ททท.ลุยจัดใหญ่“เที่ยวไทยมั่นใจไปกับSHA”รอบ2ปลายปี’63
รุกตลาดเทรนด์แรง“3สไตล์”โชว์แผนรับทัวร์STVต่างชาติปี’64
“คิงเพาเวอร์มหานคร”ชู3โปรโมชั่น“ชม-ชิม-ช้อป”ก.ย.-ต.ค.นี้
ชม“Mahanakhon Cityscapes”แสงสวยสกายวอล์ค19ก.ย.
ชวนกันซื้อเสื้อ THAILAND SMILES WITH YOU
ททท.แจกทัวร์ฟรีอาสาพิทักษ์ทะเล600คนรับสมัครถึง23ก.ย.
ททท.ปลุกเที่ยวเพลินเดินเต้นช้อปที่จันทบุรี
25-27 ก.ย.63
TCEB”งัด Re-Energizing Exhibitionรุกตลาดไมซ์อินเตอร์
เที่ยวสนุก“เกาะสีชัง-ศรีราชา”ปล่อยปูม้า-เต่า-เพาะปะการัง
ชวนปรับพฤติกรรมลดการปรุงอาหารจะช่วยลดโรคร้ายได้
“นีโอ”ลุยขายมหกรรม“Golf&Dive”+Travel Expo1-4ต.ค.นี้
CEOไทยแอร์เอเชียชี้รัฐเพิ่มความไวดันท่องเที่ยวฟื้นปี’64
ไทยสมายล์เปิดบินแบบจัดเต็มกรุงเทพ-นครศรี2เที่ยว/วัน
บางกอกแอร์เสิร์ฟอาหาร/เครื่องดื่มทุกเที่ยวบินเริ่มก.ย.นี้
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #ทททมาตรฐานSHA #เที่ยวไทยมั่นใจไปกับSHA #Kingpowerชวนซื้อเสื้อThailandSmileWithYou
ช่วงที่ 1 เกาะติดพลังท่องเที่ยว SHA กับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตลุยขยายผลโปรเจ็กต์ “Amazing Thailand Safty & Health Administration : SHA” ลั่น “ต.ค.หรือ พ.ย.63” นี้ ระดมธุรกิจท่องเที่ยวเฮขายต่องาน “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” ครั้งที่ 2 เพิ่มเป้าธุรกิจสมัครรับตรามาตรฐานปี’63 ทะลุ 1 หมื่นราย พ่วงแพกเกจ Working Thailand เจาะกำลังซื้อเทรนด์จัดงานนอกสถานที่ 3 กลุ่มใหญ่ “Working-Outing- Meeting” พร้อมขานรับนโยบายนำร่องเปิดตลาดนำเข้าต่างชาติผ่าน “วีซ่าพิเศษ STV” มั่นใจ “ศบค.”ทำอย่างรัดกุมเข้มทุกมาตรการ ชิมลางรับมหาเศรษฐีโลกจำกัดช่องทางเข้าออกเฉพาะเช่าเหมาลำกับเครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า โครงการ “Amazing Thailand Safty &Health
Administration : SHA :ตรามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย”
ขณะนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก ในญี่ปุ่นประกาศเรื่องมาตรการ SHAของไทยเป็นโมเดลต้นแบบที่ดีมากเพราะทุกธุรกิจใส่ใจแนวทางปฏิบัติร่วมกันอย่างเข้มแข็ง
รวมทั้งอีกหลายประเทศในทวีปยุโรปต่างก็ให้ทางสำนักงาน
ททท.ส่งรายชื่อผู้ประกอบการเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลเลือกใช้บริการตอนเริ่มเปิดประเทศ
ส่วนผลสัมฤทธิ์ในประเทศที่
ททท.สามารถประมวลได้จากการนำร่องจัดมหกรรมส่งเสริมการขายรายการแรกโครงการ
“เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA”
เมื่อวันที่ 11-13 กันยายน 2563
ณ สามย่าน มิตรทาวน์ ชั้น 5 มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั่วประเทศที่ได้รับตราสัญลักษณ์
SHA นำสินค้ามาขาย 102
บูธ กับพันธมิตรขนาดใหญ่อีก 6
บูธ เช่น
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามสันเขื่อนที่อยู่ในความดูแลทั่วประเทศ
กลุ่มไวตามิลค์จัดกิจกรรมท่องเที่ยวให้ลูกค้า สถาบันการเงิน ธนาคารต่าง ๆ
ทั้งไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา และตุ๊กตุ๊กรถไฟฟ้า
ต่างก็เข้ามาร่วมงานครั้งนี้พร้อมหน้ากัน
ตลอดงาน
“เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” 11-13
กันยายน 2563 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งหมดสามารถทำยอดขายโดยตรงจากงานได้มากถึง
13 ล้านบาท
แล้วยังมีกำลังทยอยปิดการขายเพิ่มอีกมูลค่าหลายล้านบาท โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 10,000
คน
ระหว่างการจัดงาน
ททท.นำแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยเข้าไปใช้อย่างจริงจังทั้งกับกลุ่มผู้ประกอบการจะต้องได้รับตราสัญลักษณ์มาตรฐาน
SHA อย่างถูกต้อง
ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเดินซื้อสินค้าก็จะต้องสวมหน้ากากอนามัย
เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งคำนวณปริมาณคนแต่ละช่วงเวลาจะต้องเป็นไปตามกฎของกระทรวงสาธารณสุขไม่แออัดหรือแน่นจนเกินไป
หลังจากจัดงานเสร็จสิ้นลงก็มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวแสดงความเห็นขอให้
ททท.จัดงาน “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA”
ครั้งต่อไป ซึ่งจากการประเมินโครงการจัดงานส่งเสริมการขายครั้งแรกพบว่าบูธที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษคือ
“ห้องพักโรงแรม” เกือบ 80 % รองลงมาเป็น
“บัตรกำนัลอาหาร” ร้านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ มียอดขายสูงมาก ลำดับต่อไปคือ
“แพกเกจล่องเรือยอร์ชเที่ยวทะเล”
เพราะคนไทยคุ้นเคยกับการนั่งยอร์ชเที่ยวทะเลภาคตะวันออก พัทยา ตราด ภาคใต้ ภูเก็ต
กระบี่ พังงา สมุย ตรัง “แพกเกจสปา” ก็ทำยอดขายได้จำนวนมาก
ดังนั้น
ททท.จะเปิดตลาดนัดจัดงานส่งเสริมการขาย “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” ครั้งที่ 2 โดยประกาศล่วงหน้าให้โอกาสผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทะเบียนก่อนจะได้รับสิทธิ์ก่อน
(First com First Serve) กับธุรกิจ 10 ประเภท เตรียมจัดช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563
อีกทั้ง “ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ”
ตอบรับจะให้สถานที่จัดงาน เนื่องจากหลายห้างสรรพสินค้าได้รับตราสัญลักษณ์ SHA
แล้วด้วยเช่นกัน
สำหรับรูปแบบการขายสินค้า
“เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA”
ครั้งที่ 2 อาจจะผนวกแพกเกจในโครงการเชื่อมโยง
เช่น Workation Thailand :การทำงานไปพร้อมกับการเดินทาง
ซึ่งจะมีแพกเกจวางตลาดให้กลุ่มสัมมนา ทำ working, Outing meeting จึงจะรณรงค์พร้อมกับกระตุ้นให้หันมาใช้สถานที่ที่ได้รับตราสัญลักษณ์
SHA เป็นหลัก
ททท.ได้ขยับเป้าหมายเชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้ามาร่วมสมัครรับตรามาตรฐาน
SHA ตลอดปี 2563
ให้ได้ถึง 10,000 ราย
เพราะมีสัญญาณที่ดีตอนนี้มีผู้สมัครพร้อมได้รับตรามาตรฐานไปเรียบร้อยแล้วเกินกว่า 5,000
ราย ขณะนี้กำลังเข้าคิวรอตรวจรายละเอียดอยู่อีกจำนวนหลายพันราย
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า
“ชุมชน” ก็เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่ ททท.สนับสนุนเข้าร่วมรับตรามาตรฐาน SHA โดยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(อพท.) จะทำหน้าที่ตรวจประเมินชุมชนทั่วประเทศ นำเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวชุมชน CBT
:Community Based Tourism
เข้ามาใช้อย่างเป็นระบบ ขณะนี้มีหลายชุมชนได้รับตราสัญลักษณ์ SHA บ้างแล้ว ตัวอย่าง “ชุมชนบ้านแหลม”
จังหวัดสุพรรณบุรี นำสินค้าเข้ามาร่วมขายในงาน “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” ครั้งที่ 1 ประสบความสำเร็จอย่างมากได้เงินไปพอสมควร
ส่วนบริษัทตัวแทนนำเที่ยวได้ปรับกลยุทธ์การผลิตแพกเกจ
คัดเลือกสถานประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับตรามาตรฐาน SHA
แล้วสมัครเข้ามาบริษัทท่องเที่ยวเหล่านี้ก็จะได้รับตราสัญลักษณ์การรับรองไปโดยอัตโนมัติด้วย
ปี 2564
ในสถานการณ์แบบนี้มาตรการสาธารณสุขยังคงต้องนำมาใช้อย่างเข้มข้นต่อไปถึงจะพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 และมีวัคซีนรักษาแล้วก็ตาม
การเดินหน้าสร้างมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA ยังคงต้องทำต่อไป
เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศต่างก็ตื่นตัวกับโครงการนี้
นำออกมาโชว์ไว้เปรียบเสมือนเป็นตราเทียบชั้นได้กับ “มิชลินสตาร์”
สร้างความภูมิใจให้ ททท.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข
รวมทั้งขอบคุณผู้ประกอบการทั้งหมดที่ร่วมมือกันทำอย่างเต็มที่
เพราะตราสัญลักษณ์
SHA ก่อให้เกิดประโยชน์จากการนำมาใช้ทั้ง
2 ส่วน คือ “Supply
:ผู้ผลิต-กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว”
รวมทั้งธุรกิจอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับตราสัญลักษณ์ก็สนใจต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการ
เพราะสามารถดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้ ทางด้าน “Demand :กลุ่มผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยว” สามารถสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยไปด้วยกัน
กลายเป็น Multiplier Effect
ขณะเดียวกัน
ททท.สำนักงานทั่วโลก ก็จะใช้ตรามาตรฐาน SHA เป็นเครื่องมือบุกตลาด
ตอบสนองความต้องการของซัพพลายเออร์ ผู้ค้าส่งท่องเที่ยวนานาชาติ ตั้งแต่ปลายปี 2563
เป็นต้นไป
นางสาวฐาปนีย์
กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมขานรับนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ หลังมติคณะรัฐมนตรี
(ครม.) วันที่ 16 กันยายน 2563
ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
เห็นชอบให้ประเทศไทยประกาศใช้ Special Tourist Visa :STV ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ทางศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) อนุมัติให้ผ่อนปรนชาวต่างชาติเข้าไทยได้ 4
กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มจัดแสดงสินค้า 2.กลุ่มเข้ามารักษาสุขภาพ 3.กลุ่มถ่ายทำภาพยนต์ 4.กลุ่มสมาชิกบัตรอีลิตการ์ด
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับ วีซ่าพิเศษ STV
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปก็จะได้เห็นแสงสว่างการนำเข้านักท่องเที่ยวต่างประเทศภายใต้เงื่อนไขเฉพาะกลุ่ม
“พรีเมี่ยมพำนักระยะยาว :Premium Longstay”
มาใช้จ่ายเงินสูง พักในไทยระยะยาว
โครงการ วีซ่าพิเศษ -STV
นั้น
ททท.ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
เพื่อทดลองสร้างต้นแบบการตลาดนำเข้าชาวต่างชาติ โดยมี ศบค.เป็นศูนย์กลางดำเนินการอย่างรัดกุมทั้งหลักปฏิบัติและเหตุผล
ร่วมกันทดสอบถึงประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้นดีหรือไม่อย่างไร
เบื้องต้นกำหนดเข้มงวดกับกลุ่มต่างชาติที่จะให้ผ่านเข้ามาได้คือ
1.จะต้องดำเนินการผ่านบริษัทตัวแทนนำเที่ยว
2.เดินทางด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ
(Charter flight)
หรือเที่ยวบินส่วนตัว (Private Jet)
เท่านั้น 3.มาจากประเทศต้นทางโดยแวะผ่านประเทศใดก่อนมาถึงไทย
4.แต่ละเที่ยวบินจะต้องไม่เกิน
100 คน 5.เข้ามาได้สัปดาห์ละไม่เกิน 3 เที่ยวบิน 6.เฉลี่ยแต่ละเดือนจะเข้ามาได้ไม่เกิน 1,200
คน ดังนั้นจึงมั่นใจทุกฝ่ายจะร่วมมือกันบริหารจัดการได้ดี
ทุกคนที่เดินทางเข้ามาจะต้องยินยอมทำตามเงื่อนไขภายใต้แนวทางปฏิบัติอันเข้มข้นตามมาตรฐานความปลอดภัยของสาธารณสุขประเทศไทยนั่นคือ
1.ต้องเข้ากักตัว
14 วัน State
Qualantine :SQ หรือ
กักตัวตามทางเลือกตามสถานที่ในท้องถิ่นที่ผ่านมาตรฐานเรียบร้อยแล้วในลักษณะ Local
Alternative State Qualantine :LASQ ซึ่งตอนนี้ในกรุงเทพฯ มี 60 แห่ง ส่วนต่างจังหวัด มีในภูเก็ต ชลบุรี
บุรีรัมย์
โดยสรุปแล้วทุกภาคส่วนนำโดย
ศบค.ซึ่งทางพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เน้นให้ความสำคัญมากที่สุดเรื่องการปฏิบัติด้านการนำเข้านักเดินทางต่างประเทศที่ได้รับสิทธิ์วีซ่าพิเศษอย่างรัดกุมมากที่สุด
ส่วนการป้องกันก็ต้องทำเข้มข้นไปด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์มหานคร”ชู3โปรโมชั่น“ชม-ชิม-ช้อป”ก.ย.-ต.ค.นี้
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้จัดกิจกรรมดี ๆ ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร”
นับจากนี้เป็นต้นไปทุกช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ยินดีต้อนรับทุกเพศทุกวัยเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ความสูงเสียดฟ้าของแลนด์มาร์คกรุงเทพฯ
ใจกลางสาทร พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่มในบรรยากาศหรู อบอุ่น เป็นกันเอง
ล่าสุดจัดแคมเปญเปิดให้บุคคลสองวัยทั้ง “เด็กและผู้สูงอายุ” สามารถขึ้นไปชมฟรีบน
“มหานคร สกาย วอล์ค” ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 26 กันยายน - วันเสาร์ที่ 31
ตุลาคม 2563 เชิญชวนทุกคนขึ้นมาเที่ยว ณ
จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทยเพียงแค่ซื้อบัตรผู้ใหญ่ขึ้นไปชมวิวอย่างน้อย
1 ใบ ราคา 880 บาท รับฟรีไปเลยสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
และผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไป
สำหรับ “มหานคร สกายวอล์ค”
เป็นจุดชมทิวทัศน์ความงดงามของกรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 10:00
– 00:00 น. หาข้อมูลเพิ่มที่ www.facebook.com/KingPowerMahanakhon
หรือโทร. 02-677-8721
แล้วห้ามพลาด!!
แวะรับประทานอาหารในบรรยากาศเรียบหรูที่ “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์”
ห้องอาหารที่สูงสุดในประเทศ ตอนนี้เปิดตัวชุด “อาหารกลางวัน” เมนูใหม่ 3
คอร์ส ช่วงธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 990++ บาท
ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ราคาเริ่มต้นคนละ 1,490++ บาท หากเพิ่ม Maine Lobster ครึ่งตัวเสิร์ฟพร้อม
Seafood Platter ราคาเพียงคนละ 1,990++ บาท
เสิร์ฟจานเด็ด Seafood Platter กับเมนู Starter เป็นอาหารทะเลรสเลิศส่งตรงจากสกอตแลนด์
โดยเฉพาะหอยนานาชนิดคุณภาพเยี่ยมทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น หอยหลอดจากฮอลแลนด์ หอยหวานจากฝรั่งเศส (มอง แซง มิเชล)
หอยนางรมจากฝรั่งเศส (นอร์มังดี) และ Maine Lobster เสิร์ฟคู่กับซีฟู้ดซอสสูตรเด็ด
3 ชนิด
ส่วนเมนูอื่น ๆ เลือกลิ้มชิมความอร่อยได้โดยมีให้เลือกหลากหลายเมนู ไฮไลต์จานหลัก จานแรก “ไก่นุ่มซอสใบไทม์”
เนื้อไก่รสนุ่มชุ่มฉ่ำ ปรุงรสด้วยหญ้าฝรั่น ปาปริก้า และกระเทียม
เสิร์ฟคู่กับเบบี้แครอทและเฟรนซ์ฟราย หรือ จานสอง “พาสต้าแก้มวัวตุ๋น” นำเนื้อแก้มวัวมาทำให้สุกอย่างช้าๆ
ปรุงรสด้วยโรสแมรี่ มะเขือเทศ ไวน์แดง และเครื่องเทศ
เสิร์ฟคู่กับพาสต้าปั๊ปปาเดลเล่ โรยหน้าด้วยใบโหระพาสด ใบเซจ และชีสพาร์มีซาน
สำหรับของหวานสุดคลาสสิคเป็นตำนานของฝรั่งเศสต้องชิม “แอปเปิลตาแต็ง”
เชฟได้นำแอปเปิลมาปรุงให้สุกแบบพิถีพิถันช้า ๆ ในบัตเตอร์คาราเมลจนกลายเป็นสีน้ำตาลทอง
หรือจะลอง “ช็อกโกแลตทาร์ต” ทำจากช็อกโกแลตมาดากัสการ์ วิสกี้ ซอลท์คาราเมล
ละลายได้ในปากเลยทีเดียว
สำหรับ “สมาชิก คิง เพาเวอร์”
สามารถใช้สิทธิ์ร่วมอิ่มอร่อยกับโปรโมชั่นสุดคุ้มได้ตลอดทั้งเดือน ระหว่างวันนี้ –
30 กันยายน 2563
เมื่อซื้อบัตรรับประทานอาหารที่ห้อง “มหานคร แบงค็อก สกายบาร์” เพื่อเลือก
“เซ็ตเมนูมื้อกลางวัน :Lunch Set” คนละ 2
คอร์ส มูลค่าเพียง 550 บาท จากปกติ 850 ++ บาท
ฟรีคูปองช้อปปิ้งมูลค่า 550 บาท เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าในร้านคิง
เพาเวอร์ 6,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ หรือ “เซ็ตเมนูมื้อค่ำ
: Dinner Set” คนละ 4 คอร์ส มูลค่า 1,450
บาท จากราคาปกติ 1,800 ++ บาท รับฟรีคูปองช้อปปิ้งมูลค่า 1,450
บาท เพื่อนำไปซื้อสินค้าในร้านคิง เพาเวอร์ 12,000
บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ และสามารถขึ้นไปชมวิวกรุงเทพฯ แบบ 360
องศา ที่ มหานคร สกาย วอล์ค ได้ด้วยเช่นกัน
ซื้อบัตรรับประทานอาหารได้ตลอดโปรโมชั่นอาหาร
2 มื้อ ในราคาพิเศษตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 30
กันยายน 2563 ได้ที่จุดบริการสมาชิก ชั้น 1 คิง
เพาเวอร์ รางน้ำ และร้านอาหาร มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ คิง เพาเวอร์ มหานคร
เมื่อต้องการใช้บริการสำรองที่นั่งล่วงหน้าก่อนได้ที่โทร. 02-677-8722
ข่าวที่ 2 ชม“Mahanakhon Cityscapes”แสงสวยสกายวอล์ค
คิง เพาเวอร์ มหานคร จัดกิจกรรม “Mahanakhon
Cityscapes” เชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแนว Cityscapes
และผู้สนใจเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับการชมแสงอาทิตย์แรกของวันในยามเช้า
พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของอาทิตย์ลับฟ้ายามเย็น บนมหานคร สกายวอล์ค
จุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบ 360 องศา สูงที่สุดในประเทศไทย ณ ชั้น 78
ในวันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2563
นี้ ระหว่างเวลา 05:00 – 08:00 น. (ช่วงเช้า) และเวลา 17:00 –
20:00 น. (ช่วงเย็น) ราคาบัตรเพียงคนละ 1,999
บาท พร้อมสิทธิพิเศษสามารถนำขาตั้งกล้องติดตัวขึ้นไปได้คนละ 1
ขาตั้ง ตลอดกิจกรรมทั้งสองช่วงเวลา
กิจกรรม
“Mahanakhon Cityscapes” เปิดขายบัตรให้ผู้ที่ชื่นชอบเข้าร่วมกิจกรรมแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่
www.eventpop.me/e/9578/mahanakhon-cityscapes (รับจำนวนจำกัด)
ราคาเพียงคนละ 1,999 บาท รวมบริการยามเช้าด้วยชุดของว่าง
และเครื่องดื่มพิเศษยามเย็น 1 แก้ว
ข่าวที่ 3 ชวนกันซื้อเสื้อ THAILAND SMILES WITH YOUคิงเพาเวอร์
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมสั่งจองเสื้อฟุตบอลเลสเตอร์
ซิตี้ รุ่นพิเศษTHAILAND SMILES WITH YOU จำนวนจำกัด เพียง 10,000 ตัวเท่านั้น
รีบสั่งซื้อด่วนในช่วงโค้งสุดท้ายเหลือเพียง 1,500 ตัวเท่านั้น ราคาตัวละ 2,500 บาท ซื้อได้ทาง www.kingpower.com รายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนการพัฒนาวัคซีนอาร์เอ็นเอ
เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
2019ของคณะวิทยาศาสตร์และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและโครงการเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19
อื่นๆที่รัฐบาลให้การสนับสนุน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งไปด้วยกันในการ #สร้างรอยยิ้มให้โลกให้โลกยิ้ม
ข่าวที่ 4 ททท.แจกทัวร์ฟรีอาสาพิทักษ์ทะเล600คนรับสมัครถึง23ก.ย.63
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กำลังจัดโครงการ
"อาสาพาเที่ยว" แจกแพกเกจท่องเที่ยวฟรีให้กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล
(อสทล.) 600
ราย ซึ่งคอยช่วยดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามให้คงไว้
โดยจะเปิดให้ อสทล.ทั่วประเทศที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ถือสัญชาติไทย มีอายุ 20
ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีบัตรประจำตัว อสทล.ออกโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมลุ้นรับสิทธิ์เที่ยวฟรีทางเว็บไซต์
www.อาสาพาเที่ยว.com ระหว่างวันนี้
-23 กันยายน 2563 เพื่อลุ้นรับแพ็กเกจเที่ยวฟรี
3 วัน 2 คืน รวมห้องพักโรงแรม 3-4
ดาว อาหารครบทุกมื้อ พาหนะเดินทาง
โดยจัดทริปท่องเที่ยวตามเส้นทางหลัก
ได้แก่ เขาใหญ่ นครนายก-เขาใหญ่ ปราจีนบุรี-วังน้ำเขียว กาญจนบุรีและเพชรบูรณ์
ททท.ใช้วิธีคัดเลือกด้วยการจับฉลากหาผู้โชคดี
600 คน (สำรอง 200
คน) ในวันที่ 30 กันยายน 2563 พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลก่อนแจ้งข้อความยืนยันสิทธิ์ให้กับผู้โชคดีที่ผ่านเกณฑ์อย่างถูกต้อง
ข่าวที่ 5 ททท.บูมเที่ยวเพลินเดินเต้นช้อปจันทบุรี25-27ก.ย.63
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) รายงานว่า ได้จับมือกับทางจังหวัดจันทบุรี ชวนไปเที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึงในงาน
“Amazing Chanthaburi ถนนคนเพลิน เดิน เล่น เต้น ช้อป” ระหว่างวันที่
25 – 27 กันยายน นี้ 16.00 น.-21.00 น. บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ
ร.9 จ.จันทบุรี
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีความสนุกตามวิถีใหม่
ของกิจกรรมแสงสี Amazing Light Park ภายในบริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 รอพบกับความตื่นตาตื่นใจ
อีกทั้งจะได้สนุกแบบไม่ยั้งกับการช้อป ชิม ชิล ร้านดัง แห่งจันทบุรีในราคาสุดว้าวจับต้องได้
และการจัดช่วงนาทีทองกระหน่ำลดสูงสุดถึง 5o%
ภายในงานจะได้เพลิดเพลิดฟังฟรีดนตรีสไตล์
New Normal กับ mini concert สุดฟิน
จากศิลปินที่คุณคิดถึง Getsunova Pause พาราด็อกซ์ และอีกมากมาย
มาร่วมเดินเล่นเต้นช้อปออกเดินทางท่องเที่ยวช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นในจันทบุรี
ข่าวที่ 6 “TCEB”งัดบิ๊กแคมเปญใหม่Re-Energizing Exhibitionปลุกไมซ์อินเตอร์
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวแคมแปญล่าสุด Re-Energizing Exhibition เป็นโครงการใหม่ในการสนับสนุนช่วยให้ผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้งหลังโควิด-19
ได้จับคู่กับผู้ซื้อกลุ่มเอ็กซิบิชั่นตลาดต่างประเทศ
สามารถรองรับบริการได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งสามารถประโยชน์ให้เกิดขึ้นพร้อม ๆ
กันครอบคลุมทั้ง 4 เรื่อง ได้แก่ เพิ่มความง่าย เพิ่มประสบการณ์ เพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถ
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการอาวุโส
สายงานธุรกิจ ทีเส็บ กล่าวว่า แคมเปญ Re-Energizing Exhibition
เน้นการรวมต่อเนื่องกับการขยายความคิดริเริ่มโดยก่อนหน้านี้แคมเปญ Exhibiz
in Market ตัวแทนขายการจัดงานนิทรรศการแสดง รุกเจาะอาเซียน
+6
สำหรับการส่งเสริมการขายภายในธีม
E ของทีเส็บได้รับการออกแบบมาเพื่อแนะนำผู้มีความสามารถในประเทศและองค์กรช่วยเหลือด้านการส่งเสริมระหว่างประเทศระดับภูมิภาค
ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 สามารถฟื้นฟูการจัดงานและเศรษฐกิจไมซ์ต่อไปได้
ช่วงที่
2 เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่งยิ่งกว่าเดิม
ทริปนี้ไปทะเล “เกาะสีชัง” ชลบุรี
มีกิจกรรมสนุกดีมีคุณค่ารอนักท่องเที่ยวอยู่อย่าง ปล่อยปูม้า ปล่อยเต่า
เพาะเลี้ยงปะการังอ่อน ที่สถาบันสัตว์น้ำ แล้วไปพักผ่อนสุดชีลต่อในศรีราชา
จากนั้นจะชวน “ปรับพฤติกรรมลดการปรุงอาหารช่วยลดโรคร้าย” และข่าวแรง ๆ ต้องรู้ “นีโอ”
ธุรกิจในเครือเอ็นซีซีจัดมหกรรมขายท่องเที่ยวรายการใหญ่แห่งปีแพกคู่ 2 งาน “Thailand Golf&Dive Expo
2020-Traval Expo 2020” 1-4 ต.ค.นี้ ไปพบกันที่ไบเทคบางนา “ธรรฐพล
แบเลเวลด์” ซีอีโอไทยแอร์เอเชีย
ชี้เป้ารัฐต้องเร่งเพิ่มเรื่องความว่องไวแก้ไขท่องเที่ยวให้ฟื้นไตรมาส 4 ปี’64 “ไทยสมายล์”
เปิดแล้วเที่ยวบินฟูลเซอร์วิส ไป-กลับ กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช วันละ 2 เที่ยว “บางกอกแอร์”
ไม่รอช้าลุยเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มทุกเที่ยวบินในประเทศแล้วตั้งแต่ 15 ก.ย.2563 เป็นต้นไป
เที่ยวสนุกเกาะสีชัง-ศรีราชปล่อยปูม้า-เต่า-เพาะปะการัง
วันดี ๆ ทริปสนุก ๆ
ที่จะได้ไปทำเรื่องดี ๆ ท่องเที่ยวเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ที่เกาะสีชัง ด้วยการตื่นเช้าออกจากกรุงเทพฯ
ตอน 7 โมง มุ่งหน้าสู่ท่าเรือเกาะลอย จ.ชลบุรี
นั่งเรือใหญ่ใช้เวลาราว 45 นาที เพื่อทำกิจกรรมดี ๆ
บนเกาะมีกิจกรรมท่องเที่ยวบำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชนได้ด้วย
คือการทำกิจกรรมร่วมขยายพันธุ์ปะการังและธนาคารปู
ที่สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอาคารเปิดโล่งจัดนิทรรศการแสดงพันธุ์สัตว์ทะเลในอ่าวไทยให้เยี่ยมชมฟรี
พร้อมกับองค์ความรู้ต่าง ๆ
ทั้งเรื่องราวของวาฬ ปะการัง เต่า
หอยมือเสือ หอยชนิดต่าง ๆ สัตว์ใต้ทะเลอีกมากมาย จำลองไว้ในบ่อซีเมนต์
ให้เห็นวิถีชีวิต เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติเหล่านี้ไว้
โดยเฉพาะ สัตว์ 3 ชนิด
ได้แก่ เต่าทะเล ปะการังอ่อน และปูม้า ที่จะชวนนักท่องเที่ยวไปช่วยกันขยายพันธุ์
เริ่มจากเต่าทะเล ตัวขนาดเล็กเลี้ยงไว้ในบ่อ
หากหน่วยงานหรือองค์กรใดไปท่องเที่ยวแล้วต้องการจะปล่อยลงทะเล ทางสถาบันวิจัยฯ จะจัดเตรียมไว้ให้ตามจำนวน
การปล่อยเต่าลงทะเลที่ถูกต้องควรปล่อยตอนน้ำขึ้น
เพื่อให้เต่าได้คลานลงไปเมื่อน้ำเริ่มลง
เช่นเดียวกันกับ “ปูม้า”
แต่ละตัวจะมีไข่กว่า 10 ล้านฟอง
แต่ปริมาณการเกิดลูกที่จะเป็นอาหารของเรา มีเพียง 1 % เท่านั้น แล้วตอนนี้ปริมาณปูม้าก็เริ่มลดลงเนื่องจากนักท่องเที่ยวนิยมกินกัน
ชาวประมงจับมาได้ก็ส่งให้ร้านอาหาร ภัตตาคาร
แต่การเจริญเติบโตไม่ทันกับความต้องการบริโภค
ขณะนี้จึงต้องรณรงค์ให้ช่วยกันหันมาใส่ใจการขยายพันธุ์ปูม้า ตามที่ “รศ.ดร.นิลนาจ
ชัยธนาวิสุทธิ์” รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อธิบายย้ำหนักหนาว่าแต่ละครั้งที่จะกินปูม้า
หากเลี่ยงได้ไม่ควรกินตอนหน้าปูม้ากำลังวางไข่ เพราะต่อไปคนไทยอาจขาดแคลนได้
อีกทั้งปูม้าก็มักไม่เจริญเติบโตในบ่อเลี้ยงสักเท่าไร
ต้องเกิดและโตในทะเลตามธรรมชาติเท่านั้น
ดังนั้นทางสถาบันฯ จึงขอเชิญชวนให้มาช่วยกันทำกิจกรรมปล่อยปูม้าลงสู่อ่าวไทยที่เกาะสีชัง
เพราะนอกจากจะช่วยขยายพันธุ์แล้ว ยังได้ช่วยชาวบ้านอาชีพประมงจะได้มีรายได้
นำปูที่จับมาได้มาขายให้ทางสถาบันไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ปล่อยสู่ทะเลได้ทุกวัน
เมื่อไปถึงสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกาะสีชังแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถปลูกปะการังอ่อนในบ่อซีเมนต์ ได้ด้วย
ปลูกง่ายมากเพียงทำตามขั้นตอน นำหน่อปะการังอ่อนที่ทางสถาบันฯ จัดเตรียมไว้
ใช้ไม้ปลายแหลมขนาดเล็กเท่าไม้จิ้มฟันปักลงตรงการ แล้ววางบนท่อพีวีซีสีเขียวซึ่งมีทรายบรรจุอยู่
จากนั้นก็นำไปวางในบ่อซีเมนต์ตามจุดที่กำหนด เพื่อให้ปะการังแต่ละต้นค่อย ๆ เติบโต
ใช้เวลา 7-8 เดือน
ก็จะขยายเป็นปะการังขนาดใหญ่ ซึ่งทางสถาบันจะนำไปปลูกในธรรมชาติใต้ทะเลต่อไป
บริเวณใกล้ ๆ กัน ได้เปิดร้านโอท็อป
“สินค้าชุมชน” ให้ชาวบ้านผู้สูงวัยบนเกาะ ผลิตชิ้นงานของที่ระลึกมาวางจำหน่าย มีสินค้าเก๋
ๆ สวย ๆ มากมายให้เลือกช้อปกระจายรายได้ถึงมือชุมชนโดยตรง
สนใจไปท่องเที่ยวพร้อมทำกิจกรรม CSR
แบบสนุกได้ความสุขกลับบ้าน ทางสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เกาะสีชัง ยินดีต้อนรับ ปัจจุบันเปิดบริการฟรี
แต่สามารถบริจาคเพื่อช่วยค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ ติดต่อ “รศ.ดร.นิลนาจ
ชัยธนาวิสุทธิ์” รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โทร.081-802-1839 , 02-218-8160
พอแดดร่มลมตกไปเดินชม
“พระจุฑาธุชราชฐาน” แหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์แห่งสีชัง
พระราชวังฤดูร้อนสถาปัตยกรรมตะวันตกพบตะวันออก อันสวยสดงดงาม
สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในบริเวณมีสะพานอัษฎางค์
สะพานไม้สีขาวคลาสสิคยื่นไปในทะเล เหล่าคู่รัก-คู่ฮันนีมูน นิยมมาบันทึกภาพแห่งความทรงจำ
เที่ยวเกาะสีชังจนเต็มอิ่มแล้ว
ก็นั่งเรือกลับเดินทางต่อไปยังอำเภอศรีราชา รอชม “J PARK” ยามค่ำคืน
ในดินแดนคอมมิวนิตี้มอลล์สไตล์ญี่ปุ่น
เสมือนได้อยู่ท่ามกลางชุมชนแดนปลาดิบมีทั้งสวนหย่อม สถาปัตยกรรมมากมาย อย่างโคมไฟ
การประดับตกแต่ง และรายล้อมด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขนม ซูเปอร์มาร์เก็ตเปิด 24
ชั่วโมง ร้านขายของที่ระลึก ของใช้เกี่ยวกับญี่ปุ่นดัง ๆ ก็มี Tsuruha
กับ Daiso ก่อนเข้าที่พักผ่อนอย่างสบายใจ
เที่ยวเมืองไทยอย่างรับผิดชอบพร้อม
ๆ กับทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ได้ทั้งความสุขและความสนุกอย่างแท้จริง
ชวนปรับพฤติกรรมลดการปรุงอาหารจะช่วยลดโรคร้ายได้
การรับประทานอาหารรสจัด เปรี้ยว หวาน
มัน เค็ม เผ็ด มากจนเกินไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว
และยังเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่มโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาลดการปรุงอาหารช่วยบรรเทาโรคร้าย ๆ ที่จะตามมา
ได้ดังนี้
1. เลือกวัตถุดิบสดใหม่ เพราะจะมีรสชาติอร่อย
โดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม
2. กินสดๆ ดีกว่า
เพราะอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย
จะยังคงสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายไว้ได้มากที่สุด
3. ชิมก่อนปรุง
เพื่อป้องกันไม่ให้เติมเครื่องปรุง เช่น น้ำปลา น้ำตาลมากเกินไป
4. ดื่มน้ำเปล่าปรับการรับรส อย่างน้อยวันละ
1.5 ลิตร เพื่อไม่ให้ติดรสหวาน หันมาเลือกดื่มน้ำเปล่าที่ไม่ให้พลังงานแทนน้ำหวาน
น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และกาแฟ ชา ซึ่งเติมน้ำตาลที่ให้พลังงานสูง
5. เลือกเครื่องปรุงรสจากธรรมชาติ
หากจำเป็นต้องใช้เครื่องปรุงรส ให้เลือกเครื่องปรุงรสจากธรรมชาติ
แทนเครื่องปรุงรสที่ผลิตในระบบอุตสาหกรรมและมีสารปรุงแต่งสี กลิ่น รส สารกันบูด
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “นีโอ”โหมขายเที่ยว2งานใหญ่
“Golf&Dive”+Travel Expo1-4ต.ค.
นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท
เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) ในฐานะผู้จัดงานมหกรรมขายท่องเที่ยวรายการใหญ่แห่งปีระหว่าง
1-4 ตุลาคม 2563
ฮอลล์ EH 106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค จัดพร้อมกัน 2
งาน คือ “Thailand Golf & Dive Expo 2020” ท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟและท่องเที่ยวดำน้ำแห่งเดียวในประเทศไทย
ที่รวบรวมสินค้าและบริการแบบครบวงจรที่สุด และงาน Traveler Expo 2020” ท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์
กระตุ้นกำลังซื้อกลุ่มนักท่องเที่ยวชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยได้รวบรวมผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานทั้งด้านสินค้าและการบริการแบบครบวงจรเข้าร่วมจัดแสดง
เทโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 80% ตั้งเป้าสร้างเงินสะพัดตลอดงานกว่า 130
ล้านบาท
ในงาน Thailand
Golf Expo 2020
กลุ่มผู้ประกอบการสนามกอล์ฟ ผู้จำหน่ายสินค้าอุปกรณ์กอล์ฟแบรนด์ชั้นนำพร้อมทำโปรโมชั่นสุดพิเศษ
เช่น แพ็คเกจกรีนฟี ที่พักในสนามกอล์ฟ อุปกรณ์กอล์ฟ เสื้อผ้า รองเท้า
และอุปกรณ์เสริมต่างๆ และกิจกรรมไฮไลต์จัดการแข่งขัน “1
พัตต์ 1 แสน” ให้นักกอล์ฟได้ร่วมลุ้น ร่วมสนุก กับเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า
1 แสนบาท
ด้วยกติกาต้องใช้จ่ายภายในงานครบ 2,000
บาท จะได้รับสิทธิ์ร่วมแข่งขันทันที
ภายในงานยังมีกิจกรรมดี ๆ คือ 1.เวทีเสวนา
Golf Simulator นวัตกรรมสนามกอล์ฟจำลองเสมือนจริง เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสนามซ้อมกอล์ฟได้ง่าย
ๆ 2.มุม Golf Clinic มีโปรกอล์ฟมาให้คำแนะนำ
อาทิ คุณนพคุณ วงศ์หล่อ (โปรนพ) เจ้าของโรงเรียนสอนกอล์ฟ Pro Nop Golf
Academy
ขณะที่งาน Thailand Dive Expo 2020 (TDEX) งานมหกรรมดำน้ำระดับนานาชาติ
คอนเซ็ปต์งานปีนี้จะชูความโดดเด่นเรื่อง Making Waves, Safe the Treasure รณรงค์ให้ทุกคนเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติที่เปรียบเสมือนสมบัติอันล้ำค่าที่ควรรักษาไว้
ภายในงานได้รวบรวมสินค้าและบริการเกี่ยวกับการดำน้ำแบบครบวงจร ทั้ง Scuba และ
Freediving ประกอบด้วย ทริปดำน้ำ คอร์สเรียนดำน้ำ
รีสอร์ทที่พัก เรือ Live aboard อุปกรณ์ดำน้ำ อุปกรณ์เสริมต่างๆ
กล้องถ่ายภาพ และ Housing โดยโรงเรียนสอนดำน้ำที่มาร่วมงานเป็นโรงเรียนที่ได้มาตรฐานระดับสากล
และกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ
บูธของกองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบิน กรมแพทย์ทหารเรือ
นำห้องปรับแรงดันบรรยากาศสูงมาจัดแสดง
บนเวทีมีการเสวนาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรใต้ทะเลจากหน่วยงานต่างๆ
เทคนิคการดำน้ำ เทคนิคการถ่ายภาพ นิทรรศการภาพถ่ายใต้น้ำจากผลงานผู้ส่งภาพเข้าประกวดในการประกวดภาพถ่าย
TDEX Underwater Photo Contest ครั้งที่ 15
ภายใต้หัวข้อ “The Treasure: All marine life is our world’s valuable
treasure” รวมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 230,000
บาท พร้อมได้สิทธิ์ส่งภาพเข้าประกวด Underwater Photo Challenge (UWPC) ของ
DRT Show
รวมทั้งการจัดงานใหม่เพิ่มคือ
Traveler Expo 2020 เน้นคอนเซ็ปต์ เที่ยวตามใจ ไปตามฝัน : More Than Experience มหกรรมท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์
ตอบโจทย์กลุ่มนักเดินทางที่ชื่นชอบกิจกรรมมีไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตอิสระ ชื่นชอบค้นหาความท้าทายความแปลกใหม่
ดีลแพ็คเกจท่องเที่ยวสุดคุ้มส่งท้ายปี 2563 มาไว้ในงานมีทั้งโรงแรม ที่พัก อุปกรณ์เดินป่า
แค้มป์ปิ้ง ปีนหน้าผา ปั่นจักรยาน อื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมกิจกรรมสนุก เช่น แข่งปีนหน้าผาจำลองชิงเงินรางวัล
และอื่น ๆ
ข่าวที่สอง ซีอีโอไทยแอร์เอเชียชี้รัฐเพิ่มความว่องไวดันท่องเที่ยวฟื้นปี’64
นายธรรฐพล แบเลเวลด์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทย แอร์เอเชีย เปิดเผยในเวทีเสวนา “วธอ. Talk ทางออกเศรษฐกิจหลังโควิด-19”
ว่าสถานการณ์การขายตั๋วโดยสารเครื่องบินไทย แอร์ เอเชีย ที่เข้าร่วมแคมเปญ
“เราเที่ยวด้วยกัน” ขณะนี้ทำยอดได้เพียง 12,000 ที่นั่งเท่านั้น
เมื่อประเมินมาตรการของรัฐบาลที่พยายามแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเดินทางถูกทาง
แต่ยังขาดความกระฉับกระเฉง ขาดความว่องไว ตัวอย่างกรณีที่ไทยแอร์ เอเชีย
ยื่นถึงภาครัฐเพื่อขอความช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) ไปตั้งแต่เมษายน
2563 แต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ
ล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพิ่งได้พบนายกรัฐมนตรีรับปากจะช่วยผู้ประกอบการสายการบินในไทย
นายธรรฐพลยืนยันว่าความเห็นส่วนตัว
มองอนาคตการท่องเที่ยวโดยรวมของประเทศไทยจะโชติช่วงชัชวาล เพราะการแพทย์ดีมาก
หลังจากผ่านวิกฤตโควิด-19
จะมีคนสูงอายุย้ายถิ่นฐานมาอยู่เมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะยุโรป อังกฤษ อิตาลี
เนื่องจากบ้านเราต้อนรับผู้สูงวัย กลุ่มคนพำนักระยะยาว Longstay
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) ส่งสัญญาณดีจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น
ลักษณะคล้ายชีวาศรม ซึ่งสามารถทำราคาคอร์สถูกสุดก็เริ่มต้นหลักแสนบาท อีกทั้งยังต้องจองล่วงหน้า
3 ปี มีต่างชาติมาใช้บริการพักอยู่ครั้งละ
3 สัปดาห์
รวมถึงเรื่องอาหารหรือ Food
จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้ด้วยอีกช่องทาง
ดังนั้นไทย
แอร์ เอเชีย จึงวางแผนเตรียมจะไปกู้เงินมาซื้อเครื่องบินเพิ่มเพื่อให้บริการเมื่อตลาดโลว์คอสต์
แอร์ไลน์ กลับมาเติบโตอีกครั้ง เพื่อขานรับสัญญาณที่ดีเรื่องตอนนี้เริ่มมีประกาศทดลองใช้วัคซีนรักษาไวรัสโควิด
คาดการณ์ตั้งแต่มิถุนายน 2564
เป็นต้นไปอุตสาหกรรมการบิน
การท่องเที่ยว ของไทย จะเริ่มทยอยฟื้นได้จริงช่วงไตรมาส 4 ปีตั้งแต่พฤศจิกายน
2564 เป็นต้นไป
ข่าวที่สาม ไทยสมายล์เปิดบินแล้วแบบฟูลเซอร์วิสกรุงเทพ-นครศรี
2เที่ยว/วัน
สายการบินไทยสมายล์ รายงานว่า ได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เส้นทางประจำอย่างเป็นทางการตั้งแต่กลางเดือนกันยายน
2563
ไป-กลับ กรุงเทพฯ - นครศรีธรรมราช (BKK-NST) วันละ 2 เที่ยว ตามแผนธุรกิจขยายเส้นทางบิน
อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวและติดต่อธุรกิจ โดยมีบริการแบบฟูลเซอร์วิส
เสิร์ฟอาหารบนเครื่อง จองที่นั่งล่วงหน้า ให้ฟรีน้ำหนักสัมภาระกระเป๋าสูงสุดคนละ 30
กิโลกรัม
ข่าวที่สี่ “บางกอกแอร์”เสิร์ฟอาหาร/เครื่องดื่มแล้วทุกไฟลต์ในประเทศ
สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
ประกาศกลับมาให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบินแก่ผู้โดยสาร
เส้นทางบินภายในประเทศทั้งหมดเริ่ม15 กันยายน 2563 เป็นต้นไป โดยให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน
ในรูปแบบกล่องอาหารว่างและเครื่องดื่ม หรือ Snack box งดการเสิร์ฟเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟชั่วคราว
ส่วนผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่บนเที่ยวบิน ยกเว้นขณะรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
ส่วนการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกบนเที่ยวบินจะเริ่มเปิด ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563
เป็นต้นไป
สำหรับมาตรการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเที่ยวบิน
ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
เรื่องแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 3
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น