ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เจาะลึก“บิ๊กสภาท่องเที่ยว”ชง4ประเด็นร้อนรมว.ท่องเที่ยวใหม่-ชีพจรลงSouthเที่ยวใต้เมืองรองพัทลุง-นครศรีธรรรมราช 

เจาะลึก“บิ๊กสภาท่องเที่ยว”ชง4ประเด็นร้อนรมว.ท่องเที่ยวใหม่
 วอนรัฐปลดล็อกปมนอก-ในมาตรฐานความปลอดภัยโลจิสติก
มอบรางวัลทรงคุณค่าเจ้าสัววิชัยคิงเพาเวอร์ผู้นำกีฬาไทยสู่โลก
ชวนสมาชิกคิงเพาเวอร์รับสิทธิ์เพียบวันเกิดลดมากกว่า 30 %
 ททท.ผนึกห้างดังปลุก7ตลาดรเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวGiveMe5
ททท.ผนึกTRUEบูมท่องเที่ยวผ่านTrueYouHappyness’62
บางจากลุยพัฒนาร้านกาแฟอินทนิลสู่ECO Brandรักษ์โลก
 TCEBนำร่องTHAI MICE E-Marketplaceโมเดลแรกไทย
 ชีพจรลงSouthเที่ยวใต้เมืองรองพัทลุง-นครศรีธรรรมราช
จับตา4กระทรวงหนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวรัฐบาลประยุทธ์2
รมว.พิทักษ์ รัชกิจประการกับภารกิจเร่งด่วนท่องเที่ยว/กีฬา

 ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว #ชีพจรลงSouthพัทลุง # ช่วงที่ 1 เกาะติดแกนนำภาคเอกชน “ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช” รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กลั่นข้อมูลพร้อมชง 4 ประเด็นร้อนให้ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ ผนึกทีมรัฐ-เอกชนยกเครื่องท่องเที่ยวครั้งใหญ่ลุยแก้ปัญหาในประเทศก่อน เพื่อเตรียมรับมือมรสุมเศรษฐกิจโลกยกแรกถล่มหนัก วอนเลิกมีนอกในใบอนุญาตสร้างมาตรฐานความปลอดภัยรถ-เรือ ท่องเที่ยว เตือน!! ระวัง 3 ปัจจัยกระตุกรายได้ปี’63 เข้าหรือไม่เข้าเป้า นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ที่แต่งตั้งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นั้น ทางคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เริ่มประชุมครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เพื่อเตรียมเสนอแนวทางพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวของประเทศ โดยจะสรุปอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ ข้อเสนอรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หลัก ๆ จะประกอบด้วย เรื่องที่ 1 ระบบโครงสร้างโลจิสติกส์ ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ สะดวกสบายมากขึ้น ได้รับบริการที่ดีจากเจ้าหน้าที่พิธีการเข้าเมือง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และการเดินทางเชื่อมโยงด่านชายแดนทุกจุด จะต้องจัดระเบียบการขนส่งสาธารณะทั้ง ท่าอากาศยาน/สนามบิน หรือด่านสาธารณะ เรื่องที่ 2 ค่าเงินบาท ทำให้สอดคล้องกับภาคอุตสาหกรรมควรจะให้ภาครัฐดูแลค่าเงินไม่ให้แข็งค่ามากไปกว่านี้ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวใช้เงินลดน้อยลง เพราะแลกเงินบาทได้น้อยกว่าเดิม ซึ่งภาครัฐต้องหาวิธีทำให้เร็วที่สุด เรื่องที่ 3 มาตรการทำตลาดเชิงรุก ภาครัฐจะต้องเข้าไปแก้ไขตลาดหลักโดยด่วน “กลุ่มตลาดต่างประเทศเที่ยวเมืองไทย” เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือบางตลาดมีความเข้มแข็งเติบโตเพิ่มขึ้น ตัวอย่าง อินเดีย ได้อานิสงของ Free VISA : VOA เหมือนกับอีก 20 ประเทศ ดังนั้นควรจะคงไว้ให้ถึงสิ้นปี 2562 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวในเรื่องค่าใช้จ่ายรวม 21 ประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญต่อสถานการณ์ครึ่งปีหลังของการท่องเที่ยวไทยหรือบางตลาดอย่าง สปป.ลาว ซึ่งอยู่ติดตะเข็บไทย จะต้องหาวิธีส่งเสริมอย่างไรให้ใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดในประเทศเที่ยวไทย ตามที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเคยมาประชุมร่วมกับภาคเอกชนเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้เสนอมาตรการไฮไลต์ 1.ให้รัฐบาลพิจารณาสนับสนุนข้าราชการที่จะเกษียนอายุได้รับโบนัสท่องเที่ยว คนละ 3,000-5,000 บาท ส่วนหนึ่งก็อาจมีเพื่อนร่วมงานช่วยลงขันแล้วจัดทริปชวนกันไปเที่ยวฉลองงานเกษียนเป็นหมู่คณะ จะทำให้เกิดการสร้างสรรค์กลุ่มตลาดขนาดใหญ่เดินทางไปท่องเที่ยวจัดเลี้ยงสังสรรกัน ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนขึ้นมาอีกรอบ 2.มาตรการลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจด้วยการใช้การจัดอันดับ 1-100 หรือ TOP 100 ที่จ่ายภาษีให้รัฐสนับสนุนจัดอบรมสัมมนาโดยนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้มากกว่าปกติ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่กลุ่มดังกล่าวตามเงื่อนไขกติกา เรื่องที่ 4 มาตรการความปลอดภัย ทั้งรถ เรือ ขณะนี้มีโมเดลเตรียมเสนอไว้แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งต่างประเทศและคนไทย หัวใจสำคัญของมาตรฐานดังกล่าวปัจจุบันไทยอยู่ในระดับกลาง สวนทางกับการเป็นประเทศผู้นำทางการท่องเที่ยวซึ่งไทยติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก แต่ความปลอดภัยกลับติดอันดับรั้งท้าย ๆ ดังนั้นจึงต้องยกเครื่องใหม่ในการกำหนดมาตรฐาน การประกอบรถบัส ท่องเที่ยว การนำเข้ารถยนต์ โมเมนตั้มของรถ ช่วงล่างและเบรกให้เป็นไปตามมาตรฐานกรมขนส่งทางบกปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีนอกมีในระหว่างหน่วยงานรัฐกับผู้ประกอบการ สำคัญที่สุดการออกระเบียบการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถจะต้องกำหนด ระยะเวลาการทำงาน ความเร็วของการขับขี่ และห้ามปลดล็อกเครื่องมือที่มากับรถ และไม่มีการปรับแต่ง รวมถึงมาตรฐานอู่ต่อเรือกับชูชีพต้องจำแนกตามประเภทการใช้งาน การรับน้ำหนัก เพราะบางครั้งผู้ชายน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัมขึ้นไป ตอนนี้ต้องมีชูชีพรองรับได้ เรื่อยไปจนถึงอุปกรณ์ประจำเรือ เครื่องมือสื่อสารในเรือ โดยให้เอกชนร่วมหารือและตกลงเป็นข้อกำหนดร่วมกัน นับได้ว่าเป็นการรื้อมาตรฐานครั้งใหญ่จัดระเบียบใหม่ให้เข้าระบบ เพราะตัวอย่างกรณีเรือนักท่องเที่ยวจีนล่มในภูเก็ต พอเกิดปัญหาแล้วก็ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ควรหาทางป้องกันไว้ดีกว่าพอเกิดปัญหาบานปลายแล้วจะมาโทษกันไปมาไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งตอนนี้เป็นหน้าที่ของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ที่จะต้องเข้าไปกระตุ้นเตือนรัฐให้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานเพื่อการนำไปบังคับใช้ผู้ปฏิบัติอย่างจริงจังความปลอดภัยขั้นสูงสุดในฐานะที่ประเทศไทยติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 1 ใน 6 ของโลก นายยุทธชัยกล่าวว่าการเข้าไปมีส่วนร่วมของเอกชนท่องเที่ยวในแผนการตลาดปี 2563 หลังจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แถลงแผนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะเริ่มปีงบประมาณตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 นี้เป็นต้นไปนั้นในการเดินหน้าสร้างรายได้ซึ่งเดิมคลุกคลีอยู่กับกลุ่มผู้ประกอบการสาขาต่าง ๆ ทั้งขนส่ง โรงแรม บริษัทนำเที่ยว มัคคุเทศก์ ภัตตาคาร และอื่น ๆ แต่ที่ผ่านมากระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก ๆ เท่านั้น แต่ขณะนี้เริ่มมองเรื่องการกระจายนักท่องเที่ยวและรายได้ไปยังเมืองรองต่าง ๆ ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะต้องเข้าไปทำหน้าที่เป็น “พี่เลี้ยงให้เมืองท่องเที่ยวรอง” ให้รู้ถึงวิธีการเกิดรายได้ในชุมชน การพัฒนาสินค้ารองรับนักท่องเที่ยวควรจะทำอย่างไร วิธีการสื่อสารกับนักท่องเที่ยว มาตรฐานความปลอดภัย การใช้ชีวิตในชุมชน เทคโนโลยีเหล่านี้ทางสภาฯ มีความพร้อม ความรู้ ความเข้าใจอยู่แล้ว เพียงแค่รัฐคอยเป็นหน่วยงานกลางประสานเชื่อมการบูรณาการทำงานอย่างเป็นรูปธรรมก็จะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมภาพรวม แลกเปลี่ยนความรู้เกิดความเข้าใจ นำไปพัฒนาชุมชนต่าง ๆ ในภูมิภาคซึ่งเป็นความจำเป็นเพื่อสร้างทักษะแล้วนำไปใช้บริการนักท่องเที่ยว ผลิตสินค้าและการจัดทำอาหารถิ่นก็จะทำรายได้เติบโต หรือการมีมัคคุเทศก์ในท้องถิ่นที่ได้มาตรฐาน องค์ประกอบเหล่านี้จะสร้างประสบการณ์ที่ดีเที่ยวได้อย่างเบิกบานใจและเป็นแรงกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินแต่ละพื้นที่เติบโตเพิ่มขึ้น ภารกิจนี้จะทำได้ง่ายหรือยากขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย 1.พิษข้างเคียงของสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา แนวโน้มจะชะลอลงหรือไม่ หรือจะเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ไทยเองก็ต้องทำการบ้านหนักขึ้น 2.อย่าให้ปล่อยให้บาทแข็งค่ามากกว่านี้ ยิ่งจะเป็นโจทก์หนักทับถมลงมา 3.ภัยธรรมชาติ ตอนนี้ทั้งเรื่องแผ่นดินไหว หรือ ฝุ่นละอองในอากาศ หากทั้ง 3 อย่างไม่ปะทุรุนแรง ความเป็นไปได้ที่เอกชนกับ ททท.จะผนึกความร่วมมือกันทำรายได้ท่องเที่ยวปี 2563 เติบโตเพิ่มตามเป้าอีกไม่ต่ำกว่า 8 % คงจะมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน นายยุทธชัยกล่าวต่อถึง เอกชนก็การวางแผนทำการตลาดเชิงรุกโดยมีสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) เป็นหัวหอกขยายตลาดต่างประเทศเข้ามาไทย ด้วยการใช้เครื่องมือ 1. FREE VISA ซึ่งกำลังขอรัฐบาลพิจารณาขยายไปจนถึงสิ้นปี 2562 ตามด้วย 2.การกระตุ้นให้รัฐริเริ่มเปิดบริการรับทำ VISA ONLINE เพิ่มความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอย่างจีน สามารถทำผ่านจอคอมพิวเตอร์ได้ ขนาดของประเทศใหญ่มาก จะต้องเร่งให้เข้าถึงโดยเร็วซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเริ่มดำเนินการแล้ว 3.รวมถึงให้โอกาสผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเดินทางไปพบปะคู่ค้าต่างประเทศด้วยความถี่สูงขึ้น เพื่อนำเสนอสินค้าเกิดการรับรู้ในกลุ่มตลาดเป้าหมายของไทย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวได้ในภาวการณ์แข่งขันสูง สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างประเทศทั่วโลก และ 4.ขอให้รัฐคืนภาษีนักท่องเที่ยว เพื่อให้นำเงินดังกล่าวกลับมาใช้ต่ออีกรอบ เกิดการใช้จ่ายมากขึ้นโดยปริยาย สำหรับ “การท่องเที่ยวในประเทศ” กระตุ้นคนที่อยากจะเที่ยวเมืองไทยช่วงค่าเงินบาทแข็ง สถิติปี 2561 คนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศกว่า 10 ล้านคน ใช้จ่ายเงินมากกว่า 300,000 ล้านบาท จะต้องหาวิธีทำให้คนไทยเหล่านี้รู้สึกเป็นห่วงเศรษฐกิจของประเทศ หันมาชวนพี่น้องคนในครอบครัวท่องเที่ยวในประเทศ แต่รัฐ เอกชน จะต้องหามาตรการใหม่ ๆ โดนใจคนไทยเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างกระแสไทยเที่ยวไทยในช่วงภาวะวิกฤตที่เริ่มส่งสัญญาณรุนแรงอยู่ตอนนี้ ฟังข่าวต้นชั่วโมง ข่าวที่ 1 “มอบรางวัลเจ้าสัววิชัยผู้ทรงคุณค่ากีฬาไทย20กค.62” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณารางวัล วันนักกีฬายอดเยี่ยม ประจำปี 2561 สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มีมติเป็นเอกฉันท์ในการจัดงานวันนักกีฬายอดเยี่ยม ประจำปี 2561 โดยสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย เตรียมมอบ “รางวัลผู้ทรงคุณค่าในวงการกีฬา” ให้กับ “นายวิชัย” นายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรเลสเตอร์ ซิตี ผู้สร้างประวัติศาสตร์นำพาทีม “จิ้งจอกสยาม-เลสเตอร์ซิตี้” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016 แต่เพียงผู้เดียวเมื่อปี 2559 เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 130 ปี ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้ทั่วโลกจดจำตราบจนถึงทุกวันนี้ สำหรับการมอบรางวัล“รางวัลผู้ทรงคุณค่าในวงการกีฬา” ให้กับ “นายวิชัย” นายวิชัย ศรีวัฒนประภา” ในวันเสาร์ที่ 20 ก.ค.62 ที่โรงแรมอโนมาแกรนด์ กรุงเทพฯ ได้รับรายงานว่า นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา บุตรชายคนโต ซึ่งเป็นผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะขึ้นรับรางวัลดังกล่าว ในช่วงเวลาจัดงานระหว่าง 14.00-17.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่องสปริง หมายเลข 26 พร้อมไลฟ์ผ่านทางช่องทางโซเชียลของสมาคมฯ ด้วย โดยมี คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี เมมเบอร์) และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานจัดงานในการมอบรางวัล วันนักกีฬายอดเยี่ยมประจำปี 2561 ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์ทุกสาขามอบสิทธิ์วันเกิดรับคืนสูงสุด30% กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ได้จัดแคมเปญให้สมาชิก คิง เพาเวอร์ ช้อปครบ 100 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ร่วมรายการ Birthday Celebration 2 ต่อ ดังนี้คือ ต่อที่ 1 รับเงินคืนสูงสุด 30% ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และมหานคร ต่อที่ 2 รับเงินคืนสูงสุด 25%* ที่คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต *(เฉพาะสมาชิกที่ใช้สิทธิ์ต่อที่ 1 แล้วเท่านั้น) โดยมีกติกาดังนี้ 1.เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบรายการสินค้าเพิ่มเติม ณ จุดขาย 2.สมาชิก คิง เพาเวอร์ สามารถใช้สิทธิ์ Birthday Celebration ภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนเกิดของผู้ถือบัตร 3.สำหรับการใช้สิทธิ์ Birthday Celebration สมาชิกสามารถใช้สิทธิ์ต่อที่ 1 โดยซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และมหานคร สามารถใช้สิทธิต่อที่ 2 ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต ข่าวที่ 2 “ททท.บูมแคมเปญช้อปรับGiveMe5ถึง30ก.ย.นี้” นายธเนศวร์ เพชรสุวรรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้จับมือกบาคเอกชนจัดทำโครงการ “Give Me 5” ระหว่างเริ่ม15 ก.ค.-30 ก.ย.2562 นี้ โดยได้ร่วมกับ 2 สายการบินหลักคืออการบินไทยและ ไทยสไมล์ และศูนย์การค้าชั้นนำในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป เครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ราชประสงค์ดิสทริค จัดกิจกรรมดึงดูดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจาก 7 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา ให้สิทธิพิเศษ เมื่อช้อปปิ้งในจะได้รับส่วนลดตามห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 20 แห่ง พร้อมใจกันลดสูงสุด 50 % เพียงนักท่องเที่ยวแสดงบอร์ดดิ้งพาสของทั้ง 2 สายการบิน ก็สามารถรับสิทธิพิเศษช้อปปิ้งแล้วสามารถดได้น้ำหนักเพิ่มฟรีอีกคนละ 5กิโลกรัมเมือเดินทางออกจากไทยไปสู่จุดหมาย ข่าวที่ 3 “บางจากรุกหนักEcoBrandร้านกาแฟอินทนิล” นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่กลุ่มธุรกิจบางจาก ได้ให้ความสำคัญต่อสังคมและสิ่ง แวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านอินทนิล ซึ่งเป็นผู้นำของธุรกิจกาแฟที่ "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" (Eco Brand) ด้วยการรณรงค์ลดการใช้พลาสติก ผ่านโครงการ "นำแก้วมาเอง" เป็นรายแรกๆ ตั้งแต่ปี 2554 การริเริ่มใช้ "แก้วไบโอพลาสติก" (Bio Cup) ซึ่งผลิตจากพืชและย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ 100% (Biodegradable Plastic - Bio Based) ตั้งแต่ปี 2558 จนเป็นผู้ใช้รายใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ล่าสุด ได้จัดทำโครงการ "แก้วเพาะกล้า" ร่วมกับศูนย์เพาะชำกล้าไม้ ของกรมป่าไม้ ในการทดลองใช้วัสดุย่อยสลาย ด้วยแก้วไบโอพลาสติกของอินทนิล ซึ่งผลิตจากพลาสติกชีวภาพ 100% (Bioplastic) ย่อยสลายโดยธรรมชาติภายใน 180 วัน (ภายใต้สภาวะที่เหมาะสม) ในศูนย์เพาะชำกล้าไม้ 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ ราชบุรี และฉะเชิงเทรา เพื่อทดแทนถุงพลาสติกสำหรับเพาะชำกล้าไม้ของสำนักส่งเสริมการปลูกป่า เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยศูนย์เพาะชำกล้าไม้ มีโครงการเปลี่ยนมาใช้วัสดุย่อยสลายภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการใช้ถุงพลาสติกได้มากกว่าปีละ 50 ล้านใบ ข่าวที่ 4 “TCEBรุกTHAI MICE CONNECTคลิกเดียวเข้าถึง194ประเทศ” นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB เปิดเผยว่าได้เดินหน้าโครงการ Thai MICE Connect: E-MICE Marketplace ขึ้นครั้งแรกในไทย มุ่งยกระดับธุรกิจไมซ์ผ่านนวัตกรรมข้อมูล ริเริ่มโครงการจัดเก็บข้อมูลผู้ประกอบการ สินค้าบริการของอุตสาหกรรมไมซ์ระดับภูมิภาค ภายใต้ชื่อ “Thai MICE Connect” หรือแพลทฟอร์มรวบรวมฐานข้อมูลสินค้าบริการในทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วประเทศให้ชัดเจน ถูกต้อง แม่นยำ ครบถ้วน เพื่อใช้เป็นกลไกสำคัญสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการอย่างเท่าเทียมและเปลี่ยนโครงสร้างรายได้ไมซ์ให้เติบโตมากกว่าปกติอีก 6 % โดยได้จับมือกับสมาคมเครือข่าย หน่วยงานรัฐและเอกชนกว่า 10 องค์กร กระตุ้นให้สมาชิกเข้าร่วมสมัครเฟสแรก ในโครงการนำร่อง 3 ภาค ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคอีสาน จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 15 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครแล้ว 3,000 ราย ภายในตุลาคมนี้จะได้ถึง 10,000 ราย เฟส 2 จะเริ่มปีงบประมาณ 1 ตุลาคม 2563 อีก 2 ภาค คือ ภาคเหนือกับภาคตะวันออก โดยทีเส็บจะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์โดยรวมของประเทศภายใต้ 3 เป้าหมายหลัก คือ 1.การสร้างรายได้ 2.กระจายรายได้สู่ภูมิภาค 3.การพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ด้วยนวัตกรรม เพื่อพัฒนาธุรกิจไมซ์ไทยอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม TCEB กล่าวว่า ได้จัดทำฐานข้อมูลเพื่อให้ผู้ปนลระกอบการไมซ์ทั้งฝั่งผู้ให้และผู้รับบริการได้เข้ามาใช้ E-Marketplace รวม 16 หมวด 58 Segment โดยการรวมฐานข้มูลขนาดใหญ่ Big Data มีทั้งกลุ่มผู้ซื้อ ผ฿ขาย สถาบันการศึกษา (สอนหลักสูตรไมซ์และกลุ่มอาสามสมัคร) การจัดทำปฏิทินจัดงานไมซ์ทุกรูปแบบ เข้ามารวมไว้ในแพลทฟอร์มเดียว เพื่อความสะดวกในการใช้งานและแลกแลี่ยนการตลาดทางธุรกิจของไทยกับทั่วโลกอย่างสะดวกสบาย...คลิกเดียว Link เข้าตลาดคู่ค้าได้ทั่วโลก 194 ประเทศ ด้านนายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) "ทิก้า" กล่าวว่าโครงการนี้จะช่วยยกระดับผู้เข้าประกอบการไมซ์ไทยอย่างเท่าเทียมลดความเหลื่อมล้ำสร้างช่องทางเข้าถึงข้อมูล ตลาด และธุรกิจในทุกมุมที่มีความชัดเจนครอบคลุมทั้ง 16 หมวด และธุรกิจที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจะมีโอกาสได้พบกับลูกค้าในตลาดใหม่เพิ่มขึ้น แต่จะต้องโชว์ความเป็นมืออาชีพและสนใจอัพเดทผลิตภัณฑ์ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คู่ค้าทั่วโลกรู้จักมากขึ้น โดยจะต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา โครงการนี้จึงเหมาะกับกลุ่มSMEที่ต้องการเจาะตลาดกลุ่มเฉพาะ (Niche Market)ซึ่งสามารถสร้างจุดขายและส่วนต่างกำไรได้สูงกว่าการจะไปแข่งกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ซึ่งเน้นตลาดมวลรวมจำนวนมากแต่ส่วนต่างกำไรน้อยกว่า นายทาลูน เท็ง นายกสมาคมแสดงสินค้าไทย (TEA) กล่าวเสริมว่า เอกชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์โดยตรงทั้งเรื่องการใส่ประวัติผลงานบริษัทเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในตลาดทั่วโลกอีกทั้งขณะนี้ทางTEA ขยายฐานสมาชิกจัดแสดงสินค้าไปยังเมืองรองทั่วไทย ซึ่งยังมีอีกจำนวนมากต้องยกมาตรฐานเป็นมืออาชีพในการจัดงาน เมื่อมีโครงการนี้จะเพิ่มช่องทางลัดสร้างผู้ประกอบการใหม่ในเมืองรองได้เร็วขึ้น เพราะมีเครื่องมือพร้อมครบทุกอย่าง จากนั้นก็จะเติมเต็มความน่าเชื่อถือ แต่ทางผู้ประกอบการเองก็ต้องพัฒนาตนเองให้ทันสมัยอยู่ตลอดด้วย อนาคต TEA พร้อมจะเป็นหัวหอกจัดมหกรรม THAI MICE CONNECT MART ตลาดนัดเจรจาธุรกิจเป็นเวทีประจำให้เกิดขึ้นได้ นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ คาเอทีฟ วิล้ลจ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ทางอินเด็กซ์เป็นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเล็งเห็นถึงประโยชน์ของโครงการนี้เช่นกัน อย่างแรก จะช่วยเพิ่มโอกาสมหาศาลให้แก่ผู้ประกอบการSME และ Start Up ที่อยู่ในภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีการจัดงานอีเวนต์ในประเทศขยายจากส่วนกลางลงไปถึงอีเวนต์คตำบลและหมู่บ้าน ดังนั้นการทำข้อมูลเท่านั้นจะเป็นช่องทางช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ไมซ์ได้ดี โมเดลจะคล้ายไมซ์ในอเมริกาซึ่งทำแล้วสำเร็จ ส่วนสิ่งที่อยากเห็นใน E-Market Place คือ ลิสต์รายชื่อซัพลลายเออร์ แบรนด์ ราคา เป็นมาตรฐานที่จะทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายใช้เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกใช้ในแต่ละประเภทการจัดงานไมซ์ ช่วงที่ 2 ลองเปิดใจไปกับ “ชีพจรลงSouth” ในพัทลุง-นครศรีธรรรมราช” แล้วจะสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณชุมชน “เที่ยววิถีถิ่นใต้” ส่วนเรื่องสุขภาพ “กินฟักทองช่วยชะลอดวงตาเสื่อม” มีสารอะไรบ้างที่ช่วยได้ต้องฟังกันชัด ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง ติดตาม “4กระทรวง” มีนโยบายชัดขนาดไหน “ท่องเที่ยว-ทรัพยากรธรรมชาติ-มหาดไทย-คมนาคม” ในยามเศรษฐกิจขาลงจะทำอย่างไร เรื่อยไปจนถึงการเจาะลึกวันแรกในนโยบาย “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีท่องเที่ยววัย 64 ปี จะทำให้ชาติเดินหน้าท่องเที่ยวได้อย่างไร @ชีพจรลงSouth-เที่ยววิถีถิ่นใต้พัทลุง-นครศรีธรรมราช แสงแรกแห่งความสุขทุก ๆ ครั้ง เมื่อได้เดินทางตามเทรนด์ ชีพจรลง South ทริปนี้แนะนำให้ลองเลือกสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวชุมชนที่ “บ้านปากประ” ในเมืองรองจังหวัดพัทลุง ที่มีสัญลักษณ์ “ยอยักษ์” ตั้งตระหง่านอยู่ริมคลองปากประเป็นภาพจำทั้งในโฆษณาการท่องเที่ยวและภาพที่ได้ไปเห็นเองกับตาจริง ๆ เป็นความผูกพันธ์ระหว่างชาวบ้านกับอาชีพจับปลาด้วยเครื่องมือแบบดั้งเดิมที่อยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน เมื่อได้ลองไปใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติกับชาวปากประ รอบบริเวณแวดล้อมไปด้วยป่าเสม็ด พืชพันธุ์ท้องถิ่นซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของนกนานาชนิด และเชื่อมต่อกับทะเลน้อยซึ่งเป็นบ้านของสัตว์จำนวนมาก เตรียมแพ็คกระเป๋าจัดโปรแกรมไปเที่ยว “ท่องถิ่นใต้ ชมยอและวิถีชุมชน” พัทลุง เชื่อมต่อสู่นครศรีธรรมราช 3 วัน 2 คืน “วันแรก” นั่งเครื่องบินไปลงสนามบินตรัง แล้วนั่งรถเข้าพัทลุงแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “วัดคูหาสวรรค์” ช่วงบ่ายลองไป “ล่องแก่งคลองป่าพะยอม” ตกเย็นพักค้างแรมที่บ้านปากประต้นกำเนิดยอยักษ์ “วันที่สอง” มุ่งหน้าไปยัง “อุทยานแห่งชาตินกน้ำทะเลน้อย” นั่งล่องเรือไปชมสวยงามของดอกบัวละลานตาซึ่งมักจะบานช่วงเช้าเท่านั้น จากนั้นก็แวะชิมอาหารถิ่นฝีมือชาวบ้านในชุมชนทะเลน้อย แล้วเลือกช้อปที่ “ตลาดริมทะเลน้อย” ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นหลายอย่างเพื่อซื้อเป็นของฝาก ต้องขอบอกว่าของดีประจำถิ่นพัทลุง 4 อย่างต้องห้ามพลาด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากกระจูด ผลิตภัณฑ์จากกะลา ข้าวสังข์หยด กล้วยฉาบกับลูกหยี จากนั้นก็เดินทางไปยังจังหวัดรอยต่อที่นครศรีธรรมราช ดินแดน 2 ธรรม พักค้างแรมสัก 1 คืน “วันที่สาม” ตื่นเช้าไปส่องร้านติ่มซำอร่อย ในนครศรีธรรมราชหลายร้านมีชื่อเสียงโด่งดังรับประกันรสชาติอร่อยสมคำร่ำลือ เติมพลังยามเช้าเรียบร้อยแล้วก็เตรียมเดินทางไปไหว้พระที่ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” พร้อมกับการเยี่ยมชม “ชุมชนพรหมโลก” ถิ่นสร้างตำนานการแสดงมโนราห์ภาคใต้ แล้วเดินทางไปสนามบินนครศรีธรรมราช บินกลับกรุงเทพฯ แบบสบาย ๆ @กินฟักทองช่วยชะลอดวงตาเสื่อม มูลนิธิหมอชาวบ้าน แนะนำเรื่อง วิธีป้องกันการเสื่อมของดวงตาไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเท่านั้นหากแต่พบได้ทุกเพศทุกวัย เนื่องจากการใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์เป็นเวลานานๆ ของคนยุคนี้ อาหารที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี อยู่ที่ไหน ไม่ว่าเมืองไทยหรือต่างประเทศก็หากินได้ง่ายราคาถูกก็คือ ฟักทอง ผลฟักทองให้วิตามินเอสูงมาก ฟักทอง 100 กรัมจะให้วิตามินเอสูงถึง 7,384 ไอยู (International unit) วิตามินเอ นอกจากจะดีต่อผิวพรรณแล้ว ยังช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น และป้องกันเยื่อบุตาแห้ง ผลฟักทองมีสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อดวงตา คือ สารลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) สารลูทีนจะพบมากบริเวณจอรับภาพของจอประสาทตาและเรตินาหรือจอตา โดยจะทำหน้าที่กรองแสงที่เป็นอันตรายต่อดวงตา เช่น แสงแดด แสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟนซึ่งมีผลทำให้จอประสาทตาเสื่อม อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของดวงตา ป้องกันโรคที่เกิดจากโรคต้อกระจก โรคจอประสาทตาเสื่อม และทำให้การมองเห็นดีขึ้น การกินฟักทองเป็นประจำจึงเป็นการบำรุงรักษาสายตาอย่างดียิ่ง ฟังข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “จับตา4 กระทรวขับเคลื่อนท่องเที่ยวของประเทศปี’63” 1.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการแสดงจุดยืนวันแรกจะเน้นนโยบายพิเศษเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวไทยและทั่วโลก ผนวกการกระจายนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชนเพื่อเพิ่มรายได้ในเมืองท่องเที่ยวรองทุกพื้นที่ 2.กระทรวงมหาดไทย มีกรมการพัฒนาชดูแลชุมชนทั่วประเทศ จะสานต่อ OTOP นวัตวิถี ซึ่งเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวชุมชนและต่อยอดทำร่วมกับองค์กรต่าง ๆ มากมาย ทั้ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และภาคเอกชนอีกหลายแห่ง ต้องดูกันต่อไปถึงบทบาทของ “ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” จะทำให้หมู่บ้านทั่วประเทศกว่า 8.4 หมื่นแห่ง อยู่ดีกินดีจากการท่องเที่ยวได้หรือไม่ 3.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีต พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประกาศชัดเจนสั่งปิดอุทยานทางทะเลหลายแห่งเพื่อการฟื้นฟูธรรมชาติที่ถูกทำลายอย่างรวดเร็วเมื่อนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปเกินขีดความสามารถที่จะรองรับได้ แต่พอมาถึง “วราวุธ ศิลปะอาชา” ยังต้องรอนโยบายที่ชัดเจน เพราะภารกิจแรกเป็นเพียงการเดินทางไปดูแลพยูนในอันดามัน 4.กระทรวงคมนาคม ที่มีหน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานโลจิสติกส์ คมนาคม ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ที่ผ่านมาเน้นแต่การดูแลเมกะโปรเจ็กต์การลงทุนขนาดใหญ่ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน แต่เรื่องมาตรฐานกำกับดูแลความปลอดภัยบริการขนส่งทุกรูปแบบเพื่อการท่องเที่ยวยังแทบจะไม่ได้เห็นนโยบายชัด ๆ แต่อย่างใด ข่าวที่สอง “เปิดนโยบายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยว” นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วัย 64 ปี เข้าปฏิบัติงานวันแรกเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 โดยทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และประชุมผู้บริหารหน่วยงานท่องเที่ยวและกีฬาที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยการตอบคำถามอย่างช้า ๆ หนักแน่นในประเด็นจะเข้ามาทำภารกิจหลักคือการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยทางการท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวนานาชาติเกิดความมั่นใจ ภายปีนี้จะตั้งอาสาชุมชนขึ้นทั่วประเทศ โดยดูโมเดลเช่นเดียวกับตำรวจชุมชน อีกทั้งจะเร่งเปิดจุดขายกระจายการท่องเที่ยวชุมชนทั่วประเทศครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด เพื่อไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเฉพาะบางกลุ่มจังหวัด โดยจะไม่ขอตอบในประเด็นการจะทำให้รายได้ท่องเที่ยวตามแผนการตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายในปี 2563 จะต้องทำรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศไว้สูงถึง 3.8 ล้านล้านบาท เนื่องจากจะต้องขอรอรับฟังนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชัด ๆ อีกครั้ง ส่วนภารกิจที่จะเข้ามาดำเนินงานเชิงนโยบายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประกอบด้วย ด้านการท่องเที่ยว – มีภารกิจไฮไลต์ 6 เรื่อง ได้แก่ เรื่องแรก จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเกิดความมั่นใจแล้วกลับมาใช้เงินท่องเที่ยวตามปกติ โดยไม่กังวัลกรณีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมากนักเพราะยังมั่นใจไทยยอดนิยมอันดับเป็นประเทศท่องเที่ยวต้น ๆ ติด 1 ใน 6 ของโลก จะใช้นโยบายให้ทุกฝ่ายช่วยกันขับเคลื่อนด้วยการไปเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีเศรษฐกิจดีแทน บวกกับต้องกระจายตลาดให้ได้หลายกลุ่มเพื่อชวนมาเที่ยวเมืองไทย เรื่องที่ 2 การทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวที่เรียกร้องว่าในช่วงที่ผ่านมาทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังทำน้อยไปนั้น รัฐมนตรีพิพัฒน์ยืนยันเมื่อเข้ามาทำงานจะลงไปสัมผัสการทำงานร่วมกับเอกชนเพิ่มมากขึ้น เรื่องที่ 3 นโยบายการผลักดันขยายเวลาให้ FREE VISA VOA แก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ 21 ชาติ ไปจนถึงสิ้นปี 2562 ตามข้อเสนอของเอกชนท่องเที่ยวหรือไม่นั้น จะต้องขอหารือรับฟังนโยบายจากทางนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เรื่องที่ 4 การส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงกีฬา (SPORT TOURISM) ก็จะหันมาทุ่มเทดึงอีเวนต์ทัวร์นาเมนท์กีฬาระดับนานาชาติเข้ามาจัดในไทย ขณะนี้มีโมเดลต้นแบบการจัดแข่งขันโมโตจีพี ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีเคยเปรยให้จัดวิ่งเทรล กับการนำ E-SPORT เข้ามาจัดด้วย เพราะทุกทัวร์นาเมนท์สามารถสร้างเงินเข้าประเทศได้ เรื่องที่ 5 การแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกใช้จ่ายเงินระหว่างเที่ยวเมืองไทยน้อยลง หรือหันไปเลือกเที่ยวประเทศอื่น ก็รับจะไปหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย หามาตรการทำให้ค่าเงินบาทไม่แข็งมากไปกว่านี้อีก เรื่องที่ 6 กรณีงบประมาณปี 2563 อาจจะมีความล่าช้านั้น รมว.พิพัฒน์ย้ำว่าไม่ต้องกังวลเพราะเชื่อมั่นนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถจัดการได้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวเองก็เดินทางมาท่องเที่ยวไทยตามปกติอยู่แล้ว จึงไม่ควรกังวลเพราะงบประมาณล่าช้าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ด้านกีฬา – มีภารกิจไฮไลต์ 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 จะยกฐานะให้ไทยเป็นเจ้าเหรียญทองและเป็นผู้นำอาเซียนในประเภทกีฬาที่โอลิมปิกรับรอง เรื่องที่ 2 จะผลักดันส่งเสริมกีฬาเยาวชนไปสู่อาชีพให้ได้มากที่สุด รมว.พิพัฒน์กล่าวทิ้งท้ายว่าหลักการทำงานของตนเองนั้นจะต้องนำการท่องเที่ยวและกีฬาฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปให้ได้ เพราะได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับตำแหน่ง โดยจะศึกษาดูการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนก่อน ๆ ทำไว้ หากอะไรดีก็จะสานต่อไป ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai