วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568

บางจากเปิดแห่งแรกในไทยศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อนดันเกาะหมากโมเดลคาร์บอนต่ำ-บลูอีโคโนมี

บางจากเปิดแห่งแรกในไทยศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน

4พันธมิตรร่วมดันเกาะหมากโมเดลคาร์บอนต่ำ-บลูอีโคโนมี

บางจากจับมือ "คณะประมง ม.เกษตร-อพท.-อบต."เปิดศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู่โลกร้อนแห่งแรกที่เกาะหมาก

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน #บางจาก

บางจากฯ ร่วม 4 พันธมิตรเปิด “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน แห่งแรกของไทย ที่ “หมู่เกาะหมาก” ต่อยอดโมเดลการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ หนุนเศรษฐกิจสีน้ำเงินอย่างยั่งยืน อพท.ตั้งเป้าปี70 สร้างโมเดลแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนสร้างความสุข

 


บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิด “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง (ศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน) หมู่เกาะหมาก จังหวัดตราด” ร่วมกับ 4 พันธมิตร คือ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.) องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก และวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด (กลุ่มอนุรักษ์ปะการัง)  ถือเป็นเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรเพื่อชุมชนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศ หลังจากมีบันทึกข้อตกลง “การพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะหมาก เมื่อปี 2565 ตั้งเป้าสู่เป้าหมายเส้นทางคาร์บอนต่ำ หรือ “Low Carbon Destination” ปีนี้จึงขยายผลการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลควบคู่กับการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ยกระดับศักยภาพชุมชนปรับตัวรับภาวะโลกร้อน และส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) อย่างยั่งยืน


@บางจากเปิดแห่งแรกในไทย “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเล”เกาะหมาก

          

  

        “นางกลอยตา ณ ถลาง” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้ผนึกองค์ความรู้ทางวิชาการเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลักดันการวิจัยและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลเกิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน หมู่เกาะหมาก” เพื่ออนุรักษ์ได้อย่างยั่งยืนพร้อมขยายผลได้ในระยะยาว ตามข้อตกลงความร่วมมือของพันธมิตรทุกภาคส่วนร่วมทำให้เกาะหมาก Low Carbon Destination ต่อเนื่อง นับจากปี 2565 ได้การรับรองให้เป็นหนึ่งใน 100 เมืองท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก (Top 100 Green Destinations)  

 โครงการ Low Carbon Destination ของบางจากฯ ผู้นำธุรกิจพลังงานปี 2593  มุ่งสู่เป้าหมายNet Zero และสร้างระบบนิเวศ Net Zero Ecosystem ให้เกื้อหนุนกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างอย่างยั่งยืนคู่กับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยมีภารกิจสร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับ ดรธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  (ม..)

เมื่อปี 2565 บางจากได้ลงนามบันทึกข้อตกลง “การพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะหมาก สู่เป้าหมาย Low Carbon Destination” กับคณะประมง ม.และพันธมิตร ศึกษาความเป็นไปได้การกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์แหล่งหญ้าทะเล  และสำรวจแนวพื้นที่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ สู่การพัฒนาแนวทางการทำงานที่เน้นรักษาสมดุลธรรมชาติ เป็นที่มาของการจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง หมู่เกาะหมาก” หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อนโดยภาคเอกชนและพันธมิตรเพื่อชุมชนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศ  ดำเนินการถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านหญ้าทะเลในฐานะแหล่ง Blue Carbon ที่มีศักยภาพในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ เปรียบเสมือนการปลูกป่าในทะเล ได้รับความอนุเคราะห์จากทีมงานคณะประมง ม.ทำหน้าที่พี่เลี้ยงให้กับเครือข่ายในท้องถิ่น  ช่วยให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศหญ้าทะเลในพื้นที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

รวมทั้งการใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและสะท้อนแนวทางการพัฒนาพื้นที่สู่ Low Carbon Destination อย่างเป็นรูปธรรม ทางบางจากฯ กับคณะประมง ม.และพันธมิตรจะยังคงร่วมกันติดตาม สนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่เครือข่ายในพื้นที่ตามความเหมาะสมต่อไป


@อบต.ร่วมภาคีติดแหล่งเที่ยวยั่งยืนTop100ของโลก

“นายนล สุวัจจนานนท์” นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะหมาก กล่าวว่า Koh Mak Low Carbon คือ จุดเริ่มต้น แล้ว อพท. ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ส่งเกาะหมากเข้าประกวดรางวัลระดับโลก ได้รับเลือกเป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (Top 100 Destination Sustainability Stories 2022) หัวข้อ “The Journey to Become the First Low Carbon Destination in Thailand” จากองค์กร Green Destination เนเธอร์แลนด์  และอันดับ 2 การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในปี 2568  จนได้ชื่อว่า Green Destination จึงต้องพัฒนาต่อเนื่องยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกบนหมู่เกาะหมากสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าอย่างหลากหลาย ควบคู่รักษาแนวทางการท่องเที่ยอันเป็นเอกลักษณ์   และยกระดับมูลค่าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวแบบมีคุณภาพมากขึ้น เพิ่มประสบการณ์ความยั่งยืน


@อพท.ดันเกาะหมากปี70ขึ้นแหล่งเที่ยวยั่งยืนสร้างความสุข

“นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท.” กล่าวว่า “อพท.เข้าร่วมขับเคลื่อนเกาะหมาก สู่ต้นแบบ Low Carbon Destination แห่งแรกของไทยด้วยนำหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) มาใช้เป็นแนวทางพัฒนาบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ร่วมบันทึกลงนามความร่วมมือภายใต้ปฏิญญาเกาะหมากจากทั้งภาครััฐ เอกชน และชุมชน เมื่อปี 2555 พัฒนาลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบครบวงจร ปี 2561 ระดมความคิดเห็นผ่านเวทีประชาคมชาวเกาะหมาก ผู้ประกอบการ และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อหาแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขแล้วได้จัดทำเป็น “ธรรมนูญเกาะหมาก” ขึ้นมา จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก

อพท. มีเป้าหมายภายในปี 2570 จะพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบของไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนสร้างความสุข กระจายรายได้สู่ชุมชน ด้วยการพัฒนาระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่พิเศษต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ไทยอยู่ในอันดับดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการเดินทางและการท่องเที่ยว (Travel & Tourism Development Index: TTDI) ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติ และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างการจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลฯ หมู่เกาะหมาก”



@คณะประมงม.เกษตรทุ่มช่วยด้านวิชาการทุกรูปแบบ

“ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุริยัน ธัญกิจจานุกิจ” คณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ขอบคุณ บมจ. บางจากฯ อบตเกาะหมาก อพทกลุ่มวิสาหกิจเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิดและกลุ่มอนุรักษ์ปะการังเกาะหมาก ที่ช่วยสนับสนุนการนำงานวิจัยเกี่ยวกับหญ้าทะเลของคณะประมงจากหิ้ง ลงมาสู่การแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างแท้จริง ที่ “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลฯ” หมู่เกาะหมากทางด้านหญ้าทะเล จึงมีความยินดีที่ได้เห็นว่าผลงานการทีมศึกษาวิจัยของคณะประมงสามารถนำมาช่วยสนับสนุนด้านวิชาการให้ชุมชนเกาะหมากทำงานร่วมกันได้อย่างเข้มแข็งมากขึ้น เป็นต้นแบบของแนวทางฟื้นฟูเพื่อรักษาระบบนิเวศเพื่อโลกของเรา

พื้นที่เกาะหมากแห่งนี้จะเป็นโรงเรือนอนุบาลหญ้าทะเลโดยชุมชนแห่งแรกของประเทศ ที่ใช้ต้นกล้าจากการเพาะเมล็ดและเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยรบกวนต้นพันธุ์ในธรรมชาติให้น้อยที่สุด ช่วยให้การทำงานอนุรักษ์และฟื้นฟูหญ้าทะเลในพื้นที่เป็นไปอย่างยั่งยืน และยินดีกับทุกภาคส่วนจะทำงานร่วมกัน เพื่อติดตาม ให้คำปรึกษาเป็นพี่เลี้ยงกับชุมชนในทางวิชาการเพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนของระบบนิเวศต่อไป

 


@วิสาหกิจฯอนุรักษ์ปะการังต่อยอดชุมชนคาร์บอนต่ำ

            “นายนพดล สุทธิธนกูล” ประธานกลุ่มวิสาหกิจเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด และประธานกลุ่มอนุรักษ์ปะการัง เกาะหมาก กล่าวว่า ยินดี ประทับใจ ขอบคุณพันธมิตรทุกหน่วยงานที่สนับสนุน ทั้งความรู้ งบประมาณ สถานที่ อีกทั้งยังติดตามเป็นพี่เลี้ยงปฏิบัติงาน จนทีมงานอนุรักษ์สามารถปฏิบัติงานในโรงเรือนได้สมบูรณ์ขึ้น กลุ่มอนุรักษ์ปะการัง เกาะหมาก มีความตั้งใจจะเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของทีมงานให้สามารถดูแลทรัพยากรและสภาพแวดล้อมรอบบ้านของตนเองได้มากขึ้น แหล่งหญ้าทะเลและแนวปะการังก็เป็นเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของคนในชุมชนในการดำรงชีพ จะพัฒนาความร่วมมือเชื่อมโยงกับทุกภาคี ส่งต่อทรัพยากรให้กับลูกหลานในอนาคต

ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน หมู่เกาะหมาก” เป็นทั้งจุดหมายของนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่กับการสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังเป็นต้นแบบแห่งความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อน “ชุมชนคาร์บอนต่ำ” สะท้อนแบรนด์บางจากจัดทำ “Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด” มุ่งร่วมฟื้นคืนคุณค่าแห่งธรรมชาติให้ชุมชนท้องถิ่นและโลกอย่างยั่งยืน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.นำท่องเที่ยวไทยลุยเทรดโลกWTM2025โชว์สีสันลอยกระทงทำรายได้1,330ล้านบาท

ททท.นำธุรกิจไทยลุยเทรดโลก WTM2025 โชว์สีสันลอยกระทง เปิดคูหาไทยจับคู่เจรจา 1,500 นัดหมายหวังโกย 1,330 ล้านบาท ททท.นำเอกชนร่วมเทรดท่องเที่ย...