เปิด“ดอนเมือง ซิตี้ บ็อกซ์”จัดทัพสนามบินเปิดประเทศ1พ.ย.64 ปลุก3แอร์ไลน์ใช้ดอนเมืองปั๊มเที่ยวด้วยกัน“ต.ค.-ธ.ค.”คึกคักเกิน2หมื่นคน
ผ่าแผนใหม่“ดอนเมือง ซิตี้ บ็อกซ์”จัดทัพสนามบินเปิดประเทศ1พ.ย.64
ปลุก3แอร์ไลน์ใช้ดอนเมืองปั๊มเที่ยวด้วยกัน“ต.ค.-ธ.ค.”คึกคักเกิน2หมื่นคน
ช้อปเลย!!ที่คิงเพาเวอร์2โปรแรงต.ค.“บิวตี้วันเดอร์-สปอร์ตแฟชั่นลด25%”
บัตรคิงเพาเวอร์แลกกะรัตนวดสปาดังLet’sRelaxที่มหานครคิวบ์ถึง31ธ.ค.
ททท.ปลื้มยอดใช้เราเที่ยวด้วยกัน2สิทธิ์จองเกลี้ยงธ.ค.นี้ทุบสถิติ5จังหวัด
ททท.ลุ้นตั้งบริษัทสกุลเงินTAT COINดันการลงทุนอุตทัวร์รับเทรนด์ดิจิทัล
“TCEB”นำเอกชนโชว์แผนระยะสั้นหลังโควิดชี้ทางรอดหาดใหญ่ไมซ์ซิตี้
“เขาบ่อเตย”ท่าใหม่ จันทบุรีจุดเที่ยวชมวิวUnseen New Series
เชื่อเถอะ!! 7 ความขี้เกียจของคนเราเป็นอันตรายขั้นรุนแรงต่อสุขภาพ
“4รีสอร์ตเครือสันธิญา”ปลื้มยอดจองพักเราเที่ยวด้วยกันต.ค.นี้แน่นเอี้ยด
เที่ยวเทศกาลโคมไฟแสนดวง”ลำพูนชูขายวัฒนธรรมวันนี้-19พ.ย.64
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT”
วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2564 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์”
เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0
และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#PhuketSandbox #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้
ช่วงที่
1 ผ่าแผนดอนเมือง
กับ “ร.ต.ธานี ช่วงชู” ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT”
โชว์ศักยภาพปฏิบัติการเปิดประตูประเทศเคลื่อนทัพ “ดอนเมือง
ซิตี้ บ็อกซ์” รับตารางบินฤดูหนาว เริ่ม 29 ต.ค.64 ขาใหญ่
3 แอร์ไลน์
“ไทยแอร์เอเชีย-นกแอร์-ไทยไลออนแอร์” นำเครื่องกลับลานบิน เดินหน้าหนุนเต็มเหนี่ยว
“เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3” ยันนาทีทองช่วง 3 เดือน
“ต.ค.-ธ.ค.” นี้ผู้โดยสารดอนเมืองฉลุย 20,000 คน คู่ขนานเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอินเตอร์
นำ 4 มาตรการเข้ม
สะดวก ปลอดภัย เที่ยวสุขใจทั้งชาวไทยและต่างชาติ
เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมช่วงตารางบินฤดูหนาวตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2564 -26 มีนาคม 2565 สอดคล้องกับแผนเปิดประเทศตามนโยบายนายกรัฐมนตรีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป โดยนำภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มาเป็นต้นแบบเพื่อทำ “ดอนเมือง ซิตี้ บ็อกซ์ : Donmaung City Box” ด้วย 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย
ขณะนี้มีสายการบินหลัก ๆ ที่ให้บริการประจำอยู่สนามบินดอนเมือง 3 สายการบิน คือ 1.ไทย แอร์เอเชีย 2.นกแอร์ 3.ไลออนแอร์ ได้นำฝูงบินมาเตรียมไว้ที่ดอนเมืองจำนวนมาก เพื่อให้บริการผู้โดยสารช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ซึ่งจะกลับมาได้ประมาณ 20 % ของสถานการณ์บินปกติปี 2562 มีเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 500 เที่ยว จำนวนผู้โดยสารอีก 60,000 คน
ดังนั้นทางดอนเมืองได้ประมาณการณ์ปริมาณผู้โดยสารช่วง 3 เดือนแห่งโอกาสทองของประเทศ ระหว่างพฤศจิกายน 2564 - มกราคม 2565 รวมกัน 15,000-20,000 คน
ส่วนการจัดกิจกรรมของสนามบินดอนเมือง ในฐานะ “สนามบินเก่าแก่ที่สุดในโลกอายุกว่า 100 ปี” ที่ยังเปิดให้บริการ วันที่ 28 ตุลาคม 2564 เตรียมจัดนิทรรศการ กระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านเข้าออกทางสนามบินดอนเมือง จะได้รับความสะดวกสบาย มั่นใจ ปลอดภัยจากโควิด-19
ผอ.ธานี กล่าวว่า แผนงานบริหารจัดการ “รถบริการสาธารณะสนามบินดอนเมือง” ทางนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสั่งการด้านนโยบายมาเรียบร้อยแล้ว หลังจากได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามบินดอนเมืองเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 โดยขอให้ รถแท็กซี่มิเตอร์ รถตู้ รถบัสปรับอากาศ ชัตเติลบัสของ ขสมก.รถทุกประเภทในดอนเมืองจะต้อง ปฏิบัติถูกสุขอนามัย ตามมาตรฐานขั้นสูงสุดตามเกณฑ์กระทรวงสาธารณสุข คือ
1.คนขับรถทุกชนิดต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
รวมทั้งได้รับการบู๊สวัคซีนเข็ม 3 แล้วเช่นกัน
และยังวางแผนตรวจหาเชื้อด้วยอุปกรณ์ ATK ทุก 7 วัน เสริมเข้าไป เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการทุกคน
2.รถทุกประเภทจะต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เช็ดถูด้วยแอลกอฮอล์ทั้งก่อน-หลัง
บริการ
3.ภายในรถโดยสาร
รถแท็กซี่จะต้องมีผนังกั้นตรงคนขับแยกจากผู้โดยสารชัดเจน
รถตู้-จะจำกัดจำนวนผู้โดยสารห้ามเกินเที่ยวละ 4 คน
ยกเว้นรัฐบาลเปิดประเทศอาจจะเพิ่มได้เป็นเที่ยวละ 5-6 คน ซึ่งรอคำสั่งทางกระทรวงคมนาคมหรือรัฐบาลใหม่อีกครั้ง
4.จุดจอดรถสาธารณะดอนเมือง ได้ปรับเปลี่ยนเน้นความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
เสริมเพิ่มเติมรถปรับอากาศ ลีมูซีน ชัตเติลบัส
เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่เข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ หรือออกจากกรุงเทพฯ
ไปเที่ยวต่างจังหวัด มีความสุข และความมั่นใจ ตลอดการเดินทาง
สำหรับแนวทางปฏิบัติของ “ดอนเมือง ซิตี้ บ็อกซ์” จะประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 ผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยผ่านเทอร์โมสแกน
ขั้นตอนที่ 2 ต้องมีหลักฐานแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนครบตามสาธารณสุขกำหนด
และผ่านการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR หรือ ATK :Antigen
Test Kit โหลดแอพลิเคชั่น “ไทยชนะ”
ขั้นตอนที่ 3 การเชื่อมต่อข้อมูลของ ตม.หรือศุลกากร
จังหวัดต้นทางและปลายทางการเดินทางของผู้โดยสารว่ามีรูปแบบปฏิบัติการตรวจเช่นเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 4 คัดกรองเพื่อขึ้นรถสาธารณะของจังหวัดนั้น ๆ
เมื่อผู้โดยสารพ้นจากสนามบินออกไปแล้วขึ้นรถสู่จุดหมายปลายทางที่พักโรงแรม
สถานที่ท่องเที่ยวจุดหมายปลาย ระหว่างทางจะต้องไม่จอดแวะ
จนกว่าจะได้ผลการตรวจของสนามบินว่าไม่พบเชื้อ
ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นอีก 6 ด้าน คือ 1.สุขอนามัย สาธารณสุข 3.บุคลากร 4.สถานที่ 5.อุปกรณ์และระบบเทคโนโลยี 6.หน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ศุลกากร 6.ด้านอื่น ๆ ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) สั่งการลงมา
ทางดอนเมืองได้เตรียมพร้อมสนับสนุนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ด้วยระบบการคัดกรองอย่างเข้มงวด ได้มาตรฐาน เรื่องการเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ ออกไปต่างจังหวัด ที่จะสามารถสร้างความมั่นใจเมื่อใช้สนามบินดอนเมืองผ่านเข้าออกก็จะปลอดภัยจากการแพร่เชื้อโควิด-19
โดยจะใช้หลักปฏิบัติเดียวกันทั้งผู้โดยสาร “ภายในประเทศ” เข้าออกกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดทั่วประเทศ และ “ต่างประเทศ” เข้าออกไทย ตามประกาศของรัฐบาลที่จะเดินหน้าส่งเสริมการเดินทาง 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 ช่วง 1-30 พฤศจิกายน 2564 จะประเมินสถานการณ์ไว้หลวม ๆ ก่อนเพราะเพิ่งเริ่มผู้โดยสารจำนวนอาจจะยังไม่มากนัก ระยะที่ 2 ช่วง 1-31 ธันวาคม 2564 เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวจริงส่งท้ายปี ระยะที่ 3 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ ตรุษจีน
ได้วางแผนเฝ้าระวังเที่ยวบินในประเทศที่นำผู้โดยสารเข้าออกทางสนามบินดอนเมืองมากเป็นพิเศษ ช่วง 3 เดือน เมื่อมีทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และฤดูท่องเที่ยว ตัวอย่าง ภาคใต้ ช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน มีเทศกาลถือศีลกินผัก และการท่องเที่ยวทางทะเล ที่ผู้คนนิยมไป ภูเก็ต กระบี่ พังงา
ผอ.ธานี
กล่าวว่า
ต้องการจะฝากถึงผู้โดยสารให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เคยแจ้งเตือนผู้ใช้บริการสนามบินดอนเมืองต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มข้น
เพื่อเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด ควรปฏิบัติอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขในจังหวัดจุดหมายปลายทางกำหนด
จะได้เดินทางด้วยความสบายใจปลอดโรค ปลอดภัย สะดวกใจ เดินทางท่องเที่ยว
หรือนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศใช้ดอนเมืองเข้ามาเที่ยวกรุงเทพฯ
เองก็จะได้มีความสุขด้วยเช่นกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 ช้อปเลย!!ที่คิงเพาเวอร์2โปรแรงต.ค.“บิวตี้วันเดอร์สวยตลอด-สปอร์ตแฟชั่นลด25%”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดต่อเนื่องเอาใจคนรักความสวยความงาม สุขภาพ
และแฟชั่น ระหว่างวันนี้ – 31 ตุลาคม
2564 ด้วย 2 โปรโมชั่น
ดังนี้
โปรโมชั่นแรก BEAUTY WONDER PRICES พร้อมเสิร์ฟความสวยให้คุณได้ช้อปแบบคุ้มค่าคุ้มราคา กับน้ำหอม สกินแคร์
และเครื่องสำอางจากทุกแบรนด์ดังในราคาสุดคุ้ม* ขยายเวลาให้ช้อปเพิ่ม!
เช็กรายละเอียดก่อนช้อป คลิก https://bit.ly/3kgC5vr
ช้อปได้ทุกที่ แม้ไม่มีไฟลต์บิน
พร้อมผู้ช่วยช้อปส่วนตัวให้คุณช้อปได้ง่าย ๆ กับ 2
ช่องทางให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น. 1.King Power Chat to Shop (คิง
เพาเวอร์ แชททูช้อป) เพียง Add LINE@ : @KP_ChatToShop แล้วกด
Add Friend หรือคลิก https://lin.ee/JwNzqUu 2.King Power Call to Shop (คิง
เพาเวอร์ คอลทูช้อป) เพียงโทร. 02-338-7870 หรือ
inbox (อินบอกซ์) มาที่ Facebook King Power
โปรโมชั่นสอง SPORT & FASHION
DELIGHTS ลดสูงสุด 25% โดดเด่นเกินใคร
มั่นใจได้ทุกลุค กับเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่คุณแมทช์ได้อย่างมีสไตล์ ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็พร้อมเสมอลดสูงสุด
25% เมื่อช้อปครบ 3000 บาท ใส่ รหัสส่วนลด
KPBD21 ช้อปเลยที่
– https://bit.ly/3iVlBZU
ข่าวที่ 2 บัตรคิงเพาเวอร์แลกกะรัตนวดสปาดังLet’sRelaxที่มหานครคิวบ์ถึง31ธ.ค.
สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษเพียงแสดงสถานะสมาชิก หรือแลกกะรัตเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษจากหลากหลายร้านค้าชื่อดัง ไฮไลต์บริการนวดสปาแบรนด์ดัง Let’s Relax Spa และ F45 Training Silom
สมาชิกสามารถรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้ที่
อาคารมหานคร คิวบ์ คิง เพาเวอร์ มหานคร วันนี้-31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง รายละเอียดสิทธิประโยชน์:
https://member.kingpower.com/Privileges และแลกกะรัต: https://member.kingpower.com/CaratRewards
ข่าวที่ 3 ททท.ปลื้มยอดใช้เราเที่ยวด้วยกัน2สิทธิ์จองเกลี้ยงธ.ค.นี้ทุบสถิติ5จังหวัด
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กระแสตอบรับของนักท่องเที่ยวในประเทศจองโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3” จะได้รับการจองห้องพักจะเต็ม 2 ล้านคืนพัก (สิทธิ์) ภายในเดือนธันวาคม 2564 จากค่าเฉลี่ยขณะนี้โรงแรมรับจองได้สูงถึงวันละ 50,000 คืนพัก (สิทธิ์) โดยเฉพาะช่วงวันหยุดต่อเนื่อง 7 วัน ระหว่าง 20-26 ตุลาคม 2564 นักท่องเที่ยวจองโรงแรมพร้อมจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว 63,819 คืน (สิทธิ์) กระจายตามพื้นที่ท่องเที่ยว 22 จังหวัดหลัก 49,007 คืน
พื้นที่ท่องเที่ยวติดอันดับการใช้สิทธิโครงการ
“เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3” ทำสถิติยอดจองใช้สิทธิ์มากที่สุดรวมทั้งการสร้างรายได้
5 อันดับแรก
ได้แก่
1.ชลบุรี ส่วนแบ่งตลาด 21 % ยอดจอง
10,482 สิทธิ์ สร้างรายได้ 210.47 ล้านบาท
2.ประจวบคีรีขันธ์ 14% ยอดจอง 7,068 สิทธิ์ สร้างรายได้
190.84 ล้านบาท
3.เพชรบุรี 9% ยอดจอง
4,414 สิทธิ์ สร้างรายได้ 96.87 ล้านบาท
4.ภูเก็ต 8% ยอดจอง 3,953 สิทธิ์ สร้างรายได้ 135.71
ล้านบาท
5.กรุงเทพฯ 8 % ยอดจอง 3,770 สิทธิ์ สร้างรายได้ 136.45 ล้านบาท
รวมทั้งนักท่องเที่ยวได้กระจายใช้จ่ายเงินผ่านอี-โวเชอร์จากรัฐบาลช่วยสมทบจ่ายให้อีก 40% วงเงิน 600 บาท/วัน/สิทธิ เพื่อใช้เป็นค่าอาหาร เครื่องดื่ม ซื้อสินค้าโอท็อป ค่าบัตรเข้าแหล่งท่องเที่ยว รวม 24.51 ล้านบาท
สำหรับผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ
“เราเที่ยวด้วยกัน” สะสมรวมเฟส 1-3 มีทั้งหมด 8,857,175 คน แบ่งเป็น 1.ผู้ประกอบการ 6,781
ราย ได้แก่ โรงแรม/ที่พัก 4,810 ราย ร้านอาหาร 1,776
ราย สถานที่/บริการท่องเที่ยว 75 ราย โอท็อป 30 ราย สุขภาพความงาม 18 ราย
รถเรือเช่า 72 ราย 2.นักท่องเที่ยว 688,697 ราย
(ข้อมูล ณ วันที่ 19 ตุลาคม
2564)
ข่าวที่ 4 ททท.ลุ้นตั้งบริษัทสกุลเงินTAT COINดันการลงทุนอุตทัวร์รับเทรนด์ดิจิทัล
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แผนตลาดท่องเที่ยวปี 2565 เตรียมปรับเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่จะนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยวของประเทศ 4 D Digital Industry /Invest /Innovation /Tourism โดยเฉพาะไฮไลต์เรื่อง “ดิจิทัลอินเวสต์” ให้น้ำหนักความสำคัญกับการประยุกต์ใช้ด้านการลงทุนพลิกโฉมสู่ยุคดิจิทัลภาคธุรกิจอย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เต็มรูปแบบ
ขณะนี้ ททท.เตรียมศึกษาการตั้งบริษัทลูกดำเนินการเรื่องเงินสกุลดิจิทัล TAT COINs ตามสัดส่วน ททท.ถือหุ้น 40% เชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมถือหุ้น 40% สมาคมด้านการท่องเที่ยว 20% เพื่อพัฒนาผ่าน โทเคน/TOKEN ออกเป็นคริปโต/CRYPTO Currency ซึ่งเป็นวิธีอำนวยความสะดวกโอนโวเชอร์เข้าระบบ TAT Coin เพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในอุตสาหกรรมได้
ผู้ว่าฯ
ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้หารือกับทางหน่วยงานหลัก 2 แห่ง คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) แล้วเมื่อกรกฎาคม 2564
เบื้องต้นทาง กลต.ไม่ขัดข้อง เกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ คือ
1.ททท.ออกเหรียญสกุลเงินดิจิทัล “Utility Token พร้อมใช้”
ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนแปลงคูปองโวเชอร์เป็นโทเคน
2.หารือกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ขณะนี้มีหลายแห่งแสดงความสนใจ เช่น บริษัท บิทคัพ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub)
3.เสนอขาย “Utility Token พร้อมใช้” ในตลาดแลกต่อลูกค้า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวล่วงหน้าได้ ขณะนี้ทางแบงก์ชาติยังไม่ได้อนุญาตให้ใช้เงินในระบบ Crypto Currency ดังกล่าวและจะไม่สามารถทำไปเทรดได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านผู้ประกอบธุรกิจประเภท “นายหน้าและผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล” ได้ ปัจจุบันในไทยมีผู้ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล 6 ราย และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล 1 ราย
ดังนั้นการเตรียมนำ
TAT COIN เข้ามาใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว น่าจะเป็นประโยชน์ เพราะในอนาคตจะรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทั่วโลกซึ่งก้าวเข้าสู่สังคมการใช้เงินระบบดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
ข่าวที่ 5 “TCEB”นำเอกชนโชว์แผนระยะสั้นหลังโควิดชี้ทางรอดหาดใหญ่ไมซ์ซิตี้
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาและนวัตกรรม
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และนายพัฒนชัย สิงหะวาระ
ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ เปิดเสวนาออนไลน์ ที่หาดใหญ่
1ในเมืองไมซ์
ซิตี้ หัวข้อ “งานแสดงสินค้าต้องทำอะไรก่อน” กับแผนระยะสั้นสามารถรอดได้อย่างไร โดยมีมุมคิดที่น่าสนใจจาก ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองศิริราชสมบัติครบ
60 ปี : ICC HAT YAI /ICCH
และบริษัทออร์กาไนเซอร์รับจัดงานไมซ์ดังนี้
นางดารณี ทองประชุม ผู้อำนวยการศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี : ICC HAT YAI /ICC
H เปิดเผยในหัวข้อ
- เจ้าของสถานที่จัดงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ Physical ปรับกลยุทธ์รับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไร ว่า
การรอดด้วยแผนระยะสั้นเพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ทุกคนต้อง
ปรับตัว ปรับแผน มีกำลังใจ ลุกขึ้นมาสู้กับทุกอย่าง เช่นเดียวกับ ศูนย์ประชุม ICCH รับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยปรับแผนกลยุทธ์เมื่อไม่สามารถจัดงานแสดงสินค้าหรืออีเวนต์ได้ก็เปลี่ยนแนวหันไปทำ
1.ปรับรองรับโควิด-19 ทำเป็นโรงพยาบาลสนามรองรับเตียงได้จำนวนมากก็ปรับฟังก์ชั่นการใช้งาน
2.อาคารแสดงสินค้าปรับเป็นสถานที่ฉีดวัคซีน
โรงแรมเป็น ASQ, Hospitel 3.ทำCommunity
Isolation
ICCH ได้เดินหน้าเข้าสู่ 3 แผน 1.การเตรียมพื้นที่
จัดทำห้องอาบนำโดยใช้พื้นที่ฟู้ดคอร์ทดัดแปลง เช่น ห้องครัว ที่มีระบบน้ำไหลเวียนดี
ส่วนฮอลล์ศูนย์ประชุม บริเวณพรมต้องปูวัสดุทับทั้งหมด 2.แผนปฏิบัติงานระหว่างการเป็นโรงพยาบาล
ต้องนำวัสดุปูทับเพื่อฉีดวัคซีนออกแล้วกลับมาปูพรมเหมือนเดิมเพื่อทำเป็นศูนย์แสดงสินค้า
ซึ่งมีหลายแห่งก็ปรับแบบเดียวกัน 3.แผนฟื้นฟู/แผนการสร้างความมั่นใจ
สิ่งแรกต้องนำไปออกไปคือขยะเชื้อโรค ทัศนียภาพรอบศูนย์ประชุม โดยเฉพาะต้นไม้ต่าง ๆ
การสื่อสารผลิต VDO กลับมาบริการเหมือนเดิม
ส่วนแผนดึงตลาดหรือลูกค้ากลับมาจะต้องทำวิเคราะห์ก่อน
ช่วงแรก อาจจะยังไม่กลับมาเป็น face to face แต่อาจทำไฮบริด ดูแลทุกกลุ่ม อีเวนต์ ประชุม
โดยปรับเซลแพกเกจให้เหมาะสม ตอนนี้ทาง ICCH พร้อมช่วยผู้ประกอบการเพื่อเขียนโครงการของบสนับสนุนจาก
TCEB ได้
กระทั่งล่าสุด เรื่อง “แผนความมั่นใจ” ทาง ICCH พร้อมให้บริการกลับมาได้แล้วนั่นเอง
“สุพิชชา เอกอุรุ” ประธานจัดกิจกรรมโครงการผู้ประกอบการใหม่
กล่าวว่า “ทางรอดของธุรกิจจัดแสดงสินค้า” ในฐานะออร์กาไนเซอร์
มีภารกิจต้องช่วยผู้ประกอบการพัฒนา ขายสินค้า ขายของได้ โดยจะต้อง 1.รู้เป้าหมาย 2.ความคาดหวังและการดำเนินงาน มี 3 กลุ่ม คือ
1.หน่วยงาน
ต้องการ อย่างแรก เกิดมูลค่าสินค้าทางเศรษฐกิจ ต้องหาพันธมิตร partnership/outsorce
มาช่วย เช่น
หากลุ่มที่มีพลตฟอร์มหรือดาต้าเบสเพื่อต่อยอด อย่างที่ 2 ผู้ประกอบการได้ประโยชน์และพึงพอใจ
ออร์กาไนเซอร์ต้องรู้ถึงความพร้อมของผู้จัดงาน สินค้าต้องว้าวตรึงตราตรึงใจ
หรืองานวิชาการต้องเชิญคนที่ดึงดูดพอสมควร
แล้วทำความเข้าใจระหว่างผู้จัดกับผู้ต้องการขายสินค้า
โดยจะต้องทำไฮบริดการสื่อสารซึ่งกันและกันเพื่อความชัดเจนและความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
เพื่อทำให้เกิดอิมแพคแรง และทำการ Marketing Solution มากยิ่งขึ้นทั้งออนออฟไลน์ และ อย่างที่ 3 มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก
2.ผู้ประกอบการ
3.ลูกค้า
ต้องดึงกลุ่มคุณภาพเข้ามาซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการ
รวมทั้ง
ทำประชาสัมพันธ์งาน โปรโมชั่นราคาพิเศษ ดาราศิลปิน/กิจกรรม Adminและตอบคำถาม วิวิการสั่งซื้อการข่ายเงิน
และจัดส่งสินค้า
จึงขอแนะนำภาคธุรกิจเร่งปรับตัวให้พร้อมด้วย 6
กลยุทธ์ 8 แนวทางรอด ประกอบด้วย
6
กลยุทธ์ ได้แก่ 1.เป้าหมาย
ความคาดหวังของงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.กำหนดธีมงานให้สอดคล้องกับแต่ละอีเวนต์ 3.เตรียมความพร้อมผู้ร่วมแสดงสินค้า 4.หาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามาร่วมงาน
(partners outsorce) 5.ประชาสัมพันธ์สื่อเป้าหมาย
เป็นลูกค้าหลักที่สอดคล้องกับแต่ละงาน 6.ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดและรับรู้ข่าวสาร
ธุรกิจจัดงานแสดงสินค้า
สามารถรอดแน่ระยะสั้นกับ 8 วิธี ได้แก่
1.มีจิตรบริการและเข้าใจถึงความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
2.พัฒนาตนเอง
(หาเพื่อน/หาตัวช่วย)
3.ความพร้อมของผู้ออกงาน/คุณภาพสินค้า
4.ใช้เทคโนโลยี 5.การเข้าถึงกลุ่มผู้ร่วมงาน 6.จัดงานขนาดเล็กหรือมีกิจกรรมที่ยืดหยุ่น 7.ปฏิบัติตามมาตรการและรู้ข่าวสาร 8.เลือก Venue Physical meeting/Exhibition
ท้ายที่สุดได้ฝากถึงผู้ประกอบการบริษัทออร์กาไนเซอร์
ที่ได้รับโจทย์ต่าง ๆ เพื่อรับจัดการแสดงสินค้าที่อยากเข้าร่วมงานยังคงต้องการ
“ประสบการณ์พบปะกัน” บน onsite จึงต้องหาพันธมิตรสนับสนุนการจัดงาน
แล้วงานจะประสบความสำเร็จไปในทิศทางเดียวกัน ก่อเกิดผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมายในอนาคต
หลังรัฐบาลปลดล็อกมาตรการต่าง ๆ สามารถทยอยจัดไมซ์ได้ถึงครั้งละ 500 คนแล้ว
ช่วงที่
2 ปักหมุดก่อนใครไปตามแหล่งท่องเที่ยวใหม่
Unseen New Series “จุดชมวิวเขาบ่อเตย” อำเภอท่าใหม่
จังหวัดจันทบุรี ปรากฏการณ์ธรรมชาติในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน
ลองไปแล้วจะได้เห็นความมหัศจรรย์แปลกตา แล้วใครที่พก “7ขี้เกียจ” ไว้ให้รีบแก้ไขด่วน เพื่อปลดล็อกโรคร้ายออกจากสุขภาพ
ส่วนข่าวซีฟส่งท้ายสัปดาห์ “4รีสอร์ตเครือสันธญา”คนแห่ใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน”
ใช้บริการพักหรู พะงัน เกาะช้าง กันแน่นเอี้ยด และ “เทศกาลโคมไฟแสนดวง ลำพูน”
มาแรงรับปลดล็อกเปิดเมือง เที่ยวได้ถึง 19 พ.ย.นี้
พาเที่ยว -“เขาบ่อเตย”ท่าใหม่ จันทบุรีจุดเที่ยวชมวิวUnseen New Series
ทริปนี้มีสถานที่ท่องเที่ยว Unseen New Series มาชวนไปสัมผัสอีกมุมของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ
“เขาบ่อเตย” ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน
เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวมาเดินชม “เส้นทางศึกษาธรรมชาติ หินสีชมพู” ริมชายหาด ดูร่องรอยธรรมชาติเชิงอนุรักษ์
กึ่งผจญภัย ระยะทาง 500 เมตร แถมยังได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งถึงปรากฏการณ์โลกอันมหัศจรรย์
และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินสวยสุดอีกแห่งของเมืองไทย
ใช้เวลาเดินขึ้นไปยังยอดเขาบ่อเตยราว 1 ชั่วโมง มีวิธีเดินได้ 2 แบบ เดินไป-กลับตามเส้นทางเดิม หรือ เดินทางทางเดียวไม่ย้อนกลับทางเดิม ก็ได้เช่นกัน บริการเปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 16.30 น.
ตามแนวโขดหินติดชายหาดตามเส้นทางนี้ นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็น
“หินสีชมพู” ได้ชื่อว่าเป็นหินทรายประเภท
“หินทรายอาร์โคส -Arkose” มีลักษณะเด่นคือสี
ชมพูตัดกับสีเขียวของใบไม้บนเกาะและสีฟ้าครามของทะเล สวยงามอยู่ปลายสุดเขาเจ้าหลาว สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้
360 องศา
เมื่อปีนขึ้นไปจนถึง “จุดชมวิวเขาบ่อเตย” ระหว่างทางเดินเท้านั้นสภาพโดยรอบบริเวณจะเป็นที่โล่งอยู่ด้านทิศตะวันตกของเขา
หากไปเที่ยวช่วงกุมภาพันธ์-เดือนพฤษภาคม ของทุกปี จะได้เห็นเถาวัลย์สีเหลืองทอง
การขับรถไปยังแหล่งท่องเที่ยว “เขาบ่อยเตย” ใช้ “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต” ลัดเลาะภูเขาเลียบทะเล ผ่านหาดเจ้าหลาว แล้วขับขึ้นเขาไป สักพักจะเจอกับป้ายบอกทางเข้าสู่ “เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน” จากนั้นก็เลี้ยวตามป้ายเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร จะมีซุ้มประตูขายบัตรผ่านเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้นักท่องเที่ยวจอดรถไว้บริเวณลานจอด เพื่อเตรียมตัวเดินขึ้นเขากับไกด์ หรือเดินไปกับเพื่อนนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ก็ได้
ตลอดเส้นทาง ทั้งท้องฟ้า ผืนน้ำ เกาะแก่ง และต้นไม้สีเขียวระหว่างทาง เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติสรรค์สร้างความสุข พร้อมจะนำมาฟื้นฟูจิตใจนักท่องเที่ยวทุกคน หลังโควิดจางหาย ชีวิตวิถีใหม่ก็จะผ่อนคลายเที่ยวเมืองไทย อย่างปลอดภัย สบายใจได้ทุกที่ ทุกเวลา
พิกัด : https://goo.gl/maps/owB9ASSNFkXVzShF6
สุขภาพ -เชื่อเถอะ!! 7 ความขี้เกียจเป็นอันตรายขั้นรุนแรงต่อสุขภาพ
“ความขี้เกียจ”
ไม่ใช่เรื่องไม่ดี แถมยังแฝงไว้ด้วยสุดอันตรายต่อสุขภาพโดยตรงถึง 7 เรื่องด้วยกัน คือ
1.ขี้เกียจออกกำลังกาย หากขี้เกียจออกกำลังกาย ร่างกายก็จะไร้โล่ป้องกันโรค มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งได้มากกว่าคนอื่น ๆ ในคู่มือสุขภาพ Physical Activity Guidelines for Americans บอกเอาไว้ว่าการออกกำลังกายหรือการขยับร่างกายบ่อย ๆ จะทำให้เรานอนหลับได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โอกาสการเกิดของโรคสมองเสื่อมก็จะลดลง และโรคร้ายต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นได้ช้าลง
2. ขี้เกียจทำงานบ้าน หากไม่กวาดบ้านเลย ฝุ่นในบ้านก็จะกระตุ้นอาการภูมิแพ้ หรือกลายเป็นแหล่งสกปรกที่ทำให้เชื้อโรคต่างๆ สะสมมากยิ่งขึ้น เชื้อเหล่านี้กลายเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ได้มากขึ้น
3.ขี้เกียจกินผัก กินแต่เนื้อเพราะความอร่อย ระวัง !!จะเผชิญกับโรคอ้วน เสี่ยงเป็นมะเร็ง โรคหลอดเลือด ไขมันในเลือดสูง และโรคความดันโลหิต เพราะองค์การอนามัยโลกระบุเอาไว้ เพราะการกินผักจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็ง โรคหลอดเลือด และการตายก่อนวัยอันควรได้ และควรกินผักวันละ 400 กรัม
4. ขี้เกียจออกจากบ้าน นำมาสู่ “Introvert” หมายถึง คนที่มีความสุขกับการอยู่คนเดียว พวกเขาก็เลยชอบอยู่บ้านมากกว่า แต่ถ้าชอบเก็บตัวเงียบ อาทิตย์นึงออกจากบ้านไม่เกินสามวัน จะเสี่ยงเป็นโรคได้ง่ายกว่าคนทั่วไป เพราะการออกไปข้างนอกจะทำให้ฮอร์โมนความเครียดในร่างกายลดลง รักษาระดับความดัน หัวใจ ทำงานปกติ ได้
5. ขี้เกียจเดิน - ถ้ามีเวลามากพอก็เดินเล่น หรือเดินไปซื้อของบ้าง เพราะการเดินถือเป็นอีกวิธีเรื่องการออกกำลังกายที่ดี
6. ขี้เกียจตื่น รู้ไว้ด้วยว่า การนอนมากเกินไปถึงวันละ 10 ชั่วดมง ระวังจะทำให้เสี่ยงเป็นโรค มีผลศึกษาจาก National Health and Nutrition Examination Survey ยืนยันชัดว่าการนอนมากเกินไปจะเพิ่มโอกาสให้เกิดโรคหัวใจได้ง่ายขึ้น และนอนนานยังทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหลอดเลือด
7. ขี้เกียจเลิกบุหรี่ รอฟังร่างกายจะถามหา โรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง มะเร็งกล่องเสียง หรือมะเร็งหลอดอาหาร แน่ ๆ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “4รีสอร์ตเครือสันธิญา”ยอดจองเราเที่ยวด้วยกันต.ค.นี้แน่นเอี้ยด
นายกลชัย
(แดนนี่) สุโกมล รองกรรมการผู้จัดการ เครือสันธิญา รีสอร์ต แอนด์ สปา เปิดเผยว่า ได้รับอานิสงส์จาก “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
เฟส 3” จากตลาดคนไทย
กลุ่มใหญ่คือนักท่องเที่ยวมาเป็นครอบครัว จองห้องพักต่อเนื่องตั้งแต่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนเข้าจองตามสิทธิ์ที่รัฐบาลสนับสนุนเงินสมทบ ตั้งแต่
8 -26 ตุลาคม 2564 ใช้บริการจองห้องพักในเครือสันธิญา
4 โรงแรม คือ
แห่งแรก “สันธิญา รีสอร์ต แอนด์ สปา เกาะยาวใหญ่” อยู่ระหว่างภูเก็ตกับพังงา มียอดจองกว่า 1,000 คืน ด้วยราคาห้องพัก 1,500 - 2,500
บาท/ห้อง/คืน ขณะนี้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทำได้ถึง 40 % เป็นคนไทย 30 %) และจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 10 % ส่วนช่วงหยุดยาวห้องพักสไตล์พูลวิลล่า
มียอดจองใช้ระหว่าง 22-25 ตุลาคม
64 มากถึง 150
ห้อง จากทั้งหมด 227 ห้อง มีอยู่วันมีลูกค้าวันเดียวถึง 400 คน จากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กับ ปลายเดือน 29-30 ตุลาคม นี้ ยอดจองดีด้วยเช่นกัน
แห่งที่ 2 สันธิญา เกาะช้าง จ.ตราด มียอดจองประมาณ 700 คืน ราคาประมาณ 2,000 บาท/ห้อง/คืน แห่งที่ 3 “สันธิญา เกาะนาใต้ พูลสวีตมีสระ 2,600 บาท/ห้อง/คืน แห่งที่ 4 สันธิญา เกาะพะงันเข้าสู่ช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว ยอดจองเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ข่าวที่สอง “เที่ยวเทศกาลโคมไฟแสนดวง”ลำพูนชูขายวัฒนธรรมวันนี้-19พ.ย.64
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานลำปาง ชวนท่องเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม
ในเส้นทาง แอ่วเมืองหัตถศิลป์ วิถีถิ่นแห่งศรัทธา “ ชมงานเทศกาลโคมแสนดวง
จังหวัดลำพูน” สัมผัสวัฒนธรรม วิถีชีวิต สักการะวัดและโบราณสถานสำคัญ
ระหว่างวันนี้ – 19 พฤศจิกายน 2564
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความงดงามงานเทศกาลโคมไฟแสนดวงอันยิ่งใหญ่ตระการตา
2 สถานที่หลัก คือ
สถานที่แรก
“วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร” เดินทางไปถึงสามารถลงทะเบียนได้ที่หน้างาน
สถานที่ 2 บริเวณอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
ประชาชนสามารถจองคิวก่อนแขวนโคม ได้ที่ลิงค์เว็บไซท์ http://www.lmwcc.com/modules/rejisjam/prejisjam/)
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกัน COVID19 ของกระทรวงสาธารณสุข
ผู้เข้าชมงานจะต้องจองคิวแขวนโคมล่วงหน้า
เพื่อเว้นระยะห่างลดความแออัด ทางผู้จัดกำหนดให้ชมได้รอบละ 50 คน ครั้งละ 20 นาที
ทุกวันตั้งแต่ 09.00 – 22.00 น. ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย D-M-H-T-T-A
เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น