บางจากเปิดแห่งแรกในไทยศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน
4พันธมิตรร่วมดันเกาะหมากโมเดลคาร์บอนต่ำ-บลูอีโคโนมี
บางจากจับมือ "คณะประมง ม.เกษตร-อพท.-อบต."เปิดศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู่โลกร้อนแห่งแรกที่เกาะหมาก
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน #บางจาก
บางจากฯ
ร่วม 4 พันธมิตรเปิด “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน” แห่งแรกของไทย ที่ “หมู่เกาะหมาก” ต่อยอดโมเดลการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หนุนเศรษฐกิจสีน้ำเงินอย่างยั่งยืน
อพท.ตั้งเป้าปี70 สร้างโมเดลแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนสร้างความสุข
บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิด
“ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง (ศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน) หมู่เกาะหมาก
จังหวัดตราด” ร่วมกับ 4 พันธมิตร คือ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.)
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก และวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด
(กลุ่มอนุรักษ์ปะการัง) ถือเป็นเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรเพื่อชุมชนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศ
หลังจากมีบันทึกข้อตกลง
“การพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะหมาก เมื่อปี 2565
ตั้งเป้าสู่เป้าหมายเส้นทางคาร์บอนต่ำ
หรือ “Low Carbon Destination” ปีนี้จึงขยายผลการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลควบคู่กับการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ
ยกระดับศักยภาพชุมชนปรับตัวรับภาวะโลกร้อน และส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue
Economy) อย่างยั่งยืน
@บางจากเปิดแห่งแรกในไทย “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเล”เกาะหมาก
“นางกลอยตา ณ ถลาง”
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้ผนึกองค์ความรู้ทางวิชาการเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น
ผลักดันการวิจัยและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลเกิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง
หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน หมู่เกาะหมาก” เพื่ออนุรักษ์ได้อย่างยั่งยืนพร้อมขยายผลได้ในระยะยาว
ตามข้อตกลงความร่วมมือของพันธมิตรทุกภาคส่วนร่วมทำให้เกาะหมาก Low
Carbon Destination ต่อเนื่อง นับจากปี 2565 ได้การรับรองให้เป็นหนึ่งใน 100 เมืองท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
(Top 100 Green Destinations)
โครงการ Low
Carbon Destination ของบางจากฯ ผู้นำธุรกิจพลังงานปี 2593
มุ่งสู่เป้าหมายNet Zero และสร้างระบบนิเวศ Net
Zero Ecosystem ให้เกื้อหนุนกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ
มีความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างอย่างยั่งยืนคู่กับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยมีภารกิจสร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับ
ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ม.ก.)
เมื่อปี
2565 บางจากได้ลงนามบันทึกข้อตกลง
“การพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะหมาก สู่เป้าหมาย Low Carbon
Destination” กับคณะประมง ม.ก. และพันธมิตร ศึกษาความเป็นไปได้การกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์แหล่งหญ้าทะเล และสำรวจแนวพื้นที่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่
ๆ สู่การพัฒนาแนวทางการทำงานที่เน้นรักษาสมดุลธรรมชาติ เป็นที่มาของการจัดตั้ง
“ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง หมู่เกาะหมาก”
หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อนโดยภาคเอกชนและพันธมิตรเพื่อชุมชนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศ ดำเนินการถูกต้องตามหลักวิชาการ
เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านหญ้าทะเลในฐานะแหล่ง Blue Carbon ที่มีศักยภาพในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์
เปรียบเสมือนการปลูกป่าในทะเล ได้รับความอนุเคราะห์จากทีมงานคณะประมง ม.ก. ทำหน้าที่พี่เลี้ยงให้กับเครือข่ายในท้องถิ่น ช่วยให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศหญ้าทะเลในพื้นที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
รวมทั้งการใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์
เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและสะท้อนแนวทางการพัฒนาพื้นที่สู่ Low
Carbon Destination อย่างเป็นรูปธรรม ทางบางจากฯ กับคณะประมง ม.ก. และพันธมิตรจะยังคงร่วมกันติดตาม
สนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่เครือข่ายในพื้นที่ตามความเหมาะสมต่อไป
@อบต.ร่วมภาคีติดแหล่งเที่ยวยั่งยืนTop100ของโลก
“นายนล สุวัจจนานนท์” นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะหมาก กล่าวว่า Koh Mak Low Carbon คือ จุดเริ่มต้น แล้ว อพท. ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ส่งเกาะหมากเข้าประกวดรางวัลระดับโลก ได้รับเลือกเป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (Top 100 Destination Sustainability Stories 2022) หัวข้อ “The Journey to Become the First Low Carbon Destination in Thailand” จากองค์กร Green Destination เนเธอร์แลนด์ และอันดับ 2 การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในปี 2568 จนได้ชื่อว่า Green Destination จึงต้องพัฒนาต่อเนื่องยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกบนหมู่เกาะหมากสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าอย่างหลากหลาย ควบคู่รักษาแนวทางการท่องเที่ยอันเป็นเอกลักษณ์ และยกระดับมูลค่าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวแบบมีคุณภาพมากขึ้น เพิ่มประสบการณ์ความยั่งยืน
@อพท.ดันเกาะหมากปี70ขึ้นแหล่งเที่ยวยั่งยืนสร้างความสุข
“นายศิริปกรณ์
เชี่ยวสมุทร”
ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(องค์การมหาชน) “อพท.” กล่าวว่า “อพท.เข้าร่วมขับเคลื่อนเกาะหมาก
สู่ต้นแบบ Low Carbon Destination แห่งแรกของไทยด้วยนำหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก
(Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) มาใช้เป็นแนวทางพัฒนาบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
ร่วมบันทึกลงนามความร่วมมือภายใต้ปฏิญญาเกาะหมากจากทั้งภาครััฐ เอกชน และชุมชน เมื่อปี
2555 พัฒนาลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบครบวงจร ปี
2561 ระดมความคิดเห็นผ่านเวทีประชาคมชาวเกาะหมาก
ผู้ประกอบการ และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อหาแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขแล้วได้จัดทำเป็น
“ธรรมนูญเกาะหมาก” ขึ้นมา จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก
อพท.
มีเป้าหมายภายในปี 2570 จะพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบของไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนสร้างความสุข
กระจายรายได้สู่ชุมชน ด้วยการพัฒนาระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่พิเศษต่อเนื่อง
เพื่อสนับสนุนให้ไทยอยู่ในอันดับดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการเดินทางและการท่องเที่ยว
(Travel & Tourism Development Index: TTDI) ที่ดีขึ้น
โดยเฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติ และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างการจัดตั้ง
“ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลฯ หมู่เกาะหมาก”
@คณะประมงม.เกษตรทุ่มช่วยด้านวิชาการทุกรูปแบบ
“ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร. สุริยัน ธัญกิจจานุกิจ” คณบดีคณะประมง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ขอบคุณ บมจ.
บางจากฯ อบต. เกาะหมาก อพท. กลุ่มวิสาหกิจเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิดและกลุ่มอนุรักษ์ปะการังเกาะหมาก
ที่ช่วยสนับสนุนการนำงานวิจัยเกี่ยวกับหญ้าทะเลของคณะประมงจากหิ้ง
ลงมาสู่การแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง ที่ “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลฯ”
หมู่เกาะหมากทางด้านหญ้าทะเล จึงมีความยินดีที่ได้เห็นว่าผลงานการทีมศึกษาวิจัยของคณะประมงสามารถนำมาช่วยสนับสนุนด้านวิชาการให้ชุมชนเกาะหมากทำงานร่วมกันได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น
เป็นต้นแบบของแนวทางฟื้นฟูเพื่อรักษาระบบนิเวศเพื่อโลกของเรา
พื้นที่เกาะหมากแห่งนี้จะเป็นโรงเรือนอนุบาลหญ้าทะเลโดยชุมชนแห่งแรกของประเทศ
ที่ใช้ต้นกล้าจากการเพาะเมล็ดและเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
โดยรบกวนต้นพันธุ์ในธรรมชาติให้น้อยที่สุด ช่วยให้การทำงานอนุรักษ์และฟื้นฟูหญ้าทะเลในพื้นที่เป็นไปอย่างยั่งยืน
และยินดีกับทุกภาคส่วนจะทำงานร่วมกัน เพื่อติดตาม
ให้คำปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงกับชุมชนในทางวิชาการเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนของระบบนิเวศต่อไป
@วิสาหกิจฯอนุรักษ์ปะการังต่อยอดชุมชนคาร์บอนต่ำ
“นายนพดล สุทธิธนกูล”
ประธานกลุ่มวิสาหกิจเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด และประธานกลุ่มอนุรักษ์ปะการัง
เกาะหมาก กล่าวว่า ยินดี ประทับใจ ขอบคุณพันธมิตรทุกหน่วยงานที่สนับสนุน
ทั้งความรู้ งบประมาณ สถานที่ อีกทั้งยังติดตามเป็นพี่เลี้ยงปฏิบัติงาน จนทีมงานอนุรักษ์สามารถปฏิบัติงานในโรงเรือนได้สมบูรณ์ขึ้น
กลุ่มอนุรักษ์ปะการัง เกาะหมาก มีความตั้งใจจะเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของทีมงานให้สามารถดูแลทรัพยากรและสภาพแวดล้อมรอบบ้านของตนเองได้มากขึ้น
แหล่งหญ้าทะเลและแนวปะการังก็เป็นเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของคนในชุมชนในการดำรงชีพ
จะพัฒนาความร่วมมือเชื่อมโยงกับทุกภาคี ส่งต่อทรัพยากรให้กับลูกหลานในอนาคต
“ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน หมู่เกาะหมาก” เป็นทั้งจุดหมายของนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่กับการสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังเป็นต้นแบบแห่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อน “ชุมชนคาร์บอนต่ำ” สะท้อนแบรนด์บางจากจัดทำ “Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด” มุ่งร่วมฟื้นคืนคุณค่าแห่งธรรมชาติให้ชุมชนท้องถิ่นและโลกอย่างยั่งยืน



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น