TCEB”จัดทัพใหม่ไมซ์ได้“แอร์ไลน์-ร้านอาหาร”ดันงานประชุมฟื้นทั่วไทย-ลุยเปิดBubble Exhibition

“TCEB”จัดทัพใหม่ไมซ์ได้“แอร์ไลน์-ร้านอาหาร”ดันงานประชุมฟื้นทั่วไทย

ชงศบค.สั่งลุยเปิดBubble Exhibitionจับคู่บูมงานแสดงสินค้าปลายปี64

Pastel Mask Clipเครือคิงเพาเวอร์ลุยขายคลิปดีไซน์ใหม่รักษ์โลก5กลิ่น

ททท.โหมจัดEmpowerTechระดมไฮเทคพลิกฟื้นท่องเที่ยว6-15ก.ย.64

ททท.ทุ่มมหาโปรอะเมซิ่งฯธีมกันยาพาน้อนเที่ยว5ภาคส่งท้ายเดือนก.ย.

TCEB-TEAจัด3ซีรีย์3จังหวัดเพิ่มทักษะงานแสดงสินค้า29ก.ย.,14,21ต.ค.

เที่ยวครั้งใหม่!!ในเกาะล้านพลาดได้ไงเลือกเลยชายหาดสวยๆดำน้ำสนุก

11วิธีการดื่มน้ำอย่างถูกวิธี-มหัศจรรย์ของน้ำช่วยล้างพิษร่างกายง่ายสุด

“ไทยเวียตเจ็ท”ฮึดสู้กระหน่ำบิน29จังหวัดแจกโปรอีกรอบก.ย.-ธ.ค.64

สมุยเฮ!!คมนาคมทุ่ม700ล้านปรับถนนเที่ยวรอบเกาะใหม่เสร็จมี.ค.65

“มีเลียเชียงใหม่”ชิงจัดโปรโมชั่นห้องพักซื้อ1แถม1คืนจองวันนี้-30พ.ย.

 

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” 

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง #gurutourza www.facebook.com/penroongyaisamsaen  #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT #ศบคคลายล็อกดาวน์ #PhuketSandbox  

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1710667662460618&id=100005522016696

ช่วงที่ 1 เกาะติดหลังคลายล็อกดาวน์ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ประกาศแนวรุกใหม่ไมซ์ในประเทศ ก.ย.นี้ “แอร์ไลน์-ร้านอาหาร” ช่วยกระตุ้นไมซ์ทุกภาคอีกครั้ง ย้ำร่วมใช้เครื่องมือความปลอดภัยให้ครบทั้ง“ฉีดวัคซีน-ตรวจATK-โหลดหมอชนะ” เร่งรณรงค์สนับสนุนเงิน “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” กระจายลงพื้นที่โซน 2 กับ 3 รวม 48 จังหวัด ที่ได้ไฟเขียวให้จัดงาน 50-100 คน/ครั้ง ไมซ์อีสานส่งสัญญาณคึกคัก ต.ค.นี้เตรียมเสนอ ศบค.อนุมัติรุกไมซ์ต่างประเทศผ่านโครงการใหม่ “Bubble Exhibition :จับคู่จัดงานแสดงสินค้า ”

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทันทีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมเริ่มตั้งแต่  1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ส่งผลให้ ผู้ประกอบการ “อุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศ” เริ่มขยับขับเคลื่อนได้อีกครั้ง โดยเฉพาะการเดินทางทางเครื่องบิน เริ่มมีสายการบินบริการภายในประเทศกลับมาบินใหม่จะสามารถช่วยไมซ์จัดงานต่าง ๆ ได้

ผนวกกับรัฐบาลผ่อนคลายพื้นที่แบ่งการจัดงานตามโซนใน 3 พื้นที่ 1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมมากกว่า 25 คน 2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมมากกว่า 50 คน มีเมืองไมซ์รวมอยู่หลายแห่ง เช่น เชียงใหม่ สุโขทัยพิษณุโลก ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี 3. พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมมากกว่า 100 คน

            พื้นที่ที่ได้รับการคลายล็อกจาก ศบค.ในโซน 2 และ 3 รวม 48 จังหวัด ทำให้ตอนนี้สามารถขอรับเงินสนับสนุนจากทีเส็บในโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” จัดไมซ์ 2 วัน 1 คืน ขอได้ 30,000 บาท/งาน จัด 1 วันแบบไม่พักค้างคืน ขอได้ 15,000 บาท

โดยเฉพาะโซน 3 มี 11 จังหวัด รวมกลุ่มกันได้มากสุดไม่เกิน 100 คน คือ กระบี่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน สุราษฎร์ธานี เป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตลาดไมซ์กลับมาได้ก่อน

ดังนั้นทีเส็บต้องการให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงการปฏิบัติตามกติกาสำคัญเมื่อไมซ์สามารถกลับมาจัดได้อีกครั้ง นั่นคือ “กลุ่มเกี่ยวข้องและผู้เข้าร่วมงาน” 1.สามารถเดินทางกับสายการบินซึ่งแต่ละวันจะเริ่มบิน ตี 4 จนถึง 2 ทุ่ม และขนส่งผู้โดยสารได้เที่ยวบินละไม่เกิน 75 % ของที่นั่งแต่ละลำ 2.ผู้โดยสารจะต้องฉีดวัคซีนจนครบ 2 เข็ม พร้อมกับโหลดแอพลิเคชั่น “หมอชนะ” เพื่อแสดงผลฉีดทุกครั้งก่อนขึ้นเครื่องบิน หรือนำเอกสารการตรวจด้วยวิธีทำ RC-PTR หรืออุปกรณ์ Antigen test Kid :ATK แสดงผลก่อนการเดินทางทุกครั้ง 3.หรือแสดงผลเป็นผู้ติดเชื้อมาแล้วไม่เกิน 90 วัน ผ่านการกักตัวจนปลอดภัยแล้ว ต้องมีเอกสารยืนยันทุก ๆ การเดินทางก่อนขึ้นเครื่องบิน

ตอนนี้การเดินหน้ารณรงค์งานไมซ์เรื่อง “จัดประชุม : meeting” เมื่อรัฐบาลมีนโยบายคลายล็อกแล้ว ก็สามารถใช้วิธีทดสอบตรวจหาเชื้อก่อนเข้าร่วมงาน ภายใต้ข้อกำหนดตามมาตรฐานสาธารณสุขเน้นสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง (social distancing) บวกกับทีเส็บเข้มข้นเรื่องมาตรฐาน hygiene ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย สถานที่ประกอบการทุกแห่งมีมาตรฐานดังกล่าวอยู่ครบ ทั้งการกำหนดผู้เข้าร่วมงาน การสตรวจสวอปหาเชื้อก่อนด้วย ATK การเว้นระยะห่างภายในงาน โดยมีทั้ง ศบค.และผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามอย่างใกล้ชิด

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ตอนนี้ทีเส็บกำลังทำแผนเสนอ ศบค.พิจารณาการเปิดไมซ์รูปแบบ “จับคู่จัดนิทรรศการแสดงสินค้า หรือ Bubble Exhibition” น่าจะมีความเป็นไปได้หลังเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ตอนนี้ทิศทางต่าง ๆ มีสัญญาณที่ดีตั้งแต่กันยายนนี้เป็นต้นไป ประกอบกับวัคซีนมีจำนวนมากขึ้น สังคมยอมรับมากขึ้น การบริหารจัดงานด้านสุขอนามัยสร้างความมั่นใจให้สังคมมากขึ้น ก็จะเป็นแรงส่งให้ธุรกิจดีขึ้นตามลำดับ

“การจับคู่เอ็กซิบิชั่น” จะทำกับตลาดต่างประเทศด้วย โดยมีต้นแบบการทำโมเดลในลักษณะการกำหนดพื้นที่ปิด :Seal Route เป็นรูปธรรม โอกาสที่จะน่าเกิดการพัฒนาตลาดก็มีความเป็นไปได้ในเร็ว ๆ นี้

แต่สิ่งที่ยังทำไม่ได้เลยคือ หลังเสร็จสิ้นการร่วมงานเอ็กซิบิชั่นแล้ว ห้ามเด็ดขาดคือการไปสังสรรค์ต่อตามผับ บาร์ ต่าง ๆ เนื่องจากพฤติกรรมของคนซึ่งไม่ได้พบเจอกันมานาน 1-2 ปี ก็อยากที่จะมาพบปะพูดคุยธุรกิจกัน

ส่วนเรื่องการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง หลังคลายล็อกดาวน์แล้วสามารถจัดงานไมซ์ได้นั้น ทางทีเส็บได้ส่งเอกสารต่าง ๆ ไปในอุตสาหกรรมไมซ์ ผ่านทุกช่องทางประชาสัมพันธ์ เมื่อเกิดการผ่อนคลายล็อกซ์การจัดกิจกรรม โดยเฉพาะมาตรการ “ร้านอาหาร” มีมาตรการเพิ่มโดยให้นั่งรับประทานในร้านได้ 50 % ของที่นั่งทั้งหมด จะส่งผลดีช่วยฟังก์ชั่นการจัดงานได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งก่อนนี้มีความพยายามจัดด้วยรูปแบบเสมือนจริงในสตูดิโอโรงแรม (Virtual Studio) ห้องละไม่เกิน 5 คน/ครั้ง แต่พอเสิร์ฟอาหารก็รับประทานในห้องไม่ได้ ส่งผลให้ไม่สามารถจัดฟังก์ชั่นได้ หรือจัดได้น้อยมากนั่นเอง

ตอนนี้ในภาคอีสานหลายจังหวัด เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น มุกดาหาร และอื่น ๆ อยู่ในพื้นที่จัดงานได้ครั้งละไม่เกิน 50 คน ภายใต้การเฝ้าระวังด้วยวิธีตรวจ ATK โดยทางรัฐบาลพยายามจัดหามาเพิ่ม และบริษัทออกาไนเซอร์ก็สามารถซื้อมาให้ผู้เข้าร่วมงานใช้ตรวจได้ ส่วนทีเส็บทดลองมาเกือบเดือนแล้วเรื่องจัดงานไปพร้อมกับทำสวอปตรวจหาเชื้อผู้เข้าร่วมฟังก์ชั่นผลตอบรับเริ่มดีขึ้นตามลำดับ

นายจิรุตถ์กล่าวว่า กรณีการเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการเข้าถึงการช่วยเหลือจาก “โครงการประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” 1.ปรับเงื่อนไขให้สามารถจัดงานภายในจังหวัดเดียวกันขอรับสนับสนุนเงินจัดประชุมหรือจัดงานได้ 2.ขยายเวลาขอรับการสนับสนุนเงินจัดงานไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม จากเดิมต้องจบภายในเดือนกันยายน 2564

ส่วนการขอรับเงินสนับสนุนจากโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” จัด 2 วัน 1 คืน ขอได้ 30,000 บาท/งาน จัดงานวันเดียวหรือเกิน 6 ชั่วโมง ขอได้ 15,000 บาท/งาน สามารถขอได้ทั้งฝั่งซัพพลายอย่าง โรงแรม บริษัทจัดประชุม และจังหวัดที่แบ่งตามประเภทที่รัฐบาลกำหนดพื้นที่ 3 กลุ่ม ลงทะเบียนให้เข้าถึงได้ทางเว็บไซต์ thailandmiceconnect.com  

       

ล่าสุดผมพร้อมกับคณะผู้บริหารและส่วนงานทรัพยากรบุคคล ฝ่ายบริหาร ได้ร่วมส่งมอบความห่วงใยและความหวังดีให้กับพนักงานทุกคนในรูปแบบ Virtual Town Hall ผ่าน zoom ภายใต้งานชื่อว่า "We Care...Always be there for YOU! โดยมีกิจกรรม FIN (Fun, Innovated, Network) ขับเคลื่อนงานตลอด 3 เดือน เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและสร้างการมีส่วนร่วมของทีมงานผ่านการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

สำหรับพื้นที่ที่ ศบค.อนุญาตให้รวมตัวกันจัดกิจกรรมแต่ละครั้งมีจำนวนคนตามที่กำหนด 3 พื้นที่ แบ่งกลุ่มจังหวัดดังนี้

1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 25 คน ได้แก่กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง

2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด โดยห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน ได้แก่ กาฬสินธุ์ กาแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลาปาง ลาพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลาภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี อานาจเจริญ

3. พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด โดยห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 100 คน ได้แก่ กระบี่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน สุราษฎร์ธานี

4. พื้นที่เฝ้าระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 200 คน (ยังไม่มีจังหวัดใดถูกจัดอยู่ในพื้นที่นี้)

5. พื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 500 คน (ยังไม่มีจังหวัดใดถูกจัดอยู่ในพื้นที่นี้)

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์บูมช้อปสุดคุ้มรับเพิ่มคูปองลด6,500บาท+บัตรเครดิตลด18%

คิง เพาเวอร์ นำแคมเปญเด็ดกลับมาชวนช้อปให้หายคิดถึง กับ “Make My Days” ขยายเวลาเพิ่ม โปรโมชั่นสุดคุ้ม ช้อปได้ทุกวัน เลือกได้สินค้าสารพัดความงามและแฟชั่นหลากหลายแบรนด์ดัง จากหลากหลายประเทศที่ต้องคิดถึง ตั้งแต่วันนี้- 30 กันยายน 2564 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ  พัทยา

1.ช้อปผ่าน 2 ช่องทางช้อปใหม่  King Power Chat to Shop และ King Power Call to Shop

2.สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับฟรี! คูปองส่วนลด 2 ใบ รวม 6,500 บาท ให้ 1 สิทธิ์ / คน / วัน โดยนับสิทธิ์รวมทุกสาขาทั้งที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และพัทยา ดังนี้

2.1 คูปองใบที่ 1 ส่วนลด 2,000 บาท สำหรับช้อป 8,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ
2.2 คูปองใบที่ 2 ส่วนลด 4,500 บาท สำหรับช้อป 15,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ

-ช่องทางการช้อป King Power Call to Shop และ King Power Chat to Shop) รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3dcQW7o

-รับดีลดีช้อปคุ้มเพิ่มอีกอย่าง !! เมื่อช้อปด้วยบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18% คลิกดูได้ที่ http://bit.ly/3ubgfNW

-พิเศษ! เพียงซื้อบัตรเงินสด Cash Card ก่อนช้อป รับบัตรกำนัลอิเลคทรอนิกหรือ Gift Card เพิ่มสูงสุด 8,000 บาท คลิก https://bit.ly/3A31tei

-ช้อปอิ่มฟรี! รับคูปองรับประทานอาหารที่ Thai Taste Hub รางน้ำ 300 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไขที่กำหนด

ข่าวที่ 2 Pastel Mask Clipเครือคิงเพาเวอร์ลุยขายดีไซน์ใหม่รักษ์โลก5กลิ่น

  คิง เพาเวอร์ ชวนทดลองผลิตภัณฑ์ของ “คลิปกลิ่นอโรมาติดหน้ากากอนามัย : pastel Clever Mask Clip” นวัตกรรมใหม่รักษ์โลกต่อเนื่องจากเมื่อ 2 เดือนก่อนได้สร้างกระแสความสดชื่นสดใสด้วยดีไซน์ใหม่ผิวสัมผัสลายคลื่นทั้งทันสมัย สวยงาม จับถนัดมือ ของ Wave Surface Design Pattern โดยได้จัดทำ

1.pastel Personal Card ที่วางใจได้ ปลอดภัยชัวร์ ในตัวเจลที่ให้กลิ่นหอม ผ่านการคิดค้นส่วนประกอบ กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์จากโรงงานที่ได้รับมาตรฐานการผลิตเครื่องสำอาง จึงปลอดภัยตลอดอายุการใช้งาน

2.ตัวคลิป ผลิตจากพลาสติก Food Grade ผสม Nano Zinc มีคุณสมบัติยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรีย และผ่านการตรวจสอบแล้วว่าวัสดุที่ใช้ปราศจากการปนเปื้อนของสารปรอทและสารตะกั่ว วิธีทำความสะอาดก็ง่าย เพียงใช้กระดาษทิชชูชุบน้ำเช็ดส่วนที่เป็นพลาสติกคลิป

ตอนนี้ pastel พร้อมแล้วในการเลือกซื้อพกพาความหอมสดชื่นของ Clever Mask Clip ดีไซน์ใหม่ ติดตัวไปได้ทุกที่ มีให้เลือก 5 กลิ่นหอม 1 ซอง ๆ ละ 2 คลิป ราคาซองละ 50 บาท สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ pastelcreative: Facebook / Instagram / Line หรือติดตามกิจกรรมเพิ่มที่ www.pastelcreative-x8.com

ข่าวที่ 3 ททท.โหมจัดEmpowerTechระดมไฮเทคพลิกฟื้นท่องเที่ยว6-15ก.ย.64

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า  ททท.จัดงานอีเวนต์ออนไลน์ Empowering Tech Tourism week Virtual Event ระหว่างวันที่ 6-15 กันยายน 2564 เพื่อเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่อเนื่องกันถึง 10 วัน เพื่อจะได้เข้าถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีที่พร้อมเป็นเครื่องมือใหม่พัฒนาศักยภาพยกระดับคุณภาพสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกับนานาประเทศได้  

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าร่วมงานจะได้พบกับ ส่วนที่ 1 Virtual Seminar หรือสัมมนาเสมือนจริงออนไลน์ โดยมีวิทยากรชั้นนำจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวมาให้ความรู้อย่างเต็มที่ทั้งเรื่อง เตรียมความพร้อมด้านธุรกิจ โรงแรมและที่พัก ร้านอาหาร นวดและสปา บริการนำเที่ยว เรื่อยไปจนถึงเนื้อหาเจาะลึกถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการในจังหวัดท่องเที่ยว หลักคือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี

ส่วนที่สอง การจับคู่เจรจาธุรกิจ Virtual Mart สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ตลอดงาน

ส่วนที่สาม TAT CLINIC Virtual Booths คลินิกให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ โดย ททท.ได้จัดบูธเสมือนจริงVirtual Booth ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการหรือผู้สนใจเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข (SHA)  บริการให้คำปรึกษาแบบออนไลน์ และ Supporting Organizations Virtual Booths บูธให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ โดยองค์กรผู้สนับสนุนผู้ประกอบการและผู้พัฒนานวัตกรรม ได้แก่ depa, NIA, TEDFund, SMEDBank, ธนาคารกรุงเทพฯ และ TVCA

ตลอดงานลุ้นรับของรางวัลมากมาย อาทิ Mi TV Stick มูลค่า 1,350 บาท, Mi Casual Daypack, Gift Voucher Tops Super Market, Starbuck

สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ที่ www.empoweringtechtourism.com/…_agenda เข้าชมงาน Empowering Tech Tourism week Virtual Event หรือ www.empoweringtechtourism.com/…ain_map หรือ www.empoweringtechtourism.com

 

ข่าวที่ 4 ททท.ทุ่มมหาโปรอะเมซิ่งฯธีมกันยาพาน้อนเที่ยว5ภาคส่งท้ายเดือนก.ย.นี้

นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เดือนกันยายน 2564 ได้จัดมหกรรมลดกระหน่ำส่งท้ายโครงการ "มหาโปรเที่ยวไทย อะเมสซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม" ให้ได้ชอปฟินจุใจสินค้าทางการท่องเที่ยวของ 5 ภูมิภาค ผ่านทางเว็บไซต์ "เที่ยวไทยอะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม"

โดยยกทัพตั๋วเครื่องบิน โรงแรม/ที่พัก รถเช่า กิจกรรมท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค ที่ได้การรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัย (SHA) กว่า 100 ราย จัดโปรโมชั่นพิเศษ  "โปรปังเปย์" ในธีม 'กันยาพาน้อนเที่ยว' ชวนคนในครอบครัว เพื่อน พี่ น้อง หรือสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก เน้นให้สิทธิ์จองก่อนแล้วค่อยไป ประกอบด้วย  

“ภาคเหนือ” ได้แก่ 1.Sann Hotel จ.เชียงราย มอบห้องพักดีลักซ์ ราคาพิเศษเพียง 1,200 บาท จากปกติ 1,800 บาท 2.ไฉไลบ้านกาแฟ จ.ลำปาง ซื้อบ๊วยโซดาหรือมะม่วงโซดาได้ในราคาเพียง 27 บาท จากราคาปกติ 60 บาท

“ภาคอีสาน” 1.The Bliss Ubon จ.อุบลราชธานี ลดห้องพักเหลือ 750 บาท จากปกติ 890 บาท 2. Hotel de l'amour Buriram จ.บุรีรัมย์ นำพักห้องเดอลามูร์ สวีท และห้องพรีเมียร์ สวีท ลดพิเศษเพียง 1,445 บาท จาก 1,800 บาท/ห้อง/คืน

“ภาคกลาง” โรงแรมสุวรรณาริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท จ.ชัยนาท ลดห้องพักลด 40 %  เหลือ 1,200 บาท จาก 2,000 บาท/ห้อง/คืน 2. ร้านอาหารกังหันลม จ.ลพบุรี มอบส่วนลดค่าอาหาร 10 % 3. Ace of Hua Hin Resort จ.เพชรบุรี ลดห้องพักสูงถึง 40 %

“ภาคใต้” 1.อันดามณี บูทีค รีสอร์ท  จ.กระบี่ นำห้องดีลักซ์มาลดห้องพักสูงสุด 65 % เริ่มต้น 1,000 บาท จากปกติ 3,000 บาท  เมื่อพักคืนต่อไปเหลือ 900 บาท/ห้อง/คืน พร้อมรับเครดิตรีสอร์ตฟรี มูลค่า 500 บาท รับคอกเทลริมสระน้ำ 2 ที่/ห้อง

นอกจากนี้ยังมี ซูเปอร์ทริป บริษัททัวร์ชั้นนำ มอบส่วนลดแพ็กเกจท่องเที่ยวสูงสุด 500 บาท

สามารถเลือกช้อปโปรเด็ดส่งท้ายโครงการได้ที่ www.เที่ยวไทยอะเมสซิ่งยิ่งกว่าเดิม.com แล้วคลิกเมนู "โปรปังเปย์" เลือกโปรที่สนใจ กดเก็บคูปอง โค้ดจะส่งเข้าอีเมล จากนั้นนำโค้ดไปใช้ตามเงื่อนไขของผู้ประกอบการแต่ละราย

 

ข่าวที่ 5 TCEB-TEAผนึกจัด3ซีรีย์3จังหวัดเพิ่มทักษะงานแสดงสินค้า29ก.ย.,14,21ต.ค.

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” รายงานว่า ทีเส็บจับมือกับสมาคมการแสดงสินค้า(ไทย) หรือ TEA จัดเสวนาออนไลน์ 3 ซีรีย์ 3 จังหวัด วันที่ 29 กันายน 14 ตุลาคม และ 21 ตุลาคม 2564 ในหัวข้อ “สถานการณ์โควิดวันนี้ งานแสดงสินค้าต้องทำอะไรก่อน” พบกับวิทยากร และผู้ร่วมเสวนาที่พร้อมแชร์เทคนิค และแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าในแต่ละภูมิภาค

โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่สนใจร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยน ทาง ZOOM Meeting โดยสามารถเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ 3 ซีรีส์  3 จังหวัด ได้ดังนี้

ครั้งที่ 1 จังหวัดกรุงเทพฯ วันที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 9.00-11.30 น. หัวข้อ “ก้าวย่างใหม่ ของการแสดงสินค้าไทย”

ครั้งที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 9.00-11.30 น. หัวข้อ “ปรับ ให้อยู่รอด เปลี่ยน วิธีคิด แปลง วิถีงาน ภายใต้สถานการณ์วิกฤติ”

ครั้งที่ 3 จังหวัดสงขลา วันที่ 21 ตุลาคม 2564 เวลา 9.00-11.30 น. หัวข้อ “แผนระยะสั้น ทางรอดจากวิกฤติ ของธุรกิจงานแสดงสินค้า”

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี! ได้ที่ https://www.thaitradeshow.com/.../News.../All/5182.aspx

            ช่วงที่  2 ตอนนี้เริ่มทยอยวางแผนจัดทริปเที่ยวใกล้กรุงได้บ้างแล้ว ตอนนี้ “เกาะล้าน” เมืองกลางทะเลตะวันออก รอต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับไปรำลึกความสุขกับการพักผ่อนและทำกิจกรรมตามหาดยอดนิยม หาดตาแหวน หาดนวล หาดเทียน และอื่น ๆ กับดำน้ำแบบง่าย ปลอดภัย สะดวก สบาย ช่วงฤดูท่องเที่ยวตุลาคมนี้ และต้องห้ามลืมดูแลสุขภาพ “11วิธีดื่มน้ำอย่างถูกวิธี” มหัศจรรย์ของการดีท็อกซ์ร่างกายง่ายสุด ๆ และข่าวเจาะลึก “ไทยเวียตเจ็ท” ฮึดสู้กระหน่ำเปิดบิน 29 จังหวัดวัดพลังท่องเที่ยวปลายปี ก.ย.-ธ.ค.64 “ชาวสมุยเฮ!” คมนาคมทุ่มงบถึง 700 ล้านบาท แปลงโฉมถนนรอบเกาะหนุนการฟื้นเศรษฐกิจเมืองท่องเที่ยว “โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่” ชิงจัดโปรโมชั่นห้องพัก 1 คืน ฟรี 1 คืน ให้จองได้ยาววันนี้ -30 พ.ย.64 แล้วเก็บใช้ไว้ได้ช่วง ธ.ค.64-มิ.ย.65

เที่ยวครั้งใหม่!!ในเกาะล้านพลาดได้ไงเลือกเลยชายหาดสวยๆดำน้ำสนุก

            พอเสียงระฆังคลายล็อกดาวน์การเดินทาง ก็ทำให้ผู้คนที่อยู่บ้านมานานแรมเดือน เริ่มมองหาสถานที่พักผ่อนอย่างปลอดภัย จุดหมายปลายทางไม่ไกลกรุงเทพฯ “เกาะล้าน” ชลบุรี ตอนนี้ชาวเกาะฉีดวัคซีนครบแล้ว พร้อมรอประกาศเปิดแซนด์บ็อกซ์ท่องเที่ยว จึงขอแนะนำลองไปพักผ่อนแบบชีลกันอีกครั้ง

“เกาะล้าน” มีชายหาดยอดนิยมให้นักท่องเที่ยวได้ พักผ่อน เล่นน้ำ ทำกิจกรรมชายหาด ฤดูกาลท่องเที่ยวจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน แสงแดดดี ท้องฟ้าสดใส ปลอดมรสุม เพื่อความมั่นใจควรเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทางทุกครั้ง

การเดินทางมาขึ้นเรือได้ตรงบริเวณท่าเรือหลัก “แหลมบาลีฮาย-เกาะล้าน” ค่าโดยสารคนละ 30 บาท/เที่ยว จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ออกเดินทางอีกครั้งเพื่อเพิ่มประสบการณ์ “อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” ตามชายหาดสวย ๆ ของเกาะล้าน

 

“หาดตาแหวน” ที่มีจุดจอดเรืออยู่ใกล้ ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ทันที น้ำใส นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางไปเช้าเย็นกลับหรือมีเวลาน้อย นิยมมาเล่นน้ำยังหาดแห่งนี้ น้ำทะเลใสสะอาดโดดเด่นไม่แพ้หาดอื่น ๆ รอบเกาะล้าน

 

“หาดสังวาลย์” หรือหากใครลงเรือแล้วสามารถข้ามสะพานมายังหาดสังวาลย์ เป็นหาดขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านเหมาะแก่การมานั่งนอนอาบแดน เล่นน้ำก็สะดวกที่สำคัญน้ำใสปิ้ง

 

“หาดแสม” อยู่ทางอีกฝั่งของเกาะตาแหวน ห่างจากหาดตาแหวน 2.5 กม. ถ้าขับรถมอเตอร์ไซค์ประมาณ 10 นาที ชายหาดกว้างยาวใกล้เคียงหาดตาแหวน ยาวประมาณ 700 เมตร มีกิจกรรมทางน้ำครบครัน อีกทั้งยังร้านอาหารให้เลือกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกรองๆ จากหาดตาแหวนเลยทีเดียว

จุดเด่นของหาดนี้ก็คือ อาคารปลากระเบน มีรูปทรงที่สวยงาม มีหลังคาเป็นแผงโซล่าห์เซลล์เพื่อนำมาใช้งานในอาคาร ตัวอาคารใช้จัดกิจกรรมและเป็นศูนย์การเรียนรู้

 

“หาดเทียน” อยู่ใกล้กับหาดตาแหวน มีโขดหินเป็นบางจุด นักท่องเที่ยวไม่มากนักเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผักผ่อนเล่นน้ำ แต่น้ำอาจจะใสไม่เท่าหาดตาแหวนและมีโขดหินเล็กเป็นบางจุด

 

“หาดนวล” เป็นชายหาดทางด้านใต้ของเกาะล้านห่างจากหาดตาแหวน 5 กม. หรือแว้นประมาณ 15 นาที ลักษณะหาดทรายสีขาวอมน้ำตาลอ่อนดูนวลตา มีหินปนประปรายไม่ได้มากจนเกินไปนัก หาดนี้มีความเงียบสงบกว่าหาดตาแหวน มีความกว้างประมาณ 250 เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเงียบๆ คลื่นเบาๆ นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านทีเดียว

ช่วงริมหาดด้านซ้ายจะมีลิงมาหาอาหาร (จากนักท่องเที่ยว) ใครอยากพาเด็กๆ มาดูลิงก็ลองมาที่นี่ได้

“การเดินทางบนเกาะล้าน” นักท่องเที่ยวสามารถ ใช้รถเช่า วินมอไซต์ หรือรถสองแถว ที่มีจุดบริการอยู่บริเวณท่าหน้าบ้าน บริการเช่ารถมอไซต์วันละ 250-300 บาท หากจองที่พักบนเกาะบางแห่งมีบริการรถรับส่งจากท่าเรือมาที่พักด้วย

กิจกรรม - จุดชมวิวพระใหญ่ -จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็คอินที่ใคร ๆ ก็ต้องมา เพราะนอกจากจะได้ไหว้ขอพรหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่แล้วยังได้ชมทัศนียภาพของหาดตาแหวนแบบเต็มตา

ดำน้ำ -การดำน้ำของที่นี่เป็นทริปดำน้ำตื้น Snorkeling สถานที่ดำน้ำก็จะเป็นเกาะสากซึ่งใกล้นิดเดียว ราคาประมาณ 200 บาท/ท่าน ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ส่วนใหญ่จะเป็นการขึ้นเรือ Speed Boat แล้วไปต่อเรือใหญ่ที่จุได้ประมาณ 100-200 ท่าน อีกที

 

11วิธีการดื่มน้ำอย่างถูกวิธี-มหัศจรรย์น้ำช่วยล้างพิษร่างกายง่ายสุด

ในร่างกายของคนเราจะมีโลหะหนักที่เป็นพิษจะขับออกทางปัสสาวะด้วย ดังนั้น การดีท็อกซ์ ด้วยการดื่มน้ำดี ๆ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ เลือดที่ผ่านเข้าไปกรองที่ไตและกลายเป็นปัสสาวะจะมีประมาณ 100 ซีซีต่อชั่วโมง ซึ่งจะทำให้น้ำในเซลล์ลดลง ดังนั้นการดื่มน้ำชดเชย 100 ซีซีทุกชั่วโมงจึงเป็นการกระทำที่ดี จึงแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าอย่างถูกต้องด้วย 11 วิธี ดังนี้

    1.น้ำที่ดื่มถ้าจะให้ดีต้องเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนมากหรือเย็นจัด ยกเว้นในบางกรณี เช่น ตอนเช้าถ้าเป็นไปได้ควร “ดื่มน้ำอุ่น” เพราะจะช่วยขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น ลำไส้ก็จะสะอาดมากขึ้นตามไปด้วย

    2.ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือจะให้ดีก็วันละ 14 แก้ว เฉลี่ยแล้วควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับน้ำหนักตัวของแต่ละคน เช่น ถ้าน้ำหนักตัว 60 กก. ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือ 10 แก้ว ให้นับรวมปริมาณอื่น ๆ ด้วย เช่น น้ำจากผักผลไม้ แกง ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ด้วย

3.ตอนเช้าหลังตื่นนอนหรือก่อนแปรงฟัน ควรดื่มน้ำ 2-4 แก้ว เป็นน้ำอุ่น ๆ ได้ก็จะดีมาก

4.ระหว่างวันควรดื่มน้ำ 1 แก้ว ทั้งก่อนและหลังอาหารทุกมื้อ และช่วงสาย บ่าย เย็น ควรดื่มน้ำละ 1 แก้ว

5.ช่วงก่อนนอน น้ำอุ่น ๆ สัก 1 แก้วจะดีมาก

6.การดื่มน้ำควรดื่มครั้งละแก้ว ไม่ควรดื่มรวดเดียวหลาย ๆ แก้ว จะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย อาจทำให้เกิดภาวะ "น้ำเป็นพิษได้"

7.อย่าดื่มน้ำมากเกินไปก่อนรับประทานอาหาร หรือควรดื่มน้ำก่อนสักประมาณครึ่งชั่วโมง หรือ 45 นาที

8.ระหว่างรับประทานอาหารไม่ควรดื่มน้ำตลอดเวลา จะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเจือจางทำงานได้ไม่ดี

9.หลังจากรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรดื่มน้ำทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยควรดื่มหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วครึ่งชั่วโมง

10.หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นและน้ำอัดลม เพราะน้ำเย็นจะไปดึงความร้อนในร่างกายมาทำให้น้ำที่เราดื่มเข้าไปมีอุณหภูมิเท่ากับร่างกายจึงจะดูดซึมได้ ทำให้ร่างกายเสียเวลาในการปรับสมดุลและสูญเสียพลังงาน

11.คุณผู้หญิงบางคนที่มักมีอาการปวดประจำเดือน ช่วงที่มีประจำเดือนควรงดดื่มน้ำเย็น เพราะการดื่มน้ำเย็นจะทำให้อาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก “ไทยเวียตเจ็ท”ฮึดสู้กระหน่ำบิน29จังหวัดแจกโปรอีกรอบก.ย.-ธ.ค.64

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท เปิดเผยว่า วางแผนเปิดบินช่วง 4 เดือนสุดท้าย ระหว่าง ก.ย.-ธ.ค. ปี 2564 ขานรับมาตรการปลดล็อกให้สายการบินเปิดบินในพื้นที่สีแดง 29 จังหวัด โดยมั่นใจจะบินเดินทางในประเทศตั้งแต่กันยายนนี้เป็นต้นไป

ตามเป้าหมายตลอดเดือนก.ย.  50-60% , ต.ค. จะขยับเป็น 60-75% เพราะเป็นช่วงปิดเทอม และ พ.ย.-ธ.ค. ช่วงฤดูท่องเที่ยว จะเพิ่มเป็น 80% สายการบินตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ปริมาณเที่ยวบินในประเทศของไทยเวียตเจ็ทกลับมามีจำนวนเท่ากับปีก่อน คือ 100-120 เที่ยวบิน/วัน

ล่าสุดได้จัดโปรโมชั่น Wellcome Back to the Sky เที่ยวบินละ 499 บาท เปิดขายเมื่อ 27-31 สิงหาคม 2564 เพื่อให้ผู้โดยสารนำไปใช้ได้ตั้งแต่ 1 ก.ย. -30 พ.ย.64 มีกระแสตอรับดี

ตามตารางบิน ไป-กลับ สุวรรณภูมิ ปลายทาง 11 เส้นทาง และ บินข้ามภาค ภูเก็ต-เชียงใหม่ เริ่ม 15 ก.ย.64 ภูเก็ต-อุดรธานี เริ่ม 10 พ.ย.64 และ เชียงราย สู่ 2 เมือง คือ เชียงราย-หาดใหญ่ กับ เชียงราย-ภูเก็ต เริ่ม 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป

ข่าวที่สอง สมุยเฮ!!คมนาคมทุ่ม700ล้านปรับถนนเที่ยวรอบเกาะใหม่เสร็จมี.ค.65

 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มอบให้กรมทางหลวงดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมให้เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4169 สายทางรอบเกาะสมุยให้เสร็จสมบูรณ์ตลอดเส้นทาง 50 กิโลเมตร ซึ่งตอนนี้ทำเสร็จแล้ว 34 กิโลเมตร  พร้อมทั้งเร่งขยายเส้นทางเพิ่มช่องจราจรส่วนที่เหลือ15.5 กิโลเมตร  เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยตามนโยบายของรัฐบาล 

                รวมงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและไฟสัญญาณจราจรบนทางหลวงตลอดเส้นทาง  งบประมาณ 700,980,000 บาท  ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ  70  % คาดว่าจะก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมีนาคม 2565

ขณะนี้ทางกรมทางหลวง ได้เดินหน้าก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4169 สายทางรอบเกาะสมุย ตอน บ.หัวถนน - บ.เฉวง โดยมีจุดเริ่มต้นที่ กม.14+000 ท้องที่บ้านหัวถนน ต.หน้าเมือง จุดสิ้นสุดที่ กม.29+531 ท้องที่บ้านเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย  จ.สุราษฎร์ธานี 

เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงสาย 4169 ให้สมบูรณ์ตลอดเส้นทาง รองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้น ยกระดับความปลอดภัยการคมนาคมขนส่ง กระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานีและพื้นที่ภาคใต้ ช่วยการกระจายความเจริญทางด้านเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

โดยได้ทำการก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้น 1 ขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ  ผิวทางเป็นแอสฟัลท์คอนกรีต สำหรับรูปแบบการก่อสร้างแบ่งตามลักษณะภูมิประเทศและความกว้างของเขตทางหลวง สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศสลับเนินเขา ย่านชุมชน ที่อยู่อาศัยหนาแน่น โดยแบ่งรูปแบบ ดังนี้

1.เขตทางกว้าง 12 เมตร ช่องจราจรกว้าง 3.50 เมตร ไม่มีไหล่ทาง มีทางเท้าทั้งสองข้าง กว้างข้างละ 2.50 เมตร

2.เขตทางกว้าง 16 เมตร ช่องจราจรกว้าง 3.00 เมตร มีไหล่ทางทั้งสองข้างทาง กว้างข้างละ 2.25 เมตร และมีทางเท้าทั้งสองข้างทาง กว้างข้างละ 2.75 เมตร

3.เขตทางกว้าง 30 เมตร ช่องจราจรกว้าง 3 เมตร มีไหล่ทางทั้งสองข้างทาง กว้างข้างละ 3 เมตร

 

                ทางหลวงสายดังกล่าวเดิมชื่อถนนทวีราษฎร์ภักดี เป็นถนนวงแหวนรอบตัวเกาะสมุยผ่านย่านชุมชนต่างๆ   อ้อมรอบเกาะกลับมาที่จุดเดิมบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองเกาะสมุย

ข่าวที่สาม “มีเลียเชียงใหม่”ชิงจัดโปรโมชั่นห้องพัก1ฟรี1คืนจองวันนี้-30พ.ย.64

โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ มีโปรโมชั่น “พัก 1 คืน ฟรี 1 คืน” ฉลองเปิดโรงแรมจึงชวนนักท่องเที่ยวไทยและผู้มีถิ่นพำนักอยู่ในไทย (expat) วางแผนท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2564  จองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2564 เพื่อเข้าพักและออกเดินทางค้นหาเสน่ห์ของเมืองเก่าอย่างเชียงใหม่ได้ตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2564 -30 มิถุนายน 2565 จองทางอีเมล์ reservation.chiangmai@melia.com

โปรโมชั่น “ห้องพักมีเลีย” 2 คืนราคาสุทธิ 4,999 บาท  ราคารวมอาหารเช้า 2 คน ฟรีเครื่องดื่มและอาหารว่างแบบสเปน (Tapas)  1 ครั้ง/การเข้าพัก บริการรถรับส่งจากสนามบินเชียงใหม่ ส่วนลดค่าอาหารและเครื่องดื่มระหว่างที่เข้าพัก 20%  และพิเศษ เมื่อจองห้องพักมากกว่า 4 คืนขึ้นไป จะได้รับอภินันทนาการอัพเกรดห้องพักเป็นห้องพักแบบที่สูงขึ้น

สำหรับโรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำปิง ใจกลางเมือง ห่างจากสนามบินเชียงใหม่เพียง 6 กิโลเมตร และยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว ตลาด และวัดสำคัญต่างๆ

โรงแรมเป็นอาคาร 22 ชั้น มีห้องพักรวม 260 ห้อง ออกแบบตกแต่งโดยสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเชียงใหม่ ผสมผสานไปกับกลิ่นอายร่วมสมัย มีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามมาตรฐานสากล

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.