วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ททท.เปิดปีทอง68ตลาดระยะไกลเที่ยวไทยทำลายสถิติ10ล้านคน-WTM2025โกย1.3พันล้านบาท

 

จิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ททท.

ข่าวดี!!ททท.ปี68ปีตลาดระยะไกลเที่ยวไทยทำลายสถิติ10ล้านคน

นำธุรกิจไทยลุยเทรดWTM2025โกยเงินเข้าประเทศ1.3 พันล้าน

ปี’69ดึงแอร์ไลน์ทั่วโลกบินมาไทยปั๊มนักท่องเที่ยวรายได้โต 5%

ชูสินค้าบริการสุขภาพไฮเอนด์+เที่ยวยั่งยืน+ขยายเมืองน่าเที่ยว

“มูลนิธิวิชัยฯ-คิงเพาเวอร์”รวมพลัง“ให้โลหิต ให้ชีวิต” 5 แสนซีซี

“คิง เพาเวอร์”ไปต่อรอAOTนัดเจรจาดิวตี้ฟรี5สนามบิน3สัญญา

คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิแนะนำสินค้าใหม่“Energea Travel Kit”

ททท.ปรับใหม่4บิ๊กอีเวนต์“Vijit-2ลอยกระทง-กรุงเทพมาราธอน”

บางจากเปิดแห่งแรกในไทย “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเล”เกาะหมาก

เที่ยวพัทยา-ชลบุรีสุขทันทีใน4พิกัด “ลอยกระทง-พลุนานาชาติ”

8วิธีทำเพื่อลดอาการ “ปวดปลายประสาท”ของคนในยุคดิจิทัล

TCEB นำ 7 องค์กรใช้อุตฯไมซ์ปลุกเศรษฐกิจ“Quick Big Win”

เวียตเจ็ตเวียดนามมาแรงMOUสั่งซื้อแอร์บัสA321neo100 ลำ

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก  #ลอยกระทง #พัทยา

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1BR42y6QmE/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิด “ปีทองตลาดท่องเที่ยวระยะไกล” ปี’68 ทำลายสถิติใหม่พุ่ง 10 ล้านคน “สหราชอาณาจักร” ทะลุ 1 ล้านคน ลุยนำธุรกิจไทยร่วม “WTM 20254-6 พ.ย.2568 กรุงลอนดอน โชว์พลังขายเชิงสร้างสรรค์ในธีม Healing is the New Luxury” เจาะกลุ่มคุณภาพสูง ตั้งเป้าโกยกว่า 1,300 ล้านบาท ควงเอกชนทำโร้ดโชว์สแกนดิเนเวีย ขานรับ “แอร์ไลน์ส” ยุโรป อเมริกา แห่บินตรงเข้าไทย ปี’69 ตั้งเป้าจำนวนรายได้โตเพิ่ม 5% รุกหนัก 3 กลยุทธ์ “Airlines Focus+ขายแพกเกจนอกฤดู มิ.ย.-ส.ค.+ท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างรับผิดชอบ” ตอบโจทย์ตลาด UK และยุโรป พร้อมใช้เงินเที่ยวไทยกว่า 65,000 บาท/คน/ทริป

 

นางจิระวดี คุณทรัพย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดระยะไกล (longhaul market) จากทั้ง 4 ทวีป ปี 2568 มีแนวโน้มจะทะลุ 10 ล้านคน ระหว่าง 1 มกราคม -15 ตุลาคม นี้ มาแล้ว 7.8 ล้านคน เติบโตเพิ่มจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 31 % พำนักเฉลี่ย 19 วัน/คน/ทริป ใช้จ่ายเฉลี่ยเกิน 65,000 บาท/คน/ทริป ตลอดปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะทำลายสถิติปี 2567 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาไทย 9.7 ล้านคน เติบโตกว่า 28 % สูงกว่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิด


ททท.พร้อมนำเอกชนท่องเที่ยวไทยร่วมมหกรรมเทรดโชว์รายการใหญ่ของโลก World Travel Market :WTM 2025 ระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2568 ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ปีนี้เตรียมเปิดแคมเปญใหม่ภายใต้ธีม Healing is the New Luxury นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ในมิติใหม่การท่องเที่ยวไทยครบทุกมิติ ทั้งธรรมชาติที่สมบูรณ์ วัฒนธรรมอันลึกซึ้งวิถีชีวิตดูแลกายใจ ด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือ Wellness Tourism

“คูหาประเทศไทย” ในงาน WTM 2025 คาดจะเกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจตามนัดหมายระหว่างตัวแทนผู้ขายของไทยกับผู้ซื้อนานาชาติขึ้นกว่า 1,500 นัดหมาย สร้างรายได้กว่า 1,300 ล้านบาท มีผู้ประกอบการไทย 50 ราย เป็นรีสอร์ต 41 ราย และบริษัทบริหารจัดการเส้นทางการนำเที่ยว (DMC) อีก 9 ราย โดยมีผู้เข้าร่วมงานครั้งแรกมากถึง 14 ราย และมีไฮไลต์เปิดโซน “เมืองน่าเที่ยว :Hidden Gems” นำผู้ประกอบการเมืองน่าเที่ยวเข้าร่วม 8 แห่ง จาก จันทบุรี ตราด น่าน สุโขทัย นครราชสีมา ตรัง นครศรีธรรมราช จะเป็นอีกเวทีนำเสนอเมืองน่าเที่ยวเพื่อให้เกิดกระจายตัวอย่างสมดุล

 

แล้วก็จะนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามธีม Healing is the New Luxuryด้วยไฮไลต์ Journey to total Well being การดูแลสุขภาพองค์รวมผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 กาย/รับรู้ ตา/มองเห็น หู/ได้ยิน จมูก/ได้กลิ่น ลิ้น/รับรส ด้วยกิจกรรมในเชิงสุขภาพ 

นางจิระวดี กล่าวว่า ททท.ได้จัดทำโร้ดโชว์นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเจาะตลาดล่วงหน้าก่อนงาน หรือ Pre-WTM 2025 ช่วงตั้งแต่ 27 ตุลาคม 2568 ในกลุ่มประเทสสแกนดิเนเวีย ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตสูงขึ้นมาก แล้วในงาน WTM 2025 “ตลาดสหราชอาณาจักรหรือ UK” ยังคงเป็นปีทองเพราะติด 1 ใน 3 Gang of Million ปี 2568 แนวโน้มจะเป็นปีแรกมาเที่ยวเมืองไทยเกิน 1.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าปี 2567 ประมาณ 17 % สถิติมาไทย 9.7 แสนคน

 

ในงาน WTM 2025 จะได้นำเสนอสินค้าบริการ “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) และการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ (RT : Responsible Tourism) ในตลาดสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญกับสินค้าดังกล่าวมาก แล้ว ททท.ทำต่อเนื่องหลายปีโดยให้บริษัทในตลาดนี้โหวตเลือก เส้นทางที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวของไทยด้านธรรมชาติ ชุมชน วัฒนธรรม ที่มีความโดดเด่นเรื่องการบริหารจัดการอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน โดยจะมอบรางวัลช่วงงาน WTM 2025 และผู้ประกอบการไทยที่ได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards) CF-Hotel จะนำเสนอคอนเทนท์ในเวที Market Briefing กับสื่อมวลชนนานาชาติ ตัวอย่าง ททท.ทำโครงการต้นแบบเส้นทางการท่องเที่ยวยั่งยืน “กระบี่ โปรโตไทป์ :Krabi Prototype” มีชุมชนที่ได้รับรางวัลระดับโลก ถือเป็นโปรดักซ์พร้อมนำเสนอขายกับคู่ค้าที่เข้าร่วมงาน

นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลจากภูมิภาคยุโรป อเมริกา เติบโตอย่างรวดเร็วเพราะมีสายการบินใหม่ ๆ เปิดเส้นทางมายังไทย และ “ภาพรวม” ตลาดระยะไกลจากภูมิภาคยุโรป ถือเป็นปีทองมีจำนวนนักเดินทางสามารถทำลายสถิติปี 2567 ปัจจัยความสำเร็จมาจาก ททท. จับมือกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” โดยเฉพาะ ททท.สำนักงานทั่วภูมิภาคยุโรป อเมริกา ทำงานใกล้ชิดกับแต่ละสายการบินนานาชาติเชิญชวนทั่วโลกบินเข้ามายังไทย เป็นกลยุทธ์ Airlines Focus ที่จะเพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นต่อเนื่องปี 2569


ตัวอย่าง สายการบินภูมิภาคยุโรป และตลาดระยะไกล เป็นปัจจัยให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ได้ทยอยเปิดบินใหม่แล้วไม่ต่ำกว่า 6-7 เส้นทาง เช่น

สายการบินแรก “Norse Atlantic Airways สายการบินสัญชาตินอร์เวย์ เพิ่งเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สต็อกโฮล์ม-กรุงเทพฯ และจะเปิดทั้งหมด 5 เส้นทาง เพิ่มจำนวนที่นั่งผู้โดยสารเข้าเมืองไทยเกือบ 5,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ จะเพิ่มเส้นทางบิน ลอนดอน (สนามบินเกตวิค)-กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) แมนเชสเตอร์-ภูเก็ต ออสโลว์-กรุงเทพฯ สต็อกโฮล์ม-ภูเก็ต

สายการบินที่ 2 “ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส” ซึ่งหายไปจากไทยถึง 11 ปี เริ่มกลับมาเปิดเที่ยวบินไกลข้ามทวีปแบบ Supper Long haul ออกจากชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา เส้นทาง ลอสแองเจลิส(LA)-กรุงเทพฯ 

สายการบินที่ 3 “แอร์ เอเชีย” จะเปิดเที่ยวบินจากตะวันออกกลาง กรุงริยาร์ด-กรุงเทพฯ

แล้วก็ยังมีอีก 2-3 สายการบิน เสนอที่จะเปิดบินตรงแบบประจำมายังไทย เช่น “สายการบินบาราเวีย” (เยอรมัน) ทางฝั่งยุโรปตะวันออก จะบินจาก “มินสค์” (Minsk) เมืองหลวงของเบลารุสสู่กรุงเทพฯ นำร่องทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำก่อนจะเปิดบินประจำ จะทำให้ “ตลาดดาวรุ่งแถบยุโรปตะวันออก” เข้ามาไทยเพิ่มมากขึ้น หรือ “อลาสกาแอร์ไลน์ส” อเมริกา

ททท.จะเร่งขับเคลื่อนขยายตลาดระยะไกลปลายปี 2568 ต่อเนื่องปี 2569 โดยนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่จะเข้าไปกระตุ้นส่งเสริมกลุ่มหลัก ๆ คือ  เวลเนส ฮันนีมูน คู่แต่งงานที่ไม่มีลูก LGBTQ+ แล้วยังมี “แพกเกจท่องเที่ยว” มาแรงอย่าง “Healing Holiday” ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มที่สนใจใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวพักผ่อนควบคู่กับการดูแลสุขภาพอย่าง สปา โยคะ เมดิคัลสปา และ “การท่องเที่ยวเชิงกีฬา” ก็เป็นอีกโปรดักซ์ที่จะเพิ่มเข้าไปในตลาดระยะไกลด้วย

 


นางจิระวดี กล่าวว่าปี 2569 วางกลยุทธ์เชิงรุกเพิ่มจำนวนและนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล เพื่อก้าวสู่เป้าหมายมากกว่าปี 2568 ซึ่งจะทำได้ถึง 10 ล้านคน ปี 2569 จะต้องเติบโตเพิ่มขึ้นไปอีก 5 % โดยจะทำเพิ่มอีก 2 กลยุทธ์ คือ

กลยุทธ์ที่ 1 เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูเดินทางระหว่างมิถุนายน-สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับ “ฤดูร้อนยุโรป” ได้เสนอแพกเกจท่องเที่ยวมาไทย ซึ่งตามปกติจะเที่ยวภายในภูมิภาคยุโรปเป็นหลัก ตอบโจทย์ ททท.2 เรื่อง ได้แก่ 1.ต้องการขยายให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี (all year round) 2.กระจายพื้นที่จากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวอื่น ๆ

กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบ สอดคล้องกับนโยบายผู้นำ ททท.ประกาศเดินหน้า Value Over Volumn โดยพุ่งเป้าไปยังเซกเมนท์นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินสูงที่ชอบมาฮอลิเดย์ในไทย

ดังนั้น ททท.ฝากให้ผู้ประกอบการ และคนไทย ทำหน้าที่เป็น “เจ้าบ้านที่ดี” เพราะนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลคาดหวังที่จะมาพักผ่อนในเมืองไทยอย่างมีความสุข ปลอดภัย ผู้ให้บริการขนส่งทางบก/รถ ทางน้ำ/เรือ ช่วยกันอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐานสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ เนื่องจากสัญญาณการเติบโตปี 2568 และปี 2569 ตลาดระยะไกลมีแนวโน้มสดใสต่อเนื่องทุกปี

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1-“มูลนิธิวิชัยฯ-คิงเพาเวอร์”รวมพลัง“ให้โลหิต ให้ชีวิต”5แสนซีซี

มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นสานต่อปณิธานแห่ง “การให้”
สู่การสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่
จัดกิจกรรม “ให้โลหิต ให้ชีวิต” นำโดย คุณเอมอร ศรีวัฒนประภา, คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา คุณวรมาศ ศรีวัฒนประภา คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา และคุณอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา พร้อมคณะผู้บริหาร พนักงาน และประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็น ผู้ให้ด้วยการบริจาคโลหิต ส่งมอบให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ปี 2568 มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต 4 ครั้ง  ใน
เดือนมกราคม
  เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม รวม
ปริมาณโลหิตกว่า 500,000 ซีซี


ตลอด 3 ปี ตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน ได้ส่งมอบโลหิตให้ “ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย” มากถึง 1,430,000 ซีซี  นับเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนโลหิต เพื่อให้มีโลหิตเพียงพอสำหรับดูแลผู้เจ็บป่วยให้รอดชีวิต 

ปี 2569 ยังคงมุ่งมั่นสานต่อกิจกรรม “ให้โลหิต ให้ชีวิต” ปลูกหัวใจแห่งการให้ที่ยั่งยืนต่อไป

 

 ข่าวที่ 2 -“คิง เพาเวอร์”ไปต่อรอAOTนัดเจรจาดิวตี้ฟรี5สนามบิน3สัญญา

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT หรือ ทอท.” เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) “AOT” มีมติเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 อนุมัติแนวทางการพิจารณาโครงการดิวตี้ฟรี ระหว่าง บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด “KPD” กับ AOT เบื้องต้น ให้ฝ่ายบริหารเลือกวิธี “เจรจา” ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของบริษัทที่ปรึกษายืนยันสัญญาได้ออกแบบมาเป็นธรรมและสร้างประโยชน์สูงสุดให้ AOT มากและดีกว่าการยกเลิกสัญญา

“ขั้นตอน” ระหว่างนี้ AOT กำลังตั้งคณะกรรมการเจรจา โดยยึดแนวทางหลักเรื่อง “การจ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทน” อย่างเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย จะเริ่มเจรจากันในเดือนพฤศจิกายน 2568 กับทางผู้ประกอบการร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ที่เปิดบริการใน 5 ท่าอากาศยาน 3 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ร้านค้าปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

สัญญาที่ 2  ร้านค้าปลอดอากรท่าอากาศยานดอนเมือง

สัญญาที่ 3 ร้านค้าปลอดอากรในท่าอากาศยานภูมิภาค 3 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่

“แนวทางการเจรจาปรับสัญญา” มุ่งเน้นสร้าง “ผลบวก” ให้ AOT และจะปรับเงื่อนไขตามสัญญา โดยพิจารณาจาก “ต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายที่สอง” ใช้ฐานข้อมูลตอนเปิดประมูลแต่ละรายได้ยื่นเสนอจ่ายประโยชน์ผลตอบแทนขั้นต่ำสูงสุดไว้

รายละเอียดเมื่อปี 2562 การเสนอราคาประมูลพัฒนาร้านค้าดิวตี้ฟรี ในท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ AOT  ทั้ง 5 แห่ง 3 สัญญา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ร้านค้าดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้เข้าร่วมประมูลเสนอจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee: MAG) ให้ AOT ดังนี้

- อันดับ 1 คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ยื่นเสนอจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำสูงสุดปีละ 15,400 ล้านบาท

- อันดับที่ 2 กิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี ยื่นเสนอผลตอบแทนขั้นต่ำสูงสุด 8,500 ล้านบาท

สัญญาที่ 2  ร้านค้าดิวตี้ฟรีท่าอากาศยานดอนเมือง คิง เพาเวอร์ ยื่นเสนอผลตอบแทนขึ้นต่ำสูงสุดเพียงรายเดียว  1,500 ล้านบาท

สัญญาที่ 3 ร้านค้าดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานภูมิภาค 3 แห่ง ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่

- อันดับ 1 คิง เพาเวอร์ ยื่นเสนอจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำสูงสุด 2,300 ล้านบาท

- อันดับที่ 2 เสนอ ยื่นเสนอจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำสูงสุด 2,000 ล้านบาท

“เหตุผล” ที่ AOT เลือก “เจรจา” แทนการ “ยกเลิกสัญญา” มีดังนี้

1.ป้องกันผลกระทบเชิงลบและเสียหายเป็นวงกว้าง  โดยเฉพาะ AOT ต้องสูญเสียรายได้รวม

2.กระบวนขั้นตอนสรรหาผู้ประกอบการใหม่ต้องใช้เวลานาน เริ่มหนึ่งใหม่เริ่มจากทำทีโออาร์ เปิดประมูล การประกาศผล  

3.ผู้ชนะจะต้องลงทุนใหม่เพื่อออกแบบสถานที่ให้สอดคล้องกับแบรนด์สินค้าที่นำมาวางจำหน่าย

4.ต้องหาลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าให้ได้ตามเป้าหมายตามข้อตกลงกับ AOT ซึ่งเป็นเจ้าของผู้ดูแลพื้นที่ในแต่ละท่าอากาศยาน

“ทีมที่ปรึกษา” จากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ 2 แห่ง ขณะนี้ได้กำหนดจัดทำรายละเอียดปรับเงื่อนไขการเจรจาระหว่าง AOT กับ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด มาหลายแนวทาง เพื่อให้ทั้ง AOT และ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เลือกแนวทางที่ดีที่สุดกับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะ การจ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทน” จากสัญญาเดิม ส่วนการปรับเงื่อนไขใหม่ทางฝ่ายกฎหมายได้ตรวจมาเรียบร้อยแล้ว ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างสุจริตยุติธรรม


ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิแนะนำสินค้าใหม่“Energea Travel Kit

“คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ” มีสินค้าใหม่มาแนะนำนักเดินทางต่างประเทศ สามารถตะลุยทุกทริปอย่างมั่นใจ ด้วย Energea Travel Kit ชุดอุปกรณ์ชาร์จพกพาครบเซ็ต”ทั้งหัวปลั๊ก พาวเวอร์แบงก์ และสายชาร์จเร็วครบจบในชุดเดียว วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาเพียง 2,599 บาท/ชุด ประกอบด้วย

1.TravelWorld Adapter 25 หัวแปลงปลั๊กไฟรองรับกว่า 150 ประเทศ

2.AluPac 10K พาวเวอร์แบงก์ไร้สาย 10000 mAh ชาร์จได้ 2 เครื่องพร้อมกัน

3.Bazic AluCable 15cm สายชาร์จเร็วแบบ 4-in-1 รองรับ Power Delivery สูงสุด 60W

มาพร้อมกระเป๋าทรงหรู พกพาสะดวกทุกที่ เป็นเพื่อนคู่ใจในทุกทริปการเดินทางอย่างมั่นใจ จะชาร์ตแบตเตอรี่ได้ทุกที่ทุกเวลา

 

ข่าวที่ 4-ททท.ปรับใหม่4บิ๊กอีเวนต์“Vijit-2ลอยกระทง-กรุงเทพมาราธอน”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ประกาศปรับกำหนดการและรูปแบบงานกิจกรรมปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2568 เพื่อแสดงออกถึงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตามประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง สวรรคต ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2568 นั้น

ททท. ได้พิจารณาแนวทางจัดกิจกรรมตามความเหมาะสมแบ่งเป็น 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1.เลื่อนกำหนดการจัดงาน 2.ปรับรูปแบบการจัดกิจกรรม 3.ยกเลิกบางกิจกรรม ทดแทนด้วยกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมอื่น ๆ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตามรายละเอียดดังนี้

งานที่ 1 VIJIT CHAOPRAYA THAILAND 2025 เลื่อนเป็นวันที่ 9 พฤศจิกายน – 23 ธันวาคม 2568 จากเดิมจะจัดวันที่ 1 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2568 สถานที่ยังคงเป็นบริเวณ “ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร” นำเสนอการจัดงานใหม่ เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยแนวคิด “แสงแห่งสยามแม่ของแผ่นดิน

“เปลี่ยนการแสดง” จากพลุเป็นการแสดงโดรน แสดงความอาลัยและเทิดพระเกียรติ  ลดโทนแสงและสีการแสดงไฟให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และช่วง “ค่ำคืนปีใหม่” เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรม “แสงเทียนแห่งแผ่นดิน” จุดเทียนรวมใจถวายเป็นพระราชกุศล

งานที่ Maha Loy Krathong @ Ayutthaya กำหนดจัดตามเดิมวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2568 บริเวณ “วัดพระราม อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

“ปรับรูปแบบการจัดใหม่” ให้มู้ดแอนด์โทนเหมาะสมกับช่วงสถานการณ์ไว้อาลัย โดยงดการแสดงพลุและดอกไม้ไฟ พร้อมจัดให้มีพิธีถวายความอาลัย

“กิจกรรมหลัก ๆ ในงาน” ประกอบด้วย การแสดงทางวัฒนธรรมเพื่อเทิดพระเกียรติ การบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร์ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เผยแพร่พระอัจฉริยภาพ และพระเกียรติคุณผู้ทรงเป็นอัครศิลปินที่ทรงมีพระอัจฉริยภาพอันล้ำเลิศทางด้านดนตรี บทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่สื่อความหมายอันดี

“ตกแต่งบรรยากาศ” แสดงถึงความรำลึกถึงพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยกิจกรรม สาธิตอาหาร หัตถกรรม ศิลปะงานคราฟท์ และ DIY สัมผัสเสน่ห์วิถีไทยผ่านกิจกรรมสาธิต เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมลงมือสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกของตน การจำหน่ายสินค้าและอาหารสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง อาหารท้องถิ่นรสเลิศในบรรยากาศย้อนยุคอันอบอุ่น

 

งานที่ 3 Maha Loy Krathong @ Sukhothai จัดตามกำหนดเดิม วันที่ 27 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน 2568 ที่วัดชนะสงคราม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ททท. ร่วมกับจังหวัดสุโขทัยจัดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2568 ในโซน ททท.บริเวณวัดชนะสงคราม นำเสนอแนวคิดหลักมหาลอยกระทง MAHA LOI KRATHONG @ Sukhothai

 

“ปรับการแสดงหลัก” เป็นการบรรเลงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ ดนตรีไทยและการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย สื่อถึงการเทิดพระเกียรติและความจงรักภักดี พร้อมคุมโทนสีพื้นที่จัดงานให้เหมาะสม ตลอดระยะการจัดงาน ทุกวันในเวลา 21.21 น. จะจัดให้มีพิธีจุดตะคัน เพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยพร้อมเพรียงกัน

 

“การแสดง” ชมการแสดงวัฒนธรรมไทย ชุดที่ร่วมแสดงความอาลัย ถ่ายทอดความงดงามทางนาฏศิลป์ พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวแต่งกายชุดไทยร่วมงานลอยกระทง  โดยจัดให้มีพิธีถวายความอาลัย

 

“กิจกรรมในงาน” ประกอบด้วย ตกแต่งเสริมสร้างบรรยากาศประดับไฟอย่างสวยงามตระการตาเข้ากับบรรยากาศย้อนยุคผสมผสานวัฒนธรรมวิถีชีวิต และความรุ่งเรืองของวัฒนธรรม สาธิตงานหัตถกรรม ศิลปะงานคราฟท์ และDIY ผลงานเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนในสุโขทัย เช่น เครื่องปั้นดินเผาปัดเงิน ปัดทอง บ้านทุ่งหลวง การทำตะคัน วิถีชุมชน ที่ใช้ในประเพณีลอยกระทง การทำข้อมือจากเหล็กน้ำพี้ การเพ้นท์โคม เพ้นท์พัด ลายเฉพาะของชาวสุโขทัย

 

“โซนตลาด” จำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมือง เมนูหาทานยาก ของดีประจำถิ่น ลิ้มรสอาหารไทย หลากหลายเมนู เช่น  ข้าวเปิ๊บ บ้านนาต้นจั่น ขนมข้าวปุกงา

 

งานที่ 4 Amazing Thailand Marathon Bangkok 2025 จัดตามกำหนดเดิมวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 จุดปล่อยตัวตรงบริเวณ เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ และเส้นชัยที่ท้องสนามหลวง โดยจะปรับรูปแบบงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์

 

ติดตามรายละเอียดการจัดงานและกิจกรรมของ ททท. ทาง www.tourismthailand.org และ www.thailandfestival.org

 

ข่าวที่ 5-บางจากเปิดแห่งแรกในไทยศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลสู้โลกร้อน

 

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิด “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง (ศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน) หมู่เกาะหมาก จังหวัดตราด” ร่วมกับ 4 พันธมิตร คือ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) “อพท. องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหมาก และวิสาหกิจชุมชนเกษตรผสมผสานบ้านอ่าวนิด (กลุ่มอนุรักษ์ปะการัง)  ถือเป็นเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรเพื่อชุมชนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศ หลังจากมีบันทึกข้อตกลง “การพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะหมาก เมื่อปี 2565 ตั้งเป้าสู่เป้าหมายเส้นทางคาร์บอนต่ำ หรือ “Low Carbon Destination” ปีนี้จึงขยายผลการอนุรักษ์ระบบนิเวศทางทะเลควบคู่กับการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ยกระดับศักยภาพชุมชนปรับตัวรับภาวะโลกร้อน และส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) อย่างยั่งยืน

 

@บางจากเปิดแห่งแรกในไทย “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเล”เกาะหมาก

 

            “นางกลอยตา ณ ถลาง” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้ผนึกองค์ความรู้ทางวิชาการเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลักดันการวิจัยและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลเกิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อน หมู่เกาะหมาก” เพื่ออนุรักษ์ได้อย่างยั่งยืนพร้อมขยายผลได้ในระยะยาว ตามข้อตกลงความร่วมมือของพันธมิตรทุกภาคส่วนร่วมทำให้เกาะหมาก Low Carbon Destination ต่อเนื่อง นับจากปี 2565 ได้การรับรองให้เป็นหนึ่งใน 100 เมืองท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก (Top 100 Green Destinations)  

 

 โครงการ Low Carbon Destination ของบางจากฯ ผู้นำธุรกิจพลังงานปี 2593  มุ่งสู่เป้าหมายNet Zero และสร้างระบบนิเวศ Net Zero Ecosystem ให้เกื้อหนุนกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างอย่างยั่งยืนคู่กับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยมีภารกิจสร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับ ดรธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  (ม..)

 

เมื่อปี 2565 บางจากได้ลงนามบันทึกข้อตกลง “การพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะหมาก สู่เป้าหมาย Low Carbon Destination” กับคณะประมง ม.และพันธมิตร ศึกษาความเป็นไปได้การกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์แหล่งหญ้าทะเล  และสำรวจแนวพื้นที่เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ ๆ สู่การพัฒนาแนวทางการทำงานที่เน้นรักษาสมดุลธรรมชาติ เป็นที่มาของการจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้หญ้าทะเลและปะการัง หมู่เกาะหมาก” หรือศูนย์หญ้าทะเลสู้โลกร้อนโดยภาคเอกชนและพันธมิตรเพื่อชุมชนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศ  ดำเนินการถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านหญ้าทะเลในฐานะแหล่ง Blue Carbon ที่มีศักยภาพในการดูดซับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ เปรียบเสมือนการปลูกป่าในทะเล ได้รับความอนุเคราะห์จากทีมงานคณะประมง ม.ทำหน้าที่พี่เลี้ยงให้กับเครือข่ายในท้องถิ่น  ช่วยให้การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศหญ้าทะเลในพื้นที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

รวมทั้งการใช้พลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและสะท้อนแนวทางการพัฒนาพื้นที่สู่ Low Carbon Destination อย่างเป็นรูปธรรม ทางบางจากฯ กับคณะประมง ม.และพันธมิตรจะยังคงร่วมกันติดตาม สนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่เครือข่ายในพื้นที่ตามความเหมาะสมต่อไป

 

@อบต.ร่วมภาคีติดแหล่งเที่ยวยั่งยืนTop100ของโลก

 

“นายนล สุวัจจนานนท์” นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะหมาก กล่าวว่า Koh Mak Low Carbon คือ จุดเริ่มต้น แล้ว อพท. ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ส่งเกาะหมากเข้าประกวดรางวัลระดับโลก ได้รับเลือกเป็น 1 ในแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (Top 100 Destination Sustainability Stories 2022) หัวข้อ “The Journey to Become the First Low Carbon Destination in Thailand” จากองค์กร Green Destination เนเธอร์แลนด์  และอันดับ 2 การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในปี 2568  จนได้ชื่อว่า Green Destination จึงต้องพัฒนาต่อเนื่องยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกบนหมู่เกาะหมากสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าอย่างหลากหลาย ควบคู่รักษาแนวทางการท่องเที่ยอันเป็นเอกลักษณ์   และยกระดับมูลค่าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวแบบมีคุณภาพมากขึ้น เพิ่มประสบการณ์ความยั่งยืน

 

          ช่วงที่ 2 วางแผนเที่ยวไทยงานประเพณียอดนิยมส่งท้ายปีที่ “พัทยา ชลบุรี” ชวนไปลอยกระทง 4-5 พ.ย.นี้ ที่ศรีราชา พัทยา ตลาดน้ำ 4 ภาค แล้วรอเที่ยวเทศกาลใหญ่ “พลุนานาชาติเมืองพัทยา” 28-29 พ.ย.แล้วฟัง “8 วิธีลดปลายประสาทอักเสบ” เกาะติดข่าวคุณภาพ ข่าวแรก “TCEBกับเอกชน7องค์กร” นำไมซ์ดัน Quick Big Win ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ ข่าวที่สอง “เวียตเจ็ทเวียดนาม” มาแรงสั่งซื้อฝูงบิน A321neo ถึง 100 ลำ

 

ท่องเที่ยว –เที่ยวพัทยา-ชลบุรีสุขทันที4พิกัด“ลอยกระทง-พลุนานาชาติ”

 

ได้เวลาเที่ยวงานใหญ่แห่งปี “ลอยกระทง” สุขทันทีเที่ยวงานประเพณีภาคตะวันออก ปักหมุดที่ “จังหวัดชลบุรี” พร้อมเที่ยวต่อเนื่อง “เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา” เปิดพิกัดไว้รอแล้ว ที่“ชลบุรี”  มีให้เลือกหลายแนว 3 พื้นที่ 4 พิกัด

 

พิกัดที่ 1  “ศรีราชา ลอยกระทง เฟสติวัล 2568” วันที่ 4 - 5 พฤศจิกายน 2568  บริเวณสวนสุขภาพ เทศบาลเมืองศรีราชา เปิดสะพานม่วงให้ลอยกระทงได้ตามประเพณี โดยงดจัดกิจกรรมการแสดง งานประกวดทุกรายการ

 

พิกัดที่ 2 “ประเพณีลอยกระทงเมืองพัทยา” สายน้ำแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์  “The flow of eternal Loyalty” 5 พฤศจิกายน นี้ ชวนนักท่องเที่ยวสวมใส่ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ร่วมประกวดในงาน โดยจะตัดสินให้พูดถึง พระราชกรณียกิจ "สมเด็จพระพันปีหลวง โอบอุ้มประชาราษฎร์ให้ยั่งยืน" น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ผู้ชนะเลิศมีรางวัลให้ พร้อมกับได้เป็นตัวแทนแต่งชุดไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวในงาน “เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา  แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์  : The Light of Eternal  Loyalty”

 

พิกัดที่ 3 “เทศกาลลอยกระทง 2568 @ ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา” 5 พฤศจิกายน 2568  เวลา 18.00 – 21.00 น.
บริเวณตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา จัดตามปกติพร้อมกับปรับกิจกรรมให้เหมาะสมในช่วงไว้อาลัย

 

พิกัดที่ 4 “เทศกาลพลุนานาชาติเมืองพัทยา  แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์  : The Light of Eternal  Loyalty” 28 - 29 พฤศจิกายน 2568 บริเวณชายหาดพัทยา

 

บนเวทีงานเทศกาลพลุก่อนเริ่มโชว์ ผู้ชมร่วมยืนสงบนิ่ง 1 นาที แสดงความอาลัยถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

 

เมืองพัทยาเชิญชวนคนไทย คนต่างชาติร่วมใส่ชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ (ติดริบบิ้นดำ) และขอความร่วมมือสวมเสื้อผ้าคุมโทนไม่ฉูดฉาด น้อมในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน โดยได้ตั้งจุดร่วมถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดงานห้ามจำหน่ายและจุดพลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอยเด็ดขาด

 

“กิจกรรมภายในงาน” นักท่องเที่ยวจะได้ชม “การแสดงโขน” เป็นการอนุรักษ์โขนหนึ่งในพระราชกรณียกิจที่สำคัญของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมร่วมแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ก่อนโชว์จะแสดงความอาลัยยืนสงบนิ่ง 1 นาที จากนั้นก็ชมความงดงามมากมาย

 

ชุดแรก -ชมการแสดงเปิดด้วยพลุชุด แสงแห่งความจงรักภักดี สถิตในใจนิรันดร์ “The Light of Eternal Loyalty” โดยเชิญชวนผู้ร่วมงานทุกคนใส่ชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ (ติดริบบิ้นดำ) และขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมงานสวมเสื้อผ้าคุมโทนไม่ฉูดฉาด

 

ชุดที่ 2 -ชมการแสดงของวงออเครสตร้า ซิมโฟนี่ โดยบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงประจำพระองค์เพลงพระราชนิพนธ์และภาพพระกรณียกิจของพระองค์ท่าน

 

ชุดที่ 3 -ชมการแสดงพลุนานาชาติจาก 5 ประเทศ

 

สุขทันทีที่ได้เที่ยวประเพณี “ลอยกระทง-เทศกาลพลุนานาชาติ” พัทยา ชลบุรี

 

สุขภาพ –8วิธี ลดอาการปวดปลายประสาทของคนยุคดิจิทัล

 

ภาวะ “ปลายประสาทอักเสบ” เป็นโรคยอดนิยมของคนในยุคดิจิทัล ที่ใช้เวลากับการนั่งท่าเดิมๆ ไปกับสมาร์ทโฟนมากถึงวันละ 7-8 ชั่วโมง  ด้วยพฤติกรรม “การนั่งและใช้งาน” ข้อมือซ้ำๆ อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดและชาตามมือ เท้า อาการของโรคปลายประสาทอักเสบ  ดูเหมือนไม่รุนแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดแผลโดยไม่รู้ตัว ติดเชื้อ ไปจนถึงพลัดตกหกล้ม จากภาวะทรงตัวผิดปกติ ทางโรงพยาบาลสมิติเวช มีข้อแนะนำ 8 วิธี ลดอาการปวดปลายประสาท ดังนี้

1.รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน เช่น ผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไขมันต่ำ เพื่อให้เส้นประสาทแข็งแรง     

 

2.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  อย่างน้อย 30 -60 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์

 

3.อาบน้ำอุ่น ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดอาการชา และความเจ็บปวดได้

 

4.งดเว้นการเคลื่อนไหวบริเวณที่มีอาการ เพื่อลดอาการปวดเส้นประสาท  หากกลัวว่าจะเผลอ อาจใช้ผ้าพันแผลพันส่วนที่ปวด 

 

5.เปลี่ยนท่าบ่อยๆ เนื่องจากปัญหาการกดทับของเส้นประสาท มีสาเหตุมาจากการเคลื่อนไหวท่าเดิมซ้ำๆ  

6.หากอาการปวดรุนแรง ไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีอื่น อาจรับประทานยาแก้ปวด  ที่สามารถซื้อได้ตามร้านขายยา  เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพราะยาอาจส่งผลต่อร่างกายหรือโรคที่เป็นอยู่   

 

7.หากมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบ ควรรับการตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ เมื่อพบอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา เพื่อลดความเสียหายของเส้นประสาทส่วนปลายที่อาจมีมากขึ้น

 

8.สำคัญที่สุด คือการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่อาจส่งผลให้มีการกดทับเส้นประสาท   

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –TCEB นำ7องค์กรใช้อุตฯไมซ์ปลุกเศรษฐกิจ“Quick Big Win” 

 

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เป็นประธานการประชุมจัดทำมาตรการ “Quick Big Win” ร่วมกับสมาคมแถวหน้าของเมืองไทย 7 องค์กร ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศ ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 25 สำนักงานทีเส็บ อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ เปิดเวทีร่วมหาแนวทางมาตรการเร่งด่วน Quick Big Win เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาล เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมไมซ์

 

โดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ 7 องค์กร นำโดย สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) สมาคมโรงแรมไทย สมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

 

ทีเส็บทำหน้าที่ผู้ริเริ่มดำเนินการความร่วมมือขับเคลื่อน Quick Big Win อุตสาหกรรมไมซ์เพื่อแสดงพลังของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย พร้อมจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป

 

ข่าวที่สอง เวียตเจ็ตเวียดนามมาแรงMOUสั่งซื้อแอร์บัสA321neo100 ลำ

           

“เวียตเจ็ท” สายการบินเอกชนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนามปรับสัญญาแบบยืนยันคำสั่งซื้อ (confirm order) ฝูงบิน A321neo จำนวน 100 ลำ โดยวิธีปรับการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่ลงนามไว้เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ให้เป็นปัจจุบัน

 

การลงนามสัญญาครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเวียตเจ็ทในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินและพัฒนาฝูงบินสมัยใหม่ ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อเครื่องบิน A321neo รวมทั้งสิ้น 280 ลำ

 

            “ข้อตกลงสำคัญฉบับนี้” เกิดขึ้นต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้าง A330neo จำนวน 20 ลำเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งยิ่งตอกย้ำความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวระหว่างเวียตเจ็ทและแอร์บัสให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

 

 

“นายเบอนัวต์ เดอ แซงต์-เอซูเปอรี” รองประธานบริหารฝ่ายขายประจำธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ของแอร์บัส กล่าวว่า ฝูงบิน A321neo ได้พิสูจน์ประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น จึงทำให้เครื่องบินรุ่นนี้เป็นแพลตฟอร์มเหมาะสมที่ของเวียตเจ็ทมั่นใจจะนำมาใช้ขยายฝูงบิน รวมทั้งเมื่อใช้งานร่วมกับ A330neo ฝูงบินนี้จะช่วยลดต้นทุนที่เหนือกว่า อย่างสอดคล้องเรื่องปฏิบัติการบินอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นจุดเด่นของครอบครัวเครื่องบินแอร์บัสแต่ละรุ่นนั่นเอง

 

สำหรับ A321neo เป็นเครื่องบินรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล A320neo รุ่นยอดนิยมของแอร์บัส มาพร้อมสมรรถนะการบิน “ระยะไกลและประสิทธิภาพ” การปฏิบัติการโดดเด่น ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่และชาร์คเล็ท (Sharklets) ช่วยลดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 50 % และประหยัดเชื้อเพลิงพร้อมลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้มากกว่า 20 % เมื่อเทียบกับเครื่องบินลำตัวแคบรุ่นก่อนหน้า ยกระดับความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารเต็มที่

 

แอร์บัสมียอดสั่งซื้อ A321neoจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2568 มากกว่า 7,100 ลำ จากลูกค้าเกือบ 100 รายทั่วโลก

 

A321neo สามารถใช้เชื้อเพลิงการบินยั่งยืน (SAF) ได้สูงสุดถึง 50 % ตั้งเป้าภายในปี 2573 จะรองรับการใช้ SAF ได้เต็ม 100 % เปอร์เซ็นต์ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายอุตสาหกรรมการบินที่ยั่งยืน

 

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ททท.นำท่องเที่ยวไทยลุยเทรดโลกWTM2025โชว์สีสันลอยกระทงทำรายได้1,330ล้านบาท

ททท.นำธุรกิจไทยลุยเทรดโลก WTM2025 โชว์สีสันลอยกระทง เปิดคูหาไทยจับคู่เจรจา 1,500 นัดหมายหวังโกย 1,330 ล้านบาท ททท.นำเอกชนร่วมเทรดท่องเที่ย...