ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ไทยแอร์เอเชีย-ททท.ลุยโปรเจ็กต์วันธรรมดาน่าเที่ยวทั่วไทย
ปั้นโมเดลทัวร์ชุมชนเพิ่ม-ปลุกกระแสเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
คิงเพาเวอร์นำ4สินค้าภูมิปัญญาสุดเจ๋งให้ได้ช้อปทุกสาขา
กินคุ้มค่าเงินกับคิงเพาเวอร์ในร้านรามายณะศรีวารี-พัทยา
ททท.นำทัพโร้ดโชว์บาห์เรนปลุกตะวันออกกลางเที่ยวไทย
ไทยตีปีกรับวิสต้าแอร์บินตรงปั๊มยอดอินเดียแตะ2ล้านคน
BCPGเครือบางจากผนึกแสนสิริผุดชุมชนพลังงาสะอาด
TCEBเปิดแผนเจ้าภาพจัดประชุมUFIพลิกตลาดไมซ์โลก
เที่ยววันธรรมดา”สนามข้าง-เพลาเพลิน-พนมรุ้ง”บุรีรัมย์
ส่องพฤติกรรมการกินเพื่อลีกเลี่ยงโรคที่บ่อนทอนสุขภาพ
ไทยแอร์เอเชียรอเสียบเมกะโปรเจ็กต์เมืองการบินอู่ตะเภา
เครือดุสิตปักธงเปิดโรงแรมน้องใหม่”อาศัย ไชน่าทาวน์”

เข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen  และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว97 #เที่ยวกับกู๋  #วันธรรมดาน่าเที่ยว #JouneyD #เพจไปไงมาไง #ช้างสเตเดี้ยม #เพลาเพลิน #พนมรุ้ง

ช่วงที่ 1 ตามไปฟังคนรุ่นใหม่ “กนกกุล ช้างพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายพันธมิตรสัมพันธ์ สายการบิน ไทย แอร์ เอเชีย” หลอม 2 โปรเจ็กต์ “วันธรรมดาน่าเที่ยว-ชุมชน Jouney D” ให้กลายเป็นพลังการท่องเที่ยวชุมชน ปูพรมสู่ “เที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ” เต็มรูปแบบปี’63 ลุยขยายพื้นที่ใหม่เพิ่มในเมืองหลักอีก 3 จังหวัด ภูเก็ต เชียงใหม่ อุบลราชธานี ร่วมด้วยช่วยสร้างสรรค์สินค้าชุมชนขายบนเครื่อง สร้างความเชื่อมั่น โหมประชาสัมพันธ์ชุมชนกระหึ่มตลาดทั้งในประเทศและทั่วโลก

กนกกุล ช้างพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายพันธมิตรสัมพันธ์ สายการบิน ไทย แอร์ เอเชีย เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชียกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โครงการ “วันธรรมดา น่าเที่ยว” ต่อเนื่องปีที่ 4 โดยนำกิจกรรม Air Asia Jouney D เพื่อต้องการให้เกิดการเดินทางเพิ่มขึ้นช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี ในแต่ละสัปดาห์ เนื่องจากตามปกติคนไทยชอบเที่ยววันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ส่งผลให้เกิดการกระจุกตัว ทั้ง ๆ ที่ข้อดีในการเลือกท่องเที่ยววันธรรมดามีอยู่มากมาย 1.คนไม่หนาแน่น 2.ราคาตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก ถูก 3.ไม่ต้องรอคิดร้านอาหารนานจนเกินไป

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ไทย แอร์ เอเชีย กับ ททท.จึงนำโครงการ Jouney D หรือ Jouney of Development มาร่วมกระตุ้นวันธรรมดา น่าเที่ยว ควบคู่กันไปให้มากขึ้น

โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ ในฐานะของสายการบินที่มีผู้โดยสารเข้าถึงท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่ขณะเดียวกันเมื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าไปแต่ละแห่งเป็นจำนวนมากอาจก่อจะให้เกิดปริมาณคนล้นพื้นที่ (over capacity tourism) หรือนักท่องเที่ยวอาจจะไม่ได้รับผิดชอบมากนัก

ดังนั้นจึงได้ใช้ Jouney D เป็นโครงการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ด้วยการนำร่องทำโมเดลต้นแบบครอบคลุมการท่องเที่ยวชุมชนทั่วประเทศ 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ชุมชนผาหมี จ.เชียงราย ภาคใต้ 2 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนเกาะกลาง จ.กระบี่ กับ ชุมชนพรหมโลก จ.นครศรีธรรมราช ภาคอีสาน ชุมชนโคกเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำต่อเนื่องมา 3 ปี ซึ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงของชุมชนทั้งก่อนและหลังเข้าไปพัฒนาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ทางทีมงานเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมาก บางชุมชนมีวัฒนธรรมเข้มแข็ง งดงาม ตลอดการทำงานร่วมกันจะต้องเข้าไปพูดคุยกับชุมชนถึงความพร้อมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากน้อยขนาดไหน ช่วงแรก ๆ ที่มีการพูดคุยกัน ตัวอย่าง ชุมชนผาหมี ตอนเริ่มมีโฮมสเตย์เพียง 2 หลังเท่านั้น ผ่านมาเพียง 3 ปี ปัจจุบันมีโฮมสเตย์เกือบ 20 หลัง ไม่เฉพาะจำนวนโฮมสเตย์กับและปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่ยังมีผลไปถึงสังคมด้วย พอชาวบ้านเห็นประโยชน์ของการท่องเที่ยวชุมชน ลูกหลานที่เคยไปเรียนหนังสือในเมืองใหญ่หรือกรุงเทพฯ พอเรียนจบก็กลับมายังชุมชนเพื่อประกอบอาชีพในบ้านเกิดแทน

ทั้ง 4 ชุมชนนั้น ไทย แอร์ เอเชีย ไม่ได้ทำเพียงรายเดียว แต่ได้จับมือกับพันธมิตรหลายกลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ ททท.จับมือกันนำสื่อ ผู้มีอิทธิพลต่อสังคม เพื่อโปรโมตท้องถิ่นให้มีชื่อเสียงนักท่องเที่ยวรู้จักชุมชนมากขึ้น รวมทั้งรวมเครือข่าย Social Enterprise กลุ่ม Local Alike ช่วยเรื่องการสอนพัฒนาและเข้าถึงชุมชน และมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ กลุ่มโรงแรมเอราวัณ มาสอนชาวบ้านด้านฮอสพิทาลิตี้ การทำความสะอาดบ้าน ห้องน้ำ ควรมีขั้นตอนอย่างไร โดยเฉพาะการต้อนรับนักท่องเที่ยวควรจะปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างไรบ้าง โดยมีพันธมิตรทยอยเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ ในการเข้ามาปลั๊กอินการทำงานร่วมกัน

กนกกุลกล่าวว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้นำพนักงานลงพื้นที่อย่างเข้มข้น ไปสอนภาษาอังกฤษ เพื่อน ๆ พาไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้จนทำให้ชุมชนแข็งแรง ตอนนี้จึงเริ่มลดการให้ความช่วยเหลือลง ให้ 4 ชุมชนนำร่องยืนอยู่ด้วยตัวเอง เพื่อไปขยายการทำกิจกรรมในชุมชนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นภายใต้กิจกรรม Jouney D ตามเป้าหมายจะเริ่มขยายต่อในปี 2563 พื้นที่ใหม่ 3 จังหวัด ภูเก็ต เชียงใหม่ อุบลราชธานี

ในเฟส 2 คุณสมบัติหลักของชุมชนจะประกอบด้วยส่วนสำคัญ อย่างแรก จะต้องเข้าไปคุยกับชุมชนถึงความพร้อมของชาวบ้านต้องการให้พื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็จะทำ แต่ถ้าไม่ต้องการก็จะไม่ฝืน 2.ชุมชนนั้น ๆ ต้องมีของไม่เฉพาะไม่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว อาจจะมีวัฒนธรรมแข็งแกร่ง ก็พร้อมจะเข้าไปช่วย

สำหรับพื้นที่ใหม่อย่าง “ภูเก็ต” เป็นเมืองทะเลสวย จะเป็นชุมชนในเมืองไม่ได้มีพื้นที่ติดทะเล มีวัฒนธรรมแข็งแกร่ง สวยงาม อาหารอร่อย ชุมชนเข้มแข็ง ชาวบ้านพร้อมจะเรียนรู้ก้าวเดินไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทาง Jouney D จะเข้าไปช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างชุมชนรอบพื้นที่ซึ่งมีความแตกต่างกัน อย่างชุมชนอาหารอร่อย ชุมชนวัฒนธรรมสวยงาม และชุมชนติดทะเล “อุบลราชธานี” สนใจชุมชนเขมราษฎร์ เป็นเมืองเก่า คลาสสิก แผนผังสวยงาม มีบ้านเรือนไม้ อยู่ริมโขงบรรยากาศดี ตื่นเช้ามาตักบาตรได้ “เชียงใหม่” มองที่ “ชุมชนบ้านปง” อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองแต่มีความเงียบสงบ ธรรมชาติสวยงาม วิวท้องนา ชาวบ้านเข้มแข็ง พร้อมจะเติบโตด้านการท่องเที่ยวไปด้วยกันในปี 2563

กนกกุลย้ำว่า ต้องการสื่อหรือบอกกับนักท่องเที่ยว และสายการบินอื่น ๆ การทำให้ท่องเที่ยวเมืองไทยได้รับประโยชน์อย่างจริงจัง ต้องตั้งเป้าช่วยกันรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวมีจิตสำนึกเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เช่น ไม่ทิ้งขยะ ลดการใช้พลาสติก เรียนรู้และเคารพวัฒนธรรม วิถีชีวิตชาวบ้านที่เข้าไปอยู่ด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนซึ่งมีของดีอยู่มากมาย ตอนนี้ไทย แอร์ เอเชีย ได้นำผู้เชี่ยวชาญเข้าไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนในเครือข่าย Jouney D ตัวเด่น ๆ ให้มีรูปแบบทันสมัยมากขึ้น เช่น ชุมชนโคกเมือง มีความโดดเด่นทางภูมิปัญญาด้านการจักสาน ทอเสื่อ ก็ได้นำดีไซเนอร์เข้าไปออกแบบการทอลายให้ทันสมัย บรรจุกล่อง เป็นโปรดักซ์เก๋ ๆ หรือชุมชนถนัดการทำผ้ามัดย้อมธรรมชาติก็มีทีมเข้าไปช่วยสร้างสรรลาย คำนวณราคาขายอย่างเหมาะสม ล่าสุดทาง ไทย แอร์เอเชีย ได้นำผลิตภัณฑ์ของทั้ง 4 ชุมชน ได้นำมาขายบนเครื่องเรียกว่า shopping On broad ทุกเส้นทางของไทย แอร์ เอเชีย

ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางในการกระจายรายได้ให้ชุมชน ระยะเริ่มต้นอาจจะยังไม่เป็นกอบกำ เป้าหมายเบื้องต้นจะเน้นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสา นักท่องเที่ยว ได้รู้จักชุมชนอย่างกว้างขวางเพิ่มขึ้น เช่น การนำตุ๊กตาหมีเทดดี้สวมใส่ผ้าทอลายชาวเขาเผ่าอาขาของดอยผาหมีมาจำหน่ายบนเครื่องบิน ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักดอยผาหมีแล้วเกิดความเชื่อมั่น ส่วนชาวบ้านเองก็มีความภาคภูมิใจในสินค้าของตนเองที่สามารถผลิตแล้วนำมาขายบนเครื่องบินทำให้คนรู้จักมากมาย

ส่วนภาพรวมปี 2563 ททท.มีโครงการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนรับผิดชอบนั้น ไทย แอร์ เอเชีย เองก็จะเข้ามาเพิ่มความเข้มข้นโครงการดังกล่าวทางด้านการสื่อสาร ส่งเสริม โดยได้เปิดตัว TVC ตัวใหม่เป็นคลิปความยาว 7นาที เป็นเรื่องราวของการท่องเที่ยวซึ่งจะทำอย่างไรไม่ทำลายชุมชน วัฒนธรรม และมีส่วนร่วมทำให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน ประเทศไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวคุณภาพมีอัตลักษณ์วิถีไทย โดยมาเที่ยวแล้วทรัพยากรยังคงสวยงาม ชาวบ้านมีรายได้ และนักท่องเที่ยวก็ได้เข้าใจวัฒนธรรมความเป็นไทยอย่างแท้จริง โดยได้สื่อสารแคมเปญดังกล่าวผ่านสื่อ Inflight แมกกาซีน

กนกกุลได้กล่าวทิ้งท้ายเชิญชวนให้หันมาท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ เนื่องจากเมืองไทยมีความสวยงามหลากหลายมิติทางธรรมชาติ ทะเล ภูเขา อัธยาศัยไมตรี ยิ้มแย้มน่ารัก แต่ระยะหลังเมื่อไปเที่ยวแล้วอาจจะรู้สึกไม่สบายใจกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจากชาติอื่น ๆ ที่แสดงออกมาทั้งการตะโกนส่งเสียงดัง ทิ้งขยะ ทำเรื่องเหมาะสม แสดงให้เห็นถึงว่านักท่องเที่ยวเหล่านั้น อาจจะยังไม่เข้าใจถึงความรับผิดชอบ ดังนั้นคนไทยทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบเกิดขึ้นได้จริง โดยเริ่มจากตัวเราทำเป็นตัวอย่างในฐานะนักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบเพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา แต่เมื่อถึงวันนั้นทุกฝ่ายก็จะได้เข้าถึงการท่องเที่ยวด้วยความรับผิดชอบอย่างแท้จริง


ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์นำสุดยอด4สินค้าไทยขายทุกสาขา”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เชิญชวนผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของภูมิปัญญาไทย และเพลิดเพลินกับการชื่นชมงานหัตถศิลป์ชิ้นเอกอันเกิดจากรากเหง้าของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เป็นมรดกแห่งวัฒนธรรมที่เลอค่าเหนือกาล มาเลือกช้อปผลงานหัตถศิลป์ชั้นครู ได้ที่คิง เพาเวอร์ สาขาต่าง ๆ เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน ช่วยกันรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้อยู่อย่างยั่งยืน ประกอบด้วย
1.ดอยซิลเวอร์” แบรนด์เครื่องเงินชั้นแนวหน้าที่สืบทอดองค์ความรู้กันมาจนถึงรุ่นที่ 4 เป็นที่รู้จักทั้งในกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ

2.พงษ์ศรีนคร ศิลาดล แบรนด์เครื่องปั้นดินเผาเคลือบศิลาดลที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาไทยอันทรงคุณค่าได้อย่างงดงาม

3.SUNTREE แบรนด์ผ้าทอมือจากจังหวัดสุโขทัยที่ใช้เทคนิคการทอผ้าอันเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชุมชนไทยพวนบ้านหาดเสี้ยวที่มีมากว่า 200 ปี

4.ผ้าปะลางิงงานผ้าทอมือด้วยเทคนิคพิเศษจากกลุ่มชุมชนผ้าศรียะลาบาติก จังหวัดยะลา โดยงานหัตถศิลป์ชั้นครูทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นผลงานซึ่ง คิง เพาเวอร์ ให้การสนับสนุนอยู่ภายใต้โครงการ “KING POWER THAI POWER พลังคนไทย”

ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์จัดเต็มร้านรามายณะศรีวารี-พัทยา”

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ให้สมาชิกได้ร่วมสนุกกดรับสิทธิพิเศษ เพื่อเข้ารับประทานอาหาร ที่ “ภัตตาคารามายณะ” ทั้ง 2 แห่ง ในอาคารร้านค้าดิวตี้ฟรีในเมืองท่องเที่ยว  แห่งแรก ห้องลามูน ภัตตาคารรามายณะ ศรีวารี รับส่วนลด 20% (จากราคาปกติ) มื้อกลางวัน ราคา 500 บาท  มื้อเย็น ราคา 800 บาท
เพียงแค่แสดงบัตรสมาชิกหรือแสดง Cardless เพื่อรับสิทธิ์(ไม่จำกัดสิทธิ์) สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง โทร. 02-338-7888 ต่อ 5757,5758,5759

แห่งที่ 2  “รามายาณะ พัทยา”  รับส่วนลด 20% (จากราคาปกติ) มื้อกลางวัน ราคา 400 บาท และมื้อเย็น ราคา 600 บาท
โดยแสดงบัตรสมาชิกหรือแสดง Cardless เพื่อรับสิทธิ์(ไม่จำกัดสิทธิ์) สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง โทร. 038 103 888 ต่อ 7292
ทั้ง 2 โปรโมชั่น เข้าไปกดรับสิทธิ์ใน www.storykingpower.com หรือโทร.1631

ข่าวที่ 3 “ททท.ชูโร้ดโชว์ปลุกบาห์เรนเทเงินทัวร์สุขภาพเมืองไทยปี’63

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดงาน Amazing Thailand Health and Wellness Road Show to Bahrain ในวันที่  17 กันยายน 2562 ณ Gulf Hotel ประเทศบาห์เรน ตั้งเป้ากระตุ้นตลาดตะวันออกกลางช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2562 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะชูขายท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยอดนิยม กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย พัทยา และเชียงใหม่
 กิจกรรม ททท.ร่วมมือกับ Doctor A to Z  แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมสินค้า และบริการคุณภาพของผู้ประกอบการธุรกิจ Health and Wellness ของไทย ไปส่งเสริมการขาย สินค้าและบริการในรูปแบบ Hybrid Roadshow คือทั้งในแบบ B2B และ B2C โดยได้เชิญผู้ขายกลุ่มประกอบการไทยเข้าร่วม 20 ราย เดินทางไปเจรจากับกลุ่มผู้ซื้อคุณภาพในพื้นที่บาห์เรน และในกลุ่มประเทศคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC : Gulf Cooperation Council)  30 หน่วยงาน โดยมีซาอุดิอาระเบียเจรจาซื้อขายในครั้งนี้ด้วย ซึ่งรัฐบาลได้ยกเว้นให้นักท่องเที่ยวของตนเดินทางมารักษาพยาบาลในไทยได้ 90 วัน
 
ททท.พุ่งเป้าเจาะ 2 กลุ่ม คือ นักท่องเที่ยวเชิงการแพทยต้องการมา รักษาอาการเจ็บป่วย กับกลุ่มมาเพื่อสุขภาพและความงาม สถิติปี 2561 มีบาห์เรนมาไทย 32,000 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยใช้จ่ายเงินเชิงสุขภาพมากถึง 10%  หรือประมาณ 250ล้านบาท

ข่าวที่ 4 “ททท.ปลื้มวิสต้าแอร์เปิดบินดันยอดอินเดียเข้าเป้า1.9ล้านคน

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ขณะนี้มีวิสทาราแอร์เวย์ สายการบินจากอินเดีย เปิดบินตรงแบบประจำมาไทยเป็นครั้งแรกตั้งแต่ 27 สิงหาคม 2562 เป็นต้นมา บริการ 7 เที่ยว/สัปดาห์ จะช่วยเพิ่มรายได้เติบโตสูงขึ้น เพราะช่วงครึ่งปีแรก มกราคม-มิถุนายย 2562 ชาวอินเดียกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน ครอบครัวและกลุ่มไมซ์เพิ่มขึ้น

ปี 2562 คาดอินเดียมาไทยกว่า 1,948,061 คน เพิ่ม 22% และสร้างรายได้ 89,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% สูงกว่าปี 2561 พบอินเดียมาไทยเพียง 978,785 คน เพิ่ม 24.44 % สร้างรายได้ 39,173.09 ล้านบาท เพิ่ม 27.29 %

ข่าวที่ 5 “BCPGเครือบางจากผนึกแสนสิริชูพลังงานชุมชนสะอาด
       นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาขน) กล่าวว่า ได้ร่วมกับ นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ต่อยอดพันธกิจในการส่งมอบพลังงานสะอาดสู่ชุมชน ด้วยการเดินหน้าเปิดตัว “Bangkok’s First Solar Bus Stop with Wireless Charger” หรือ “จุดพักรถพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกในไทยที่สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายได้ทันที” ครั้งแรกที่ T77 โดยแผงโซล่าร์เซลล์นี้สามารถผลิตเป็นพลังงานสะอาดได้ถึง 7,000 วัตต์เพื่อนำไปใช้เป็นแสงสว่างในจุดพักรถได้ในเวลากลางคืน รวมถึงแปลงเป็นกระแสไฟที่สามารถชาร์จมือถือระหว่างรอรถได้ทั้งระบบไร้สายหรือไวร์เลส และ USB ได้ถึง 507 รอบต่อวัน (จาก 0-100%)

พลังงานสะอาดที่ผลิตได้ มีส่วนช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ได้ถึง 1,454 กิโลกรัม/ปี เทียบเท่าปลูกป่าได้ถึง 1.07 ไร่ และลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ไฟฟ้าได้ถึง 11,283 บาท/ปี

ทั้งกลุ่มแสนสิริและบีซีพีจี ยังได้ร่วมเดินหน้าสร้างต้นแบบชุมชนพลังงานสีเขียวอัจฉริยะ เพื่อตอกย้ำการพัฒนาแนวทางการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน (Green Sustainable Living) นำ “Solar Bin” หรือ “ถังขยะที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์บีบอัดขยะให้เล็กลงง่ายต่อการย่อยสลายและเพิ่มพื้นที่ให้สามารถรองรับปริมาณขยะในถังได้มากขึ้น มุ่งมั่นสรรหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและนวัตกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ ในการเดินหน้าสู่การพัฒนาแนวทางการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

ข่าวที่ 6 “TCEBใช้งานUFIรุกขายครบวิถีไทยปั๊มรายได้ไมซ์โลก”


นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” พร้อมด้วย มร.ไค ฮัทเทนดอฟ กรรมการผู้จัดการและประธานบริหาร สมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก (UFI) และนายทาลูน เทง นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) “TEA” ร่วมกันเปิดเวทีให้สัมภาษณ์ในระหว่างการจัดงาน Thailand MICE Forum 2019 (TMF 2019)  ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้วยยุทธศาสตร์ไมซ์” หรือ “Thailand’s Opportunity: Asia’s Top MICE Destination” เพื่อเป็นเวทีสร้างการรับรู้ และตื่นตัวให้กับผู้ประกอบการไมซ์ไทยร่วมสร้าง “โอกาส” และผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจไมซ์ระดับเอเชีย (Asia’s Top MICE Destination) ไปด้วยกันอย่างมีทิศทางและแผนกลยุทธ์ในแนวทางเดียวกัน

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ไฮไลต์การจัดงานปีนี้มีผู้บริหารระดับสูงด้านไมซ์ระดับโลกเข้ามาร่วมพูดคุยพร้อมกันบนเวทีเป็นประเทศแรกในเอเชียจาก 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมส่งเสริมธุรกิจการจัดอินเซนทีฟระดับโลก (SITE) สมาคมด้านการประชุมนานาชาติของโลก (ICCA) และสมาคมอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าโลก (UFI) เพื่อเปิดมุมมองให้กับผู้ประกอบการไทยในหัวข้อเสริมแกร่งการแข่งขันไทย ด้วยมุมมองไมซ์โลกที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดไมซ์ของประเทศไทยได้ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.เทรนด์อนาคต -Future Trends 2.การแข่งขัน-Compettition 3.อินเซ็นทีฟยุคใหม่-Incentive Growth

โดย TCEB มีเป้าหมายจะนำพาอุตสาหกรรมไมซ์ประเทศไทยก้าวข้ามความท้าทายขึ้นไปเป็นผู้นำไมซ์แห่งเอเชียตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีหน้า 2563-2565 โดยเฉพาะในเวทีการจัดงาน Thailand MICE Forum 2019 ได้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมกันกับเคลื่อนไมซ์ให้กลายเป็นธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง ที่จะทำให้ไทยเป็นผู้นำไมซ์เอเชียด้วยองค์ประกอบสำคัญคือ “โอกาส-Opputunity”
ระหว่าง 6-9 พฤศจิกายน 2562 นี้ ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงาน 86th UFI the Global Congress ที่เลือกมาจัดในไทยเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยมาจัดครั้งแรกเมื่อ 15 ปีก่อน ซึ่งจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างใหม่ ๆ เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย ประกอบด้วย 1.มีกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ที่จะมาช่วยสร้างตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว 2.กระจายรายได้ไปสู่จังหวัดอื่น ๆ มากขึ้น 3.ได้รับความร่วมมือจากกรุงเทพมหานครเข้ามาร่วมเป็นเจ้าภาพด้วย

สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมใหญ่ด้านงานแสดงสินค้าโลก หรือ 86th UFI Global Congress ระหว่าง 6-9 พฤศจิกายน 2562 ภายใต้แนวคิด “Platforms of Trust : Connect – Engage – Succeed ทาง TCEB คาดจะมีผู้เข้าร่วมงาน 550 คน จากทั่วโลก 50 ประเทศ ตั้งเป้าสร้างรายได้จากงานเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 44 ล้านบาท

ภายในงานจะแบ่งเป็น 5 โซนกิจกรรม 1.Thai Town โซนพิเศษแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าและไมซ์ซิตี้ 2.สัมมนาเชิงธุรกิจ “ประเทศไทย” จุดหมายใหม่แห่งอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของโลก 3.เวทีเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ 4. กิจกรรมเพื่อสังคม 5.กอล์ฟกระชับมิตร พร้อม ๆ กับการจำลองเมือง MICE CITY ของไทยมาไว้ในงานนี้ด้วย

เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานจะสัมผัสประสบการณ์การจัดงานสะท้อนวัฒนธรรมและประเพณีไทย เช่น กิจกรรมงานบุญของไทยที่มีเสน่ห์และมีอัตลักษณ์ เช่น ชมเทศกาลงานวัด ศิลปะมวยไทย เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มิวเซียมสยาม ซึ่งจะจัดขึ้นในงานเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ UFI Grand Night Out ณ วัดโพธิ์ท่าเตียน และส่งท้ายด้วยกิจกรรมสัมผัสกับประสบการณ์ชีวิตวิถีธรรมชาติ ณ ปฐม ออร์แกนิค วิลเลจ สวนสามพราน

เป้าหมายปี 2563 TCEB ปี 2563 ไทยจะมีโอกาสเพิ่มจำนวนกลุ่มนักเดินทางไมซ์ รวมทั้งสิ้น 37,781,000 คน สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 232,700 ล้านบาท แบ่งเป็น ไมซ์ต่างประเทศ 1,386,000 คน ทำรายได้ 105,600 ล้านบาท ไมซ์ในประเทศกว่า 36,395,000 คน สร้างรายได้ 127,100 ล้านบาท และหากประเมินโดยรวมรายได้จากกิจกรรมการสร้างห่วงโซ่เศรษฐกิจตลอดทั้งปีจะสร้างเงินรวมได้มากกว่า 5.44 แสนล้านบาท

ช่วงที่ 2 บินลัดฟ้าไปเที่ยววันธรรมดาที่บุรีรัมย์ ตื่นตา! กับเมืองSport City มีครบทั้งเรื่องกีฬา “ช้าง สเตเดี้ยม” เมืองดอกไม้ “เพ ลา เพลิน” ปราสาทหินสวยงาม “พนมรุ้ง” ส่วน “พฤติกรรมการกินเลี่ยงโรคภัย” ก็ต้องติดตาม และข่าวฮ็อตห้ามพลาด “ไทยแอร์เอเชีย” รอเสียบพัฒนาโปรเจ็กต์เมืองการบินอู่ตะเภา “เครือดุสิต” ปักธงเปิดโรงแรมใหม่ “อาศัย ไชน่าทาวน์” เยาวราช

@เที่ยววันธรรมดา“สนามช้าง-เพลาเพลิน-พนมรุ้ง”บุรีรัมย์

บินลัดฟ้าจากกรุงเทพฯ มากับเที่ยวบิน ไทย แอร์ เอเชีย จากดอนเมืองสู่สนามบินสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาบินประมาณ 40 นาที

มุ่งหน้าตรงไปเที่ยวสถานที่แรก  "ช้าง สเตเดี้ยม" สนามกีฬาฟุตบอลมาตรฐาน FIFA ที่ได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คให้เป็นสนามที่ใช้เวลาสร้างเร็วที่สุดในโลก 256 วัน ขนาด 36,000 ที่นั่ง ตอนนี้มีบริการไกด์นำชมแต่ละรอบตลอดทั้งวันตั้งแต่ 9.00-16.00 น.มีทั้งแบบเดินชมเองฟรี แต่จะไม่ได้เข้าไปดูห้องสำคัญ ๆ แต่ถ้าจ่ายค่าบัตรเข้าชมก็จะได้เข้าไปถ่ายรูปตามโซนเด็ด ๆ 
หากวันที่มีการแข่งขันฟุตบอลแมทช์สำคัญก็จะขายบัตร โซนแพงสุดจะอยู่บริเวณห้อง VIP มีอยู่ 15 ห้อง ห้องหมายเลข 9 จะเหมาจ่ายเฉลี่ยแล้วคนละประมาณ 17,000 บาท การซื้อตั๋วเข้าชมฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก จะซื้อเป็นครั้ง หรือซื้อแล้วคุ้มก็จะเป็นสมาชิกแบบพรีเมียร์คนละ 8,000 บาท

ไฮไลต์สนามช้าง สเตเดี้ยม คือ “หญ้าของสนาม” เลือกใช้ “หญ้าแพรก” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไทย

เมื่อเดินชมสนาม ถ่ายรูปตามมุมเก๋ ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหล่าแฟนคลับแวะช้อปสินค้าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมตัวเดินทางสู่จุดหมายต่อไป

 นั่นคือนั่งรถเข้าตลาดในเมือง บริเวณตลาดหลังรถไฟ จะมีกิมมิกน่ารัก ๆ ให้ไปร้านรถเข็น "ลูกชิ้นยืนกิน" เมนูที่มาแล้ว นักท่องเที่ยวต้องแวะมาเช็คอินและยืนกินกันทุกกลุ่ม เป็นการนำลูกชิ้นหมูสีขาวอัตลักษณ์แห่งเดียวในบุรีรัมย์มาทอดเสียบไม้ ไม้ละ 3 ลูก เพื่อขายไม้ละ 3 บาท จิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ดรสเข้มข้น

วิธีกินต้องใช้ลูกชิ้นจิ้มลงไปครั้งเดียว แล้วมารูดกินทีละลูก ข้อควรระวัง ห้ามจิ้มหลาย ๆ ครั้ง เพราะจะไม่เหมาะตามมารยาทการกินร่วมกับผู้อื่น

จุดที่ 2 แวะอำเภอกะสัง ชิมเมนูอาหารถิ่น "หมี่ยำ" แห่งเดียวในเมืองไทย เป็นสูตรเด็ดที่เคยออกรายการครัวคุณต๋อยมาแล้ว

"หมี่ยำ" เป็นอาหารจานเดียวมื้อกลางวัน ที่ทำมาจากการนำแป้งไปอบจนได้เป็นแผ่นคล้ายก๋วยเตี๋ยวแล้วนำมาหั่นเป็นเส้นเล็กบาง ๆ คลุกเคล้ากับเครื่องปรุง มีตัวชูโรง คือ ปลาป่น ต้นหอมซอย พริกบ่น ราดด้วยน้ำมะขาม  กินแกมกับผักพื้นบ้าน...อร่อยขนาดไหนต้องมาลองชิมกันเอง
จุดที่ 3 "อุทยานดอกไม้ เพ ลา เพลิน" อำเภอคูเมือง อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองราว 30 กม.เป็นอาณาจักรธรรมชาติ รายล้อมด้วยดอกไม้ สวย ๆ และโรงเรือนสวนประดิษฐ์สไต์ต่างกันไปอีก 6 โรงเรือน เช่น เรือนกล้วยไม้ เรือนเฟิร์น เรือนทะเลทรายสวนตะบองเพ็ด และอื่น ๆ ค่าเข้าชมคนละ 250 บาท

ภายในบริเวณเพ ลา เพลิน มี พระธาตุเขี้ยวแก้ว องค์ที่ 9 ของโลก นำมาจากศรีลังกา มาประดิษฐานไว้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สักการะด้วย รวมทั้งมีกิจกรรม D.I.Y .หลาย ๆ อย่าง เรื่อยไปจนถึง การเลือกมาจัดสัมมนา ประชุม และกิจกรรมสนุก ๆ อีกหลากหลายอย่าง

จุดที่ 4 "ปราสาทหินพนมรุ้ง" อำเภอประโคนชัย จังหวะดบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองราว 35 กม.  มีเรื่องเล่าเลื่องชื่อ เก่าแก่ งดงาม สร้างขึ้นมานานนับพันปี ของดีที่น่าสนใจพอ ๆ กับมรดกโลก "นครวัด " กัมพูชา สร้างด้วยศิลาแลง และถือเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษสมัยโบราณ

"ปราสาทพนมรุ้ง" สร้างขึ้นเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 16 หรือช่วง พ.ศ.1532 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  สร้างขึ้นโดยชาวบ้านยุคนั้นผ่านมานับพันปี เลือกทำเลการสร้างปราสาทบนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเคยเป็นภูเขาไฟ ตามประวัติระบุว่าภูเขาไฟแห่งนี้ดับมานานกว่า 9 แสนปีแล้ว

ชาวบ้านสร้างปราสาทไว้บนยอดเขา เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ กิน ดื่ม อุปโภค  บริโภค ถถปลูกพืชผัก ปลูกทุกอย่างได้ตลอดทั้งปี  รวมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจในเรื่องการเป็นศูนย์รวมทางศาสนาของฮินดู และนิกายมหายาน

การออกแบบก่อสร้าง ปราสาทพนมรุ้ง มรายละเอียด ควมมมหัศจรรย์ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องที่สร้างความฮือฮาที่ชวนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันเข้ามาทุกปี ในงาน "เทศกาลขึ้นเขาพนมรุ้ง" ช่วงต้นสัปดาห์แรกนเดือนเมษายนของทุกปี เพื่อรอดูความมหัศจรรย์ของแสงอาทิตย์ลอดผ่านช่องประตูปราสาทครบทั้ง 16 ช่อง (ในบางปี) นั่นเอง
วันธรรมดา ต้องมาเที่ยว "ปราสาทหินพนมรุ้." บุรีรัมย์ กันให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วจะรู้ว่าบรรพบุรุษของเราในสมัยโบราณเก่งจริง ๆ
ไทยแอร์ เอเชีย มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไป-กลับ ดอนเมือง-สนามบินสะตึก(บุรีรัมย์) วันละ 2 เที่ยว เช้า 7.50น. และบ่าย 13.00 น.บุรีรัมย์เข้ากรุงเทพฯ (ดอนเมือง) ก็วันละ 2 เที่ยวเช่นกัน

