม.ค.-ก.พ.นี้ ททท.ภูมิภาคภาคเหนือจัดมาให้แล้ว 5 จังหวัด 26 เส้นทาง สุขทันทีที่ได้ชมดอยสวยด้วยซากุระเมืองไทย แล้วเลือกกิน “7ผักต้านมะเร็งหาง่ายใกล้ตัว” เกาะติดข่าวลึก ๆ ท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว” จัดกระหึ่ม “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” 700 บูธ โกย 300 ล้าน ข่าวที่สอง “UOBผนึกสิงคโปร์แอร์ไลน์ส” เปิดตัวบัตรเดินทางสุดปัง UOB คริสฟลายเออร์

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวเหนือชมนางพญาเสือโคร่ง5จังหวัด26เส้นทาง

 

มกราคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นห้วงเวลาท่องเที่ยวไปตามหุบเขาเพื่อตามล่าชมความสวย “นางพญาเสือโคร่ง” สุดโรแมนติก ทำให้ “มาเหนือ” ในต้นปีนี้เที่ยวฟินกว่าที่เคย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ภูมิภาคภาคเหนือ ชวนแอ่วเหนือช่วงต้นปี เดินทางมาตื่นตากับนางพญาเสือโคร่งหรือ ซากุระเมืองไทย ปีละครั้ง สวยสุด ๆ ช่วงเดียวเท่านั้น

 

ฤดูกาลความสวยงามทางธรรมชาติมาถึงแล้ว ตามภูเขาภาคเหนือลูกเล็กลูกใหญ่ธรรมชาติได้แต่งแต้มความสดใสด้วยสีชมพูพาสเทลละมุนตาน่ารักดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชื่นชมและเช็คอินด้วยตัวเอง

 

ปีนี้ ททท. ภูมิภาคภาคเหนือมีเส้นทางตามล่าเสือที่สุดโรแมนติก ใน 5 จังหวัด 26 เส้นทาง ให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัสประสบการณ์ “สุขทันที...ที่เที่ยวเหนือ” มาตามเช็คอินกันได้เลย ก่อนออกเดินทางสามารถโทรสอบถามเช็คข้อมูลการบานของดอกไม้ได้ที่ ททท. สำนักงานในแต่ละพื้นที่

 

จังหวัดเชียงใหม่ จัดเต็ม เที่ยวไทยในชมนางพญาเสือโคร่ง เลือกได้ 14 พิกัด ดังนี้

1.สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และ ไร่ชา 2000 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง

2.โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง

3.ป่าสนวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา

4.ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง

5.สะพานซากุระ ขุนวาง ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง

6.ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ หน่วยย่อยแม่จอนหลวง ตำบนแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม

7.ดอยค้ำฟ้า อุทยานแห่งชาติผาแดง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว

8.สถานีวิจัยเกษตรสันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว

9.หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว

10.หน่วยวิจัยต้นน้ำขุนแม่ยะ ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง

11.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง  ตำบลกิ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง

12.สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน  ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม

13.ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง

14.พระตำหนักดอยผาตั้ง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง

 

สอบถาม ททท.สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0 5324 8604 – 5

 

 

“จังหวัดแม่ฮ่องสอน” ชวนไปเช็คอินได้ 3 พิกัด

1.ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ท บ้านรักไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

2.ดอยขุนแม่ยะ ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย

3.ปางอุ๋ง ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน

สอบถาม ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร.0 5361 2982 – 3

 

“จังหวัดเชียงราย” เลือกได้ถึง 6 พิกัด ดังนี้

1.ดอยผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น

2.หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น

3.โรงเรียนบรรพตวิทยา โรงเรียนบรรพตวิทยา อ.เวียงแก่น

4.ดอยปางขอน ตำบลห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงราย

5.ดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย

6.ดอยแม่สลอง ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง

 

