ททท.โชว์พลังตราสัญลักษณ์SHAทำเงินกระจายสู่ธุรกิจทั่วไทย "ฐาปนีย์"นำทีมจัด"เที่ยวไทยมั่นใจไปกับSHA"ครั้งที่2ปลายปี'63
ททท.โชว์พลังตราสัญลักษณ์SHAทำเงินกระจายสู่ธุรกิจทั่วไทย
"ฐาปนีย์"นำทีมจัด"เที่ยวไทยมั่นใจไปกับSHA"ครั้งที่2ปลายปี'63
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #ทททด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว #เที่ยวไทยมั่นใจไปกับSHA
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เกาะติดพลังท่องเที่ยว SHA กับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตลุยขยายผลโปรเจ็กต์ “Amazing Thailand Safty & Health Administration : SHA” ลั่น “ต.ค.หรือ พ.ย.63” นี้ ระดมธุรกิจท่องเที่ยวเฮขายต่องาน “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” ครั้งที่ 2 เพิ่มเป้าธุรกิจสมัครรับตรามาตรฐานปี’63 ทะลุ 1 หมื่นราย พ่วงแพกเกจ Working Thailand เจาะกำลังซื้อเทรนด์จัดงานนอกสถานที่ 3 กลุ่มใหญ่ “Working-Outing- Meeting” พร้อมขานรับนโยบายนำร่องเปิดตลาดนำเข้าต่างชาติผ่าน “วีซ่าพิเศษ STV” มั่นใจ “ศบค.”ทำอย่างรัดกุมเข้มทุกมาตรการ ชิมลางรับมหาเศรษฐีโลกจำกัดช่องทางเข้าออกเฉพาะเช่าเหมาลำกับเครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า โครงการ “Amazing Thailand Safty &Health
Administration : SHA :ตรามาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย”
ขณะนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก ในญี่ปุ่นประกาศเรื่องมาตรการ SHAของไทยเป็นโมเดลต้นแบบที่ดีมากเพราะทุกธุรกิจใส่ใจแนวทางปฏิบัติร่วมกันอย่างเข้มแข็ง
รวมทั้งอีกหลายประเทศในทวีปยุโรปต่างก็ให้ทางสำนักงาน
ททท.ส่งรายชื่อผู้ประกอบการเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลเลือกใช้บริการตอนเริ่มเปิดประเทศ
ส่วนผลสัมฤทธิ์ในประเทศที่
ททท.สามารถประมวลได้จากการนำร่องจัดมหกรรมส่งเสริมการขายรายการแรกโครงการ
“เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA”
เมื่อวันที่ 11-13 กันยายน 2563
ณ สามย่าน มิตรทาวน์ ชั้น 5 มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั่วประเทศที่ได้รับตราสัญลักษณ์
SHA นำสินค้ามาขาย 102
บูธ กับพันธมิตรขนาดใหญ่อีก 6
บูธ เช่น
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามสันเขื่อนที่อยู่ในความดูแลทั่วประเทศ
กลุ่มไวตามิลค์จัดกิจกรรมท่องเที่ยวให้ลูกค้า สถาบันการเงิน ธนาคารต่าง ๆ
ทั้งไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา และตุ๊กตุ๊กรถไฟฟ้า
ต่างก็เข้ามาร่วมงานครั้งนี้พร้อมหน้ากัน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ริเริ่มจัดครั้งแรกงาน "เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA" ครั้งที่ 1
ระหว่าง 11-13 ก.ย.2563 ณ สยามย่าน มิตรทาวน์ ชั้น 5 ภาคธุรกิจโกยรายได้รวมได้กว่า 13 ล้านบาทขึ้นไป
ตลอดงาน
“เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” เมื่อวันที่ 11-13
กันยายน 2563 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งหมดสามารถทำยอดขายโดยตรงจากงานได้มากถึง
13 ล้านบาท
แล้วยังมีกำลังทยอยปิดการขายเพิ่มอีกมูลค่าหลายล้านบาท โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 10,000
คน
ระหว่างการจัดงาน
ททท.นำแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยเข้าไปใช้อย่างจริงจังทั้งกับกลุ่มผู้ประกอบการจะต้องได้รับตราสัญลักษณ์มาตรฐาน
SHA อย่างถูกต้อง
ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเดินซื้อสินค้าก็จะต้องสวมหน้ากากอนามัย
เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งคำนวณปริมาณคนแต่ละช่วงเวลาจะต้องเป็นไปตามกฎของกระทรวงสาธารณสุขไม่แออัดหรือแน่นจนเกินไป
หลังจากจัดงานเสร็จสิ้นลงก็มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวแสดงความเห็นขอให้
ททท.จัดงาน “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA”
ครั้งต่อไป ซึ่งจากการประเมินโครงการจัดงานส่งเสริมการขายครั้งแรกพบว่าบูธที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษคือ
“ห้องพักโรงแรม” เกือบ 80 % รองลงมาเป็น
“บัตรกำนัลอาหาร” ร้านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ มียอดขายสูงมาก ลำดับต่อไปคือ
“แพกเกจล่องเรือยอร์ชเที่ยวทะเล”
เพราะคนไทยคุ้นเคยกับการนั่งยอร์ชเที่ยวทะเลภาคตะวันออก พัทยา ตราด ภาคใต้ ภูเก็ต
กระบี่ พังงา สมุย ตรัง “แพกเกจสปา” ก็ทำยอดขายได้จำนวนมาก
ดังนั้น
ททท.จะเปิดตลาดนัดจัดงานส่งเสริมการขาย “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” ครั้งที่ 2 โดยประกาศล่วงหน้าให้โอกาสผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทะเบียนก่อนจะได้รับสิทธิ์ก่อน
(First com First Serve) กับธุรกิจ 10 ประเภท เตรียมจัดช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563
อีกทั้ง “ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ”
ตอบรับจะให้สถานที่จัดงาน เนื่องจากหลายห้างสรรพสินค้าได้รับตราสัญลักษณ์ SHA
แล้วด้วยเช่นกัน
สำหรับรูปแบบการขายสินค้า
“เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA”
ครั้งที่ 2 อาจจะผนวกแพกเกจในโครงการเชื่อมโยง
เช่น Workation Thailand :การทำงานไปพร้อมกับการเดินทาง
ซึ่งจะมีแพกเกจวางตลาดให้กลุ่มสัมมนา ทำ working, Outing meeting จึงจะรณรงค์พร้อมกับกระตุ้นให้หันมาใช้สถานที่ที่ได้รับตราสัญลักษณ์
SHA เป็นหลัก
ททท.ได้ขยับเป้าหมายเชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้ามาร่วมสมัครรับตรามาตรฐาน
SHA ตลอดปี 2563
ให้ได้ถึง 10,000 ราย
เพราะมีสัญญาณที่ดีตอนนี้มีผู้สมัครพร้อมได้รับตรามาตรฐานไปเรียบร้อยแล้วเกินกว่า 5,000
ราย ขณะนี้กำลังเข้าคิวรอตรวจรายละเอียดอยู่อีกจำนวนหลายพันราย
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า
“ชุมชน” ก็เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่ ททท.สนับสนุนเข้าร่วมรับตรามาตรฐาน SHA โดยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(อพท.) จะทำหน้าที่ตรวจประเมินชุมชนทั่วประเทศ นำเกณฑ์มาตรฐานการท่องเที่ยวชุมชน CBT
:Community Based Tourism
เข้ามาใช้อย่างเป็นระบบ ขณะนี้มีหลายชุมชนได้รับตราสัญลักษณ์ SHA บ้างแล้ว ตัวอย่าง “ชุมชนบ้านแหลม”
จังหวัดสุพรรณบุรี นำสินค้าเข้ามาร่วมขายในงาน “เที่ยวไทย มั่นใจไปกับ SHA” ครั้งที่ 1 ประสบความสำเร็จอย่างมากได้เงินไปพอสมควร
ส่วนบริษัทตัวแทนนำเที่ยวได้ปรับกลยุทธ์การผลิตแพกเกจ
คัดเลือกสถานประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับตรามาตรฐาน SHA
แล้วสมัครเข้ามาบริษัทท่องเที่ยวเหล่านี้ก็จะได้รับตราสัญลักษณ์การรับรองไปโดยอัตโนมัติด้วย
ปี 2564
ในสถานการณ์แบบนี้มาตรการสาธารณสุขยังคงต้องนำมาใช้อย่างเข้มข้นต่อไปถึงจะพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 และมีวัคซีนรักษาแล้วก็ตาม
การเดินหน้าสร้างมาตรฐานตราสัญลักษณ์ SHA ยังคงต้องทำต่อไป
เพราะตอนนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศต่างก็ตื่นตัวกับโครงการนี้
นำออกมาโชว์ไว้เปรียบเสมือนเป็นตราเทียบชั้นได้กับ “มิชลินสตาร์”
สร้างความภูมิใจให้ ททท.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข
รวมทั้งขอบคุณผู้ประกอบการทั้งหมดที่ร่วมมือกันทำอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน
ททท.สำนักงานทั่วโลก ก็จะใช้ตรามาตรฐาน SHA เป็นเครื่องมือบุกตลาด
ตอบสนองความต้องการของซัพพลายเออร์ ผู้ค้าส่งท่องเที่ยวนานาชาติ ตั้งแต่ปลายปี 2563
เป็นต้นไป
นางสาวฐาปนีย์
กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมขานรับนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ หลังมติคณะรัฐมนตรี
(ครม.) วันที่ 16 กันยายน 2563
ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
เห็นชอบให้ประเทศไทยประกาศใช้ Special Tourist Visa :STV ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ทางศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) อนุมัติให้ผ่อนปรนชาวต่างชาติเข้าไทยได้ 4
กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มจัดแสดงสินค้า 2.กลุ่มเข้ามารักษาสุขภาพ 3.กลุ่มถ่ายทำภาพยนต์ 4.กลุ่มสมาชิกบัตรอีลิตการ์ด
ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับ วีซ่าพิเศษ STV
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปก็จะได้เห็นแสงสว่างการนำเข้านักท่องเที่ยวต่างประเทศภายใต้เงื่อนไขเฉพาะกลุ่ม
“พรีเมี่ยมพำนักระยะยาว :Premium Longstay”
มาใช้จ่ายเงินสูง พักในไทยระยะยาว
กระบี่เป็นอีกจังหวัดที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้การรับรองตราสัญลักษณ์ SHA ที่นำแพกเกจมาขายในงาน "เที่ยวไทย มั่นใจไปกับSHA"ของ ททท.แล้วประสบความสำเร็จทำยอดขายได้สูงเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยเช่นกัน
โครงการ วีซ่าพิเศษ -STV
นั้น
ททท.ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
เพื่อทดลองสร้างต้นแบบการตลาดนำเข้าชาวต่างชาติ โดยมี ศบค.เป็นศูนย์กลางดำเนินการอย่างรัดกุมทั้งหลักปฏิบัติและเหตุผล
ร่วมกันทดสอบถึงประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้นดีหรือไม่อย่างไร
เบื้องต้นกำหนดเข้มงวดกับกลุ่มต่างชาติที่จะให้ผ่านเข้ามาได้คือ
1.จะต้องดำเนินการผ่านบริษัทตัวแทนนำเที่ยว
2.เดินทางด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ
(Charter flight)
หรือเที่ยวบินส่วนตัว (Private Jet)
เท่านั้น 3.มาจากประเทศต้นทางโดยแวะผ่านประเทศใดก่อนมาถึงไทย
4.แต่ละเที่ยวบินจะต้องไม่เกิน
100 คน 5.เข้ามาได้สัปดาห์ละไม่เกิน 3 เที่ยวบิน 6.เฉลี่ยแต่ละเดือนจะเข้ามาได้ไม่เกิน 1,200
คน ดังนั้นจึงมั่นใจทุกฝ่ายจะร่วมมือกันบริหารจัดการได้ดี
ทุกคนที่เดินทางเข้ามาจะต้องยินยอมทำตามเงื่อนไขภายใต้แนวทางปฏิบัติอันเข้มข้นตามมาตรฐานความปลอดภัยของสาธารณสุขประเทศไทยนั่นคือ
1.ต้องเข้ากักตัว
14 วัน State
Qualantine :SQ หรือ
กักตัวตามทางเลือกตามสถานที่ในท้องถิ่นที่ผ่านมาตรฐานเรียบร้อยแล้วในลักษณะ Local
Alternative State Qualantine :LASQ ซึ่งตอนนี้ในกรุงเทพฯ มี 60 แห่ง ส่วนต่างจังหวัด มีในภูเก็ต ชลบุรี
บุรีรัมย์
โดยสรุปแล้วทุกภาคส่วนนำโดย
ศบค.ซึ่งทางพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เน้นให้ความสำคัญมากที่สุดเรื่องการปฏิบัติด้านการนำเข้านักเดินทางต่างประเทศที่ได้รับสิทธิ์วีซ่าพิเศษอย่างรัดกุมมากที่สุด
ส่วนการป้องกันก็ต้องทำเข้มข้นไปด้วยกัน
ขณะเดียวกัน ททท.ก็จะเดินหน้าเชิงรุกนำตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHA สร้างพลังให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้ตอกย้ำความเชื่อมั่นในความปลอดภัยด้านสุขอนามัยโด่งดังไปทั่วไทยและทั่วโลกต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น