ททท.นำทัพดิจิตอลพลิกโฉมอุตฯท่องเที่ยวปี’63
ฮือฮา!!ผุดTATMALLเปิดแอพรุกขายทุกรูปแบบ
มหานครสกายวอล์คร่วมไทยเที่ยวไทยอัดโปรแรง
คิงเพาเวอร์แจกไม่ยั้งลูกบอลพิษโลก-เพชรบูรณ์ ททท.ชูขุมทรัพย์เที่ยวไทย4หมวดโกยเงินปลายปี บางจากให้เติมE85sรับฟรีน้ำดื่ม1.5ลิตรเซฟโลก TCEBเปิดมิติใหม่อุตสาหกรรมไมซ์ชุมชนคึกคัก เที่ยวเมืองชุมชนแพแห่งลุ่มน้ำสะแกกรังจ.อุทัย แนะ5เคล็ดลับการกินลดความเสี่ยงโรคไม่เรื้อรัง รอเงินเที่ยวฟรีพันบาทด5ขั้นตอนดีเดย์23ก.ย. บินไทย-ไทยสไมล์ห้ามแม็คบุ๊คขึ้นเครื่องแล้ว!! รมว.ศักดิ์สยามลุยแก้ “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ” ครม./นายกฯเบรกฟรีวีซ่าท่องเที่ยว-ปิดผับตี4 ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว97 #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว # # ช่วงที่ 1 จับตา !! “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านดิจิตอลวิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทัพท่องเที่ยวสู่ดิจิตอลครั้งแรกในรอบ 60 ปี ปี 2563 พบความแปลกใหม่เต็มรูปแบบกับการพลิกโฉมทั้งอุตสาหกรรมด้วยสารพัดเทคโนโลยี นำร่อง “สิงหาคม 2562” สร้างเซอร์ไพรส์ เปิด TATMALL บนแพลตฟอร์มแอพลิเคชั่นข้ามชาติจากสิงคโปร์ shopee ใช้ฐานลูกค้า 30 ล้านคน รุกขายไทยเที่ยวไทยครบวงจร ขนกองทัพสื่อพันธุ์ใหม่ Social Media Footprint , TAT ECHO , CHAT BoT นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านดิจิตอลวิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากมีโครงสร้างใหม่เรื่องดิจิตอลเกิดขึ้นใน ททท.ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนได้เร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์การนำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาเสริมทัพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ แยกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนแรก ความร่วมมือกับภาคีพันธมิตร โครงการแรกมาแรง เริ่มเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 เป็นต้นมา ททท.จับมือกับ Shopee แอพลิเคชั่นช้อปสินค้าชื่อดังแถวหน้าจากสิงคโปร์ร่วมกันทำแคมเปญ “ช้อปแอพเดียว เที่ยวทั่วไทย” สร้าง TATMALL เต็มรูปแบบ เปิดเกมรุกตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักที่สำคัญสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยใช้ฐานของแอพลิเคชั่น shopee มีคนไทยเป็นสมาชิกอยู่กว่า 30 ล้านคน ขณะเดียวกันก็มองหาสินค้าดี ๆ เข้ามาวางขายโดยได้ผนึกกับสมาพันธุ์นำเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย มีสมาชิกเป็นตัวแทนบริษัทนำเที่ยวเป็นเจ้าของโปรดักซ์ท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน สินค้าดังกล่าวผ่านการคัดสรรมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่สินค้ารากหญ้าขึ้นมาจนถึง 5 ดาว ขณะนี้วางขายในแพลิเคชั่น shopee เรียบร้อยแล้วทำโปรโมชั่นยาวต่อเนื่อง นำร่องขายเบื้องต้น 19 จังหวัด หากสินค้าใดโฆษณาแล้วให้บริการไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าทางสมาพันธ์ท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย ได้กำหนดกติการ่วมกับสมาชิกอย่างเข้มงวดต้องชดใช้และเยียวยาให้ตรงกับความคาดหวังของลูกค้าอย่างแท้จริง สาเหตุที่ ททท.กับแอพลิเคชั่น shopee เลือก 19 จังหวัด เพราะทางสมาพันธ์ท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย มีความมั่นใจในโปรดักซ์การท่องเที่ยว พร้อมขาย สวยงาม เชื่อมั่นได้ ซึ่งเป็นเฟสแรก โดยคละกันระหว่างเมืองท่องเที่ยวหลัก พ่วงเมืองรอง เฟส 2 สมาชิกสมาพันธุ์ฯ จะช่วยกันพิจารณาขยายต่อให้ครบในระยะยาวทั้ง 77 จังหวัด โดยจะเน้นให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมสร้างสินค้าคุณภาพให้โดนใจนักท่องเที่ยว กำหนดจะเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาตลอดเพื่อตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยว รูปแบบจะเปิดเป็น TATMALL เริ่มจากการขาย “แพกเกจท่องเที่ยว” 2 วัน 1 คืน ขึ้นไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสเลือกตามความเหมาะสมกับสถานที่พักผ่อน ข้อดีของแอพลิเคชั่นดังกล่าวโดยเปิดกว้างเรื่องตั๋วโดยสารเครื่องบิน รถไฟ ซึ่งจะมีเงื่อนไขที่ดีจากผู้ให้บริการเดินทาง แต่นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อซื้อเองได้โดยตรง พอถึงพื้นที่จะมีคนในท้องถิ่นเข้ามารับช่วงดูแลต่อไป เป้าหมายของ ททท.สอดคล้องตามแผนการตลาดปี 2563 นอกจากจะมีตัวชี้วัดอีกอย่างเข้ามาเพิ่มคือ ROI : Return on Investment การลงทุนทางธุรกิจเท่าไร มีผลตอบแทนอย่างไรแล้ว ทาง ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ยังได้เพิ่มเครื่องมือใหม่เพิ่มขึ้นด้วยคือ ROX : Return on Expereince ผลตอบแทนทางประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเป็น “ความพึงพอใจ” ของนักท่องเที่ยวพอใจกับแหล่งท่องเที่ยวที่เข้าไปพักผ่อน ผู้ประกอบการพอใจที่ได้ขายราคาเหมาะสม และชุมชนเจ้าของพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งพอใจกับรายได้ถึงมือ เป็นการวัดระดับความพึงพอใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จะนำร่องใช้กับโครงการแรก “แอพเดียว เที่ยวทั่วไทย” ขณะนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใช้บริการ shopee ใน TATMALL ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนที่ 2 ททท.ด้านดิจิตอล การขับเคลื่อนดิจิตอลภาพรวมในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งเป็นความท้าทายเพราะแต่เดิมองค์กรต่าง ๆ พอพูดถึงดิจิตอลก็จะมุ่งแต่การเปิดเว็บไซต์ แอพลิเคชั่น ใหม่ ๆ ขึ้นมา ขณะนี้ประเทศไทยมีโปรดักซ์เหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้น ททท.จึงไม่ได้มุ่งพัฒนาเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่จะขยาย “เนื้อหา-Content” กับทุกระบบเพื่อให้กลุ่มดิเวลลอปเปอร์นำไปใช้ได้เลย สาระหลัก ๆ คือ 1.ข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องการ 2.ข้อมูลที่ผู้ประกอบการต้องการ เพื่อทำธุรกิจตอบรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ตัวอย่างเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ททท.ได้เปิดแพลตฟอร์ม Open DATA สู่สาธารณะ หรือในวงการเรียกว่า “กลุ่มเดเวลลอปเปอร์” นักพัฒนาข้อมูล เช่น ทำเว็บไซต์โดยมีแผนที่นำทาง แล้ว ททท.ก็เปิด API :APPLICATION INTER PHASE ทำให้ระบบกับระบบคุยกัน พอนักท่องเที่ยวเปิดมือถือแล้วให้ระบบกับระบบคุยกัน ตัวเทคโนโลยีจะลิงก์คุยกันเองเพื่อหาพิกัดบอกนักท่องเที่ยวอย่างถูกต้อง ขณะนี้ ททท.มี API แล้วให้ทุกคนได้ใช้ ไม่จำกัดเฉพาะการหาแหล่งท่องเที่ยว ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และอื่น ๆ ครบวงจร ประโยชน์ที่จะได้ เรื่องแรก เมื่อนักพัฒนานำไปใช้เสร็จก็จะช่วยประหยัดต้นทุน หรือ กลุ่ม Rtravel Tect Start Up ก็ไม่ต้องไปลงทุนหาข้อมูลเอง แต่นำข้อมูลดังกล่าวไปต่อยอดได้ ขณะเดียวกัน ททท.ก็คาดหวังจะให้มีข้อมูลย้อนกลับ หากผู้ใช้มีพิกัดดี ๆ ก็ใส่เข้ามาในแพลตฟอร์ม ททท.ได้ เพื่อให้คนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทำให้ขนาดแอพลิเคชั่นเติบโตเพิ่มขึ้นได้ เรื่องที่ 2 ปลายปี 2562 เป็นต้นไป ททท.จะเปิด Voice of Customer รับฟังเสียงของลูกค้าให้มากขึ้น ถ้านักท่องเที่ยวใช้แอพลิเคชั่นขาดช่องทางสื่อสารแนะนำ ดังนั้นจึงจะเปิดช่องทางเพิ่มเรียกว่าโครงการ TAT ECHO เป็นผลิตภัณฑ์ทางการตลาด นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ จะเข้ามาสะท้อนได้ในแต่ละช่องทางของ ททท.เพื่อให้นำไปพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นบริการทั้งผู้เกี่ยวข้องภายในและภายนอก ททท. โครงการ TAT ECHO oน ททท.ได้จัดลำดับเรื่องสำคัญ ๆ ไว้ด้วย ตัวอย่างเมื่อมีโจทย์ที่จะต้อง ROX : Return of Experience ประสบการณ์ของลูกค้าต้องมาจากความพึงพอใจ ความพึงพอใจก็ต้องมาจาก เรื่องแรกที่ต้องทำคือ “ตอบโจทย์ความคาดหวัง” ต้องพยายามเก็บเกี่ยวความคาดหวังอะไรจากท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ สถานที่ท่องเที่ยว บริการ จังหวัดใด เมื่อรู้แล้วก็จะนำมาพัฒนาแต่ละอย่างให้ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อสร้างกระแสการบอกต่อ เรื่องที่ 2 จะทำโครงการ Social Media Footprint สื่อสารแบบเข้าถึงอย่างฉับไว ถูกต้อง แม่นยำ ความหมายในทุกโซเชียลมีเดีย มีผู้ติดตาม follower, สมาชิก จะรวบรวมว่า ททท.มีลูกค้าอยู่ที่ใดบ้าง โดยยึดหลักการไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใดทั้งสิ้น ตัวอย่างหากเกิดสถานการณ์บางอย่างในประเทศไทย จะสื่อสารเข้าถึงได้ครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างไรได้บ้าง ดังนั้นการรู้ข้อมูลผู้ติดตาม สมาชิก ในโซเชียลมีเดียก็จะได้นำมาปรับปรุง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ข้อมูลฉับไว ถูกต้อง ในทุก ๆ สถานการณ์ เรื่องที่ 3 โครงการ Chat BoT น้องสุขใจ เปิดบริการแล้วโดยเชื่อมการสอบถามพูดคุยกับโรบ็อตน้องสุขใจ ให้นักท่องเที่ยวลองต่อเข้ามาทางเว็บไซต์ ททท.หรือแอพลิเคชั่นอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ยิ่งถามเข้ามามาก โรบ็อตจะมีข้อมูลมากขึ้นครบถ้วนในหลายมุม ช่วงแรกอาจจะตอบยังไม่คล่องแคล่วมากนัก พฤติกรรมของ Chat Bot อาจจะคล้ายสิรินั่นเอง นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2563 จะขยายฐานการพัฒนาดิจิตอลท่องเที่ยว เมื่อจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะส่งต่อไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะเป็นนักท่องเที่ยว หรืออื่น ๆ ซึ่งเรียกว่า Ecosystem แชร์ให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ หากต้องการเจาะนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาใช้ Market Place ดังกล่าวได้ เพื่อให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวได้มีสิทธิ์เลือกที่จไปกับบริษัทท่องเที่ยวแต่ละรายที่ตรงความต้องการได้ การตอบโจทย์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยุค 4.0 ยังต้องมีการเพิ่มเครื่องมือเทคโนโลยีกับหน่วยงานอื่น เพื่อจับอุณหภูมิที่น่าสนใจมาช่วยทำให้กระแสโดดเด่น หรือบางเรื่องน่าเป็นห่วงก็นำส่งต่อไปยังหน่วยงานที่แก้ปัญหาได้ ดังนั้นการใช้ประโยชน์จากดิจิตอลของ ททท.จะเน้นใช้เพื่อการเชื่อมโยงระหว่างลูกค้าคือนักท่องเที่ยวกับคู่ค้าหรือสินค้ารวมไปถึงการพัฒนาปรับปรุงองค์กรด้วย ฟังข่าวต้นชั่วโมง ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์มหานครร่วมเที่ยวทั่วไทยอัดโปรแรงตั๋วสกายวอล์ค” กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินหน้าทำตลาดการขายต้อนรับฤดูการเดินทางท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 พุ่งเป้าเจาะกำลังซื้อตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2562 นี้เป็นต้นไป กิจกรรมแรกในอาคาร “คิง เพาเวอร์ มหานคร” นำร่องครั้งแรกในการเข้าร่วมมหกรรมขายรายการใหญ่ประจำปีงาน “ไทย เที่ยว ไทย” ครั้งที่ 52 ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน 2562 นี้ ในบูธหมายเลข M12-13 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ทำโปรโมชั่นตลอด 3 วัน โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อราคาพิเศษ บัตรเข้าชมมหานคร สกาย วอล์ค ราคาเพียงคนละ 650 บาท จากปติก 765 บาท หากซื้อเป็นชุด 10 ใบ รับฟรีบัตรเครื่องเล่น VR สกาย ไรเดอร์ การจำลองโดดร่มเสมือนจริงแห่งแรกในไทย หากซื้อแยกราคาพิเศษเช่นกันใบละ 200 บาท จากปกติ 250 บาท ซื้อแล้วสามารถนำบัตรทั้ง 2 แบบ มาใช้บริการข้ามปีได้จนถึง 31 มีนาคม 2563 ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์จัดคาราวานแจกลูกบอลเด็กเยาวชนพิษณุโลก-เพชรบูรณ์” กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 ได้จัดคาราวาน “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” นำลูกฟุตบอลไปแจกน้อง ๆ เยาวชนใน 2 จังหวัด พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ตามโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ปีที่ 3 เดินทางไปมอบลูกฟุตบอลฟรีให้เยาวชนในพื้นที่เทศบาลตำบลเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก" และ "โรงเรียนน้ำหนาววิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์" ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป . ตามเป้าหมายต้องการให้เด็ก ๆ ที่อยากมีลูกฟุตบอลไว้ฝึกซ้อมเป็นของตัวเอง และเพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลได้ออกกำลังกาย มีความรักการเล่นกีฬา สร้างพลานามัยที่ดี และก้าวเข้าสู่นักกีฬาระดับต่าง ๆ ของประเทศต่อไป ข่าวที่ 3 “ททท.บุมขุมทรัพย์เที่ยวไทยจัดทัพ4กลุ่มสินค้าโกยเงิน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เดินหน้าเปิดตัวโครงการ “ขุมทรัพย์ท่องเที่ยวไทย : Tourism Treasures Throughout Thailand” เพิ่มรายได้ท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง 2562 โดยจัดหมวดสินค้าการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 สินค้าท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ ป่าไม้ เส้นทางเดินป่า หาดทราย ชายทะเล ประเภทที่ 2 สินค้าท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ การท่องเที่ยวชุมชน ที่สร้างประสบการณ์ (Local Experience) ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ประเภทที่ 3 สินค้าท่องเที่ยวเชิงมูลค่า สามารถสร้างมูลค่าเชิงรายได้สูงกว่าทั่วไป เด่น ๆ ได้แก่ การเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มคู่แต่งงาน-ฮันนีมูน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม การท่องเที่ยวทางน้ำสไตล์หรูหรา ล่องเรือ ยอร์ชชมทะเลอ่าวไทย และอันดามัน ประเภทที่ 4 สินค้าท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ (Niche Market) เช่น ท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวเชิงอาหาร ท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ เช่น Music Festival ตอนนี้ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการจัดมหกรรมดนตรีระดับนานาชาติในหลากหลายอีเวนต์ กำลังเป็นเทรนด์มาแรง ข่าวที่ 4 “เติมน้ำมันบางจาก E85 S รับฟรีน้ำดื่ม 1.5 ลิตร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนผู้ใช้รถเลือกใช้น้ำมันคุณภาพดีต่อสิ่งแวดล้อม เติม E85 S ครบทุก 500 บาท รับน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร ฟรี 1 ขวด มูลค่า 15 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 62 หรือจนกว่าของจะหมด ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.bangchakmarketplace.com เป็นการณรงค์อีกช่องทางให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกับบางจาก เนื่องจากน้ำมัน E85 S ราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินชนิดอื่น ประการสำคัญยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ข่าวที่ 4 “TCEBต่อยอดไมซ์เพื่อชุมชนชูมิติใหม่นำร่องตลาดBtoB นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดงาน “ไมซ์เพื่อชุมชน” ปีที่ 2 โดยได้จัดกิจกรรม “เปิดมิติใหม่ อุตสาหกรรมไมซ์” เป้าหมายเพื่อตอบความชัดเจน 2 โจทย์หลัก ได้แก่ 1.การกระจายรายได้ 2.นำตลาดผู้ซื้อเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน สร้างโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิตอีกทั้งยังจะเพิ่มความเข้มข้นนำกลยุทธ์การเปิดเจรจาธุรกิจแบบ Business to Business เพื่อให้ผู้ผลิตจากสหกรณ์ทั่วประเทศที่เข้ามาร่วมการขายผู้ซื้อทั่วไปในแต่ละงาน เพิ่มเวทีการเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งสนใจสั่งซื้อครั้งละจำนวนมาก ๆ ควบคู่กันไปด้วย ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าสร้างมาตรฐานห้องประชุมตามสหกรณ์ต่าง ๆ ทั้งแบบในอาคารและเปิดโล่ง โดย TCEB จะส่งทีมงานเข้าไปอบรมความรู้ เทคนิควิธีการแบบครบวงจร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ได้จัดงาน กิจกรรม “เปิดมิติใหม่ อุตสาหกรรมไมซ์”ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา กรุงเทพฯ นำสมาชิกสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้าเกษตรทั่วประเทศเข้าร่วมเปิดบูธจำหน่ายสินค้า 28 บูธ เพื่อขายสินค้าพืช ผัก ผลไม้ ข้าว ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป สินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น มาจำหน่ายบริเวณอาคารศูนย์ราชการ ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีความหลากหลายกลุ่ม ทำให้สมาชิกสหกรณ์ทำยอดขายได้ดี ผลิตภัณฑ์ไฮไลต์จากสหกรณ์หลายแห่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เช่น เมลล่อนรสชาติดีสุดของสหกรณ์นิคมชุมชนแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง หรือจะเป็นเนื้อจากสหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน นครปฐม เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ แหล่งอาหารสำคัญเทียบชั้นต่างประเทศได้ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ความสำเร็จจากโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” ปีที่ 2 นั้น สามารถขยายเครือข่ายสมาชิกสหกรณ์รวม 85 แห่ง จากปีแรกมีเพียง 35 แห่ง ปี 2562 สนใจเข้าร่วมอีก 50 แห่ง ปี 2563 จะยกระดับสินค้าสหกรณ์หมวดผัก ผลไม้ ให้มียอดขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับผู้ที่จะเข้าไปจัดประชุม สัมมนา แล้วใช้จ่ายเงินอุดหนุนซื้อสินค้าแบบครบวงจร ช่วงที่ 2 ชวนกันไปเที่ยว “ชุมชนบนแพแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง” อุทัยธานี มีเรื่องราววิถีชวิตของคนริมน้ำ เดินสายไปไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์ได้ด้วย ส่วนสุขภาพต้องฟัง “5 เคล็ดลับลดเสี่ยงโรคไม่เรื้อรัง” และข่าวแรง ๆ รอรับเงินเที่ยวฟรี 1,000 บาท ต้องเข้ากระบวนการครบ 5 ขั้นตอน ดีเดย์ 23 กันยายน นี้ ส่วน “การบินไทย-ไทยสไมล์” ขานรับกฎ EASA ห้ามผู้โดยสารนำแม็คบุ๊คจอ 15 นิ้วขึ้นเครื่อง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคมลุยแก้คอขวดการบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ และ ครม.กับนายกฯ ประยุทธ์ ขอเบรก 2 เรื่องที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ ชงรัฐบาลทั้งฟรีวีซ่าและขยายเวลาปิดผับถึงตี 4 @เที่ยวดี๊ดี!!ชุมชนบนแพแม่น้ำสะแกกรัง อุทัยธานี วิถีแห่งสายน้ำให้ความร่มเย็นในการท่องเที่ยวมุมใหม่อีกบรรยากาศ กับการได้ลองสัมผัสประสบการณ์ ล่องแพไปใช้ชีวิตสักครั้งกับ “ชุมนบนแพแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง” แห่งเดียวของเมืองไทย ในจังหวัดอุทัยธานี ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะบ้านเรือนกว่า 200 หลัง ที่พักพิงอาศัยมาหลายช่วงอายุคนล้วนแล้วแต่มีทะเบียนบ้าน มีผู้นำ มีสายน้ำเป็นเส้นทางสัญจร แถมมีอาชีพอย่างมั่นคงด้วยการทำประมงน้ำจืด เลี้ยงปลาชนิดต่าง ๆ ในกระชัง มีทั้งปลาสวาย ประหลาดเทโพ โดยเฉพาะปลาแรด ขึ้นชื่อมาก เมื่อนำมาทำอาหารรสชาติจะหวานเนื้อนุ่มลิ้น เมื่อไปพักผ่อนในชุมชนแห่งนี้จะสัมผัสได้ถึงการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายบนแพ สามารถเลือกใช้บริการเรือนำเที่ยว ท่องไปตามสายน้ำที่ยังคงเห็นวิถีสองฝั่งคลอง วัดวาอาราม อายุนับร้อยปี โปรแกรมท่องเที่ยวที่แนะนำ ต้องขอเรียกว่า “เส้นทางรักเรา...ไม่เก่าเลย” ลองไปพักใจกับธรรมชาติเมืองอุทัยธานีสัก 2 วัน 1 คืน วันแรก มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกชม ผู้ที่ชื่นชอบจิตรกรรมฝาผนังยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นแวะไปได้เลยที่ “วัดโบสถ์หรือวัดอุโปสถาราม” ส่วนชาวสายบุญทั้งหลายอยากกราบพระก็มีที่ “วัดสังกัสรัตนคีรี” และผ้าชอบดูผ้าโบราณ ต้องห้ามพลาดไปดู “กลุ่มสตรีทอผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ” ปิดท้ายด้วย “ตลาดริมน้ำสะแกกรัง” วันที่สอง เที่ยวสบาย ๆ ง่าย ๆ แวะเข้าชมความเก่าแก่ของ “วัดท่าซุง” เพื่อชมปราสาททองคำ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งจิตอธิษฐานนำสิ่งดี ๆ กลับบ้าน เมื่อไปถึงอุทัยธานีแล้ว ก็ควรกระจายรายได้โดยซื้อของฝากเฉพาะถิ่นติดมือกลับมาด้วย ที่ขึ้นชื่อมี 4 ชนิด ได้แก่ หน่อไม้รวกเขาสะแกกรัง น้ำปลาปลาสร้อยท่าซุง ส้มโอเกาะเทโพ และ ขนมปังสังขยา รสเด็ด @5 เคล็ดลับลดความเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การดูแลสุขภาพแบบง่าย ด้วย 5 เคล็ดลับลดความเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นเรื่องที่ทุกวัยทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1.กินครบ 5 หมู่ พอเพียง พอดี เพราะร่างกายจะได้สารอาหารครบทั้ง 5 ชนิด เพราะไม่มีอาหารชนิดใดชนิดเดียว ที่จะมีสารอาหารครบเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 2.เน้นกินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นพื้น เพราะปลามีโปรตีนที่มีคุณภาพ ย่อยง่าย มีไขมันต่ำ มีโอเมก้า 3 ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด มีแคลเซียมและแร่ธาตุที่สำคัญ ควรกินปลาเป็นประจำ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ส่วนผักและผลไม้ เป็นอาหารที่มนุษย์ขาดไม่ได้ เพราะเป็นแหล่งให้วิตามินและแร่ธาตุ อุดมด้วยใยอาหาร มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย 3.กินอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบจากธรรมชาติผ่านการปรุงแต่งน้อย เลือกใช้อาหารสด ลดอาหารแช่แข็ง หรืออาหารดอง 4.เลือกกินอาหารประเภทต้ม แกง ย่าง ยำ อบ นึ่ง หรือน้ำพริก ลดการกินของทอดและมัน 5.รสชาติอาหารไม่จัด ลด หวาน มัน เค็ม โดยกินตามสูตร 6 : 6: 1 ได้แก่ น้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา และเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี และยังสนับสนุนให้รับประทานอาหารในสัดส่วน 2 : 1 : 1 ซึ่งประกอบไปด้วย ผัก 2 ส่วน เนื้อสัตว์ 1 ส่วน และ แป้ง 1 ส่วน และปฏิบัติตามหลัก 3 อ 2 ส ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มสุรา เชื่อแน่ว่าหากทุกคนสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ก็สามารถลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้อย่างแน่นอน ฟังข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “5ขั้นตอนรับเงินเที่ยวฟรีพันบาทเริ่มลงทะเบียน23ก.ย.62 หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินคนไทยเที่ยวในประเทศ คนละ 1,000 บาท จำนวน 10 ล้านคน โดยจะเปิดให้รับเงินดังกล่าวตาม 5 ขั้นตอน ดีเดย์ 23 กันยายน 2562 กำหนดขั้นตอนรับเงิน 1,000 บาท ประกอบด้วย 1. ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 23 ก.ย.-15 พ.ย.นี้ 2. รอรับ SMS ยืนยันหลังจากลงทะเบียนประมาณ 2 วัน 3. ต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อรับสิทธิตามมาตรการ 4. ต้องเดินทางท่องเที่ยวและเริ่มใช้สิทธิภายใน 14 วันหลังได้รับ SMS ยืนยัน 5. การชำระเงินจะต้องจ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่รับชำระเงินด้วยแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ณ จังหวัดที่ระบุไว้ตอนลงทะเบียนเท่านั้น คุณสมบัติของผู้รับเงิน 1.ต้องเป็นประชาชนไทยทั่วไป มีบัตรประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน 2.ต้องระบุจังหวัดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว 1 จังหวัด โดยจะต้องไม่ใช่จังหวัดที่อยู่บนบัตรประชาชน ให้ 1 คนต่อ 1 สิทธิ จำกัดเพียง 10 ล้านคนแรกเท่านั้น การเลือกใช้บริการ 1.อาหารและเครื่องดื่ม จะต้องเป็นร้านอาหารที่ส่วนราชการรับรอง 2.ซื้อสินค้าท้องถิ่น จะต้องเป็นสินค้าโอทอป ร้านวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” 3.ค่าที่พัก ต้องเป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม โฮมสเตย์ ตามรายชื่อของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับ “ร้านค้า” ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องลงทะเบียนกับกรมบัญชีกลางภายใน 3 วัน หลังคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการ ไปจนถึง 13 ก.ย.2562 จากนั้น ผู้ประกอบการต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงิน และเมื่อได้รับชำระเงินจากลูกค้า ผู้ประกอบการจะได้รับเงิน 1 วันทำการหลังรับชำระเงิน ส่วนนักท่องเที่ยวหากลงทะเบียนแล้วไม่เดินทางท่องเที่ยวหรือไม่เริ่มใช้สิทธิภายใน 14 วัน หรือ ใช้สิทธิไม่ครบตามวงเงิน 1 พันบาท ณ วันสิ้นสุดโครงการ รัฐบาลจะตัดสิทธิทันที ข่าวที่สอง “บินไทย-ไทยสไมล์ห้ามโน้ตบุ๊คแม็ค15นิ้วขึ้นเครื่องตามกฎEASA” การบินไทยและไทยสมายล์ แจ้งเตือนผู้โดยสารงดนำ MacBook Pro 15 นิ้ว รุ่นปี 2015 - 2017 ขึ้นเครื่องบินตามประกาศมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้สอดคล้องกับองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency หรือ EASA) เนื่องจากโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ผู้ผลิตอยู่ในโปรแกรมการเรียกคืนแบตเตอรี่ ตามที่ EASA ได้ออกประกาศให้สายการบินที่ทำการบินเข้าและออกจากสหภาพยุโรปปฏิบัติตาม Safety Information Bulletin SIB 2017-01 เรื่องมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการส่งหรือนำแบตเตอรี่ลิเธียม หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบ โดยแบตเตอรี่นั้นชำรุด มีข้อบกพร่อง หรือถูกเรียกคืนจากผู้ผลิต ซึ่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพายี่ห้อ Apple รุ่น MacBook Pro ขนาด 15 นิ้ว ที่จำหน่ายระหว่างเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ถึงกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ข่าวที่สาม “ศํกดิ์สยามลุยแก้คอขวดการบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามบินดอนเมืองโดยมุ่งประเด็นหลักเรื่องการแก้ปัญหาคอขวดการจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นนโยบายที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับมาให้เร่งแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากประเทศไทยต้องพึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวนานาชาติเป็นหลัก อีกทั้งในช่วงตุลาคมนี้กำลังเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวจะมีการเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ระหว่างตรวจเยี่ยมได้รับฟังผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นำเสนอถึงผนปฏิบัติงาน และการเตรียมความพร้อมเร่งด่วนที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแต่ละส่วนดังนี้ 1.เพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางผ่านเข้าออกสนามบินดอนเมือง ได้แก่บริเวณขาเข้าเพิ่มอีก 12 จุด จาก 39 เป็น 51 จุด และขาออกเพิ่ม 8 จุด จาก 36 เป็น 44 จุด 2.ขยายพื้นที่เคาน์เตอร์และเวลารับทำVISA On ARRIVAL : VOA จาก 3 เป็น 4 ชั่วโมง เพื่อลดคงามแออัดในช่วงผู้โดยสารหนาแน่นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิดังกล่าวมีทั้งจีน อินเดีย และชาติอื่น ๆ รวม 21 ประเทศ ตามมติ ครม.ขยายเวลาให้ VOA ไปจนถึง 30 เมษายน 2562 ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีก 170 คน เพื่อให้บริการผู้ใช้บริการตามปริมาณผู้โดยสารที่ใช้งานในชั่วโมงหนาแน่น (peak hour) ขาเข้าเมือง 2,140 คน แต่ปัจจุบันรับได้เพียง 1,700 คน ส่วนขาออก มีประมาณ 1,700 คน รับได้ประมาณ 1,400 คน การขยายช่องตรวจหนังสือเดินทางและเพิ่มบุคลากรตรวจคนเข้าเมืองจะช่วยบรรเทาปัญหาคอขวดได้ 3.เพิ่มเทคโนโลยีการให้บริการสนามบินแบบครบวงจร ตามที่ ทอท.ได้เปิดตัวครงการ AOT digital ซึ่งสามารถบอกถึงปริมาณการจราจร การเช็คอิน กระเป๋าสัมภาระบนสายพาน และอื่น ๆ ที่เป็นข้อมูลสนามบินครอบคลุมแต่ละด้าน 4.ให้ ทอท.จัดทำสรุปปัญหาและแผนงานการแก้ไขคอขวดการจราจรในสนามบิน อย่างกระชับชัดเจน โดยจัดทำเป็นคลิปประมาณ 3-5 นาที เพื่อรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบในวันอังคารหน้า 27 สิงหาคม 2562 5.ให้ ทอท.จัดทำรายงานปัญหาต่าง ๆ และแนวทางการแก้ไขรายงานมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทุกเดือน เพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ในการจัดทำแผนพัฒนาสนามบินดอนเมืองเฟส 3 ช่วง ปี 2562-2566 นอกเหนือจากการพัฒนาขยายพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารให้เพียงพอต่อผู้โดยสารแล้ว ยังจะเวรคืนพื้นที่แฮงก้าหรืออู่จอดเครื่องบินของเจ็ตแอร์คืนมาใช้ประโยชน์ทางการบินต่อไป และมีโครงการเพิ่มพื้นที่ลานจอดรถสนามบินดอนเมืองอีกไม่ต่ำกว่า 500 คัน จากนั้น รมว.ศักดิ์สยาม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงเวลาประมาณ 17.00-18.30 น. โดยเน้นการแก้ปัญหาคอขวดจราจรทางอากาศเช่นเดียว และแนะแนวทางให้ใช้โมเดลของดอนเมืองเข้าไปแก้ไขปัญหาในสุวรรณภูมิซึ่งมีรูปแบบโครงสร้างปัญหาคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามระหว่าง รมว.ศักดิ์สยาม เดินตรวจเยี่ยมงานในดอนเมืองนั้น ได้แลกสอบถามแลกเปลี่ยนความเห็นกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ท่รายงานถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยปีนี้คาดการณ์จะได้ถึง 12 ล้านคน นั้นสถานการณ์ขาเข้าของนักท่องเที่ยวจีนผ่าน ตม.ดอนเมือง ปัจจุบันชะลอตัวลดลง 8-10 % ข่าวที่สี่ “นายกฯเบรกนโยบายรมว.ท่องเที่ยว2เรื่องฟรีวีซ่า/ปิดผับตี4” เมื่อวันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2562 มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมด้วยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ประสานเป็นเสียงเดียวกันให้เบรกเรื่องที่ “นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอขอรัฐบาล 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 ขอที่ประชุม ครม.ให้ FREE VISA ให้นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ผลสรุปคือไม่อนุมัติ คงให้แต่เพียง VISA ON ARRIVAL :VOA ไปจนถึงเมษายน 2563 เรื่องที่ 2 จะเสนอขอปิดผับในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศไปจนถึงตี 4 โดยขอยืดเวลาจากเดิมไม่เกินเที่ยงคืน พลเอกประยุทธ์กับพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันชัดเจนไม่อนุญาตเพราะเกรงผลกระทบอีกหลายเรื่องตามมาเป็นปัญหายาว ติดตามฟังรายการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง FM 97.0 MHz.
ฮือฮา!!ผุดTATMALLเปิดแอพรุกขายทุกรูปแบบ
มหานครสกายวอล์คร่วมไทยเที่ยวไทยอัดโปรแรง
คิงเพาเวอร์แจกไม่ยั้งลูกบอลพิษโลก-เพชรบูรณ์ ททท.ชูขุมทรัพย์เที่ยวไทย4หมวดโกยเงินปลายปี บางจากให้เติมE85sรับฟรีน้ำดื่ม1.5ลิตรเซฟโลก TCEBเปิดมิติใหม่อุตสาหกรรมไมซ์ชุมชนคึกคัก เที่ยวเมืองชุมชนแพแห่งลุ่มน้ำสะแกกรังจ.อุทัย แนะ5เคล็ดลับการกินลดความเสี่ยงโรคไม่เรื้อรัง รอเงินเที่ยวฟรีพันบาทด5ขั้นตอนดีเดย์23ก.ย. บินไทย-ไทยสไมล์ห้ามแม็คบุ๊คขึ้นเครื่องแล้ว!! รมว.ศักดิ์สยามลุยแก้ “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ” ครม./นายกฯเบรกฟรีวีซ่าท่องเที่ยว-ปิดผับตี4 ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว97 #เที่ยวกับกู๋ #วันธรรมดาน่าเที่ยว # # ช่วงที่ 1 จับตา !! “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านดิจิตอลวิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำทัพท่องเที่ยวสู่ดิจิตอลครั้งแรกในรอบ 60 ปี ปี 2563 พบความแปลกใหม่เต็มรูปแบบกับการพลิกโฉมทั้งอุตสาหกรรมด้วยสารพัดเทคโนโลยี นำร่อง “สิงหาคม 2562” สร้างเซอร์ไพรส์ เปิด TATMALL บนแพลตฟอร์มแอพลิเคชั่นข้ามชาติจากสิงคโปร์ shopee ใช้ฐานลูกค้า 30 ล้านคน รุกขายไทยเที่ยวไทยครบวงจร ขนกองทัพสื่อพันธุ์ใหม่ Social Media Footprint , TAT ECHO , CHAT BoT นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านดิจิตอลวิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากมีโครงสร้างใหม่เรื่องดิจิตอลเกิดขึ้นใน ททท.ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนได้เร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์การนำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาเสริมทัพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ แยกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนแรก ความร่วมมือกับภาคีพันธมิตร โครงการแรกมาแรง เริ่มเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 เป็นต้นมา ททท.จับมือกับ Shopee แอพลิเคชั่นช้อปสินค้าชื่อดังแถวหน้าจากสิงคโปร์ร่วมกันทำแคมเปญ “ช้อปแอพเดียว เที่ยวทั่วไทย” สร้าง TATMALL เต็มรูปแบบ เปิดเกมรุกตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักที่สำคัญสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยใช้ฐานของแอพลิเคชั่น shopee มีคนไทยเป็นสมาชิกอยู่กว่า 30 ล้านคน ขณะเดียวกันก็มองหาสินค้าดี ๆ เข้ามาวางขายโดยได้ผนึกกับสมาพันธุ์นำเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย มีสมาชิกเป็นตัวแทนบริษัทนำเที่ยวเป็นเจ้าของโปรดักซ์ท่องเที่ยวเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน สินค้าดังกล่าวผ่านการคัดสรรมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่สินค้ารากหญ้าขึ้นมาจนถึง 5 ดาว ขณะนี้วางขายในแพลิเคชั่น shopee เรียบร้อยแล้วทำโปรโมชั่นยาวต่อเนื่อง นำร่องขายเบื้องต้น 19 จังหวัด หากสินค้าใดโฆษณาแล้วให้บริการไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าทางสมาพันธ์ท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย ได้กำหนดกติการ่วมกับสมาชิกอย่างเข้มงวดต้องชดใช้และเยียวยาให้ตรงกับความคาดหวังของลูกค้าอย่างแท้จริง สาเหตุที่ ททท.กับแอพลิเคชั่น shopee เลือก 19 จังหวัด เพราะทางสมาพันธ์ท่องเที่ยวภูมิภาคแห่งประเทศไทย มีความมั่นใจในโปรดักซ์การท่องเที่ยว พร้อมขาย สวยงาม เชื่อมั่นได้ ซึ่งเป็นเฟสแรก โดยคละกันระหว่างเมืองท่องเที่ยวหลัก พ่วงเมืองรอง เฟส 2 สมาชิกสมาพันธุ์ฯ จะช่วยกันพิจารณาขยายต่อให้ครบในระยะยาวทั้ง 77 จังหวัด โดยจะเน้นให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมสร้างสินค้าคุณภาพให้โดนใจนักท่องเที่ยว กำหนดจะเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาตลอดเพื่อตอบสนองความต้องการนักท่องเที่ยว รูปแบบจะเปิดเป็น TATMALL เริ่มจากการขาย “แพกเกจท่องเที่ยว” 2 วัน 1 คืน ขึ้นไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสเลือกตามความเหมาะสมกับสถานที่พักผ่อน ข้อดีของแอพลิเคชั่นดังกล่าวโดยเปิดกว้างเรื่องตั๋วโดยสารเครื่องบิน รถไฟ ซึ่งจะมีเงื่อนไขที่ดีจากผู้ให้บริการเดินทาง แต่นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อซื้อเองได้โดยตรง พอถึงพื้นที่จะมีคนในท้องถิ่นเข้ามารับช่วงดูแลต่อไป เป้าหมายของ ททท.สอดคล้องตามแผนการตลาดปี 2563 นอกจากจะมีตัวชี้วัดอีกอย่างเข้ามาเพิ่มคือ ROI : Return on Investment การลงทุนทางธุรกิจเท่าไร มีผลตอบแทนอย่างไรแล้ว ทาง ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ยังได้เพิ่มเครื่องมือใหม่เพิ่มขึ้นด้วยคือ ROX : Return on Expereince ผลตอบแทนทางประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเป็น “ความพึงพอใจ” ของนักท่องเที่ยวพอใจกับแหล่งท่องเที่ยวที่เข้าไปพักผ่อน ผู้ประกอบการพอใจที่ได้ขายราคาเหมาะสม และชุมชนเจ้าของพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งพอใจกับรายได้ถึงมือ เป็นการวัดระดับความพึงพอใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จะนำร่องใช้กับโครงการแรก “แอพเดียว เที่ยวทั่วไทย” ขณะนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใช้บริการ shopee ใน TATMALL ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนที่ 2 ททท.ด้านดิจิตอล การขับเคลื่อนดิจิตอลภาพรวมในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งเป็นความท้าทายเพราะแต่เดิมองค์กรต่าง ๆ พอพูดถึงดิจิตอลก็จะมุ่งแต่การเปิดเว็บไซต์ แอพลิเคชั่น ใหม่ ๆ ขึ้นมา ขณะนี้ประเทศไทยมีโปรดักซ์เหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้น ททท.จึงไม่ได้มุ่งพัฒนาเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่จะขยาย “เนื้อหา-Content” กับทุกระบบเพื่อให้กลุ่มดิเวลลอปเปอร์นำไปใช้ได้เลย สาระหลัก ๆ คือ 1.ข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องการ 2.ข้อมูลที่ผู้ประกอบการต้องการ เพื่อทำธุรกิจตอบรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ตัวอย่างเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ททท.ได้เปิดแพลตฟอร์ม Open DATA สู่สาธารณะ หรือในวงการเรียกว่า “กลุ่มเดเวลลอปเปอร์” นักพัฒนาข้อมูล เช่น ทำเว็บไซต์โดยมีแผนที่นำทาง แล้ว ททท.ก็เปิด API :APPLICATION INTER PHASE ทำให้ระบบกับระบบคุยกัน พอนักท่องเที่ยวเปิดมือถือแล้วให้ระบบกับระบบคุยกัน ตัวเทคโนโลยีจะลิงก์คุยกันเองเพื่อหาพิกัดบอกนักท่องเที่ยวอย่างถูกต้อง ขณะนี้ ททท.มี API แล้วให้ทุกคนได้ใช้ ไม่จำกัดเฉพาะการหาแหล่งท่องเที่ยว ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และอื่น ๆ ครบวงจร ประโยชน์ที่จะได้ เรื่องแรก เมื่อนักพัฒนานำไปใช้เสร็จก็จะช่วยประหยัดต้นทุน หรือ กลุ่ม Rtravel Tect Start Up ก็ไม่ต้องไปลงทุนหาข้อมูลเอง แต่นำข้อมูลดังกล่าวไปต่อยอดได้ ขณะเดียวกัน ททท.ก็คาดหวังจะให้มีข้อมูลย้อนกลับ หากผู้ใช้มีพิกัดดี ๆ ก็ใส่เข้ามาในแพลตฟอร์ม ททท.ได้ เพื่อให้คนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทำให้ขนาดแอพลิเคชั่นเติบโตเพิ่มขึ้นได้ เรื่องที่ 2 ปลายปี 2562 เป็นต้นไป ททท.จะเปิด Voice of Customer รับฟังเสียงของลูกค้าให้มากขึ้น ถ้านักท่องเที่ยวใช้แอพลิเคชั่นขาดช่องทางสื่อสารแนะนำ ดังนั้นจึงจะเปิดช่องทางเพิ่มเรียกว่าโครงการ TAT ECHO เป็นผลิตภัณฑ์ทางการตลาด นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ จะเข้ามาสะท้อนได้ในแต่ละช่องทางของ ททท.เพื่อให้นำไปพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นบริการทั้งผู้เกี่ยวข้องภายในและภายนอก ททท. โครงการ TAT ECHO oน ททท.ได้จัดลำดับเรื่องสำคัญ ๆ ไว้ด้วย ตัวอย่างเมื่อมีโจทย์ที่จะต้อง ROX : Return of Experience ประสบการณ์ของลูกค้าต้องมาจากความพึงพอใจ ความพึงพอใจก็ต้องมาจาก เรื่องแรกที่ต้องทำคือ “ตอบโจทย์ความคาดหวัง” ต้องพยายามเก็บเกี่ยวความคาดหวังอะไรจากท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ สถานที่ท่องเที่ยว บริการ จังหวัดใด เมื่อรู้แล้วก็จะนำมาพัฒนาแต่ละอย่างให้ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อสร้างกระแสการบอกต่อ เรื่องที่ 2 จะทำโครงการ Social Media Footprint สื่อสารแบบเข้าถึงอย่างฉับไว ถูกต้อง แม่นยำ ความหมายในทุกโซเชียลมีเดีย มีผู้ติดตาม follower, สมาชิก จะรวบรวมว่า ททท.มีลูกค้าอยู่ที่ใดบ้าง โดยยึดหลักการไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใดทั้งสิ้น ตัวอย่างหากเกิดสถานการณ์บางอย่างในประเทศไทย จะสื่อสารเข้าถึงได้ครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างไรได้บ้าง ดังนั้นการรู้ข้อมูลผู้ติดตาม สมาชิก ในโซเชียลมีเดียก็จะได้นำมาปรับปรุง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ข้อมูลฉับไว ถูกต้อง ในทุก ๆ สถานการณ์ เรื่องที่ 3 โครงการ Chat BoT น้องสุขใจ เปิดบริการแล้วโดยเชื่อมการสอบถามพูดคุยกับโรบ็อตน้องสุขใจ ให้นักท่องเที่ยวลองต่อเข้ามาทางเว็บไซต์ ททท.หรือแอพลิเคชั่นอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ยิ่งถามเข้ามามาก โรบ็อตจะมีข้อมูลมากขึ้นครบถ้วนในหลายมุม ช่วงแรกอาจจะตอบยังไม่คล่องแคล่วมากนัก พฤติกรรมของ Chat Bot อาจจะคล้ายสิรินั่นเอง นายศิริปกรณ์กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2563 จะขยายฐานการพัฒนาดิจิตอลท่องเที่ยว เมื่อจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะส่งต่อไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จะเป็นนักท่องเที่ยว หรืออื่น ๆ ซึ่งเรียกว่า Ecosystem แชร์ให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ หากต้องการเจาะนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาใช้ Market Place ดังกล่าวได้ เพื่อให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวได้มีสิทธิ์เลือกที่จไปกับบริษัทท่องเที่ยวแต่ละรายที่ตรงความต้องการได้ การตอบโจทย์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยุค 4.0 ยังต้องมีการเพิ่มเครื่องมือเทคโนโลยีกับหน่วยงานอื่น เพื่อจับอุณหภูมิที่น่าสนใจมาช่วยทำให้กระแสโดดเด่น หรือบางเรื่องน่าเป็นห่วงก็นำส่งต่อไปยังหน่วยงานที่แก้ปัญหาได้ ดังนั้นการใช้ประโยชน์จากดิจิตอลของ ททท.จะเน้นใช้เพื่อการเชื่อมโยงระหว่างลูกค้าคือนักท่องเที่ยวกับคู่ค้าหรือสินค้ารวมไปถึงการพัฒนาปรับปรุงองค์กรด้วย ฟังข่าวต้นชั่วโมง ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์มหานครร่วมเที่ยวทั่วไทยอัดโปรแรงตั๋วสกายวอล์ค” กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินหน้าทำตลาดการขายต้อนรับฤดูการเดินทางท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 พุ่งเป้าเจาะกำลังซื้อตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2562 นี้เป็นต้นไป กิจกรรมแรกในอาคาร “คิง เพาเวอร์ มหานคร” นำร่องครั้งแรกในการเข้าร่วมมหกรรมขายรายการใหญ่ประจำปีงาน “ไทย เที่ยว ไทย” ครั้งที่ 52 ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน 2562 นี้ ในบูธหมายเลข M12-13 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ทำโปรโมชั่นตลอด 3 วัน โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อราคาพิเศษ บัตรเข้าชมมหานคร สกาย วอล์ค ราคาเพียงคนละ 650 บาท จากปติก 765 บาท หากซื้อเป็นชุด 10 ใบ รับฟรีบัตรเครื่องเล่น VR สกาย ไรเดอร์ การจำลองโดดร่มเสมือนจริงแห่งแรกในไทย หากซื้อแยกราคาพิเศษเช่นกันใบละ 200 บาท จากปกติ 250 บาท ซื้อแล้วสามารถนำบัตรทั้ง 2 แบบ มาใช้บริการข้ามปีได้จนถึง 31 มีนาคม 2563 ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์จัดคาราวานแจกลูกบอลเด็กเยาวชนพิษณุโลก-เพชรบูรณ์” กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 ได้จัดคาราวาน “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” นำลูกฟุตบอลไปแจกน้อง ๆ เยาวชนใน 2 จังหวัด พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ตามโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ปีที่ 3 เดินทางไปมอบลูกฟุตบอลฟรีให้เยาวชนในพื้นที่เทศบาลตำบลเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก" และ "โรงเรียนน้ำหนาววิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์" ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป . ตามเป้าหมายต้องการให้เด็ก ๆ ที่อยากมีลูกฟุตบอลไว้ฝึกซ้อมเป็นของตัวเอง และเพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลได้ออกกำลังกาย มีความรักการเล่นกีฬา สร้างพลานามัยที่ดี และก้าวเข้าสู่นักกีฬาระดับต่าง ๆ ของประเทศต่อไป ข่าวที่ 3 “ททท.บุมขุมทรัพย์เที่ยวไทยจัดทัพ4กลุ่มสินค้าโกยเงิน นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เดินหน้าเปิดตัวโครงการ “ขุมทรัพย์ท่องเที่ยวไทย : Tourism Treasures Throughout Thailand” เพิ่มรายได้ท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง 2562 โดยจัดหมวดสินค้าการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 สินค้าท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ ป่าไม้ เส้นทางเดินป่า หาดทราย ชายทะเล ประเภทที่ 2 สินค้าท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ การท่องเที่ยวชุมชน ที่สร้างประสบการณ์ (Local Experience) ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นไทยอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ประเภทที่ 3 สินค้าท่องเที่ยวเชิงมูลค่า สามารถสร้างมูลค่าเชิงรายได้สูงกว่าทั่วไป เด่น ๆ ได้แก่ การเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มคู่แต่งงาน-ฮันนีมูน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม การท่องเที่ยวทางน้ำสไตล์หรูหรา ล่องเรือ ยอร์ชชมทะเลอ่าวไทย และอันดามัน ประเภทที่ 4 สินค้าท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ (Niche Market) เช่น ท่องเที่ยวเชิงกีฬา การท่องเที่ยวเชิงอาหาร ท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ เช่น Music Festival ตอนนี้ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการจัดมหกรรมดนตรีระดับนานาชาติในหลากหลายอีเวนต์ กำลังเป็นเทรนด์มาแรง ข่าวที่ 4 “เติมน้ำมันบางจาก E85 S รับฟรีน้ำดื่ม 1.5 ลิตร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนผู้ใช้รถเลือกใช้น้ำมันคุณภาพดีต่อสิ่งแวดล้อม เติม E85 S ครบทุก 500 บาท รับน้ำดื่มขนาด 1.5 ลิตร ฟรี 1 ขวด มูลค่า 15 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 62 หรือจนกว่าของจะหมด ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.bangchakmarketplace.com เป็นการณรงค์อีกช่องทางให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมร่วมกับบางจาก เนื่องจากน้ำมัน E85 S ราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินชนิดอื่น ประการสำคัญยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย ข่าวที่ 4 “TCEBต่อยอดไมซ์เพื่อชุมชนชูมิติใหม่นำร่องตลาดBtoB นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดงาน “ไมซ์เพื่อชุมชน” ปีที่ 2 โดยได้จัดกิจกรรม “เปิดมิติใหม่ อุตสาหกรรมไมซ์” เป้าหมายเพื่อตอบความชัดเจน 2 โจทย์หลัก ได้แก่ 1.การกระจายรายได้ 2.นำตลาดผู้ซื้อเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน สร้างโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิตอีกทั้งยังจะเพิ่มความเข้มข้นนำกลยุทธ์การเปิดเจรจาธุรกิจแบบ Business to Business เพื่อให้ผู้ผลิตจากสหกรณ์ทั่วประเทศที่เข้ามาร่วมการขายผู้ซื้อทั่วไปในแต่ละงาน เพิ่มเวทีการเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้ซื้อบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งสนใจสั่งซื้อครั้งละจำนวนมาก ๆ ควบคู่กันไปด้วย ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าสร้างมาตรฐานห้องประชุมตามสหกรณ์ต่าง ๆ ทั้งแบบในอาคารและเปิดโล่ง โดย TCEB จะส่งทีมงานเข้าไปอบรมความรู้ เทคนิควิธีการแบบครบวงจร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ได้จัดงาน กิจกรรม “เปิดมิติใหม่ อุตสาหกรรมไมซ์”ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา กรุงเทพฯ นำสมาชิกสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้าเกษตรทั่วประเทศเข้าร่วมเปิดบูธจำหน่ายสินค้า 28 บูธ เพื่อขายสินค้าพืช ผัก ผลไม้ ข้าว ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป สินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น มาจำหน่ายบริเวณอาคารศูนย์ราชการ ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคที่มีความหลากหลายกลุ่ม ทำให้สมาชิกสหกรณ์ทำยอดขายได้ดี ผลิตภัณฑ์ไฮไลต์จากสหกรณ์หลายแห่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เช่น เมลล่อนรสชาติดีสุดของสหกรณ์นิคมชุมชนแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง หรือจะเป็นเนื้อจากสหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน นครปฐม เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ แหล่งอาหารสำคัญเทียบชั้นต่างประเทศได้ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ความสำเร็จจากโครงการ “ไมซ์เพื่อชุมชน” ปีที่ 2 นั้น สามารถขยายเครือข่ายสมาชิกสหกรณ์รวม 85 แห่ง จากปีแรกมีเพียง 35 แห่ง ปี 2562 สนใจเข้าร่วมอีก 50 แห่ง ปี 2563 จะยกระดับสินค้าสหกรณ์หมวดผัก ผลไม้ ให้มียอดขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับผู้ที่จะเข้าไปจัดประชุม สัมมนา แล้วใช้จ่ายเงินอุดหนุนซื้อสินค้าแบบครบวงจร ช่วงที่ 2 ชวนกันไปเที่ยว “ชุมชนบนแพแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง” อุทัยธานี มีเรื่องราววิถีชวิตของคนริมน้ำ เดินสายไปไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์ได้ด้วย ส่วนสุขภาพต้องฟัง “5 เคล็ดลับลดเสี่ยงโรคไม่เรื้อรัง” และข่าวแรง ๆ รอรับเงินเที่ยวฟรี 1,000 บาท ต้องเข้ากระบวนการครบ 5 ขั้นตอน ดีเดย์ 23 กันยายน นี้ ส่วน “การบินไทย-ไทยสไมล์” ขานรับกฎ EASA ห้ามผู้โดยสารนำแม็คบุ๊คจอ 15 นิ้วขึ้นเครื่อง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคมลุยแก้คอขวดการบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ และ ครม.กับนายกฯ ประยุทธ์ ขอเบรก 2 เรื่องที่ พิพัฒน์ รัชกิจประการ ชงรัฐบาลทั้งฟรีวีซ่าและขยายเวลาปิดผับถึงตี 4 @เที่ยวดี๊ดี!!ชุมชนบนแพแม่น้ำสะแกกรัง อุทัยธานี วิถีแห่งสายน้ำให้ความร่มเย็นในการท่องเที่ยวมุมใหม่อีกบรรยากาศ กับการได้ลองสัมผัสประสบการณ์ ล่องแพไปใช้ชีวิตสักครั้งกับ “ชุมนบนแพแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง” แห่งเดียวของเมืองไทย ในจังหวัดอุทัยธานี ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมืองรองที่กำลังได้รับความสนใจ เพราะบ้านเรือนกว่า 200 หลัง ที่พักพิงอาศัยมาหลายช่วงอายุคนล้วนแล้วแต่มีทะเบียนบ้าน มีผู้นำ มีสายน้ำเป็นเส้นทางสัญจร แถมมีอาชีพอย่างมั่นคงด้วยการทำประมงน้ำจืด เลี้ยงปลาชนิดต่าง ๆ ในกระชัง มีทั้งปลาสวาย ประหลาดเทโพ โดยเฉพาะปลาแรด ขึ้นชื่อมาก เมื่อนำมาทำอาหารรสชาติจะหวานเนื้อนุ่มลิ้น เมื่อไปพักผ่อนในชุมชนแห่งนี้จะสัมผัสได้ถึงการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายบนแพ สามารถเลือกใช้บริการเรือนำเที่ยว ท่องไปตามสายน้ำที่ยังคงเห็นวิถีสองฝั่งคลอง วัดวาอาราม อายุนับร้อยปี โปรแกรมท่องเที่ยวที่แนะนำ ต้องขอเรียกว่า “เส้นทางรักเรา...ไม่เก่าเลย” ลองไปพักใจกับธรรมชาติเมืองอุทัยธานีสัก 2 วัน 1 คืน วันแรก มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกชม ผู้ที่ชื่นชอบจิตรกรรมฝาผนังยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นแวะไปได้เลยที่ “วัดโบสถ์หรือวัดอุโปสถาราม” ส่วนชาวสายบุญทั้งหลายอยากกราบพระก็มีที่ “วัดสังกัสรัตนคีรี” และผ้าชอบดูผ้าโบราณ ต้องห้ามพลาดไปดู “กลุ่มสตรีทอผ้าไหมลายโบราณบ้านโคกหม้อ” ปิดท้ายด้วย “ตลาดริมน้ำสะแกกรัง” วันที่สอง เที่ยวสบาย ๆ ง่าย ๆ แวะเข้าชมความเก่าแก่ของ “วัดท่าซุง” เพื่อชมปราสาททองคำ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งจิตอธิษฐานนำสิ่งดี ๆ กลับบ้าน เมื่อไปถึงอุทัยธานีแล้ว ก็ควรกระจายรายได้โดยซื้อของฝากเฉพาะถิ่นติดมือกลับมาด้วย ที่ขึ้นชื่อมี 4 ชนิด ได้แก่ หน่อไม้รวกเขาสะแกกรัง น้ำปลาปลาสร้อยท่าซุง ส้มโอเกาะเทโพ และ ขนมปังสังขยา รสเด็ด @5 เคล็ดลับลดความเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การดูแลสุขภาพแบบง่าย ด้วย 5 เคล็ดลับลดความเสี่ยง เลี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นเรื่องที่ทุกวัยทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1.กินครบ 5 หมู่ พอเพียง พอดี เพราะร่างกายจะได้สารอาหารครบทั้ง 5 ชนิด เพราะไม่มีอาหารชนิดใดชนิดเดียว ที่จะมีสารอาหารครบเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย 2.เน้นกินปลาเป็นหลัก กินผักเป็นพื้น เพราะปลามีโปรตีนที่มีคุณภาพ ย่อยง่าย มีไขมันต่ำ มีโอเมก้า 3 ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด มีแคลเซียมและแร่ธาตุที่สำคัญ ควรกินปลาเป็นประจำ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ส่วนผักและผลไม้ เป็นอาหารที่มนุษย์ขาดไม่ได้ เพราะเป็นแหล่งให้วิตามินและแร่ธาตุ อุดมด้วยใยอาหาร มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย 3.กินอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบจากธรรมชาติผ่านการปรุงแต่งน้อย เลือกใช้อาหารสด ลดอาหารแช่แข็ง หรืออาหารดอง 4.เลือกกินอาหารประเภทต้ม แกง ย่าง ยำ อบ นึ่ง หรือน้ำพริก ลดการกินของทอดและมัน 5.รสชาติอาหารไม่จัด ลด หวาน มัน เค็ม โดยกินตามสูตร 6 : 6: 1 ได้แก่ น้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา และเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี และยังสนับสนุนให้รับประทานอาหารในสัดส่วน 2 : 1 : 1 ซึ่งประกอบไปด้วย ผัก 2 ส่วน เนื้อสัตว์ 1 ส่วน และ แป้ง 1 ส่วน และปฏิบัติตามหลัก 3 อ 2 ส ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มสุรา เชื่อแน่ว่าหากทุกคนสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น ก็สามารถลดความเสี่ยงจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้อย่างแน่นอน ฟังข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “5ขั้นตอนรับเงินเที่ยวฟรีพันบาทเริ่มลงทะเบียน23ก.ย.62 หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินคนไทยเที่ยวในประเทศ คนละ 1,000 บาท จำนวน 10 ล้านคน โดยจะเปิดให้รับเงินดังกล่าวตาม 5 ขั้นตอน ดีเดย์ 23 กันยายน 2562 กำหนดขั้นตอนรับเงิน 1,000 บาท ประกอบด้วย 1. ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 23 ก.ย.-15 พ.ย.นี้ 2. รอรับ SMS ยืนยันหลังจากลงทะเบียนประมาณ 2 วัน 3. ต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อรับสิทธิตามมาตรการ 4. ต้องเดินทางท่องเที่ยวและเริ่มใช้สิทธิภายใน 14 วันหลังได้รับ SMS ยืนยัน 5. การชำระเงินจะต้องจ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่รับชำระเงินด้วยแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ณ จังหวัดที่ระบุไว้ตอนลงทะเบียนเท่านั้น คุณสมบัติของผู้รับเงิน 1.ต้องเป็นประชาชนไทยทั่วไป มีบัตรประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน 2.ต้องระบุจังหวัดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว 1 จังหวัด โดยจะต้องไม่ใช่จังหวัดที่อยู่บนบัตรประชาชน ให้ 1 คนต่อ 1 สิทธิ จำกัดเพียง 10 ล้านคนแรกเท่านั้น การเลือกใช้บริการ 1.อาหารและเครื่องดื่ม จะต้องเป็นร้านอาหารที่ส่วนราชการรับรอง 2.ซื้อสินค้าท้องถิ่น จะต้องเป็นสินค้าโอทอป ร้านวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” 3.ค่าที่พัก ต้องเป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม โฮมสเตย์ ตามรายชื่อของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับ “ร้านค้า” ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องลงทะเบียนกับกรมบัญชีกลางภายใน 3 วัน หลังคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการ ไปจนถึง 13 ก.ย.2562 จากนั้น ผู้ประกอบการต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงิน และเมื่อได้รับชำระเงินจากลูกค้า ผู้ประกอบการจะได้รับเงิน 1 วันทำการหลังรับชำระเงิน ส่วนนักท่องเที่ยวหากลงทะเบียนแล้วไม่เดินทางท่องเที่ยวหรือไม่เริ่มใช้สิทธิภายใน 14 วัน หรือ ใช้สิทธิไม่ครบตามวงเงิน 1 พันบาท ณ วันสิ้นสุดโครงการ รัฐบาลจะตัดสิทธิทันที ข่าวที่สอง “บินไทย-ไทยสไมล์ห้ามโน้ตบุ๊คแม็ค15นิ้วขึ้นเครื่องตามกฎEASA” การบินไทยและไทยสมายล์ แจ้งเตือนผู้โดยสารงดนำ MacBook Pro 15 นิ้ว รุ่นปี 2015 - 2017 ขึ้นเครื่องบินตามประกาศมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้สอดคล้องกับองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency หรือ EASA) เนื่องจากโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ผู้ผลิตอยู่ในโปรแกรมการเรียกคืนแบตเตอรี่ ตามที่ EASA ได้ออกประกาศให้สายการบินที่ทำการบินเข้าและออกจากสหภาพยุโรปปฏิบัติตาม Safety Information Bulletin SIB 2017-01 เรื่องมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับการส่งหรือนำแบตเตอรี่ลิเธียม หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นส่วนประกอบ โดยแบตเตอรี่นั้นชำรุด มีข้อบกพร่อง หรือถูกเรียกคืนจากผู้ผลิต ซึ่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพายี่ห้อ Apple รุ่น MacBook Pro ขนาด 15 นิ้ว ที่จำหน่ายระหว่างเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ถึงกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ข่าวที่สาม “ศํกดิ์สยามลุยแก้คอขวดการบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามบินดอนเมืองโดยมุ่งประเด็นหลักเรื่องการแก้ปัญหาคอขวดการจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นนโยบายที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับมาให้เร่งแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากประเทศไทยต้องพึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวนานาชาติเป็นหลัก อีกทั้งในช่วงตุลาคมนี้กำลังเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวจะมีการเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ระหว่างตรวจเยี่ยมได้รับฟังผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นำเสนอถึงผนปฏิบัติงาน และการเตรียมความพร้อมเร่งด่วนที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแต่ละส่วนดังนี้ 1.เพิ่มช่องตรวจหนังสือเดินทางผ่านเข้าออกสนามบินดอนเมือง ได้แก่บริเวณขาเข้าเพิ่มอีก 12 จุด จาก 39 เป็น 51 จุด และขาออกเพิ่ม 8 จุด จาก 36 เป็น 44 จุด 2.ขยายพื้นที่เคาน์เตอร์และเวลารับทำVISA On ARRIVAL : VOA จาก 3 เป็น 4 ชั่วโมง เพื่อลดคงามแออัดในช่วงผู้โดยสารหนาแน่นโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิดังกล่าวมีทั้งจีน อินเดีย และชาติอื่น ๆ รวม 21 ประเทศ ตามมติ ครม.ขยายเวลาให้ VOA ไปจนถึง 30 เมษายน 2562 ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีก 170 คน เพื่อให้บริการผู้ใช้บริการตามปริมาณผู้โดยสารที่ใช้งานในชั่วโมงหนาแน่น (peak hour) ขาเข้าเมือง 2,140 คน แต่ปัจจุบันรับได้เพียง 1,700 คน ส่วนขาออก มีประมาณ 1,700 คน รับได้ประมาณ 1,400 คน การขยายช่องตรวจหนังสือเดินทางและเพิ่มบุคลากรตรวจคนเข้าเมืองจะช่วยบรรเทาปัญหาคอขวดได้ 3.เพิ่มเทคโนโลยีการให้บริการสนามบินแบบครบวงจร ตามที่ ทอท.ได้เปิดตัวครงการ AOT digital ซึ่งสามารถบอกถึงปริมาณการจราจร การเช็คอิน กระเป๋าสัมภาระบนสายพาน และอื่น ๆ ที่เป็นข้อมูลสนามบินครอบคลุมแต่ละด้าน 4.ให้ ทอท.จัดทำสรุปปัญหาและแผนงานการแก้ไขคอขวดการจราจรในสนามบิน อย่างกระชับชัดเจน โดยจัดทำเป็นคลิปประมาณ 3-5 นาที เพื่อรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบในวันอังคารหน้า 27 สิงหาคม 2562 5.ให้ ทอท.จัดทำรายงานปัญหาต่าง ๆ และแนวทางการแก้ไขรายงานมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทุกเดือน เพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ในการจัดทำแผนพัฒนาสนามบินดอนเมืองเฟส 3 ช่วง ปี 2562-2566 นอกเหนือจากการพัฒนาขยายพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารให้เพียงพอต่อผู้โดยสารแล้ว ยังจะเวรคืนพื้นที่แฮงก้าหรืออู่จอดเครื่องบินของเจ็ตแอร์คืนมาใช้ประโยชน์ทางการบินต่อไป และมีโครงการเพิ่มพื้นที่ลานจอดรถสนามบินดอนเมืองอีกไม่ต่ำกว่า 500 คัน จากนั้น รมว.ศักดิ์สยาม ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงเวลาประมาณ 17.00-18.30 น. โดยเน้นการแก้ปัญหาคอขวดจราจรทางอากาศเช่นเดียว และแนะแนวทางให้ใช้โมเดลของดอนเมืองเข้าไปแก้ไขปัญหาในสุวรรณภูมิซึ่งมีรูปแบบโครงสร้างปัญหาคล้ายคลึงกัน อย่างไรก็ตามระหว่าง รมว.ศักดิ์สยาม เดินตรวจเยี่ยมงานในดอนเมืองนั้น ได้แลกสอบถามแลกเปลี่ยนความเห็นกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ท่รายงานถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยปีนี้คาดการณ์จะได้ถึง 12 ล้านคน นั้นสถานการณ์ขาเข้าของนักท่องเที่ยวจีนผ่าน ตม.ดอนเมือง ปัจจุบันชะลอตัวลดลง 8-10 % ข่าวที่สี่ “นายกฯเบรกนโยบายรมว.ท่องเที่ยว2เรื่องฟรีวีซ่า/ปิดผับตี4” เมื่อวันอังคารที่ 20 สิงหาคม 2562 มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมด้วยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอกประวิทย์ วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ประสานเป็นเสียงเดียวกันให้เบรกเรื่องที่ “นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอขอรัฐบาล 2 เรื่อง คือ เรื่องที่ 1 ขอที่ประชุม ครม.ให้ FREE VISA ให้นักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ผลสรุปคือไม่อนุมัติ คงให้แต่เพียง VISA ON ARRIVAL :VOA ไปจนถึงเมษายน 2563 เรื่องที่ 2 จะเสนอขอปิดผับในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศไปจนถึงตี 4 โดยขอยืดเวลาจากเดิมไม่เกินเที่ยงคืน พลเอกประยุทธ์กับพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันชัดเจนไม่อนุญาตเพราะเกรงผลกระทบอีกหลายเรื่องตามมาเป็นปัญหายาว ติดตามฟังรายการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น