สอบถาม ททท.สำนักงานเชียงราย โทร.0 5371 7433

 

“จังหวัดน่าน” ดอกนางพญาเสือโคร่งเบ่งบานรออยู่แล้ว 1 พิกัดที่ หน่วยจุดการต้นน้ำขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย โทร.0 5471 1217 – 8

 

“จังหวัดพิษณุโลก” มาแล้วดอกซากุระเมืองไทยสัมผัสได้ใน 2 พิกัด ที่ 1.ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย 2.หมู่บ้านร่องกล้า อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย โทร. 0 5525 2742 – 3

 

เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวันทั้ง 365 วัน ออกมาเดินทางสร้างประสบการณ์ใหม่ “สุขทันที...ที่เที่ยวเหนือ” ให้การ “มาเหนือ” ในครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้งตลอดสองเดือนต้นปีมังกรทอง

 

สุขภาพ –7 ผักต้านมะเร็งที่หารับประทานได้ง่ายใกล้ตัว

   

การรับประทานผักมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการและยังอาจช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคมะเร็งได้ด้วย  เลือกรับประทานได้อย่างง่าย และอาจช่วยบำรุงสุขภาพได้ดีขึ้น ผักเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของวิตามินบี 9 วิตามินบี 12 วิตามินดี ซีลีเนียม คลอโรฟิลล์ และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์ ลูทีน หรือไลโคปีน เพราะสารอาหารเหล่านี้อาจมีคุณสมบัติช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงความเสียหายของเซลล์ภายในร่างกาย เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ นั่นเอง

การรับประทานผักเป็นอีกวิธีหนึ่งในการบำรุงสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาผักที่จะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่

1. กระเทียม -เป็นผักมีกลิ่นฉุนรุนแรง แต่ในกระเทียมมีสารประกอบกำมะถันชื่อ สารอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งอาจมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการก่อตัวของสารก่อมะเร็งที่ชื่อว่าไนโตรซามีน (Nitrosamines) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้หลายส่วน เช่น กระเพาะอาหาร หลอดอาหาร และลำไส้ใหญ่

องค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีรับประทานกระเทียมวันละ 1 กลีบเพื่อช่วยในการบำรุงสุขภาพ นอกเหนือจากกระเทียมแล้ว ผักในตระกูลเดียวกันอย่างหัวหอม หอมแดง หรือต้นหอม ก็อาจมีคุณสมบัติในการต้านโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกัน 

2. ผักใบเขียว เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารเบต้าแคโรทีน  กับสารลูทีน   จึงอาจมีคุณสมบัติเป็นผักต้านมะเร็งได้ แล้วผักใบเขียวยังอุดมด้วยใยอาหารและโฟเลต หรือวิตามินบี 9 ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมายด้วย สามารถหารับประทานได้ง่าย เช่น ผักโขม ผักกาดหอม และคะน้า

3. ผักตระกูลกะหล่ำ ทั้งกะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ หรือบร็อคโคลี่ ถือเป็นผักต้านมะเร็งอีกชนิดหนึ่ง เพราะอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีอย่างสารกลูโคซิโนเลต และสารซัลโฟราเฟน   ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงอาจช่วยลดการก่อตัวของสารก่อมะเร็ง ช่วยชะลอการเติบโตของเนื้องอก และช่วยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตายได้นั่นเอง

4. แครอท เป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งงานวิจัยพบว่าสารในแครอทอาจช่วยต่อสู้กับเชื้อไวรัสเอชพีวี  อาจเป็นปัจจัยหลักเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกได้ แล้วแครอทยังอุดมไปด้วยวิตามินเอบำรุงสายตา และมีสารพฤกษเคมีช่วยต้านโรคมะเร็งได้อีกหลายชนิดเลยทีเดียว

            5. มะเขือเทศ  อุดมไปด้วยสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมักพบได้ในผักผลไม้สีแดง จากงานวิจัยพบว่าสารไลโคปีนในมะเขือเทศอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนะนำให้รับประทานแบบผ่านการปรุงสุกแล้วหรือมะเขือเทศแปรรูปเป็นซอสหรือน้ำผลไม้ เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากสารไลโคปีนอย่างสูงสุด

6. ถั่ว เป็นผักต้านมะเร็งอีกชนิดหลายคนอาจมองข้ามไป เช่น ถั่วแดง อุดมด้วยใยอาหารในปริมาณมาก และมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกหลายชนิดที่มีสรรพคุณบำรุงสุขภาพหลายด้าน การรับประทานถั่วสัปดาห์ละประมาณ 2–3 หน่วยบริโภค อาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้

7. ขมิ้น เป็นสมุนไพรที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี และเป็นส่วนประกอบสำคัญในเมนูอาหารหลายชนิด ขมิ้นมีสารพฤษเคมีที่สำคัญชื่อว่าสารเคอร์คูมิน มีคุณสมบัติต้านนอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงสุขภาพได้หลายประการ จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งได้นั่นเอง ควรรับประทานขมิ้นบดวันละประมาณ 1–3 กรัม ใช้เป็นส่วนผสมเครื่องแกงในอาหาร และควรรับประทานร่วมกับพริกไทเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึม

 

มีงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผักต้านมะเร็งบางชิ้นยังเป็นเพียงงานวิจัยขั้นต้นที่ทำการศึกษาในหลอดทดลองหรือในสัตว์เท่านั้น ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเหล่านี้ จึงควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายและไม่ทำลายสุขภาพ 

รวมทั้งควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งอีกทางหนึ่ง เช่น เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน เลิกสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงควรตรวจสุขภาพประจำปีด้วย

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –สมาคมTTAAลุยจัดเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลกโกย300ล้าน

 

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เปิดเผยว่า สมาคม TTAA เตรียมนำสมาชิกผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยร่วมขายในมหกรรม “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 25-28 มกราคม 2567 ที่ เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 7-8 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.ตั้งเป้า 4 วัน จะช่วยสร้างรายได้สะพัดกว่า 300 ล้านบาท ภายในงานเปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบและรักการเดินทางท่องเที่ยวมาเลือกซื้อแพกเกจหลากหลายรูปแบบทั้งเที่ยวเมืองไทยและทั่วโลก จากบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวเอกชน ซึ่งจะเป็นอีกงานใหญ่ต้อนรับปีใหม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตลาดคนไทยเดินทางเที่ยวไทยและต่างประเทศคึกคักมากขึ้น

 

การจัดงาน “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” จะใช้พื้นที่ภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ขนาดกว่า 10,000 ตารางเมตร รองรับเอกชนกว่า 700 บูธ นำผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวมาเสนอขายโดยตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ตลอดงานผู้เข้าเยี่ยมชมจะได้พบกับโปรโมชั่นท่องเที่ยวราคาพิเศษพร้อมส่วนลดหลากหลายที่มีให้เลือกมากมายไม่ต่ำกว่า 7 ประเภท ได้แก่ 1.แพ็กเกจทัวร์ในประเทศและต่างประเทศ 2.ตั๋วโดยสารของสายการบินต่าง ๆ 3.ห้องพักโรงแรม/รีสอร์ท 4.แพกเกจทัวร์เรือสำราญ 5.บริการรถเช่า 6.ประกันภัยการเดินทาง 7.บูธขององค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ พร้อมใจกันนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวที่จะสร้างสีสันให้เกิดการเดินทางอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

 

นักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานยังจะได้สัมผัสโชว์และชมการแสดง ร่วมสนุกกับกิจกรรมแจกรางวัลบนเวทีตลอด 4 วัน คาดจะมีผู้สนใจร่วมกว่า 300,000 คน  สร้างเม็ดเงินซื้อขายการเดินทางท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ช่วยให้ธุรกิจมีเม็ดเงินหมุนเวียนเป็นสายป่านการดำเนินงานต่อไป

 

ทั้งนี้สมาคมไทยบริการการท่องเที่ยวตั้งเป้าหมายจัดงานใหญ่แห่งปี “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 29 : Thai International Travel Fair 2024 (TITF#29) ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจเอกชนกลุ่มบริษัทท่องเที่ยว (Travel Agent) สายการบิน และธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ  ได้นำสินค้าเด่น ๆ มาเสนอขายโดยตรงกับผู้ซื้อซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย สร้างตลาดการเดินทาง และกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้ตั้งแต่ต้นปีนำไปสู่การฟื้นตัวอีกครั้งหลังสถานการณ์วิกฤตโควิดที่เอกชนต้องเผชิญความยากลำบากมาหลายปี -เรื่องโดย เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน

 

ข่าวที่สอง -สิงคโปร์แอร์เปิดปังบัตรเดินทางUOBคริสฟลายเออร์

 

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เปิดตัวบัตรเครดิตยูโอบี คริสฟลายเออร์ เวิลด์ และ เวิลด์ อีลีท บัตรเครดิตโคแบรนด์ใหม่ขยายความร่วมมือกันระหว่าง กลุ่มธนาคารยูโอบีกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ต่อยอดความสำเร็จบัตรเครดิตและเดบิตคริสฟลายเออร์ ยูโอบีในสิงคโปร์ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นร่วมกันโดยจะมอบรางวัลและสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้าทั่วภูมิภาคด้วยสิทธิประโยชน์อัดแน่นด้านการเดินทางและไลฟ์สไตล์ มอบให้ผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบี คริสฟลายเออร์ ทั้ง 2 ประเภท สามารถรับคริสฟลายเออร์ไมล์ได้โดยตรงทุกการใช้จ่าย พร้อมเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษอีกมากมาย

 

นายธีรวัฒน์ ตรีรัตน์ดิลกกุล Head of Card Payment and Unsecured Products ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าว ว่า “เราเห็นถึงยอดการใช้จ่ายท่ีเกี่ยวข้องกับการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสส่ี ปี 2566 ซ่ึงเพิ่มข้ึนร้อยละ 15 จาก ไตรมาสก่อนหน้า การท่องเท่ียวถือเป็นการใช้จ่ายหมวดไลฟ์ สไตล์ท่ีสูงเป็นอันดับสอง รองจากซุปเปอร์มาร์เก็ตของผู้ถือ บัตรเครดิตยูโอบี ประเทศไทยที่มีรายได้ค่อนข้างสูง1 ธนาคารยูโอบีมีการน˚าข้อมูลการใช้จ่ายของลูกค้ามาวิเคราะห์เพ่ือ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป  โดยได้ขยายความร่วมมือกับหนึ่งในสายการบินดีที่สุดในโลก บัตรเครดิตยูโอบี คริสฟลายเออร์ ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมัน่ ของธนาคารในการน˚าเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า และการท˚างานร่วมกับพันธมิตรท่ีมีความคิดแบบ เดียวกันจะท˚าให้เราสามารถเติมเต็มความต้องการด้านไลฟ์ สไตล์ของลูกค้าในภูมิภาคได้”

 

นาย Ryan Pua รองประธานฝ่าย Loyalty Marketing สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กล่าวว่า “ด้วยเครือข่ายชัน้ น˚าในเอเชียและในไทยของธนาคารยูโอบี เรามีความยินดีท่ีได้ท˚างานอย่างใกล้ชิดกับยูโอบี ประเทศไทย เพ่ือดูแลและยกระดับสิทธิ ประโยชน์ให้แก่ผู้ถือบัตรชาวไทย ด้วยบัตรเครดิตยูโอบี คริสฟลายเออร์ เวิลด์ และ เวิลด์ อีลีทใหม่น้ี เรายังคงยืนยันค˚ามัน่ สัญญาของแบรนด์คริสฟลายเออร์ ท่ีจะมอบคุณค่าท่ียอดเยี่ยมและท˚าให้การเดินทางสะดวกสบาย เพลิดเพลิน และคุ้มค่า ยิ่งข้ึนส˚าหรับสมาชิกของเรา”

 

นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ด้านการเดินทางท่ีมากข้ึนในกลุ่มสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส นอกจากสมาชิกบัตรเครดิตยูโอบี คริสฟลายเออร์ เวิลด์ อีลีท จะได้รับ 1 คริสฟลายเออร์ไมล์จากทุก 12.50 บาท ท่ีใช้จ่าย ในรายการท่ีเกี่ยวข้องในกลุ่มสิงคโปร์  แอร์ไลน์ส           และทุกๆ            20        บาท      ใช้จ่ายในหมวดอื่นๆ2      สมาชิกยังจะได้รับ คริสฟลายเออร์ไมล์ จ˚านวน 20,000 ไมล์ เป็นโบนัสต้อนรับเมื่อใช้จ่ายครบ 50,000 บาท ภายใน 60 วัน นับจากวันท่ีบัตร เครดิตได้รับการอนุมัติ นอกเหนือจากนี้ สมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการท่องเท่ียว ได้แก่ บริการรถลีมูซีนรับส่งสนามบินทัว่ โลก 3 ครัง้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและบริการห้องรับรองในสนามบินนานาชาติ Dragon Pass Lounges ทัวโลกสูงสุด 6 ครัง้ ต่อปี

            ผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบี คริสฟลายเออร์ เวิลด์ จะได้รับ 1 คริสฟลายเออร์ไมล์จากทุก 15 บาท ที่ใช้จ่ายในรายการที่เกี่ยวข้อง ในกลุ่มสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส และทุก 20 บาท ใช้จ่ายในหมวดอื่น 3 สมาชิกยังจะได้รับคริสฟลายเออร์ไมล์ 5,000 ไมล์ เป็นโบนัสต้อนรับการใช้จ่ายครบ 20,000 บาท ภายใน 60 วัน นับจากบัตรเครดิตได้รับอนุมัติ แล้วสมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ บริการรถลีมูซีนรับส่ง ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ยกเว้นการใช้จ่ายจากการเติมน้ำมัน แม็คโคร ประกันภัย ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต กองทุนรวม สาธารณูปโภค และการใช้จ่ายของ มากกว่า 100,000 บาท ในรอบบิลบนPayAnything

โดยสาร ผ่าน Flying Orange และบริการห้องรับรอง Miracle Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิสูงสุด 2 ครัง้ ต่อปี เม่ือมี ยอดใช้จ่ายครบ 100,000 บาทต่อไตรมาส

นอกจากการได้รับคริสฟลายเออร์ไมล์เร็วขึ้นแล้ว ผู้ถือบัตรยังจะได้รับสิทธิพิเศษเมื่บินกับสิงคโปร์ แอร์ไลน์สและสกู๊ต เช่น อัพเกรดสถานะสมาชิกภาพคริสฟลายเออร์เร็วขึ้นเมื่อลูกค้าใช้จ่ายในกลุ่มสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส รวมถึงสิทธิประโยชน์การเดินทางของสกู๊ต เช่น เช็คอินและขึ้นเครื่องก่อน ได้รับน้ำหนักสัมภาระเพิ่มขึ้นและการเลือกที่นั่งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนหนึ่งจากการเฉลิมฉลองการเปิดตัว ผู้ถือบัตรใหม่ที่ได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 มีนาคม 2567 ยังสามารถลุ้น รับบัตรโดยสารชั้นธุรกิจสิงคโปร์แอร์ ไลน์ส บิไปยังลอนดอนหรือเมลเบิร์น เมื่อใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตยูโอบี คริสฟลายเออร์ ได้ด้วย

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai