ททท.เปิดแผนเมืองรอง”ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ”โต10% ชูเที่ยวมุมใหม่วิถีชุมชน“4ตลาดเก่าเล่าเรื่อง-กินกุ้งแม่น้ำ”

ททท.เปิดแผนเมืองรอง”ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ”โต10%

ชูเที่ยวมุมใหม่วิถีชุมชน“4ตลาดเก่าเล่าเรื่อง-กินกุ้งแม่น้ำ”

คิงเพาเวอร์ชวนสมัครสมาชิกถึง31ธ.ค.รับสิทธิ์ใหญ่ทั่วโลก

ช้อปน้ำหอม/เครื่องสำอางคิงเพาเวอร์ลดสูงสุด1800บาท

ททท.ระยองงัดมหกรรมซีฟู้ดสิงหาฯปลุกท่องเที่ยวกรีนซีซัน

BCPGเครือบางจากจัดสัมมนาโซลาเซลล์หนุนพลังงานดี

TCEBพร้อมหนุนสตาร์ตอัพโฉมใหม่นวัตกรรมไฮเทคไมซ์

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว #TATฉะเชิงเทรา


ช่วงที่ 1 ตามติด “บุณยนุช วรรณยิ่ง” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา เปิดมหกรรมการท่องเที่ยวซีเอสอาร์ชุมชนใกล้กรุงเต็มรูปแบบใน “สมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา” ต้อนรับปีแห่งการเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบฉลอง 60 ปี ททท. พร้อมเปิดแคมเปญ “เที่ยวตลาดเก่าเล่าเรื่อง-กินกุ้งแม่น้ำ” ตามไปชิมอาหารถิ่น 4 ตลาดสุดฮ็อต More Fun กับทัวร์ไหว้พระขอพรพระพิฆเนศ และเส้นทางฟินกินกันตัวแตก ตั้งแต่ครึ่งปีหลังต่อเนื่องปี’63 ช่วยสร้างรายได้ไหลเข้า 2 จังหวัดเติบโตตามเป้าอีก 10 % แตะหมื่นล้านบาท

นางสาวบุณยนุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา 

นางสาวบุณยนุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์เดินหน้าการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ประโยชน์สู่สังคมและการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ในฉะเชิงเทราหรือเมืองแปดริ้วมีแม่น้ำบางปะกงเป็นสายน้ำหล่อเลี้ยงคนทั้งเมือง โดยมี แห่งแรก จุดแข็งการสร้างบ้านปลาทำธนาคารปู พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อยู่ภายในวัดคงคาราม (วัดบน) ทางกลุ่มชาวบ้านได้อนุรักษ์ให้สายน้ำกลับมามีชีวิตสดใสโดยทำแนวกั้นให้ปลาตีนมาอาศัยอยู่ด้วยการปลูกป่าชายเลน ปล่อยปูแสม ได้ขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น แต่ก่อนเคยมีแล้วหายไปบริเวณนี้ได้รับการฟื้นฟูเป็นบ้านปลา ธนาคารปู เชิญชวนไปท่องเที่ยวเดินชมป่าโกงกางบ้านพักอาศัยของสัตว์น้ำ ทุกครั้งเมื่อมีขยะพลาสติกชาวบ้านจะช่วยกันทำความสะอาด รักษาระบบนิเวศน์บางปะกง หากทำได้สม่ำเสมออนาคตอันใกล้นี้ก็จะมีปลาโลมาสีชมพูกลับมาด้วยเช่นกัน เดิมเคยมีโลมาอิรวดีอยู่มาก่อนจากฉะเชิงเทรามาจนถึงบางปะกง แต่ขณะนี้หายไปชาวบ้านจึงต้องการฟื้นฟูสายน้ำให้เป็นแหล่งของสัตว์น้ำนานาชนิด

ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาร่วมทำกิจกรรมกับชาวบ้านบางปะกงได้ทุกวัน ทั้งเรื่องการทำบ้านปลา ธนาคารปู ปลูกป่าโกงกาง เก็บขยะพลาสติก และอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ เพื่อช่วยกันดึงโลมาอิรวดีมาพักอาศัยต่อไป สามารถติดต่อกับทางประธานชุมชนบ้านปลาธนาคารปูได้ตลอด ขณะนี้นักท่องเที่ยวมาเดี่ยว ๆ 1-2 ขึ้นไป สามารถเข้าไปชมด้านหลังคงคาราม มีเส้นทางเลี้ยงอาหารปลาธนาคารปูได้ หรือหากต้องการทำกิจกรรมซีเอสอาร์ติดต่อ ททท.ฉะเชิงเทรา 038-514-009

 แห่งที่ 2 บ้านบางค้างคาว อำเภอคลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ด้วย เป็นแหล่งมะพร้าวพื้นเมืองและมะพร้าวน้ำหอม สวนที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวมีกิจกรรมมากมายให้ทำ ตั้งแต่เดินชมสวน สาธิตการทำอาชีพปลูกมะพร้าว ทำปุ๋ย ทำไอศรีม ได้แก่ สวนราตรี สวนคุณมนัส สำหรับสวนโคโค่คาวบอยจะสอนทำไอศครีมกระทิ รวมทั้งนำเปลือกมะพร้าวมาทำปุ๋ย โดยชาวบ้านรวมตัวกันนำเครื่องมาปั่นผสมจุลินทรีย์หมักแล้วนำไปใช้ปลูกพืชสวนครัวอย่างอื่นได้ด้วย กิจกรรมนี้คิดค่าทำ คนละ 35 บาท นำเนื้อไปปั่นทำไอศรีมแถมได้ดื่มน้ำมะพร้าวบริสุทธิ์จากสวน หรือหากต้องการทำกิจกรรมอื่น ๆ ก็มีค่าวิทยากรบ้างเล็กน้อย ผอ.บุณยนุชกล่าวว่า

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไปยังได้เปิดเส้นทางใหม่ “เปิดตลาดเก่าเล่าเรื่อง-กินกุ้งแม่น้ำ” ได้แก่

“ตลาดแรก-บ้านใหม่” เป็นพื้นที่ยอดนิยมอยู่ในตัวเมืองแปดริ้ว เชื่อมเส้นทางท่องเที่ยวไปยังวัดโพรงอากาศ วัดสมานรัตนาราม และบ้านคลองเขื่อน สามารถแวะสักการะพระพิฆเนศ 3 ปรางค์ได้ด้วย บริเวณตลาดจะอนุรักษ์เรือนไม้และร้านเก่าแก่ เช่น “ร้าน 3 แม่ครัว” อยู่กลางตลาดขายอาหารตามสั่งจานเดียว เมนูเด็ดคือผักบุ้งผัดกระปิ รวมถึงผัดกระเพาะหมู เกี้ยมฉ่าย ชาวไทยเชื้อสายจีนชื่นชอบ “ร้านป้าหนู” อยู่สุดริมน้ำบางปะกงเป็นเรือนไม้วิวสวย มีกุ้งแม่น้ำเผา ปลากะพงตะไคร้ ต้มโค้งปลาสลิด เมนูแนะนำคือปลาก๋วยเตี๋ยวจะมีเส้นใหญ่กับเนื้อปลา และกุ้งแม่น้ำเผา เป็นอาหารถิ่นแสนอร่อย

 “ตลาดที่ 2-นครเนื่องเขตต์” ห่างจากตัวเมือง 20 กม.ออกไปทางมีนบุรี เป็นแหล่งชุมนุมอาหารสไตล์ก๋วยเตี๋ยว หมูตุ๋น-ไก่ตุ๋น-ปากหม้อ ขนมปังอบเนย กาแฟโบราณ ขนมไทยโบราณ ขนมต้ม ขนมขี้หนู รสชาติอร่อยราคาไม่แพง มีเรือชาวบ้านล่องเรือนำเที่ยวตามลำคลองชมวิถีสองฝั่งคลองเป็นเรือนไม้ริมน้ำเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยใช้เวลาล่องเรือชมตลาดไป-กลับ ประมาณกว่า 10 นาที คิดราคาเหมาลำละ 300-400 บาท/ลำ นั่งได้ลำละ 5-6 คน

 “ตลาดที่ 3-คลองสวน 100 ปี” อยู่ระหว่างฉะเชิงเทรากับสมุทรปราการ รอยต่อบ้านโพธิ์ (ฉะเชิงเทรา) -บางบ่อ (สมุทรปราการ) หากถนนนี้แล้วเสร็จจะทะลุไปถึงถนนร่มเกล้า ลาดกระบัง เดิมเคยเป็นชุมชนเก่า เปิดเป็นโรงสีข้าว ด้านหลังติดลำคลองประเวศน์บุรีรมย์ เส้นทางสัญจรทางน้ำรัชกาลที่ 5 ทรงให้ขุดขึ้นเมื่อปี 2444 เพื่อใช้สัญจรทางน้ำจากกรุงเทพฯ เชื่อมไปออกปราจีนบุรี สระแก้ว อรัญประเทศ ได้ แต่ตอนนี้ก็ล่องได้เฉพาะบางส่วนเพราะมีถนนตัดผ่านจำนวนมาก มีเรื่องเล่าให้เห็นร่องรอยเมื่อครั้งอดีตรุ่งเรืองแลกเปลี่ยนการค้าสำคัญโดยใช้เรือลากจูงผ่านแม่น้ำสายน้ำ แต่บ้านเรือนยังคงรักษาสภาพบ้านไม้ริมน้ำสะพานข้ามคลองเป็นบรรยากาศสวนจริง อาหารขึ้นชื่อคือ “กุ้งแม่น้ำเผาลุงชาติ หอยจ๊อก๊วยเจ๋งเนื้อกรรเชียงปู เป็ดพะโล้นายจุ่น อัญชลีหมี่ทรงเครื่อง ตลาดนี้เปิดทุกวันแต่จะเต็มรูปแบบวันเสาร์-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวแวะไปรับประทานและผู้คนโทรสั่งซื้อกลับบ้าน ข้ามไปฝั่งสมุทรปราการจะมีสินค้าแบบเดียวกับสำเพ็ง กรุงเทพฯ เช่น สินค้าเครื่องเล่นไฟฟ้า และอื่น ๆ

 “ตลาดที่ 4-ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง” เส้นทางท่องเที่ยวฟินกินกันตัวแตก สุดยอดตลาดที่มีร้านมากถึง 700-800 ร้าน อยู่ในตำบลบางน้ำผึ้ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทปราการ นำเสนอขายสินค้าถิ่นของตัวเอง เช่น ม้าฮ่อ ปลาสลิด ขนมจาก ก๋วยเตี๋ยวหมู หมึกไข่ย่าง ทอดมันปลาอินทรี เมี่ยงคำ เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวเข้าคิวต่อแถวยาวรอซื้อรับประทาน เทรนด์ตอนนี้มีกลุ่มเจนวายเข้ามาร่วมเปิดร้านมากขึ้น เป็นนักศึกษาจบใหม่เพิ่งทำงานจะหันมาเปิดร้านในตลาดบางน้ำผึ้ง ทำวุ้นมะพร้าว ลูกชิ้นหมูทำมือไร้แป้งและโบแร็กซ์เป็นอาหารสไตล์คลีนมีนวัตกรรมมากขึ้น

 ผอ.บุณยนุช กล่าวว่าในโอกาสฉลอง 60 ปี ททท.ปี 2563 ได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวใน 2 จังหวัดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ “ไหว้พระ-ทำบุญ-กินกุ้งแม่น้ำ” ที่ฉะเชิงเทรา เริ่มจากกราบสักการะวัดหลวงพ่อโสธร หากต้องการขอพรต้องไปวัดพระพิฆเนศปรางค์ประธานพรและยืน องค์ขนาด 30 เมตร มีเทคนิคกระซิบขอพรให้สมหวังข้างหูหนูด้วย

ส่วน “สมุทรปราการ” ปั่นจักรยานรอบคุ้งบางกระเจ้า เที่ยวชุมชนทำธูปหอม ผ้าบาติก อาหารถิ่นอย่างม้าฮ่อ การสานปลาตะเพียนด้วยใบตอง ทาง ททท.จะจัดเส้นทางเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวตามเส้นทางดังกล่าว จะเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป จะโปรโมตท่องเที่ยวควบคู่กับงานประเพณีเทศกาลออกพรรษารับบัวเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่สถานการณ์รายได้ท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัด ในปี 2563 จะต้องเพิ่มจากปีนี้อีก 10 % เฉพาะ“สมุทรปราการ” ปี 2561 มีนักท่องเที่ยว 3.5 ล้านคน 6,300 ล้านบาท เพิ่ม 9 % ปี 2562 จะต้องเพิ่มรายได้ขึ้นไปอีก 8 % ยังมีเวลาเหลืออีก 5 เดือน สิงหาคม-ธันวาคม 2562 ตอนนี้อัตราการพักค้างคืนจะลดลงไปบ้างเพราะนักท่องเที่ยวนิยมไป-กลับเช้าเย็นเป็นเที่ยววันเดียว แต่มีความถี่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ จึงทำให้รายได้เพิ่มขึ้นใกล้เคียงเป้าหมาย 7-8 % เตรียมทำประชาสัมพันธ์ร่วมกับเอกชนและหน่วยงานรัฐทำกิจกรรมดี ๆ เช่น เที่ยวเมืองโบราณ ชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ 365 บาท 365 วัน ซื้อวันนี้สามารถนำไปใช้ได้จนครบปีหน้า

 ส่วนฉะเชิงเทรา ปี 2561 มีนักท่องเที่ยว 3.4 ล้านคน สร้างรายได้ 5,007 ล้านบาท เพิ่ม 7.56 % ปี 2562 จะต้องเพิ่มเป้ามรายได้อีก 8 % และปี 2563 จะต้องเพิ่มรายได้ขึ้นไปอีก 10 % ทั้งจังหวัดสมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา เชิญชวนนักท่องเที่ยวไปสร้างประสบการณ์มุมใหม่ More Fun การเที่ยวชุมชนในตลาดเก่าเล่าเรื่องและกินกุ้งแม่น้ำกันได้ตลอดทั้งปี

 ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 ข่าวที่ 1 “สมัครบัตรคิงเพาเวอร์ถึง 31 ธ.ค.นี้ลดสูงสุด20%แถมสิทธิ์ทั่วโลก"

 สมาชิกคิง เพาเวอร์ สมัครง่าย ลดได้ทันที สูงสุด 20% สะสมยอด เพื่อปรับสถานะสมาชิก CROWN รับส่วนลดสูงสุด 20% และสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น วันนี้ – 31 ธันวาคม 2562 สมัครเลย! ที่จุดบริการสมาชิกทุกสาขาสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกคิง เพาเวอร์ สมาชิกประเภท NAVY / SCARLET / ONYX มีอายุ 2 ปี ยอดซื้อทุก 100 บาท รับ 1 กะรัตสะสม สิทธิ์ร่วมรายการ Birthday Celebration มอบ 2 สิทธิพิเศษ เพียงซื้อสินค้าราคาปกติตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป (1 ชิ้น)

ต่อที่ 1: รับ Cash Back 30% ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี มหานคร พัทยา และภูเก็ต

ต่อที่ 2: รับ Cash Back 25% ที่คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต ใช้ห้องรับรองพิเศษ King Power Lounge ส่วนลดสายการบิน โรงแรม อัตราแลกเปลี่ยน บริการรถเช่า แพ็กเกจทัวร์ และส่วนลดร้านอาหารที่คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต และคิงเพาเวอร์ รางน้ำ 


ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์ลดแหลกน้ำหอม/เครื่องสำอางขาออก4สนามบิน  

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดแคมเปญลดกระหน่ำ จนถึง 31 ก.ค. 2562 แผนกน้ำหอมและเครื่องสำอางค์ รับส่วนลดสูงสุด 1,800 บาท ในบริเวณโซนร้านขาออก 4 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยมอบความพิเศษให้แก่ผู้ถือพาสปอร์ตไทย และสมาชิกคิง เพาเวอร์ ดังนี้ • ช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ลดทันที 400 บาท • ช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ลดทันที 1,000 บาท • ช้อปครบ 12,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ลดทันที 1,800 บาท กติกาง่าย ๆ 1.เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ 2.สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิกคิง เพาเวอร์ 3.ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ Birthday Celebration , E-Purse, E- Cash, Cash Card , Gift Card , Gift Voucher, Cash Voucher รวมถึงคูปองส่วนลดอื่นๆ ยกเว้น E-Purse ที่ได้รับจากการสมัครบัตรสมาชิก สามารถร่วมรายการ 4.สามารถ ร่วมรายการผ่อนชำระ 0% เฉพาะที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เท่านั้น 5.บัตรเครดิตร่วมคิง เพาเวอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย สามารถร่วมรายการ

 ข่าวที่ 3 “ททท.ระยองปลุกเที่ยวกรีนซีซันสิงหากินซีฟู้ดลดแหลกถึง2ต่อ 

นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับพันธมิตรระยอง ซีฟู้ด มันธ์-Rayong Seafood Month ตลอดเดือนสิงหาคม 2562 ภายใต้แคมเปญ “สดพร้อมเสิร์ฟ : Rayong’s Sea To Table” และทางศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาระยองได้จัดกิจกรรม Exotic Street Food ระหว่าง 21-25 สิงหาคม 2562 จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในบรรยากาศกินซีฟู้ดกลางเมืองระยองพร้อมช็อปปิ้ง เป็นกลยุทธ์ปลุกกระแสเชิญชวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาชิมอาหารถิ่นและรณรงค์การท่องเที่ยวหน้าฝน ซึ่งเป็นฤดูที่มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าไตรมาสอื่น ผู้เยี่ยมเยือน 1,546,297 คน เพิ่ม 4.92%) มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 64.05% เพิ่มเพียง 0.59) แต่จะมีหมวดค่าใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่มสูงกว่าค่าใช้จ่ายหมวดอื่นถึง 26.28% ตามปกตินักท่องเที่ยวใช้จ่ายเฉลี่ย 676.60 บาท/คน/วัน

 โดย ททท.ระยอง ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น โดยนำเสนออาหารทะเลควบคู่กับวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน ผสานเอกลักษณ์อาหารถิ่นดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ชิม เมนูไฮไลต์ ได้แก่ ปูม้าต้มจิ้มพริกเกลือ เนื้อแน่นรสหวาน ส้มปลาโฉมงามมีเฉพาะฤดูฝนในระยองเท่านั้นคือปลากะพงราดน้ำปลา หอยตลับผัดพริกเผา ปลาหมึกแดดเดียว พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้อิ่มอร่อยพร้อมรับสิทธิพิเศษถึง 2 ต่อ คือ

ต่อแรก ส่วนลดเมนูซีฟู้ดจากร้านอาหารที่เข้าร่วมกว่า 100 ร้าน เพียงแค่มองหาสัญลักษณ์กิจกรรมระยอง ซีฟู้ด มันธ์ -Rayong Seafood Month ที่แสดงไว้ในร้านอาหาร ต่อที่ 2 เลือกเข้าพักกับโรงแรมเข้าร่วมกิจกรรม ททท.สำนักงานระยอง จะมอบคูปองเงินสดไปใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารมูลค่า 100 บาท

 ข่าวที่ 4 “บีซีพีจีเครือบางจากรณรงค์โหมสร้างความรู้โซลาร์เซลล์  

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “A Beginner’s Guide to Solar Power System” ภายใต้โครงการ “Circular Economy for Solar PV Network” เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ รศ.ดร.สมชัย รัตนธรรมพันธ์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า รศ.ดร.พิชญ รัชฎาวงศ์ ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิชญ์ โมมีเพชร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการบีซีพีจี โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ คุณครูจากโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลซึ่งบีซีพีจีให้การสนับสนุนแผงโซลาร์เพื่อผลิตไฟฟ้า รวมถึงอาจารย์และนักศึกษาที่สนใจ เข้าร่วมสัมมนากว่า 60 คน ณ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

 โครงการ “Circular Economy for Solar PV Network” มุ่งเน้นให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้า และการดูแลรักษาแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดระหว่างการใช้งาน รวมถึงการดูแลจัดการหลังหมดอายุการใช้งาน โดยบีซีพีจี มีแผนจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนหันมาสนใจพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสร้างความยั่งยืนในระยะยาว 

ข่าวที่ 5 “TCEBหนุนสตาร์ตอัพลุยนวัตกรรมอุตฯไมซ์เทรนด์ใหม่” 

 นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่าย MICE Intelligence และนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการขับเคลื่อน Thailand”s MICE Startup ของทีเส็บได้สร้างเวทีให้สตาร์ตอัพกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมไมซ์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกรวดเร็วด้านการดำเนินงานและสนับสนุนให้พัฒนาต่อยอดธุรกิจของตนเอง โดยมีหน่วยงานหลักอย่าง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)-NIA สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล-depa สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ-NSTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)- GISTDA และอิมแพคเทค (ไทยแลนด์) เข้าร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่

 ล่าสุดในการจัดแข่งขันประกวดการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดงานไมซ์ที่ผู้เข้าร่วมแข่งขัน 47 ทีม จาก 9 ประเทศ ผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือก 12 ทีม คัดผู้ผ่านเข้ารอบ 3 ทีม คือ สนีค (SNEAK) ไมนด์ทรี (Mindstree)และโพชั่นเนียร์ (Potioneer) จะต้องไปเสนอผลงานในเวทีระดับโลกงาน UFI Annual Global Congress 2019 ระหว่าง 6-9 พฤศจิกายน 2562 ณ ไอคอนสยาม ประกอบด้วย 64 อันดับ 1 ทีมสนีค นำเสนอแพลตฟอร์มวางแผนการท่องเที่ยวด้วยรูปภาพ โดยใช้รูปแนะนำเส้นทางที่ต้องการจะไป อันดับ 2 ไมนด์ทรี นำเสนอระบบที่มุ่งให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือกระจายรายได้สู่ชุมชน และทีมสุดท้าย โพชั่นเนียร์ นำเสนอระบบที่ช่วยให้ผู้ที่สนใจงานอาหารและเครื่องดื่มแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ค้นหางานได้ง่ายขึ้น โดยจุดขายของระบบนี้คือความเป็นส่วนตัว ซึ่งจะเป็นอีกก้าวของอุตสาหกรรมไมซ์เมืองไทย

 ช่วงที่ 2 ออกไปเที่ยวกว่า 1,864 โค้งในแม่ฮ่องสอน “5 อ.-อากาศ-อาหาร-อาราม-อารมณ์-อายุวัฒนะ” ในเมือง “ซิตี้ ดีท็อกซ์ สลัดพิษเมือง” แล้วมาดูว่าต้องปรับพฤติกรรมการกิน 12 อย่างที่ต้องแก้โดยด่วนเพื่ออายุยืน ส่วนเรื่องข่าวท้ายชั่วโมง “ท่องเที่ยว 5-7 เดือนแรก” โตไม่ถึง 1 % และแควนตัสอัดโปรโมชั่น 

 @เที่ยวแม่ฮ่องสอนผ่อนคลายในเมืองดีท็อกซ์ซิตี้ 5 อ. 

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะไปท่องเที่ยวแบบผจญภัยผ่าน 1,864 โค้งบนดอยสูง “แม่ฮ่องสอน” ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว “5 อ.-อากาศ-อาหาร-อาราม-อารมณ์-อายุวัฒนะ” ในอ้อมกอดธรรมชาติกลางทิวเขาสวยงาม 

“อ.-อาหาร” ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อเมื่อไปถึงแม่ฮ่องสอนแล้วจะต้องสั่งรับประทานนั่นคือ “ถั่วลายเสือ” รสชาติหวาน เนื้อนุ่ม นิยมนำมาคั่วเกลือกินได้ทั้งเปลือก อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแตกต่างถั่วลิสงทั่วไป

 “อ.-อารามสวย” ต้องไปที่วัดฝาแฝดหนึ่งเดียวในแม่ฮ่องสอน คือ “วัดจองกลาง-วัดจองคำ” ศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยใหญ่ที่จะใช้ 2 วัดนี้ทำกิจกรรมทางศาสนา ภายใน “วัดจองคำ” มีพระอารามหลวงสร้างด้วยศิลปะแบบไทย โดดเด่นด้วยหลังคาทรงปราสาท 9 ชั้น รายล้อมด้วยศาสนสถานสำคัญคือ วิหารหลวงพ่อโต พระพุทธรูปองค์ใหญ่สุดในจังหวัด

ขณะที่ “วัดจองกลาง” ก็สำคัญไม่แพ้กันมี “พระอุปคุต” ประดิษฐานอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้าวัดผู้คนมักจะแวะเวียนมากราบไหว้บูชา

 “อ.-อารมณ์ดี” แนะนำให้แวะไปทักทายชาวปะกากะญอใน “ชุมชนบ้านผาบ่อง” แล้วก็ต้องเดินข้าม “สะพานข้าว 9 ก้าวเพื่อสุข” เป็นสะพานไม้พาดผ่านกลางทุ่งนาเขียวขจีดีไซน์โดยฝีมือชาวบ้านที่อาศัยอยู่กันมานับร้อยปี ใกล้ ๆ กันมีแหล่งพักผ่อนหย่อนใจด้วย อาทิ น้ำพุร้อน ตลาดนัดวิถีชุมชน

 “อ.-อายุวัฒนะ” อยู่ในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติป่าไทยงาม มีบ่อน้ำพุร้อนเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ลงไปแช่ผ่อนคลายทำให้เลือดไหลเวียนดี ทำให้อายุยืนยาว รอบผืนป่ายังมีแอ่งน้ำขนาดเล็กลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ คล้ายน้ำตก ห้อมล้อมด้วยผืนป่าสีเขียวและด้านล่างก็เป็นผืนทรายสบายตา

 การจัดโปรแกรมท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ถ้าได้สัก 4 วัน 3 คืน ก็จะดีสำหรับการไปเยือนดินแดน “ซิตี้ ดีท็อกซ์ สลัดพิษเมือง” ล้างสิ่งต่าง ๆ ออกจากกายทำให้ใจเป็นสุขได้ตั้งแต่

“วันแรก” ขึ้นไป “พระธาตุดอยมู” กราบขอพรจากหลวงพ่อทันใจ แวะ “วัดจองกลาง“ สักการะพระอุปคุต ต่อด้วยการท่องเที่ยว “ชุมชนบ้านผาบ่อง” ทำกิจกรรมเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ล่องแพยางไปตามลำน้ำแม่ละมาด แล้วก็อย่าลืมเช็คอินที่ “สะพานข้าว 9 ก้าวเพื่อสุข” แล้วมุ่งหน้าเดินทางต่อไปยัง “ที่บ้านห้วยฮี้” ชมการทอผ้าขนแกะ การปลูกและแปรรูปกาแฟ

 วันที่สอง – ได้เวลาไปเดินกรีดกรายบนสะพานยอดนิยม “ซูตองเป้” สะพานไม้ไผ่ที่เกิดจากพลังของชาวบ้านร่วมกันสร้างด้วยความรักและศรัทธา แล้วก็ชีลกับการทำดีท็อกซ์ผิวด้วยสปาโคลนที่ภูโคลน คันทรีคลับ ยามเย็นขึ้น “ปางอุ๋ง” ไปรอเก็บภาพดวงอาทิตย์ทอแสงสีแดงฉาบสีทองของขอบฟ้าลับลงดิน “ปางอุ๋ง-โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงก่อตั้งขึ้น เพื่อแก้ปัญหาป่าเสื่อมโทรม ยาเสพติด และพัฒนาอาชีพ ตื่นเช้าขึ้นมานักท่องเที่ยวจะได้เห็นไอหมอกลอยเหนือน้ำ โดยมีเรือหงส์สวยให้พายพัดไปสูดอากาศดี ๆ ยามเช้า

วันที่สาม - แวะซื้อของฝากเพื่อสุขภาพนั่นคือ ถั่วลายเสือ ของกลุ่มพัฒนาสินค้าเกษตรบ้านหนองผาจ้ำ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นขึ้นชื่อต้องอุดหนุน มีทั้ง เสื้อผ้าชาวไต หมวกกุ๊ปไต เครื่องเงินบ้านละอูบ แล้วก็แวะแช่น้ำพุร้อนไทรงาม เดินเล่นที่สะพานบุญโขกู๋โล่

 ปิดท้ายวันที่สี่ แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน นำประสบการณ์ดี ๆ มาบอกต่อ ๆ กับคนรอบข้างได้ไปสัมผัสความสุขในดินแดน ซิตี้ ดีท็อกซ์ แม่ฮ่องสอน ได้ตลอดทั้งปี

 @การกินที่ทำร้ายตัวเรา 12 อย่างต้องเปลี่ยนโดยด่วน

มีพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกาย ก่อให้เกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โดยอาการของโรคจะดำเนินไปอย่างช้าๆ จะไม่ป่วยในทันที แต่ค่อยๆสะสมและป่วยเรื้อรังในที่สุด พฤติกรรมการกินที่ทำร้ายตัวเรา 12 อย่าง ที่ต้องเปลี่ยนแปลงโดยด่วน เพื่อสุขภาพที่ดีอายุยืนยาว

 1.ชอบกินหวานเป็นขีวิตจิตใจ 2.ชอบกินอาหารมัน 3.ปรุงเค็ม ปรุงรสเพิ่มทุกครั้ง 4.กินอาหารแช่แข็ง หรืออาหารกึ่งสำเร็จรูปเป็นประจำ

 5.กินเมนูเดิมซ้ำๆ เป็นเดือนๆ 6.กินอาหารสุกๆ ดิบๆ 7.ไม่ชอบกินผักผลไม้ 8.ดื่มเครื่องดื่มรสหวานจัด

9.ไม่กินอาหารเช้า 10.ขาดขนม เบเกอรี่ไม่ได้ 11.ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ 12.ชอบดื่มแอลกอฮออล์ 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง 

 ข่าวแรก “ท่องเที่ยวส่งสัญญาณ5-7เดือนแรกวูบแรงโตไม่ถึง1%”  

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา รายงาน สถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทย (inbound) ระหว่าง มกราคม- 14 กรกฎาคม 2562 น่าสนใจอย่างยิ่งมีจำนวนรวม 21.08 ล้านคน เพิ่มเพียง 0.81% ซึ่งไม่ถึง 1 % เฉพาะครึ่งเดือนแรกของกรกฎาคม 2562 ตลาดส่วนใหญ่เริ่มชะลอตัวส่งสัญญาณลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ทั้งใน เอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป แคนาดา คงมีบางโซนยังคงเพิ่มขึ้น คือ อาเซียน ฝรั่งเศส อเมริกา

 ขณะที่สถติอย่างเป็นทางการ 5 เดือนแรก มกราคม-พฤษภาคม 2562 นักท่องเที่ยวรวมเพิ่มเพียง 1.58 % รายได้ยังคงเติบโตเป็นบวก 0.82 % ตามข้อมูลสรุปทั้งหมดดังนี้

 สถิติ นักท่องเที่ยวต่างประเทศมาเที่ยวเมืองไทย 7 เดือนแรก มกราคม-กรกฎาคม 2562 - มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทยสะสมอยู่รวม 21,088,051 ล้านคน เพิ่ม 0.81%

- การเดินทาง - ช่วง 1-14 กรกฎาคม 2562 ผ่านเข้าทางสนามบิน 5 แห่ง สุวรรณภูมิ เพิ่ม 2.97 % ดอนเมือง เพิ่ม 6.39 % ภูเก็ต เพิ่ม 3.65 % เชียงใหม่ เพิ่ม 11.45 % หาดใหญ่ เพิ่ม 17.96 %

 -เฉพาะ วันที่ 1-14 กรกฎาคม 2562 สถานการณ์ตลาดมีรายละเอียดดังนี้

 1.จีน 419,247 คน ลด 2 %
 2.ไต้หวัน 30,030 คน ลด 0.35 %
 3.สปป.ลาว 67,719 คน เพิ่ม 11.88 %
4.เวียดนาม 57,140 คน เพิ่ม 0.80 %
5.มาเลเซีย 143,340 คน เพิ่ม 3.14 %
6.สิงคโปร์ 36,205 คน เพิ่ม 2.05 %
6.ฮ่องกง 42,187 คน เพิ่ม 0.65 %
7.ออสเตรเลีย 36,832 คน ลด 9.79 %
8.รัสเซีย 20,952 คน ลด 9.76 %
 9.เยอรมัน 21,606 คน ลด 2..62 %
 10.ฝรั่งเศส 24,201 คน เพิ่ม 1.91 %
11.อิตาลี 6,220 คน ลด 4.54 %
 12.สหราชอาณาจักร 34,805 คน ลด 0.17 %
13.อเมริกา 45,482 คน เพิ่ม 5.38 %
14.แคนาดา 7,702 คน ลด 2.88 %

 สถิติท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ 5 เดือนแรก ระหว่าง มกราคม-พฤษภาคม 2562 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกมาเที่ยวเมืองไทย รวม 16,717,060 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.58 % สร้างรายได้ 872,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82 % ประกอบด้วย 7 พื้นที่หลักของโลก ได้แก่

 1.เอเชียตะวันออก จำนวนรวม 11,151,554 คน เพิ่ม1.90 % สร้างรายได้ 489,967.43 ล้านบาท เพิ่ม 1.78 % ในจำนวนนี้ได้รวมอาเซียนไว้ด้วย มีจำนวน 4,079,559 คน เพิ่ม 6.40% สร้างรายได้ 127,991.76 ล้านบาท เพิ่ม 7.68 %

 2.เอเชียใต้ จำนวนรวม 938,751คน เพิ่ม19.12 % สร้างรายได้ 38,933.83 ล้านบาท เพิ่ม 20.58 % 

3.โอเชเนีย จำนวนรวม 355,911 คน ลดลง 2.06 % สร้างรายได้ 28,235.97 ล้านบาท ลดลง 1.88 %

 4.ตะวันออกกลาง จำนวนรวม 236,926 คน ลดลง 10.28 % สร้างรายได้ 19,798.06 ล้านบาท ลดลง 6.53 %

 5.ยุโรป จำนวนรวม 3,240,55 คน ลดลง 2.09 % สร้างรายได้ 235,198.11 ล้านบาท ลดลง 3.02 % 

6.อเมริกา จำนวนรวม 723,388 คน เพิ่ม 1.15 % สร้างรายได้ 55,504.94 ล้านบาท เพิ่ม 2.44 % 7.แอฟริกา และอื่น ๆ จำนวนรวม 69,976 คน ลดลง 3.58 % สร้างรายได้ 4,832.26 ล้านบาท ลดลง 4.52 %

 ข่าวที่สอง “แควนตัสอัดโปรตั๋วออสซี่/นิวซีแลนด์เริ่ม14,000บาท” 

สายการบินแควนตัสรายงานว่าได้จัดทำโปรโมชั่น Fly Away Sale ตั๋วโดยสารเที่ยวไป-กลับชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ ออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ถึง 31 กรกฏาคม 2562 โดยตั๋วชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจสามารถใช้บินจากกรุงเทพฯ ได้อย่างช้าภายใน 20 ธันวาคม 2562 โดยเป็นราคารวมภาษีสนามบิน ค่าบริการ ภาษีน้ำมัน ประกัน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ และตั๋วโดยสารมีอายุ 1 ปี นับจากวันออกเดินทาง 

ตั๋วชั้นประหยัด กรุงเทพฯ สู่ ซิดนีย์ เริ่ม 20,005 บาท เพิร์ธ (ผ่านสิงคโปร์) เริ่ม 14,440 บาท บริสเบน (ผ่านซิดนีย์) ) เริ่มต้น 16,400 บาท เมลเบิร์น (ผ่านซิดนีย์) ) เริ่ม 16,220 บาท อะดิเลด (ผ่านซิดนีย์) เริ่ม 20,980 บาท ชั้นธุรกิจ ซิดนีย์ 81,505 บาท เพิร์ธ (ผ่านสิงคโปร์) 54,440 บาท บริสเบน (ผ่านซิดนีย์82,400 บาท เมลเบิร์น (ผ่านซิดนีย์) 82,220 บาท และอะดิเลด (ผ่านซิดนีย์) 82,480 บาท 

นิวซีแลนด์ กรุงเทพฯ ไป-กลับ ไครสต์เชิร์ช (ผ่านซิดนีย์) เริ่มต้น 24,185 บาท เวลลิงตัน (ผ่านซิดนีย์) เริ่มต้น 23,240 บาท โอ๊คแลนด์ (ผ่านซิดนีย์) เริ่มต้น 23,260 บาท และควีนสทาวน์ (ผ่านซิดนีย์)เริ่มต้น 29,055 บาท ชั้นธุรกิจ ไครสต์เชิร์ช (ผ่านซิดนีย์) 86,185 บาท เวลลิงตัน (ผ่านซิดนีย์) 86,240 บาท โอ๊คแลนด์ (ผ่านซิดนีย์) 86,260 บาท และควีนสทาวน์ (ผ่านซิดนีย์) 93,055 บาท โทร.02 632 6611 เว็บไซต์ qantas.com หรือเอเย่นต์ท่องเที่ยวใกล้บ้าน

 ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.