ททท.จัดแถวเทรนด์ใหม่5กลุ่มสินค้ามาแรงขายไทย-ต่างชาติปี’65
บูมทัวร์กัญชาสุขภาพอีสาน7จังหวัด-บุกตลาดTOKEN+BITCOIN
คิง เพาเวอร์จัด2ดีลเด็ดสินค้ากว่า20,000รายการช้อปคุ้มถึง17ก.ย.
ช้อปด่วน!ที่คิงเพาเวอร์บิวตี้บุฟเฟต์จ่าย3หมื่นได้สินค้าเพียบ18ชิ้น
“อัยยวัฒน์”นำทีมบอลหญิงเลสเตอร์ซิตี้ขึ้นเบอร์1ซูเปอร์ลีกอังกฤษ
ททท.รุกต่อภูเก็ต/กระบี่/พังงาจัดกิจกรรมSHASHASHA-รำลึกสึนามิ
ททท.ดึง2ศิลปินจัดเต็มเที่ยวไทยอยู่บ้านMini Story“อร Vacation”
“TCEB”เปิดทางรอดไมซ์-ดร.ไพรินทร์ชี้ทางเลือกใช้โอลิมปิกโมเดล
เที่ยวได้แล้ว!!ทะเลหัวหิน/ปราณบุรีธรรมชาติ/อุทยานสามร้อยยอด
4โรคยอดฮิตทางจมูกที่ต้องเร่งปลดล็อกความกังวัลป้องกันด่วน!!
ไทยแอร์เอเชียงัดขายหุ้นกู้คราวด์ฟันดิ้งระดมเงินประชาชนสู้โควิด
AWCอัดโปร18โรงแรมรับปลดล็อกดาวน์ปลื้มธุรกิจฟื้นไตรมาส4
รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
วันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#PhuketSandbox #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1714983495362368&id=100005522016696
ช่วงที่ 1 จัดแถวท่องเที่ยวปี’65 โดย “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เคลื่อนทัพใหม่ 5
กลุ่มใหญ่
“เชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม-เชิงธุรกิจ-เชิงสุขภาพ-สำราญทางน้ำ-เชื่อมโยงเพื่อนบ้าน”
ตั้งเข็มไมล์ดันเต็มที่ 2 เรื่อง “พัฒนาตลาดคุณภาพสูง+ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”
ทำฝัน BCG ให้เป็นจริง
และระดมเทรนด์ใหม่เหล่าแทรเวลเทค ลุยเจาะเศรษฐีรุ่นใหม่ในวงการ “Token-bitcoin”
พร้อมช้อปไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวราคาสูงจ่ายแบบไม่อั้น ปูพรมบูรณาการ
ททท.ในประเทศเร่งสร้างซัพพลายโดนใจ ททท.ต่างประเทศนำเข้าดีมานต์ปีหน้า
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การวางแผนเคลื่อนทัพสินค้าท่องเที่ยวภายใต้งบประมาณ 2565 จะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป เน้นใช้เงินงบประมาณอย่างคุ้มค่าเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้หารือร่วมกับทุกฝ่ายใน ททท.ปรับแนวทางให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีสิ่งสำคัญเกี่ยวข้องตอบโจทย์การท่องเที่ยว ททท.จะได้ทำการผลิตและออกแบบสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ตามแผน 2 เรื่องใหญ่ คือ
1.การพัฒนาตลาดคุณภาพ 2.สร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (sustainable) นำไปสู่การสนับสนุนวาระแห่งชาติตามแผนพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว หรือBCG : Bio Circular Green กระจายสู่ท้องถิ่นเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน
สินค้าท่องเที่ยวของ ททท.ปีงบประมาณ 2565 ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 สินค้าเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม ซึ่งมองได้หลายมิติมาก เน้นการท่องเที่ยวชุมชน อาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม ธรรมชาติผจญภัย หรือสินค้าการตอบโจทย์ความสนใจพิเศษ (Niche product) เช่น ท่องเที่ยวตามกระแส ตัวอย่าง เส้นทางท่องเที่ยวคนโสด สายมู โลโซแทรเวลเลอร์
กลุ่มที่ 2 สินค้าท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพ จะเน้นสินค้าท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ SPORT สายต่าง ๆ เช่น Sport Lover, Sport Professional เป็นนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งให้เกิดบูรณาการท่องเที่ยวและกีฬาเข้าด้วยกัน โดยมีทัวร์นาเมนท์รายการใหญ่ระดับนานาชาติ มาพร้อมกับนักกีฬาที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพได้เป็นอย่างดี
“สินค้าไมซ์/จัดการประชุม” รูปแบบต่าง ๆ โดย ททท.ทำงานร่วมใกล้ชิดกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” มากขึ้น
“สินค้าทำงานเที่ยวได้ Workation & Staycation โดยมีกิมมิกไฮไลต์ “ทำงานช่วยชาติ” เป็นอีกกลุ่มที่ ททท.เน้นย้ำให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะเมื่อมีการเดินทางออกไปทำงานตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เท่ากับได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการตามพื้นที่เหล่านั้นด้วย ททท.จึงเตรียมทำแพกเกจหรือแคมเปญการขาย “วันพักระยะยาว” แต่ละพื้นที่เพิ่มขึ้นทั่วไทย
กลุ่มที่
3 สินค้าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
Health & Wellness มาแรงต่อเนื่อง
ไทยติดหนึ่งในมหาอำนาจของประเทศศูนย์กลางเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก ตอนนี้
ททท.ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มากขึ้น
เน้นย้ำมาตรฐานบริการกับมาตรการสาธารณสุขผ่านโครงการหลัก SHA :Amazing Thailand Safety and
Health Administration รวมทั้งต่อยอดทำทางมิติสินค้า
ปี 2565 เตรียมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเมืองกัญชา
เชื่อมโยงหลายมิติ ตอนนี้ ททท.จับมือกับเขตสุขภาพที่ 8
กระทรวงสาธารณสุข พร้อมนำร่องเที่ยวเมืองกัญชาในอีสาน 7 จังหวัด
ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ เลย อุดรธานี สกลนคร นครพนม รวมถึง “สุขภาพอื่น ๆ “ ทั้ง
สปาภูมิปัญญา การชะลอวัย (Anti-Aging) ศัลยกรรมความงาม
และพักระยะยาว
กลุ่มที่ 4 สินค้าท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ครอบคลุมทั้ง คลอง แม่น้ำ ทะเล โดยมีพันธมิตรเข้ามาร่วมด้วย เช่น อุทยานธรรมชาติทางทะเล เรือสำราญ (Cruise) ยอร์ช ตอนนี้ ททท.ทำงานร่วมกับกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ปลดล็อกบางอย่างเพื่อทำให้ท่องเที่ยวยอร์ชเดินหน้าได้ดีมากขึ้น