@พฤติกรรมการกินให้ห่างไกลโรคที่จะต้องใส่ใจให้มาก

การดูแลสุขภาพเพื่อให้ห่างจากโรคพฤติกรรมการกินไม่เหมาะสมนั้นไม่ยาก เพียงแค่เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้น ดังนี้

1.การกินอยู่ให้สมดุล - ความหมายคือ กินเท่าไหร่ใช้ออกไปเท่านั้น  หากกินมากก็ต้องออกกำลังกายหรือทำให้พลังงานที่กินหมดไป  หากไม่ใช้พลังงานที่กินเข้าไปเลยก็จะทำให้ไขมันสะสม และก่อให้เกิดโรคต่างๆ

2.เลือกการปรุงอาหารด้วยวิธี ตุ๋น ต้ม นึ่ง - แต่ถ้าหากไม่สามารถปรุงอาหารเองได้บ่อย ให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารทอด ควรกินอาหารที่ใช้น้ำมันน้อย หรือเลือกใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น

3.เลือกกินอาหารไขมันดี - ไขมันดีมีบทบาทสำคัญในการลดการเกาะตัวของไขมันร้าย  ช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวกไม่อุดตัน ไขมันดีจะไปละลายไขมันร้ายที่เกาะตัวตามหลอดเลือดให้หลุดออกมา  ซึ่งพบได้ในปลา ถั่ว ธัญพืชต่างๆ และอะโวคาโด

4.อาหารทุกมื้อปรุงแต่น้อย - รสชาติอาหารที่ดีต่อร่างกายที่สุดคือ รสธรรมชาติของวัตถุดิบนั้นๆ แต่บางคนก็ยังปรุงเพราะความเคยชิน  เครื่องปรุง รสเหล่านั้นจึงเป็นส่วนเกินของร่างกายที่จะก่อให้เกิดโรคทีหลัง

5.กินผักผลไม้วันละ 400 กรัม -การกินผักและผลไม้ไม่ต่ำกว่า 400 กรัมทุกวัน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกินไม่เหมาะสม  โดยแบ่งเป็น 50 % ของอาหารแต่ละมื้อ หรือผัก 6 ทัพพีต่อวัน ผลไม้ 23 ส่วนต่อวัน
 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ไทยแอร์เอเชียรอเสียบเมืองการบินอู่ตะเภา”
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร ไทย แอร์ เอเชีย เปิดเผย กล่าวว่า ได้ร่วมประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกหรือเมืองการบินในนามกลุ่ม “แกรนด์ คอนโซเตียม” หลังจากกลุ่มผู้ชนะตอนแรกเครือซีพีมีปัญหาจึงมั่นใจทางแกรนด์ฯ จะได้รับการพิจารณาแทน ด้วยความโดดเด่นในการทำตลาดสามารถดึงสายการบินเข้ามาใช้บริการ จัดการเส้นทางบิน และนำผู้โดยสารเดินทางเข้ามาเที่ยวได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งจะสามารถผลักดันให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการบิน (Aviation Hub) แห่งใหม่ของโลกได้ เพราะทำเลที่ตั้งของอู่ตะเภาพร้อมจะให้บริการทั้งสายการบินโลว์คอสต์และ full service  ตามแผนจะต้องสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อู่ตะเภา-สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ซึ่งจะมีศักยภาพบริการผู้โดยสารได้ปีละกว่า 100 ล้านคนขึ้นไป

ข่าวที่สอง “เครือดุสิตปักธงเปิดโรงแรม“อาศัยไชน่าทาวน์”เยาวราช

นายศิรเดช โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ASAI Hotels ทายาทดุสิตธานี เปิดเผยว่า เดินหน้าลงทุนโรงแรม “อาศัย  ไชน่าทาวน์” จำนวน 224 ห้อง ขนาดห้องพัก 18-22 ตารางเมตร เน้นดีไซน์ร่วมสมัยระหว่างไทย-จีน ใช้งานสะดวกสบาย มีพื้นที่ส่วนกลางกว้างขวางสามารถมานั่งทำงานและทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยจะใช้จุดเด่นของแบรนด์อาศัย เติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ในราคาเข้าถึงได้ พุ่งเป้าเจาะกำลังซื้อหลักกลุ่มมิลเลนเนียลคนรุ่นใหม่    

สำหรับโรงแรมอาศัย ไชน่าทาวน์ เกิดขึ้นหลังจากลงนามสัญญาเช่าจาก ไอ แอม ไชน่าทาวน์ เพื่อการพัฒนาโครงการระยะยาว รอบบริเวณพื้นที่มีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ สีสันไชน่าทาวน์นั่นเอง 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai