ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TCEBรุกไมซ์ไทย-ต่างชาติชูแผนตลาด3โปรเจ็กต์ลุยปี64 ดันไทยฮับไมซ์โลกปี65-58

 

ผู้นำTCEBรุกไมซ์ไทย-ต่างชาติชูแผนตลาด3โปรเจ็กต์ปี’64

รุกประมูลงานดันไทยศูนย์กลางจัดไมซ์โลก3ปีหน้าปี’65-68

คิงเพาเวอร์มหานครชู3โปรโมชั่นพิเศษต้อนรับเดือนก.ย.’63

คิงเพาเวอร์พาเหรดสินค้าโรล&ซีเลคชั่นลดกระหน่ำก.ย.25%

ททท.ปลุกเที่ยวบิ๊กสเตรทฟรีเฟสติวัลแอทเขาใหญ่5-6ก.ย.นี้

ททท.จัดใหญ่แคมเปญชนบทที่รักเจาะตลาดซิลเวอร์เอจ5.0

ททท.จันทบุรีชวนเที่ยว”อาสนวิหาร-พายSUB-น้ำตกพลิ้ว”

บางจากแจกใหญ่เที่ยวเมืองไทยใช้บางจากวันนี้-31 ธ.ค.นี้

TCEBอัดฉีด7แพกเกจหนุนไมซ์ไทย-ต่างชาติโกยแสนล้าน

MoreFun!!ผจญภัยนครนายก-ปราจีน-เช็คอินระยอง/พัทยา

รพ.อภัยภูเบศรแนะฟ้าทลายโจรเพิ่มคุ้มกันสู้ไวรัสโควิด-19ได้

รัฐแจกอีกแล้ว4.5หมื่นล้านโปรเจ็กต์ “คนละครึ่ง”15ล้านคน

โชว์โลมาภูเก็ตอัดแคมเปญลด30%หวังโกยหยุดยาว4-7ก.ย.

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 

ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB

ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  

ช่วงที่ 1 ล้วงลึกแผนขับเคลื่อนการตลาดไมซ์เชิงรุกเร็วกับ “นายจิรุตถ์ อิศรางกูร” ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ยกเวที “ทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ต่อยอดปี’64 ชูเป้าหมายเดินหน้า 3 นโยบายเชิงรุก “ลุยชิงงานประมูลนานาชาติ-พยุงตลาดในประเทศ-เร่งใช้นวัตกรรม” ผลักดันไทยผงาดเป็น “ศูนย์กลางจัดงานไมซ์โลก” ปี’65-68 คู่ขนานการเสนอ ศบค.ทยอยปลดล็อกชิมลางนำเข้าตลาดเอ็กซิบิชั่นต่างประเทศ โชว์ “ไมซ์โมเดลอินเตอร์” ความพร้อมประเทศไทย ก่อนขยายแนวรุกการค้าวิถีใหม่แบบครบวงจร

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่าได้จัดงานประจำปี “ทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” เชิญผู้ประกอบการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมทั้งการอีเวนต์ จัดประชุม นิทรรศการ โดยใช้เวทีนี้ให้ความรู้และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่จะใช้ต่อเนื่องปี 2564 ส่วนเนื้อหาของงานจัดขึ้นหลังธุรกิจทั้งประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จึงมุ่งเน้นเปิดการเจรจาการค้าระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย โดยมีตัวแทนเข้าร่วมจากกว่า 120 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนโรงแรม บริษัทจัดนำเที่ยว ขนส่ง สายการบิน พร้อมลดแลกแจกแถม มาจับคู่กับขายให้ลูกค้ากว่า 300 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท ห้างร้าน หน่วยราชการที่เตรียมจัดประชุม หรือในส่วนของผู้จัดงาน เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563

 

ภายในงาน “ทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ประจำปี 2563 ทางทีเส็บได้นำเงินมาสนับสนุนผู้ประกอบด้วยโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” มีกระแสตอบรับดีมาก จากการสนับสนุนเงินให้ผู้ประกอบการกลุ่มจัดประชุม สัมมนา นอกพื้นที่ 2 คืน 1 วัน ขนาดครั้งละ 30 คนขึ้นไป ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมเลือกพักโรงแรม จะได้เงินสนับสนุนครั้งละ 30,000 บาท ถือเป็นการกระจายรายได้อีกช่องทางสำคัญจากอุตสาหกรรมไมซ์

 


ปี 2564 ทีเส็บเตรียมขับเคลื่อนนโยบายหลักโดยใช้ผลจากการวิจัยเข้ามาประกอบการวางแผนการตลาด เนื่องจากประเมินผลแล้วตลาดไมซ์ต่างประเทศจะพอเริ่มทยอยเข้ามาในไทยได้อาจจะเป็นประมาณเดือนมีนาคม 2564 เป็นต้นไป เริ่มจากกลุ่มขนาดเล็ก ๆ เพราะกรุ๊ปที่จะเข้ามาต้องผ่านการกักตัวตามขั้นตอน State Qualantine ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่พอจะเข้ามาได้คือตลาดจัดนิทรรศการแสดง (Exhibition) นั่นเอง

 ดังนั้นการเดินหน้าโยบายไมซ์ปี 2564 ตลาดต่างประเทศ ช่วงกันยายน-ตุลาคม 2563 เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ทางทีเส็บพุ่งเป้าทำ 3 นโยบายหลัก ประกอบด้วย

นโยบายที่ 1 “ชิงการประมูลงานไมซ์รายการระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย” เป็นงานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565-2568 (คศ.2022-2025) ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานไมซ์ระดับโกล เพราะเมืองไทยน่าจะพร้อมมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั้งทางด้านสาธารณสุขและวัคซีนรักษาไวรัส ส่วนปลายปี 2564 งานอินเซ็นทีฟน่าจะเกิดขึ้นได้จากตลาดบางประเทศ

 

ส่วนงานที่ทางทีเส็บประมูลมาจัดในไทย งานแรก ASIA PACIFIC ECONOMIC COOPERATION : APEC 2022 การประชุมผู้นำทั่วโลก ประกอบกับจะมีการประชุมย่อยทางธุรกิจจำนวนมากอยู่ภายในงาน APEC ด้วย จากนั้นจะดึงงานขนาดใหญ่อย่าง FORB ขณะนี้ทางฝ่ายต่างประเทศของทีเส็บก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ ขยายการประมูลงานเป็นวงกว้างไม่เฉพาะงานการแพทย์เพียงอย่างเดียว แต่จะเพิ่มงานทางเทคโนโลยี งานสังคม วิชาการ รวมไปถึงงานโรโบติก S-CURF งานโลจิสติกส์รองรับการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง และงานอุตสาหกรรมเครื่องจักรตามมาด้วย เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในปี 2565-2568 จะเกิดการพัฒนาใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยพร้อมจะทำงานหนักเพื่อดึงงานระดับโลกมาจัดในเมืองไทยในอนาคตอีก 3-5 ปีข้างหน้าให้ได้มากที่สุด

 

ขณะนี้ทีเส็บได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทางคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ด้วยเช่นกัน เกี่ยวกับการกำหนดขั้นตอนนำวิทยากรและนักธุรกิจเข้ามาร่วมงาน ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการกักตัวตามมาตรการของ ศบค.อย่างเข้มข้น เน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ

 


นโยบายที่ 2 เสริมสร้างโอกาสตลาดในประเทศ การพยุงกำลังซื้อ ซึ่งจะเห็นจากการจัดงานการจัดประชุม คอนเฟอเรนซ์ คอนเว็นชั่น เอ็กซิบิชั่น โดยมีแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” เป็นกำลังเสริมด้านงบประมาณจัดงานของทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเปิดกว้างให้ทุกกลุ่มทั้งนิติบุคคล และทั่วไป

 

โดยจะเพิ่มใหม่อีก 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก องค์กรที่พร้อมจัดงานคอนเว็นชั่นขนาด 100 คนขึ้นไป/ครั้ง ทีเส็บจะสนับสนุนเงินจัดงาน 50,000 บาท/ครั้ง เช่น องค์กรด้านการแพทย์ ด้านนวัตกรรม กลุ่มที่ 2 จัดเอ็กซิบิชั่น แสดงสินค้าต่าง ๆ ในขนาดพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป/ครั้ง ทีเส็บจะสนับสนุนเงิน 500,000-800,000 บาท/ครั้ง เน้นงานที่จัดในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพฯ   อาทิ งานด้านอาหาร ชา กาแฟ ผลิตภัณฑ์ ศิลปกรรม ผ้า และอื่น ๆ  ส่วนงานจัดแสดงสินค้าขนาด 3,000 ตารางเมตรขึ้นไป/ครั้ง จะสนับสนุนเป็นวงเงิน 1 ล้านบาท/ครั้ง เป็นเงินของทีเส็บที่จะมาช่วยสนับสนุนตลาดไมซ์ในประเทศอย่างเต็มที่

 

สอดคล้องกับการขยายทีเส็บที่ได้จัดตั้งสำนักงาน 4 ภาค เหนือ ใต้ อีสาน ภาคตะวันออก แต่ละงานจะเน้นให้เกิดการเจรจาธุรกิจหรือ Business to Business : B to B ตัวอย่างงาน ชา กาแฟ ซึ่งจะไม่ได้จำกัดเฉพาะให้คนทั่วไปเข้ามาร่วมชมงาน แต่จะเชิญชวนผู้ประกอบการร้านเบเกอรี่เข้าไปเจรจาสั่งซื้อ ชา กาแฟ ล็อตขนาดใหญ่ต่อเนื่องตลอดทั้งปี เกิดการค้าผู้ซื้อพบผู้ขายอย่างเป็นรูปธรรม งานในลักษณะดังกล่าวเมื่อจัดในพื้นที่ 3,000 ตารางเมตรขึ้นไป ก็จะได้เงินสนับสนุนจากทีเส็บ 1 ล้านบาท/งาน/ครั้ง เหมาะสมกับผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป กระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วย

 

นโยบายที่ 3 นโยบายทางด้านนวัตกรรมทางธุรกิจ ทีเส็บมีหน่วยนวัตกรรมทำงานร่วมกับองค์กรเครือข่าย สวทช. NIA และ Smart MICE ส่วนใหญ่ก็จะช่วยเอกชนทำข้อมูล ตัวอย่างการทำ ThailandMiceConnect สามารถส่งมอบงานกระจายทั่วทั้ง 77 จังหวัด รวบรวมข้อมูล สถานที่จัดไมซ์ ชุมชน โรงแรมห้องพัก ห้องประชุม ครบวงจรในเว็บเดียว ถือเป็นเมนูที่พร้อมเสิร์ฟการจัดไมซ์ หรือแม้แต่การแนะนำวิธีจัดไมซ์วิถีใหม่หรือ New Normal บางสถานที่ต้องเฝ้าระวัง ผู้จัดก็สามารถเข้ามาดูได้

 

รวมทั้งในงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 ทีเส็บได้นำ Start Up เข้ามาช่วยทำแอพลิเคชั่น เช่น จองรถ สถานที่พัก แอพลิเคชั่นชุมชน สามารถเป็นสถานที่จัดงานได้ โดยมีข้อมูลรวมศูนย์อยู่ในจุดเดียว จากการนำร่องของทีเส็บในการจัดทำ Big DATA ดังกล่าว พร้อมเป็นเครื่องมือโดยปัจจุบันคนจะหันมาใช้เรื่อง Hybride เช่น Ofline to Online : O to O ใช้การซื้อขายเสมือนจริงมูลค่าเป็น 100 ล้านบาท/ครั้ง แต่อย่างไรก็ตามการเจรจาธุรกิจบนเวทีจริงจะได้ประสบการณ์ ความรู้ ที่มากกว่า ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่นำมาใช้ช่วงนี้ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ดีเหมาะสมตามสถานการณ์ขณะนี้อย่างมาก

 

อีกทั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทีเส็บเสนอทางกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ขอให้ผ่อนปรน การจัดแสดงสินค้า (Exhibition) ตอนนี้ข้อเสนอดังกล่าวผ่านกรรมการชุดแรกแล้ว จะทำในลักษณะ Special Jouney/Special Arrangement เพื่อริเริ่มนำงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาครั้งละ 10 คน ซึ่งทางประเทศไทยสามารถรับเข้ามาได้ แต่จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้

 

 1.การตรวจโควิด-19 กักตัวก่อน 6-8 ชั่วโมง แล้วตรวจซ้ำอีกครั้ง 2.มอบหมายให้ทางสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติไทย (ทิก้า) สมาคมจัดแสดงสินค้า (TEA) สมาคมโรงแรมไทย ให้ผู้ประกอบการ (เอเย่นต์) ต้องสอบความรู้ทางการแพทย์โดยมีทีมสาธารณสุขเข้ามาร่วมด้วย บุคลากรกลุ่มดังกล่าวขณะนี้ได้จัดอบรมรุ่นที่ 1 เรียบร้อยแล้ว เพื่อจะเป็นบุคลากรที่จะทำหน้าที่นำผู้จัดแสดงสินค้าไปเช็คอินตามโรงแรม 3.ผู้จัดแสดงสินค้าจะต้องพักในโรงแรมผ่านมาตรฐาน State Qualantine 4.จัดทีมเรซองหรือผู้ติดตามซึ่งคัดเลือกมาจากอดีตแอร์โฮสเตทกำลังอบรมรุ่นที่ 1 โดยจะมีรายได้วันละ 2,000 บาท/คน โดยทางออร์กาไนเซอร์จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย 5.การใช้รถบริการขนส่งก็จะต้องผ่านเกณฑ์ State Qualantine 5.การเดินเข้า-ออกงานแต่ละครั้งจะมีคนละช่องทางแยกจากกัน 6.ต้องตรวจสอบทุกอย่างตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มข้น

 

ข้อเสนอริเริ่มนำเอ็กซิบิชั่นต่างประเทศเข้าไทยครั้งนี้ ทางทีเส็บได้ปรึกษากับทางทีมแพทย์และสาธารณสุขแล้ว ซึ่งพอสามารถจะทำได้บ้าง แต่จำนวนแต่ละครั้งจะไม่มากนัก

นอกจากนั้นในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563 ทีเส็บกำลังจ้างทำ “ไมซ์แอพลิเคชั่น” เหมือนกับแอพลิเคชั่น “หมอชนะ” ทำงานคล้าย google map สามารถจะแท็กทุกคนที่เดินทางเข้ามางาน เพื่อติดตามตัวได้อย่างใกล้ชิดตามไปทุกแห่ง เช่น กลางคืนหากออกไปข้างนอกก็จะรู้ทันที อีกทั้งก่อนเดินทางเข้ามาจัดงานจะต้องทำสัญญากับทางทีเส็บก่อนถึงหลักปฏิบัติอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข

 

สำหรับขั้นตอนการเสนอเปิดตลาดเอ็กซิบิชั่นต่างประเทศตามที่กล่าวข้างต้นนั้น เมื่อผ่านคณะกรรมการ ศบศ.ชุดที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องเสนอต่อไปยังกรรมการชุดที่ 2 ต่อไป โดยหลักการจะเน้นความปลอดภัยของคนประเทศมาก่อนเป็นอันดับแรกด้วย ทุกอย่างจึงต้องพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ทั้งหมด เพื่อทำให้อุตสาหกรรมไมซ์เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้เงื่อนไขด้านความปลอดภัยสูงสุดด้านสุขอนามัย

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์มหานครชู3โปรโมชั่นพิเศษต้อนรับเดือนก.ย.’63

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำเสนอโปรโมชั่นแรง ๆ ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” ไฮไลต์ “ห้องอาหาร มหานคร แบงค็อก สกายบาร์ และ มหานคร สกาย วอล์ค ” พร้อมมอบความพิเศษให้ลูกค้าต้อนรับเดือนกันยายน 2563 รวม 3 รายการด้วยกัน

รายการแรก  โปรโมชั่นพิเศษช่วงวันหยุดยาว ระหว่าง 4 – 6 กันยายน 2563 เด็ก (อายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึนไป) ขึ้นชมมหานคร สกายวอล์ค ฟรี เมื่อซื้อบัตรเข้าชมมหานคร สกายวอล์ค (ผู้ใหญ่) ราคา 880 บาท อย่างน้อย 1 ใบ  เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 10:00 – 00:00 น. สามารถซื้อบัตรล่วงหน้าได้ที่ http://bit.ly/Mahanakhon-SkyWalk-Tickets

 

รายการที่สอง โปรโมชั่นซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ 1-6 กันยายน นี้ สามารถใช้ได้ตั้งแต่ 3 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2563  กับชุดอาหารกลางวัน 3 คอร์ส ลด 10 % ราคาพิเศษ วันธรรมดา “วันจันทร์-วันศุกร์” ราคาพิเศษ 1,059 บาทสุทธิ (จากปกติ 990++ บาท หรือ 1,165 บาทสุทธิ) 

 

ส่วน “วันเสาร์-วันอาทิตย์” ถ้าหากเลือกสั่งเมนูเสิร์ฟพร้อม Seafood Platter เป็น Starter ราคาพิเศษ  1,594 บาทสุทธิ์ (จากปกติ 1,490++ บาท หรือ 1,754 บาทสุทธิ)  หรือเลือกสั่งชุดมื้อกลางวันสั่งพร้อมล็อบสเตอร์ครึ่งตัวจากรัฐเมน บน Seafood Platter เป็น starter ราคา 2,129 บาทสุทธิ (จากปกติ 1,990++ บาท หรือ 2,242 บาทสุทธิ)

 

รายการที่สาม ชวนมาร่วมกิจกรรม “In The Sky High Intensity” เสริมสร้างร่างกายสไตล์ Build & Burn ในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563 ระหว่าง 06.00-08.00 น.พร้อมรับประสบการณ์แปลกใหม่เป็นครั้งแรกของการออกกำลังกายในแบบ Shadow Boxing และ Bodyweight Training กับคลาสสูงที่สุดในกรุงเทพฯ ณ มหานคร สกายวอล์ค ซึ่งเป็นจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย ชั้น 78 กับโค้ช Guy Espley จากทีม Ontrack Asia มาสเตอร์โค้ชแห่งสตูดิโอปั่นจักรยาน Ryde Cycle และผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ Knockout Boxing  

 

“In The Sky High Intensity” เปิดขายบัตรเข้าร่วมกิจกรรมแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยลงทะเบียนพร้อมชำระเงินได้ผ่านช่องทาง inbox ของเฟสบุ๊กเพจ King Power Mahanakhon เท่านั้น กิจกรรมนี้รับจำนวนจำกัด ราคาคนละ 999 บาทสุทธิ บริการเสิร์ฟฟรีชุดอาหารเช้า และชาหรือกาแฟ 

 

หาข้อมูลของมหานคร สกายวอล์ค เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/KingPowerMahanakhon หรือโทร.02-677-8721 

 

ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์พาเหรดสินค้าโรล&ซีเลคชั่นลดกระหน่ำตลอดก.ย.25%

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พาเหรดสินค้าแบรนด์ “คิงเพาเวอร์โรลและซีเลคชั่น คอลเลคชั่น” มากระหน่ำลดตั้งแต่วันนี้ -30 กันยายน นี้ เมื่อครบ 3,000 บาท/ใบเสร็จรับเงิน รับทันทีส่วนลด 25 % เพียงใส่โค้ด KPSPECIAL แล้วคลิกเข้าไปเลือกได้ทางออนไลน์เว็บไซต์ www.kingpower.com  มีผลิตภัณฑ์ขนมไทยกลุ่มทองม้วนรสต่าง ๆ ทั้ง ช็อกโกแลต กาแฟ ชาเขียว สาหร่าย สนนราคากล่องละ 205-490 บาท รวมกว่า 119 รายการ

 

รวมทั้งจัดโปรโมชั่น “คนไทยไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้ #NoFlightsNoWorries พิเศษเฉพาะวันนี้-7 กันยายน 2563 สำหรับคนที่อยู่ใกล้หรือเดินทางไปเที่ยวพัทยากับภูเก็ตช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์นี้ สามารถเลือกรับคูปอง นำไปใช้เป็นส่วนลดสาขา พัทยา และภูเก็ต คูปองคุ้มสุด ๆ 3 ประเภท ดังนี้

 

1.ช้อป 1,000 บาท รับคูปองส่วนลดมูลค่า 500 บาท 2.ช้อป 2,000 บาท รับคูปองส่วนลดมูลค่า 1,000 บาท 3.ช้อป 3,000 บาท รับคูปองส่วนลด 1,500 บาท  คนละ 1 สิทธิ์/วัน โดยคูปองจะหมดอายุภายในวันที่แลกรับเท่านั้น

 

ข่าวที่ 3 ททท.ปลุกเที่ยวสเตรทฟรีเฟสติวัลแอทเขาใหญ่5-6ก.ย.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนท่องเที่ยววันหยุดยาวงาน Stress Free Festival @เขาใหญ่ ภายใต้แนวคิด “New Normal Relaxing Time” เพื่อสร้างความสุข ความสนุก ความผ่อนคลายและความสมดุลทั้งทางกายและใจ ส่งเสริมสุขภาพของคนรุ่นใหม่ ซึ่งภายในงานจะพบกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ละลานตากับ ร้านค้าและร้านอาหารกว่า 30 ร้าน พร้อมพาเหรดสินค้า Tailor Made Premium Craft งานคราฟท์ที่รวมความเก๋ ความเท่ เช่น Hame.Studio สร้อยแฮนด์เมด Bangkok Baskets กระเป๋าตะกร้าสาน LuckPin- ลักษณ์พิน ผ้าแปรรูปย้อมสีธรรมชาติ โซนคาเฟ่นั่งชิลล์ ช็อปสินค้าออร์แกนิกส์สด ๆ จากฟาร์มในพื้นที่ ในโซน Organic Valley Farm

 

ร่วมประสบการณ์สัมผัสบรรยากาศสบาย ๆ กลางป่าเขาและมุมรถบ้านถ่ายรูปสุดชิค กิจกรรมโยคะ-พิลาทิสบรรเทาออฟฟิศซินโดรม จาก Yoga by Pop นวดผ่อนคลายจากดิวานา (Divana) ทำนายดวงจากหมอดูชื่อดัง กิจกรรมระเบิดพลัง การแสดงมายากล ร่วมสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช้อปรักษ์โลก ทำภาชนะจากฝาขวดน้ำพลาสติก โดย Precious Plastic Bangkok และผสมถุงหอมปรับอากาศ โดย Artistic Lab

 

ข่าวที่ 4 ททท.จัดใหญ่แคมเปญชนบทที่รักเจาะตลาดซิลเวอร์เอจ5.0

นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ร่วมกับพันธมิตร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคัล จำกัด (มหาชน) ไทยสมายล์ ไทย แอร์เอเชีย เปิดตัวแคมเปญ “ชนบทที่รัก” Silver Age 5.0” ชวนท่องเที่ยว 16 ชุมชนวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ เชิญคนดังหลากหลายอาชพรุ่นใหญ่ทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางท่องเที่ยว เพราะตอนนี้กลุ่มซิลเวอร์เอจเป็นนักท่องเที่ยวที่ทรงพลังด้านการใช้จ่ายเงิน ชอบทำกิจกรรมให้ชีวิตมีสีสันอยู่เสมอ เปสนใจวัฒนธรรมท้องถิ่น เสาะแสวงหาของกิน อาหารพื้นบ้าน โหยหาความเป็นธรรมชาติ ต้องการสัมผัสบรรยากาศชนบท พร้อมการย้อนวันวานไปยังสมัยเด็ก ๆ

 

ดังนั้นโครงการ“ชนบทที่รัก” จึงเชิญกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยวรุ่นใหญ่ “ซิลเวอร์เอจ” จากหลากหลายวงการเข้าร่วมผลักดันแคมเปญนี้ออกเดินทางท่องเที่ยวโปรโมตชุมชน โดยสามารถจองทริปท่องเที่ยวได้ที่ จองทริปไปเที่ยวชนบท www.ชนบทที่รัก.com โดยมีให้เลือกถึง 16 ชุมชน ประกอบด้วย

 

1.กลุ่มวิสาหกิจวนเกษตรดงเย็น สุพรรณบุรี 2.ชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ สมุทรสงคราม 3.ชุมชนแหลมผักเบี้ย (ท่องเที่ยวชุมชนบ้านดอนใน) เพชรบุรี 4.ชุมชนตะเคียนเตี้ย ชลบุรี 5.ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย  ระยอง 6.วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวประแสโฮมสเตย์ ระยอง 7.ชุมชนบ้านโคกเมือง บุรีรัมย์ 8.วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเขมราฐ ลุ่มน้ำโขง อุบลราชธานี

 

9.ชุมชนศิลาเพชรโฮมสเตย์ น่าน 10.ท่องเที่ยวชุมชนปางห้าโฮมสเตย์ เชียงราย 11.โฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง เชียงราย 12.ชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือ เชียงใหม่ 13.กลุ่มชุมชนลีเล็ดนำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ สุราษฎร์ธานี 14.วิสาหกิจกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลมโฮมสเตย์ (บ้านหน้าทับ) นครศรีธรรมราช 15.วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านทุ่งหยีเพ็ง กระบี่ และ 16.วิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์เพื่อการท่องเที่ยวชุมชนตะโหมด พัทลุง

 

พร้อมทั้งร่วมฟินกับศิลปินรุ่นใหม่วันที่ 5 กันยายน นี้ พบกับ Wanyai&Monik และ นนท์ ธนนท์ ส่วนวันที่ 6 กันยายนนี้ Klear และ Scrubb

 

งานนี้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและการจัดงานในรูปแบบ New Normal ตามมาตรฐาน Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยจำกัดจำนวนผู้ร่วมงานวันละ 2,000 คน (จำกัดจำนวนผู้เข้าชมคอนเสิร์ตที่ 300 คนเท่านั้น) และสิทธิ์การจองคิวเข้าร่วมงานได้ทาง Application QueQ วันละ 1,000 คน

 

ข่าวที่ 5 ททท.จันทบุรีชวนเที่ยว”อาสนวิหาร-พายSUB-น้ำตกพลิ้ว”

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจันทบุรี รายงานว่า ทาง “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี” ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้านมัสการและเดินชมภายในได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยแบ่งเป็นรอบให้สอดคล้องกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ ส่วนกิจกรรม "พาย SUP ท่องนที เชื่อมวิถีสองชุมชน" ชุมชนบางสระเก้า-ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว ครั้งที่ 2 ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวสมัครเข้าร่วมเรียบร้อยแล้ว ระหว่างวันที่ 12-13 กันยายน 2563 ซึ่งจะเป็นกิจกรรมที่จะขยายผลต่อยอดกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต

 

ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วเองก็เปิดเล่นน้ำตกได้ ตั้งแต่1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.  ทางอุทยานฯ เน้นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น โดยได้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละรอบไม่เกิน1,435 คน กระจายตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในพื้นที่ดังนี้ ประกอบด้วย 1.ศูนย์บริการฯ 120 คน 2.น้ำตกพลิ้ว 555 คน 3.น้ำตกตรอกนอง 310 คน 4.น้ำตกคลองนารายณ์ 290 คน 5.น้ำตกมะกอก 160 คน

 

นักท่องเที่ยวสามารถจองการเข้าชมล่วงหน้าผ่านแอป QueQ  พร้อมทั้งCheck In และ Check Out ผ่านระบบ ไทยชนะ หรือลงทะเบียนเข้า-ออก ทุกครั้ง  สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เข้าจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเข้าชม

 

ค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท และเปิดให้ชมฟรี เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ และ 60 ปีขึ้นไป และผู้พิการ ส่วนชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท 

 

ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีบริการบ้านพักและลานกางเต็นท์ จองบ้านพัก http://nps.dnp.go.th/    

โทร.039-434528 หรือ 086-3197556

 

ข่าวที่ 6 บางจากจัดยิ่งใหญ่เที่ยวเมืองไทยใช้บางจาก วันนี้-31 ธ.ค.63

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชิญชวนคนไทยเดินทางท่องเที่ยวไทยเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็ง ด้วยโครงการ “เที่ยวเมืองไทย ใช้บางจาก” ตั้งแต่วันนี้- 31 ธันวาคม 2563 โดยมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกเดินทางท่องเที่ยวครบวงจร เพียงเติมน้ำมันและใช้บริการในเครือบางจากแล้วรีบสะสมคะแนนเพื่อแลก Flash Sale เช่น ที่พักสุดหรูราคาหลักร้อย บัตรเติมน้ำมัน ร้านกาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น FURiO บริการล้างรถจากคาร์แคร์ในเครือบางจาก และอื่น ๆ  หรือแสดงบัตรรับส่วนลด เช่น เครื่องดื่มอินทนิลแก้วที่สองลด 50% โรงแรมทั่วไทย สถานที่เที่ยว ร้านค้าและบริการต่างๆ อีกมากมาย

 

พิเศษสุด บางจากได้ออกบัตรสมาชิกใหม่ลายเมืองไทย 4 ภาค วาดโดย กะปิ กราฟิกดีไซเนอร์ชื่อดัง เมื่อสมัครสมาชิกรับบัตรรูปแบบใหม่ได้ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศที่ร่วมรายการ ดูรายละเอียดเพิ่มที่ www.เที่ยวเมืองไทยใช้บางจาก.com

 

ข่าวที่ 7 TCEBอัดฉีด7แพกเกจหนุนไมซ์ไทย-ต่างชาติโกยรายได้แสนล้าน

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ได้จัดงานประจำปีโครงการ “จัดงานทั่วไทย ภูมิใจช่วยชาติ” เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 ณ สยามพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ได้ประกาศเปิดตัว 7 แพกเกจพิเศษ สนับสนุนตลาดในและต่างประเทศ ประกอบด้วย

 

“ตลาดไมซ์ในประเทศ” จัดทำ 3 แพกเกจ 1.“ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” แพ็กเกจการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ (Meetings & Incentives) 2.“ประชุมเมืองไทย ร่วมใจขับเคลื่อนชาติ” แพ็กเกจการจัดประชุมภายในประเทศ (Conventions) 3.“งานแสดงสินค้าในประเทศ นำเศรษฐกิจไทยไปไกลกว่า” แพ็กเกจสำหรับการจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ (Domestic Exhibitions)

 

แพกเกจกระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศมุ่งเน้นจุดเด่นสำคัญเรื่องการสนับสนุนและกระตุ้นให้องค์กรและหน่วยงานจัดกิจกรรมนอกสถานที่ตั้งในสถานที่จัดงาน และที่พักที่มีมาตรฐานและถูกกฎหมาย โดยส่งเสริมการจัดงานหรือกิจกรรมไมซ์ที่กระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจแก่จังหวัดและภูมิภาค หรืองานที่ผลักดันให้เกิดการสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่น การจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจภายในงาน รวมถึงการจัดงานที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์เด่นของพื้นที่ สอดคล้องตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่จัดงานนั้น ๆ 

 

“ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” ทีเส็บสนับสนุนการจัดงานด้วยแพกเกจพิเศษตามเป้าหมาย 4 กลุ่มตลาด ประกอบด้วย  1.“Ease Up” แพ็กเกจการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลนานาชาติ (Meetings & Incentives) 2.“Convene Plus” แพ็กเกจการจัดประชุมนานาชาติ (Conventions) 3.“Re-Energizing” แพ็กเกจการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions) 4.“Thailand Power Up” แพ็กเกจสนับสนุนการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ (Mega Events & World Festivals)

 

แพ็กเกจกระตุ้นตลาดไมซ์ต่างประเทศมีจุดดึงดูดสำคัญ คือ สนับสนุนงานครอบคลุมทุกรูปแบบ ทั้งการจัดงานในรูปแบบปกติ (Face to Face)  การจัดงานรูปแบบปกติร่วมกับออนไลน์ (Hybrid Event) และการจัดงานออนไลน์ (Virtual Event) มุ่งทำการตลาดล่วงหน้า เน้นการรักษางานเดิมที่เคยจัดอยู่ให้ยังคงจัดในประเทศไทย (Existing Shows) รวมถึงการดึงงานใหม่ (New Shows) ให้กระจายไปยังเมืองไมซ์ซิตี้ และเมืองไมซ์ที่มีศักยภาพ พร้อมวางแผนสนับสนุนการนำเสนอบริการเพื่อชูอัตลักษณ์ไทย ตั้งแต่การต้อนรับจากสนามบิน รวมถึงการจัดโปรแกรมไมซ์ในท้องถิ่นและชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างความแตกต่าง ซึ่งเป็นมาตรการ เชิงรุกที่ไทยหวังดึงดูดลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่องไปจนสถานการณ์เอื้ออำนวยแก่การเดินทางระหว่างประเทศในอนาคต             

 

ขณะเดียวกันทีเส็บก็มีแคมเปญ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” เป็นกำลังเสริมด้านงบประมาณจัดงานให้ทุกภาคส่วน เพื่อประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม โดยเปิดกว้างให้ทุกกลุ่มทั้งนิติบุคคล และทั่วไป ขอรับการสนับสนุนเงินจากทีเส็บได้ ตอนนี้ได้เพิ่มการสนับสนุนเงินใหม่ให้อีก 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก องค์กรที่พร้อมจัดงานคอนเว็นชั่นขนาด 100 คนขึ้นไป/ครั้ง ทีเส็บจะสนับสนุนเงินจัดงาน 50,000 บาท/ครั้ง เช่น องค์กรด้านการแพทย์ ด้านนวัตกรรม กลุ่มที่ 2 จัดเอ็กซิบิชั่น แสดงสินค้าต่าง ๆ ในขนาดพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป/ครั้ง ทีเส็บจะสนับสนุนเงิน 500,000-800,000 บาท/ครั้ง โดยเน้นงานที่จัดในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพฯ   อาทิ งานแสดงสินค้าทางด้าน อาหาร ชา กาแฟ ผลิตภัณฑ์ ศิลปกรรม ผ้า และอื่น ๆ  ส่วนงานขนาด 3,000 ตารางเมตรขึ้นไป/ครั้ง จะสนับสนุนเป็นวงเงิน 1 ล้านบาท/ครั้ง

 

สอดคล้องกับการขยายโครงสร้างทีเส็บที่ได้จัดตั้งสำนักงาน 4 ภาค เหนือ ใต้ อีสาน ภาคตะวันออก แต่ละงานจะเน้นให้เกิดการเจรจาธุรกิจหรือ Business to Business : B to B

 

                ช่วงที่ 2 วันหยุดยาวต้อนรับกันยายนนี้ แนะนำให้ไป More Fun ขับรถท่องเที่ยวภาคตะวันออก 4 จังหวัด “ผจญภัยในนครนายกกับปราจีนบุรี-เที่ยวทะเลระยองกับพัทยา” สนุกสุขแนววิถีใหม่ ทางด้าน “โรงพยาบาลอภัยภูเบศร” นำฟ้าทละลายโจร ย้ำเพิ่มภูมิคุ้มกันโควิด-19 ไปพบกันได้ที่เมืองทองธานี 4-6 ก.ย.นี้ ส่วนข่าวร้อน ๆ “รัฐแจกอีกรอบคนละ 3,000 บาท” โปรเจ็กต์ “คนละครึ่ง” สมัครก่อนได้ก่อน 15 ล้านคนแรก และ “โชว์โลมาภูเก็ต” ลด 30% หวังโกยรายได้วันหยุด 4-7 ก.ย.นี้

 

More Fun!!4จังหวัดนครนายก-ปราจีน-เช็คอินทะเลระยอง/พัทยา

วันหยุดพักผ่อนยาว ๆ ต้อนรับเดือนกันยายน 2563 นี้ ไม่ต้องรีรออีกแล้ว วางแผนออกเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยกันดีกว่า ตั้งเข็มทิศมุ่งหน้าไป More Fun ตะวันออก” กับภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทุกสำนักงานพร้อมเสิร์ฟความสุขชวนสนุกเลือกได้ตามสไตล์ความชอบกับกิจกรรมที่ท่องเที่ยวชีลสบาย ๆ ใน 4 จังหวัด “นครนายก-ปราจีนบุรี-ระยอง-พัทยา (ชลบุรี)

 

@ทัวร์ผจญภัยหน้าฝนแบบโดนๆใน“นครนายก-ปราจีนบุรี”

 

 

ชื่นชอบความสนุกในสไตล์ “ท่องเที่ยวเชิงผจญภัยหน้าฝน : Green Season กับธรรมชาติป่าเขาสีเขียวขจี แนะนำเส้นทาง “นครนายก” กับ “ปราจีนบุรี” ทั้ง 2 จังหวัดขึ้นชื่อเมืองแห่งการ “ล่องแก่ง” ระดับความท้าทายที่ต้องลอง กับกิจกรรม “ขับรถเอทีวี” ลัดเลาะเนินเขาตลุยแอ่งน้ำอย่างปลอดภัย พร้อม ๆ กับการร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม (CSR) ปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ก็จะยิ่งมีความสุขแบบเต็ม ๆ ในการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมแถมยังช่วยเหลือชุมชนไปพร้อม ๆ กัน

 

“นครนายก” ช่วงฤดูฝนปีนี้น้ำในเขื่อนกำลังดีเหมาะจะชวนเพื่อนฝูง ครอบครัว ไปล่องแก่ง “สกล ทองคำ” ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครนายก แนะนำให้ลองเลือกซื้อแพกเกจจากทาง “สาริกา แอดเวนเจอร์ พอยต์” บริษัทตัวแทนนำเที่ยวระดับแถวหน้าของนครนายกผู้ให้บริการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยแบบครบวงจร สะดวก ปลอดภัย ทำแพกเกจรวมขายในราคาเหมาะสม มีทั้ง “ล่องแก่งเรือยาง” ล่องแม่น้ำนครนายกระยะทาง 6 กม.ใช้เวลา 1-1.30 ชั่วโมง สองข้างทางจะได้ชมธรรมชาตินาข้าวกับวิถีชีวิตที่พักรีสอร์ตสลับกันไป ต่อด้วย “ล่องแก่งพายคายัค” ล่องแม่น้ำนครนายกแล้วไปโรยตัวจากหน้าผาต่อที่ “เขาหล่น” ความสูง 17 เมตร ความยาว 100 เมตร หรือจะเลือก “เดินป่าดูนก” ศึกษาธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และทำกิจกรรมผจญภัยแบบเรียบง่าย “ขับรถเอทีวี” ลัดเลาไปตามเส้นทางออฟโร้ดเนินเขาเตี้ย ๆ กับแอ่งน้ำธรรมชาติ ราว 1 ชั่วโมง ปิดท้ายกับกิจกรรมโดนใจวัยรุ่น “เพ้นท์บอล” สนุกกับเกมความสนุกสนานท้าทายความสามารถที่จะเล่นด้วยกันเป็นทีมอย่างตื่นเต้น เร้าใจ ได้ใช้ไหวพริบชิงธงแห่งชัยชนะมาเป็นของเหล่านักรบเพ้นท์บอล

 

“ปราจีนบุรี” มีกิจกรรมไฮไลต์ “ล่องแก่งหินเพิง” ตรงบริเวณตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งท้าทายความสนุกระดับ 3-5 ของประเทศ สามารถล่องไปเรื่อย ๆ สุดมันกับ 7 แก่งยอดนิยม บนเส้นทางจากแหล่งต้นน้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

 

สถานที่ห้ามพลาดต้องแวะชมคือ “ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” ตรงบริเวณถนนปราจีนอนุสรณ์ ตำบลท่างาม อำเภอเมือง ศูนย์รวมภูมิปัญญาพื้นบ้านสมุนไพรไทย สามารถเดินชมนิทรรศการแสดงเรื่องราวของสมุนไพรไทยในอาคารพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร แบ่งเป็น 2 ชั้น แล้วร่วมกิจกรรมสมุนไพร แล้วลองเลือกรับประทานอาหารเมนูสุขภาพได้ที่ร้านอาหารในตึกได้ ทางร้านคัดสรรจานเด็ดสไตล์กินอยู่เป็นไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่วนผู้ที่ชื่นชอบใช้ผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม ครีมบำรุงผิวพรรณ แนะนำให้เดินตรงไปยังช้อปชั้น 1 อยู่ในโซนอาคารโรงพยาบาลอภัยภูเบศร

 

ส่วนนักท่องเที่ยวสายบุญ ต้องไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 2 แห่ง คือ แห่งแรก “วัดแก้วพิจิตร” ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง เป็นวัดสำคัญประจำเมืองปราจีนบุรี ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำปราจีนบุรี มีสถาปัตยกรรมอุโบสถอันโดดเด่นผสมผสานของหลายเชื้อชาติ ระหว่างศิลปะไทย จีน ยุโรป กัมพูชา ฝาผนังอุโบสถทำโดยช่างหลวง ในรัชกาลที่ 6 ผนังด้านนอกมีภาพปูนปั้นร้อยเรียงเรื่องราวรามเกียรติ์ ส่วนผนังภายในก็มีภาพวาดบนแผ่นผ้าเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น ทศชาติชาดกมารผจญ ภายในวัดแก้ววิจิตร ยังมีหอพระไตรปิฎก ศาลาตรีมุกอยู่ตรงท่าน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถลงไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้ อากาศร่มรื่นเย็นสบาย

 

แห่งที่สอง “วัดแจ้ง” เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในตำบลหน้าเมืองเช่นกัน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 มองไกล ๆ เห็นสัญลักษณ์สถาปัตยกรรมภายในวัดคล้ายพระธาตุพนม เป็นวัดเก่าแก่ มี “หลวงพ่อเพชร” พระพุทธรูปศักดิสิทธิ์ที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพร ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารล้านนา เมื่อมาถึงปราจีนบุรีแล้วก็แวะกราบสักการะได้ตลอดทุกวัน

 

ทั้ง “นครนายกและปราจีนบุรี” เป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยมีความโดดเด่นที่หลากหลายด้านอื่น ๆ มาเสริมชวนให้น่าเดินทางไปท่องเที่ยวทุกเวลา

 

@More Fun!!ทะเลอ่าวไทยสวยจริง“ระยอง-พัทยา/ชลบุรี”

 

ข้ามฟากไปยังแหล่งท่องเที่ยวริมทะเลใน “ระยอง” กับ “พัทยา” และชลบุรี เป็น More Fun อีกสไตล์ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันความสนุกของทะเลอ่าวไทยยามนี้ธรรมชาติฟื้นตัว สัตว์ทะเลกลับคืนถิ่น ฟองคลื่นสงบ หาดทรายขาวสะอาด ต้องมาสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ แบบนี้กันสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าเมืองไทยน่าเที่ยวจริง ๆ

ท่องเที่ยว “ระยอง” ฤดูฝนนี้ชวนบุกขึ้น “เกาะเสม็ด” ถึงจะเป็นแหล่งพักผ่อนในเขตอำเภอเมือง ซึ่งมีระยะทางห่างออกไปราว 100 กม.ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด “อัครวิชย์ เทพาสิต” ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานระยอง ยืนยันว่าเกาะเสม็ดเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีเรือสปีดโบ๊ทขนาดใหญ่ ตอนนี้ชายหาดทรายขาวเนียนละเอียดดุจเนื้อแป้งเป็นธรรมชาติ อาหารทะเลสดด้วยประมงพื้นถิ่น ราคาไม่แพง

ด้วยลักษณะของเสม็ดเป็นเกาะทรงยาวเหนือลงใต้ มีฐานเกาะอยู่ทางทิศเหนือหันเข้าฝั่งทางบ้านเพ ทำให้มองเห็นภูเขาทอดตัวซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก บริเวณปลายแหลมด้านใต้เป็นเกาะหินล้วน ๆ คือ เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม เกาะหินขาว เป็นแหล่งวางไข่ของนกนางนวล ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมไปพักผ่อนบริเวณหาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าววงเดือน อ่าวพร้าว อ่าวขาม กิจกรรมยอดฮิตก็มี ดำน้ำตื้น น้ำลึก แถวบริเวณเกากุฎี หรือจะไปชมศูนย์วิจัยและพัฒนาประมง และอื่น ๆ

 

ขณะเดียวกันก็มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติให้เลือกมากมายในหลายพืนที่ ไม่ว่าจะเป็น เขาชะเมา อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ส่วนใหญ่นักถ่ายภาพจะนิยมไปบันทึกภาพทะเลหมอกยามเช้าสวยงามมาก

 

ส่วนทะเล “พัทยา” โอกาสทองของคนไทยจะได้สูดไอทะเลแบบจุใจกับแหล่งท่องเที่ยวฮิตฮ็อต “เกาะล้าน” อำเภอบางละมุง  มาเที่ยวกันเลย มีบริการเรือโดยสารประจำทางตรงท่าเรือแหลมบาลีฮาย ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ก่อนหน้านี้เกาะล้านจะคราคร่ำด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีน ทว่าตอนนี้แต่ละหาดเงียบสงบ รอต้อนรับนักเดินทางในประเทศ โดยเฉพาะหาดยอดนิยม อันดับต้น ๆ “หาดตาแหวน” เป็นจุดจอดเรือและลงเล่นน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ฟ้าอมเขียวสะท้อนกับแสงแดดสดใสมาก หรือจะเป็น “หาดแสม” น้ำใสเหมือนกระจกสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ใต้น้ำชัดแจ๋ว บนเกาะล้านยังมีอีกหลายหาดให้เลือกพักผ่อน เช่น หาดนวล หาดเทียน หาดสังวาลย์ แต่ละหาดจะมีบรรยากาศแตกต่างกันไป ชอบสไตล์ไหนก็เลือกไปพักผ่อนในแบบที่ใช่ตัวเราได้ทุกวัน

 

“ปิ่นนาถ เจริญผล” ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพัทยา เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทะเลพัทยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับดึงดูดทั่วโลกเดินทางเข้ามาปีละมากมาย ตอนนี้คนไทยมีโอกาสแล้วรีบมาเช็คอินกันได้เลย อีกทั้งตอนนี้ ททท.พัทยาจับมือกับแอพลิชั่นดัง shopee ทำโปรโมชั่นสุดคุ้มแบบโดน ๆ กับแคมเปญ TAT Hot Deal @Pattaya & Chonburi แค่คลิกเดียวบนมือถือ ระหว่างวันนี้ไปจนถึง 15 กันยายน 2563 รับทันทีส่วนลดสูงสุดถึง 50 % จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วเมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี ลดทั้ง ห้องพัก โรงแรม/รีสอร์ต อาหารการกินตามร้านอาหารดัง ร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก สปาผ่อนคลายสุขภาพ

 

อภัยภูเบศรแนะฟ้าทลายโจรเพิ่มคุ้มกันสู้ไวรัสโควิด-19ได้

 

โรงพยาบาลอภัยภูเบศร นำผลวิจัยล่าสุด ฟ้าทะลายโจรช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันสู้ไวรัส โควิด-19 ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ มีฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรียดื้อยาฉวยโอกาสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ได้ร่วมจัดนิทรรศการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อโปรโมทงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ระหว่างวันนี้-6 กันยายน ณ อิมแพคเมืองทองธานี มีสมุนไพร "ฟ้าทะลายโจร" มานำเสนอ ภายหลังจากที่มีงานวิจัยจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกชี้ชัดอาจมีศักยภาพในการรักษาโรคโควิด-19

 

พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ย้ำว่า จากงานวิจัยสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่พบการใช้ฟ้าทะลายโจรอาจมีศักยภาพในการรักษาโควิด-19 ไม่มีการศึกษาเรื่องฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ทาง โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจึงได้มีการรวบรวมองค์ความรู้ตำรับยาพื้นบ้านมีการใช้ ฟ้าทะลายโจร กับพริกไทยดำ กินเพื่อป้องกันหวัดมานาน โดยปรับสัดส่วนพริกไทยตามความร้อนเย็นของร่างกาย อาจจะกินฟ้าทะลายโจรอย่างเดียวหากร่างกายร้อนมาก

 

ล่าสุดพบผลการศึกษาที่น่าสนใจสรุปได้คือ 1.สารสกัด ฟ้าทะลายโจรและสารสกัดพริกไทยดำมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัส 2.ฟ้าทะลายโจรและสารสกัดพริกไทยมีศักยภาพในการยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส 3.มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ โดยสามารถยับยั้งการสร้าง IL-6 ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบจากเชื้อ SAR-CoV-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของโควิด-19 และ 4. มีฤทธิ์ทำลาย เชื้อแบคทีเรียดื้อยาฉวยโอกาสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ

 

ข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก รัฐแจกอีกแล้วโปรเจ็กต์”คนละครึ่ง”4.5หมื่นล้าน15ล้านคน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หรือ ศบศ. เห็นชอบเร่งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาและสรุปรายละเอียดมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ มาตรการส่งเสริมการจ้างงานสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 260,000 อัตรา มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการบริโภค และช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยทั่วไปโดยรัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่ายให้ประชาชน 15 ล้านคน และกลุ่มร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการโดยมุ่งเน้นไปที่ร้านค้ารายย่อย หาบเร่ แผงลอย 80,000 แห่ง ผ่านกลไกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล 

จากนั้นนายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า มติที่ประชุม ศบศ. เห็นชอบให้ประกาศทำโครงการ คนละครึ่ง” ลักษณะคล้ายชิมช้อปใช้ โดยจะใช้เงินจากพรบ.เงินกู้จำนวน 45,000 ล้านบาท เข้ามาดำเนินงานตลอดโครงการ

 

เบื้องต้นประกาศใช้หลักเกณฑ์ผู้มีสิทธิ์รับเงินดังกล่าว ดังนี้ 1.มีสัญชาติไทย 2.อายุ 18 ปีขึ้นไปโดยจำกัดไว้เพียง 15 ล้านคน ต้องสมัครเข้าร่วมโครงการแบบใครมาก่อนได้ก่อน รัฐจะให้เงินคนละไม่เกิน 3,000 บาท ให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังของธนาคารกรุงไทย

Mgid

พร้อมทั้งระบุให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้มี 3 กลุ่มหลัก คือ  1.ร้านค้าทั่วไป 2.หาบเร่ 3.แผงลอย ที่เป็นรายย่อย

 

เงื่อนไขการใช้จ่าย 1.ใช้ได้ไม่เกินวันละ 100-250 บาท โดยรัฐจ่ายให้ครึ่งหนึ่ง 2.ครอบคลุมอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้า ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่ 3.ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค. - ธ.ค. 2563

 

ข่าวที่สอง โชว์โลมาภูเก็ตอัดแคมเปญลด30%หวังโกยหยุดยาว4-7ก.ย.นี้

 

โชว์โลมาภูเก็ตชวนมาฉลองวันหยุดยาว ว่ายน้ำกับโลมาลดสุดพิเศษ มาว่ายน้ำกับโลมากันลดพิเศษ 30% เหลือเพียงท่านละ 2,450- เปิดบริการว่ายน้ำกับโลมา วันที่ 4-7 กันยายนนี้ เวลา 10:00, 13:00 และ 16:00 น. แนะนำให้จองเวลาล่วงหน้าก่อนเข้าชม

 

ขณะที่การแสดงโชว์โลมา และแมวน้ำแสนรู้ เตรียมจะเปิดให้ชมได้ตั้งแต่ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อให้ได้รับความสุขกับการเข้าร่วมกิจกรรม แนะนำให้จองว่ายน้ำกับโลมาล่วงหน้าได้ที่โทร. 061 8235895 หรือ 099 3137666 FB:Dolphins Bay Phuket/โชว์โลมา ภูเก็ตIG:dolphins_bay_phuket

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai