วังวนศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาฯกว่า24ปี
ทายาทคิงเพาเวอร์เปิดพ็อกเก็ตบุ๊คเลสเตอร์
นายกฯลุงตู่เปิดเองก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส2
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 10 กันยายน เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เจาะลึกครบเครื่องกับทุกเรื่องราวข่าวท่องเที่ยว
ช่วงแรกเวลา 11.15 น.
ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ |
“ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ
(สทน.)และรองประธานด้านตลาดในประเทศ
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มีหลายกระแสส่งสัญญาณว่าจะเป็น “ผู้ชิง” ตำแหน่ง
“ประธานสภาฯท่องเที่ยว” ซึ่งปี 2560 การก่อตั้งองค์กรเอกชนแห่งนี้กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 24
โดยผ่านการต่อสู้ฝ่าความร้อนหนาวมายาวนาน
“คุณยุทธชัย” จะมาเล่าให้ฟังสด ๆ
ในรายการผ่านไปยังสมาชิกผู้ประกอบการทั่วประเทศว่า “จุดเปลี่ยนและแนวคิดของผู้นำ”
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถึงเวลาต้อง “ผ่าโครงสร้างการทำงาน” หรือจะยังคงทำได้แค่
“ปฏิรูปฉบับไทยๆ” เหมือนที่ผ่านมา เพื่อกลับสู่วังวนอย่าง “ปัญหาทัวร์จีนศูนย์เหรียญ”
และปัญหาซ้ำ ๆ อีกเพียบที่ผ่านกาลเวลามาตามยุคสมัย แต่กลับไม่ได้ถูก
“เปลี่ยนไปสู่เป้าหมาย” แม้แต่เรื่องการแข่งกันจัด “มหกรรมท่องเที่ยวไทย” รายเดือน
เพื่อช่วงชิง “กำลังซื้อตลาดในประเทศ”
ความจริงแล้วทำอย่างมืออาชีพหรือมวยวัดแบบเดิม ๆ
เสาร์นี้ เวลา 11.15-11.30 น.
ต้องห้ามพลาดฟังวิสัยทัศน์ผู้นำธุรกิจตลาดท่องเที่ยวในประเทศว่า “ยุทธชัย”
จะสามารถแสดงศักยภาพ “เปลี่ยนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว”
ด้วยปากหรือการลงมือปฏิบัติอย่างไรต้องติดตาม
จากนั้นมาฟังข่าวที่น่าสนใจช่วงแรก
ข่าวที่ 1 “อ่านพ็อกเก็ตบุ๊คลับลึกเทพนิยายคิงเพาเวอร์”
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง
เพาเวอร์ และรองประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้
เปิดเผยกับทางรายการว่าได้จัดทำหนังสือ THE FAIRY TALE OF UNDERFOX หรือ “เทพนิยายจิ้งจอกสีน้ำเงิน” เป็นพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มแรก ที่ได้นักเขียนชื่อ
"จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์" จากค่าย A
DAY จิรเดชเป็นเพื่อนนักเรียนขาสั้นกับอัยยวัฒน์สมัยประถมถึงมัธยมจากรั้ว
"กรุงเทพคริสเตียน" มาช่วยถอดรหัส
"เบื้องลึกปาฎิหารย์-การนำทีมเลสเตอร์ ซิตี้" โกงตายในพรีเมียร์ ลีก
อังกฤษ จนกลายเป็น "ตำนานเทพนิยายลูกหนัง" ในศตวรรษที่ 20 ต่อเนื่องถึง
21
หนังสือ THE FAIRY TALE OF UNDERFOX เล่มนี้พร้อมเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่
ค่ำวันเสาร์ที่ 10 กันยายน 2559 เวลา 19.00 น.ณ คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์
รางน้ำ มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเปิดตัวหนังสือจะนำ
BMW i8 สุดหรูมาจัดแสดงให้ชม และร่วมลุ้นรับหนังสือฟรีพร้อมลายเซ็นต์
50 รางวัล ส่วนหนังสือเริ่มวางแผงทั่วไปแล้ว
ราคาเล่มละ 350 บาท ความหนา 240 หน้า
ค้นหาคำตอบได้ในเล่มนี้เล่มเดียวว่า...วิถีทางการต่อสู้..จากจุดเริ่ม
...Underdog สู่ UnderFOX...ผู้ที่สะกดคำว่า
"ชัยชนะ"ไม่เป็น แต่กลับสามารถพาทีมก้าวขึ้นสู่บัลลังแชมป์
"พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2015/2016" ได้ ภายในเวลาเพียง 5 ปี ได้อย่างไร ?
ความ "ลับ-ลึก"
ซึ่งมีข้อคิดมากมายที่ "อัยยวัฒน์"
อธิบายไว้ย่างชัดเจนจากประสบการณ์ล้มลุกคลุกคลานตลอด 5 ปี แต่ละเสี้ยววินาทีที่เขาต้องชี้เป็นชี้ตาย"
เพื่อ "เปลี่ยนแปลง"
มีวรรคทองเป็นของฝากจาก
"อัยยวัฒน์" อยู่ในหนังสือเล่มนี้หน้า 171
ว่า..."การเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างจะมีคนรอด่าเสมอ"
"อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา"
ในวันนั้นคือเด็กหนุ่มวัยเบญจเพศวัย 25 ปี ที่ได้ทำหน้าที่ "เปลี่ยนแปลงโลกของเลสเตอร์"
สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางเขาต้องต่อสู้ เผชิญความโดดเดี่ยว ฝึกฝน ดิ้นรน ค้นหาวิธีคิด เรียนรู้ถูก-ผิด
ท่ามกลางความกระหายของ "สื่อ" ซึ่งพร้อมเปิดฉากถล่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุก ๆ
ก้าวย่าง "การเปลี่ยนแปลง" ที่เขาและทีมเลสเตอร์ ซิตี้ พลาดพลั้ง
ทว่า "จิตวิญญาณ"
ที่เต็มเปี่ยม "ด้วยหัวใจนักสู้" ที่มีเลือดเนื้อความเป็นคนไทยเกินร้อย อัยยวัฒน์ได้ใช้
"หัวใจ" สร้างสิ่งที่คนทั้งโลกเรียกว่า "เหนือปาฏิหารย์"
ให้ปรากฎจนได้ ด้วยการย่นระยะเวลาความสำเร็จจากนับร้อยปีมาเหลือเพียง 5 ปีเท่านั้น
ส่วนความจริงที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ในวันนี้คือ...."อัยยวัฒน์
ศรีวัฒนประภา" ได้ใช้วัยเบญจเพศแปรเปลี่ยนชีวิตตัวเองและโลกในเชิงบวกได้
ต้องห้ามพลาดหาพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มนี้มาอ่านกัน...เพราะ
สิ่งที่อัยยวัฒน์พบเจอแล้วมุมานะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง
อาจจะเป็นแง่มุมปลุกจิตวิญญาณของอีกหลาย ๆ คน ที่กำลังจมอยู่กับความพ่ายแพ้
ผิดหวัง ถูกรุมซ้ำเติม จะได้มี "พลังลุกขึ้นมาต่อสู้"
อยู่อย่างมีความหวัง
แล้วคุณอีกหลายคน อาจจะ
"เปลี่ยนตัวเอง" จนกลายเป็น "คนไอดอล" ใหม่ในสังคมก็เป็นได้ มารวมพลังสร้างการ
"เปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ" ทำให้ "โลก" น่าค้นหา น่าเรียนรู้ และน่าอยู่ในทุกๆวัน เพื่อสิ่งที่ดี ๆ ในวันต่อ
ๆ ไป
ตลอดเดือนกันยายน 2559 มีร้านอาหารกินพุงกาง สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม
ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ภูมิภาคภาคกลาง ทยอมาแนะนำกันทุกสัปดาห์
บริษัท แบงค์คอกไรเตอร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด
ในฐานะผู้ดำเนินการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง แนะนำ “ร้านอาหารต้นตำรับขึ้นชื่อ” ไปกับ “สุขกลางใจใกล้แค่เอื้อม” ขอ
“ท้ากินกันจนพุงกาง”
ร้านแรกอาหารคาว “ก๋วยจั๊บญวนเส้นสด ร้านเจ๊เตียง”
กรุงเทพฯ แฟนพันธุ์แท้ “ก๋วยจั๊บญวน” มุ่งหน้าตรงไปยังซอยลาดพร้าว 101 แยก 15
มองฝั่งซ้ายมือจะมีร้าน “เจ๊เตียง” เปิดบริการตั้งแต่ 10.00 น.จนถึง 22.00 น.ร้านขึ้นชื่อด้วยเส้นก๋วยจั๊บเหนียวนุ่ม
น้ำซุปกลมกล่อม เครื่องปรุงจัดเต็มทั้งหอมเจียว หมูยอ กระดูกหมูเปื่อยนุ่ม
เลือกรับประทานคู่กับไข่ลวงหรือไข่ต้มก็ได้ ราคาสบายกระเป๋า โทร.สอบถามได้ที่ 082-684-9979
ร้านที่สองเป็นของหวาน “เบเกอร์วาฟเฟิล-ร้าน
อา.ลม.ดี.คาเฟ่” จังหวัดนนทบุรี ตกแต่งบรรยากาศสุดชีลตั้งอยู่ติดริมคลองบางกรวย
ซึ่งผู้หลงรักวาฟเฟิลต้องห้ามพลาด เพราะร้านนี้ปรุงเนื้อวาฟเฟิลแน่นชุ่มชีส
จะรับประทานเดี่ยวๆ
หรือสั่งไอศกรีมหรือขนมหวานจานโตแบบฮันนี่โทสต์ มาลองได้
ภายในร้านยังมีเครื่องดื่มสารพัดเลือกสั่งได้ตามสบาย แต่วันอังคารจะเป็นวันหยุด
นอกนั้นเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-21.00 น. โทร.02-883-6993
หรือwww.facebook.com/arelomdeecafe
ข่าวที่ 3 “4เส้นทางปลายฝนต้นหนาวในพังงา”
“รวีวรรณ แสงจันทร์”
หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
เตรียมเปิดฤดูกาลต้อนรับนักท่องเที่ยวคนไทยไปสัมผัสธรรมชาติเมืองชายทะเลอันดามันด้วยอีกบรรยากาศช่วงปลายฝนต้นหนาว
จึงได้พื้นที่ยอดนิยมของจังหวัดพังงาที่มีความหลากหลากหลายทางธรรมชาติให้เลือกถึง 4 เส้นทาง ได้แก่
1.ล่องแพไม้ไผ่คลองวังเคียงคู่
สัมผัสธรรมชาติสูดอากาศบริสุทธิ์ ที่คลองวังเคียงคู่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง 2.การนั่งเรือท่องลิตเติ้ลอเมซอน(คลองสังเน่ห์) ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า
กับบรรยากาศป่าโบราณรกทึบคล้ายป่าอเมซอน 3.เซลฟี่เก๋ๆ
ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี อ.ตะกั่วทุ่ง
วิวมุมสูงที่มองเห็นเกาะแก่งน้อยใหญ่ในอ่าวพังงา 4.ชมความมหัศจรรย์ของหินงอกหินย้อย
ในถ้ำพุงช้าง อ.เมืองพังงา
สอบถามได้ที่
ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ททท. โทร. 0-7648-1900-2
ข่าวที่ 4 “บางจากรับมือแหล่งวัตถุดิบน้ำมันอนาคต”
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่
บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) กล่าวว่า
ขณะนี้บริษัทนำเข้าน้ำมันดิบเพื่อมาใช้กลั่นน้ำมันสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิมที่ 50%
หลังราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้แหล่งผลิตในประเทศลดการผลิตลง จากเดิมบางจากจะใช้น้ำมันดิบในการกลั่นจากแหล่งในประเทศและต่างประเทศอย่างละ
50-50
ขณะที่ตามผลการวิเคราะห์ด้านพลังงานของต่างชาติระบุแหล่งเจาะปิโตรเลียมใหม่จะอยู่ในระดับสุดในรอบ
60 ปี
ส่งสัญญาณถึงผลกระทบต่อระบบการผลิตในอนาคตอาจมีปัญหาได้
ทางบางจากยังคงมีทางเลือกอนาคตในการนำลิเทียมมาใช้ประโยชน์ต่อระบบการผลิตได้
เนื่องจากบางจากถือหุ้น 7% ใน Western Lithium(WLC) (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ลิเทียม อเมริกา) และจะถือเพิ่มได้ไม่เกิน 20
% ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีเหมืองลิเทียมอยู่ในสหรัฐและอาร์เจนตินา
ตามคาดการณ์จะนำลิเทียมมาใช้เพิ่มในระบบการผลิตน้ำมันได้ เดือนมี.ค.2560 จะเริ่มพัฒนา จากนั้นปี 2561 ทยอยผลิตและผลิตยืนปีละ
25,000 ตัน ปี 2562 เพิ่มเป็นระดับ 50,000 ตัน ศักยภาพของแร่ลิเทียมสามารถนำไปผลิตเป็นแบตเตอรี่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
ข่าวที่ 5 “ไมซ์ทำตลาดออนไลน์ฟีเวอร์20ล้านวิว”
นางสริตา จินตกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ TCEB กล่าวถึงผลสำเร็จการดำเนินงานรด้านการตลาดออนไลน์ 3 ไตรมาสปีงบประมาณ 2559 ครอบคลุมทั้ง 3 ช่องทาง คือ 1.เครือข่ายสังคมออนไลน์-โซเชียลมีเดียทั้งตลาดในและต่างประเทศ
สร้างการรับรู้ผู้ใช้จากต่างประเทศ 19,854,820 วิว และกลุ่มผู้ใช้ในประเทศ 8,976,098 วิว 2.www.businesseventsthailand.com ที่ให้ข้อมูลครอบคลุมเพื่อตอบโจทย์และให้บริการผู้ใช้ครบถ้วนตามความต้องการทั้ง
8 ภาษานั้น มียอดผู้เข้าชมเว็บ781,218 เพจวิว 3.โมบาย แอพพลิเคชั่น Biz Thailand มีจำนวนดาวน์โหลด 2,000
ครั้ง สร้างการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ 2,190,589 วิว
ตลอด 3 เดือนในการทำแคมเปญตลาดออนไลน์ตลาดต่างประเทศ
Spice Up Your Business Agenda
2016 ที่นำเสนอสิทธิพิเศษของสินค้าและบริการที่น่าสนใจแก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์
มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความประทับใจและมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับนักเดินทางกลุ่มไมซ์
และกระตุ้นการใช้จ่ายและขยายระยะเวลาพำนักในไทยมากขึ้น พบว่า
มีงานไมซ์ 46 งาน จาก 16 บริษัทของผู้จัดงาน ลงทะเบียนร่วมแคมเปญฯ
มีจำนวนการแลกรับคูปองประมาณ 8,000 ครั้ง
สามารถสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ กว่า 10 ล้านวิว
สำหรับสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5
อันดับของการแลกรับได้แก่ ร้านอาหาร ช้อปปิ้ง
แหล่งท่องเที่ยว บริการรถเช่ารับ-ส่งสนามบิน และ โรงแรม
นักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่มียอดการแลกรับคูปองเพื่อใช้สิทธิพิเศษของสินค้าและบริการต่างๆ
ของแคมเปญสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ อินเดีย
จีน เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ปากีสถาน เยอรมัน และไทย
ด้านแคมเปญตลาดในประเทศอย่าง MICE Trip Challenge เน้นสร้างการมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ทำให้เกิดกระแสไวรัลนั้น มีผู้นำเสนอสถานที่จัดประชุม-สัมมนาที่มีศักยภาพ
มีผู้เข้าชมแคมเปญwww.micetripchallenge.com กว่า
2 หมื่นราย ได้รับเสียงโหวตรวมกว่า 33,000 ครั้ง
และสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ถึง 7 ล้านวิว
ข่าวที่ 6 “เปิดฤดูกาลโปร0บาทตั๋วบิน3ล้านที่นั่ง”
ไทย แอร์ เอเชีย เปิดฤดูกาล Big Sale อีกครั้งเส้นทางบินในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 3 ล้านที่นั่ง ราคาเริ่มต้นที่ 0 บาท รีบจองด่วนก่อนเที่ยงคืนวันที่ 11 กันยายน
2559 ทาง www.airasia.com
ซื้อแล้วเก็บไว้ใช้เริ่มบินได้ปี 2560 เริ่มตั้งแต่
6 ก.พ.-28 ต.ค.2560
เส้นทาง Big
Sale ฮ็อต บินตรงไป-กลับ จากดอนเมือง
ที่นั่งชั้นประหยัดจ่ายแค่ 2,990 บาท ชั้นธุรกิจก็เพียง 6,990 บาท
สู่ปลายทาง 4 เมือง คือ โอซาก้า โตเกียว โซล เซี่ยงไฮ้ ขณะที่ www.AirasiaGo.com จัดแพกเกจทัวร์รองรับแคมเปญ Big Sale เปิดให้จองโปรแกรมทัวร์ 3 วัน 2 คืน เริ่มต้นที่ 1,650 บาท รวมค่าตั๋วพร้อมภาษีทุกอย่างและห้องพักโรงแรม เพื่อไปพักผ่อนทั่วเมืองไทย หรือจะไปต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า เวียดนาม จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สำหรับแพกเกจของ www.AirasiaGo.com ซื้อภายใน 11 ก.ย.นี้ เริ่มนำไปใช้ได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.59-31 ก.ค.60
@ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ
นครนายก
เที่ยวธรรมชาติวิถีไทยได้ความรู้ที่ “ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ” หมู่ 2 ตำบลท่าด่าน
ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ไปได้ทุกวัยเที่ยวได้ทุกวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น ไปถึงแล้วจะได้เข้าถึงความลึกซึ้งของ “ดิน-น้ำ-ป่า”
แนวคิดและทฤษฏีการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพทรัพยากรตามแนวพระราชดำริของ
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
เป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้นานาพรรณ
บึงน้ำขนาดใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ด้านหน้าดาษดื่นตาด้วยหญ้าแฝกปกคลุมดินเก็บรักษาความชุ่มชื้นปุ๋ยในดินไว้ได้เป็นอย่างดี
โดยต้องห้ามพลาดชม นิทรรศการสร้างสรรค์
“พิพิธภัณฑ์ระบบแสงสีเสียงกลางแจ้ง” หรือที่เรียกว่า Outdoor Theatre
จำลองโซนแต่ละภาคที่น่าสนใจ อาทิ โซนภาคเหนือ มีหมู่บ้านไม้ไผ่สองข้างทาง
โซนภาคใต้เรียนรู้การทำน้ำมันไบโอดีเซล
สำหรับภายในมีนิทรรศการแสดงเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว
พร้อมจะบอกเล่าเรื่องราวเข้าใจง่ายถึงความมหัศจรรย์ทั้ง วิธีการทำฝนหลวง
กังหันน้ำชัยพัฒนา การใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงมีความสุข ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
และการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าในแผ่นดิน
เส้นทางการท่องเที่ยวโดยรอบ “ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ” 2 วัน 1 คืน เที่ยวไทยเรียนรู้ไปได้อย่างเก๋ไก๋เข้าถึงลึกซึ้ง
ตั้งแต่ “วันแรก” กับช่วงเช้าเข้าเยี่ยมชมโครงการต่าง
ๆ ภายในศูนย์ภูมิรักษ์ทั้งหมด ช่วงบ่ายไปเยี่ยมชม “โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์”
ต้นตำรับแห่งอาณาจักรสมุนไพรไทยซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกในอาคารสไตล์โคโลเนียลอายุเกือบ
200 ปี
สามารถเรียนทำสมุนไพรนำกลับมาใช้เองได้
หรือจะอุดหนุนสินค้าภูมิปัญญาไทยซื้อผลิตภัณฑ์ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายก็ได้เช่นกัน
“วันที่สอง” แวะไป “ปราจีนบุรี” เขตรอยต่อจังหวัดใกล้เคียง ดินแดนที่มี
“วัดต้นโพธิ์ศรีมหาโพธิ” เก่าแก่ที่สุดในเมืองไทย
แล้วก็เดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ “วัดแก้ววิจิตร” สมัยรัชกาลที่
5 ก่อนกลับแวะอีกแห่งที่
“พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ” เมืองมหัศจรรย์แห่งตะเกียงนับหมื่นดวง
@10 เคล็ดลับการกินลดได้วันละ 100แคลอรี่
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำวิธีปรับพฤติกรรมการกินเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันสามารถช่วยลด
100 แคลอรีจากการเลือกประเภทและปริมาณอาหารว่างได้จาก 10
เคล็ดลับต่อไปนี้
1.กินผลไม้รสไม่หวาน
อย่าใช้น้ำตาล พริก เกลือ จิ้มผลไม้ 2.ดื่มน้ำผลไม้ที่ไม่เติมน้ำตาล 3.เลือกกินธัญพืชหรือผักหลายสี 4.ดื่มนมขาดมันเนยแทนการดื่มกาแฟเย็น 5.อ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง
เพื่อดูพลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
6.หลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลหรือครีมเทียมลงในเครื่องดื่มช็อคโกแลต 7.ดื่มกาแฟลาเต้ผสมนมพร่องมันเนยแทน 8.ดื่มน้ำเปล่าแทนการดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มรสหวาน 9.เลือกกินอาหารประเภทนึ่งและหลีกเลี่ยงการกินขนมกรุบกรอบ 10.ถ้าต้องการกินขนมเบเกอรี่ให้ลดข้าวและลดอาหารที่มีไขมันมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นลง
สำหรับข่าวฮ็อตประจำสัปดาห์
ข่าวแรก
“นายกฯลุงตู่เปิดการก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส2”
บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.”
รายงานว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
จะเดินทางมาเป็นประธานการจัดงานขยายการก่อสร้างสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเฟส 2 ในวันที่
14 กันยายน
2559 นี้
หลังจากทอท.ได้ลงนามจ้างเอกชนก่อสร้างในกรอบงบประมาณปี 2554-2560
ที่เหลือจนครบเรียบร้อยแล้ว 3
สัญญา ประกอบด้วย
สัญญาแรก
ก่อสร้างงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1(ชั้นB2
ชั้นB1และชั้นG) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1
ของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ไอทีดี) จะดำเนินการแล้วเสร็จในอีก
2 ปี
สัญญา
2 งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่
1 (ชั้น
2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้
(งานระบบย่อย)
สัญญา
3 “งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค”
งานที่ปรึกษาและควบคุมงาน ของกิจการค้าร่วมเอส จี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ ชนะการประมูล โดยมีบริษัท ทีม คอลซัลติ้ง เอนจิเนียริ่งแอนด์แมเนจเมนท์
ซึ่งเคยเป็นผู้คุมงานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิในเฟส 1 อยู่ด้วย ตามข้อตกลงระบบงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคสัญญาจะสิ้นสุดวันที่
31 พฤษภาคม 2562 ในการสร้างระบบไฟฟ้า 115 KV โรงสูบน้ำ และงานสาธารณูปโภคต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง
ระหว่างนี้ยังคงมีการกำหนดเงื่อนไขทยอยเปิดการประมูลก่อสร้างเมกะโปรเจ็กต์สำคัญ
ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
กรอบวงเงิน 62,000 ล้านบาท
ขยายการรองรับผู้โดยสารจาก 45
ล้านคนต่อปีเป็นปี 2562 รองรับให้ได้ปีละ
60 ล้านคน
2.โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 งบประมาณ
34,000ล้านบาท
ขยายการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็นปีละ 90 ล้านคน และ 3.โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และ
Perimeter Taxiway 20,000
หมื่นล้านบาท
ข่าวที่สอง
“50 ปีท่องเที่ยวอาเซียนจัดเต็มที่สิงคโปร์ปี60”
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หรืออาเซียน รายงานว่า ได้เปิดตัวโลโก้ใหม่ “Visit ASEAN@50 Golden Celebration 2017” เพื่อนำเสนอแคมเปญการท่องเที่ยวของอาเซียน
ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวอาเซียนในปี 2560 ในวาระครบรอบ 50
ปีของการก่อตั้งที่สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน
ให้เกิดความร่วมมือกันสร้างเอกลักษณ์การท่องเที่ยวอาเซียนหรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มีความหลากหลาย ให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเดียว
เพื่อสร้างกระแสการรับรู้และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้มาเที่ยวอาเซียน
ตั้งเป้าปี 2560 สร้างรายได้ให้ถึง 83,000
ล้านเหรียญสหรัฐ จากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 121 ล้านคน ฐานเดิมปี 2557 ทำรายได้ 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปี 2558 มีนักท่องเที่ยว 108.9 ล้านคน
สำหรับ "VisitASEAN @ 50" จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียน
(ASEAN Tourism Forum) เดือนมกราคม 2560 ณ ประเทศสิงคโปร์
• จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร (Media
Fam trip) แนะนำเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวอาเซียนให้แก่สื่อมวลชน •
นำเสนอแพคเกจทัวร์และข้อเสนอพิเศษต่างๆ ในการซื้อสินค้าท่องเที่ยวเพื่อการเดินทางปี
2560 • ร่วมงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวนานาชาติในตลาดที่สำคัญ
เพื่อส่งเสริมแคมเปญ
• จัดโปรแกรมความร่วมมือด้านการตลาดร่วมกับตัวแทนการท่องเที่ยว
สื่อและสายการบิน • ส่งเสริมการรับรู้แคมเปญผ่านสื่อโทรทัศน์
สิ่งพิมพ์และทางสื่ออิเลคโทรนิค • จัดแคมเปญสื่อสังคมเพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค•
โปรแกรมการส่งเสริมโดยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติของอาเซียน
เน้นเป้าหมายด้านการค้า ผู้บริโภคและตลาดไมซ์ตลอดปี 2560
ข่าวที่สาม
“นักปั่นเฮร่วมไบค์ไทยแลนด์6-9ต.ค.นี้”
ระหว่างวันที่ 6-9 ตุลาคม 2559 เตรียมพบกับงาน "International Bangkok Bike"
ครั้งที่ 8 ฮอลล์ 3-4 อิมแพค
เมืองทองธานี มหกรรมงานจักรยานยิ่งใหญ่แห่งปี ที่ 3 องค์กรคือ "นีโอ" การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) และพันธมิตร ยกงาน "Euro
Bike" ลัดฟ้า มาให้อัพเดทเทรนด์จักรยานแบบไม่ตกยุค
พร้อมโชว์โมเดลใหม่ล่าสุด และนวัตกรรมใหม่ปี 2560 สอบถามได้ที่ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด
โทร. 0-2203-4241-4 หรือ www.bangkokbikeexpo.com
และwww.facebook.com/bkbexpo
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น