ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โรงแรมรามาการ์เดนส์กรุงเทพฯเปิดแผนตลาดปี2567


นันทินี เชื้อชูวงศ์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ รามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ

“รามาการ์เดนส์”กรุงเทพฯพลิกโฉมธุรกิจรับปีมังกรทอง67

ตลาดMICEจีน-อินเดียคึกคัก-คว้ารางวัล12มาตรฐานสากล

วอนรัฐทบทวนภาษีหนุนเอกชนฟื้นท่องเที่ยวสู่ปกติ3ปีหน้า

ช้อปสุข!!คิงเพาเวอร์ออนไลน์แบรนด์หรูปีใหม่TOM FORD

รีบจัด!!สมัครบัตรคิงเพาเวอร์ม.ค.67ส่วนลดเบอร์ใหญ่4คุ้ม

เดอะสแตนดาร์ดจัดต่อบุฟเฟต์อาร์ตคาวหวานห้อง Tease

ททท.จ่อเพิ่มเป้าจีนเที่ยวไทยเกิน8ล้านหลังเลิกใช้วีซ่าปี67

บางจากโชว์ทำสำเร็จนำทั่วไทย/ปี67ลุยต่อยอดลดคาร์บอน

ม.ค.นี้สุขทันทีเที่ยวไทยเลือกที่ชอบใกล้ไกลได้หมด9พิกัด

7ข้อเรื่องกาแฟ...กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพจริง

เปิดดุสิตปริ๊นเซสพัทลุงรีสอร์ตอินเดอะซิตี้แห่งแรกภาคใต้

ออนิกซ์กรุ๊ปนำแบรนด์ไทยผงาดในมาเลย์เปิดใหม่3โรงแรม

 

วันเสาร์ที่  6 มกราคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #TCEB  #บางจาก #RamaGardens  #สุขทันทีที่เที่ยวไทย #365วันมหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้...https://fb.watch/pozEVSsK0j/?mibextid=Nif5oz

ช่วงที่ 1 เปิดใจ “นันทินี เชื้อชูวงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ นำทัพธุรกิจห้องพัก ครบวงจรขานรับลูกค้าไมซ์เอเชีย จีน อินเดีย แห่ประชุม/สัมมนา จัดอินเซนทีฟ ครั้งละ 100-1,000 คน ปรับกลยุทธ์หลังโควิดผนึกความร่วมมือทุกองค์กรคว้า 12 มาตรฐานสากล การันตีสุดยอดบริการคุณภาพดีปลอดภัยเต็มพิกัด ใช้กว่า 100 ล้านบาท แปลงโฉมเป็นโรงแรมสีเขียวและยั่งยืน เปิดฟาร์มแกะ ทำสวนเกษตรออร์แกนิก ป้อนครัวโรงแรม แบ่งขายสต๊าฟ วอนรัฐช่วยเอกชน 3 ปี พิจารณามาตรการภาษีดันรายได้ท่องเที่ยวคืนสู่ปกติ ตอนนี้ยอดพักรวมทำได้ 50-60 % ของปี’62

 


นางสาวนันทินี เชื้อชูวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาพรวมธุรกิจในเครือรามาการ์เดนส์ เริ่มจาก “ตลาดในประเทศ” กระแสตอบรับเหนียวแน่นยังคงเป็นกลุ่มหน่วยงานราชการ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มกำลังซื้อ MICE เช่นเดียวกับ “ตลาดต่างประเทศ” ลูกค้ารายใหญ่จะเป็น 2 ประเทศ ได้แก่ อินเดียเป็นกลุ่มที่ได้รับรางวัลการเดินทางท่องเที่ยวฟรี (incentive) กับประชุมสัมมนา และสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประชุมเป็นกรุ๊ป  และอีกหลายประเทศซึ่งมีขนาดตั้งแต่จำนวน 100-1,000 คน/ครั้ง พฤติกรรมใช้บริการไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยจะใช้จ่ายเงินโดยเน้นให้คุณค่าใช้ประโยชน์สูงสุดมากกว่าเดิม

                ตลาดต่างประเทศกลุ่มลูกค้า MICE จะนิยมใช้เงินมากที่สุดกับเรื่อง “อาหารระหว่างการประชุมสัมมนา” เน้นคุณภาพดีราคาสมคุณภาพ ส่วนมูลค่าเพิ่มที่ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นยุคใหม่จะเน้นการใส่ข้อมูลเชิงวิชาการ พัฒนาความรู้ใหม่ ๆ ให้ผู้เข้าอบรมสัมมนา จะไม่ได้เน้นความสนุกสนานเหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว

                ทางรามาการ์เดนส์ วางกลยุทธ์ปี 2567 โดยใช้ศักยภาพของโรงแรมรีสอร์ตที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 40 ปี การขับเคลื่อนโดยใช้ทีมพนักงานขายเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละตลาดดูแลอย่างใกล้ ด้วยคอนเซปต์โรงแรมเก่าอยู่กับตลาดมานานแต่ “ไม่แก่” เพราะได้ปรับปรุงพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทันสมัยอยู่ตลอด โดยเฉพาะการใช้โอกาสช่วงสถานการณ์โควิด-19 ปรับปรุงส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญ ทั้งบริเวณล็อบบี้โรงแรม ห้องประชุมต่าง ๆ ภายในห้องพัก คอริดอร์ กับสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด ดูแลรักษาด้านความสะอาดถูกสุขอนามัย

               


ปี 2567 ตั้งเป้าบุกตลาดต่างประเทศแถบประเทศเอเชียเป็นหลัก จึงได้พัฒนาบริการตามมาตรฐานระดับสูง โดยเข้าร่วมกับทุกองค์กรกว่าการันตีคุณภาพของโรงแรม 10 มาตรฐาน ซึ่งจะอยู่ไปจนถึงปี 2567-2569 เช่น 1.SHA Plus ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 2.Hotel Standard 4 Star ของมูลนิธิมาตรฐานโรงแรมไทยร่วมกับกรมการท่องเที่ยว 3.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB4 มาตรฐานหลัก ได้แก่ มาตรฐานการบริการการจัดงานอย่างยั่งประเทศไทย, TMVS : Thailand Mice Venue Standard, AMVS :Asian Mice Venue Standard, และ 2HY : Hygiene &Hybrid

 

4.Asian Tourism Standard ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 5.Asean Green Hotel ของกรมการท่องเที่ยว 6.Asian Green Hotel (Gold Award) ของกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 7.Thai Stop COVID ของกรมอนามัย 8.Free COVID Setting Stop COVID 2 Plus ของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับ กทม.

 


นางสาวนันทินีกล่าวว่า ทางโรงแรมได้ใช้เงินลงทุนเป็นค่าใช้จ่ายรวมแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท ทยอยปรับปรุงและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานกลุ่มที่ทักษะฝีมือ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ช่วงปี 2563-2565 รวมถึงปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุม และอื่น ๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวปี 2566 เริ่มฟื้นกลับมาได้ประมาณ 55-60 % จากสถานการณ์ปกติปี 2562

 

ในช่วงโควิด-19 ได้ทำให้เกิดอาชีพใหม่กับพนักงานโรงแรมที่ได้แสดงทักษะฝีมือระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ต้องรอนักท่องเที่ยวกลับมาพัก พนักงานรามาการ์เดนส์ได้นำทักษะช่างล้างแอร์กว่า 500 ห้อง จากเดิมต้องจ้างบริษัทภายนอกเข้ามาดูแล แต่ตอนนี้พนักงานมีอาชีพเสริมใหม่สร้างรายได้ด้วย

 

ขณะเดียวกันก็มีแผนส่งเสริมด้านที่พักสร้างความยั่งยืน ปัจจุบันย่านหลักสี่ ในกรุงเทพมหานคร โรงแรมรามาการ์เดนส์ มีต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ใหม่ ๆ เกือบ 5,000 ต้น เป็นปอดเมืองกรุง ด้วยต้นไม้สร้างพื้นที่สีเขียวจำนวนมากเป็นอันดับ 2 รองจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน มีทั้งไม้สัก กฤษณา ไม้ผล รับประทานได้ ทำสวนเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชผักต่าง ๆ ที่ใช้ในครัวปรุงตามห้องอาหารของโรงแรมบ้าง เช่น ใบชะพลู ใบเตย กับแบ่งขายให้พนักงานโรงแรมในราคาประหยัด แล้วยังเปิดฟาร์มขนาดเล็กเลี้ยงแพะ ก่อสร้างถูกสุขอนามัย ตามมาตรฐานที่ถูกต้องเต็มรูปแบบ

 


นางสาวนันทินี กล่าวว่า ปี 2567 ในฐานะผู้ประกอบการโรงแรมขนาดใหญ่มีทั้งห้องพักและห้องประชุมรองรับตลาดคนไทยและต่างประเทศ จึงจะขอการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยชุดใหม่ช่วยผู้ประกอบการโรงแรมไทยให้กลับมาฟื้นตัวได้ช่วง 3 ปีหน้า ระหว่าง 2567-2570 โดยพิจารณา 3 เรื่อง ได้แก่

 

เรื่องที่ 1 มาตรการภาษีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่พอจะช่วยลดหย่อนได้บ้าง เพราะปัจจุบันแต่ละปีจ่ายค่อนข้างสูง 3 รายการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% ภาษีโรงเรือน ภาษีธุรกิจ (Corporate tax) ซึ่งเป็นภาระหนักพอสมควร เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังไม่ได้กลับมาดีเหมือนเดิม ปี 2566 มีอัตราเข้าพักทำได้เพียงแค่ 50-60 % ของปี 2562

               

                เรื่องที่ 2 ร่วมกันปลดล็อกอุปสรรคทางการตลาดที่จะดึงดูดตลาดต่างประเทศเดินทางมาไทย เพราะทุกวันนี้หลังโควิด-19 ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินสูงกว่าปกติ ดังนั้นการจะเพิ่มความถี่ให้ต่างชาติเลือกเดินทางมาไทยซ้ำ ๆ เหมือนอดีตค่อนข้างลำบาก ฉนั้นพอมีช่องทางที่จะทำให้เมืองไทยเป็นจุดหมายปลายทางครองใจนักท่องเที่ยวก็ต้องร่วมด้วยช่วยกันทำทันที

 

                เรื่องที่ 3 ดูแลหน่วยงานที่เข้ามาเพิ่มต้นทุนจากโรงแรม ขอให้เห็นใจช่วยลดความเข้มลงบ้าง โดยชะลอการปรับขึ้นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้ก่อน หรือจะช่วยลดค่าครองชีพให้พนักงานโรงแรม ทำราคาสินค้าที่โรงแรมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องใช้จำนวนมากได้ค่าใช้จ่ายลดลงบ้าง โดยเฉพาะพนักงานมาจากต่างจังหวัดบ้านต้องเช่าข้าวต้องซื้อ หากทำให้ราคาอาหารถูกลงบ้าง ก็จะทำให้วงจรคนทำงานรับบ้างได้รับการแบ่งเบาภาระ แล้วหันมามุ่งสร้างประสิทธิภาพบริการมากขึ้น ก็จะเป็นผลดีกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยทั้งประเทศนั่นเอง


ฟังข่าวต้นชั่วโมง



ข่าวที่ 1 ช้อปสุข!!คิงเพาเวอร์ออนไลน์แบรนด์หรูปีใหม่TOM FORD

 

ต้อนรับศักราชใหม่ กับ HAPPY NEW JOURNEY ช้อปสุข…สนุกรับปีใหม่ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์”เท่านั้น! จัดดีลดีสุดปัง รับปีมังกร 2024  โปรช้อปพร้อมออกเดินทางท่องเที่ยว รวมไอเทมแบรนด์ดังให้ช้อปอย่างจุใจ ทั้งน้ำหอม เครื่องสำอาง แฟชั่นกระเป๋า แว่นตา นาฬิกา ไลฟ์สไตล์และอีกมากมาย

 

ต้องจัดเลย! พร้อมรอรับสินค้าง่าย ๆ สะดวกสบายที่สนามบิน ได้ทั้งขาเข้าและขาออก เริ่มวันนี้ถึง 24 มกราคม 2567  แนะนำเลือกช้อปแบรนด์ “TOM FORD BEAUTY”   สุดลักซ์ชัวรี่ที่ทำให้ทุกคนดูดีที่สุด ช้อปสินค้าน้ำหอม เครื่องสำอางแบบคนรสนิยมดี เรียบหรู ให้ฟีลพรีเมี่ยม  

 

1.ลดสูงสุด 10% เมื่อช้อปครบ 4,000 บาท รับรหัสส่วนลด JAN10

2.ลดสูงสุด 15% เมื่อช้อปครบ 6,000 บาท รหัสส่วนลด JAN15

 

พิเศษ! เมื่อรับของแถม TOMFORD Lip Color 03 Casablanca 1 ชิ้น และ TOMFORD Oud Wood Eau De Parfum - 2 ml 1 ชิ้น และ TOM FORD BEAUTY White Suede VIB Eau de Perfume - 2 ml 1 ชิ้น  และ  VELVET POUCH 1 ใบ

 

ข่าวที่ 2 รีบจัด!!สมัครบัตรคิงเพาเวอร์ม.ค.67ส่วนลดเบอร์ใหญ่4คุ้ม

 

รีบเลย!! สมัคร “สมาชิก คิง เพาเวอร์” สุขคุ้มค่า ฉลองปีใหม่ ช้อปสนุก ได้ส่วนลดตลอดเดือนแรกรับปีใหม่ รับได้ถึง 4 คุ้ม ดังนี้

 

คุ้มที่ 1 เฉพาะนักเดินทางชาวไทย เพียงโชว์พาสปอร์ตไทย รับส่วนลดพิเศษเลยทันที 500 บาท*

คุ้มที่ 2 สมัครสมาชิกใหม่  รับส่วนลดจุใจกว่าเดิม ลดเลย! 700 บาท*เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป/ ใบเสร็จ ที่แผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต

 

คุ้มที่ 3 สมัครคุ้ม ที่ คิง เพาเวอร์ สาขาในท่าอากาศยาน ทุกสาขา สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และอู่ตะเภา รับไปเลย

-สมัครสมาชิก SCARLET และเติมเงิน 20,000 บาท รับคูปองส่วนลด 20% x 2 ใบ*

-สมัครสมาชิก NAVY และเติมเงิน 1,000 บาท รับคูปองส่วนลด 10%*

-พร้อมรับส่วนลดทุกการช้อปสูงสุด 10%

            คุ้มที่ 4 สมัครคุ้ม ที่ คิง เพาเวอร์ ดาวน์ทาวน์ ทุกสาขา

 

- สมัครสมาชิก SCARLET และเติมเงิน 20,000 บาท รับฟรี! คูปองส่วนลด 2,000 บาท นำไปใช้ช้อปได้ไม่มีขั้นต่ำกับตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง เมื่อมียอดช้อป 35,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

 

- สมัครสมาชิก NAVY และเติมเงิน 1,000 บาท รับส่วนลดทุกการช้อปสูงสุด 10% ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต หรือ LINE Official Account : @KINGPOWER รีบเลยตั้งแต่วันนี้– 31 ม.ค. 67

 

ข่าวที่ 3 เดอะสแตนดาร์ดจัดต่อบุฟเฟต์อาร์ตคาวหวานห้อง Tease

 

โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด คิง เพาเวอร์ แบงค็อก มหานคร ชวนมาฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับอาฟเตอร์นูนทีบรรยากาศเฟสทีฟสุดอาร์ตที่ห้อง Tease ของโรงแรม ได้อาร์ตติสอย่าง ศรัณย์ เย็นปัญญา มาร่วมออกแบบสีสันให้เพลิดเพลินกับเมนูสดใสทั้งคาวและหวาน พร้อมเสิร์ฟทุกวันตั้งแต่วันนี้ - 31 มกราคม 2567 เวลา 13:00 – 18:00 น.ราคาคนละเพียง 980++ บาท

 

            ไฮไลต์ แซนวิชไส้ไก่งวงแฮมแครนเบอร์รี ไข่ออมเล็ต สโคนส้มเสิร์ฟคู่แยมแอปริคอต และครีมช็องติยี่  ช็อกโกแลตป๊อปไส้ส้มแมนดาริน อิตาเลียนเบซิลและถั่วเฮเซลนัท  และเมนูที่ได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีอีกหลากหลายมากมาย ต้องมาแล้วจะตื่นตาตื่นใจกับสารพัดความอร่อยได้ที่ เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร

 

ข่าวที่ 4 ททท.จ่อเพิ่มเป้าจีนเที่ยวไทยเกิน8ล้านหลังเลิกใช้วีซ่าปี67

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.เตรียมหารือกับนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาปรับเป้าหมายตลาดนักท่องเที่ยวจีนปี 2567 ใหม่อีกครั้งเพิ่มขึ้นจากปกติ 8.5 ล้านคนขึ้นไป นำรายได้เข้าประเทศกว่า 500,000 ล้านบาท ขานรับนโยบายรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศเลิกใช้วีซ่าถาวรการเดินทางเข้าออกของผู้ถือหนังสือเดินทางไทย เช่นเดียวกับผู้ถือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามประกาศจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป โดยมอบหมายให้ ททท.ในจีนทั้ง 5 สำนักงาน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง กวางโจว เฉินตู เพิ่มกลยุทธ์กระตุ้นตลาดเมืองหลักและเมืองรองทั่วจีนด้วยกิจกรรมที่มีความหลากหลายต่อเนื่องตลอดทุกเดือน

 

  นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ช่วงส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับปีใหม่ 2567 ได้ร่วมกิจกรรมในพิธีมอบรางวัลประกวดวิดีโอและภาพถ่ายการท่องเที่ยวทางรถไฟจีน-สปป.ลาว-ไทย Chun Cheng Fei Hua Ling จัดโดย Kunming Daliy Group ที่ห้างสรรพสินค้า เดอะ มิกซ์ ซี ซิตี้ ซึ่ง ททท.ใช้เป็นอีกช่องทางสำคัญเพื่อเร่งกระตุ้นพร้อมสร้างการรับรู้เส้นทางรถไฟจากจีนเชื่อมโยงเข้ามายังสถานที่ท่องเที่ยวในภาคอีสานของไทย  ผนวกกับการเปิดจุดขายการท่องเที่ยวตลาดจีนเชื่อมโยงทางเครื่องบินเลือกมาไทยควบคู่กันไป

 

โดย ททท.สำนักงานคุนหมิง จับมือกับบริษัททัวร์ในจีนร่วมสนับสนุนรางวัลหลายประเภท ได้แก่ 1.ตั๋วโดยสารเครื่องบิน ไป-กลับ คุนหมิง-กรุงเทพฯ 2.แพ็กเกจท่องเที่ยวทะเลอันดามันเกาะสิมิลัน 2 คน 3.กระเป๋าเดินทาง 2 ใบ 4.รางวัลของที่ระลึกทางการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยที่ดีเชิงบวก สร้างแรงจูงใจกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาเมืองไทยต่อเนื่องตลอดปี 2567  ซึ่งมีทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยรุ่นเดินทางอิสระทั้งแบบเดี่ยว ๆ เดินทางกับเพื่อน หรือมากับครอบครัว ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ แนวโน้มพร้อมจะใช้จ่ายเงินเกินกว่า 50,000 บาท/คน/ทริป

 

อีกทั้งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส 23-25 ธันวาคม 2566 ทาง ททท.สำนักงานคุนหมิง ยังได้จัดแฟมทริปนำสื่อและผู้มีชื่อเสียงของจีน จัดทำโปรแกรมการเดินทางในลักษณะ Media & KOL Fam Trip จากมณฑลยูนนาน กวางสี กุ้ยโจว เดินทางเข้ามาสำรวจสินค้าท่องเที่ยว เที่ยวเมืองรอง ต้องลองไปสุขที่สุด ฟินสุด จันทบุรี นำเสนอการท่องเที่ยวซอฟท์ เพาเวอร์ เรื่อง Food หรืออาหารและสวนผลไม้ จัดทำเส้นทาง “ตามรอยทุเรียนเมืองจันทบุรี”  พาคณะไปเยี่ยมชมต้นทุเรียน ดอกทุเรียน ลูกทุเรียน แล้วลองรับประทานอาหารเมนูเด็ดทำจากผลไม้อย่างทุเรียน สร้างความตื่นตาตื่นใจสนุกสนาน ประทับใจกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่กลุ่มดังกล่าว พร้อมจะนำไปเผยแพร่ให้ชาวจีนทั้ง 3 มณฑล ได้รับรู้และตัดสินใจเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายเงินในภาคตะวันออกของไทยเพิ่มมากขึ้นต่อไป

 

ข่าวที่ 5 บางจากโชว์ทำสำเร็จนำทั่วไทยต่อยอดลดคาร์บอนปี67

 

นางกลอยตา ณ ถลาง รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธาน Carbon Markets Club เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจากได้ทำภารกิจร่วมสร้างระบบนิเวศคาร์บอนต่ำตลอดปี 2566 เพื่อรับมือภาวะโลกเดือด โดยร่วมกับพันธมิตรเตรียมความพร้อมให้ผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนที่ 1ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ สร้างความตระหนักถึงการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ส่วนที่ 2 นำเสนอกลไกคาร์บอน ทั้งระบบซื้อขาย ระบบภาษี และคาร์บอนเครดิต ถือเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทยทั้งระดับบุคคล ชุมชน  SMEs และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ

 

ล่าสุดกลุ่มบริษัทบางจาก และ Carbon Markets Club ร่วมกับบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ “Stay for Santa” ช่วงเทศกาลหยุดต่อเนื่องข้ามปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการลงมือนำร่องชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้เข้าพักโรงแรมในเครือ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป 4 แห่ง 10 คืน ระหว่าง 23 ธันวาคม 2566 ถึง 2 มกราคม 2567  ประสบความสำเร็จสามารถรณรงค์นักท่องเที่ยวผู้เข้าพักโรงแรมช่วยกันลดคาร์บอนรวม 330 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่งผลให้ตลอดปี 2566 ได้ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ส่วนบุคคลและกิจกรรมต่าง ๆ รวมแล้วประมาณ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

 

โดยเฉพาะ “ภายในองค์กรบางจาก” จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ปลุกจิตสำนึกพนักงานปรับพฤติกรรมร่วมลดก๊าซเรือนกระจก ผ่านการบันทึกด้วย Climate Action เช่น ลดใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง คัดแยกขยะไปรีไซเคิล ใช้บริการรถสาธารณะ หรือลดการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และอื่น ๆ  ควบคู่กับรณรงค์พันธมิตร “ภายนอกองค์กร” ผ่าน Carbon Markets Club ซึ่งมีพันธมิตรธุรกิจร่วมก่อตั้งปี 2564 รวม 11 แห่งทำงานต่อเนื่องปีที่ 3 เห็นผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม

 

สิ้นปี 2566 มีสมาชิกกว่า 750 ราย ทั้งประเภทบุคคลและองค์กร สามารถซื้อขายคาร์บอนเครดิต TVERs และใบรับรองสิทธิเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน RECs ผ่าน Marketplace ทางเว็บไซต์ Carbon Markets Club รวมเกือบ 480,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าและ RECs รวมกว่า 1.6 ล้านหน่วย คิดเป็นการปลูกต้นไม้เทียบเท่ากว่า 150 ล้านต้น และพัฒนาระบบเปิดให้สมาชิกทดลองใช้วิธีคำนวณก๊าซเรือนกระจกองค์กร หรือ Carbon Footprint Tracking for Organization (CFO) ซึ่งเป็นเครื่องมือพัฒนาระบบคำนวณจากมาตรฐาน ISO14064 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย พร้อมทำควบคู่กันอีก 5 โครงการ ได้แก่

 

โครงการที่ ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์รายบุคคลกับผู้บริหารระดับผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ขึ้นไป กว่า 20 คน เป็น “กลุ่มผู้บริหารไร้คาร์บอน” ตั้งแต่ปี 2565

 

โครงการที่ 2 ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้ 3 นักแบดมินตัน ระดับโลกจากโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด คือ “วิว” กุลวุฒิ  วิทิตศานต์ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ “จิว” ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ 

 

โครงการที่ 3 ร่วมชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์กิจกรรมประเภทต่าง ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก เช่น การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก งานสัมมนาประจำปี Greenovative Forum การเป็นเจ้าภาพร่วมงานวิ่งโอลิมปิก Olympic Day Run ที่จังหวัดน่าน มุกดาหารและกาญจนบุรี

 

โครงการที่ 4 ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับการจัดงาน และนักท่องเที่ยวร่วมงานสีสันแห่งดอยตุงครั้งที่ 10 (ดอกไม้ระบายดอย: Palette of Flowers) ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) จ. เชียงราย

 

โครงการที่ 5  Stay for Santa กับโรงแรม 4 แห่งในเครือเอราวัณ กรุ๊ป ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้เข้าพักระหว่าง 23 ธันวาคม 2566 -2 มกราคม 2567 เป็นเวลา 10 คืน รวม 330 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า  

 

ตลอดปี 2566 กลุ่มบริษัทบางจาก และ Carbon Markets Club ได้ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้กับบุคคลและงานอีเว้นท์ ของพันธมิตรต่าง ๆ ได้รวมมากถึง 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

 

นางกลอยตา กล่าวว่า ทางบริษัทฯ มีส่วนร่วมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาวะวิกฤตทางสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของสังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านกิจกรรมเผยแพร่ความรู้หลากหลายรูปแบบ ในงานสัมมนารับเชิญเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้หน่วยงานพันธมิตรและเวทีสาธารณะ เผยแพร่บทความผ่านเว็บไซต์ของ Carbon Markets Club ร่วมมือต่าง ๆ กับผู้มีส่วนได้เสียทางธุรกิจของบริษัทฯ เช่น “เครือข่ายสหกรณ์ลดโลกร้อน” โดย บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรติดตั้งโซลาร์เซลล์และพัฒนาโครงการคาร์บอนเครดิตจากพลังงานหมุนเวียน ติดตั้งรวม 1.7 เมกะวัตต์

 

โครงการ “ข้าวลดโลกร้อน” ส่งเสริมสมาชิกเกษตรกรรักษ์โลกจากวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี นำข้าวลดโลกร้อนกว่า 40 ตัน มาเป็นสินค้าส่งเสริมการขายที่สถานีบริการน้ำมันบางจากช่วงวันสิ่งแวดล้อมโลกเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้งช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทน หนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน  ช่วยทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความภาคภูมิใจในกระบวนการผลิตที่รักษ์โลก

 

ร่วมกับพันธมิตรขับเคลื่อน “เกาะหมากสู่เส้นทาง Low Carbon Destination” ถ่ายทอดองค์ความรู้และต่อยอดกิจกรรมตามเป้าหมายผลักดันเกาะหมากต้นแบบชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หรือ The Green Destination Top 100 of the World โดยต่อยอดแผนงานสำคัญ 3 ด้าน คือ 1. ศึกษาปริมาณปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจการสำคัญ 2.ส่งเสริมกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจกในชีวิตประจำวัน (การจัดการขยะ การใช้พลังงานสะอาด การขนส่ง  3.ฟื้นฟู-อนุรักษ์ระบบนิเวศทางบกและทางทะเล (Green and Blue Carbon) ดูดซับคาร์บอนจากธรรมชาติ

 

ต่อเนื่องถึงการส่งเสริมให้ภาคประชาชนลงมือปฏิบัติร่วมลดโลกร้อนลดขยะจากต้นทาง ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เริ่มต้นได้ง่าย ๆ จัดการของเสียในชีวิตประจำวัน เพื่อขับเคลื่อน BCG Economy ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลายลูกค้าและประชาชนได้รับความสะดวกสบาย  โดยเปิดจุดรับหรือจุดรวบรวมของเสียผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน เช่น โครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” รับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วนำไปผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) โครงการ “ขยะกำพร้า” ร่วมกับ N15 Technology ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก โครงการฮาบิโตะ (T77) และสำนักงานและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง

 

โครงการ เก็บกล่องสร้างบ้าน เพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก” กับ บริษัทเต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด รวบรวมกล่องเครื่องดื่มยูเอชทีเพื่อรีไซเคิล หรือการจัดทำโครงการ “รักษ์ ปัน สุข จูเนียร์” โดยมูลนิธิใบไม้ปันสุข รณรงค์ดูแลสิ่งแวดล้อมและคัดแยกขยะในระดับโรงเรียน   และอีกหลายโครงการอื่น ๆ

 

            ปี 2567 กลุ่มบริษัทบางจาก  ให้ความสำคัญการพัฒนาธุรกิจคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน สะท้อนให้เห็นถึงทุกการเติบโตของบางจากมุ่งรักษาความสมดุลของมูลค่าและคุณค่า การเข้าถึงและความมั่นคงทางด้านพลังงานไปพร้อมกับการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค ชุมชน สังคม ได้ใช้สินค้าและบริการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมรับมือภาวะโลกเดือดซึ่งเป็นวิกฤตเร่งด่วนระดับโลกต่อไป

           

ช่วงที่ 2 เที่ยวเมืองไทยได้ตลอด 365 วัน ต้อนรับศักราชใหม่มกราคมนี้ เปิดจุดเช็คทั่วประเทศใกล้ไกลทั่วประเทศเที่ยวได้ 9 พิกัด แล้วดูแลสุขภาพกับ “7ข้อกินกาแฟอย่างไรให้เกิดประโยชน์” ต่อด้วยข่าวรับปีมังกรทอง ข่าวแรก “เปิดดุสิตปริ๊นเซสพัทลุง” รีสอร์ตอินซิตี้แห่งแรกในภาคใต้ ข่าวสอง “ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป” นำแบรนด์ไทยสร้างชื่อในมาเลเซียใหม่ 3 โรงแรม

 

ท่องเที่ยว –ม.ค.นี้สุขทันทีเที่ยวไทยเลือกที่ชอบใกล้ไกลได้หมด9พิกัด

 

สุขทันทีที่ได้เที่ยวเมืองไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนวางแผนเดินทางไปชีลกับเทศกาลงานท่องเที่ยวในแต่ละภาค ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ตั้งเข็มไมล์เพิ่มประสบการณ์ปีงูหรือมังกรทอง 2567 เลือกที่ชอบหรือที่ใกล้ได้ถึง 9 พิกัด ชวนกันไปได้เลย

 

พิกัดที่ 1 งานเชียงรายดอกไม้งาม ครั้งที่ 20 วันนี้ - 15 มกราคม นี้ กับฟังดนตรีในสวน ทุกวันเสาร์ - วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 20.00 - 21.00 น. ที่สวนตุงและโคมนครเชียงราย 

 

พิกัดที่ 2 เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 10  วันนี้ - 28 มกราคม 2567 มาชมช้อปชิมชีลแชร์ได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ อำเภอแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

 

พิกัดที่ 3   งานเทศกาลร่มบ่อสร้าง และหัตถกรรมสันกำแพง  วันที่ 19 - 21 มกราคม เดินชมหมู่บ้านบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง จ.เชียงใหม่

 

พิกัดที่ 4 นุ่งโจม ห่มสไบ เที่ยวซุโขทัย Light Up  วันนี้- 31 มกราคม  ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 18.00 - 21.00 น. ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

 

พิกัดที่ 5 ล่องเรือท่องทุ่งบัวแดง @บ้านรางบัว เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2567  บ้านรางบัว อำเภอท่าตะโก จ.นครสวรรค์

พิกัดที่ 6 ทะเลบัวแดง อุดรธานี เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2567  อำเภอกุมภวาปี อำเภอกู่แก้ว อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี

 

พิกัดที่ 7 งานไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โบ๊ท โชว์ ปี 2567  วันที่ 11 - 14 มกราคม  ที่รอยัล ภูเก็ต มารีน่า จ.ภูเก็ต

 

พิกัดที่ 8 เดอะ เบย์ รีกัตต้า ครั้งที่ 27 วันที่ 31 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ เที่ยวครบ 3 จังหวัด ภูเก็ต พังงา กระบี่

 

            พิกัดที่ 9 ปักหมุดชวนกันเที่ยวงานเทศกาลรวมพลคนศิลปะกรุงเทพฯ 2567 วันที่ 18 - 21 มกราคม ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป บริเวณลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร  

 

สุขภาพ –7ข้อเรื่องกาแฟ...กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ

 

กาแฟ จัดว่าเป็นเครื่องดื่มทางวัฒนธรรมที่อยู่คู่สังคมมนุษย์มานาน มีอยู่ประจำในสำนักงานแทบทุกแห่ง แต่ด้วยสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลมีความไวต่อปริมาณกาเฟอีนแตกต่างกัน การดื่มกาแฟ 1 ถ้วยเท่ากัน อาจทำให้คนที่ไวต่อกาเฟอีน ใจสั่น นอนไม่หลับ แต่ไม่มีผลกับอีกคนหนึ่งที่มีความทนทานมากกว่า ขอนำดื่มกาแฟไม่ควรเกิน 3 ถ้วยต่อวัน และมี 6 ข้อ จะกินกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์ และเกิดผลเสียน้อยที่สุด

 

1. ควรสังเกตว่าตัวเราเอง มีความไวของการตอบสนองต่อปริมาณกาแฟกี่ถ้วย มีอาการอย่างไรบ้าง เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสมสำหรับตนเอง

 

2. หากมีอาการนอนหลับยาก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงบ่ายหรือช่วงหัวค่ำ

 

3. ไม่ควรดื่มกาแฟขณะท้องว่าง เนื่องจากกาเฟอีนเร่งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร

 

4. ไม่ควรดื่มกาแฟเพื่อหักโหมทำงาน และอดนอนติดต่อกันหลายๆ คืน แม้ว่ากาเฟอีนช่วยให้ร่างกายตื่นตัวจริง แต่สมองต้องการเวลาพักผ่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้

 

5. หากคุณเป็นผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ ควรกินอาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมเพิ่มเติม เช่น นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย คะน้า บรอกโคลี เป็นต้น เพื่อทดแทน แคลเซียมที่สูญเสียไปกับปัสสาวะ และลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หรืออาจปรับเปลี่ยนโดยการชงกาแฟใส่นมแทนครีมเทียม เป็นต้น

 

6. ควรกินผักผลไม้อย่างเพียงพอทุกวัน เนื่องจากในกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟ จะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้น วิตามินซี อี และบีตาแคโรทีนในผักผลไม้ เช่น มะเขือเทศ แครอต ผักใบเขียว ฝรั่ง ส้มเขียวหวาน เป็นต้น จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายได้

 

7. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากฤทธิ์ในการขับปัสสาวะของกาเฟอีน

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –เปิดดุสิตปริ๊นเซสพัทลุงรีสอร์ตอินเดอะซิตี้แรกภาคใต้

 

มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีขยายธุรกิจในไทยเปิดตัวโรงแรมใหม่ “ดุสิตปริ๊นเซส พัทลุง” ในภาคใต้เป็นโรงแรมแรกและบริหาภายใต้แบรนด์ดุสิตลำดับที่ 15  ของไทย ขานรับ 3 ปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยแรก แผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังขยายตัวทางภาคใต้ของไทย ปัจจัยที่ 2 กำลังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เติบโตมากขึ้น ปัจจัย 3ยกระดับเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่ ๆ จึงเป็นโอกาสเหมาะกับดุสิตปริ๊นเซสพร้อมเปิดประตูให้ผู้เข้าพักได้รู้จักสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ อาหาร และวัฒนธรรม เมืองพัทลุง  ต้อนรับผู้เลือกใช้อย่างอบอุ่นด้วยบริการระดับพรีเมี่ยม

 

วางเป้าหมายจะผลักดันดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุงเป็นรีสอร์ทใจกลางเมือง ตัวเลือกลำดับต้น ๆ ต้อนรับตลาดสำคัญ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก ประชุมสัมมนา กลุ่มที่สอง สมาชิกทุกคนในครอบครัว ผนวกกับนำธุรกิจโรงแรมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นสร้างเศรษฐกิจพัทลุงเติบโตอย่างยั่งยืน สร้างแรงดึงดูดให้จังหวัดทางใต้แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางออกตามหาความสวยงามแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ

 

สำหรับ “ดุสิต ปริ๊นเซส พัทลุง” เปิดให้บริการในภาคใต้ ด้วยมาตรฐานระดับ 4 ดาวภายใต้ธีม "รีสอร์ทใจกลางเมือง : resort-in-the-city ประกอบด้วย ห้องพักและห้องสวีททั้งหมด 132 ห้อง พร้อมพื้นที่ให้ใช้สอยในห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดถึง 79 ตารางเมตร ช่วยยกระดับการพักผ่อนในพัทลุงให้มีมาตรฐานสากล พร้อมรองรับทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ กลุ่มที่ชื่นชอบค้นหามรดกทางวัฒนธรรม ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ด้วยการเดินทางสะดวกสบาย โดยอยู่ห่างจากสนามบินตรังใช้เวลาขับรถเพียงแค่ 1 ชั่วโมง หรือจากสนามบินหาดใหญ่ 1.5  ชั่วโมงเท่านั้น

 

ข่าวที่สอง -“ออนิกซ์กรุ๊ป”นำแบรนด์ไทยบุกมาเลย์เปิดใหม่3โรงแรม

 

ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป รายงานว่า ในฐานะบริษัทบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และที่พักอาศัยระดับหรู สัญชาติไทย ต้อนรับปี 2567 เตรียมเปิดตัวโรงแรมใหม่ในมาเลเซียเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1.โอโซ่ เมดินี 2.ชามา เมดินี และ 3.ชามา ซัวซานา ยะโฮร์ บาห์รู ภายในสิ้นปีนี้จะมีโรงแรมแบรนด์คนไทยของกลุ่มที่เปิดให้บริการนอกเมืองไทยในมาเลเซียเป็นประเทศรวมทั้งหมดถึง 7 แห่ง  ภายใต้บริการครบทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ อมารี/Amari) โอโซ่/OZO และชามา/Shama รวมทั้งเปิดแบรนด์ชามาครั้งแรกในมาเลเซียด้วย

 

โดยก่อนหน้านี้ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนในมาเลเซียเลือกเข้ารับบริหารโรงแรมแล้วตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมารวม 4 แห่ง บริหารภายใต้แบรนด์หลักคือ อมารี/Amari กับโอโซ่/OZO ประกอบด้วย 1.โรงแรมอมารี ยะโฮร์ บาห์รู  ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจรายล้อมด้วยร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ความบันเทิง และศูนย์ประชุมนานาชาติ 2.โอโซ่ จอร์จทาวน์ ปีนัง โรงแรมที่มีชีวิตชีวาตั้งอยู่ใกล้เมืองมรดกโลกและสนามบินนานาชาติ พร้อมจะสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวให้ผู้เลือกใช้บริการเต็มที่ 3.โรงแรมอมารี สไปซ์ ปีนัง และ 4.โรงแรมอมารี กัวลาลัมเปอร์ เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้

 

            ทางออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มั่นใจในศักยภาพของตลาดท่องเที่ยวในมาเลเชียพร้อมจะตอบสนองนักเดินทางทุกกลุ่ม โดยเฉพาะ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ทมแรก นักธุรกิจ กลุ่มที่ 2 ผู้จัดงานแสดงสินค้าหรือนิทรรศการหรือ MICE กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ต้องการพักผ่อน และกลุ่มที่ 4 ทำธุรกิจพร้อมกับท่องเที่ยว หรือ bleisure ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ในต่างประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามวิสัยทัศน์โดยรวมของ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ ให้เป็น “The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia” ตั้งเป้าหมายภายในปี 2568 จะเพิ่มการบริหารโรงแรมให้ครบ 50 แห่ง และภายในปี 2571 ขยับขึ้นเป็น 70 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 44 แห่ง

 

สำหรับการเข้าบริหารโรงแรมในมาเลเซียตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ตั้งอยู่ในทำเลที่มีจุดขายเด่น ๆ แตกต่างกัน ซึ่งมีศักยภาพทางการแข่งขันลูกค้าตลาดไมซ์กับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ เลือกใช้บริการแบรนด์คนไทย 4 โรงแรม ได้แก่

 

1.โรงแรม อมารี สไปซ์ ปีนัง สไตล์ร่วมสมัยขนาดใหญ่สุด 453 ห้อง  ตั้งอยู่ติดกับศูนย์การประชุม SPICE Convention Centre และ SPICE Arena เป็นคอมเพล็กซ์รองรับตลาดไมซ์รองรับผู้เข้าร่วมงานได้มากสุดครั้งละมากถึง 8,000 คน เมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งได้รับรางวัล Best MICE Hotel ของมาเลเซีย ในงานประกาศผลรางวัล HAPA รวมทั้งเป็นอาคารนำร่องใช้พลังงานแสงอาทิตย์แบบไฮบริดแห่งแรกของโลก อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติปีนัง 5 กม.  

 

2.โรงแรมอมารี กัวลาลัมเปอร์ อยู่ย่านใจกลาง KL Eco City ย่านธุรกิจและความบันเทิงที่มีชีวิตชีวาทำเลสะดวกสบายอยู่ใกล้กับ Mid Valley Megamall รายล้อมไปด้วยสำนักงานของบริษัทจากนานาชาติ เช่น Mercu 2 & 3, Aspire Tower, The Garden North Tower และ South Tower, Centrepoint และ Menara IGB จากสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาที มีห้อง Veria Ballroom รองรับผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 200 คน และพื้นที่จัดงานต่าง ๆ การพบปะสังสรรค์ การสร้างเครือข่าย และนิทรรศการ รวมถึงห้องรับรองทางธุรกิจทันสมัย

 

3.โรงแรมอมารี ยะโฮร์ บาห์รู ตั้งอยู่ในทำเลที่สมบูรณ์แบบใจกลางย่านศูนย์กลางธุรกิจของยะโฮร์บาห์รู ติดศูนย์การประชุม Persada Convention Centre และใกล้จุดผ่านแดนสิงคโปร์ รองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ มีห้องประชุมหลากหลาย ตั้งแต่ห้อง Lido & Rex ที่รองรับได้ 220 คน บริการจัดการประชุม สัมมนา และงานกาล่าดินเนอร์ ไปจนถึงห้อง Amari Sky 3 ห้อง รองรับตลาดพบปะสังสรรค์อย่างใกล้ชิดและการประชุมเชิงกลยุทธ์ พื้นที่ Sky Banquet รองรับได้ 150 คน พร้อมยกระดับงานเลี้ยงอาหารค่ำและงานเลี้ยงต้อนรับขององค์กร และห้อง Ideas Room ที่จะกระตุ้นความรู้สึกและจุดประกายจินตนาการ

 

4.โรงแรมโอโซ่ จอร์จทาวน์ ปีนัง ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปีนัง พร้อมมอบความสะดวกสบายให้ได้ดื่มด่ำวัฒนธรรมและประสบการณ์น่าจดจำ ด้วยบริการห้องพักและห้องสวีทออกแบบอย่างมีสไตล์เพื่อการพักผ่อนอันเงียบสงบ พร้อมห้องอาหารเปิดบริการตลอดทั้งวันรังสรรค์เมนูจานเด่นมากมาย และมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai