เปิดนโยบาย “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.ท่องเที่ยวฯ ลั่นเดินหน้าภารกิจเร่งด่วนท่องเที่ยว6เรื่อง-กีฬา2เรื่อง
เปิดนโยบาย “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.ท่องเที่ยวฯ
ลั่นเดินหน้าภารกิจเร่งด่วนท่องเที่ยว6เรื่อง-กีฬา2เรื่อง
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #เที่ยวกับกู๋ #พิพัฒน์รัชกิจประการ #กระทรวงการท่องเที่ยว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วัย 64 ปี เข้าปฏิบัติงานวันแรกเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 โดยทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และประชุมผู้บริหารหน่วยงานท่องเที่ยวและกีฬาที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยการตอบคำถามอย่างช้า ๆ หนักแน่นในประเด็นจะเข้ามาทำภารกิจหลักคือการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยทางการท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวนานาชาติเกิดความมั่นใจ ภายปีนี้จะตั้งอาสาชุมชนขึ้นทั่วประเทศ โดยดูโมเดลเช่นเดียวกับตำรวจชุมชน อีกทั้งจะเร่งเปิดจุดขายกระจายการท่องเที่ยวชุมชนทั่วประเทศครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด เพื่อไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเฉพาะบางกลุ่มจังหวัด
โดยจะไม่ขอตอบในประเด็นการจะทำให้รายได้ท่องเที่ยวตามแผนการตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายในปี 2563 จะต้องทำรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศไว้สูงถึง 3.8 ล้านล้านบาท เนื่องจากจะต้องขอรอรับฟังนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชัด ๆ อีกครั้ง
ส่วนภารกิจที่จะเข้ามาดำเนินงานเชิงนโยบายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประกอบด้วย
ด้านการท่องเที่ยว – มีภารกิจไฮไลต์ 6 เรื่อง ได้แก่
เรื่องแรก จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเกิดความมั่นใจแล้วกลับมาใช้เงินท่องเที่ยวตามปกติ โดยไม่กังวัลกรณีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมากนักเพราะยังมั่นใจไทยยอดนิยมอันดับเป็นประเทศท่องเที่ยวต้น ๆ ติด 1 ใน 6 ของโลก จะใช้นโยบายให้ทุกฝ่ายช่วยกันขับเคลื่อนด้วยการไปเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีเศรษฐกิจดีแทน บวกกับต้องกระจายตลาดให้ได้หลายกลุ่มเพื่อชวนมาเที่ยวเมืองไทย
เรื่องที่ 2 การทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวที่เรียกร้องว่าในช่วงที่ผ่านมาทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังทำน้อยไปนั้น รัฐมนตรีพิพัฒน์ยืนยันเมื่อเข้ามาทำงานจะลงไปสัมผัสการทำงานร่วมกับเอกชนเพิ่มมากขึ้น
เรื่องที่ 3 นโยบายการผลักดันขยายเวลาให้ FREE VISA VOA แก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ 21 ชาติ ไปจนถึงสิ้นปี 2562 ตามข้อเสนอของเอกชนท่องเที่ยวหรือไม่นั้น จะต้องขอหารือรับฟังนโยบายจากทางนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
เรื่องที่ 4 การส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงกีฬา (SPORT TOURISM) ก็จะหันมาทุ่มเทดึงอีเวนต์ทัวร์นาเมนท์กีฬาระดับนานาชาติเข้ามาจัดในไทย ขณะนี้มีโมเดลต้นแบบการจัดแข่งขันโมโตจีพี ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีเคยเปรยให้จัดวิ่งเทรล กับการนำ E-SPORT เข้ามาจัดด้วย เพราะทุกทัวร์นาเมนท์สามารถสร้างเงินเข้าประเทศได้
เรื่องที่ 5 การแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกใช้จ่ายเงินระหว่างเที่ยวเมืองไทยน้อยลง หรือหันไปเลือกเที่ยวประเทศอื่น ก็รับจะไปหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย หามาตรการทำให้ค่าเงินบาทไม่แข็งมากไปกว่านี้อีก
เรื่องที่ 6 กรณีงบประมาณปี 2563 อาจจะมีความล่าช้านั้น รมว.พิพัฒน์ย้ำว่าไม่ต้องกังวลเพราะเชื่อมั่นนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถจัดการได้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวเองก็เดินทางมาท่องเที่ยวไทยตามปกติอยู่แล้ว จึงไม่ควรกังวลเพราะงบประมาณล่าช้าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ด้านกีฬา – มีภารกิจไฮไลต์ 2 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่ 1 จะยกฐานะให้ไทยเป็นเจ้าเหรียญทองและเป็นผู้นำอาเซียนในประเภทกีฬาที่โอลิมปิกรับรอง เรื่องที่ 2 จะผลักดันส่งเสริมกีฬาเยาวชนไปสู่อาชีพให้ได้มากที่สุด
รมว.พิพัฒน์กล่าวทิ้งท้ายว่าหลักการทำงานของตนเองนั้นจะต้องนำการท่องเที่ยวและกีฬาฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปให้ได้ เพราะได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับตำแหน่ง โดยจะศึกษาดูการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนก่อน ๆ ทำไว้ หากอะไรดีก็จะสานต่อไป
ลั่นเดินหน้าภารกิจเร่งด่วนท่องเที่ยว6เรื่อง-กีฬา2เรื่อง
เรื่องโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #สวท97 #เที่ยวกับกู๋ #พิพัฒน์รัชกิจประการ #กระทรวงการท่องเที่ยว
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา |
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วัย 64 ปี เข้าปฏิบัติงานวันแรกเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 โดยทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และประชุมผู้บริหารหน่วยงานท่องเที่ยวและกีฬาที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยก็ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยการตอบคำถามอย่างช้า ๆ หนักแน่นในประเด็นจะเข้ามาทำภารกิจหลักคือการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยทางการท่องเที่ยวเพื่อให้นักท่องเที่ยวนานาชาติเกิดความมั่นใจ ภายปีนี้จะตั้งอาสาชุมชนขึ้นทั่วประเทศ โดยดูโมเดลเช่นเดียวกับตำรวจชุมชน อีกทั้งจะเร่งเปิดจุดขายกระจายการท่องเที่ยวชุมชนทั่วประเทศครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด เพื่อไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเฉพาะบางกลุ่มจังหวัด
โดยจะไม่ขอตอบในประเด็นการจะทำให้รายได้ท่องเที่ยวตามแผนการตลาดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายในปี 2563 จะต้องทำรายได้ท่องเที่ยวเข้าประเทศไว้สูงถึง 3.8 ล้านล้านบาท เนื่องจากจะต้องขอรอรับฟังนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชัด ๆ อีกครั้ง
ส่วนภารกิจที่จะเข้ามาดำเนินงานเชิงนโยบายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประกอบด้วย
ด้านการท่องเที่ยว – มีภารกิจไฮไลต์ 6 เรื่อง ได้แก่
เรื่องแรก จะทำให้ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกเกิดความมั่นใจแล้วกลับมาใช้เงินท่องเที่ยวตามปกติ โดยไม่กังวัลกรณีต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมากนักเพราะยังมั่นใจไทยยอดนิยมอันดับเป็นประเทศท่องเที่ยวต้น ๆ ติด 1 ใน 6 ของโลก จะใช้นโยบายให้ทุกฝ่ายช่วยกันขับเคลื่อนด้วยการไปเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีเศรษฐกิจดีแทน บวกกับต้องกระจายตลาดให้ได้หลายกลุ่มเพื่อชวนมาเที่ยวเมืองไทย
เรื่องที่ 2 การทำงานเชิงบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวที่เรียกร้องว่าในช่วงที่ผ่านมาทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังทำน้อยไปนั้น รัฐมนตรีพิพัฒน์ยืนยันเมื่อเข้ามาทำงานจะลงไปสัมผัสการทำงานร่วมกับเอกชนเพิ่มมากขึ้น
เรื่องที่ 3 นโยบายการผลักดันขยายเวลาให้ FREE VISA VOA แก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ 21 ชาติ ไปจนถึงสิ้นปี 2562 ตามข้อเสนอของเอกชนท่องเที่ยวหรือไม่นั้น จะต้องขอหารือรับฟังนโยบายจากทางนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
เรื่องที่ 4 การส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงกีฬา (SPORT TOURISM) ก็จะหันมาทุ่มเทดึงอีเวนต์ทัวร์นาเมนท์กีฬาระดับนานาชาติเข้ามาจัดในไทย ขณะนี้มีโมเดลต้นแบบการจัดแข่งขันโมโตจีพี ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีเคยเปรยให้จัดวิ่งเทรล กับการนำ E-SPORT เข้ามาจัดด้วย เพราะทุกทัวร์นาเมนท์สามารถสร้างเงินเข้าประเทศได้
เรื่องที่ 5 การแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกใช้จ่ายเงินระหว่างเที่ยวเมืองไทยน้อยลง หรือหันไปเลือกเที่ยวประเทศอื่น ก็รับจะไปหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย หามาตรการทำให้ค่าเงินบาทไม่แข็งมากไปกว่านี้อีก
เรื่องที่ 6 กรณีงบประมาณปี 2563 อาจจะมีความล่าช้านั้น รมว.พิพัฒน์ย้ำว่าไม่ต้องกังวลเพราะเชื่อมั่นนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถจัดการได้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวเองก็เดินทางมาท่องเที่ยวไทยตามปกติอยู่แล้ว จึงไม่ควรกังวลเพราะงบประมาณล่าช้าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ด้านกีฬา – มีภารกิจไฮไลต์ 2 เรื่อง ได้แก่
เรื่องที่ 1 จะยกฐานะให้ไทยเป็นเจ้าเหรียญทองและเป็นผู้นำอาเซียนในประเภทกีฬาที่โอลิมปิกรับรอง เรื่องที่ 2 จะผลักดันส่งเสริมกีฬาเยาวชนไปสู่อาชีพให้ได้มากที่สุด
รมว.พิพัฒน์กล่าวทิ้งท้ายว่าหลักการทำงานของตนเองนั้นจะต้องนำการท่องเที่ยวและกีฬาฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปให้ได้ เพราะได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับตำแหน่ง โดยจะศึกษาดูการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนก่อน ๆ ทำไว้ หากอะไรดีก็จะสานต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น