เจาะลึกไทยปลุกเอเชียรื้อ“ทัวร์ศูนย์เหรียญ”
นายกฯเดินสายเปิดสนามบินเฟส2ทอท.
ปรับโฉมพื้นที่สายใหม่เกาะรัตนโกสินทร์
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2559 เวลา 11.00-12.00 น.พบกันทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย” FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” กับเรื่องเล่าข่าวเจาะลึกการบิน ท่องเที่ยวของไทยและนานาชาติ (สำหรับวันอาทิตย์ที่
18 ก.ย.59 ห้ามพลาดสัมภาษณ์พิเศษ
“เด้งรับนโยบายขุดรากถอนโคนมาเฟียดอนเมือง )
ช่วงแรกเวลา 11.15 น.
ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ |
“คุณศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์”
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
กับมาตรการร้อนระดับชาติ เมื่อ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”
นายกรัฐมนตรีประกาศเสียงดัง ๆ ว่ารัฐบาลจีนกับรัฐบาลผมต้องการจัดระเบียบ “ทัวร์จีน
0 เหรียญ” ทำลายวงจรที่สร้างผลกระทบต่อบ้านเมืองและทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล
เมื่อต้องเข้ากระบวนการ
“จัดระเบียบนักท่องเที่ยวขาใหญ่ในเอเชีย” ที่ทะลักเข้ามาไทยปีละ 10 ล้านคน
ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเกิดสภาพตลาดสั่นสะเทือนขึ้นชั่วขณะ
ทว่าในวิกฤตคือการพิสูจน์ความสามารถ ททท.ที่จะพลิกให้กลายเป็นโอกาสจากตลาดเสริมประเทศอื่น
ๆ โดยเฉพาะ 5 ประเทศที่เคยเป็นนักท่องเที่ยวรายใหญ่ของไทยที่เคยทำสถิติเดินทางเข้ามาเที่ยวปีละเกินกว่า
1 ล้านคน อย่าง มาเลเซียไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น
“รองศรีสุดา” จะโชว์ฝีมือคิดค้นกิจกรรมในแบบ “เสือปืนไว”
เข้ามากระตุ้นตลาดเอเชียและแปซิฟิกกลับมาอุดช่องทัวร์จีนที่ลดหายไปบ้างในช่วงนี้
แล้วปลายปีก็จะกลับมาคึกคักมากกว่าเดิม
ต้องฟังข้อมูลเจาะลึกจากการสัมภาษณ์สดในรายการ
เวลา 11.15-11.30 น.
ฟังเสิร์ฟข่าวร้อนช่วงเบรกแรก
ข่าวที่ 1 “ซื้อแคชการ์ดช้อปคุ้มกว่าบินไปซื้อแบรนด์นอก”
กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ รายงานว่า ทุ่มทำโปรโมชั่นแรงแห่งปีที่คุ้มกว่าบินไปซื้อเองถึงเมืองนอกมาฝากนักเดินทางเพียงซื้อ
Cash Card ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน นี้ ก็สามารถนำไปช้อปนาฬิกาและสินค้าแบรนด์เนม โดยรับฟรี
Gift Card มูลค่าสูงสุดถึง 15,000 บาท แถมสมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์
ยังสามารถใช้ร่วมกับส่วนลดตามหน้าบัตรฯได้อีกด้วย ซื้อ Cash Card ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี
และคิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและ ดอนเมือง
ข่าวที่2“กทม.ใส่เกียร์หน้าปรับโฉมสวนนาคราฯ3ด้าน”
นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
เปิดเผยว่า ล่าสุดคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ได้พิจารณาเห็นชอบโครงการจะก่อสร้างที่จอดรถใต้ดินที่บริเวณสนามหลวง
เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรรอบเกาะรัตนโกสินทร์ รอบบริเวณทั้ง 3 ด้าน
ด้านที่ 1
มีสถานที่โบราณสถานและโบราณวัตถุงดงาม ที่มีอยู่ใต้ท้องสนามหลวง
ด้านแรก กำแพงวังหน้าฝั่งสำนักพระราชวัง
รวมทั้งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และด้านที่ 2 ฝั่งพระบรมมหาราชวังซึ่งมีโบราณสถานจำนวนมาก
ด้านที่ 3
บริเวณสนามหลวงฝั่งที่ติดกับสะพานปิ่นเกล้า
อาจจะมีผลกระทบกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มบริเวณสถานีสนามหลวง ล่าสุดมีความเป็นไปได้ที่จะเดินหน้าพัฒนาต่อไป
อนาคตจากสวนาคราภิรมย์เชื่อมต่อรอบเกาะรัตนโกสินทร์และรอบพระบรมมหาราชวัง
จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายใหม่ครบวงจรทั้งความเป็นธรรมชาติ จุดชมสถาปัตยกรรมวัด
วัง ทางบกและทางน้ำ
ข่าวที่ 3“ททท.เปิดสนง.ปรากโกยครึ่งแสนล้าน”
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ได้เปิดสำนักงานใหม่ล่าสุดในยุโรปคือ ททท.กรุงปราก
เพื่อมุ่งเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปตะวันออก โดยพิจารณาจากศักยภาพด้านการท่องเที่ยว
ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้การท่องเที่ยวจากตลาดแถบนี้ให้ได้เกินกว่าปีละ 50,000 ล้านบาท เพราะปี 2557 ต่อเนื่องถึงปี
2558 นักท่องเที่ยวตลาดยุโรปตะวันออก มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น
3.95 % หรือ 166,315
คน
การเปิดสำนักงานครั้งนี้ ททท.ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนและรายได้จากตลาดยุโรปตะวันออก
ได้แก่ สาธารณรัฐเชค บัลแกเรีย ฮังการี โปแลนด์ โรมาเนีย
สโลวาเกีย และยูเครน ซึ่เดินทางเข้าประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องติด 3 อันดับแรก ได้แก่ โปแลนด์
เช็ก และฮังการี
ข่าวที่ 4“บางจากขายBCPGหุ้นล็อตใหม่19-20ก.ย.”
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ BCPG กล่าวว่า
ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน นี้ จะเปิดให้ผู้มีอุปการคุณของบางจาก
บุคคลทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน จองซื้อหุ้นได้ พร้อมทั้งคาดจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในสิ้นเดือน
ก.ย.นี้
หลังจากเมื่อวันที่ 14-16 กันยายน ที่ผ่านมา BCPG ได้เปิดให้ผู้ถือหุ้น BCP เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นจองซื้อหุ้นไปเรียบร้อยแล้ว
ตามผลสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน โดยมีช่วงราคาเสนอขายที่ 9.80-10.00 บาท/หุ้น
พบว่านักลงทุนสถาบันได้แสดงความต้องการซื้อหุ้นเข้ามาเป็นจำนวนมากโดยกำหนดราคาจองซื้อหุ้น
IPO ของ BCPG ที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 10 บาท ซึ่งจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 590 ล้านหุ้น หรือ 29.6% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้น
IPO แล้ว BCPG จะมีทุนชำระแล้วทั้งสิ้น 9,950 ล้านบาท พาร์หุ้นละ 5.00 บาท
ข่าวที่ 5 “ธุรกิจอีเวนต์รับเทรนด์ใหม่Future Venue”
นางสาวสริตา จินตกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ
สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่าล่าสุดได้รวบรวมข้อมูลดิจิตอลไมซ์
เพื่อนำมาเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยเฉพาะเรื่อง “The Vennue of the Future :สถานที่จัดงานแห่งอนาคต”
ที่ผู้จัดงานอีเวนต์ในไทยและทั่วโลกกำลังโหยหา
สถานที่จัดงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในลักษณะที่เรียกว่า Unique Venues อาทิ พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ อาร์ตแกลอรี่
ล้วนเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
ยิ่งเมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาททางธุรกิจไมซ์มากยิ่งขึ้น
ผู้จัดงานและสถานที่จัดงานจึงพากันปรับตัวครั้งใหญ่
โดยอาศัยเครื่องมือใหม่ในโลกดิจิตอลยุค 4G เข้ามาเสริมทัพความสะดวกสบายให้แก่ตลาดและลูกค้า
นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป จึงมี 7 เทรนด์สถานที่จัดไมซ์อีเวนต์
ที่ผู้ประกอบการไทยควรได้รู้และเตรียมรับมือทั้งการให้บริการและการขยายส่วนแบ่งตลาดโดย
TCEB พร้อมจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
สำหรับสถานที่จัดงานแห่งอนาคต 7 เทรนด์ที่มาแรง ประกอบด้วย
1.สถานที่จัดงานต้องมีเมนูทางเลือกเพื่อสุขภาพ 2.สถานที่จัดงานต้องไม่คิดเล็กคิดน้อย เช่น ต้องจ่ายเฉพาะค่าบริการสถานที่
ไม่ใช่แยกส่วนเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบริการ WiFi หรือเก็บเพิ่มยุบยับเล็ก ๆ น้อยเพิ่มจนไม่เป็นธรรม 3.สถานที่จัดงานต้องเอาใจใส่ผู้จัดงานอีเวนต์ 4.เทคโนโลยีเป็นสิ่งจำเป็นในการให้บริการของสถานที่จัดงาน
5.คอนเนคชั่นคือสิ่งสำคัญในการตัดสินใจ
เพื่อให้ได้ “ราคาคุณภาพ” ที่ดี 6.นักจัดงานอีเวนต์เปลี่ยนมาใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาสถานที่จัดงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นสถานที่มีผู้ประกอบการจำนวน มากมาออร้าน 7.สถานที่จัดงานแบบใหม่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะแต่ละงานต้องการสร้างเอกลักษณ์งานของตน จึงหันไปเลือกใช้ โรงภาพยนตร์
พิพิธภัณฑ์ อาร์ตแกลลอรี่
ข่าวที่ 6 “ตะลุยบินไปกินอาหารถิ่นทั่วไทย”
ตามล่าท้าผู้ที่ชื่นชอบบิน “ไทย แอร์เอเชีย” ไปพักผ่อนครั้งละ 3 วัน 2 คืน กับโปรแกรมใหม่ล่าสุด “ตะลุยกินทั่วไทย” ด้วยเงินเพียง 2,690 บาท ได้ครบทั้งแพกเกจ ตั๋วโดยสารบินไป-กลับ
ห้องพักโรงแรม ภาษีต่าง ๆ จองภายในวันนี้-18 กันยายน 2559 ตะลุยข้ามภาคไปกินอาหารถิ่นไทยได้ทั้งใน
เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ และจังหวัดอื่น ๆ ไม่รู้ต้องลอง
แพกเกจนี้ซื้อแล้วเก็บไว้ใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม
2559 ดูเพิ่มที่ www.airasiaGo.com
ช่วงที่ 2 เวลา 11.45 น. ผู้ที่ต้องการเติมบุญเสริมชัยชนะต้องไปสักการะ “พระมหาเจดีย์ชัยมงคล”
จ.ร้อยเอ็ด แล้วก็เลือกกินพืชผักสายตาดีและวิธีแก้ดวงตาล้าจากการทำงานหนัก
เรื่อยไปจนถึงข่าวเฉียบ ๆ ตาม “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”
นายกรัฐมนตรีเดินสายเปิดสนามบินทั่วไทย จัดระเบียบไทย-ฝรั่งเที่ยวในวัดพระแก้ว
สำนักทรัพย์สินฯ
กับแผนปรับโฉมพื้นที่รองรับการท่องเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์และพระบรมมหาราชวัง
@เติมบุญศักดิ์สิทธิ์ที่พระมหาเจดีย์ชัยมงคล”
พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพเทพประสิทธิวนาราม |
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน “ร้อยเอ็ด” เป็นอีกจังหวัดที่มีเรื่องเล่าอันจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดพลังคนได้
ณ “พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดผาน้ำทิพเทพประสิทธิวนาราม
อ.หนองพอก” สร้างอยู่บนยอดภูสีเขียวขจีราว 101 ไร่
มองเห็นทัศนียภาพเบื้องบนและเบื้องล่างอย่างสวยงาม
มนต์ขลังหากครั้งหนึ่งในชีวิตมีโอกาสได้สักการะ “พระมหาเจดีย์ชัยมงคล
วัดผาน้ำทิพเทพประสิทธิวนาราม” เท่ากับได้เสริมส่งมงคลท่วมท้นในชัยชนะ
ด้วยพุทธานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง
ขณะที่ “สถาปัตยกรรม” การออกแบบผสมผสานระหว่างแบบองค์พระปฐมเจดีย์กับพระธาตุพนม
โดยใช้วิธีก่อสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ไว้ตรงกลางความสูง 6 ชั้น
แต่ละชั้นออกแบบวิจิตรตระการตา แล้วยังสร้างเจดีย์เล็ก 8 องค์
ล้อมรอบไว้ ภายในเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนสลักด้วยทรายของพระคณาจารย์ ปราชญ์อีสานในอดีต
และพระสุปฎิปันโนรวมถึง 101 องค์
และเป็นพิพิธภัณฑ์สถานเก็บรวบรวมอัฎฐะบริการของ “หลวงปู่ศรี มหาวีโร”
ผู้ดำเนินการก่อสร้างมหาเจดีย์แห่งนี้
“สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ”
ในจังหวัดร้อยเอ็ด ไม่ไกลจากพระมหาเจดีย์ชัยมงคล
ก็มี “สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดี” ร้อยเรียงสวนด้วยต้นสมุนไพรในวรรณคดีกลายเป็นเรื่องเล่าประจำภาคอีสาน
ถัดไปเป็น “เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์” ซึ่งมี
“ผาภูไท” เป็นจุดชมพระอาทิตย์ยอดนิยม
และมีบริเวณลานกางเต็นท์กับบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวค้างแรมได้ด้วย
ที่โดดเด่นได้รับความนิยมควรค่าแก่การไปชมคือ “สถานแสดงพันธุ์สัตว์ น้ำเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด” ใกล้บึงพลาญชัย
มีปลาน้ำจืดหลายพันธุ์อยู่ในตู้ขนาดมหึมา เปิดให้ชมฟรี ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์
เวลา 08.30316.30 น. และ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง บึงพลาญชัย” สวนสุขภาพอันเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวร้อยเอ็ด
เที่ยวเมืองไทยในทุก ๆ ที่ เที่ยวอย่างมีความรู้ เข้าถึงวิถีชีวิต
เป็นประสบการณ์ที่เรียกว่า “เที่ยวเมืองไทย เก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง ในแบบฉบับ Local Experience
แสนงดงาม
@กินพืชผักสายตาดีและวิธีแก้ดวงตาล้า
สายตาดี”
มีชัยไปกว่าครึ่ง ถ้าวันนี้ คุณไม่กินอาหารสุขภาพ
แถมยังใช้งานดวงตาหนักเกินความจำเป็น แน่นอนว่า อีกไม่นาน
คงมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาเป็นแน่ เพื่อให้ดวงตาของคุณสดใส แข็งแรง ชีวจิต
จึงรวบรวมสุดยอดผักผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงสายตามาฝากกัน
1.บิลเบอร์รี
อุดมแอนโทไซยาโนไซด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้หลอดเลือดฝอย
กระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่จอประสาทตา ทำให้มองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น
และช่วยป้องกันโรคต้อกระจกด้วย
2.แครอตอุดมวิตามินเอ หรือสารแคโรทีนอยด์ซึ่งลำไส้สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้จึงเป็นประโยชน์ต่อสายตามาก
3.อะโวคาโด
อุดมวิตามินอีอยู่มากจะช่วยลดการเสื่อมของศูนย์จอตาในระยะแรกได้ โดย วิตามินอี
พบมากใน อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง น้ำมันมะกอก
4.ปวยเล้ง อุดมลูทีนและซีแซนทิน
5.น้ำมันตับปลาอุดมวิตามินดีวิตามินดี
ช่วยในการรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบ
การกินผักผลไม้บำรุงสายตาแล้ว หมั่นออกกำลังกายโดยเฉพาะช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงแดดอ่อน
ก็จะช่วยให้ดวงตาและอวัยวะทุกส่วนแข็งแรงยิ่งขึ้น
วิธีแก้อาการดวงตาล้า
หากรู้สึกปวด หรือมีอาการเมื่อยล้าดวงตา
แนะนำว่าการใช้น้ำอุ่นและน้ำเย็นชโลมดวงตาเช่นเดียวกับการล้างหน้า
จะช่วยรักษาความเป็นกรดและด่างของดวงตา
และปรับสมดุลของระบบไหลเวียนเลือดในดวงตาได้
ทั้งนี้เพราะอุณหภูมิน้ำที่แตกต่างกันจะทำให้การไหลเวียนเลือดในเส้นเลือดฝอยเป็นไปอย่างสะดวกขึ้น
โดยการชโลมดวงตาด้วยน้ำอุ่นประมาณ 10 วินาที จากนั้นให้เปลี่ยนเป็นน้ำเย็น หรือ
ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นสลับกับน้ำเย็นประคบดวงตาแทนได้
สำหรับข่าวส่งท้ายรายการ
ข่าวแรก
“นายกฯเดินสายเปิดเฟส2สนามบินทั่วไทย”
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเริ่มงานก่อสร้างสุวรรณภูมิ เฟส2 เมื่อ 14 ก.ย.2559 เวลา 15.00 น. |
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา “พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี
เดินสายเป็นประธานพิธีเปิดการก่อสร้างสนามบินนานาชาติให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) หรือ “ทอท.” ในหัวเมืองหลักทางการท่องเที่ยวของประเทศถึง 2 แห่ง
แห่งแรก เป็นประธานพิธีเริ่มงานก่อสร้าง
“สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเฟส 2” เมื่อบ่ายวันที่ 14 กันยายน 2559 จำนวน 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 62,500 ล้านบาท ตามกรอบการใช้เงินระยะ 5ปี พ.ศ.2554-2560 โดยเริ่มตอกเสาเข็มโครงการก่อสร้างสะพานเทียบอาคารหลังที่
1 ซึ่งมี บมจ.อิตาเลียน
ได้รับสัมปทานการก่อสร้าง เมื่อเฟสสองแล้วเสร็จสุวรรณภูมิจะรองรับผู้โดยสารเพิ่มจากปัจจุบัน
45 ล้านคน ในปี 2562 จะรับได้ถึงปีละ 60 ล้านคน และเฟส 3 ภายในปี 2564 จะรับเพิ่มเป็นปีละ 90 ล้านคน
แห่งที่สอง ประธานพิธีเปิด “สนามบินนานาชาติภูเก็ต” เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 เวลา 09.09 น. ในการเปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศส่วนต่อขยายหลังใหม่
ตามปีงบประมาณ 2553 – 2557 ซึ่งปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีขีดความสามารถเพียงพอต่อการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศจากปีละ
6.5 ล้านคน เป็น 10-12 ล้านคน ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกด้านได้อย่างปลอดภัย
สะดวก รวดเร็ว และได้มาตรฐานสากล เพื่อเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค
ประกอบด้วยการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน การก่อสร้างขยายลานจอดอากาศยาน
และการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
ห้ามพลาด ! ติดตามฟังสัมภาษณ์พิเศษ
“เด้งรับนโยบายนายกฯสั่งขุดรากถอนโคนรื้อมาเฟียดอนเมือง”
ต่อเนื่องได้จากทางรายการในวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ย.59 เวลา 11.15-11.30 น.
ข่าวที่สอง“จัดระเบียบไทย-เทศทัวร์วัดพระแก้ว”
รายงานผลการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับสำนักพระราชวัง
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559
กรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งจัดระเบียบใหม่การเข้าชม “วัดพระแก้ว”
ได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่จะนำมาใช้ด้วยวิธีจัดแบ่งเวลาสักการะพระแก้วมรกตเป็น 2
รอบ รอบแรก อนุญาตนักท่องเที่ยวคนไทยให้เข้าไปได้ตั้งแต่ 07.30-8.30 น.ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้เข้าชมได้เริ่ม
8.30 น.-15.45 น. และในช่วงผู้คนเข้าชมหนาแน่นจะแบ่งเลนคนไทยและต่างชาติเพื่ออำนวยความสะดวกให้ได้มากที่สุด
รวมทั้งสำนักพระราชวังกำลังศึกษาระบบการอำนวยความสะดวกการท่องเที่ยวสถานที่สำคัญในโลกรวมถึงกำลังปรับปรุงระบบพระบรมมหาราชวังที่ต้องดูแลนักท่องเที่ยววันละประมาณ
100,000 คน ส่วน “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม”
ซึ่งมีนักทัศนาจรวันละ 15,000 คน
ข่าวที่สาม“รอชมเส้นทางทัวร์สายใหม่เกาะรัตนโกสินทร์”
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
แจ้งว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2559 เวลา 10.00 น.
จะแถลงการจัดทำโครงการปรับปรุงฟื้นฟูกลุ่มอาคารอนุรักษ์ในพื้นที่บริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง
ส่วนงานก่อสร้างที่จอดรถใต้ดิน บริเวณสวนนาคราภิรมย์ต่อเนื่องสโมสรข้าราชบริพาร
และกลุ่มอาคารอนุรักษ์บริเวณท่าเตียน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมภูมิทัศน์บริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง
อันเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ ให้เกิดความสง่างามและทรงคุณค่า
และบรรเทาปัญหาการขาดแคลนที่จอดรถในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์
ซึ่งถือเป็นโครงการที่สนับสนุนมิติด้านสังคม และมิติเชิงประวัติศาสตร์
สถานที่ ณ ห้องประชุมเทเวศร์ อาคาร 4
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
พบกับสาระข่าวดี ๆ ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.
ดำเนินรายการโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน และ นฤมล พุกยม
ติดตามฟังรายการย้อนหลังเข้าไปที่ www.google.com พิมพ์คำว่า รวยด้วยข่าว97.0 หรือทาง www.facebook.com/rauydauykhao
และ ข่าววิเคราะห์เจาะลึกทางบล็อกเกอร์ :gurutourza.blogspot.com
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์การบิน/ท่องเที่ยว และผู้ดำเนินรายการข่าว สวท.FM97.0 MHz. |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น