กลุ่มที่ 5 สินค้าเชื่อมโยงภูมิภาคกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำต่อเนื่องมาหลายปี ผ่านโครงการ การท่องเที่ยวรอบอาเซียน :ASEAN for All เส้นทางเดียวเที่ยวได้ 1-2-3 ประเทศ : One or Two or Three Countries One Destination ในพื้นที่รอยต่อระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน
ปี 2565 ฝ่ายสินค้า
ททท.มีกรอบนโยบายเพิ่มเติมเส้นทางท่องเที่ยวกลุ่มนี้ตอบโจทย์นโยบายประเทศเรื่อง Cross Broader Approach ทาง
รมว.พิพัฒน์ ให้โจทย์ ททท.เดินหน้าทำต่อมาเรียบร้อยแล้ว
การพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวกับเพื่อนบ้านจะเริ่มได้ในช่วง 15 มกราคม
2565 เป็นต้นไป
ททท.มีความพร้อมเปิดประเทศอย่างเต็มที่แล้ว โดยแบ่งเป็น “ตลาดในประเทศ” จังหวัดทั่วไทยที่มีความพร้อมก็เปิดได้แบบใหม่ภายใต้เงื่อนไขในการ “การท่องเที่ยวไปพร้อมกับโควิด-19” นักท่องเที่ยวจะต้องไม่ประมาทในการใช้ชีวิตนำตัวเองและคนรอบข้างสร้างความเสี่ยง จึงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยทุกการออกเดินทาง ส่วนผู้ประกอบการก็ต้องมีคู่มือปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุข
ร่วมกันสร้างการเดินทางในประเทศแบบออร์แกนิกเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ไม่ได้เป็นแบบสร้างแรงกดดันหรือ force move เชิญชวนเริ่มท่องเที่ยวจากพื้นที่ใกล้บ้านก่อน ระยะการเดินทางขับรถท่องเที่ยวได้ เพราะตอนนี้คนอาจจะยังกังวลอยู่บ้างกับการเดินทางโดยเครื่องบิน ถึงแม้จะมีความปลอดภัยเป็นปกติอยู่แล้วก็ตาม
สำหรับ “ตลาดต่างประเทศ” ช่วงที่ 1 กรกฎาคม-กันยายน 2564 เริ่มไปเรียบร้อยแล้ว 1.ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เปิดตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2.สมุย พลัส โมเดล เปิดตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 3.ท่องเที่ยว 7+7 อยู่ภูเก็ต 7 วัน ไปเที่ยวในพื้นที่เชื่อมโยงตามที่กำหนด กระบี่ พังงา เปิดตั้งแต่ 15 สิงหาคม
ช่วงที่ 2 ตั้งแต่1 ตุลาคม 2564 จะเปิดเพิ่มอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ (3 อำเภอ -อำเภอเมือง/แม่แจ่ม/ดอยเต่า) ชลบุรี(พัทยา/สัตหีบ/บางละมุง) หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ ชะอำ/เพชรบุรี แต่จะต้องเปิดพร้อมกับมีคู่มือปฏิบัติการ :SOP :Standard Operation Procedure กับผ่านกระบวนการของศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข แล้ว
ทาง ททท.ต้องเตรียมคัดเลือกสินค้ามานำเสนอเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวตามเมืองที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัว 14 วัน
ช่วงที่ 3 ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป จะเปิดล็อตใหญ่ทั่วประเทศ 25 จังหวัด ตามการแบ่งของ ททท. 5 ภูมิภาค มี ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ทาง ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.ได้ประชุมหารือกับผู้อำนวยการภูมิภาคทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เพื่อจัดเตรียมสินค้าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม
โดยแต่ละภูมิภาคที่ดูแลจังหวัดที่เปิดได้
จะมีรายละเอียดประกอบคือ 1.กลุ่มพื้นที่ท่องเที่ยวหลักหรือ
Area base ที่สามารถเปิดได้
2.คัดเลือกสินค้าการท่องเที่ยวชูขึ้นมาขายตามความต้องการของตลาด
3.กลุ่มพื้นที่เชื่อมโยงที่สามารถจัดกิจกรรมเสริมได้
ช่วงที่
4 เริ่มมกราคม 2565 การจับคู่เปิดท่องเที่ยวไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
หรือ Bubble
Tourism เช่น ไทย-กัมพูชา ทาง ช่องจอม จ.สุรินทร์
จ.สระแก้ว และเกาะกง จ.ตราด ไทย-เมียนมา ทางจังหวัด ตาก เชียงราย ระนอง
ไทย-สปป.ลาว ทางจังหวัด นครพนม หนองคาย มุกดาหาร ลงใต้ก็มี ไทย-มาเลเซีย ทาง
นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา สตูล
การจัดทำแผนคัดเลือกสินค้าให้สอดคล้องกับการเปิดเมืองท่องเที่ยวทั้งในประเทศและกับเพื่อนบ้านทั้ง
4
ระยะข้างต้น ททท.ทำทุกอย่างไว้ตามนโยบาย รมว.พิพัฒน์ และรัฐบาล รอไว้แล้ว
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า
ททท.ได้เพิ่มโมเมนตั้มการเข้าไปสนับสนุนพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลุ่ม Start Up ซึ่งสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
เป็นแรงผลักดันให้เกิดการนำ “เทคโนโลยีดิจิทัล”
เข้ามาใช้เต็มรูปแบบในยุคโลกวิถีใหม่ New normal บังคับให้คนอยู่กับที่
จึงทำให้คนต้องวิ่งเข้าหาดิจิทัล ทาง ททท.ได้ทำโครงการ TRAVEL TECH START UP ตอนนี้ก็ออกดอกผลมาก
ๆ
เริ่มจากการจัดเวทีประกวด TRAVEL TECH START UP
นำองค์ประกอบทที่มีประโยชน์จากสตาร์ตอัพมาจัดประกวดมาตั้งแต่ปี 2561 ก่อนเกิดโควิด
เพื่อต่อยอดเพิ่มความเข้มแข็งด้านการท่องเที่ยวได้อย่างไรบ้าง
ซึ่งหลายคนที่ชนะการประกวดตั้งแต่ปีแรกล้วนมีโอกาสทางธุรกิจแล้ว สร้างผลงานมากมาย
ตอบโจทย์ท่องเที่ยวได้จริง
เวทีจัดประกวด TRAVEL TECH START UP นั้น ททท.ได้สนับสนุน 3 ส่วน
คือ ส่วนแรก เงินทุน ส่วนที่สอง องค์ความรู้ทั้ง Soft &Hard skill ส่วนที่สาม
สนับสนุนผลงานไปสู่การเข้าถึงธุรกิจ
จะเห็นชื่อสตาร์ตอัพที่ก้าวสู่ความสำเร็จอย่าง Locanation ที่ทำแพลตฟอร์ม ASQ ศูนย์รวมโรงแรมที่กักตัวโควิด
,Find Folk ทำแพลตฟอร์มท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม
Socialgiver
แพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ เรื่อยไปจนถึง Take Me Tour สตาร์ตอัพท่องเที่ยวดังกล่าวเคยผ่านเวทีการประกวดของ
ททท.ก้าวไปสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ
ถือเป็นโอกาสดีที่สตาร์ตอัพท่องเที่ยวทั้งหลายเปิดให้
“ผู้ใช้บริการ” ได้เข้าถึงโลกของดิจิทัล (digital world)
ททท.พยายามทำทั้ง Up-Re
Skill ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปแล้ว
แต่ก็ต้องย้ำว่า ภาคธุรกิจจะต้องหาทางรุกเร็วให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดนใจ
ทำให้ลูกค้าติดใจ จึงจะอยู่รอด ท่ามกลางการแข่งขันค่อนข้างสูงขนาดนี้
นางสาวฐาปนีย์ย้ำว่า ตอนนี้ดิจิทัลเวิลด์เป็นเทรนด์ที่กำลังมาเป็นเครื่องมือให้เกิด “ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ” ซึ่งบางคนอาจจะคิดไม่ถึง แต่ ททท.กำลังทำการบ้านโดยเข้าไปส่องดูกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจสกุลเงินดิจิทัล อย่าง Token , Bitcoin แล้วจะมีคนกลุ่มหนึ่งเป็น “นักลงทุนทั้งสองสกุลเงินดิจิทัล” มีรายได้ค่อนข้างสูง เป็นคนรุ่นใหม่มีกำลังรายได้และกำลังซื้อสูง สามารถแยกเป็น “นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ :มิลเลนเนียล” ได้
โดย ททท.ได้ทำแบบสอบถามไว้บ้างแล้ว พบว่านักลงทุนรุ่นใหม่ที่อยู่ในสกุลเงินดิจิทัลสนใจที่จะซื้อ “สินค้าไฟล์สไตล์” คือ “การท่องเที่ยว” ขณะนี้จึงได้วางแผนทำการตลาดเพื่อให้ตอบโจทย์กำลังซื้อกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นในอนาคตเร็ว ๆ นี้ สร้างโอกาสให้กับผุ้ประกอบการท่องเที่ยวไทยด้วย
ขณะนี้ ททท.กำลังทำอีกโครงการคือ “Empowering Tech Tourism” เป็นแพลตฟอร์มรวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวพร้อมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวนำไปใช้งาน เป็นโครงการต่อยอดจาก TRAVEL TECH START UP ตอบโจทย์เอื้อซึ่งกันและกัน โดยได้คัดเลือกผู้ที่มีผลงานทางนวัตกรรมอยู่แล้วเข้ามาพบปะกับผู้ประกอบการได้จับคู่ไปใช้งาน รวมทั้งยังได้สอนทักษะอัพและรีสกิลให้ด้วย ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เข้าสู่อีโคซิสเต็มท่องเที่ยวเสริมประสิทธิภาพธุรกิจได้มาก
ททท.ต้องการให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้ามาลงทะเบียนในโครงการ
Empowering Tech Tourism
ระหว่างวันนี้-15
กันยายน 2564 มีเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศ
เข้ามาได้เว็บไซต์ empoweringtechtourism.com
นำนวัตกรรมดีมากไปใช้พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมกัน
นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า
เตรียมพร้อมปูพรมทำ “ตลาดในประเทศ” (ซึ่งจะย้ายมารับตำแหน่งนี้ วันที่ 1 ตุลาคม
2564)
ไฮไลต์ “การ“จัดกลุ่มลูกค้ากับสินค้า” ต้องวางแผนให้สอดคล้องไปด้วยกันคือ
“ตลาดในประเทศ” ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ต้องดูกำลังซื้อของแต่ละคน คุณภาพ
การตอบโจทย์คนที่จะใช้บริการทางการท่องเที่ยวได้มากที่สุด โดยเข้าไปส่องดูกลุ่ม Influencer เจ้าของธุรกิจต่าง
ๆ กลุ่มพรีเมี่ยม
กลุ่มแพลตินัมที่เคยทางเที่ยวต่างประเทศต้องพยายามเบนความสนใจให้มาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นจะทำ 6 ภารกิจหลัก คือ 1.ต้องกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในประเทศ 2.การนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวในมิติใหม่ 3.การขับเคลื่อนเพื่อรักษาสภาพธุรกิจท่องเที่ยวของผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพราะโควิดยังอยู่ธุรกิจก็ไม่สามารถกลับมาให้บริการ 100 % ได้ ททท.จึงต้องเข้าไปช่วยให้ได้มากสุด
4.ต้องเร่งเดินหน้ายกระดับมาตรฐานธุรกิจท่องเที่ยวทั้งระบบเข้าสู่
SHA :Safety & Health
Administration ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
เพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นสร้างความมั่นใจให้คนไทยและต่างชาติมาเที่ยว
5.สร้างพลังforce Move ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยอาศัยมาตรการภาครัฐ
ทั้งโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน และทัวร์ทั่วไทย
และการทำงานร่วมกับพันธมิตรส่งเสริมการท่องเที่ยวเจาะกลุ่มคอร์ปอเรต
ตามที่เคยทำแล้วประสบความสำเร็จจากการขาย Workation Thailand
6.การตลาดทางตรง
ส่งเสริมตลาดคอร์เปอเรตอย่างจริงผ่านโครงการ Staycation Thailand, Workation Thailand นำสินค้าของผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาทำแพกเกจขายให้คอร์ปอเรตซื้อแบบยกล็อตครั้งละจำนวนมาก
ๆ ที่ผ่านมาเปิดขายตรง Workation
ห้องพักทั่วประเทศเพียง
2 เดือน
กุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 ทำยอดขายได้มากกว่า
150 ล้านบาท
พอเมษายนเกิดโควิดระลอก3ทำให้ต้องชะไว้ก่อน
แล้วจะกลับมาทำใหม่ให้ได้อีกครั้งเร็ว ๆ นี้
ส่วน
“ต่างประเทศ” ตอนนี้กลุ่มเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนทั่วไป (Liesure traveller)
ยังไม่กลับมา ก็ต้องช่วยกันมองหากลุ่มตลาดใหม่ ให้เข้ามาใช้สินค้าและบริการ
นำเสนอกิจกรรมดึงดูดความสนใจ
เริ่มปูพรมทำตั้งแต่ “กันยายน 2564” ถึงแม้จะยังทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในพื้นที่เปิดเมืองแล้วทั้ง ภูเก็ต สมุย กระบี่ พังงา ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว แม้สินค้าจะดีขนาดไหน ก็ต้องมี “กิจกรรม” ตอบโจทย์ประสบการณ์และจิตวิญญาณนักท่องเที่ยว เพราะจะอยู่ใน “ความทรงจำ” เมื่ออยู่แล้วก็ต้องรักษาไว้
ดังนั้นททท.ต้อง บูรณาการทำงาน ตลาดในประเทศกับต่างประเทศร่วมกัน เช่น ต่างชาติชอบท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในจังหวัดไหนก็ต้องทำงานคู่กันไป หรือ “นักกีฬาต่างชาติ” ชอบมาเก็บตัวที่ไหนเพราะไทยเป็นประเทศแดนสวรรค์ของนักกีฬาจึงต้องเฟ้นหากลุ่มพื้นที่มาตอบโจทย์การขาย หรือ “กลุ่มเซลิบริตี้” ทั้งกลุ่มถ่ายทำภาพยนต์ ธุรกิจไมซ์ มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจทำให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งประเทศกลับสู่ปกติโดยเร็ว
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิง เพาเวอร์จัด2ดีลเด็ดสินค้ากว่า20,000รายการช้อปคุ้มถึง17ก.ย.
คิง เพาเวอร์ จัด 2 ดีลเด็ด มาเอาใจนักช้อปออนไลน์ เปิดให้ช้อปสุดคุ้มทุกที่ทุกเวลากับสินค้าแบรนด์เนม ราคาดิวตี้ฟรี ลดสูงสุด 70% กับแคมเปญ SHOP WHENEVER และ BETTER PRICE พบกับขบวนสินค้าหลากหลายหมวดหมู่กว่า 20,000 รายการ ได้แก่ แฟชั่น บิวตี้ เครื่องใช้ภายในบ้าน และอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมายตลอด 10 วัน ตั้งแต่วันนี้ – 17 กันยายน 2564 อยู่ที่ไหนก็ช้อปได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ www.kingpower.com และแอปพลิเคชัน King Power
ดีลที่ 1 ลดสูงสุด 40% เมื่อช้อปครบ 3,000 บาท เพียงใส่รหัสส่วนลด 99EVER
ดีลที่
2 แจก 600
โค้ดพิเศษตลอดทั้งแคมเปญเฉพาะวันที่ 10
และ 13 กันยายน 2564 ลดสูงสุด 40% แล้วลดเพิ่มอีก
5% เมื่อช้อปครบ 5,000
บาท ติดตามรหัสส่วนลดได้ที่ www.kingpower.com และแอปพลิเคชัน
King Power
ข่าวที่ 2 ช้อปด่วน!บิวตี้บุฟเฟต์ที่คิงเพาเวอร์จ่าย3หมื่นได้สินค้าเพียบ18ชิ้น
คิง เพาเวอร์ ยกขบวนน้ำหอมและเครื่องสำอางมาให้คุณเลือกสิ่งที่ใช่ สวยได้สไตล์ทุกคนในราคาเดียว กับโปรโมชั่นสุดร้อนแรง “SUPER DEAL BEAUTY BUFFET” ระหว่างวันนี้ – 30 กันยายน 2564 เลือกช้อปบิวตี้บุฟเฟต์ไอเทม จ่ายเพียง 30,000 บาท รับไปเลย 18 ชิ้น จากสินค้าสุดฮอต 6 กลุ่ม ช้อปง่าย อยู่ที่ไหนก็ช้อปฟิน ไม่ต้องมีไฟลต์บินก็ช้อปได้ สะดวกและปลอดภัย พร้อมจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้านภายใน 7 วัน ช้อปคุ้มผ่าน 2 ช่องทางใหม่ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 – 21.00 น.
1.KING POWER CALL TO SHOP กริ๊งเดียวครบ จบทุกการช้อป! อยู่บ้านก็ช้อปได้ด้วย Shopping Assistant ผู้ช่วยช้อปส่วนตัวเก็บครบทุกช้อปปิ้งลิสต์ แค่โทร. 0 2338 7870 หรือ Inbox (อินบอกซ์) เข้ามาสอบถามรายละเอียดสินค้าที่สนใจก่อนซื้อทาง Facebook King Power ก็ได้
2.KING POWER CHAT TO SHOP แค่แชท
ก็ได้ช้อปทางไลน์แอพลิเคชั่น LINE Application เพียงเพิ่มเพื่อน
LINE: @KP_ChatToShop เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวพร้อมให้บริการแนะนำและช่วยเลือกซื้อสินค้าอย่างใกล้ชิด
ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ข่าวที่ 3 “อัยยวัฒน์”นำทีมบอลหญิงเลสเตอร์ซิตี้ขึ้นเบอร์1ซูเปอร์ลีกอังกฤษ
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า เลสเตอร์ ซิตี้ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างยิ่งใหญ่นำ “ฟุตบอลทีมหญิง” เลื่อนชั้นสู่ FA Women’s Super League ลีกสูงสุดของอังกฤษเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ช่วงปิดฤดูกาล 2020-21 ที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม คว้าชัยนัดสุดท้ายในการดวลแข้งเอาชนะชาร์ลตัน 4 ต่อ 0 ประตู ทำคะแนนสะสมได้ทั้งหมด 50 คะแนน จากการลงเล่นรวม 20 นัด
ประธานสโมสรเลสเตอร์ย้ำหนักแน่นว่า ผลงานครั้งนี้คือภาคภูมิใจของผมและทุกคน ที่ได้ร่วมกันสร้างทีมฟุตบอลหญิงแจ้งเกิดในสโมสรแห่งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตั้งใจมานาน แล้ววันนี้ได้ทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงแล้ว
จากนี้ไปทีมฟุตบอลหญิงของเลสเตอร์ ซิตี้ จะรักษามาตรฐานความแข็งแกร่ง ภายใต้วิสัยทัศน์และการพัฒนาทีมฟุตบอลหญิงในระยะยาว ด้วยการต่อยอดความสำเร็จ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าเยาวชนหญิงเห็นถึงโอกาส และใช้พรสวรรค์ที่มีสร้างอนาคตไปด้วยกัน
ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
ตั้งเป้าจะพัฒนาทีมฟุตบอลหญิงของเมืองเลสเตอร์อย่างยั่งยืน เป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงในระยะยาวให้กับทีมทุกระดับ
ตั้งแต่ระดับอาชีพ ภูมิภาค รากหญ้า ต่อเนื่องจากที่เคยนำเลสเตอร์
ซิตี้ สร้างปาฏิหาริย์มาแล้วเมื่ปี 2559 ในวันนี้ทีมหญิง มีทีท่าจะสานต่อความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
เนื่องจากการลงสนามแข่งในลีกสูงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะกับทีมน้องใหม่
แต่สาวแข้งเหล็กได้แสดงให้โลกเห็นหัวใจดวงเล็ก ๆ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “รูปจิ้งจอก” ของทุกคน
เมื่อรวมกันเข้าก็สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนได้
สำหรับ
สโมสรฟุตบอลหญิงเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี
2547
(ค.ศ.2004) ในฐานะสโมสรฟุตบอลหญิงอิสระ เริ่มลงเล่นในลีกสมัครเล่น
กระทั่งได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในศึก FA Women’s Championship หรือดิวิชั่น
2 ฟุตบอลหญิงของอังกฤษ เมื่อฤดูกาล 2018-19 ก่อนที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
จะเข้ามาบริหาร จากนั้นได้เปลี่ยนสถานะเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพ เมื่อวันที่ 22
สิงหาคม 2563
ข่าวที่ 4 ททท.รุกต่อภูเก็ต/กระบี่/พังงา”จัด2กิจกรรมSHASHASHA-รำลึกสึนามิ
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวช่วงกันยายน 2564 เป็นต้นไป ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าท่องเที่ยว เพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์และจิตวิญญาณนักท่องเที่ยวรักษาความทรงจำที่ดี เบื้องต้นเลือกจังหวัดฝั่งทะเลอันดามันที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยได้แล้ว ภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติตามเงื่อนไขความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด เตรียมจัด 2 กิจกรรม ได้แก่
1. Thailand SHA SHA SHA ทำเทศกาลดนตรี 3 จังหวัด ในภูเก็ต พังงา กระบี่ พร้อมทั้งเปิดให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม
เชื่อมโยงเรื่อง ดนตรี อาหาร วัฒนธรรม สร้างความผ่อนคลาย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติให้แต่ละแห่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงอยู่ในความทรงจำอันประทับใจ
2.จัดงานรำลึกการท่องเที่ยวในความทรงจำ (Tourism Experience Memory) ภายใต้ชื่อ “Sunami Memorial Month” จะจัดตลอดเดือนธันวาคม 2564 ใน 3 พื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ “หาดป่าตอง” จ.ภูเก็ต บ้านน้ำเค็ม เขาหลักจ.พังงา และ เกาะพีพี จ.กระบี่ กิจกรรมนี้สอดคล้องตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายให้จัดกิจกรรม Light Mapping ควบคู่กับการแสดงวัฒนธรรม ดนตรี อาหาร เพื่อให้คนไทยและต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้นช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่ 5 ททท.ดึง2ศิลปินจัดเต็มเที่ยวไทยMini Story“อร Vacation”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจให้การท่องเที่ยวยังคงอยู่ในหัวใจทุกคน จึงได้นำ 2 ศิลปิน"ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร" ควงแขน "อิ๊งค์-วรันธร
เปานิล" โคจรมาร่วมงานกันครั้งแรก เพื่อร่วมเติมความหวานและโมเม้นต์สุดจิ้น
ในการถ่ายทอดเรื่องราวความสุขผ่าน Mini Story ชุด “อร Vacation”
ท่ามกลางอ้อมกอดธรรมชาติเมืองภูเก็ต
เพื่อรอให้ออกมาเที่ยวทั่วไทยกันอีกครั้งในเร็ววันนี้
ททท.จึงขอชวนคนไทยทุกวัย
ทุกบ้าน มาชมความหวาน ความสุข ความจิ้น ความสนุก หลากหลาย ในทุก ๆ
ก้าวแห่งการเดินทางพักผ่อนไปทำงานไปได้ด้วย โดยชมได้จากลิงค์ ดูคลิปได้จากลิงค์นี้
https://fb.watch/7VgAgQLCEA/ https://www.facebook.com/amazingthaitay/videos/371317717938742/
1.Watch
Form Home : อยู่บ้านก็สามารถเติมเต็มความสุขทุกการเดินทางได้
2.Work Form Home : ทำงานอยู่บ้านก็เพลิดเพลินได้กับ Mini
Story ชุด “อร Vacation”
โดย ททท.การันตีรอยยิ้มทุกมุกที่ถ่ายทอดผ่านเรื่องราว
Mini Story ชุด “อร Vacation” อัดแน่นไปด้วยความสวยงามของเมืองไทย
ที่ได้ผู้กำกับฝีมือดี ร้อยเรียงเรื่องราวของ คนวัยทำงาน
ในชีวิตปกติทั่วไปไม่สามารถแยกงานออกจากพื้นที่ส่วนตัวได้
จึงได้ทำพล็อตเรื่อง
ให้มีเพื่อนรักรู้ใจสุดชิลอย่าง "ท็อป" คือต่อ ธนภพ ชวน ‘อร’ Vacation
วางปัญหาเรื่องงานไว้ก่อน แล้วชวนกันออกไปเยียวยาจิตใจ
ในบรรยากาศการยกกองไปถ่ายทำเพื่อให้ได้สัมผัสความสวยงามแห่งท้องทะเลภูเก็ต
ทั้งสองศิลปินได้ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก เข้าถึงทั้งมุกตลกและโมเม้นท์สุดจิ้น
แบบโดน ๆ โดยมีซีนน่ารัก ๆ สุดฟิน
แถม
"ต่อ-อิ้งค์" ยังมีซีนเอาใจเหล่าแฟนคลับของทั้งคู่ โดยโชว์เสียงร้อง Cover
เพลง “ลาลาลอย” ของ The Toy ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
ที่จะทำให้ผู้ชม “ตกหลุม..รัก” ทั้งคู่อย่างแน่นอน
ททท.ชวนทุกคนร่วมติดตามเรื่องราวความ “Amazing ยิ่งกว่าเดิม” และคลิปน่ารัก ๆ "ต่อ -อิ้งค์" กับทริป " อร Vacation" ได้ทาง Facebook Fanpage: amazingไทยแลนด์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ต้องห้ามพลาด!! ออกมาเที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ธรรมชาติทั่วไทย ทุกสถานที่มีความ "อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม" รอต้อนรับทุกคน
ข่าวที่ 6 “TCEB”เปิดทางรอดไมซ์-ดร.ไพรินทร์ชี้ทางเลือกโอลิมปิกโมเดล
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ได้เปิดเวที “MICE Talk 2021 -The Passage of Recovery : ทางเลือก ทางรอด ฝ่ายวิกฤตโควิด” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบศ.) และผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการและองค์ความรู้ ทั้ง ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร์ ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษามหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ นายภาณุ พงศ์วิทยภาณุ กรรมการผู้จัดการและผู้พัฒนาเว็บไซต์ตลาดด็อตคอม ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการสถาบันไทยแลนด์ฟิวเจอร์ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกมานำเสนอข้อมูลเชิงลึกเพื่อส่งต่อสาระประโยชน์ทั้งหมดไปยังภาคธุรกิจและองค์กรเกี่ยวข้องได้นำไปประยุกต์ใช้พัฒนาขับเคลื่อนกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยอุตสาหกรรมไมซ์เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ
ก่อนโควิด-19
ทำรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 2
แสนล้านบาท กระจายรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
แต่พอเกิดโควิดเป็นอุปสรรคไม่สามารถจัดงานได้อย่างราบรื่น
ทีเส็บก็ยังคงเดินหน้าทำโครงการที่สามารถช่วยเหลือด้วยการสนับสนุนเงินโครงการ
“ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” ทำโครงการเตรียมพร้อมเปิดประเทศ MICE
Guideline คู่มือเส้นทางจัดประชุม
และนำเสนอข้อมูลของอุตสาหกรรมให้
ศบค.ได้รับทราบสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายจากเวทีนี้ทีเส็บมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งตลาดในประเทศ
และต่างประเทศ เดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติกลับมาโดยเร็วที่สุด
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร เปิดเผยว่า “ทิศทางการปฏิรูปประเทศ ทางรอดยุคโควิด-19 แนวทางการแก้ปัญหาโควิดของจีนใช้วิธีล็อกดาวน์ เช่นเดียวกับช่วงต้นของยุโรป อเมริกา และมีหลายวิธีที่แต่ละประเทศเลือกใช้เช่นอยู่กับโควิด ส่วนไทยเลือกล็อกดาวน์เพื่อให้การระบาดเป็นศูนย์ ตอนนี้จีน นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ก็ยังทำอยู่ ตอนนี้ผ่านมาแล้วปีเศษทั้ง 2 วิธีไม่ประสบความสำเร็จในการยับยั้งการแพร่ระบาดได้ เพราะการติดเชื้อยังคงอยู่ จึงเกิดคำถามว่าแล้วโลกเราจะไปต่ออย่างไร จึงเสนอทางสายกลางเรียนรู้ที่จะอยู่กับไวรัสโควิด ตามธรรมชาติ ที่จะกระตุ้นให้มนุษย์มีวิวัฒนาการแก้ไข
ตัวอย่าง “ญี่ปุ่น” ตัดสินใจจัดการแข่งขันโอลิมปิก 2021 มีนักกีฬาจากทั่วโลกเกือบ 200 ประเทศ มีจำนวนหลักแสนคน มีผู้ติดเชื้อหลักร้อยคน ส่วนคนญี่ปุ่นก็ติดเชื้อสูง เพียงแต่มาตรการสาธารณสุขเข้มแข็ง ตอกย้ำถึงการจัดกิจกรรมระดับโลกสามารถทำได้ ส่งผ่านไปถึงการจัดฟุตบอลโลกปี 2565 และทำให้ทั่วโลกมองถึงโอกาสการกลับมาจัดงานต่าง ๆ ได้อีกครั้ง
“บทเรียนที่ไทยควรถอดบทเรียนจากโอลิมปิกโตเกียว” มาเป็นหลักปฏิบัติเพื่อจัดกิจกรรมต่าง ๆ อีกครั้ง นั้น โลกนับจากนี้จะไม่มีอิสระเหมือนก่อน แต่จะต้องวางแนวทางการเดินไปข้างหน้า รวมทั้งประชาชนจะต้องพิสูจน์ตัวเองปฏิบัติตามกติกาป้องกันโรค นานาชาติฝากความหวังไว้กับวัคซีนซึ่งแม้ไม่ใช่ยาวิเศษเป็นเพียงป้องกันบางส่วนไม่ให้เกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ดังนั้นทั่วโลกจึงพากันยึดวัคซีนเป็นหลักป้องกันการป่วยมากตายน้อย
ในประเทศไทยหากจะผ่านเพื่อให้มีชีวิตเดินหน้าต่อไปได้ทุกคนก็ควรจะปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุข โดยเฉพาะผู้ประกอบการไมซ์และในแต่ละอุตสาหกรรมต้องมากำหนดแนวทางปฏิบัติซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการระบาด ซึ่งขนาดการจัดงานแต่ละครั้งด้วยจำนวนคนที่แตกต่างกัน ก็ต้องมีคู่มือต่างกัน
ส่วนการมองภาพรวมเศรษฐกิจในมุมมหภาคปี
2564
พึ่งพาเครื่องยนตร์ได้เพียงตัวเดียวการใช้จ่ายภาครัฐ กับการส่งออก
โดยจะต้องไม่ล็อกดาวน์โรงงานอุตสาหกรรม ในจังหวะที่ภาพใหญ่ในจีน อเมริกา
ฟื้นตัวแล้วจะส่งผลดีกับส่งออกไทย ปี 2565 เครื่องยนต์ตัวที่สาม
การลงทุน และปลดล็อกตัวสุดท้ายคือ การบริโภคภายในประเทศ (domestic
consumtion)
ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการบริหารด้านสาธารณสุข เพราะไม่ใช้ไม้ตายสุดท้ายเรื่อง “ล็อกดาวน์” เพียงอย่างเดียว
ผมมองเรื่องไมซ์ต่างชาติที่จะดึงเข้ามาไทย มีจุดแข็งที่ควรใช้ 2 เรื่อง คือ 1.เสน่ห์ความเป็นไทย ผสมผสานเข้ากับ 2.ลดความกลัว โดยใช้มาตรการต่าง ๆ เข้ามาเป็นเครื่องมือการจัดงาน เช่น นำโอลิมปิกโตเกียว โมเดล มาประยุกต์ใช้ดึงงานไมซ์ระดับนานาชาติเข้ามาจัด
ต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี แต่เราก็มีหนทางที่สั้นกว่า เพราะจีดีพีเดิมขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งอ่อนไหวต่อสถานการณ์รอบด้านที่อ่อนตัวค่อนข้างเร็ว ส่วนจะหวังจากอุตสาหกรรมลงทุนก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นต้องพึ่งซอฟท์แอสเซ็ตได้มากขนาดไหน เช่น จีนตอนนี้ไม่ยอมปล่อยคนเดินทางต่างประเทศ ก็เจรจาจับคู่การท่องเที่ยว Bubble Tourism ตัวอย่างภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เป็นเรื่องที่ดี หากจะให้อุตสาหกรรมไมซ์ทำที่ภูเก็ต ในคอนเซ็ปต์ Bubble and Seal Concept เพื่อให้เห็นไมซ์ โมเดล เพื่อสร้างความมั่นใจรูปแบบ
ดร.ไพรินทร์ ย้ำทิ้งท้ายว่าฝากถึงผู้ประกอบการไมซ์ไม่ควรละความพยายาม เพราะก่อนเกิดโควิดไม่รู้ว่าสถานการณ์จะแย่ขนาดนี้ แล้วเสียเวลาไปปีเศษ ตอนนี้ทุกอย่างค่อย ๆ เริ่ม แต่ละอุตสาหกรรมต้องหาทางออกด้วยวิธีของตนเอง เพราะมีจุดแข็งต่างกัน เช่นไมซ์ทำเป็นออนไลน์ บวกกับการเสน่ห์ นำบับเบิ้ลมาใช้ตัวอย่าง ไทย กับสิงคโปร์ เพราะความต้องการของคนนั้นต้องการออกเดินทางเป็นทุนอยู่แล้วทั้งปัจจุบันและอนาคต
ช่วงที่ 2 นักท่องเที่ยวส่งเสียงเฮ
และแพ็กกระเป๋า ออกเที่ยวได้แล้ว !! ที่ “ทะเลหัวหิน-ปราณบุรี-อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด”
ห้ามพลาดจุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ พิพิธภัณฑ์4มิติ ร้านอาหาร ชุมชนประมง แล้วต้องใจใส่ตัวเองหากเป็น “4โรคทางจมูก” ต้องรีบรักษาด่วน ๆ
พร้อมกับเกาะติดข่าว “ไทยแอร์เอเชีย” เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ขายหุ้นคลาวด์ฟันดิ้ง
ใครก็ซื้อได้เริ่มที่ 50,000 บาท ขณะที่ “แอสเซ็ตเวิลด์ :AWC” โรงแรมยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ชิงทำโปรโมชั่นทั่วไทย 18 โรงแรม หวังโกยรายได้ฟื้นธุรกิจไตรมาส
4
ปีนี้
ลงใต้ไปเที่ยวได้แล้ว
ณ “หัวหิน”
ฟองคลื่นแห่งท้องทะเลแห่งภาพจำของนักท่องเที่ยวคนไทย ออกจากกรุงเทพฯ ไปราว 200 กิโลเมตร
เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศริมทะเลเก่าแก่ที่สุดของเมืองไทย เมื่อครั้งอดีตปี 2463
ชาวบ้านมีวิถีประมง
กระทั่งปี 2453-2468 ในรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
เริ่มมีเส้นทางก่อสร้างทางรถไฟเปิดสถานีหัวหิน ปี 2469
ในรัชกาลที่
7 มีพระราชวังไกลกังวลเป็นที่ประทับรับรองพระราชวงศ์ในการเสด็จเยือนหัวหิน
“ชายหาดหัวหิน” มีเสน่ห์ดึงดูดครอบครัวคนไทยทุกยุคสมัย รวมถึงตอนนี้หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ ผู้คนพากันไปหัวหินอีกครั้งอย่างมีความสุข
นอกจากชายหาดแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ “จุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ” หรือคนท้องถิ่นเรียกติดปากว่า
“เขาเรดาห์” ในตำบลหัวหิน เป็นอีกแห่งที่ได้รับความนิย อยู่ห่างจากตัวเมือง 3
กม.ต้องนั่งรถขึ้นไปยอดภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล
162
เมตร มีขนาดพื้ินที่ 352
ไร่ ร่มรื่น มองลงมาเห็นวิวพาโนรามาทั้งตัวเมืองและอ่าวหัวหินสวยงามที่สุด
รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พื้นที่รอบ ๆ
ยังมีศูนย์สินค้าพื้นเมือง สวนนก ร้านขายอาหาร และเครื่องดื่ม นักท่องเที่ยวนิยมานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเช้าตรู่
และยังมีสวนสาธารณะไม้ดอก สวนผีเสื้อ อยู่บนเขา และยังมีจุดชมวิว เห็นตัวเมืองหัวหิน
สนามกอล์ฟ และทะเล
“พิพิธภัณฑ์ภาพ
4 มิติ” ฟอร์อาร์ทเซค อยู่ติดโรงพยาบาลหัวหิน ปกติจะเปิดบริการ 10.00-21.00 น. พร้อมกับเริ่มขายตัวตอน 10.00 ไม่เกิน 19.30 น. ภายในมีภาพมากมายให้นักท่องเที่ยวเลือกถ่ายแบบชีลแสนฟิน
แต่ละภาพจะมาร์คให้ได้ถ่ายออกมาแล้วเห็นชัด 4 มิติ ดึงดูดความสนใจให้คนได้สนุกจนลืมเวลาไปเลย
คิดค่าบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ 180 บาท เด็ก สูงไม่เกิน 130 ซม. 120 บาท ฟรีเด็กสูงไม่เกิน 100 ซม.
“อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด” ตั้งแต่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ประกาศเปิดแหล่งท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานได้แล้ว ด้วยการปรับการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด นั่นคือ “จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว” เป็นช่วงหรือรอบเวลาเพื่อเข้าไปยังแต่ละจุดท่องเที่ยว คือ 1.ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวรอบละ 150 คน 2.จุดชมวิวเขาแดงรอบละ 100 คน 3.กิจกรรมล่องคลองเขาแดง/หาดสามพระยารอบละ 200 คน 4.ถ้ำไทร/ถ้ำแก้ว /เกาะโครำ 50 คน 5.หาดแหลมศาลา และถ้ำพระยานคร รอบละ 500 คน และ 6.ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว รอบละ 200 คนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 032-821-568
4โรคยอดฮิตทางจมูกที่ต้องเร่งปลดล็อกความกังวัลป้องกันด่วน
เมื่อเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับไวรัสโควิด-19 ให้ได้
โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจเกี่ยวกับ “จมูก” หากมีอาการผิดปกติอย่านิ่งนอนใจ
เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังได้ แนะนำให้รีบรักษาด่วนหากเป็น 4 โรคนี้
1.ภูมิแพ้อากาศหรือภูมิแพ้จมูก เกิดบริเวณโพรงจมูกและอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก
อาการแพ้ คือ จามบ่อย คัน อักเสบบวมทั่วใบหน้า รอบดวงตา จมูก ปาก และลำคอ คัดจมูก
น้ำมูกไหล มีเสมหะ หายใจไม่ออก หอบหืด ไอ เจ็บคอ หูอื้อ ตาแดง ประสาทรับกลิ่นทำงานได้แย่ลง
อาจมีไข้ร่วมด้วย
2.โรคจมูกอักเสบ -พบได้บ่อยคือ คัดจมูก
แน่นตันจมูกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง น้ำมูกไหล บางรายมีอาการหูอื้อ
เจ็บด้านหลังหู ปวดศีรษะแบบหนักท้ายทอยโดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน รู้สึกเพลีย
อาการมึนและปวดศีรษะ
3.ริดสีดวงจมูก - คือ
การเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเยื่อบุโพรงจมูกหรือโพรงไซนัส แต่ไม่ใช่มะเร็ง
มีลักษณะเหมือนหยดน้ำหรือเมล็ดองุ่น เป็นผลมาจากการอักเสบเรื้อรังจากโรคหอบหืด
ภูมิแพ้ หรือความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน อาจไม่ทำให้เกิดอาการ
แต่หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ จะทำให้หายใจลำบาก มีปัญหาในการดมกลิ่น
หรือเกิดการติดเชื้อได้ง่าย รู้สึกถึงแรงกดปวดแน่นที่บริเวณใบหน้าและหน้าผาก
เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่มักพบได้มากในผู้ใหญ่เพศชายมากกว่า
4.ไซนัสอักเสบ หากมีอาการคัดจมูกตลอดเวลา
พูดเสียงขึ้นจมูกมีน้ำมูกเป็นหนองออกข้นเหลืองหรือเขียว
หรือมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียวไหลจากด้านหลังจมูกไหลลงในคอ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
ให้ระวังการเป็นไซนัสอักเสบ
ข้อแนะนำ -หลีกเลี่ยงการเกิดไซนัสได้ด้วยการระวังไม่ให้เป็นหวัดบ่อยๆ
กินอาหารที่มีประโยชน์อุดมด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ
นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ อยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทดี ไม่มีมลพิษ
หากมีน้ำมูกหรือคัดจมูกให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
ในช่วงที่มีอาการควรงดการว่ายน้ำหรือขึ้นเครื่องบิน หากมีอาการผิดปกติเรื้อรัง
ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยด่วน
ไทยแอร์เอเชียงัดขายหุ้นกู้คราวด์ฟันดิ้งระดมเงินประชาชนสู้โควิด
นายสันติสุข
คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มสมาคมสายการบินแห่งประเทสไทยได้ขอให้รัฐบาลพิจารณาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
(Softloan)
หลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นผล ทางไทยแอร์เอเชีย จึงต้องหันมาใช้วิธี ระดมทุนออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิ้ง
(Crowdfunding) ซึ่งเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่
ภายใต้การกำกับดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) แก่ผู้ลงทุนรายย่อยเเละประชาชนทั่วไป เริ่มต้น 50,000 บาท ไม่มีค่าธรรมเนียมการลงทุน จ่ายดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี อายุหุ้นกู้ 6 เดือน
สามารถลงทุนได้ทาง peerpower.co.th เน้นสร้างการมีส่วนร่วมจากกลุ่มผู้ติดตามและเชื่อมั่นการเติบโตของไทยแอร์เอเชีย
ซึ่งทยอยกลับมาเปิดบินบริการปกติในประเทศแล้ว 11 เส้นทาง ตั้งเเต่วันที่ 3 กันยายนนี้เป็นต้นมา เท่ากับรับสัญญาณข่าวดีในจังหวะที่รัฐบาลคลายล็อกดาวน์เมื่อเร็ว
ๆ นี้
AWCอัดโปร18โรงแรมรับปลดล็อกดาวน์ปลื้มธุรกิจฟื้นไตรมาส4
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์เมื่อ1 กันยายน 2564 ก็พร้อมบริการนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมในเครือทั่วประเทศ 18 แห่ง และสร้างความเชื่อมั่นในทุกแห่งด้วยการได้รับตราสัญลักษณ์ด้วย SHA Amazing Thailand Safety & Health Administration เรียบร้อยแล้ว และคาดจะสามารถฟื้นรายได้กลับคืนมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 เป็นต้นไป
ทาง AWC วางกลยุทธ์ตลาดต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอีกครั้ง ประกอบด้วย 1.ห้องพัก” จัดโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบ เช่น แพกเกจใช้ห้องพักโรงแรมเป็นสถานที่ทำงาน หรือ Work from Hotel เป็นสถานที่เที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วหรือ Staycation 2.ห้องอาหารภายในโรงแรมทุกแห่งก็ให้นั่งรับประทานได้ 50 % ควบคู่บริการส่งถึงบ้าน 3.สปา เฉพาะนวดเท้าทำโปรโมชั่นให้คนมาใช้บริการ
แพ็กเกจ โปรโมชั่นด้วยราคาห้องพัก ส่วนลด และบริการ ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟส่วนตัว ด้วยห้องพักหรู ห้องทำงานผู้บริหาร ห้องครัวปรุงอาหาร นั่งรับประทานอาหารส่วนตัว
ส่วนแพกเกจ
“Workation กับ
Staycation” มีโปรโมชั่นพักราคาพิเศษจองวันนี้-
30 กันยายน 2564 เช่น
1.โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ ทำแคมเปญ
Stay for 7
Pay for 5 เหลือเพียง
1,682 บาท/ห้อง/คืน รวมอาหาร 2 คน กรณีพัก 2 คน เฉลี่ยเท่ากับจ่ายแค่ 841 บาท/คน/คืน พร้อมบัตรกำนัลตั้งแต่วันนี้-11 กันยายน
2564 เข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้-30 พฤศจิกายน 2564
2.โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่
ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่สเปน ซึ่งวางแผนจะเปิดปลายปี 2564 พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ MELIÁ
ROOM 1
คืน ฟรี 1 คืน จ่ายแค่ 4,999 บาท/ห้อง/คืน
รวมอาหารเช้า รถรับส่งสนามบิน เครื่องดื่มค็อกเทลและอาหารว่างแบบสเปน (Tapas)
1 ครั้ง และส่วนลดที่ร้านอาหารในโรงแรม
20%
นางวัลลภากล่าวว่า
AWC เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าโดยจัดทำแผนแม่บท
“The Core 5 for
Safety and Clean” เพื่อดูแลพนักงาน
ผู้เช่า และลูกค้า ประกอบด้วย
1.Secure
Screening การคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้ามาพื้นที่และสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง
2.Social
Distancing” การเว้นระยะห่างและบริหารจัดการปริมาณการรวมกลุ่มของคน
3.Super
Hygienic Cleaning การให้ความสำคัญกับสุขอนามัย
ทำความสะอาดอุปกรณ์พื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยทุกชั่วโมง และพื้นที่สาธารณะทุก 2
ชั่วโมง
4.Support
Care Service การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องด้านสุขอนามัยแก่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
5. Safety
Trace การจัดเก็บฐานข้อมูล
นอกจากการคัดกรองผู้ใช้บริการผ่านแอปไทยชนะยังพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาโดยเฉพาะอีกด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น