ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TEATAนำทัพท่องเที่ยวพลิกธุรกิจสู่เทรนด์โลกปี’65 อีสาน20จังหวัดลุยเปิดเส้นทางต้นแบบCarbon Neutral+BCG

 “นายกฯอุ๊”นำTEATAพลิกธุรกิจเที่ยวยั่งยืนสู่เทรนด์โลกปี’65

อีสาน20จว.100ทัวร์บูมเส้นทางต้นแบบคาร์บอนศูนย์+BCG

“คิงเพาเวอร์”ผู้นำธุรกิจเพื่อสังคมคว้าแชมป์CSRเอเชีย3ปีซ้อน

ไทยเทสต์ฮับ“รางน้ำ-มหานคร”จัดโปรดีผ่านแอพฟู้ดถึง30ก.ย.64

ททท.ชูธงปี’65ดึงเศรษฐีตะวันออกกลางทัวร์ไทยใช้เงินสูง2เท่า

ททท.ตราดชูไนท์คอนเสิร์ตเบิร์ดกะฮาร์ดชมแหล่งเที่ยว26ก.ย.นี้

TCEB’รุกไมซ์โมเดลBCG+คาร์บอนศูนย์รับเทรนด์โลกปี’65

ชวนเที่ยว“เขาเทวดา”พุเตยตั้งแคมป์กางเต็นท์นอนดูดาวฟินสุด

กรมอนามัยแนะ2วิธีฆ่าเชื้อราผ้า/หน้ากาก-3วิธีกำจัดราในบ้าน

“แอคคอร์”อัดโปรสเตเคชั่นกทม.11รร.เหลือ729บาทถึง31ต.ค.

“อนันตราเชียงใหม่”แจกโปร1แถม1ชิมอาหาร/เครื่องดื่มกัญชา

“เมกาทิกซ์ไทยแลนด์”จัดแทรเวลแฟร์เทรนด์ใหม่20-27ก.ย.64

น.ส.วสุมน เนตรกิจเจริญ” หรือ “นายกอุ๊” 

นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA/ทีต้า) 

และนายกสมาคมอุตสาหกรรมการค้าท่องเที่ยวอีสาน20จังหวัด”

 วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #PhuketSandbox  #TEATA #สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1720739848120066&id=100005522016696

 

ช่วงที่ 1 เติมพลังแกร่งกับ “นางสาววสุมน เนตรกิจเจริญ” หรือ “นายกอุ๊” นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA/ทีต้า)) และนายกสมาคมอุตสาหกรรมการค้าท่องเที่ยวอีสาน20จังหวัด” นำทัพธุรกิจท่องเที่ยวก้าวข้าม “บิ๊กเชนจ์” ลุยทำวาระแห่งโลก ยกระดับ “อีสาน” 20 จังหวัด ภาคแรกของไทยรับการเปิดประเทศปี’65 ด้วยโมเดลต้นแบบ “ท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ +BCG” ตั้งเป้าปลายปีนี้ดึงบริษัทนำเที่ยวเข้าร่วมแบบเข้มข้น 100 ราย หันทำเส้นทางทัวร์แก้โลกร้อนโลกรวน ผนึกกำลัง 8 ภาคีพันธมิตร “TEATA-อบก.-ททท-หอการค้า-ทีเส็บ-อพท.-สกสว.-บพก.” กอดคอแน่นรณรงค์อุตสาหกรรมทั้งประเทศพลิกโฉมธุรกิจสู่ยั่งยืน ลูกค้า ยุโรป เอเชีย เฮรับทันที

นางสาววสุมน เนตรกิจเจริญ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (TEATA/ทีต้า)) และนายกสมาคมอุตสาหกรรมการค้าท่องเที่ยวภาคอีสาน 20 จังหวัด เปิดเผยว่า ทางสมาคมได้นำสมาชิกผู้ประกอบการท่องเที่ยวปรับโฉมภารกิจใหม่หลังโควิดโดยเฉพาะสมาคมทีต้าทำเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นหลักต้องเพิ่มการรับมือกับภาวะโลกร้อน/โลกรวน ทั้งภาคธุรกิจและนักเดินทางต้องหันมาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมุ่งสู่เป้าหมาย “ควบคุมการปล่อยคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจก” ตามปกติบริษัทนำเที่ยวจะคำนวณการใช้ตามสูตรของต่างประเทศด้วยรูปแบบ “คาร์บอนเครดิต” แต่ตอนนี้เราจะหันมาจับมือหน่วยงานในประเทศคือ องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) “อบก./TGO

 

นำมาสู่การจับมือกันเป็นครั้งแรก ริเริ่มโครงการ “คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ :CARBON NEUTRAL/CARBON BALANCE กับภาคีพันธมิตร 8 องค์กร ลงมือทำตามภารกิจของแต่ละองค์กรภายในเวลา 3 ปี ระหว่างปี 2564-2567 ตั้งเป้าจะรณรงค์ให้ผู้ประกอบการจัดนำเที่ยวเข้ามาร่วมอย่างเป็นระบบทำแพกเกจ/โปรแกรม/เส้นทาง ท่องเที่ยว คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2564 ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 100 ราย

นางสาววสุมนกล่าวว่า ตามเป้าหมายหลังจากได้องค์ความรู้อย่างเป็นขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว จะได้นำประสบการณ์ทั้งของกรรมการสมาคม เดินหน้าทำควบคู่ตามขั้นตอนหลัก ๆ คือ ขั้นที่ 1 “เผยแพร่ภายใน” กลุ่มสมาชิกสมาคม TEATA และสทอ.ซึ่งเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยว ถึงการปฏิบัติให้ถูกต้องที่จะทำโปรแกรมท่องเที่ยวปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ขั้นที่ 2 “เผยแพร่ภายนอกองค์กร” ร่วมกับอีก 7 ภาคีพันธมิตร เน้นความถูกต้อง รวดเร็ว นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง อย่างยั่งยืน หลังผ่านวิกฤตโควิดต้องเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวของไทยครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

นับจากนี้โครงการ “คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ :Carbon Neutral ของไทยจะทวีความสำคัญอย่างมากถือเป็นวาระแห่งโลกแล้ว ที่จะช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ไม่ใช่เรื่องของท้องถิ่นหรือประเทศอีกต่อไป ฉนั้นจึงต้องเร่งมือทำให้ทุกฝ่ายใส่ใจถึง “การจัดการท่องเที่ยวอย่างไรจึงสามารถลดภาวะโลกร้อนได้บ้าง” TEATA จะพยายามเร่งและเผยแพร่องค์ความรู้ที่มีและได้รับจากพันธมิตรมาตลอด ทำให้ระบบห่วงโซ่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืนจากจุดเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 นี้เป็นต้นไป


ส่วนจุดเริ่มความร่วมมือครั้งนี้มี “นายเกียรติชาย ไมตรีวงศ์” ผู้อำนวยการ อบก.ให้คำแนะนำเชิญชวนภาคีเครือข่ายภาครัฐเข้ามาร่วมด้านการท่องเที่ยวและหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย “ฝ่ายผลิตสินค้า” เป็นซัพลลายไซซ์ มี 1.องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.” รับผิดชอบแหล่งท่องเที่ยวชุมชน 2.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ดูแลการจัดการด้านไมซ์

“ฝ่ายตลาด” เป็นดีมานต์ไซซ์ มี 1.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชื่อมร้อยเครือข่ายนักท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน “ฝ่ายสนับสนุน” เข้ามาสร้างความมั่นใจการพัฒนาเพื่อทำให้ท่องเที่ยวยั่งยืนอีก 2 องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กับ คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม “สกสว.” และ “เครือข่าย” หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการด้านคุณภาพสูง

รวมทั้งได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการ 3 กระทรวง คือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา และวิทยาศาสตร์ สนับสนุนตลอดโครงการ

 


ตัวอย่าง “อพท.” จะช่วยเรื่องการรณรงค์ชุมชนท่องเที่ยวหันมาทำท่องเที่ยวชุมชนไร้คาร์บอน “ทีเส็บ” ทำเรื่องไมซ์คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ตอนนี้รอTEATA พัฒนาเส้นทางไมซ์คาร์บอนนิวทรัลเพื่อใช้นำเสนอแก่ผู้เดินทางไปเที่ยวก่อนหรือหลังจัดประชุม สัมมนาแต่ละครั้งแต่ละพื้นที่

ส่วน “ททท.” ทาง TEATA ทำงานร่วมมานานแล้วตั้งแต่โครงการคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) แต่หลังลงนาม MOU เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 จะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นถึงขั้นลดการปล่อยคาร์บอนตามเส้นทางท่องเที่ยวสุทธิเป็นศูนย์ โดยจัดทำต้นแบบ 5 เส้นทาง เริ่มต้น เส้นทางแรกในอีสาน “เที่ยวอีสาน 3 แนว นคราธานี” อุดรธานี-หนองคาย-บึงกาฬ โดยมีคณะกรรมการ TEATA ได้นำเสนอขั้นตอนรายละเอียดการจัดทำเส้นทางคาร์บอนสุทธิเต็มรูปแบบ

ทางด้าน “สกสว.กับ บพข.”ให้เงินสนับสนุนการทำวิจัยท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ตอนนี้ TEATA ได้ทุน พร้อมกับเริ่มทำงานวิจัย ตามกรอบเวลาระยะยาว 3-5 ปี


ขณะที่ “หอการค้าไทย” จะนำข้อมูลเส้นทางคาร์บอนสุทธิของ TEATA ไปเผยแพร่ให้สมาชิกทั่วประเทศ เชื่อมโยงเข้ากับการเดินหน้า BCG โมเดล เศรษฐกิจ “ชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว” รวมทั้งประชาสัมพันธ์กิจกรรม เส้นทาง สู่นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป

นางสาววสุมนกล่าวต่อถึงประเด็น “ก้าวใหม่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” ปี 2565 เมื่อปูพรมทำโครงการคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์แล้ว ก็จะนำไปต่อท่อเข้ากับ “วาระแห่งชาติ” นโยบายรัฐบาลโครงการ “BCG :Bio-Circular-Green” การสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว เต็มรูปแบบ เป็นเรื่องสำคัญปี 2565 TEATTA จะต้อง “ผลิตสินค้าคุณภาพสูง” ทางการท่องเที่ยว ด้วยจุดขาย จุดแข็ง มีมูลค่าทางการตลาด ทั้งโรงแรม/ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยว ร้านค้า/ร้านอาหาร/สถานที่จำหน่ายของที่ระลึก ต้องรณรงค์ทุกภาคส่วนนำมาตรฐานการทำภารกิจลดการปล่อยคาร์บอนให้เข้าใกล้ศูนย์มากที่สุดผสมผสานเข้ากับ BCG

เพื่อปรับกระบวนการผลิตสินค้าท่องเที่ยวให้สมดุลมีคุณค่าและมูลค่าสูงมากที่สุดผ่านกลไกคาร์บอน์เป็นศูนย์ เชื่อมเข้ากับ BCG ประกอบด้วย “B : Bio” ความหลากหลายทางชีวภาพ นำสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่มาประกอบเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวให้สมบูรณ์มากขึ้น “C-Circular” การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดปริมาณขยะลงให้มากที่สุดทั้งขยะอาหาร (food waste) ขยะอุปโภคบริโภค  G-Green” ทำเรื่องคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ สุดท้ายคือต้องนำความรู้มาพัฒนาต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ทั้งหมดมาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

 


พื้นฐานของไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีอยู่แล้ว ต้องหาวิธีทำโดยนำความรู้ นวัตกรรม มายกระดับให้สินค้าการท่องเที่ยวมีมูลค่าสูงขานรับกับ BCG ได้อย่างแท้จริง ออกแบบให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

สำหรับการออกแบบการท่องเที่ยวตามโมเดล “คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” นั้น จะต้องทำก่อนตั้งแต่ต้นทางก่อนการจัดโปรแกรมทัวร์การเดินทางวางขายในตลาด เพื่อสร้างการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนรับผิดชอบ เป็นการทำ Bio+Circular จากนั้นต้องเดินทางภายใต้การทำให้คาร์บอนเป็นศูนย์

เป็นการ “เปลี่ยนแปลงภาคธุรกิจ” เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว “ตลาดต่างประเทศ” ของไทย ซึ่งสามารถพลิกโฉมสู่ประเทศไร้การปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอกย้ำภาพชัดเจน ตามที่คู่ค้ากลุ่มบริษัทตัวแทนนำเที่ยวในสหภาพยุโรปแจ้งผ่าน TEATA มาแล้วว่าพร้อมเลือกนำคนมาเที่ยวเมืองไทยในโปรแกรมท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และหากบริษัทท่องเที่ยวนำสิ่งเหล่านี้มาออกแบบก็จะได้รับเลือกจากคู่ค้าทั่วโลกเข้ามาใช้บริการสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ ฟื้นธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป


        นางสาววสุมนกล่าวว่าในฐานะที่สวมหมวกอีกใบนายกสมาคมอุตสาหกรรมการค้าท่องเที่ยวอีสาน 20 จังหวัด กำลังประชุมร่วมกับสมาชิก ททท.และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแพกเกจ และเส้นทางท่องเที่ยวเชิงคุณภาพสูง ไฮไลต์เดินหน้าภายใต้คอนเซ็ปต์ “อีสานผ่อนคลาย อีสานพร้อม” ควบคุมบริการความปลอดภัยภายใต้มาตรฐาน SHA :Safety and Health Administration วางแนวทางส่งเสริมการขาย “ตลาดในประเทศ” ปลายปีนี้เข้าหน้าหนาว อีสานเปลี่ยนจากเดิมอย่างแท้จริงโดยยังคงวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแข็งแกร่ง เรื่องอาหาร งานประเพณี วัฒนธรรมชุมชน วิถีริมน้ำโขง โดยมีโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางคมนาคม ถนนสะดวกสบายมากกว่าเดิม 

ปลายปีนี้ ททท.อุดรธานี ส่งเสริมสมาคมฯท่องเที่ยวอีสาน และสมาคมอื่น ๆ ตื่นตัวทำโปรแกรมชวนเที่ยวอีสานอย่างคึกคัก หลังจากเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมานำเสนอโปรแกรม “เที่ยวตัวปลิว ชิวอีสาน” เดือนกันยายนนี้มีโปรแกรม “ปักหมุดบิน เยือนถิ่นนคราธานี” เน้นย้ำกระตุ้นการขับรถท่องเที่ยวอีสาน มาตรฐาน SHA ลงลึกทุกพื้นที่เรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ชาวอีสานและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 20 จังหวัด พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน

ข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ผู้นำธุรกิจเพื่อสังคมคว้าแชมป์CSRเอเชีย3ปีซ้อน

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตอกย้ำความสำเร็จ คว้ารางวัลองค์กรดีเด่นด้านกิจกรรมเพื่อสังคมระดับเอเชีย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 บนเวทีประกาศรางวัล ‘Asia Responsible Enterprise Awards 2021’ หรือ AREA 2021 “ด้าน Social Empowerment หรือ การสร้างความเข้มแข็งให้สังคม” จาก Enterprise Asia องค์กรอิสระที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมแบบองค์รวมในเอเชีย และมุ่งส่งเสริมการพัฒนาความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรต่างๆ ในภูมิภาค จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 พร้อมประกาศรางวัลทางออนไลน์ เมื่อต้นเดือนกันยายน 2564 ที่มาเลเซีย โดยมีผู้ที่ได้รับรางวัลเพียง 69 โครงการ จากทั่วประเทศ 16 ประเทศ ส่งร่วมประกวดรวมทั้งหมด205 โครงการ

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า รางวัลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่นและความร่วมมือกันของชุมชนและพันธมิตร โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์โครงการดี ๆ เพื่อสนับสนุนศักยภาพของคนไทย เน้นการเสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของรากฐานการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต ครอบคลุม 3 แกนหลัก คือ กีฬา ดนตรี และชุมชน ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา คิงเพาเวอร์สามารถกระจายโอกาส สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน และส่งความสุขสู่ชุมชนทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ทุกภูมิภาคกว่า 5,400 ชุมชน

นับตั้งแต่ก่อตั้งโครงการฯ เมื่อปี 2560 คิง เพาเวอร์ ยังคงยืดหยัดเจตนารมณ์ ‘การให้’ และความเชื่อใน ‘พลังคนไทย’ โดยยึดเป็นแนวทางหลักการดำเนินงานเพื่อสังคมโดยให้ความสำคัญเท่าเทียมธุรกิจ มีวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์เรื่อง “กิจกรรมเพื่อสังคม” ไว้ในแผนพัฒนาองค์กร

ปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้ขยายกรอบการดาเนินงานสู่วงกว้างขึ้น เพื่อให้เยาวชนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกลมีโอกาสเข้าถึงกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ต่อยอดความสำเร็จโครงการต่าง ๆ อย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นด้าน MUSIC POWER การปั้นเวทีประกวดดนตรีใหม่ THE POWER BAND การประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีใจรักดนตรีมีเวทีแสดงความสามารถสู่การเป็นวงดนตรีคุณภาพในอนาคต

เรื่อยไปจนถึงโครงการที่เน้นการเข้าถึงพื้นที่ไกลกว่าเดิม เพื่อพัฒนาคน และชุมชนให้ตรงจุด ได้แก่

1.โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย และโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ภายใต้ SPORT POWER ที่ส่งมอบลูกฟุตบอลกระจายทั่วประเทศแล้วกว่า 700,000 ลูก และสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล 61 แห่ง กระจายไปตามชุมชนกว่า 5,400 พื้นที่ เพื่อพัฒนาทักษะการเตะฟุตบอลของเด็กและคนไทยที่รักกีฬาฟุตบอลจนเกิดเป็นทีมโรงเรียน และได้เข้าแข่งระดับอาเภอ พัฒนาสู่ระดับจังหวัด

2.โครงการส่งเสริมสินค้าชุมชนไทย เชิดชูความงดงามเกี่ยวกับงานฝีมือและมรดกทางภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นภายใต้ COMMUNITY POWER โดยมีทีม คิง เพาเวอร์ ได้เข้าไปร่วมคิด ร่วมพัฒนา และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดโลก การประชาสัมพันธ์ และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนในระดับสากล ด้วยผลงานเป็นที่ประจักษ์มีทั้งคอลเลกชั่นของที่ระลึกประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ นำไปวางขายใน “เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม” เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และสินค้าพัฒนาร่วมกับแบรนด์สตรีทแวร์ดังระดับโลกอย่าง atmos วางขายทั่วโลก 8 ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ และอังกฤษ

 

ปี 2564 บนเวทีการประกาศรางวัล Asia Responsible Enterprise Awards 2021’ หรือ AREA 2021 ด้าน Social Empowerment หรือ การสร้างความเข้มแข็งให้สังคม มีผู้ผ่านเข้ารับคัดเลือกเพียง 69 โครงการ จากทั่วเอเชีย 16 ประเทศ 205 โครงการ อาทิ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย

 

แต่ละผงานจะต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายอุตสาหกรรม หลายประเทศ ใช้หลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย 1.วิธีการนาเสนอผลงาน, ผลลัพธ์ที่วัดได้เชิงคุณภาพ 2.ประสิทธิภาพของการรังสรรค์โครงการ 3.ความมุ่งมั่นตั้งใจ 4.ความสัมพันธ์กับชุมชน 5.การตอบโจทย์ความต้องการ 6.ความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย 7.ความมีส่วนร่วม 8.ความมุ่งมั่นตั้งใจ และ 9.ความสม่ำเสมอ

 

ผลการตัดสินรางวัลครั้งนี้นอกจากคิง เพาเวอร์ แล้ว ยังมีองค์กรดังระดับภูมิภาคได้รับรางวัลในสาขาอื่น ๆ อาทิ Standard Chartered Bank (Taiwan) Limited, Bloomberry Resorts Corporation, Pacific SOGO Department Stores Co., Ltd., Heineken Malaysia Berhad, Accenture, Inc.

 

นายอัยยวัฒน์ย้ำว่า เชื่อในพลังคนไทย และอยากเห็นเยาวชน ชุมชน และสังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองมากที่สุด เพื่อนาไปสู่เป้าหมายของการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต ความสาเร็จนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ พันธมิตรต่างๆ คณะผู้บริหาร พนักงานในองค์กร คู่ค้า ชุมชน และประชาชน ที่ล้วนแต่มีส่วนร่วมให้โครงการต่างๆ บรรลุความสาเร็จด้วยดีตามที่ตั้งเป้าไว้


ข่าวที่ 2 ไทยเทสต์ฮับ“รางน้ำ-มหานคร”จัดโปรดีแอพฟู้ดถึง30ก.ย.64

ห้ามพลาด!! สั่งอาหารเมนูอร่อย ๆ จาก “ไทย เทสต์ ฮับ (Thai Taste Hub) หรือศูนย์รวมเมนูสตรีตฟู้ดระดับตำนาน” ที่ คิง เพาเวอร์ ตลอดเดือนกันยายน 2564 สามารถนั่งรับประทานที่ร้านได้แล้ว และสั่งผ่านแอพลิเคชั่น มีโปรโมชั่นทั้ง 2 สาขา คือ

สาขาแรก “ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” อยู่บริเวณชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พร้อมอำนวยความสะดวกอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสาธารณสุข D-M-H-T-T เน้นควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยบริการ 1.นั่งรับประทานอาหารที่ร้าน ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 - 19.00 น. หรือ 2.สั่งผ่านแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี่ ได้ทุกวัน ตั้งแต่10.00 – 19.00 น. สั่งผ่านทาง โรบินฮู้ด (Robinhood) และแกร็บฟู้ด (GrabFood) สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย

สาขาสอง “ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ มหานคร คิวบ์” ชั้น 1 หน้า คิง เพาเวอร์ มหานคร จัดเต็มโปรโมชั่น One Price Monday! พบกับ เมนูสุดคุ้มเต็มอิ่มทุกวันจันทร์ราคา 99 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 27 กันยายน 2564 จากร้านอร่อยระดับตำนานและมิชลินแนะนำ สั่งเลย ระหว่าง 10.00-18.00 น.

โปรโมชั่นดังกล่าวนี้บริการลูกค้า “สั่งแล้วมารับด้วยตัวเอง หรือ self pick-up service” ด้วย  5 ขั้นตอนง่าย ๆ คือ 1”เพิ่มไลน์แอด LINE @MahanakhonCUBE หรือคลิก  https://bit.ly/Mahanakhon-CUBE-LINE 2.ลือกเมนูอาหารแล้วสั่งอาหารได้เลย 3.ระเงินผ่านการโอน หรือ สแกน QR 4.ยืนยันออร์เดอร์และนัดหมายเวลาในการรับอาหาร 5.มารับความอร่อยแบบไร้สัมผัสได้ที่ร้านทุกวัน

ข่าวที่ 3 ททท.ชูธงปี’65ดึงมหาเศรษฐีตะวันออกกลางทัวร์ไทยใช้เงิน2เท่า

นายชัยวัฒน์​ ตามไท ผู้อำนวยการ​การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)​ สำนักงาน​ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า ปี 2565 ททท.ดูไบดูแลตลาดท่องเที่ยวในตะวันออกกลาง 6 ประเทศหลัก คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ การ์ตา คูเวต บาร์เรน โอมาน จอร์แดน ตั้งเป้ารุกเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มเศรษฐีตลาดที่ชื่นชอบความหรูหราหรือลักชัวรี เล่นกอล์ฟ ล่องเรือยอร์ช ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำเข้ามาไทยให้ได้รวมกว่า 200,000 คน

 

นักท่องเที่ยวตะวันออกกลางเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ประมวลผลตอบรับเข้าร่วมโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ประสบความสำเร็จชัดเจน 3 เรื่อง 1.จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นครอบครัว ตั้งแต่ 1 ก.ค.-ส.ค.2564 กว่า 7,000 คน คาดการณ์ระหว่าง ต.ค.-ธ.ค.นี้ จะมาอีกถึง 20,000 คน  2.ใช้จ่ายเงินสูงกว่านักท่องเที่ยทั่วไปเกือบ 2 เท่า เฉลี่ย 105,000 บาท/คน/ทริป 3.กระจายรายได้จากการใช้จ่ายไปยังร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และแหล่งช้อปปิ้ง

 

            ส่วนการทำตลาดเชิงรุกไตรมาส 4 ระหว่าง ต.ค.-ธ.ค.2564 หรือเป็นการเติ่มต้นไตรมาส 1 ปี 2565 ของททท.สำนักงานดูไบจะเร่งโฆษณาประชาสัมพันธ์โรแกรมท่องเที่ยว พื้นที่ 7+7 Phuket Extension เจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มหรูหรา โดยจะจับมือกับกาตาร์ แอร์เวย์ส เน้นการขายผู้โดยสารชั้นธุรกิจและสมาชิกบัตรทองของสายการบิน เข้ามาใช้จ่ายทั้งในภูเก็ต และพื้นที่เปิดประเทศในจังหวัดอื่นต่อไป

ทั้งนี้มีประเด็นที่นักท่องเที่ยวตะวันออกกลางมีข้อสงสัยจนกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ที่จะกระตุ้นให้เลือกเดินทางเข้าภูเก็ต แซนด์บ็อก 2 เรื่อง คือ

1.นักท่องเที่ยวต้องจ่ายเงินเพิ่มสูงถึง 5,800 บาท ตามเงื่อนไขการเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR รวม 2 ครั้ง ทั้งที่พักอยู่เมืองไทยเพียง 7-10 วัน เปรียบเทียบค่าตรวจดังกล่าวกับประเทศอื่น ๆ นักท่องเที่ยวได้ตรวจฟรี หรือจ่ายเพียง100-200 บาท/ครั้ง

2.การยื่นขอใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทย (COE) มีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน เนื่องจากต้องแสดงเอกสารยืนยันหลายส่วน ทั้งการจองที่พักล่วงหน้า การจ่ายเงิน การตรวจต่าง ๆ

            อุปสรรคดังกล่าวทาง ททท.กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะได้นำเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารไวรัสโควิด-19 พิจารณาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อลดปัญหาที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว


ข่าวที่ 4 ททท.ตราดชูไนท์คอนเสิร์ตเบิร์ดกะฮาร์ดชมแหล่งเที่ยว26ก.ย.นี้

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด รายงานว่า จับมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)  จัด “Sunday Night Live Concert Byrd & Heart” 26 กันยายน 2564 เวลา 6 โมงเย็น ชวนศิลปินคู่ขวัญ “เบิร์ธกะฮาร์ท” มาขับกล่อมบทเพลงท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็น บริเวณหาดทรายขาว

โดยจะเปิดให้แฟนพันธุ์แท้ได้รับฟังดนตรีสด ๆ พร้อมกันทั่วโลกผ่านทาง Facebook และ YouTube  Amazing Thailand และ Byrd&Heart  เนื่องจากการจัดกิจกรรมนี้เป็นไปตามมาตรการ DMHTTA จึงไม่ได้เปิดขายบัตรให้เข้าชมคอนเสิร์ตในสถานที่จัดงาน แต่สามารถชมฟรีได้ทางโซเชียลมีเดียเฟสบุ๊คกับยูทูบตลอดงาน

ทางเพจเฟชบุ๊ค Byrd&Heart  ได้นำเสนอดีลพิเศษ ระหว่างวันที่ 25-26-27 กันยายน 2564 ช่วงเดินทางไปทำรายการ SNL ก็ชวนแฟนคลับไปเที่ยวด้วยกันกับโปรแกรม Romantic Weekend จองผ่านทาง Line OA : @byrdandheart  เดินทางเป็นคู่ไปกันเอง รับไม่เกิน 10 คู่ เข้าพักระดับ 4 ดาว รวมอาหารทุกมื้อ และร่วมฟังดนตรีช่วงเย็นวันอาทิตย์ระหว่างนั่งรับประทานมื้อค่ำก็ชมพระอาทิตย์ตกดิน ฟัง SNL แบบเพลิน ๆ อย่างมีความสุขไปด้วยกัน

สำหรับ “อุทยานแห่งชาติเกาะช้าง” ขณะนี้เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการคัดกรองอย่างเข้มข้นต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA+

“นักท่องเที่ยว” ที่จะเดินทางไปเที่ยวเกาะช้าง 1.ต้องได้รับวัคซีน SV อย่างน้อย 2 เข็ม หรือ AZ , Pfizer อย่างน้อย 1 เข็ม 2.ต้องทำการตรวจ ATK ทุกคนตอนเช็คอินเข้าที่พัก และพนักงานโรงแรมบนเกาะส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดตามเกณฑ์มาตรฐานแล้ว เพื่อปฏิบัติตามมาตรการให้ทุกคนปลอดภัยมากที่สุด

 


ข่าวที่5TCEB8พันธมิตรรุกไมซ์โมเดลBCG+คาร์บอนเทรนด์โลกปี’65

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่า 8 องค์กรพันธมิตรได้ลงนามความร่วมมือเดินหน้าโครงการ “คาร์บอนบาลานซ์ : Carbon Balance Schemeช่วยกันวางแผนจัดงานอีเวนท์และการท่องเที่ยวโดยปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Neutral Carbon) สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลและสังคมโลกเรื่อง BCG Model” หรือการสร้างเศรษฐกิจ/Economy : ชีวภาพ/Bio-หมุนเวียน/Circular-สีเขียว/Green ก่อนเกิดโควิดมีสถิติการจัดกิจกรรมไมซ์ปี 2562 ถึงปัจจุบัน การจัดงานไมซ์ได้ร่วมมือกันลดก๊าซคาร์บอนไปแล้วกว่า 2,000 ตัน

 

ปี 2565 ทีเส็บวางกลยุทธ์นำ BCG Model และคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ เข้ามาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ เพราะที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์อย่างยั่งยืนมาตลอด จึงได้นำแนวทาง BCG Model มาต่อยอดผนวกกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals) เดินหน้าพัฒนายกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไมซ์ร่วมกับทุกภาคส่วนต่อไป  

ขานรับโลกหลังโควิด 3 เรื่อง ได้แก่ 1.กระแสการเปลี่ยนแปลงของยุควิถีใหม่ในประเด็นที่สังคมโลกให้ความสำคัญ 2.ช่วยสร้างโอกาสการแข่งขันของไทยในตลาดโลก 3.ผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์เติบโตควบคู่ไปกับสังคมที่ยั่งยืนในอนาคต

ส่วนการทำโครงการคาร์บอนสิทธิเป็นศูนย์ ทีเส็บจะมุ่งส่งเสริมการจัดประชุมสัมมนา การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และนิทรรศการ ทำให้การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ควบคู่การรณรงค์ไมซ์ทุกภาคส่วนรับผิดชอบกิจกรรมต่อยอดหลัก ขยายผลการอบรมหลักสูตรที่จัดให้แก่ผู้ประกอบการไมซ์และภาคการศึกษาทั่วประเทศ ตอนนี้ทีเส็บพัฒนาหลักสูตรขึ้นเพื่อช่วยในการคำนวณและการชดเชยให้กลุ่มเป้าหมาย ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) “อบก.” พัฒนาและปรับปรุงเครื่องมือคำนวณคาร์บอนฟุตปริ้นท์จากการจัดงานให้ใช้งานได้สะดวกและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากขึ้น

พร้อมทั้งเตรียมประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ถึงประโยชน์ขของจัดงานแบบคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์หรือแบบคาร์บอนต่ำครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ประกอบการไมซ์ ภาคการศึกษา และสาธารณชนทั่วไป ผู้ประกอบการไมซ์เห็นความสำคัญนำเส้นทางการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดงานไมซ์ด้วย

นายจิรุตถ์ยืนยันว่าปี 2565 และในอนาคตทีเส็บยังคงมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนจัดงานและกิจกรรมไมซ์ช่วยลดคาร์บอนอย่างต่อเนื่องเป็นศูนย์ตามเป้าหมายให้ได้

            ช่วงที่ 2 นักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์ ฟังทางนี้ “ยอดเขาเทวดา” อุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี ชวนปีนเขาไปตั้งแคมป์ กางเต็นท์ นอนดูดาว สูดโอโซนเหนือระดับน้ำทะเล 1,123 เมตร ชมเทือกเขาทอดยาว 3 จังหวัด ขณะที่ “กรมอนามัยแนะกำจัดเชื้อรา” เสื้อผ้า-หน้ากาก-ห้องในบ้าน ได้ผลชะงัด ส่วนข่าวส่งท้ายสัปดาห์กับโปรดี 1-31 ต.ค.นี้ ข่าวแรก “แอคคอร์” ทั่วกรุงเทพฯ ระดม 11 โรงแรม จัดแพกเกจสเตเคชั่นเหลือ 725 บาท/ห้อง/คืน “อนันตราเชียงใหม่” รีสอร์ตหรูแจกโปรซื้อ 1 แถม 1 เสิร์ฟกัญชาให้ลิ้มลองทั้งอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรม แล “เมกาทิกซ์” แพลตฟอร์มน้องใหม่จัดแทรเวลแฟร์เทรนด์ใหม่ 20-27 ก.ย.นำโปรเด็ด ห้องพัก/โรงแรม ช้อปปิ้ง สปา มาให้เลือกวันใช้บริการได้เอง



ชวนเที่ยว“เขาเทวดา”พุเตยตั้งแคมป์กางเต็นท์นอนดูดาวฟินสุดๆ

รอกันมานานพอสมควร กว่าจะได้กลับมาเดินทางอีกครั้ง ตอนนี้รัฐบาลผ่อนคลายไทยเที่ยวไทยได้แล้ว สายที่ชอบผจญภัยเที่ยวเชิงนิเวศน์ วันนี้ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” สำนักงานสุพรรณบุรี แนะนำจัดคิวเตรียมเดินทางไปกอดธรรมชาติใกล้กรุง “ยอดเขาเทวดา” อุทยานแห่งชาติพุเตย

ชวนเพื่อนรู้ใจจับคู่ออกเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติ กางเต็นท์ นอนดูดาว ตั้งแคมป์ สูดโอโซนบริสุทธิ์ ให้หายคิดถึงกัน ระยะทางขับรถจากกรุงเทพฯ ออกไปประมาณ 300 กม.บนยอดเขาเทวดามีแหล่งไฮไลต์ “ตะเพินคลี่” เป็นป่าธรรมชาติที่มีชีวิตและความสวยงาม


“พุเตย” เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวในสุพรรณบุรี ที่สามารถรักษาผืนป่าภาคกลางให้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ แหล่งต้นน้ำลำธาร และเป็นแห่งเดียวในภาคกลางด้วย เมื่อนักท่องเที่ยวไปแล้วจะได้พบกับ “ป่าสนสองใบ” เรียงกันเป็นทิวแถวกว่า 1,500 ต้น

ยอดเขาเทวดาอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,123 เมตร บริเวณลานกางเต็นต์ ตั้งแคมป์ พักผ่อน ท่ามกลางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็จะได้เห็นทิวเขาทดยอดยาวต่อเนื่องกันถึง 3 จังหวัด  คือ 1.อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี 2.อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี

 


นักท่องเที่ยวที่วางแผนไปกางเต็นท์ ตั้งแคมป์ พักผ่อนบนยอดเขาเทวดา แนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยในชีวิตกับการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย

        เมื่อไปถึง “นักท่องเที่ยวคนไทย” จ่ายค่าเข้า ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท หากนำรถยนต์เข้าไป ต้องจ่าย รถยนต์ 30 บาท/คัน รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน หากเป็นรถเก๋งไม่แนะนำให้ขับขึ้นตะเพินคี่เพราะถนนหนทางเป็นดินแถมบางช่วงเป็นร่องลึก ดังนั้นควรเหมารถของอุทยานแห่งชาติพุเตยดีกว่า ครั้งละ 2,000 บาท/ทริป

 


สำหรับสัมภาระตั้งแคมป์ไม่ต้องแบกไปเองก็ได้ เพราะทางอุทยานแห่งชาติพุเตยมีให้ “เช่า” เต็นท์กับอุปกรณ์ เต็นท์ขนาดพักได้ 1-3 คน/หลัง ราคาเช่า 225 บาท/หลัง แผ่นรองนอน 20 บาท ถุงนอน 30 บาท/ชุด  หมอน 10 บาท/ใบ

สอบถามเพิ่มเติม โทร : 035-960240 ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวได้ทางเพจอุทยานแห่งชาติพุเตย https://www.facebook.com/PhutoeiNationalPark

 


กรมอนามัยแนะ2วิธีฆ่าเชื้อราผ้า/หน้ากาก-3วิธีทำความสะอาดบ้าน

นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แนะนำป้องกันเชื้อราเสื้อผ้าและห้องอับชืนช่วงหน้าฝน ปัญหาที่พบบ่อยคือเสื้อผ้ามีกลิ่นอับชื้น รวมถึงการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยที่เปียกชื้นอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้การทำความสะอาดเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับชื้นหรือปัญหาเชื้อราบนผ้า สามารถทำได้ด้วย 2 วิธีง่าย  คือ

วิธีที่ 1 ซักตามปกติแล้วนำไปต้มในน้ำเดือดนาน 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

วิธีที่ 2 แช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถหาได้ในครัวเรือน ได้แก่ น้ำยาซักผ้าขาวที่มีส่วนผสมโซเดียมไฮโปคลอไรด์ โดยเติม 1 ฝา ต่อน้ำ 10 ลิตร แช่ผ้าไว้นาน 5-15 นาที หรือใช้น้ำส้มสายชู 2-3 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 1-2 ลิตร แช่ผ้าไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง แล้วซักตามปกติ จากนั้นนำไปตากแดดจัดหรือตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทจนแห้ง แล้วนำมารีดทั้งข้างในและข้างนอกตัวเสื้อ และควรอ่านป้ายสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสื้อผ้าแต่ละชนิดอย่างถูกต้อง

ส่วน “หน้ากากผ้า” ควรเปลี่ยนทุกวัน หรือเปลี่ยนเมื่อรู้สึกเปียกชื้นในระหว่างวัน และให้ซักหน้ากากผ้าให้สะอาดทุกวันด้วยสบู่หรือผงซักฟอกแล้วตากแดดให้แห้ง กรณีสวมหน้ากากอนามัย ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยชิ้นใหม่ทุกวัน

“วิธีกำจัดเชื้อราในบ้าน” ความชื้นในอากาศอาจเป็นแหล่งของเชื้อราได้ อาทิ ห้องน้ำ ห้องนอน และห้องครัว เชื้อราจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความชื้น สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่สีดำ น้ำตาล เขียว แดงเหลือง และขาว พบได้เป็นกลุ่ม ๆ ในบริเวณที่มีความอับชื้น เช่น ฝ้าและผนัง เพดาน เฟอร์นิเจอร์ ใต้พื้นพรม เครื่องนอน เครื่องปรับอากาศ หากสปอร์ของเชื้อราเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพตามมา เช่น หากเข้าตาและจมูก จะทำให้เกิดการระคายเคือง มีอาการจาม น้ำมูกไหล มีไข้ บางรายก่อให้เกิดโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และปอดอักเสบในที่สุด ซึ่งกลุ่มที่ต้องระวังคือ ผู้สูงอายุ และเด็กอ่อน

วิธีเช็ดทำความสะอาดบ้านเรือนที่ปนเปื้อนเชื้อราได้ 3 ขั้นตอน คือ

1.พื้นผิววัสดุที่พบเชื้อราให้ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย เช็ดพื้นผิวไปในทางเดียว แล้วนำกระดาษทิชชูหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ดังกล่าวทิ้งลงในถังขยะที่ปิดมิดชิด

2. ใช้กระดาษทิชชู แผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบลงในน้ำผสมกับสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดซ้ำในจุดที่มีเชื้อราอีกครั้ง

3. ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5-7 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90 เปอร์เซ็นต์ เช็ดทำความสะอาดเพื่อเป็นการทำลายเชื้อในขั้นตอนสุดท้ายนั่นเอง


ข่าวท้ายชั่วโมง



ข่าวแรก “แอคคอร์”อัดโปรสเตเคชั่นกทม.11โรงแรมเหลือ729บาท/คืน

“แอคคอร์” นำห้องพักในเครือทั่วกรุงเทพฯ 11 โรงแรม มอบโปรโมชั่น “สเตย์เคชั่น”   ราคาเริ่มต้นเพียง 729++ บาท/ห้อง/คืน จองได้ตั้งแต่วันนี้ -31 ตุลาคม 2564 มีให้เลือกพักผ่อนได้อย่างหลากหลาย ทั้งบรรยากาศริมแม่น้ำหรือสไตล์ฝรั่งเศส ด้วยเงื่อนไขการจองแบบยืดหยุ่นและสิทธิประโยชน์มากมาย คือ

1.สามารถยกเลิกการจองได้แจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าพัก 3 วัน

2.สมาชิก ALL – โปรแกรมสะสมคะแนนไลฟ์สไตล์ของแอคคอร์ รับคะแนนสถานะและคะแนนสะสม 2 เท่า

3.สมาชิก Accor Plus รับส่วนลดเพิ่มอีก 10%

ผู้ที่ชื่นชอบวันหยุดสุดชิคสไตล์ปารีส เลือกพักผ่อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตแบบฝรั่งเศส หรือ French art de vivre และเพลิดเพลินกับอาหารยุโรปแสนอร่อยที่ 1.โซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 2.โนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 20  3.เมอร์เคียว และไอบิส กรุงเทพ สุขุมวิท 24 ตั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาสถานที่พักผ่อนที่สะดวกต่อการชอปปิ้ง

ผู้ที่ต้องการพักผ่อนสะดวกสบายและคุ้มค่า เลือกเช็คอินที่

1.โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ เพลิดเพลินกับการเข้าพักนาน 36 ชั่วโมง  การอัพเกรดห้องพักฟรี อาหารเช้า ชุดอาหารค่ำ

2.โรงแรมไอบิส กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะแก่การพักผ่อนท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำตลอดวัน

สำหรับโรงแรมสไตล์อื่น ๆ ที่ร่วมรายการเลือกพักผ่อนได้อีก 5 แห่ง ได้แก่ 1.โนโวเทล กรุงเทพ สุขุมวิท 4  2.เมอร์เคียว กรุงเทพฯ สยาม 3.ไอบิส กรุงเทพ สยาม 4.ไอบิส กรุงเทพ สาทร และ 5.ไอบิส กรุงเทพ สุขุมวิท 4

สอบถามเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ https://all.accor.com/promotions-offers/package-offers/owm013629-001-bangkok-staycation.th.shtml

 


ข่าวที่สอง “อนันตราเชียงใหม่”แจกโปรซื้อ1แถม1เสิร์ฟอาหาร/เครื่องดื่มกัญชา

“อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท” ที่พักหรูริมแม่น้ำปิงใจกลางเมืองเชียงใหม่ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ซื้อ 1 คืน แถม 1 คืน   ต้อนรับฤดูท่องเที่ยว มอบให้คนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ระหว่าง 1-31 ตุลาคม 2564 ราคาเริ่มต้นเพียง 4,500++ บาท/ห้อง/คืน ห้องพัก รวมอาหารเช้าฟรี 2 คน โดยมีเงื่อนไขจองเข้าพักต่อเนื่อง 2 คืน และพักต่อเนื่องสูงสุดได้ไม่เกิน 4 คืน

ไฮไลต์ตอนนี้ที่ห้องอาหารของโรงแรม สไตล์ฟิวชั่นเอเชียนและเครื่องดื่มรสเลิศ ตอนนี้มีเมนูใหม่จาก “ใบกัญชา” ให้นักชิมได้ลิ้มลองในบรรยกาศและความอร่อยระดับ 5 ดาว เช่น เมนูปลากระพงทอดใบกัญชากรอบกับซอสมะขามกัญชา กุ้งย่างซอสเผ็ดสมุนไพรไทยและใบกัญชา ซุปซี่โครงหมูตุ๋นเห็ดหอมใบกัญชา เนื้อผัดใบกัญชา และกุ้งแม่น้ำย่างซอสมะนาวใบกัญชารสเผ็ดร้อนถึงใจ พร้อมเครื่องดื่มสูตรใหม่จากใบกัญชา

สอบถามหรือสำรองห้องพักได้ที่ www.anantara.com/en/chiang-mai อีเมล chiangmai@anantara.com โทร 053 253 333

 

ข่าวที่สาม “เมกาทิกซ์ไทยแลนด์”จัดแทรเวลแฟร์ช้อปเทรนด์ใหม่20-27ก.ย.64

 

นายโอเนอร์ อาตาซอย ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ เมกาทิกซ์ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ได้ริเริ่มจัดงาน Megatix Digital Travel Fair ครั้งที่ 1 เพียง 7 วันเท่านั้น ตั้งแต่เที่ยงวัน วันที่ 20 - ถึง เที่ยงวัน วันที่27 กันยายน 2564  บนแพลตฟอร์มใหม่ที่จะมาปฏิวัติวงการท่องเที่ยวด้วยการเปิดช่องทางช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงดีลคุ้มค่าที่สุด ทั้งแพกเกจของโรงแรม ห้องอาหาร และสปา ระดับพรีเมี่ยมไปจนถึงอัลตร้าลักชัวรี่ จากทุกโรงแรมพร้อมมอบส่วนลดพิเศษสุดคุ้ม และยังสามารถกำหนด “ยืดหยุ่นวันใช้บริการ” ช่วยให้ผู้ค้าสามารถควบคุมการนำเสนอข้อมูลธุรกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบผ่านอินเตอร์เฟซแผงควบคุมที่ใช้งานง่ายและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ

 

ระบบควบคุมได้โดยตรงดังกล่าว เป็นจุดเด่นของแพลตฟอร์ม “เมกาทิกซ์ ไทยแลนด์” แตกต่างจากตัวแทนจองบริการรายอื่น ๆ ที่มอบให้ผู้บริโภคทั่วไป รวมทั้งยังมอบทางเลือกการชำระเงินที่ง่ายที่สดจ่ายเงินได้หลากหลายมากที่สุดของเมืองไทยด้วย

 

            ตลอดการจัดงาน “เมกาทิกซ์ ไทยแลนด์” จับมือ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดโปรโมชันพิเศษ มอบเครดิตเงินคืน 10% ให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ใช้จ่ายในงาน  Megatix Digital Travel Fair ครั้งที่ 1 เพียงใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย และลงทะเบียนแลกรับผ่านเว็บไซต์ www.ktc.co.th/ktctravel

 

ดูข้อเสนอวอเชอร์ดีลโรงแรมและบริการชั้นนำราคาสุดพิเศษทางเว็บไซต์ https://megatix.in.th/#/category/60/megatix-digital-travel-fair

 

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง