TCEB”ชงศบค.11ต.ค.ปลดล็อกไมซ์ดึงคนเข้างานได้ไม่จำกัดธ.ค.นี้-ชูสมายล์รีคัพเวอร์ดึงอินเซ็นทีฟอินเดียบุกไทย

“TCEB”ชงศบค.11ต.ค.ปลดล็อกไมซ์ดึงคนเข้างานได้ไม่จำกัดธ.ค.นี้

ชูสมายล์รีคัพเวอร์จูงใจไมซ์ต่างชาติ-อินเซ็นทีฟอินเดียตีปีกบุกไทย

คิงเพาเวอร์ชวนช้อปDelights&Surpriseซื้อแคชการ์ดรับเพิ่ม2.5หมื่น

สมาชิกคิงเพาเวอร์แลกกะรัตอิ่มฟินที่“ไทยเทสต์ฮับกับรามายณะ”

LCFCปล่อยคอลเลคชั่น“TYPEFACE COLLECTION”เราเลสเตอร์

“ททท.-แอร์เอเชีย”บินเชียงใหม่ปลุกทัวร์ไฮซีซัน/เปิดประเทศ120วัน

ททท.กอดคอเชียงใหม่บูม3เทศกาลปลายปีเปิดมิติใหม่รับ3เทรนด์

TCEBแจกดีลดี10.10ดึงองค์กรรับ2ต่อไมซ์สร้างสรรค์10เส้นทาง

อ่านด่วน!!วิธีทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ-เคสลดเสี่ยงโควิด-19

“วีว่าฯฟาร์ม”จันทบุรีแจกโปรชวนทัวร์เมืองสัตว์น่ารัก/ดอกไม้สวย

“ไออาต้าเพิ่ม6แอร์ไลน์โลกหันใช้IATA TRAVEL PASSตรวจโควิด”

 

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” 

 วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  

#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TCEB  #TAT #DelightsSurprises

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1735168106677240&id=100005522016696

ช่วงที่ 1 ขยับหมากไมซ์ปี’65 กับ “จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เกมท้าทายใหม่ฟื้นรายได้คืนเกิน 25% 11 ต.ค.นี้ ชง ศบค.ปลดล็อกคนเข้าร่วมไมซ์ ธ.ค.นี้จัดได้ไม่จำกัดจำนวน ลุยติดอาวุธ “ตลาดในประเทศ” ชูธงแจกงบเอ็กซิบิชั่น BtoB 1 ล้าน 1 งาน เคลียร์ทางเปิดประเทศ 120 วัน รับ “ตลาดต่างประเทศ” ชูโปรเจ็กต์ “Smile Recover” โดนใจคอปอเรตอินเซนทีฟอินเดียเฮโลเข้าไทย บริษัทยักษ์ใหญ่ยุโรปหันหัวเรือดันไทยศูนย์กลางไมซ์อินเตอร์ ทีเส็บระดมทัพ MTEX จัดแถวธุรกิจไมซ์สู่ BCG เต็มรูปแบบ

 

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า การติดอาวุธขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณ 2565 ตามเป้าหมายจะต้องฟื้นฟูรายได้ไมซ์กลับมาให้ได้เกิน 25 % ขึ้นไปจากปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากนี้ต้องใช้แนวคอนเซ็ปต์ต้องเดินหน้าอยู่ร่วมกับโควิดควบคู่กับธุรกิจต้องเปิดบริการได้ด้วย ภายใต้มาตรฐานการป้องกันควบคุมความปลอดภัยจากแพร่ระบาดของโรค อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยยังคงต้องใช้ตัวช่วย 2 H คือ “Hybrid :การจัดงานผสมผสานจัดงานจริงกับงานเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี กับ Hygiene การจัดงานอย่างปลอดภัยจากโรคโควิด-19 เพื่อเพิ่มจำนวนการจัดงาน และสร้างรายได้ในอนาคตให้เข้าเป้า

ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย ไม่ละเลยเรื่องมาตรฐานการป้องกันดูแลด้านสาธารณสุข และคัดเลือก “กิจกรรม” ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด เพิ่มการปรับตัวให้ผู้เข้าร่วมงานมากขึ้น

 

ขณะที่กลยุทธ์การขับเคลื่อนไมซ์ตั้งแต่ตุลาคม 2564 เริ่มด้วย “ตลาดในประเทศ” ยังคงชูโครงการหลัก “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” เพื่อกระตุ้นจัดประชุมเพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมามีผู้สนับสนุนจัดต่อเนื่องถึง 645 องค์กร จัดประชุมไปแล้วกว่า 1,000 งาน ยกเว้นพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม โดยเฉพาะหลายจังหวัดในภาคกลางยังต้องเฝ้าระวัง สิ่งที่ทีเส็บทำได้คือ

เรื่องแรก ขยายเวลาสนับสนุนเงินจัดประชุม (M :Meeting)จากเดิมสิ้นสุด 15กันยายน ไปเป็น 15 ธันวาคม 2564 สามารถจัดกิจกรรมได้จนถึง 30 ธันวาคม นี้ แล้วจะสรุปงบสนับสนุนให้แล้วเสร็จ 31 มกราคม 2565 โดยสนับสนุนงานที่รวมกลุ่มกันจัดตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คือครั้งละไม่เกิน 25 คน ทำโปรแกรมจัด 2 วัน 1 คืน ได้เงินสนับสนุน 30,000 บาท โปรแกรม 1 วัน หรือเกิน 6 ชั่วโมง ได้เงินสนับสนุน 15,000 บาท

เรื่องที่ 2 การกระตุ้นจัดงานแสดงสินค้า หรือ E : Exhibition เตรียมเสนอ ศบค.พิจารณา 11 ตุลาคม 2564 ให้ผู้ประกอบการจัดงานแสดงสินค้าจริงได้ ด้วยการกำหนดจำนวนคนเข้าร่วมงานแต่ละงาน แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 เดือนตุลาคม 2564 ขนาด 200-500 คน  ระยะที่ 2 เดือนพฤศจิกายน 2564 ขนาด 500-1,000 คน ระยะที่ 3 เดือนธันวาคม 2564 ไม่จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศ แนวโน้มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน นี้เป็นต้นไป การจัดงานเอ็กซิบิชั่นน่าจะเริ่มคึกคักขึ้นมาได้ หลังได้ไฟเขียวจาก ศบค.เร็ว ๆ นี้

 

สำหรับ “แพกเกจ” สนับสนุนการจัดงานเอ็กซิบิชั่น จะใช้โครงการ “M POEWER THAILAND EXHIBITION :MTEX เป็นหัวหอกให้งบประมาณสนับสนุนการจัดงานและนวัตกรรม กระตุ้นการเอ็กซิบิชั่นในประเทศฟื้นตัว Recovery Exhibition Package ประกอบด้วย

1.Regional Best Show งานแสดงสินค้าเป้าหมายใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อาหาร เกษตร สุขภาพ เครื่องกล นวัตกรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจ BCG เลือกสนับสนุนเงินเฉพาะงานที่มีการจับคู่เจรจาธุรกิจ Business to Business :B to B ขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ขนาดพื้นที่จัด 3,000 ตารางเมตรขึ้นไป จะได้เงินสนับสนุน 1 ล้านบาท

2.Gear Up Exhibition Package สนับสนุนเงินจัดงานแสดงสินค้าทั่วไป ที่ไม่ได้อยู่ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม แต่จะต้องจัดงานในลักษณะ B to B เท่านั้นจะได้รับงานละ 700,000 บาท

สาเหตุที่เลือกกระตุ้นตลาด “จัดแสดงสินค้า/เอ็กซิบิชั่น” เป็นกลยุทธ์ขยายผลโครงการ “M POEWER THAILAND EXHIBITION :MTEX ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ช่วงบุกเบิกมีพันธมิตรหลักเข้ามาร่วมสนับสนุนจัดงานทั้ง สภาและสมาคมหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีตัวอย่างจัดงานขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น งาน RICE EXPO ครั้งแรกจัดที่ร้อยเอ็ด ทีเส็บเข้าไปดูการจัดงานพร้อมสนับสนุนมาแล้ว 1 ปี เป็นงานที่สร้างเงินหมุนเวียนจากการเจรจาการค้าซื้อขายระหว่างกันครั้งละประมาณ 3,000 ล้านบาท รวมทั้งสามารถขยายพื้นที่ได้ประโยชน์ไปยังกาฬสินธุ์ได้ด้วย ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกระจายสู่พื้นที่ใกล้เคียง ที่เห็นผลชัดเจน

นายจิรุตถ์กล่าวว่า การปักหมุดใช้งบสนับสนุนกระตุ้นการจัดแสดงสินค้า/เอ็กซิบิชั่น จะเน้นพื้นที่เมืองไมซ์ ซิตี้ 10 เมืองหลัก เช่น งาน Northeast Tech นครราชสีมา ได้กลายเป็นอีกงานนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ ระยะหลังมีกลุ่มสต๊าตอัพเข้าไปร่วมด้วย ประการสำคัญคือสร้างมูลค่าเงินหมุนเวียนกระจายเป็นวงรอบพื้นที่อย่างทั่วถึง

สำหรับการทำเชิงรุกบุกหนัก “ตลาดต่างประเทศ” ยังคงให้ข้อมูลความเคลื่อนไหวในไทยกับคู่ค้าทั่วโลก  ส่งผลให้มีข่าวดีต่อเนื่องปลายปี 2564 เป็นต้นไป

เรื่องที่ 3 ดึงบริษัทยุโรป ซึ่งเป็นตัวแทนจัดงานระดับโลก เลือกไทยเป็นศูนย์กลางมาตั้งฐานที่กรุงเทพฯ อีกแห่งของอาเซียน หลังจากที่ไทยต้องรอสาธารณรัฐประชาชนจีนมาช่วงหนึ่งแล้ว แต่จนถึงขณะนี้จีนก็ยังรอให้โควิด-19 คลี่คลาย แต่ทางยุโรปกลับสนใจเข้ามาแล้ว โดยมองว่าไทยมีโอกาสเป็นประเทศที่สามารถจัดงานเอ็กซิบิชั่นใหม่ ๆ ได้

เรื่องที่ 4 สร้างโอกาสต้อนรับนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน เริ่มพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ทางทีเส็บเห็นสัญญาณตอนนี้มีตลาดต่างประเทศใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่ม ช่วงเริ่มต้นแบบผสมผสานค่อย ๆ ทยอยเข้ามา ตลาดสำคัญที่จะรุกได้มากขึ้นคือ “อินเดีย” ขนาดใหญ่อันดับสอง พร้อมเจาะกำลังซื้อหลัก ๆ

1.ตลาดคอปอเรตนำผู้ที่ได้รางวัลเดินทางฟรี (I : Incentive) อินเดียมีตลาดอินเซ็นทีฟสนใจเดินทางมาไทยจำนวนมาก ในภาพรวมทีเส็บกำลังทำแพกเกจ “SMILE RECOVER” เจาะคอร์ปอเรตที่ได้รางวัลเดินทางฟรี โดยจะสนับสนุนงบประมาณ บวกกับการสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ ๆ โปรโมตเมืองไทย

2.ตลาดคอนเว็นชั่น จะทำโครงการ CON D PLUS ประเมินแล้วมีตัวชี้วัดให้ผลสร้างเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจได้ค่อนข้างสูง มีงานขนาดใหญ่กำลังพิจารณาดึงมาจัดหลายงาน

3.ตลาดเอ็กบิชั่น จะทำโครงการ EEC Exhibtion เพื่อดึงลูกค้าจัดแสดงสินค้ากลุ่มใหม่ ๆ เข้ามาจัดงานจับคู่ธุรกิจในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC : Eastern Economic Corridor)  

4.ตลาดเฟสติวัล จะดึงกลุ่มจัดอีเวนต์ ดนตรี งานเทศกาลต่าง ๆ ระดับโลกเลือกมาจัดในไทย

 

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทีเส็บจะขยายฐานตลาดใหม่กลุ่ม BCG :เศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว จะต้องดึงงาน “แสดงสินค้า/เอ็กซิบิชั่นและคอนเว็นชั่น” ร่วมมือกันลดโลกร้อน ควบคู่กับการพัฒนาสินค้า เช่น การสนับสนุนนำระบบรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเพิ่มมากขึ้น หรืออีกหลายด้าน เป็นปัจจัยสนับสนุนประเทศไทยให้ได้รับความไว้วางใจด้านการผลิตสูงขึ้น เพราะฉนั้นจึงนำทั้งเอ็กซิบิชั่นและคอนเว็นชั่นเข้ามารองรับการพัฒนาประเทศต่อไป

 

ส่วนการขอให้รัฐบาล หรือ ศบค.ติดอาวุธอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ นับจากนี้เป็นต้นไป ทุกเซกเมนท์ทั้งไมซ์และการท่องเที่ยวจะต้องได้รับการสนับสนุนเรื่องตลาดต่างประเทศสามารถเดินทางเข้ามาได้ ที่ผ่านมาทีเส็บมีนักลงทุนเข้ามายังไทย โดยเฉพาะกลุ่มตลาดใหม่ “สุขภาพ” จะต้องหาวิธีทำให้ตลาดดังกล่าวเข้ามาอย่างปลอดภัยแล้วกลับไปจากเข้าใจ ตอนนี้ทีเส็บดำเนินการ 3 ส่วน คือ

 

ส่วนที่ 1 สร้างความรู้ ความเข้าใจ อย่างง่าย ๆ ให้ต่างชาติรับรู้ถึง วิธีเข้ามาไทยทำอย่างไร ต้องจัดเตรียมอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก

 

ส่วนที่ 2 มาตรการทางภาษี เพื่อให้เข้ามาปฏิบัติงานในไทยง่ายขึ้น ปัจจุบันแก้ไขเรื่อง ใบอนุญาตต่างด้าวทำงานในไทย/Work Permit แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บรรยายที่จะเข้ามาร่วมงานประชุมไม่ต้องทำ work permit แล้ว

 

ส่วนที่ 3 นวัตกรรมการจัดงานไมซ์ จะต้องดูแลผู้จัดงานที่มีการพบปะพูดคุยกันแบบต่อหน้าไม่ใช่เสมือนจริง (Virtual) ยังคงเน้นการจัดด้วย 2 H คือ ไฮบริด/Hybrid กับ ไฮยีน/Hygiene พร้อมทั้งมีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านโครงข่ายเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ออนไลน์ ดิจิทัล ที่ทางผู้จัดงานต่างประเทศสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก ถึงแต่ละโรงแรมหรือสถานที่จัดงาน มีอินเตอร์ Wifi ความเร็วสูง ที่เสถียร สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่รัฐควรจะเข้ามาช่วยทำอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน

 

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนไมซ์ ซิตี้ ตอนนี้มี 10 เมือง เรื่องสำคัญที่ผู้นำหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละพื้นที่จะต้องเป็นเจ้าภาพเร่งทำเพื่อสร้าง ไมซ์ ซิตี้ อย่างสมบูรณ์แบบ คือ เร่งทำระบบคมนาคมขนส่งภายในเมือง ตอนนี้สิ่งที่ช่วยได้คือรถตู้ รถบัส แต่เมืองขนาดใหญ่อย่าง พัทยา เชียงใหม่ ขอนแก่น เริ่มโครงการนำร่องระบบขนส่งทางรางภายในเมืองแล้ว เป็นเรื่องที่จะต้องทำให้เห็นภาพชัดเจน เนื่องจากได้คุยกันมามากพอสมควรแล้ว เพื่อให้คนเข้าร่วมงานได้รับความสะดวกสบายอย่างแท้จริง

 

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ชวนช้อปDelights&Surpriseซื้อแคชการ์ดรับเพิ่ม2.5หมื่น

 

คิง เพาเวอร์ ชวนฉลองครบรอบ  32 ปี เอาใจนักเดินทางขาช้อปที่ห่างหายจากการเดินทางไปต่างประเทศกับโปรโมชั่นแรงที่สุดแห่งปี  “DELIGHTS & SURPRISES เที่ยวทิพย์ เที่ยวไม่ได้แต่ใจอยากช้อป” พบกับสินค้าหลากหลายจากแบรนด์ดังทั่วโลกที่ให้คุณได้เลือกช้อปได้แบบไม่ต้องมีไฟลต์บิน พร้อมบริการ Home Delivery ส่งฟรีถึงบ้าน และคุ้มค่ากว่าเดิมเมื่อช้อปด้วย Cash Card รับเงินไปช้อปเพิ่มสูงสุด 25,000 บาท

 “ซื้อบัตรเงินสดหรือ Cash Card รับเพิ่มสูงสุดถึง 25,000 บาท” ระหว่างวันนี้ -31 ตุลาคม 2564 เลือกได้ถึง 3 ราคา ได้แก่

1.ซื้อ Cash Card มูลค่า 10,000 บาท ช้อปได้ 12,500 บาท แจกส่วนต่างให้ช้อปเพิ่ม 2,500 บาท

2.ซื้อ Cash Card มูลค่า 30,000 บาท ช้อปได้ 40,000 บาท แจกส่วนต่างให้ช้อปเพิ่ม 10,000 บาท

3.ซื้อ Cash Card มูลค่า 50,000 บาท ช้อปได้ 75,000 บาท แจกส่วนต่างให้ช้อปเพิ่มถึง 25,000 บาท

หากยังไม่ได้เป็นสมาชิกก็รับสถานะสมาชิกบัตร SCARLET ได้ด้วย และช้อปได้ทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ผ่านอีก 2 ช่องทางใหม่ คือ 1. KING POWER CHAT TO SHOP เพียงแอด LINE เพิ่มเพื่อน @KP_ChatToShop 2.KING POWER CALL TO SHOP โทร. 02-338-7870   

ชวนกันมาช้อปได้แล้ววันนี้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา และภูเก็ต หรือช้อปผ่าน 2 ช่องทางการช้อปใหม่ได้แล้วที่ King Power Call to Shop) และ Chat to Shop โปรโมชั่นดี ๆ มีให้เลือกช้อปถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook King Power Official

ข่าวที่ 2 สมาชิกคิงเพาเวอร์แลกกะรัตอิ่มฟิน“ไทยเทสต์ฮับกับรามายณะ”

 

สมาชิกบัตร “คิง เพาเวอร์” ชวนมาสนุกกับ “ช้อปฟิน อิ่มคุ้ม พิเศษ! เฉพาะสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับสิทธิ์ระหว่างวันนี้ – 31 ตุลาคม 2564 สามารถใช้คะแนนเพียงใช้ 90 กะรัต รับทันที 110 บาท แล้วนำไปแลกแทนเงินสดเลือกรับประทานอาหารแสนอร่อย ได้ทั้งในกรุงเทพฯ และ ภูเก็ต

จุดแรก “ร้านสตรีทฟู้ดดัง ไทย เทสต์ ฮับ รางน้ำ เอ็กซ์เพรส : Thai Taste Hub Rangnam & Express” ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ (กรุงเทพฯ) ชั้น 3  เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00น. - 19.00 น.สามารถแลกคะแนนกะรัตเพื่อรับสิทธิ์ Top-up ได้ด้วย ตรงเคาน์เตอร์แคชเชียร์

จุดที่สอง “คิง เพาเวอร์ ภูเก็ต” ที่ ห้องคอฟฟี่ช็อป ภัตตาคารรามายณะ ภูเก็ต  เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 - 19.00 น. สมาชิกนำคะแนนกะรัตรับส่วนลดทันที 40% เมื่อสั่งอาหารจานเดี่ยวหรือเมนู A La Carte  รสชาติเยี่ยมที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย

ดูรายละเอียดเพิ่มเพื่อแลกกะรัตคิง เพาเวอร์ รางน้ำ  https://bit.ly/3AUwB0l และคิง เพาเวอร์ ภูเก็ต https://bit.ly/3CV4gYs

พิเศษ !! ฟรีพร้อมส่วนลด เมื่อทดลองเป็น “สมาชิก คิง เพาเวอร์” ระหว่างวันนี้ – 30 พ.ย. 2564 สมัครฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายจ่ายใด ๆ แถมใช้สิทธิ์รับส่วนลดทันที 5% เมื่อซื้อสินค้าดิวตี้ฟรี หรือสินค้าป้ายฟ้าผ่าน 2 ช่องทางใหม่ 1.KING POWER Call To Shop และ 2.KING POWER Chat To Shop ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/2CbBN73

 

ข่าวที่ 3 LCFCปล่อยคอลเลคชั่น“TYPEFACE COLLECTION”เราเลสเตอร์

 

สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ มอบความสุขให้แฟนพันธุ์แท้ ด้วยการนำแบรนด์ “LCFC” คอลเลคชั่นล่าสุดโดยเสนออีกด้านด้วยแฟชั่นการนำ “Motto” ประจำทีมเลสเตอร์ ซิตี้ This Is Leicester, Foxes, Lestah, Fearless ที่แฟนบอลจิ้งจอกเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษและทั่วโลก รู้จักเป็นอย่างดี ถ่ายทอดผ่านคอลเลคชั่น ที่อิงเรื่องความเป็นตัวตนของเลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกลิ่นอายของการดีไซน์ย้อนสู่ยุคเรโทรผสมสมัยใหม่อย่างลงตัว เรียบง่ายแต่ดูดี ส่วมใส่ได้ทุกวัน พร้อมตะโกนว่า “เราคือเลสเตอร์ ซิตี้”

สำหรับ TYPEFACE COLLECTION มาแรงแห่งปีมีให้เลือกช้อปได้ถึง 3 ผลิตภัณฑ์

1.เสื้อ T-Shirt 4 ดีไซน์  -ผลิตจากผ้า Cotton 100% เนื้อผ้านุ่มใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับทุกกิจกรรม ใส่ไปเดินเท่ๆ ด้วยแบบที่ไม่ซ้ำใคร ราคาตัวละ 400 บาท

2.หมวกบักเก็ต 2 ดีไซน์  -ผลิตจากเวสปอยท์ cotton 100% คุณภาพดี ไอเทมที่มาพร้อมความเท่ และมีสไตล์ สามารถมิกซ์แอนด์แมทซ์ได้ง่ายกับทุกไลฟ์สไตล์ ราคาใบละ 500 บาท

3.กระเป๋า Tote Bag 2 ดีไซน์ -ผลิตจากผ้าเวสปอยท์ Cotton 100% คุณภาพดี กระเป๋าโท้ทใบใหญ่ น้ำหนักเบา บรรจุของได้เยอะ โดดเด่นด้วยลายพิมพ์ของเลสเตอร์ ซิตี้ ใช้ได้ง่ายในทุกวัน แต่งลุคไหนก็เอาอยู่ ราคาใบละ 1,000 บาท

แฟนตัวจริงของ “LCFC” พบกับ “LCFC TYPE FACE COLLECTION" ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา หรือช้อปปิ้งผ่านช่องทาง Online ได้ที่ Instagram: @leicestershop_th

Facebook: leicestershop_th  Line Official: @leicestershop_th หรือคลิก https://rb.gy/s2tgcy

แฟนจิ้งจอกห้ามพลาด โปรแรง สุดคุ้ม! แบรนด์ LCFC ลดราคาสินค้าทุกชิ้นสูงสุด 30 %   เพียงใช้ Promotion code: X8NF30  พิเศษอีกต่อเมื่อซื้อสินค้าแบรนด์ LCFC, Longlai, มหานคร, มหานคร สกายวอร์ค ครบ 5,000 บาท (หลังหักส่วนลด) รับฟรี! กระเป๋า 1 ใบ  ตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2564   สามารถซื้อสินค้าได้ที่ : คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา   หรือผ่านช่องทาง Online ได้ที่ >>> https://rb.gy/s2tgcy  

 

ข่าวที่ 4 “ททท.-แอร์เอเชีย”บินเชียงใหม่ปลุกทัวร์ไฮซีซัน/เปิดประเทศ120วัน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ให้นโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จับมือไทยแอร์เอเชีย ทำโครงการเที่ยวบินพิเศษเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้น “การท่องเที่ยวภายในประเทศ ต้อนรับฤดูท่องเที่ยวไตรมาส 4 ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม 2564 และเตรียมเปิดประเทศ 120 วัน ตามนโยบายรัฐบาลที่จะให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้โดยไม่กักตัว

การเลือกพื้นที่ ชียงใหม่ – ลำพูน ขณะนี้กำลังทำโครงการ “Charming Chaingmai” ต้อนรับการเปิดประเทศ 120 วัน  ให้ต่างประเทศเข้ามาเที่ยวเชียงใหม่ได้โดยไม่กักตัวนำร่อง 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป เช่นเดียวกับอีก 4 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ (อ.หัวหิน 2 ตำบล หัวหินกับหนองแก) เพชรบุรี (อ.ชะอำ) ชลบุรี (3 พื้นที่ เมืองพัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) และกรุงเทพฯ ทุกเขต

นายพิพัฒน์กล่าวว่าการลงพื้นที่ เชียงใหม่-ลำพูน ก็เพื่อจะได้ซักซ้อมบริการของสายการบินและหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งรณรงค์ให้ใช้มาตรฐานตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA และ SHA Plus ครอบคลุมทั้งเรื่อง มาตรฐานสาธารณสุขของสายการบิน การรักษาความปลอดภัยและสุขอนามัยของโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สปา แหล่งท่องเที่ยว ระบบขนส่งสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว

ทางด้าน ททท. รายงานว่า มีผลวิจัยสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยว พบข้อมูลดังนี้ 1.นักท่องเที่ยวไทยกว่า 43.7 % โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ วางแผนเริ่มออกเดินทางอีกครั้งปลายปี 2564 มี 3 กลุ่มคู่รัก กลุ่มเพื่อน และกลุ่มครอบครัว ต้องการพักผ่อน และหลีกหนีจากสถานการณ์ปัจจุบัน 2.ต้องการเปลี่ยนที่พัก (Staycation) หรือ 3.แสวงหาที่พักซึ่งสามารถทำงานได้โดยสะดวก (Workation) ซึ่งขณะนี้ได้รณรงค์ให้เอกชนทำแพกเกจรองรับตลาดดังกล่าว

ส่วนเป้าหมายปี 2564 ททท. จะสร้างรายได้ท่องเที่ยวรวมให้ได้ 850,000 ล้านบาท จากตลาดต่างประเทศ 300,000 ล้านบาท และในประเทศ 550,000 ล้านบาท  สามารถพึ่งพาเม็ดเงินที่จะสะพัดอีกครั้งปลายปีนี้จาก 2 โครงการ คือ 1.เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และ 2.ทัวร์เที่ยวไทย

 

ข่าวที่ 5 ททท.กอดคอเชียงใหม่บูม3เทศกาลปลายปีเปิดมิติใหม่รับ3เทรนด์

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และเเปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ร่วมสนับสนุนจังหวัดเชียงใหม่เปิดฤดูท่องเที่ยว “Open Chiang Mai to The Next Pages” เริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป เตรียมพร้อมต้อนรับทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ด้วยการชูจุดแข็งการท่องเที่ยวครบวงจรทั้งเรื่อง เอกลักษณ์วัฒนธรรม ภูมิปัญญา และแหล่งท่องเที่ยว

ททท. จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการและชาวเชียงใหม่ เปิดฤดูท่องเที่ยวเดินหน้ากลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่มและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (High-Value and Sustainable Tourism) เร่งฟื้นฟูรายได้ท่องเที่ยวกลับมาให้ได้มากที่สุด เนื่องจากปี 2562 เชียงใหม่เคยมีรายได้จากท่องเที่ยว 109,057 ล้านบาท ติดอันดับ 5 ของประเทศ จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 10.82 ล้านคน ประกอบด้วย คนไทย 7.44 ล้านคน และต่างชาติ 3.37 ล้านคน

นายสุนทร ยามศิริ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ วางแผนจับมือกับภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายชุมชน จะร่วมกันดึงดูดนักท่องเที่ยวและรายได้ เน้นจัดงานประเพณีที่มีคุณค่าและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเชียงใหม่รับนักท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal ได้แก่

1.ประเพณียี่เป็งเดือนพฤศจิกายน 2564 นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสดแสงไฟจากผางประทีป

2.งานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับจะได้ชมความงดงามของไม้ดอกที่บานสะพรั่งช่วงสัปดาห์แรก

3.งานประเพณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่” อัตลักษณ์แห่งล้านนา จัดทุกปีช่วงปีใหม่

นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้กระจายวัคซีนฉีดให้ประชาชนพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางการท่องเที่ยว กับใช้โมเดล “พื้นที่สีฟ้า”  หรือ Model Blue Zone เป็นมาตรการควบคุมดูแลพื้นที่ด้านปลอดภัยและสุขอนามัย รวมไปถึงพื้นที่เศรษฐกิจของเชียงใหม่ ตามถนนคนเดินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว อาทิ ถนนราชดำเนิน ถนนวัวลาย ย่านไนท์ บาซาร์ ถนนนิมมานเหมินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง   เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางมาเชียงใหม่ อีกครั้ง

ขณะนี้เชียงใหม่กำลังเป็นจุดหมายปลายทางมีจุดขายมิติใหม่ ๆ รองรับเทรนด์มาแรง 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้รักหลงรักกาแฟ Café Hopping 2.กลุ่มเที่ยวได้ทำงานด้วย  Workation 3.กลุ่มทำงานได้ทุกที่ด้วยดิจิทัลหรือ Digital Nomad ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ชุมชน ศิลปะ ดนตรี หรือสถานที่ทำกิจกรรมทางกีฬา แบบครบวงจร

 

ข่าวที่ 6 TCEBแจกดีลดี10.10ดึงองค์กรรับ2ต่อไมซ์สร้างสรรค์10เส้นทาง

 

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” โดย Thai Mice Connect เตรียมต้อนรับมหกรรม วันที่ 10 เดือน 10 (10 ตุลาคม 2564) จัดดีล 10.10 ให้องค์กรที่กำลังวางแผนจัดกิจกรรมไมซ์ โดยรวม 10 เส้นทางไมซ์สร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าให้ผู้จองซื้อได้รับสิทธิประโยชน์แรง ๆ จาก ดีลดีถึง 2 ต่อ คือ

ดีลที่ 1 รับส่วนลด 1,000 บาท ทุกเส้นทาง จำนวน 50 สิทธิ์ เพียงคลิก “ขอใบเสนอราคา” ผ่านทางhttps://bit.ly/3uGHKQc

ดีลที่ 2 สามารถขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากทีเส็บ 15,000 บาท หรือ 30,000 บาท จากโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า”

ทาง Thai MICE Connect เตรียมดีลดี ๆ มามอบให้องค์กรที่กำลังวางแผนจัดกิจกรรม จัดประชุม สัมมนา ทำทีมบิลดิ้งนอกสถานที่ (Outing Team Building) หรือทำ CSR สามารเลือกกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการจาก 10 เส้นทางใหม่ไมซ์สร้างสรรค์ ซึ่งมีทั้งมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ทีมผู้ชำนาญการการบริหารเส้นทางและกิจกรรมมืออาชีพ

         ขั้นตอนรับสิทธิ์ง่าย ๆ  1. ลงทะเบียนเป็นสมาชิก Thai MICE Connect ง่าย ๆ ผ่านไลน์ เฟซบุ๊ก หรือเบอร์โทรศัพท์ ให้คุณมั่นใจไม่พลาดทุกดีล >> https://bit.ly/3B5Go43  2. ดูไฮไลท์ 10 เส้นทางสร้างสรรค์กันก่อน ได้ที่ >> https://bit.ly/2Y81TTa  3. คลิกขอใบเสนอราคาในวันที่ 10 เดือน 10 ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น.

สำหรับ 10 เส้นทางไมซ์สร้างสรรค์ของทีเส็บ ได้แก่

1.เชียงใหม่ : CSR สามัคคี หลากวิถีล้านนา (คว้ารางวัล Best of The Best ) 2.บางน้ำผึ้ง : CSR เกาะสีเขียวแบบโลว์คาร์บอน 3.พัทยา : Outing อนุรักษ์ทะเล ส่งเสริมชุมชน 4.พิษณุโลก : Slow Life อิ่มใจ เมืองสองแคว 5.ขอนแก่น : Field Trip ต้องมนต์เสน่ห์เส้นทางไหม

 

6.อุดรธานี-หนองคาย : Meeting ซิ่ง แซ่บ ม่วน 7.เขาใหญ่ : ประชุมกลางป่า สัมมนาสัมผัสโอโซน 8.พะงัน : Team Building เกาะสวรรค์ เติมพลังจากพระจันทร์ 9.ภูเก็ต : สัมมนาโอลด์ทาวน์ ชมวิถีชาวเพอรานากัน และ 10.สงขลา-ปัตตานี: เสน่ห์สามวิถี สัมมนาหลากวัฒนธรรม

ช่วงที่ 2 ธรรมชาติส่งเสียงเรียกนักท่องเที่ยวออกเดินทาง “ขึ้นเหนือ” สัมผัสมิติใหม่ 4 ดอยสูง จ.น่าน ถ้ำ น้ำตกสวย ทีลอซู จ.ตาก เที่ยวเกาะทะเลอ่าวไทย จ.ตราด ลงใต้ไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา และเที่ยวเทศกาล ออกพรรษา ตักบาตรเทโว กินเจ สารทกล้วยไข่ เมืองไทยอะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิมทุกภาค พบกับ “วิธีทำความสะอาดมือถือกับเคสให้ปลอดภัยจากโควิด” จากนั้นขาเที่ยวทั้งหลายที่กำลังมองหาจุดเช็คอินใหม่ “วีว่า ฟอเรสต้า ฟาร์ม” อ.บ้านใหม่ จ.จันทบุรี แจกโปรชวนเที่ยวเมืองสัตว์น่ารัก ดอกไม้สวยตระการตา และ “ไออาต้า” เพิ่ม 6 แอร์ไลน์โลก แห่ใช้แอพ IATA TRAVEL PASS ตรวจข้อมูลโควิดผู้โดยสารทุกเที่ยวบิน

 

ท่องเที่ยว -เที่ยวทั่วไทยขึ้นเหนือดูดาวล่องใต้ไปทะเลชมเทศกาลบุญต.ค.นี้

เสียงเรียกร้องของธรรมชาติช่วงปลายฝนต้นหนาวรับเดือน “ตุลาคม” กำลังยั่วอารมณ์ผู้คนที่หลงรักการเดินทาง เตรียมแพ็คกระเป๋าเลือกพื้นที่พักผ่อนที่ชอบและที่ใช่สำรวจ “ความสวยของธรรมชาติ” ช่วงรอยต่อฤดูกาลอำลาสายฝนต้อนรับลมหนาวปลายปี

เมื่ออากาศเริ่มมีความเย็นเข้ามาปกคลุม จึงไม่ร้อนมากและไม่หนาวเกินไป เหมาะกับการ ขึ้นเขาไปดื่มด่ำ ทะเลหมอก ตามดอยและภูต่าง ๆ  หรือจะไปดำดิ่งใต้ทะเล “ดูปะการัง” และเที่ยวเทศกาล งานประเพณีแห่งปี ขึ้นเหนือ อีสาน ล่องใต้  กระจายตัวสำรวจภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก เริ่มเที่ยวได้หลายจังหวัดแล้ว

ไฮไลต์ปักหมุดใน “ภาคเหนือ” ชวนไปกอดธรรมชาติสัมผัสทะเลหมอกท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่ “จังหวัดน่าน” บนยอด 3 ดอยสูง  “ดอยเสมอดาว-ดอยแม่จอก-ดอยภูคา-แม่จริม” 

หรือจะเลือกข้ามฟากไปทางฝั่ง “จังหวัดตาก” สนุกกับผจญภัยเชิงนิเวศน์ มุดถ้ำหินย้อยสวยที่สุด สัมผัสสายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำ ถ้ำแม่อุสุ-น้ำตกพาเจริญ-ทีลอซู-เขาพระบาท-เขื่อนภูมิพล 

หันพวงมาลัยมุ่งหน้าสู่ “อีสาน” ปักหมุดหมายปลายทาง “จังหวัดเลย” ย้อนภาพจำความงดงามแห่งขุนเขาและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ ภูเรือ เชียงคาน ด่านซ้าย เป็นวิถีชีวิตเรียบง่าย สงบเงียบ เติมเต็มอนูความสุขซึมเข้าสู่กระแสเลือดนักเดินทาง

ส่วน “เที่ยวทะเล” ฝั่งตะวันออกน่านน้ำอ่าวไทยลมฝนพัดผ่านไปแล้วเกาะต่าง ๆ ส่งเสียงขานรับชวนผู้คนไปพักผ่อน ที่จังหวัดตราด มีหลายเกาะด้วยกันโอโซนบริสุทธิ์มาก ไม่ว่าจะเป็น เกาะกูด เกาะกระดาด เกาะหมาก เกาะช้าง เกาะขาม และอีกหลายเกาะ และต้องห้ามพลาดเที่ยว “ทะเลภาคใต้อันดามัน” จังหวัดพังงา แนะนำไปสักครั้งที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน  

การท่องเที่ยวเดือนตุลาคมของทุกปี เมืองไทยมีเทศกาลเที่ยวทางบุญที่ต้องห้ามพลาด “งานออกพรรษา” กล่าวขานถึงมากที่สุดคือ “บั้งไฟพญานาค” จ.หนองคาย ผู้คนมักจะไปรอชมลูกไฟพุ่งทะยานขึ้นจาก ลำน้ำโขงสู่ฟากฟ้า “ประเพณีตักบาตรเทโว วัดสังกัสรัตนคีรี” จ.อุทัยธานี ผู้คนรอคอยชมพระสงฆ์หลายร้อยรูปเดินลงมาจากยอดเขา “สะแกกรัง” เพื่อรับบิณฑบาตข้าวสาร อาหารแห้ง เป็นหนึ่งเดียวในโลกก็ว่าได้

รวมทั้ง “เทศกาลกินเจ” ที่มีชื่อเสียงคือ “กินเจภูเก็ต” และหลายจังหวัดในภาคใต้นิยมจัดต่อเนื่องกัน 9-10 วัน “เทศกาลสารทไทย กล้วยไข่” จ.กำแพงเพชร  ตอนนี้หลายจังหวัดทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่แล้ว

ท่องเที่ยวเมืองไทย นับจากวันนี้เป็นต้นไป “อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” เที่ยวได้ทุกวัน

สุขภาพ-อ่านด่วน!!วิธีทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ-เคสลดเสี่ยงโควิด-19

สำนักงานส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ สสส. และ รพ.เวชธานี แนะนำ วิธีทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่คนเราส่วนใหญ่ใช้งานเป็นประจำ จนนับเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายกันไปแล้ว การที่เราใช้มือสัมผัสแทบจะตลอดเวลา ทำให้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากมาย เพราะแบบนี้ทางทีเส็บเลยได้รวบรวมข้อมูลการแนะนำวิธีทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ ว่าใช้จะอย่างไรให้ลดเสี่ยงโควิด-19 มาบอกกัน

 

📱 วิธีทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ และซองหรือCaseใส่มือถือ พร้อมทั้งรอให้ทั้งสองอย่างแห้งสนิทก่อนจึงประกอบเข้าด้วยกัน ส่วนการทำความสะอาดมีดังนี้

1. ใช้น้ำผสมสบู่เหลว -ล้างน้ำเปล่าฟอกสบู่ (ใช้ได้กับโทรศัพท์บางรุ่น) แล้วเช็ดให้แห้ง ด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ (ใช้ได้กับโทรศัพท์ทุกรุ่น)

 

2. ใช้แอลกอฮอล์ - ใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ ฉีดลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์แบบหมาด ๆ แล้วนำผ้าเช็ดมือถือขึ้นลงอย่างเบามือ และหลีกเลี่ยงบริเวณช่องเสียบต่าง ๆ

📱 วิธีการใช้โทรศัพท์มือถือให้ลดความเสี่ยง

1. ทำความสะอาดเป็นประจำ: ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 70% ควรทำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง

2. ใช้หูฟังให้เป็นประโยชน์: ใช้หูฟังเมื่อต้องการใช้เพื่อโทรออกหรือรับสาย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โทรศัพท์มือถือสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง

3. ใช้คำสั่งเสียง: ใช้งานคำสั่งเสียงแทนการพิมพ์บนหน้าจอ เช่น การสั่งให้โทรออกไปยังหมายเลขที่ต้องการ สั่งให้เปิดเพลง สั่งให้เปิดแอปพลิเคชัน ฯลฯ

4. หลีกเลี่ยงการให้ผู้อื่นใช้งานอุปกรณ์: งดแชร์หรือแบ่งปันสมาร์ทโฟนรวมถึงอุปกรณ์ของเราให้กับบุคคลอื่นโดยไม่จำเป็น

❌ ข้อควรระวังอื่น ๆ  ❌1.ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกหรือน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ 2.ไม่แนะนำให้ใช้กระดาษทิชชูแบบแข็ง เพราะเสี่ยงเกิดรอยขีดข่วน 3.เลี่ยงการเก็บโทรศัพท์มือถือและผ้าเช็ดหน้าไว้ในกระเป๋าเดียวกัน 4.ไม่นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปใช้ในห้องน้ำ 5.หลีกเลี่ยงบริเวณช่องเสียบต่าง ๆ เวลาทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “วีว่าฯฟาร์ม”จันทบุรีแจกโปรทัวร์เมืองสัตว์น่ารัก/ดอกไม้สวย

 

วีว่า ฟอเรสต้า ฟาร์ม (Viva Foresta Farm) รายงานว่า ขณะนี้เปิดบริการแล้ว ที่อำเภอท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยมีโปรโมชั่นพิเศษ ให้นักท่องเที่ยวซื้อบัตรเที่ยวฟาร์ม 4 ใบ รับฟรี​นำกลับบ้านได้เลยคือต้นไม้ฟอกอากาศ​ “มอนสเตอร่า เดลิซิโอซ่า :Monstera Deliciosa” ขนาเล็ก​ 1​ ต้น​ ​ แจกฟรีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหรือจนกว่าต้นไม้จะหมด

ฟาร์มเปิดให้ท่องเที่ยวได้ทุกวัน 9.00-18.00 น.คิดค่าบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็กความสูงต่ำกว่า 110 cm เข้าฟรี นักท่องเที่ยวสามารถนำบัตรแลกส่วนลดเครื่องดื่มเย็นที่ร้าน Viva FarmSalad & Cafe ได้ด้วย  โทร.สอบถามได้ที่ 091-007-7770

 

“วีว่า ฟอเรสต้า ฟาร์ม” จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวศูนย์รวมสัตว์น่ารักแห่งแรกและแห่งเดียวในจันทบุรี เป็นจุดเช็คอินสุดคูลกับสัญลักษณ์ “กังหันยักษ์” ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก สามารถเข้าไปถ่ายภาพด้านบนกังหันให้เห็นภาพมุมสูงโดยรอบฟาร์มได้ ส่วนจุดชมสัตว์น่ารักภายในฟาร์ม ประกอบด้วย

1.โซนแกะสีขาวจำนวนมาก เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปป้อนอาหารฝูงแกะได้อย่างใกล้ชิดและเป็นมิตร

2.โซนนกซันคอนัวร์ นกสวยงามแสนเชื่องvp^jในกรงขนาดใหญ่ สามารถเข้าไปในกรงเพื่อเล่นกับเหล่านกซันคอนัวร์ และ นกแก้วมาคอว์บลูโกลด์

3.ฟาร์มไก่ไข่อารมณ์ดี เลี้ยงไก่แบบปล่อยอิสระ เปิดให้เด็ก ๆ กับครอบครัวเดินเก็บไข่ในเล้าได้ด้วยตัวเอง และทางฟาร์มขายไข่ไก่อารมณ์ดีให้นำกลับไปทำอาหารที่บ้านด้วย

 

4.โซนสัตว์น่ารักหลากหลายชนิดหาชมยากก็มี  “เต่ายักษ์ซูคาต้า” เมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่า “ม้า-ลา แคระ แพะแคระปิ๊กมี่/แพะแองโกร่า  “หมูแคระ” พ็อตเบลลี่เวียดนาม และเมียร์แคท รวมทั้ง “เม่นแคระ”  “กระต่าย” เนเธอร์แลนด์ดวอฟ เป็นพันธุ์หูตกมีขนาดเล็กที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของโลก “กระต่ายยักษ์” สายพันธุ์เฟลมมิชไจแอนท์มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก   “กวาง” หลายสายพันธุ์

5.โซนสัตว์ปีกน่ารักพันธุ์หาชมยาก เช่น เฟอเรทนกยูงอินเดียขาว ไก่ซิลกี้อเมริกา ไก่ขนฟูแสนน่ารัก เป็ดอินเดียนรันเนอร์ เป็ดวู๊ดดัก ห่าน หงส์ขาว หงส์ดำ บ่อปลาคราฟ นกอีมู นกกระจอกเทศ

6.แปลงดอกไม้สวยงามหลากสายพันธุ์เปลี่ยนตามฤดูกาล

7.รูปปั้นจำลองหัวโมอายยักษ์ (Moai) แห่งเกาะอีสเตอร์ ประเทศชิลี รูปปั้นครอบครัวแกะหน้าดำขนาดใหญ่ และ สระน้ำขนาดใหญ่ปล่อยฝูงหงส์และเป็ดสายพันธ์ต่าง ๆ ว่ายน้ำกันอย่างอิสระเป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถชมได้ใกล้ชิดทุกโซน

ข่าวที่สอง “ไออาต้าเพิ่ม6แอร์ไลน์โลกหันใช้IATA TRAVEL PASSตรวจโควิด”

นายวิลลี่ วอลช์ ผู้อำนวยการ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA :International Aviation Transport Association) เปิดเผยว่า ล่าสุดการประชุมสามัญประจำปี IATA ครั้งที่ 77 มีสายการบินนานาชาติ ได้ประกาศจะใช้ “IATA Travel Pass” เป็นแอพลิเคชั่นมาตรฐานสากลในการตรวจข้อมูลผู้โดยสารด้านโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 6 สายการบิน  ได้แก่ เอทิฮัด  กาตาร์แอร์เวย์ส รอยัลจอร์แดนเนียน แควนตัส เจ็ตสตาร์ และจาซีร่าแอร์เวย์   โดยจะเชื่อมโยงเข้ากับเอมิเรตส์ในฐานะสายการบินผู้บุกเบิกการใช้งาน IATA Travel Pass ดังกล่าว ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้ใช้แพลตฟอร์มนี้แล้วถึง 76 สายการบิน ทยอยทดสอบระบบการใช้งานต่อเนื่องมาถึง 11 เดือน

สำหรับ “IATA Travel Pass” เป็นแอพมือถือที่สามารถรับและตรวจสอบผลการทดสอบ COVID-19 พร้อมใบรับรองวัคซีนดิจิทัล ปัจจุบันสามารถจัดการใบรับรองวัคซีนโดยการใช้แอพลิเคชั่นนี้จาก 52 ประเทศ คิดเป็น 56% ของการเดินทางทางอากาศทั่วโลก ตั้งเป้าหมายภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 จะเพิ่มขึ้นเป็น 74 ประเทศ คิดเป็น 85% ของปริมาณการใช้ข้อมูลทั่วโลก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทาง และร่วมมือกันสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินภาพรวมกลับสู่ปกติโดยเร็วที่สุดต่อไป

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.