ททท. “มุมไบ-นิวเดลี”เปิดข้อมูลตลาดอินเดียรอเที่ยวไทยปี’65 โชว์โทมัสคุ้กโพลล์-ชาเตอร์ไฟลต์พร้อม-รุก3ตลาดศักยภาพสูง
ททท. “มุมไบ-นิวเดลี”เปิดข้อมูลตลาดอินเดียรอเที่ยวไทยปี’65
โชว์โทมัสคุ้กโพลล์-ชาเตอร์ไฟลต์พร้อม-รุก3ตลาดศักยภาพสูง
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #ทททมุมไบนิวเดลลี #อินเดียเที่ยวไทย
นางสาวชลดา สิทธิวรรณ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานมุมไบ
ททท.อินเดีย 2 สำนักงาน “มุมไบ-นิวเดลี” ตั้งเป้าปี’65 นำเข้านักท่องเที่ยวลุ้น เปิดตลาดไตรมาส 4 ต.ค.-ธ.ค.64 พร้อมรุกเจาะ 3 กลุ่มศักยภาพ “กอล์ฟ-คู่แต่งงาน-มิเลนเนียล” นำร่องบินเช่าเหมาคาดมาได้ 4,200 คน สร้างรายได้เข้าไทยกว่า 187 ล้านบาท ยืนยัน “โทมัส คุ้ก” ทำผลสำรวจเดือนมิ.ย.64 ผู้ตอบในอินเดีย 94% ยืนยันเลือกเที่ยวเมืองไทยแน่นอน หลังรัฐบาลปูพรมกระจายฉีดวัคซีนทั่วอินเดีย 600 ล้านโด๊ส
นางสาวชลดา สิทธิวรรณ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานมุมไบ และนายวชิรชัย สิริสัมพันธ์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานนิวเดลี ร่วมกันเปิดเผยว่า สถานการณ์การรระบาดของโควิด-19 ในอินเดียมีแนวโน้มดีขึ้น เริ่มผ่อนคลายมาตรการจากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและมีอัตราผู้รักษาหายสูงขึ้น โดยเฉพาะเมืองนิวเดลีและมุมไบ เนื่องจากมีความพร้อมกระจายผลิตวัคซีน เวชภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ปัจจุบันชาวอินเดียยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูง โดยมีแรงจูงใจหลักจาก 3 ปัจจัย 1.เดินทางระยะใกล้ 2.ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) 3.ชาวอินเดียฉีดวัคซีนหลัก 2 ชนิด ได้แก่ Covishield และ Covaxin เริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม 2564 ให้ประชาชนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เฉลี่ยวันละ 5 ล้านโดส รวมทั้งได้กระจายวัคซีนไปแล้วกว่า 600 ล้านโดส มีประชากรได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 10.3 % ของทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลอินเดียคาดจะฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุในเมืองใหญ่อย่างนิวเดลลีและมุมไบ ครบ 100% ภายในเดือนตุลาคม 2564
ปี 2565 ททท. ยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มตลาดอินเดียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางครั้งแรก (First Mover) ได้แก่ กลุ่มศักยภาพ กอล์ฟ คู่แต่งงาน (Wedding) และคนรุ่นใหม่ (Millennials) ที่ได้รับวัคซีนครบแล้วจากเมืองหลัก ตามประมาณการณ์หากไตรมาส 4 ช่วง 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2564 เมื่อศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) มีมติผ่อนคลายเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวและมีเที่ยวบินพาณิชย์กลับมาบินใน 6 เมืองหลัก ได้แก่ นิวเดลี มุมไบ กัลกัตตา เชนไน ไฮเดอราบัด และบังกะลอร์ สัปดาห์ละ 1 เที่ยว เที่ยวบินละ 250 ที่นั่ง รวม 14 สัปดาห์
เมื่อพิจารณาจากขีดความสามารถของที่นั่งโดยสาร (Seat
Capacity) จะทำให้มีนักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยได้ประมาณ 21,000 ที่นั่ง สร้างรายได้ราว 938,448,000 บาท หากไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ แต่ใช้วิธีจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ
(Charter flight) สัปดาห์ละ 1 ครั้ง จาก 2 เมืองหลัก นิวเดลีและมุมไบ
เที่ยวบินละ 150 ที่นั่ง รวม 14 สัปดาห์ จะมีอินเดียมาไทย 4,200 คน
สร้างรายได้ประมาณ 187,689,600
บาท
ระหว่างนี้ ททท.พยายามผลักดันโดยพิจารณา 3 ปัจจัย ได้แก่
1. นักท่องเที่ยวอินเดียยังคงต้องการเดินทางท่องเที่ยวไทย โดยการสอบถามเกี่ยวกับมาตรการเข้าประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ
2.มาตรการการเดินทางเข้า-ออกอินเดีย มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน สามารถเดินทางออกนอกประเทศและกลับเข้ามาในประเทศได้ตามมาตรการควบคุมโรค ซึ่งกำหนดให้รายงานตัวผ่านระบบออนไลน์ แสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง และขอความร่วมมือสังเกตอาการตนเอง (Self Monitoring) เป็นเวลา 14 วัน
3. ช่วงโควิด-19 แม้ว่าต้นทุนการเดินทางจะสูงขึ้น แต่ยังพบการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียโดยเที่ยวบินพาณิชย์ (Commercial Flight) ระหว่าง 28 ประเทศภายใต้ข้อตกลง Air Bubble Agreement อาทิ มัลดีฟ รัสเซีย ศรีลังกา เยอรมัน แคนาดา สะท้อนว่านักท่องเที่ยวอินเดียไม่ค่อยอ่อนไหวกับสถานการณ์ มีกำลังซื้อสูง
รวมทั้งมีสำรวจความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของคนอินเดีย โดย Thomas Cook เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 4,000 ราย พบว่า 46 % ต้องการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ สนใจเมืองหรือประเทศที่ต้องการเดินทางมากที่สุดได้แก่ ดูไบ อะบูดาบี มัลดีฟส์ และไทย
ระหว่างนี้ ททท. ทั้ง 2 สำนักงาน จะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอินเดียอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ทั้งการให้ข้อมูลประชาสัมพันธ์สถานการณ์ภายในประเทศ มาตรการด้านสุขอนามัย SHAตลอดจน Travel Agency (TA) ได้ทำสำรวจชาวอินเดียทั่วประเทศกว่า 300 ราย ในจำนวนนี้ 94% ยืนยันว่านักท่องเที่ยวอินเดียต้องการเดินทางท่องเที่ยวไทยแน่นอน
โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสุขอนามัย กิจกรรมท่องเที่ยว และราคาที่น่าดึงดูดเป็นหลัก ส่วนใหญ่มีระยะเวลาพักค้างต่ำกว่า 7 วัน เตรียมนำร่องทำการตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียระดับกลางไปจนถึงกลุ่มระดับบน
ปัจจุบัน “กระทรวงการต่างประเทศ” ของไทยได้กลับมาเปิดรับคำขอออกใบรับรองในการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry: COE) ของผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ประสงค์จะเดินทางจากอินเดียเข้าไทย เริ่มตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2564 เป็นต้นมา เฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ผู้มีเอกสารอนุญาตทำงาน (work permit) และครอบครัว โดยมีเงื่อนไข ต้องเดินทางด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) และเข้าสู่มาตรการ State Quarantine ในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 14 วัน หลังจากนี้จึงจะประเมินและพิจารณากลุ่มอื่นๆ ต่อไป
สำหรับ สถิติปี 2562 ในช่วงสถานการณ์ปกติ มีนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางมาไทย
1,961,069 คน เติบโต25.48 % ใช้จ่ายเฉลี่ย 44,688 บาท/คน/ทริป พักค้างเฉลี่ย 7
วัน/คน/ทริป สร้างรายได้ 80,039.88 ล้านบาท เติบโต 9.96 %
ทำให้ตลาดอินเดียขึ้นอันดับ 3 จากอันดับ 6 ในปี 2561 รวมถึงมีจำนวนเที่ยวบินเข้าไทยจากอินเดียกว่า
300 เที่ยว/สัปดาห์ด้วย
สะท้อนว่าอินเดียเป็นตลาดศักยภาพที่น่าจับมอง มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น