ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.จัดทัพใหม่ท่องเที่ยวเปิดประเทศดึงต่างชาติ15ล้านคน ข่าวดี!ธุรกิจไทยร่วมWTM+ITB ปี’65

 ผู้นำ ททท.จัดทัพใหม่ท่องเที่ยวเปิดประเทศดึงต่างชาติ15ล้านคน

ข่าวดี!ธุรกิจไทยแต่งตัวรอกลับเข้าร่วมขายเวทีโลกWTM+ITB ปี’65

คิงเพาเวอร์!!เทโปรแรง32ปี“DELIGHTS & SURPRISES”16-18ต.ค.

ช้อปเลย!!ที่คิงเพาเวอร์5วันแจก6กล่องของขวัญสนุกศิลปินไลฟ์สด

โอกาสเดียวที่“คิงเพาเวอร์”ช้อปปุ๊บรับทันทีสารพัดส่วนลดถึง 4 คุ้ม

ททท.ยันบริติชแอร์จ่อบินฮีทโทร-ภูเก็ตม.ค.65/รุกขายยุโรป-อเมริกา

ททท.หนุนไทยเวียตเจ็ทอัดโปรตั๋ว555บาทบูมเราเที่ยวด้วยกันเฟส3

“TCEB”ใช้เวทีIT&CM ASIA2021โกยไมซ์อินเซ็นทีฟเข้าไทย110งาน

ทัวร์บุญ“มุกดาหาร”ออกพรรษา15ค่ำเดือน11บูชาพญานาค3พิภพ

7วิธีการใช้นาฬิกาชีวภาพปรับสมดุลทำให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ

“รมว.พิพัฒน์”สยบดราม่า600ล.ดึง“ลิซ่า-อันเดรอา”เคาน์ดาวน์ในไทย

5โรงแรมAQในเมืองท่องเที่ยวตีปีกรับเปิดประเทศยอดจองพุ่ง200%

 


 วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #DelightsandSurprises #TAT  #ลิซ่าแบล็คพิงค์

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้

 

ช่วงที่ 1 อัพเดทแผนเปิดประเทศ กับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ติดเทอร์โบ 43 จังหวัด หันใช้ One SOP One System ทุกพื้นที่ต้องทำ 2 เรื่อง “ฉีดวัคซีน-ทำแผนบริหารจัดการ” รับสัญญาณดีปลายปีมีต่างชาติครบล้านคน พร้อมนำทีมดึง 15 ล้านคน ตามนโยบาย รมว.ท่องเที่ยว หลังรัฐบาลปลดล็อกจุดขายเที่ยวได้โดยไม่กักตัว เร่งติดเพิ่ม 2 อาวุธใหม่ “แยกเซกเมนท์ตลาดจับคู่สินค้าเทรนด์ทำเงิน+เปิดรอยต่อตะเข็บเพื่อนบ้าน” หวังดึงจีนรับรถไฟความเร็วสูงผ่าน สสป.ลาว เข้า หนองคาย อุดรธานี แต่งตัวรอปี’65 นำธุรกิจไทยกลับเข้าเวทีการค้าท่องเที่ยวโลก WTM อังกฤษ ITB เบอร์ลิน เยอรมัน

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนท่องเที่ยวรองรับทยอยเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล ตามที่ ททท.เดินหน้าทำจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 1 กรกฎาคม ตามมาด้วย สมุย พลัส โมเดล 15 กรกฎาคม พื้นที่ขยายท่องเที่ยว 7+7 เริ่ม 1 สิงหาคม เข้าสุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา จากนั้น นายกรัฐมนตรีประกาศเมื่อ 11 ตุลาคม นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้โดยไม่กักตัว ทยอยเปิดจนครบ 43 จังหวัด ไล่เรียงไป 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วง 1-30 พฤศจิกายน ระยะที่ 2 ช่วง 1-31 ธันวาคม 2564 และ ระยะที่ 3 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

ททท.เตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องหลักคือ กระทรวงสาธารณสุข กำหนดเกณฑ์ทุกพื้นที่ต้องมีครบหากไม่ครบเปิดไม่ได้ นั่นคือจะต้องมี 2 ด้าน คือ ด้านที่ 1 การกระจายฉีดวัคซีนประชาชน อัตราครองเตียงเหลือง แดง อัตราการติดเชื้อต้องไม่เกิน 5-10 คนต่อประชากร 100,000 คน ด้านที่ 2 การบริหารจัดการ แต่ละพื้นที่ต้องได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ ประชาชน ภาคเอกชน มีระบบติดตาม พร้อมทั้งมีศูนย์กลางตัดสินใจ (Command Center) ทั้งหมดนี้กำลังเดินหน้าทำเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศตามนโยบายนากรัฐมนตรี

 

เรื่องที่ 1 มาตรฐานคู่มือปฏิบัติเพื่อการเดินทางเข้าออกพื้นที่หรือ SOP : Standard Operation Procedure มาตรฐานการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไปนั้น ตั้งเป้าใช้มาตรฐาน One SOP One System เนื่องจากต้องมีระบบติดตาม ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ที่สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงสาธารณสุข

 

ตามแนวทางปฏิบัติตาม SOP เริ่มต้นครั้งแรก 1.ช่วงเวลาการกักตัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย เริ่มจาก 14 วัน ลดเหลือ 7 วัน แล้วหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป จะเหลือเพียง 1 วัน หลัก ๆ น่าจะเหมือนกันทั้งหมดในพื้นที่ 80-90 % ยกเว้น “บางพื้นที่” ซึ่งเป็นความต้องการของคนในพื้นที่ที่อาจจะยังไม่มั่นใจ ขอดำเนินการบางส่วน เช่น “ชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ :Charming Chaingmai” ขอเปิดเพียงแค่ 4 อำเภอ (อำเภอเมือง/แม่ริม/แม่แตง/ดอยเต่า) บวกกับยังต้องเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนน้อย แต่พื้นที่ส่วนใหญ่จะได้ใช้ One SOP One System

 

เรื่องที่ 2 -รูปแบบสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยทั้งกับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ เมื่อเปิดประเทศแล้ว ถึงแม้จะไม่กักตัว แต่ “เงื่อนไขการเข้าประเทศ” ยังเข้มข้นเหมือนเดิม 1.นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจะต้องฉีดวัคซีนครบโด๊สหรือเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข 2.ต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR จากประเทศต้นทาง เมื่อมาถึงประเทศไทยก็ต้องตรวจ RT-PCR อีกครั้งด้วย

 

3.ระหว่างนักท่องเที่ยวเดินทางอยู่ภายในประเทศไทย ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่างตื่นตัว ที่จะอยู่ภายใต้มาตรฐานกำกับควบคุมโรคติดต่อ ไม่ว่าจะเป็น DMHTTA หรือแม้กระทั่งในส่วนของ Universal Prevention for Covid-19 ทุกคนพร้อมทำอย่างเต็มที่ คำนึงถึง “ความปลอดภัย” ทั้งของนักท่องเที่ยว ผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการต่าง ๆ โดยเฉพาะ โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจเกี่ยวข้อง ทยอยเข้ามาตรฐานตราสัญลักษณ์ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA :Safety and Health Administration

 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แผนกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวปีงบประมาณ 2565 ซึ่งเริ่มต้นแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ททท.ตั้งเป้าเชิงรุก 1.เน้นเพิ่มความถี่การเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะการกระตุ้นนักเดินทางกำลังซื้อสูงกลุ่มคนไทยที่ไม่สามารถไปต่างประเทศได้ต่างก็หันมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น 2.หาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ประกอบด้วย โครงกาแรก เปิดตัวใหม่อย่าง “Unseen New Series” เคยทำครั้งแรกเมื่อปี 2558 จึงได้นำกลับมาทำใหม่ปี 2565 โครงการที่ 2 การท่องเที่ยวปลุกจิตวิญญาณ สร้างแรงบันดาลใจ โครงการที่ 3 การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

 

ส่วนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” ขอบคุณความสนใจของพี่น้องชาวไทย หลังจากเปิดลงทะเบียนตั้งแต่ 24 กันยายน 2564 มียอดเข้ามาอีกกว่า 500,000 ราย ทำให้มีผู้อยู่ในระบบ 8-9 ล้านคน จากนั้นวันที่ 8 ตุลาคม 2564 เปิดให้นักท่องเที่ยวจองห้องพัก (รวมทั้งหมด 2 ล้านคืน) เพื่อให้จองล่วงหน้าก่อน 7 วัน เนื่องจากเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด มียอดเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 50,000 คืนพัก (roomnight) เป็นยอดระดับเดียวกันกับก่อนเกิดโควิดระลอกใหม่

 

ทางด้าน “ผู้ประกอบการโรงแรม” อาจจะเกิดความลังเลบ้างที่จะเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เนื่องจาก ททท.เพิ่มเงื่อนไขเข้มงวดมากขึ้น แต่สุดท้ายก็มี “ผู้สมัคร” เพิ่มขึ้น บวกกับมี “โปรโมชั่นจูงใจ” มากขึ้นด้วย ดึงดูดให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตามเป้าหมาย

 

โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” มีระบบแอพลิเคชั่น “ถุงเงิน” มีบริษัทนำเที่ยวสมัครเข้าร่วมกว่า 600 แห่ง และผู้สนใจซื้อแพกเกจกับบริษัทนำเที่ยวแล้วกว่า 2,000 ราย จากนี้ไปจะเห็นความตื่นตัวของนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ ถือเป็นอีกอาวุธหนึ่งของรัฐบาลฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565

 

ผู้ว่าฯ กล่าวว่า “ตลาดต่างประเทศ” ต้องประเมินอย่างใกล้ชิดเมื่อประเทศไทยผ่อนคลายสถานการณ์เพิ่มขึ้นตามลำดับ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแต่ละประเทศถึงการส่งสัญญาณว่าไทยเป็นประเทศอยู่ในความเสี่ยง เมื่อเดินทางมาแล้วตอนกลับเข้าประเทศของตนอาจจะต้องโดนกักตัว แต่การทอดไมตรีของไทยจากการลดวันกักตัวลงจาก 14 วัน เหลือ 1 วัน ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ทำให้เห็นความชัดเจนถึงสัญญาณบวก คือ

 

เรื่องแรก “มีความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ” เข้ามามากพอสมควร เป็นผลจากการลดวันกักตัว อย่าง “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ยอดจองเพิ่มมากเป็นประวัติการณ์ แต่จำนวนอาจจะไม่มากเหมือนแต่ก่อน ทว่าปลายปี 2564 อาจจะได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมีความเป็นไปได้สูงที่จะถึง 1 ล้านคน

 

เรื่องที่ 2 “ผลสำรวจจากบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์ระดับโลก” ได้รับการยืนยันประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของโลก ที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้ามาเที่ยว

 

อีกทั้ง ททท.ให้ความสำคัญกับจำนวนนักท่องเที่ยว ตามนโยบายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้าปี 2565 ตั้งเป้านำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 15 ล้านคน ควบคู่กับ “เพิ่มการสร้างรายได้” ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท หรือประมาณครึ่งหนึ่ง 50 % ของปี 2562

ททท.จะใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างทั้งจำนวนและรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปี 2565 ด้วย 1.แยกเซกเมนท์นักท่องเที่ยวอย่างชัดเจนเจาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมใช้จ่ายเงินสูง กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มมีศักยภาพ ควบคู่กับ 2.วางเป้าหมายกลุ่มตลาดที่สอดคล้องกับสินค้าให้เหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ โดยจะมองตลาดหลัก อันดับแรก  “นักท่องเที่ยวระยะไกล ยุโรป อเมริกา” เนื่องจากแต่ละประเทศผ่อนปรนมาตรการเดินทางระหว่างประเทศมาก

 

ขณะเดียวกัน “ตลาดระยะใกล้” ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ยังคงจับตาหลังการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว เดือนมกราคม 2565 น่าจะผ่อนปรนให้คนเดินทางต่างประเทศได้ แต่ก็จะต้องดูกันต่อไป แต่ก็มีสัญญาณบวกจาก ญี่ปุ่น เกาหลี ที่ทยอยให้เดินทางได้ หรือ “ตลาดอาเซียน” มีบางประเทศมาแล้วต้องกลับไปกักตัว เช่น มาเลเซีย จึงมีผลให้คนยังเดินทางน้อย แต่ก็มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางเข้ามาโดยรถยนต์ตามตะเข็บชายแดน จึงหวังผลจากการทยอยเปิดประเทศจะช่วยเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้มากขึ้นด้วย

 

โดยมีหนึ่งในแผนการเปิดประเทศระยะที่ 3 เดือนมกราคม 2565 จะเปิดพื้นที่จังหวัดรอยต่อเพื่อนบ้าน ถือเป็นการขานรับการเดินทางใหม่ ๆ ได้แก่ สปป.ลาว เตรียมรับการเปิดบริการรถไฟความเร็วสูงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากจีนเข้า สปป.ลาว ปลายปีนี้เป็นต้นไป แล้วข้ามายังไทยทางหนองคาย อุดรธานี ได้

 

ดังนั้นจะส่งผลดีทำให้เกิดเศรษฐกิจฟื้นตัวแบบคู่ขนานทั้ง “การท่องเที่ยวข้ามพรมแดน” และ “การขายสินค้าชายแดน” หรือ Broader trade ททท.เตรียมการณ์ส่วนนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ความคืบหน้าอีกเรื่องที่ได้เสนอ คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) เห็นชอบ จัดตั้ง “กองทุนเพื่อการพัฒนา ยกระดับ และปรับโครงสร้าง อุตสาหกรรมท่องเที่ยว” เพราะทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย และผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอง มีเป้าหมายเหมือนกันต้องการก้าวสู่วิถีใหม่ ไม่อยกากลับไปเหมือนเดิม ฉนั้นกองทุนจะตั้งขึ้นโดย “มองไปสู่การยกระดับ ปรับโครงสร้าง นำไปสู่ท่องเที่ยววิถีใหม่”

 

รูปแบบการตั้งกองทุนมีความเป็นไปได้ที่จะใช้จาก 2 แนวทาง คือ แนวทางที่ 1 ใช้กองทุนที่มีอยู่คือ “กองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย” ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือ แนวทางที่ 2 ตั้งกองทุนใหม่ตามระเบียบของกองทุนหมุนเวียน จะได้รายงานความคืบหน้าเมื่อหารือกับนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว

 

สำหรับ “เป้าหมายการใช้เงินกองทุน” จะต้องไม่ใช้เพื่อการเยียวยาธุรกิจอย่างแน่นอน  แต่จะเน้นทำเรื่องหลัก คือ 1.การนำเงินเข้าไปยกระดับท่องเที่ยวมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ เช่น นโยบายตามยุทธศาสตร์ชาติ BCG :Bio Circular Green Economy :การสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ/หมุนเวียน/สีเขียว ทำให้เกิดความทันสมัยสร้างความยั่งยืน 2.เป็นเงินกองทุนร่วมจ่าย ระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น รัฐกับประชาชน รัฐกับกองทุน รัฐกับเอกชน หรือรัฐกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

 

ผู้ว่าฯ ยุทธศักดิ์ กล่าวถึงแนวโน้มข่าวดีที่ท่องเที่ยวจะได้กลับเข้าสู่เวทีเจรจาจับคู่การค้ารายการใหญ่ระดับโลก ทั้ง World Travel Mart :WTM ประเทศอังกฤษ และ International Travel Berlin : ITB กรุงเบอร์ลิน เยอรมัน เนื่องจาก ททท.สำนักงานต่างประเทศเห็นสัญญาณที่ดีเกิดขึ้นจากสหภาพยุโรป อเมริกา เดินหน้าจัดงานไฮบริดจ์หรือเสมือนจริง Virtual ททท.หวังว่าปี 2565 จะได้กลับไปร่วมงานในเวทีจริง ที่จะกลับมาเป็นปกติ และการไปร่วมงานจะไม่ใช่เฉพาะเพียงเพื่อจัดแสดงเอ็กซิบิชั่น แต่ยังหมายถึงการได้ร่วมพบปะพูดคุยมีโอกาสเจอคู่ค้า พันธมิตร ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาที่ไม่ได้เจอกัน จะได้สอบถามแลกเปลี่ยนเพื่อร่วมมือกันเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทยโดยเร็ว

 

ททท.เตรียมตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี รับการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล ไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่ “การท่องเที่ยววิถีใหม่” สร้างจุดขาย “การท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืน” ช่วยกันทำโครงการที่ “สร้างมูลค่า” บนพื้นฐาน “ความปลอดภัย” แล้วก็ขอเชิญชวนคนไทยออกมาเที่ยวในประเทศ เพราะยังเป็นเสาหลักที่จะช่วยกันฟื้นฟูการท่องเที่ยวนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศควบคู่กันไป เพื่อคนในประเทศจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นไปด้วยกันทุกคน

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์!!เทโปรแรง“DELIGHTS & SURPRISES16-18ต.ค.นี้

 

คิง เพาเวอร์ ชวนคุณมาฉลองวันเกิดครบรอบ  32 ปี กับโปรโมชั่นแรงแห่งปี  DELIGHTS & SURPRISES เที่ยวทิพย์ เที่ยวไม่ได้แต่ใจอยากช้อป” เลือกช้อปได้แบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน พร้อมบริการ Hโฮม เดลิเวอร์รี่ ส่งฟรีถึงบ้าน และคุ้มค่ากว่าเดิมเมื่อช้อปด้วยแคชการ์ด รับเงินไปช้อปเพิ่มสูงสุด 25,000 บาท พร้อมส่วนลด on top (ออนท้อป) สูงสุด 10% กับสินค้าที่ร่วมรายการ

 

พิเศษ!! 16-18 ตุลาคม นี้ ร่วมฉลองวันเกิดในรูปแบบ Live Streaming พร้อมกิจกรรมความสนุกมากมายและบริการสุดพิเศษ King Power Personal Shopper ผู้ช่วยส่วนตัวที่ตัวที่ให้คุณช้อปได้เสมือนมาเดินช้อปปิ้งเองที่ห้าง

 

ชวนกันมาช้อปได้แล้ววันนี้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต หรือช้อปผ่าน 2 ช่องทางการช้อปใหม่ได้แล้วที่ King Power Call to Shop (คิง เพาเวอร์ คอล ทู ช้อป) และ Chat to Shop (แชท ทู ช้อป)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook King Power Official

 

ข่าวที่ 2 ช้อปเลย!!ที่คิงเพาเวอร์5วันแจก6กล่องของขวัญสนุกศิลปินไลฟ์สด

 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ฉลอง 32ND ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES มอบมหกรรมช้อป 5 วันพิเศษกับ 6 ของขวัญ สุดพิเศษ ! เฉพาะ 14-18 ตุลาคม 2564

 

กล่องที่ 1 ซื้อได้ทันทีบัตรแทนเงินสด Cash Card รับเพิ่มสูงสุด 25,000 บาท และรับส่วนลดออนท็อปเพิ่มสูงสุด 10%  ได้ดังนี้ 1.ซื้อ Cash Card มูลค่า 10,000 บาท ช้อปได้ 12,500 บาท 2.ซื้อ Cash Card มูลค่า 30,000 บาท ช้อปได้ 40,000 บาท 3.ซื้อ Cash Card มูลค่า 50,000 บาท ช้อปได้ 75,000 บาท ระหว่างวันนี้ 14-18 ตุลาคม นี้ ยังได้สิทธิ์รับส่วนลด ออนท็อปสูงสุดอีกถึง 10% ได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต

 

หรือจะเลือกช้อป 2 ช่องทางใหม่ ได้ทุกวันตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ผ่านทาง ช่องทางแรก  KING POWER CHAT TO SHOP เพียงแอด LINE มาที่ @KP_ChatToShop ช่องทางที่ 2 KING POWER CALL TO SHOP เพียงโทร. 02-338-7870 ก็สามารถเลือกสินค้าที่ชอบและที่ใช่ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย คุ้มค่าเงินสุด ๆ

 

กล่องที่ 2 เวลา 12.00 น. ทุกวันระหว่าง 14-18 ตุลาคม 2564 ชมไลฟ์ (Live) แนะนำสินค้ามากมายของ คิง เพาเวอร์  แล้วร่วมสนุกเพื่อรับสิทธิ์ นำไปใช้เล่นเกมกับศิลปินคนโปรดได้ในช่วงเที่ยวทิพย์ เที่ยวไม่ได้แต่ใจอยากช้อป เวลา 18.00 น. ผ่านทาง Facebook King Power

 

กล่องที่ 3 เวลา 16.00 น. ทุกวันระหว่างวันที่ 14-18 ตุลาคม 2564 สนุกกับมหกรรม “ช้อป (ไม่) ทิพย์” ด้วยการไลฟ์ (Live) ปล่อยสินค้าแบรนด์ดัง ราคาดี เพื่อให้ได้เข้ามาเลือกกันอย่างจุใจ ราคาสบายกระเป๋า รับสิทธิประโยชน์มากมาย

 

กล่องที่ 4 เวลา 18.00 น. ทุกวันระหว่างวันที่ 141-18 ตุลาคม 2564 ทีมขายได้ยกขบวนศิลปินคนโปรดของทุกคน ชวนเที่ยวทิพย์ พร้อมพูดคุย และเล่นเกมผ่านรูปแบบ Live Streaming ผ่านทาง Facebook King Power เซอร์ไพรส์กับศิลปินดังตลอด 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2564 พบกับ เจมส์ มาร์ วันที่ 15 ตุลาคม 2564 2564 พบกับ มิว ศุภศิษฏ์ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 พบกับ นนท์ ธนนท์ วันที่ 17 ตุลาคม 2564 พบกับ ก็อต อิทธิพัทธ์ วันที่ 18 ตุลาคม2564 พบกับ กระทิง ขุนณรงค์

 

กล่องที่ 5 รับบริการผู้ช่วยช้อปส่วนตัว KING POWER PERSONAL SHOPPER เสมือนมาช้อปด้วยตนเอง ด้วยการคลิกเข้าไปพูดคุยผ่านรูปแบบวิดีโอคอลกับพนักงานที่จะคอยอำนวยความสะดวก ในแต่ละวันจะมีช่วงเวลาให้เลือกครั้งละ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. คลิก https://bit.ly/39UB2MQ ให้ผู้ช่วยส่วนตัวพานักช้อปทุกคนเข้าไปเลือกชมสินค้าเสมือนมาช้อปด้วยตนเอง ง่าย ๆ เพียง 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

 

ขั้นตอนที่ 1 เลือกวัน และเวลา ที่ต้องการใช้บริการ

ขั้นตอนที่ 2 ระบบแสดงเงื่อนไขการรับบริการ กดตกลงเพื่อทำการจอง

ขั้นตอนที่ 3 กรอกข้อมูลส่วนตัว และใส่รหัส OTP เพื่อยืนยันการทำรายการ

ขั้นตอนที่ 4 เมื่อทำรายการเรียบร้อย หน้าจอจะแสดงคิวอาร์โค้ด (QR Code) จากนั้นให้รอการติดต่อกลับเพื่อคอนเฟิร์มอีกครั้ง ก่อนวันนัดหมาย 1 วัน เท่านี้ก็ช้อปได้อย่างที่ต้องการ

 

กล่องที่ 6 สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับสิทธิประโยชน์มากมายจากพันธมิตร  รับโค้ดส่วนลด 50 บาท เมื่อเรียกใช้บริการ GRAB ตลอดรายการแจกมากถึง 500 สิทธิ์ วันละ 100 สิทธิ์ ให้คนละ 1 สิทธิ์ สามารถเลือกใช้ GRAB ไปหรือกลับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ระหว่างวันที่ 14  - 18 ตุลาคม 2564 บริการขาไปในแต่ละวันระหว่างเวลา  09.00 – 20.00 น. ขากลับแต่ละวันจากคิงเพาเวอร์ รางน้ำ ระหว่างเวลา 10.00 – 20.00 น.

 

วิธีรับสิทธิ์บริการรถ GRAB เพื่อการเดินทางไปและกลับ เพื่อช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ตามขั้นตอนดังนี้ 1.เข้าเว็บไซต์ www.kingpower.com  2. Log-in บัญชีสมาชิก 3.เลือกสิทธิประโยชน์จาก CABB Application 4.กดรับสิทธิ์เพื่อรับโค้ดส่วนลด 50 บาท 5.นำโค้ดส่วนลดที่ได้รับไปทำการจองใน CABB Application ดูรายละเอียดรับสิทธิ์ CABB Application: https://bit.ly/3lhtGcE

 

ข่าวที่ 3 โอกาสเดียวที่คิงเพาเวอร์ช้อปปุ๊บรับทันทีสารพัดส่วนลดถึง4คุ้ม

 

กลุ่มบริษัท ยังจัดชุดใหญ่ฉลอง 32nd ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES ช้อปคุ้มๆ กับ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ คุ้มเกินห้ามใจ กับส่วนลดสูงสุดถึง 45% จากสินค้าคละหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นของรับประทานเล่น สินค้าความงาม สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่น่าสนใจมากมาย ห้ามพลาดใส่รหัสส่วนลด KPDS21 ช้อปที่ - https://bit.ly/3ah0VGQ  ตั้งแต่วันนี้ -18 ตุลาคม 2564 รับทันทีถึง 4 ความคุ้มค่า คือ

 

คุ้มที่ 1 รับส่วนลดสูงสุด 45% เมื่อช้อปครบ 3000 บาท เมื่อใส่ รหัสส่วนลด KPBD 21แล้วเข้ามาช้อปได้เลยที่ – https://bit.ly/3iCpd2z

           

คุ้มที่ 2 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18% จากธนาคารที่ร่วมรายการซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 10 ธนาคาร ดูรายละเอียดเพิ่มเติม - https://bit.ly/3leaSLt

 

คุ้มที่ 3 รับสิทธิพิเศษจากธนาคารที่ร่วมรายการแบ่งจ่ายสบาย ๆ  0% นานสูงสุด 10 เดือนรายละเอียดเพิ่มเติม - https://bit.ly/3lgmM7J

 

คุ้มที่ 4  สมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์ รับคะแนนกะรัตทันที เมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ทุก 100 บาท รับคะแนน 1 กะรัต

เมื่อช้อปออนไลน์ มีสิทธิ์รับฟรีทุกออเดอร์เป็นคลิปหอมติดแมสก์ PASTEL CLEVER MASK CLIP คละสี 1 ชิ้น ช้อปก่อนมีสิทธิ์ก่อน เพราะของแจกฟรีมีจำนวนจำกัด

 

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังคงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ไว้ด้วย เช่น 1.บริการส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ) รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi  2.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.- (สุทธิ) > https://bit.ly/3lyQbrs

 

ข่าวที่ 4 ททท.ยันบริติชแอร์จ่อบินฮีทโทร-ภูเก็ตม.ค.65/รุกขายยุโรป-อเมริกา

 

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานทั่วภูมิภาคยุโรปได้เร่งจับมือกับพันธมิตรทำกิจกรรมการตลาดรับการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

 

1.ททท.แฟรงเฟิร์ต เยอรมัน ได้ส่งเสริมการขายหลายประเทศ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านสื่อชั้นนำครอบคลุมทุกพื้นที่ตามงบปี 2565 ซึ่งมีสัญญาณการสามารถกลับเข้าร่วมงานขายท่องเที่ยวรายการใหญ่ที่สุดของโลก ITB Berlin 2022 ช่วงเดือนมีนาคม 2565 เพราะดูแลทุกอย่างจะกลับมาดีพอสมควร

 

2.ททท.ลอนดอน อังกฤษ เพิ่งประกาศ Red list ให้ไทยออกจากประเทศพื้นที่สีแดง จึงทำให้มีโอกาสทำตลาดอย่างเต็มที่ ระหว่างนี้ทำการตลาดกับทางทัวร์ โอเปอเรเตอร์ใหญ่ เพราะอังกฤษเป็นตลาดสำคัญมาปีละกว่า 1 ล้านคน อีกทั้งทางเอกอัคราชฑูตอังกฤษประจำประเทศไทยก็สนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะบริติช แอร์เวย์ส (BA) ประสงค์จะทำเที่ยวบินตรง ฮีทโทร-ภูเก็ต เริ่มมกราคม 2565

 

3. ททท.โรม  อิตาลี ดูแลพื้นที่การตลาดยุโรปใต้ทำงานร่วมกับการบินไทย เอเย่นต์ ทำแฟมทริปมาภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว เน้นกลุ่มคู่รัก คู่แต่งงาน ฮันนีมูน  

 

4. ททท.ปราก สาธารณรัฐเชค กับโปแลนด์ ทำผ่านสื่อกับเอเย่นต์ท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ส่วนตลาดยุโรปตะวันออก ตัวเลขใช้ได้ไทยเป็นพื้นที่ใหม่จึงต้องใช้สื่อจำนวนมาก เมื่อเร็ว ๆ นี้มีอดีตมิสโปแลนด์เดินทางมาสมุยดึงดูดความสนใจได้พอสมควร

 

5.“ททท.ปารีส” ดูเบเนลักซ์ เน้นตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาภาพ Health & Wellness 

 

6.“ททท.มอสโก รัสเซีย เป็นตลาดความหวัง ตอนนี้ ททท.กำลังเจรจาให้มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (charter flight) เข้ามายังภูเก็ต สุราษฎร์ธานี รวมทั้งการทำสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ๆ นำเสนอขายคู่ไปด้วย

 

7.ททท.สต็อกโฮม สวีเดน หารือกับทางฟินแลนด์ซึ่งกำลังจะมีเที่ยวบินเข้ามาไทย ตลอดช่วงสถานการณ์โควิดยังได้รวมทำกิจกรรมแฟมทริปเสมือนจริงหรือ Virtual Famtrip อยู่ตลอดด้วยเช่นกัน

 

8.ททท.ดูไบ ดูแลตลาดท่องเที่ยวทั้งหมดในกลุ่มตะวันออกลาง พร้อมจะนำเข้าตลาดอาหรับเดินทางมาแบบครอบครัวขนาดใหญ่ รวมทั้งจับมือพันธมิตรสำคัญคือ สายการบินต่าง ๆ ร่วมมือกันดีมาก ลุยเจาะตลาดหลัก กลุ่มมิเลนเนียล กลุ่มกอล์ฟ และกลุ่มนักเดินทางต่างชาติพำนักอยู่ดูไบ (expat)

 

สำหรับความเคลื่อนไหวการทำ เทรดโชว์ ตลาดอเมริกา ทั้งนิวยอร์ค ลอสแองเจลิส เมื่อ ททท.ไปร่วมออกบูธก็ได้งานต่อเนื่องเตรียมเข้ามาไทย รวมทั้งได้หารือกับทางอเมริกาใต้ในไทยเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาไทยเร็ว ๆ นี้

 

ข่าวที่ 5 ททท.หนุนไทยเวียตเจ็ทอัดโปรตั๋ว555บาทบูมเราเที่ยวด้วยกันเฟส3

 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่าได้จับมือสนับสนุนสายการบินเวียตเจ็ท ช่วยกระตุ้นโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ด้วยโปรโมชั่นแคมเปญ “เวียตเจ็ท เราบินด้วยกัน" ขายตั๋วโดยสารบินในประเทศ 555 บาท/เที่ยว ราคารวมภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าบริการเสริม รวมทั้งให้ผู้โดยสารรับสิทธิพิเศษเงินคืน 40% จากแคมเปญ "เราเที่ยวด้วยกัน" ด้วย

 

ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วไทยเวียตเจ็ท ราคา 555 บาท/เที่ยว ได้ตั้งแต่วันนี้ - 20 ตุลาคม 2564 ที่ www.vietjetair.com แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2564 - 31 มกราคม 2565 ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

 

ทั้งนี้ ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวคนไทยสามารถใช้สิทธิจากโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 " โดยเข้าไปลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เมื่อทำเสร็จสมบูรณ์แล้วจะได้รับเงินคืน 40% โดยคำนวณจากราคารวมของบัตรโดยสาร โดยสามารถรับเงินคืนสูงสุดถึง 2,000 บาท/คน

 

สำหรับไทยเวียตเจ็ท มีบริการเที่ยวบินในประเทศ ไป-กลับ สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ สู่“ภาคเหนือ” เชียงใหม่ เชียงราย “ภาคใต้” ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช “ภาคอีสาน” อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น   อุบลราชธานี

 

และเที่ยวบินข้ามภูมิภาค “ภูเก็ต” ไป-กลับ  เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี และ หาดใหญ่-เชียงราย ผู้โดยสารสามารถสำรองบัตรโดยสารราคาโปรโมชันได้ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com แอพพลิเคชัน"Vietjet Air" หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กที่ www.facebook.com/VietJetThailand

 

ข่าวที่ 6 TCEB”ใช้เวทีIT&CM ASIA2021โกยอินเซ็นทีฟเข้าไทย110งาน

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเปิดพื้นที่นำร่องรับนักเดินทางต่างชาติภายใต้โมเดล “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” และขยายต่อไปยัง พังงา กระบี่และสุราษฎร์ธานี มีกระแสตอบรับเห็นผลเป็นที่น่าพอใจ โดยเตรียมจะทยอยเปิดต่อเนื่องอีก 43 จังหวัด ระยะที่ 1 จะเริ่มเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 เพิ่มอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ทีเส็บจึงได้วางกลยุทธ์คู่ขนานข่าวดีส่งสัญญาณให้นานาชาติได้รับรู้ถึงความพร้อมของประเทศไทยก็เตรียมรองรับนักเดินทางไมซ์และการจัดงานไมซ์นานาชาติเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาด้วยเช่นกัน

 

 ล่าสุดทีเส็บและสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) จับมือนำผู้ประกอบการไมซ์ 20 ราย เข้าร่วมงานเสมือนจริง IT&CM Asia and CTW Asia-Pacific 2021 Virtual  เมื่อ 28-30 กันยายน 2564 เป็นงานเทรดโชว์สำคัญของเอเชีย แปซิฟิกด้านจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (incentive) นับเป็นครั้งแรกที่ทางทีเส็บภูมิภาค 4 สำนักงาน นำไมซ์ ซิตี้ เข้าร่วมงานครบทั้ง 10 เมือง ตอกย้ำถึงศักยภาพความพร้อม เสน่ห์และเอกลักษณ์ของเมือง ดึงความสนใจตลาดเป้าหมายจากทั่วโลก ภายใต้แคมเปญการสื่อสาร “Thailand: Redefine Your Business Events - Experience the Extraordinary”

 

โดยมีผู้แทนจากเมืองไมซ์ ทั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด ศูนย์ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการประจำจังหวัด สมาคมเครือข่ายไมซ์ประจำภูมิภาคของเมืองไมซ์ เข้าร่วมนำเสนอสินค้าและบริการประชันกับผู้ขายนานาชาติ 185 ราย โดยมีผู้ซื้อทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ รวม 277 ราย

 

ตลอดงานได้จับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อนานาชาติมากถึง 1,065 นัดหมาย และมีจำนวนงานจะเข้ามาจัดในไทยรวม 110 งาน

 

สำหรับผู้ประกอบการไมซ์ 20 ราย ประกอบด้วย โรงแรม 14 แห่ง ศูนย์จัดการประชุมและนิทรรศการ 2 แห่ง และบริษัทผู้ให้บริการด้านบริหารจัดการการเดินทาง (Destination Management Company: DMC) 4 แห่ง ตัวแนไมซ์ ซิตี้ อีก 10 แห่ง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี สงขลา  สุราษฎร์ธานี และพิษณุโลก พร้อมใจกันนำเสนอสถานที่จัดงานอันหลากหลาย และเพิ่มไมซ์เส้นทางใหม่ ๆ เชื่อมโยงกับกิจกรรมสะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรม

 

ช่วงที่ 2 ใกล้เทศกาลเที่ยวงานบุญ ออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 ปลายตุลาคมนี้ ชวนไปปักหมุดเที่ยว Unseen New Series “มุกดาหาร” บูชา “พญานาค 3 พิภพ” ร้อยเรียงไปตามเส้นทางท่องเที่ยวหลัก แล้วห้ามลืมดูแลสุขภาพด้วย “7แนวนาฬิกาชีวภาพปรับสมดุลสุขภาพ” และข่าวท้ายชั่วโมง “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.ท่องเที่ยวสยบข่าวดราม่ายันใช้ 600 ล้าน ดึง2ศิลปินโลก “ลิซ่า แบล็กพิงค์-อัลเดรอา โมเซลลี” มาเคาน์ดาวน์ในไทยได้แน่ และ “5โรงแรมยักษ์ใหญ่เครือAQ” ดี๊ด๊ายอดจองพักพุ่ง 200 % รับข่าวดีเปิดประเทศกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

 

พาเที่ยว -ทัวร์บุญ“มุกดาหาร”ออกพรรษา15ค่ำเดือน11บูชาพญานาค3พิภพ

 

การท่องเที่ยว “ศรัทธานำทาง เส้นทางท่องเที่ยว” ในแหล่งท่องเที่ยวมาแรง Unseen New Series ต้อนรับปีอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ต้อนรับทัวร์บุญเทศกาลออกพรรษา15 ค่ำ เดือน 11 มีเส้นทางท่องเที่ยว”  พญานาค 3 พิภพ จ.มุกดาหาร เป็นอีกทางเลือก

 

“มุกดาหาร” ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งศรัทธาในพญานาคลุ่มน้ำโขง มีเรื่องกล่าวขานกันถึงความมหัศจรรย์ของพญานาค 3 องค์ ที่บังเอิญตั้งอยู่บนแนวเส้นลองจิจูดเดียวกันตามตำแหน่ง 104 องศา 43 ลิปดา  เป็นตัวแทนแห่งพญานาค 3 พิภพ คอยทำหน้าที่ปกปักคุ้มครองเมืองมุกดาหารให้สงบร่มเย็น 

 

รูปปั้นพญานาคแต่ละองค์ สะท้อนผ่านผลงานศิลปกรรมวิจิตรอ่อนช้อย สง่างาม และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ผู้ที่ศรัทธาได้ตั้งมั่นในคุณความดีอย่างมั่นคง ซึ่งมีอยู่ใน “มุกดาหาร” เมืองปลายทางแห่งความสุขอย่างแท้จริง สามารถเดินทางไปบูชา สักการะ และท่องเที่ยวได้ด้วย

 

องค์แรก -พญานาคดิน (ปฐพีพิภพ) “พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช”  มีคติความเชื่อ “อุดมสมบูรณ์ มั่นคง มั่งคั่ง ร่ำรวย” เชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยว “แก่งกะเบา

 

องค์ที่สอง -พญานาคน้ำ (บาดาลพิภพ) “พญาอนันตนาคราช”  มีคติความเชื่อ “ร่มเย็น ร่มรื่น ราบรื่น” เชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยว สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2

 

องค์ที่สาม -พญานาคฟ้า (สวรรค์พิภพ) “พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช”  มีคติความเชื่อ “เจริญรุ่งเรือง เติบโต เลื่อนตำแหน่ง” เชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยว วัดภูมโนรมย์ พ่อปู่ศรีมุกดา สามารถขับรถไปอีก 15 กม.ก็เที่ยวต่อได้ที่ “อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ” เพื่อสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามแดนอีสานอีกแห่ง

สอบถามเพิ่มได้ที่ ททท. สำนักงานนครพนม  โทร. 0 4251 3490-1

 

ส่วน “หนองคาย” ต้นตำรับงานเทศกาลออกพรรษา บั้งไฟพญานาค ประจำปี 2564 ไปท่องเที่ยวกันได้ระหว่าง  21 - 23 ต.ค.64 จะจัดกิจกรรมใน 5 อำเภอ คือ อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอโพนพิสัย และ อำเภอรัตนวาปี จะมีเพียงพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค การชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค และการตักบาตรเทโวโรหนะ โดยงดกิจกรรมรื่นเริง คอนเสิร์ต การแสดงทุกชนิด

 

เที่ยวงานบุญบั้งไฟพญานาคหนองคาย ปีนี้ ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุม โควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยเปิดให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 เข็ม หรือมีผลตรวจ ATK ไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมจุดคัดกรอง กำหนดพื้นที่เฉพาะ และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยไร้โควิดนั่นเอง

 

สุขภาพ-7วิธีการใช้นาฬิกาชีวภาพปรับสมดุลให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ

 

การกักตัวหรืออยู่ภายในบ้านต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ กระทบต่อการทำงานของนาฬิกาชีวภาพได้ ส่งผลให้หลายคนมีอาการอ่อนเพลีย คล้ายกับอาการทางร่างกายที่เกิดเมื่อเดินทางข้ามประเทศเป็นเวลานานด้วยเครื่องบินเรียกว่าเจ็ตแล็ก (jetlag) เช่น นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ อยากกินอาหารมากขึ้น อ่อนเพลียง่าย หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่สดชื่น

 

ในสถานการณ์ตึงเครียดเช่นนี้ เราจึงควรให้ความสำคัญกับการจัดการความเครียด รวมทั้งการรักษากิจวัตรประจำวันให้สม่ำเสมอ เพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตอันจะทำให้สุขภาพกายดีขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน 

 

เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยให้นาฬิกาชีวภาพปรับสมดุล ได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพกายใจ มีดังต่อไปนี้ 

 

1.ตื่นนอนตรงเวลาเดิมทุกวัน

 

2.พยายามทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกวันโดยเฉพาะในช่วงเช้า เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสมดุล แยกความแตกต่างระหว่างกลางวันกับกลางคืนได้ แต่หากไม่สามารถอยู่กลางแจ้งได้ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ อย่างน้อยควรใช้เวลาอยู่ริมหน้าต่าง 2 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไป มองไปที่แสงแดดภายนอก หรือให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง

 

3.หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน เพราะจะทำให้หลับยากขึ้นในเวลากลางคืน แต่หากง่วงจริง ๆ สามารถงีบได้สั้น ๆ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง

 

4.ใช้เวลาออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอในเวลาเดิม ๆ โดยควรทำในช่วงเช้า หรือช่วงที่ยังมีแสงแดด 

 

5.กินอาหารตรงเวลาเดิม ๆ หากไม่หิวในเวลาที่ควรกิน ให้กินอาหารในปริมาณเล็กน้อย เพื่อส่งสัญญาณให้นาฬิกาชีวภาพในร่างกายปรับสมดุลได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกิจกรรมทางกายที่ลดลง ผู้ที่อยู่บ้านไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน ควรลดปริมาณอาหารลงให้ได้พลังงานพอ เหมาะกับกิจกรรมที่ทำ และไม่ควรกินอาหารหนักช่วงก่อนนอนภายใน 2 ชั่วโมง เพราะจะทำให้รบกวนการนอน

 

6.หลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือจอโทรศัพท์มือถือในช่วงกลางคืน เพราะความสว่างจากหน้าจอ จะไปกระตุ้นสมอง คล้ายกับว่า ขณะนั้นเป็นเวลากลางวัน การหลั่งของฮอร์โมนช่วยเรื่องการนอน ชื่อ ‘เมลาโทนิน’ จะถูกรบกวน ทำให้หลับยากขึ้นหรือไม่ต่อเนื่อง จนเกิดความอ่อนเพลียในระหว่างวัน และรู้สึกไม่สดชื่น 

 

7.หาเวลาพูดคุยทางโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลกับเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องในช่วงเวลาที่สม่ำเสมอ

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก “รมว.พิพัฒน์”สยบดราม่าดึง“ลิซ่า-อันเดรอา”เคาน์ดาวน์ในไทย

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า แผนการลงทุนเชิญชวนศิลปินดังระดับโลก มาร่วมสร้างความสนใจคนทั่วโลกช่วงเทศกาลเคาน์ดาวน์ 31 ธันวาคม 2564 สามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะนายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว ส่วนการใช้งบประมาณค่อนข้างสูงรวมการจัดตลอดงานราว 500-600 ล้านบาท นั้นทำได้อย่างแน่นอน

 

คนแรกเป็นศิลปินสาวไทย “ลิซ่า แบล็กพิงก์” หรือ “ลลิษา มโนบาล” มาสร้างไฮไลต์เลือกใช้ทำเล “สะพานสารสิน” จังหวัดภูเก็ต คนที่ 2 “อันเดรอา โบเซลลี” นักร้องโอเปร่าอันดับ 1 ของโลกชาวอิตาลี

 

            ส่วนค่าใช้จ่ายการจัดเคาท์ดาวน์ทั้งหมดราว 500-600 ล้านบาท วางแผนระดมเงินจาก ส่วนที่  1งบประมาณรัฐ 200 ล้านบาท อาจของบกลางจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนที่สอง อีก 300-400 ล้านบาท มอบหมายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หาจากพันธมิตรเข้ามาสนับสนุนฟื้นการท่องเที่ยวไทยสร้างชื่อสู่สายตาชาวโลก เป็นภาพจำใหม่ที่จะช่วยดึงดูดกำลังซื้อทั่วโลกเข้ามาใช้เงินให้ได้ตามเป้าหมายปี 2565 ตลอดทั้งปีรวม 1.5 ล้านล้านบาท

 

ข่าวที่สอง โรงแรมเครือAQทั่วไทยตีปีกรับเปิดประเทศยอดจองพุ่ง200%

 

นายไมเคิล อเล็กซานเดอร์ วิลเลี่ยม เฟอร์นันเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) “AQ”  เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงแรมในเครือภายใต้การบริหารจัดการของ อควาเรียส โฮเทล คอลเลคชั่น รวม 5 โรงแรม รับอานิสงส์ทันทีจาก 2 ข่าวดี ข่าวแรก รัฐบาลไทยประกาศเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 ข่าวที่สอง ภาครัฐเดินหน้าโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” จะทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2564 คล่องตัวมียอดจองเพิ่มขึ้น 200% จากไตรมาสก่อน นักท่องเที่ยวจองยาวไปจนถึงต้นปี 2565

โรงแรมในเครือ AQ เข้ามาตรฐาน SHA PLUS และได้อานิสงส์เชิงบวกโดยกระจายตัวให้บริการอยู่ตามหัวเมืองท่องเที่ยวหลักในไทย ได้แก่ 1.โรงแรมเอลิคซ์ กรุงเทพมหานคร 2.โรงแรมฟลอร่า ครีค เชียงใหม่ 3.โรงแรม The Tarna Align Resort เกาะเต่า  และเกาะสมุย มี 2 แห่ง คือ 4.โรงแรม Malibu Resort & Beach Club เกาะสมุย 5.โรงแรม ShaSa Resort & Residences  

โครงสร้างของ AQ ดูแลธุรกิจ 3 กลุ่ม คือ 1.อสังหาริมทรัพย์การสร้างและขายโครงการบ้านกับคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม 2.ธุรกิจโรงแรม 3.ธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้า

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai