ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์-แม่ทัพใหม่ตลาดในประเทศ ททท.ปี’65 แจกงาน1ภูมิภาค1บิ๊กโปรเจ็กต์ควบ“BCG+RT+SEXY”ปั๊ม8.8แสนล้าน

 เปิดใจ“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”แม่ทัพใหม่ตลาดในประเทศ ททท.ปี’65

แจกงาน1ภูมิภาค1บิ๊กโปรเจ็กต์ควบ“BCG+RT+SEXY”ปั๊ม8.8แสนล้าน

ช้อปสนุก!!คิงเพาเวอร์Delights&Surprises17ต.ค.กับก็อต-อิทธิพัทธ์

อร่อยชัวร์!!32ปีอิ่มจริงที่คิงเพาเวอร์ไทยเทสต์ฮับรางน้ำ/มหานครคิวบ์

ททท.รอศบค.เปิดชื่อประเทศเสี่ยงต่ำเข้าไทยเข้ม3แนวปฏิบัติ1พ.ย.64

TCEB”หนุนเขาใหญ่จัดไมซ์สร้างสรรค์ประชุมกลางป่า2คืน8,900บาท

เที่ยวกาญจน์-สุดอันซีน“พระธาตุโบอ่อง”ปิล็อกทองผาภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์

6 วิธีแก้ง่วงแบบธรรมชาติได้โดยไม่ต้องพึ่งคาเฟอีน/เครื่องดื่มชูกำลัง

“แอคคอร์”ดึง60โรงแรม11แบรนด์ทั่วไทยลดเราเที่ยวด้วยกันสูงสุด60%

AWC”ลั่นลงทุน3เมกะโปรเจ็กต์5ปีหน้าดันไทยผงาดท่องเที่ยวโลก

 


 วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #PhuketSandbox  #ฐาปนีย์เกียรติไพบูลย์ #BCGRTWhiteTourism

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1741445839382800&id=100005522016696

 

ช่วงที่ 1 เกาะติดวิธีทำนอกกรอบของ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แม่ทัพใหม่ “ไทยเที่ยวไทย” กระตุ้นรายได้ท่องเที่ยว 882,000 ล้าน ติดอาวุธ 5 ภูมิภาค ยึดหลักตอบโจทย์ 3 ยุทธศาสตร์ “BCG-RT-White Tourism”  เปิดกว้างเดินเครื่อง “การตลาดทุกมิติทุกรูปแบบ” แจกงานรับผิดชอบชัดลุย 1 ภาค 1 โปรเจ็กต์  “ภาคใต้-ไทยแลนด์พรีเมี่ยม/ภาคกลาง-ท่องเที่ยวทั่วไทยไม่ตกเทรนด์/ภาคเหนือ-เมืองรองต้องไป/ภาคตะวันออก-วันธรรมดาน่าเที่ยว/ภาคอีสาน-ท่องเที่ยวชุมชนสร้างสรรค์” เฟ้นหา “เทศกาลโดนใจ” +Unseen New Series +Thailand Holideal เปิดประสบการณ์วิถีใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “SEXY : Safety-Environment-Extra-Yield” งัด 4 เครื่องมือ ขยายช่องทางการขายมากกว่าบริษัททัวร์ คัดเพื่อนใหม่ “ออนไลน์ช้อปดัง-เทรนด์สกุลเงินดิจิทัล-พอทัลเว็บททท.”ร่วมวง

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทันทีที่ได้รับตำแหน่งดูแลด้านตลาดในประเทศมีความท้าทายมาก ซึ่งจะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจฟื้นฟูได้โดยเร็ว ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีหน้า การกระตุ้นท่องเที่ยวและช่วยเหลือชุมชนเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นการทำตลาดปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 เป็นช่วง 6 เดือนที่จะต้องทำตลาดในประเทศเชิงรุกเร็วมาก โดย ททท.เน้นการขายประสบการณ์ อัตลักษณ์ สร้างความทรงจำให้นักท่องเที่ยวทุกคน

 

ปี 2565 จะเปิดโอกาสให้ ททท.ทั้ง 5 ภูมิภาค ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคอีสาน ทำการตลาดได้ทุกรูปแบบทุกมิติไม่มีกรอบตายตัว เพราะตอนนี้ไม่มีทฤษฎีการตลาดตายตัว สิ่งสำคัญสุดคือ “เป้าหมาย” เท่านั้นที่จะตอบโจทย์ 1.คุณภาพการเดินทาง แหล่งท่องเที่ยว 2.การเพิ่มรายได้ อย่างยั่งยืน

 

โดยมีความท้าทายสำคัญคือ “เป้าหมายรายได้” ปี 2565 ตั้งไว้ 882,000 ล้านบาท บนพื้นฐานสถานการณ์ดีที่สุด Best Case หากคนไทยกลับมาท่องเที่ยวได้มากขึ้น ททท.สามารถสร้างแรงจูงใจให้คนเดินทางเที่ยวไทย แล้วคนที่เคยเลือกไปเที่ยวต่างประเทศหันมาเที่ยวเมืองไทย เป็นโจทย์ที่จะทำให้ตอบโจทย์ “เป้านักท่องเที่ยวในประเทศ” ออกเดินทางเที่ยวตลอดทั้งปี 160 ล้านคน-ครั้ง ด้วยกลยุทธ์ 1.รุกขาย “สินค้ามูลค่าสูง”   ราคาท่องเที่ยวไม่ได้แพงเกินจริง 2.เพิ่มความถี่และรายได้ ทำให้ค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวขยับเป็นกว่า 4,000 บาท/คน/ทริป เมื่อคูณเข้ากับ “จำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมาย” ก็มีความเป็นไปได้

รวมทั้งจะใช้วิธี 1.มัดรวม (Bundle) สินค้ากับแหล่งท่องเที่ยว เพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์ความสุข ก็จะได้กลุ่มตลาดที่พร้อมจ่ายในราคาสมเหตุผล 2.รณรงค์ผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ สร้างจุดขายใหม่ไม่ตัดราคากันเองเหมือนอดีตที่ผ่านมา จาก ททท.สร้างคุณภาพสินค้า แล้วผู้ประกอบการขายราคาเหมาะสม

 

หรือแม้แต่ปี 2564 ช่วง 6 เดือนแรก ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับ ททท.ประเมินสถานการณ์มียอดนักท่องเที่ยวในประเทศสะสมไว้แล้วช่วง 6 เดือนแรก 36 ล้านคน-ครั้ง สิ้นปีนี้จะต้องได้ 90 ล้านคน-ครั้ง ตลอดทางครึ่งปีแรกทำได้แล้วเกือบครึ่ง แต่ช่วงกรกฎาคม-กันยายน มีการเดินทางน้อยมาก แต่ก็หวังเดือนแห่งโอกาสทอง ตุลาคม-ธันวาคม นี้ จะได้เห็นเที่ยวไทย 90-100 ล้านคน-ครั้ง

ตลอดปีหน้า 2565 จะได้เห็นการส่งเสริมท่องเที่ยวภายในประเทศของไทยด้วยคอนเซ็ปต์หลักควบคู่กันไป 3 แนวทาง คือ 1.ยุทธศาสตร์ “BCG :Bio Circular Green -เศรษฐกิจชีวภาพ/หมุนเวียน/สีเขียว” 2. RT : Responsible Tourism -การท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ และ 3.White Tourism -การท่องเที่ยวสีขาว :สะดวก ปลอดภัย เป็นธรรม รักษาสิ่งแวดล้อม  โดยทั้ง 5 ภูมิภาค จะวาง “ตำแหน่งทางการตลาด” กับ “สินค้าท่องเที่ยวไฮไลต์หลัก” เน้นเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยใช้องค์ประกอบหลัก BCG+RT+White Tourism แบ่งความรับผิดชอบแต่ละโครงการ ดังนี้

 

“ททท.ภูมิภาคภาคใต้” ดูแลโครงการ “Thailand Premium-การท่องเที่ยวเชิงมูลค่าสูง” ตอนนี้จึงได้เห็น “สินค้าใหม่ ๆ” ในภาคใต้ ได้แก่ ท่องเที่ยวยอร์ช ซึ่งมีคนไทยชื่นชอบจองเที่ยวยอร์ชและการท่องเที่ยวทางน้ำ ขยายตัวดีมาก ต่อนเองจากปัจจุบันภาคใต้ออกสตาร์ตทำแล้วคือ โครงการ “City Marketing ในพื้นที่ร่อง ภูเก็ต กระบี่ สมุย+สุราษฎร์ธานี ประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบในการเปิดเมือง หลังจากภูเก็ต ก็กำลังขยายผลเปิดอีกหลายจังหวัด บนพื้นฐานของการป้องกันดูแลการเดินทาง 1.มาตรฐานด้านสาธารณสุข 2.มาตรฐานบริการ

 

“ททท.ภูมิภาคภาคกลาง” ดูแลโครงการ “การท่องเที่ยวทั่วไทยไม่ตกเทรนด์” สำหรับเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2565 จะนำเสนออย่างครอบคลุมให้ทั้ง 5 ภูมิภาค เช่น การท่องเที่ยวเทรนด์ Gaming หรือ ศรัทธานำทางเส้นทางท่องเที่ยวนำเที่ยว หรือ Roadtrip ท่องเที่ยวฤดูฝน และสินค้าอื่น ๆ แบบครบวงจร ที่นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ความแปลกใหม่ จะเริ่มแล้วคือ “เส้นทางคนโสด 11 เดือน 11” วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564

 

“ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก” ดูแลโครงการ “วันธรรมดา น่าเที่ยว” มีกิจกรรมส่งเสริมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยววันธรรมดา วันจันทร์-พฤหัสบดี ตลอดทั้งปี เช่น กิจกรรมเดินทางไปทำได้งานได้ด้วยทั้ง Staycation และ Workation Thailand

 

“ททท.ภูมิภาคภาคเหนือ” ดูแลโครงการ “เมืองรอง ต้องไป” ไปลองแล้ว ไปเที่ยวแล้ว เดี๋ยวก็หลงรักอย่างแน่นอน จะพูดคุยเพื่อบูรณาร่วมกันทั้ง 77 จังหวัด ทั้งมิติสร้างการรับรู้ทั้งหมด และวางกลยุทธ์ส่งเสริมทำตลาดการขายในส่วนเมืองรองที่เกิดขึ้น

 

“ททท.ภูมิภาคภาคอีสาน” ดูแลโครงการ “ท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์” ที่กระจายอยู่ในภาคอีสาน 20 จังหวัด และชุมชนทั่วประเทศ

 

พร้อมกับให้โจทย์ใหญ่ทั้ง 5 ภูมิภาคเพิ่มอีก 1 โครงการ นั่นคือ เฟ้นหาพิจารณา “เทศกาลโดนใจในแต่ละจังหวัด -Thailand Experience” ซึ่งมีกลิ่นอาย อัตลักษณ์ เพื่อตอบโจทย์เรื่อง “ประสบการณ์ท่องเที่ยว” ทั้งโดนใจ ซาบซึ้ง ดึงดูดผู้คนเดินทางกลับมาอีกครั้ง และกระตุ้นการเดินทางข้ามพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

 

ปูพรมช่วงไตรมาสส่งท้ายปี 2564 จัดเตรียมเทศกาลรองรับนโยบายกระตุ้นของรัฐบาล ททท.ทุกภูมิภาคสนับสนุนเต็มที่ พร้อมกับกระตุ้นผู้ประกอบการเข้าร่วมปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA :Safety & Health Administration เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง  ขณะนี้ 2 โครงการ คือ โครงการที่ 1 “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” ตอนนี้มียอดจองห้องพักโรงแรมทั่วประเทศ ระหว่าง 8-13 ตุลาคม 2564 แล้วกว่า 500 ล้านบาท และโครงการที่ 2  “ทัวร์เที่ยวไทย”  พฤติกรรมคนไทยอาจจะยังไม่นิยมมากที่จะเที่ยวกับทัวร์ในประเทศ แต่ ททท.พยายามคัดสรรค์ “เส้นทางพิเศษมาก ๆ” เพื่อช่วยบริษัทนำเที่ยว ไกด์ ทาง ททท.จะช่วยเต็มที่

 

ส่วนปลายปีนี้จะจัดใหญ่ “2 เทศกาล” 1.งานลอยกระทงเดือนพฤศจิกายนนี้ และ 2.เคาน์ดาวน์ปลายเดือนธันวาคม 2564 “ภาคใต้” ททท.จะนำศิลปินดังระดับโลกเข้ามาสร้างสีสันไปยังทั่วโลก ส่วนภาคอื่น ๆ ก็จะมีกิจกรรมเด่น ๆ ด้วยเช่นกัน

 

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า สินค้าท่องเที่ยวไฮไลต์ใหม่ต้อนรับปีงบประมาณ 2565 รองรับนักท่องเที่ยวคนไทยและทั่วโลก ยังมีอีก 1 โครงการ คือ “Unseen New Series” คัดสรรเรียบร้อยแล้ว 5 ภูมิภาค 25 แห่ง เริ่มเดินหน้าสร้างการรับรู้และส่งเสริมการขายบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวยอันซีนอีกหลายแห่ง จึงจะทำเพิ่มเป็น “Unseen New Series Extra Plus

ภารกิจของตลาดในประเทศเพื่อสร้างภาพจำให้คนหันมาเที่ยวไทยในโครงการ Unseen New Series ซ้ำหลายครั้งได้ จะใช้ช่องทางเข้าถึงผ่าน โซเชียลมีเดีย ดิจิทัล ออนไลน์ ขณะนี้ ททท.แต่ละภูมิภาคเริ่มใช้เครื่องมือสร้างการรับรู้ผ่าน Influencer, Welog ต่าง ๆ บล็อกเกอร์ ที่มีชื่อเสียง จะเป็นส่วนหนึ่งในการ “ต่อยอด-ขยายฐานลูกค้า-เชื่อมโยง” การตลาดใหม่ เพื่อให้รู้ถึงสินค้าผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวใหม่ ต่อเนื่องไปจนถึงผนวกไปถึง “แผนส่งเสริมการขายแบบ Call to Action” จากนี้ไปการตลาดจะไม่ได้จบอยู่ตรงแค่การขายผ่านบริษัทนำเที่ยวเพียงอย่างเดียวแล้ว

 

การใช้ออนไลน์ แทรเวลสตาร์ตอัพ หรือเอเย่นต์ตัวแทนการขายออนไลน์/OTA :Online Travel Agents ก็จะมาช่วยเสริมพลังการขาย หลังจากที่ ททท.เดินหน้าสร้าง Start Up หน้าใหม่ ๆ หาช่องทางใหม่ ๆ เช่น ไลน์ช้อป (Lineshop) แพลตฟอร์ม LAZADA , Shoppy ททท.จะพูดคุยแล้วทุกเครือข่ายก็พร้อมเข้าร่วมขายสินค้าท่องเที่ยวปี 2565

 

ส่วนพันธมิตรเดิมของ ททท.ที่ทำการค้าร่วมกันมาตลอดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน โรงแรม สมาคมท่องเที่ยวต่าง ๆ จะยังทำอยู่ แต่จะนำออนไลน์เข้ามาผนวกขายให้เข้มข้นมากกว่าเดิม ทำให้เกิด Call to Action เพิ่มยอดการขาย

 

โดยภาพรวมปีงบประมาณ 2565 จะเคลื่อนทัพใหญ่การขายท่องเที่ยวในประเทศ 4 ช่องทาง ดังนี้

 

ช่องทางที่ 1 จะใช้เครื่องมือทางการขายที่มีหลากหลาย หากช่องทางไหนขายได้จะไปช่องทางนั้นทันที  รวมเข้ากับบางส่วน ททท.มีเว็บท่า (portal web) ก็จะนำมาช่วยได้อีกช่องทางไม่ว่าจะเป็น www.tourismthailan.org หรือโซเชียลมีเดีย amazingthailand และห้างสรรพสินค้า ททท.tourism departmentstore ก็ยังสนับสนุน กับต่อยอดบูรณาการต่อยอดเข้ากับออนไลน์ต่าง ๆ ปีนี้ได้เห็นการทำ Amazing Thailand Grand Sales ปกติทำออนกราวนด์ปีนี้ทำออนไลน์เพราะนักท่องเที่ยวไม่สามารถไปเดินห้างได้ จึงเปิด Live สดขายของได้ดีมาก เป็นอีกช่องทางช่วยผู้ประกอบการอย่างแท้จริง จึงจะเลือกช่องทางดังกล่าวมาเพิ่มยอดขาย โดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นตัวเชื่อมแนะนำสินค้าเพื่อให้ไปปิดการขายผ่านออนไลน์

 

ช่องทางที่ 2 เพิ่มช่องทางตามเทรนด์ยุคใหม่ เช่น TOKEN หรือเหรียญสกุลเงินดิจิทัล ตอนนี้อาจจะเคยได้ยิน TAT COIN หรืออีกหลายอย่างที่จะนำเข้าสู่กระบวนการขาย ททท.กำลังศึกษาแต่ละเรื่องอยู่ด้วย

 

ช่องทางที่ 3 เปิดการตลาดแนวใหม่ เช่น City Marketing , 5 ภูมิภาค 5 โครงการ โดยเฉพาะ “ท่องเที่ยวชุมชน”จะได้เห็นอีกโครงการคือ Thailand Holideal จะได้เห็นแพกเกจดีที่สุด ผ่านหลายแพลตฟอร์มที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงสินค้าและแพกเกจท่องเที่ยวให้มากที่สุด

 

ช่องทางที่ 4 ปี 2565 ได้กำหนดประกาศเป็นปีท่องเที่ยวธีม “เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” คนไทยเที่ยวเมืองไทยก็ได้หลายสิ่งหลายอย่างมากกว่าเดิม ทั้งแหล่งท่องเที่ยว ความคุ้มค่า ประสบการณ์แปลกใหม่ ที่สำคัญน่าจะสร้าง “ความประทับใจแหล่งท่องเที่ยวเมืองไทย” จนทำให้ลืมการท่องเที่ยวต่างประเทศไปเลยก็ได้

 

ททท.จึงมุ่งหวังให้คนไทยพร้อมใจกันทำหน้าที่เป็น “เจ้าบ้านที่ดี” ต้อนรับคนไทยด้วยกัน และชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาใช้จ่ายเงินมากขึ้น รวมทั้ง “การท่องเที่ยววิถีใหม่” หลังโควิด-19 ได้เน้นย้ำตลาดในประเทศทุกภูมิภาค ต้องเดินหน้าควบคู่กับการใส่ DNA ตลาดท่องเที่ยวในประเทศด้วยคอนเซ็ปต์ SEXY : 1.Safety -ความปลอดภัย 2.Environment Quality ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม 3.X-XTRA ทำให้เกิดการตอบโจทย์ประสบการณ์ความคุ้มค่าแก่นักท่องเที่ยวทุกคน 4.Y :Yield ทำน้อยได้มาก ด้วยวิธีเพิ่มคุณค่า เพิ่มรายได้มากกว่าจำนวนคน

 

องคาพยพ “ตลาดท่องเที่ยวในประเทศ” ปีงบประมาณ 2565 จะพลิกโฉมสู่โลกตลาดการขายยุคใหม่ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เม็ดเงินจากกระเป๋านักเดินทางในประเทศพร้อมจ่าย 882,000 ล้านบาท นั่นเอง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 

ข่าวที่ 1 ช้อปสนุก!!คิงเพาเวอร์Delights&Surprises17ต.ค.กับก็อต-อิทธิพัทธ์

 

คิง เพาเวอร์ ชวนคุณมาฉลองวันเกิดครบรอบ  32 ปี กับโปรโมชั่นแรงแห่งปี  DELIGHTS & SURPRISES  เที่ยวทิพย์ เที่ยวไม่ได้แต่ใจอยากช้อป” ให้เลือกช้อปได้แบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน พร้อมบริการ โฮม เดลิเวอร์รี่ ส่งฟรีถึงบ้าน และคุ้มค่ากว่าเดิมเมื่อช้อปด้วย Cash Card รับเงินไปช้อปเพิ่มสูงสุด 25,000 บาท พร้อมส่วนลด on top (ออนท้อป) สูงสุด 10% กับสินค้าที่ร่วมรายการ

 

วันที่ 17 ตุลาคม 2564 ช่วงไลฟ์สดศิลปินยอดนิยม พบกับ ก็อต-อิทธิพัทธ์ และวันที่ 18 ตุลาคม2564 พบกับ กระทิง-ขุนณรงค์ พร้อมกิจกรรมความสนุกมากมายและบริการสุดพิเศษ King Power Personal Shopper ผู้ช่วยส่วนตัวที่ตัวที่ให้คุณช้อปได้เสมือนมาเดินช้อปปิ้งเองที่ห้าง

 

ชวนกันมาช้อปได้แล้ววันนี้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต หรือช้อปผ่าน 2 ช่องทางการช้อปใหม่ได้แล้วที่ King Power Call to Shop และ Chat to Shop

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook King Power Official

 

ข่าวที่ 2 อร่อยทุกร้าน!!32ปีอิ่มจริงที่คิงเพาเวอร์ไทยเทสต์ฮับรางน้ำ/มหานครคิวบ์

คิง เพาเวอร์ ฉลองครบรอบปีที่ 32 จัดแคมเปญสุดร้อนแรงแห่งปีตลอดเดือนตุลาคมนี้ “32ND ANNIVERSARY DELIGHTS & SURPRISES เที่ยวทิพย์ เที่ยวไม่ได้ แต่ใจอยากช้อป” พร้อมอิ่มอร่อย (ไม่) จัดเต็มทั้งคาวหวานมาเอาใจสายชิมให้ได้ลิ้มลองกันที่ ไทย เทสต์ ฮับ 2 สาขา ทั้งที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ มหานคร คิวบ์

 

สาขาแรก  “ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ” ภายใต้เสน่ห์ของบรรยากาศ The Old Town แบบไทย ๆ ผสมผสานเข้ากับสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารแนวสตรีตฟู้ดชื่อดัง

 

ห้ามพลาดชิม !! ร้านทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี สืบตำนานความอร่อยมาเกือบ 100 ปี ด้วยรสชาติกลมกล่อมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ร้านเชียงการีลา, ละมัย หอยทอดเยาวราช, ข้าวขาหมูจุฬา สามย่าน, เทพนคร, ธีรชัยไก่ย่าง, กะเพราหม่อมแม่, กุ้งเผาอยุธยา, ห่านท่าดินแดง, นายอ้วนเย็นตาโฟบะเต็ง, ก๋วยจั๊บฮ่องเต้, การิม โรตี มะตะบะ, เจ็กเม้งข้าวมันไก่สองสี, สว่างบะหมี่ก้ามปู, Thai Street Food by Asian Corner, ขนมครกประมวล มีศิลป์, HOT FRIED by the Emerald 1992, เอี๊ยงออเฮ่าชือ และ All Coco

 

พบกับโซนความอร่อยใหม่บริเวณ “ไทย เทสต์ ฮับ เอ็กซ์เพรส” มีเมนูผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ชิมได้ทันใจแบบไม่ต้องรอนานไปกับสตรีตฟู้ดร้านเด็ดหลากสไตล์ ล่าสุดนำของดีจากบุรีรัมย์ “ป้าณีลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์” เสิร์ฟพร้อม “น้ำจิ้มพริกเผาสูตรต้นตำรับ” การันตีความอร่อยด้วยรางวัลน้ำจิ้มยอดเยี่ยมชนะเลิศจากการประกวดลูกชิ้นยืนกินชิงแชมป์โลก 2 ปีซ้อน ปี 2018 – 2019

 

ตามด้วยร้านน่าลองอีกมากมาย อย่าง ชุมพลปาท่องโก๋, ขนมเบื้องแม่ประภา, ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช, โตเกียว บีน, ยาคุน คายา โทสต์, Fruit for Health, เสี่ยวเสฉวน, กุยช่ายเหล่าหอเจี๊ยะ by เจ้น้อย, อาหยาว, PEPPERY SEAFOOD, หน่ำเตียง, หนม-จีน ฮับ by Khao และ อะคัพ บาย อานัม

 

สาขาที่ อร่อยที่ “ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์” ศูนย์รวมสุดยอดร้านอาหารระดับตำนานของเมืองไทยและมิชลิน มาให้คุณลิ้มลองในราคาที่เข้าถึงได้ ท่ามกลางบรรยากาศของงานสตรีตอาร์ต ส่วนเมนูการันตีความอร่อยจากมิชลินไกด์แนะนำ ไม่ว่าจะเป็น สุกี้เมาเวอริค สุกี้หมูนุ่ม – ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่หอมกลิ่นกระทะ ผัดไทยเจ้าดังแห่งถนนดินสอ ผัดไทยไฟทะลุ ดีกรีเชฟมิชลินอาหารไทยชื่อดังจากนิวยอร์ก เมนูอาหารอีสานพื้นบ้านสูตรต้นตำรับ รสเผ็ด แซ่บ ร้านเผ็ดเผ็ด เฮ่! และ ก๋วยจั๊บนายเอ็ก ตำนานก๋วยจั๊บน้ำใสชื่อดังย่านเยาวราช น้ำซุปรสเข้ม หอม ถึงเครื่อง

 

ต้องลอง !! ร้านผิน, 9 แสนล้าน, ครวญ, บุญเลิศ, ยี่ สับ หลก, ลิ้ม เหล่า ซา และ ชุมพลปาท่องโก๋ ปิดท้ายด้วยเมนูขนมไทยจาก ป้าหงษ์ขนมไทย ร้านขนมไทยต้นตำรับโบราณสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งตลาดนางเลิ้ง กับขนมหม้อแกงที่อร่อยเด็ดไม่เหมือนใคร

 

ไทย เทสต์ ฮับ ทั้งที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ชั้น 3 และ มหานคร คิวบ์ ชั้น 1 เปิดให้บริการทุกวัน ขณะนี้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้แล้ว ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. หรือจะเลือกสั่งความอร่อยส่งถึงบ้านได้ทุกวัน ก็สะดวกรวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN, GrabFood และ Robinhood สำหรับ ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สั่งได้ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. และ ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ สั่งได้ตั้งแต่ 10.00 – 19.30 น.  สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ King Power Contact Centre 1631

 

ข่าวที่ 3 ททท.รอศบค.เปิดชื่อประเทศเสี่ยงต่ำเข้าไทยเข้ม3แนวปฏิบัติ1พ.ย.

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้าทางศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) จะประกาศ “รายชื่อประเทศเสี่ยงต่ำ” ทั้งหมดที่จะเข้ามาช่วงเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน 2564 สามารถเดินทางท่องเที่ยวในไทยได้โดยไม่กักตัวตามเส้นทางเปิดทั่วประเทศ

 

รวมทั้ง ททท.ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานเกี่ยวข้องเรื่องการทำใบอนุญาตเข้าเมือง COE ให้ง่ายขึ้น และทุกขั้นตอนให้เสร็จก่อนขึ้นเครื่องออกจากประเทศต้นทาง จึงต้องขอความร่วมมือจากสายการบินต่างๆ ช่วยตรวจสอบเอกสารที่จำเป็น เพื่อลดความแออัดที่สนามบินด้วย

 

ส่วนแนวทางปฏิบัติของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาหลังเปิดประเทศโดยไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ท่องเที่ยวนั้น ยังต้องยึด 3 แนวทาง คือ

แนวทางที่ 1 นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำที่กำหนด ฉีดวัคซีนตามมาตรฐานสาธารณสุขครบ 2 โด๊ส มีหลักฐานแสดงการฉีดวัคซีน ตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงโดยไม่พบเชื้อ กรณีเดินทาง “มาจากประเทศอื่น” ให้พำนักในประเทศที่กำหนดก่อนเดินทางเข้าไทยอย่างน้อย 21 วัน  กรณี “ตรวจพบการติดเชื้อ” ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าเคยติดเชื้อมาก่อนช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีใบจองที่พัก อาจเป็นสถานกักกันที่ทางราชการกำหนด (AQ, OQ, AHQ) หรือโรงแรมที่ได้รับมาตรฐาน SHA Plus ที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการตรวจหาเชื้อวันแรกที่มาถึงรวมdy[ค่าใช้จ่ายตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR

เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน ให้นักท่องเที่ยวโหลดแอพพลิเคชัน “หมอชนะ” (ภาษาอังกฤษ) เดินทางโดยรถที่จัดไว้ให้ เพื่อเข้าพักตามโรงแรมที่จองไว้ และทางโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ในวันที่ 0-1 นักท่องเที่ยวต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และต้องอยู่ในโรงแรมจนได้รับผลการตรวจอย่างเป็นทางการ

 

แนวทางที่ นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว และมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่พบเชื้อ แต่เดินทางมาจากประเทศความเสี่ยงระดับกลางขึ้นไป ต้องอยู่ในพื้นที่ “บลูโซน” หรือพื้นที่สีฟ้านำร่องการท่องเที่ยว อย่างน้อย 7 วันก่อนไปเที่ยวพื้นที่อื่นในไทย และต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวนครั้งขึ้น ตามที่ ศบค.ประกาศไทม์ไลน์เปิดบลูโซน 43 จังหวัด ประกอบด้วย

 

ระยะที่ 1 ระหว่าง 1-30 พ.ย.2564 เปิดอีก 15 จังหวัด เมื่อเดินทางเข้ามาจะต้องตรวจ ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 แบบ RT-PCR และครั้งที่ 2 ATK ณ จุดที่กำหนด

 

ระยะที่ 2 ระหว่าง 1-31 ธ.ค.2564) เปิดอีก 16 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส รวมมี 33 จังหวัด โดยจะเสนอให้มีการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 1 ครั้ง

 

ระยะที่ 3 ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565 เป็นต้นไป เปิดพื้นที่มีพรมแดนติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน  12 จังหวัด เสนอจะต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK 1 ครั้ง ได้แก่ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ตาก นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ อุบลราชธานี น่าน กาญจนบุรี ราชบุรี และสตูล รวมมี 45 จังหวัด  

 

แนวทางที่ นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนไม่ครบโดสตามเกณฑ์ ก็สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ แต่ต้องกักตัวในสถานกักกันโรคที่รัฐบาลจัดสรรไว้ มาทางอากาศต้องกักตัว 10 วัน ทางบกกักตัว 14 วัน

 

ข่าวที่ 4 TCEB”หนุนเขาใหญ่จัดไมซ์สร้างสรรค์ประชุมกลางป่า2คืน8,900บาท

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”  รายงานว่าพร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการจัดแพกเกจการประชุมเมืองไมซ์ซิตี้ “นครราชสีมา” เลือกเขาใหญ่ 1 ใน 10 เส้นทางไมซ์สร้างสรรค์ ของบริษัท แพน แอร์ ทราเวล เซอร์วิส จำกัด ตั้งแต่วันนี้ - 15 ธ.ค. 64 จัดแพกเกจเติมโอโซนให้เต็มพลังด้วยธีม: ประชุมกลางป่า สัมมนาสัมผัสโอโซน”  2 วัน 1 คืน ราคา 8,900  บาท/คน ขนาดการประชุมครั้งละ 20 คนขึ้นไป  

 

เส้นทางไมซ์ที่จะพาไปสัมผัสบรรยากาศเขาใหญ่ พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ สามารถเลือกสรรได้เองตามต้องการ คือ 1.เรียนรู้ภูมิปัญญาชุมชนบ้านท่ามะปรางค์ 2.CSR ทำก้อนเห็ดให้โรงเรียน 3.ส่องสัตว์แบบ “Khao Yai Night Safari” 4.สัมผัสโอโซนกลางทุ่งทานตะวัน 5.ชมโรงผลิตไวน์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6.ทดลองทำไอศกรีมที่ฟาร์มโชคชัย ดูรายละเอียดเส้นทางไมซ์นี้ได้ที่  https://bit.ly/3Fub1mm

 

            ช่วงที่ 2 ออกไปสำรวจ Unseen New Series ที่ “พระธาตุโบอ่อง” บนยอดเขาปิล็อก ทองผาภูมิ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีเรื่องเล่าแห่งวิถีชาวชาติพันธุ์มายาวนาน แล้วมาลองทำ “6วิธีแก้ง่วงแบบธรรมชาติ” ไม่ต้องพึ่งคาเฟอีนและเครื่องดื่มชูกำลัง ส่งท้ายด้วยข่าวซีพแซ่บแซ่บ “แอคคอร์” ลดเราเที่ยวด้วยกันหมดหน้าตัก 60 % กับ 60 โรงแรม 11 แบรนด์ และ ขาใหญ่ “AWC” ลั่นลงทุน 5 ปีหน้า 3 เมกะโปรเจ็กต์ แลนด์มาร์คใหม่หนุนไทยผงาดท่องเที่ยวโลก

 

พาเที่ยว -เที่ยวกาญจน์สุดอันซีน“พระธาตุโบอ่อง”ปิล็อกทองผาภูมิแดนศักดิ์สิทธิ์

 

เที่ยวไทย เริ่มออกเที่ยวได้แล้ว ทริปนี้ มีจุดหมายปลายทาง Unseen New Series ใหม่มาชวนกันไปที่ “พระธาตุโบอ่อง”  ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยากต่อการเข้าถึง ปักหมุดการเดินทางจากริมทะเลสาบ “เขื่อนวชิราลงกรณ์” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ล่องไปตามยังหมู่บ้านกลางน้ำ มุ่งหน้าสู่ “บ้านโบอ่อง” เรือนำพาเราผ่านทิวเขาน้อยใหญ่เรียงรายรูปร่างแปลกตา บางช่วงเวลาได้พบเห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่ได้อยู่อาศัยบนผืนน้ำ ใช้เวลาราว 40 นาที ก็ถึงจุดหมายดินแดนศักดิ์สิทธิ์

 

“พระธาตุโบอ่อง” เป็นทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ท่องเที่ยว ตั้งอยู่ภายในวัดเก่าแก่ มีเพียงคำบอกเล่าของชาวบ้านในพื้นที่เล่าสืบต่อกันมาว่าสร้างมาเป็นเวลากว่าร้อยปี มีลักษณะเป็นเจดีย์ศิลปะพม่าตั้งอยู่บนยอดเขา เป็นสถานที่สำคัญของคนไทยหลายชาติพันธุ์ มอญ กะเหรี่ยง พม่า ต่างถิ่นให้ความเคารพศรัทธา เมื่อถึงเทศกาลต่างก็หลังไหลเข้ามาสักการะพระธาตุแห่งนี้

 

ตั้งอยู่ใน บ้านโบอ่อง หมู่ 2 ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้านกระเหรี่ยงพุทธ อยู่อาศัยโดยรอบพระธาตุแห่งนี้ เจดีย์มีลักษณะทรงมอญ สูง 6 เมตร ฐานกว้าง 3x3 เมตร  สร้างอยู่บนยอดเขาหินปูนเล็ก ๆ ที่มีบึงน้ำใหญ่ล้อมรอบ ข้างองค์พระธาตุ มีหอกับระฆังขนาดเล็กแขวนอยู่ ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่า เป็นระฆังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานไว้ให้แขวนคู่กับพระธาตุโบอ่องแห่งนี้

 

ชาวมอญ กะเหรี่ยง พม่า ที่ให้ความเคารพสักการะพระธาตุโบอ่อง ตามความเชื่อว่าเป็นบริเวณหวงห้ามตั้งแต่สระน้ำที่ล้อมรอบพระเจดีย์ ห้ามผู้หญิงเดินข้ามสะพานไปสักการะพระธาตุโบอ่องจะทำให้น้ำในบริเวณพระธาตุโบอ่องแห้งและเกิดสิ่งไม่ดีกับตนเองและหมู่บ้าน และจะทำให้น้ำแห้ง

ส่วนความเชื่อตามตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า ในสมัยก่อนพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่พระธาตุโบอ่อง ยักษ์เห็นก็จะกินพระพุทธเจ้า พระองค์จึงบอกยักษ์ว่า ถ้าอยากกินก็ให้ไปหาที่นั่งให้ท่านเทศน์ก่อน ยักษ์จึงไปนำก้อนหินก้อนใหญ่มาวางให้พระพุทธเจ้าเทศน์ ทำให้บริเวณรอบพระธาตุเกิดเป็นหนองน้ำจากรอยนั่งของยักษ์

เมื่อได้ฟังเทศน์ยักษ์ก็เขี้ยวหักจึงหนีไป ระหว่างที่พระพุทธเจ้าเทศน์เส้นพระเกศาพระพุทธเจ้าหนึ่งเส้นได้ร่วงลงไปในหนองน้ำ เป็นที่มาของการห้ามผู้หญิงเดินข้ามหนองน้ำแห่งนี้

เที่ยวเมืองไทย มีสิ่งแปลกใหม่ให้ค้นหาอยู่เสมอ การท่องเที่ยวธรรมชาติ และเส้นทางแห่งศรัทธา สามารถมาเติมพลังได้ทุกเวลา

 

สุขภาพ- 6 วิธีแก้ง่วงแบบธรรมชาติได้โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องดื่มคาเฟอีน

   

ความง่วงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุก ๆ คนตามธรรมชาติ แต่หากความง่วงได้รบกวนและก่อให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือการเข้าสังคม โดยอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติในการนอนหลับ โรคประจำตัว หรือนอนหลับไม่เพียงพอ คนทั่วไปก็จะแก้ปัญหาด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ในความเป็นจริงแล้วการบริโภคเครื่องดื่มคาเฟอีนเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และอาจนำมาสู่วงจรที่ส่งผลเสียต่อการนอนหลับได้ในะระยะยาว ดังนั้น การแก้ปัญหาการนอนหลับแบบเป็นธรรมชาติอาจจะช่วยแก้ง่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

           

6 วิธีแก้ง่วงแบบธรรมชาติ

1.ควรลุกขึ้นมาเดินบ่อย ๆ ประมาณครั้งละ 10 นาที จะช่วยเพิ่มพลังงานให้ได้ถึง 2 ชั่วโมง เพราะการเดินจะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าสู่สมอง หลอดเลือดและกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและสดชื่นขึ้นได้

 

2.งีบหลับแก้ง่วง ควรงีบครั้งละ 5-25 นาที ไม่เกินวันละครั้ง และไม่ควรงีบใกล้กับเวลาเข้านอน หรือประมาณ 6 หรือ 7 ชั่วโมง ก่อนเวลานอน แต่หากไม่สะดวกที่จะงีบหลับ ก็สามารถหลับตาเพื่อพักสายตาประมาณ 10 นาที ก็สามารถคลายง่วงได้

 

3.หากต้องทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้ปวดตา เกิดความอ่อนล้าและทำให้ง่วงมากยิ่งขึ้น ควรหาเวลาพักสายตาเป็นระยะ ๆ เพื่อให้สายตาได้หยุดพักและเกิดความผ่อนคลาย

 

4.รับประทานอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ขนมปังโฮลวีตทาด้วยเนยถั่ว โยเกิร์ต และถั่วหรือผลไม้สดประมาณ 1 กำมือ

 

5.หยุดพักหายใจเพื่อให้รู้สึกตื่นตัว เพราะการหายใจลึก ๆ จะช่วยเพิ่มระดับของออกซิเจนในเลือด ซึ่งจะช่วยชะลอจังหวะการเต้นของหัวใจให้ช้าลง ช่วยลดระดับความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ช่วยปรับอารมณ์และฟื้นฟูพลังงาน โดยการหายใจจะเป็นการกำหนดลมหายใจไปที่บริเวณท้อง ให้นั่งตัวตรงและปฏิบัติดังนี้ประมาณ 10 ครั้ง

 

วิธีการกระตุ้นการหายใจ ซึ่งมีการใช้ในการเล่นโยคะ โดยวิธีนี้จะช่วยเพิ่มพลังงานและเพิ่มความตื่นตัว มีวิธีการดังนี้

 

-หายใจเข้าและออกอย่างรวดเร็วผ่านจมูก ในขณะที่ปิดปากเอาไว้อย่างผ่อนคลาย พยายามให้ลมหายใจเข้าออกสั้น ๆ โดยทำประมาณ 3 รอบต่อ 1 วินาที

 

-จากนั้นจึงกลับมาหายใจตามปกติ ในครั้งแรกสามารถทำได้นานถึง 15 วินาทีขึ้นไป และเพิ่มทีละ 5 วินาที ทำจนครบ 1 นาที

 

6.ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและง่วง เพราะเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำจะสามารถทำให้ร่างกายเกิดความอ่อนเพลีย ดังนั้น ควรดื่มน้ำมาก ๆ และรับประทานอาหารที่มีน้ำมาก เช่น ผักและผลไม้

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก “แอคคอร์”ดึง60โรงแรม11แบรนด์ทั่วไทยลดเราเที่ยวด้วยกันสูงสุด60%

 

แอคคอร์ เชนโรงแรมระดับโลก นำโรงแรมที่มีอยู่ทั่วเมืองไทยกว่า 60 แห่ง จัดโปรโมชั่นห้องพัก INSPIRATION AWAKENED’ เป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยวในประเทศจองผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อรับส่วนลดประหยัดเงินได้ถึงถึง 60 % จากแอคคอร์ 20 % บวกกับสิทธิที่ภาครัฐมอบให้นักท่องเที่ยว 40 %

 

โดยมีโรงแรมและรีสอร์ทให้เลือกจองโปรโมชั่นนี้ 12 จุดหมายปลายทาง พร้อมมอบประสบการณ์มากมายสำหรับนักเดินทุกคน จากทั้งหมดแบรนด์  คือ 1.โซฟิเทล (Sofitel) 2. โซ/ (SO) 3.เอ็มแกลเลอรี (MGallery) 4.เมอเวนพิค (Mövenpick) 5.สวิสโฮเต็ล (Swissôtel) 6.พูลแมน (Pullman) 7.แกรนด์ เมอร์เคียว (Grand Mercure) 8.เมอร์เคียว (Mercure) 9.โนโวเทล (Novotel) 10. ไอบิส (ibis) และ 11.ไอบิส สไตล์ (ibis Styles)  

 

สามารถวางแผนและจองการเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 สำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 จองห้องพักด้วยความสบายใจพร้อมเพลิดเพลินกับเงื่อนไขการจองที่สามารถยกเลิกได้ 3 วันก่อนการเข้าพัก สมาชิก Accor Plus รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพัก สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์  https://all.accor.com/promotions-offers/hot-deals-offers/owm014240-001-inspirations-awakened-thailand.th.shtml

 

พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถรับส่วนลดสูงสุดถึง 60% เมื่อจองผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รับสิทธิส่วนลดที่พักเพิ่ม 40% ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับส่วนลด 20% จากแอคคอร์

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่ร่วมกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันได้ทางเว็บไซต์  https://all.accor.com/promotions-offers/hot-deals-offers/owm014263-001-all-x-we-travel-together.th.shtml

 

ข่าวที่สอง AWC”ลั่นลงทุน3เมกะโปรเจ็กต์5ปีหน้าดันไทยผงาดท่องเที่ยวโลก

 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AWC แฟลกชิพlสำคัญของ ทีซีซี กรุ๊ป เปิดเผยว่าอีก 5 ปีข้างหน้า AWC เดินหน้าการลงทุนแลนด์มาร์คใหม่อีก 3 โปรเจคแลนด์ ที่จะสร้างจุดขายใหม่ให้นานาชาติได้รับรู้ศักยภาพของเมืองไทย

 

1.โครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เดสติเนชั่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์กระดับไอคอนแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ปี 2567 มีแผนเปิดให้บริการเริ่มจากเปิดโซนค้าปลีกและสำนักงาน ในภาพรวมจะเน้นการคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรม ประกอบด้วย 3 โรงแรมเชนอินเตอร์ คือ 1.ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ 2.เจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ 3.ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ แบรนเด็ด เรสซิเดนส์ เป็นเซอร์วิส เรสซิเดนส์

 

2.โครงการที่อควอทีค ดิสตริก พัทยา (AQUATIQUE DISTRICT PATTAYA) โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางเมืองพัทยา มีทั้ง แหล่งชอปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยว โรงแรมหรู 5 แบรนด์ แบรนเด็ด เรสซิเดนส์อีก 2 แบรนด์ พื้นที่ค้าปลีก และWellness ร่วมสร้างชื่อเสียงพัทยาเป็นจุดหมายปลายทางชายหาดยอดนิยมระดับโลก

 

            3.โครงการเวิ้งนครเขษม มูลค่าการลงทุนกว่า 16,000 ล้านบาท พัฒนาพิเศษแบบ Mixed Development มีทั้งโรงแรม ที่อยู่อาศัย ค้าปลีก ดึงเสน่ห์และอนุรักษ์ความเป็นไชน่า ทาวน์ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับร้านค้าปลีกใต้ดินใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เส้นทางมรดก มรดกทางประวัติศาสตร์ และถนนแห่งความบันเทิง เพิ่มจุดขายใจกลางกรุงแห่งใหม่ที่จะดึงดูดรายได้จากทั่วโลกเข้ามาทำให้เศรษฐกิจคึกคักมากขึ้นต่อไป

 

            ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai