ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.-ชมรมทัวร์OTAออนไลน์ไทยทำทัวร์จีนคุณภาพ-ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน-เที่ยวแม่ลาน้อย

ไทยนำผู้ค้าขาใหญ่OTA-ออนไลน์จับเข่าคุยจีน
ปฏิวัติตลาดครั้งใหญ่“ทัวร์คุณภาพ”เข้าไทยปี’61
คิงเพาเวอร์ปั้นหมี่กรอบแท่งชุมชนโกอินเตอร์
ททท.ผนึกWeChat-VisitThailandชิงทัวร์จีนขาลุย
บางจากเปิดฮับบริการนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว
“ธนะศักดิ์”ชู15โปรดักซ์ปีท่องเที่ยวโกย3ล้านล.
คุณค่าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย
บินไทยผนึกTMBจัดโปรตั๋ว3ต่อบินเวียนนา
ทย.จ่อใช้งบ8.1พันล้านปรับ5สนามบินอีสาน

พบกันในเช้าวันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังมือถือเลือก FM 97.0 อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsaen  ฟังทาง youtube พิมพ์ รวยด้วยข่าว 97.0-วัน/เดือน/ปี #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand

ช่วงที่ 1 “คุณศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย แปซิฟิก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สายตรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาให้สัมภาษณ์กับทางรายการ ระหว่างนำสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวออนไลน์ของไทยเดินสายเจรจาธุรกิจและทำความเข้าใจกันพัฒนาทัวร์คุณภาพกับคู่ค้าในมณฑลต่าง ๆ ทั้งปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เพื่อกอดคอกันทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางทัวร์ที่มีมาตรฐานและคุณภาพตั้งแต่กันยายน 2560 เป็นต้นไป เพราะจีนสร้างรายได้ท่องเที่ยวสู่ไทยสูงถึงปีละเกือบ 5 แสนล้านบาท

ศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย แปซิฟิก ททท.

“คุณศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์” เปิดเผยว่าหลังเหตุการณ์ขายท่องเที่ยวในตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาประเทศไทยจนกลายเป็นข่าวฮือฮาต่อเนื่องโดยใช้วิธีตัดราคากันเหลือต่ำมากจนเป็น “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” จึงย่อมไม่เป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวบ้านเรา ททท.จึงระดมความร่วมมือช่วยกันวางกลยุทธ์พร้อมทั้งระหว่างนี้ได้นำผู้ประกอบการขายท่องเที่ยวจากเมืองไทยที่รวมตัวกันเป็น “ชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวออนไลน์” มีทั้ง Online Travel Agents : OTA และเว็บไซต์ต่าง ๆ  รวม 48 ราย เป็นเจ้าของโชว์ แหล่งท่องเที่ยวประเภท Attraction และอื่น ๆ พอรวมตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วมีกฎ กติกา ชัดเจน ก็เดินทางมาสร้างความรู้ความเข้าใจกับทางผู้ขายในจีน เพราะการใช้สงครามราคาเป็นกลไกจะยิ่งทำให้ทุกฝ่ายเสียหายและบาดเจ็บทางธุรกิจ ดังนั้นควรจะต้องหยุดแล้วหันไปค้าขายด้วยวิธีถูกต้อง

หลัก ๆ ได้เน้น 1.แนะนำสินค้าทางการท่องเที่ยวในราคามาตรฐานที่ควรจะเสนอขายในจีน 2.กฎกติกาการขายท่องเที่ยวที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว ผู้ขายและผู้ซื้อคือนักท่องเที่ยว เพราะบริษัทเอกชนท่องเที่ยวในจีนเองก็ไม่ต้องการจะขายราคาถูกกว่าความเป็นจริง

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมในการนำชมรมผู้ประกอบการท่องเที่ยวออนไลน์ไปจีนครั้งนี้ คือ 1.การทำข้อตกลงร่วมด้วยกติกาการค้าชัดเจนตามมาตรฐาน เลิกวิธีตัดราคาเกินจริงจนขาดทุนและสร้างปัญหาอื่น ๆ ตามมา 2.ทางผู้ประกอบการจีนยินดีปฏิบัติตามข้อตกลงใหม่ 3.ตกลงเกี่ยวกับโปรดักซ์ท่องเที่ยวที่จะค้าขายกันอย่างถูกต้อง

นับเป็นการเปลี่ยนแปลง “ครั้งสำคัญ” ที่จะพลิกสถานการณ์ทัวร์จีนศูนย์เหรียญให้สูญพันธุ์ลง ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้ผู้ขายทัวร์จีนราคาต่ำกว่ามาตรฐานลดลงเหลือไม่ถึง 6 % ของตลาดรวมทั้งหมด

หลัก ๆ ได้จับมือกันใช้เวทีให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสร้างปรากฎการณ์ยกระดับ “ทัวร์จีนเข้าสู่มาตรฐานคุณภาพการค้าสากล” ก่อเกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย

สำหรับราคามาตรฐานขายแหล่งท่องเที่ยวหรือกิจกรรมเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย นำเสนอในลักษณะตามจริงของแหล่ง เช่น เข้าชมการแสดงหรือโชว์ของสวนสัตว์ที่จะเสนอขายผ่านทางเว็บไซต์ เช่น คนละ 400 บาท แต่ผลปรากฎกว่าทางบริษัทออนไลน์ในจีนกลับนำไปขายแก่นักท่องเที่ยวเหลือแค่คนละ 200 บาท เป็นการขายขาดทุนอย่างแน่นอน

เพราะผู้ประกอบการในจีนมีเป้าหมายแตกต่างกันนอกเหนือจากเรื่องทำธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งต้องการดึงดูดให้คนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์จำนวนมาก แล้วนำฐานข้อมูลนักท่องเที่ยวไปขายต่ออีกทอดหนึ่ง เพื่อเชื่อมการค้าธุรกิจต่อเนื่องขายตรงในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer product ) หรือสร้างตัวเลขเพื่อแต่งตัวธุรกิจเข้าตลาดหุ้น โดยตั้งเป้ารองรับการขาดทุนไว้ปีละหลักร้อยล้านหยวน และมีอีกมากมายหลายเรื่องก็ตาม เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวหากไทยและจีนไม่รวมตัวกันตั้งแต่วันนี้ แล้วปล่อยให้ดำเนินธุรกิจกันอย่างนี้ต่อไปก็จะยิ่งสั่งสมปัญหาเพิ่มขึ้น

ขณะนี้ ททท.กับผู้ประกอบการทั้งไทยและจีนจึงลุกขึ้นมาทำโครงการ “เปลี่ยนแปลงการค้าทัวร์จีนครั้งสำคัญ” ตกลงกันว่าหากพบบริษัทใดยังขายแหล่งท่องเที่ยวไทยถูกกว่ามาตรฐานกำหนดก็ให้เตือนบริษัทนั้น ๆ ปรับแก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง กระทั่งตอนนี้เริ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 2 ฝ่ายรวมตัวกันได้จำนวนมากแล้ว ด้วยการใช้มาตรการหากคู่ค้ายังไม่แก้ไขก็จะเลิกขายกิจกรรมทัวร์ให้แก่บริษัทผู้กระทำผิดเงื่อนไข

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการรวมตัวกัน ทำให้เกิดผลดีอย่างยิ่ง จากการล่อซื้อ ช่วยกันตรวจสอบความเคลื่อนไหวของผู้ที่ยังฝืนกฎ จนกระทั่งเหตุการณ์ดีขึ้นตามลำดับ เพื่อป้องกันราคาสินค้า ภาพลักษณ์ จะเสียหายไปมากกว่านี้ และเป็นจุดบาดเจ็บทางธุรกิจที่สร้างความสูญเสียต่อทั้งอุตสาหกรรมของไทยและจีน

ดังนั้นทางเอกชนจีนเองก็ให้ความร่วมมือกับการรวมตัวเพื่อเปลี่ยนแปลง จึงทำให้ราคาขายโชว์และการเข้าชมสวนสัตว์แหล่งท่องเที่ยว Attraction ไทยทำราคาขายเข้าสู่มาตรฐานปกติแล้ว โดยเลิกบิดเบือนกลไกตลาด ลดการขาดทุนหรือไปเอาเปรียบนักท่องเที่ยว จนทำให้มองไม่เห็นอนาคตนั้น

ขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการบิดเบือนกลไกราคาแล้วนำมาซึ่งเหตุการณ์ไม่พึงพอใจ จึงลดน้อยลงเหลือน้อยมาก จากผลของการปรับจูนความเข้าใจในการทำการค้าท่องเที่ยวให้ตรงกัน

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นทั้งการจัดระเบียบ การรวมกลุ่มป้องกันการตัดราคา และฟื้นฟูภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายท่องเที่ยวเชิงคุณภาพในตลาดจีน

ประโยชน์สำคัญที่จะเกิดขึ้นคือจะทำให้ไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นได้เป้าหมายในปี 2560 และ 2561 เติบโตอีกปีละ 8 % เนื่องจากลดทัวร์จีนศูนย์เหรียญเพิ่มกำลังซื้อคุณภาพ

คุณศรีสุดากล่าวถึงสถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวเอเชีย แปซิฟิก ดาวรุ่งหลัก ๆ ของไทยในอนาคต ก็มี อินเดีย ซึ่งมีสายการบินจากเมืองเพิ่มเส้นทางเข้ามามากขึ้น “เวียดนาม” ก็หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก “มาเลเซีย” เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปประมาณ 2-3 % และที่สัญญาณมากคือ “เกาหลี” ทะลุเกินล้านคน ญี่ปุ่นตามมาติด ๆ รวมถึง สสป.ลาว ล้วนแล้วแต่เป็นตลาดที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทยเกินปีละ  1 ล้านคน

โครงการไฮไลต์ทางการตลาดที่จะเป็นไฮไลต์ดึงกำลังซื้อเข้ามาสร้างรายได้ 1.จัดทำโครงการต่อเนื่องจาก 2.เพิ่มความเข้มข้นของโร้ดโชว์เจาะลึกกลุ่มสนใจท่องเที่ยวเฉพาะ เช่น กอล์ฟ มวย มาราธอน ปั่นจักรยาน เป็น 4 หมวดสินค้ามาแรง 3.เพิ่มโปรดักซ์สินค้าท่องเที่ยวหรูหรา ภายใต้กลยุทธ์ใกล้เคียงแนวทางเดิมแต่เพิ่มความแหลมคมเชิงลึกลงสู่กำลังซื้อมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็ต้องขอความร่วมมือจากเจ้าบ้านที่ดีในทุกจังหวัด ซึ่งต้องช่วยกันเพราะการแข่งขันโดยใช้การท่องเที่ยวเป็นแม่เหล็กดึงเม็ดเงินเข้าประเทศในเวทีโลกมีสูงมาก ดังนั้นจึงต้องขอให้ยึดหลักการสร้าง “มาตรฐานคุณภาพ” ให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นชุมชน ท้องถิ่น ที่มีลักษณะทางกายภาพแตกต่างกัน แต่ก็สามารถทำให้มีคุณภาพได้ ทั้งทางด้านการต้อนรับ และการรักษาดูแลทรัพยากรและทรัพย์สินความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคนเป็นอย่างดี

การตัดสินใจผ่าปมปัญหาใหญ่ “ทัวร์จีน” ด้วยการระดมเอกชนผู้ค้าออนไลน์ที่เคยขายราคาต่ำกว่ามาตรฐานเปลี่ยนแปลงเข้าสู่มาตรฐานใหม่หันมาเน้น “ตลาดคุณภาพ” ของ ททท.ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ครั้งนี้ จึงเป็นปูพรมการค้าท่องเที่ยวเข้าสู่โลกที่จะทำให้อนาคตของประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนสดใส เป็นจุดหมายปลายทางที่หลาย ๆ ชาติ จะต้องพากันจับตาแล้วก้าวเข้ามาร่วมเดินไปแนวทางที่ถูกต้องด้วยกัน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์นำชุมชนหมี่กรอบโจ้โล้โกอินเตอร์”


นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำการบุกเบิกธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty free) ของเมืองไทย ควบคู่กับการเดินหน้าพัฒนาแพกเกจบรรจุภัณฑ์และรสชาติพร้อมกับส่งเสริมการนำสินค้าแบรนด์ไทยชนิดต่าง ๆ มาวางขายในดิวตี้ฟรีสาขาต่าง ๆ ทั้งในเมืองและสนามบินนานาชาติด้วย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ชุมชนภูมิปัญญาท้องถิ่น กระทั่งปัจจุบันแต่ละปีช่วยขายสินค้าของไทยสร้างสัดส่วนรายได้ 20-25 %
ช่วงปี 2560 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้นำผลิตภัณฑ์จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์บรรจุกล่อง และก่อนหน้านี้ก็ได้นำผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวแปรรูปเป็นขนมชนิดต่าง ๆ จากชุมชนแถบจังหวัดนครปฐมมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เฉพาะสินค้าทั้งสองชนิดดังกล่าวมียอดรายได้หมุนเวียนเดือนละหลายล้านบาทขึ้นไป


ล่าสุด “นางบุญมี ศรีสุข” ประธานชมรมตลาดน้ำบางคล้า ผู้นำ “ร้านวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปากน้ำโจ้โล้” จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สั่งผลิตรสชาติพิเศษเฉพาะคือ “หมี่กรอบรสต้มยำกุ้ง” ชนิดแท่งแห่งเดียวในโลก ที่ใช้ชื่อแบรนด์แม่บุญมีและย่าพูล (ทองพูล ศรีวรานันท์)” นำไปวางจำหน่ายในร้านค้าดิวตี้ฟรีสาขาต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมทางด้านอาหารซึ่งสามารถแปรรูปเป็นขนมได้ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ซึ่งตามปกติหากอยู่ในร้านท้องถิ่นจะขายได้เพียงกล่องละ 35-80 บาทขึ้นไป เมื่อนำมาวางขายในดิวตี้ฟรีของคิง เพาเวอร์ ทำให้สร้างมูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

สาเหตุที่ต้องผลิตหมี่กรอบแท่งรสชาติเฉพาะนั้น ได้รับคำแนะนำจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวนานาชาติที่ผ่านเข้าออกประเทศมักจะคุ้นเคยกับชื่อเสียงของต้มยำกุ้งเป็นอย่างดี อีกทั้งในการเดินทางแต่ละครั้งต้องคำนึงถึงความเร่งรีบของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีเวลาเดินหาสินค้าของฝากในดิวตี้ฟรีเฉลี่ยเพียง 15-20 นาที ดังนั้นจึงขอให้ทางร้านวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรปากน้ำโจ้โล้ผลิตสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยจะเป็นประโยชน์ต่อวิสาหกิจชุมชนมากกว่า โดยมียอดส่งจำนวนหลายหมื่นกล่องในร้านดิวตี้ ฟรี คิง เพาเวอร์

ข่าวที่ 2 “ททท.ผนึกแอพWeChat VisitThailandชิงตลาดจีน”


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ต้องเพิ่มช่องทางสื่อสารทางออนไลน์ผ่านทางแอพลิเคชั่น WeChat “VisitThailand” ช่วยเพิ่มช่องทางการให้ข้อมูลข่าวสารแก่นักท่องเที่ยวจีนอย่างมีประสิทธิภาพเพราะเป็นตลาดที่มาไทยมากเป็นอันดับ 1 และมีแนวโน้มจะเป็นกลุ่มเดินทางอิสระ F.I.T.ต้องการสื่อสารโดยสามารถส่งต่อภาพ เสียง และวิดีโอคลิปต่าง ๆ ทางออนไลน์ได้ อย่างรวดเร็วและตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งททท.พร้อมให้บริการข้อมูลกับนักท่องเที่ยวแบบสนทนาทาง Call Center 1672 และเคาน์เตอร์ข่าวสารท่องเที่ยวภาษาจีน

เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยเป็นอันดับ 1 สถิติปี 2559 มีจำนวน 8.8 ล้านคน สร้างรายได้ 4.3 แสนล้านบาท ปี 2560 คาดจะเพิ่มเป็น 9 ล้านคน สร้างรายได้รวม 4.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ประเมินรายได้ท่องเที่ยวจากตลาดจีนในไทยครองส่วนแบ่งสูงถึง 26.6% ของทั้งหมด

ขณะที่ China Internet Network Information Center  ระบุคนจีนใช้แอพลิเคชั่น WeChat รวมกว่า 889 ล้านคน เมื่อ 2559 มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 731 ล้านคน หรือ 53.1% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือเพิ่มขึ้นภายในเวลาข้ามปีจากปี 2558 มีราว 620 ล้านคน ปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 695 ล้านคน

ข่าวที่ 3 “บูมวิลเลจเอ็กโพเรอร์7แหล่งท่องเที่ยวเยาวชน”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. ให้ความสำคัญกับภารกิจในการยกระดับและเพิ่มมูลค่าทางการท่องเที่ยวแก่ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ปี 2560 จึงได้จัดทำโครงการ The Village Explorer เปิดตัว 7 ชุมชนต้นแบบท่องเที่ยวสำหรับเด็กและเยาวชน ในรูปแบบ School & Family outing ส่งเสริมให้โรงเรียนและครอบครัวคนรุ่นใหม่พาเด็ก ๆ ไปทัศนศึกษาหรือออกค่ายในชุมชนท่องเที่ยว กระแสตอบรับอยู่ในเกณฑ์ดีในการสร้างประสบการณ์อย่างลึกซึ้งแก่เยาวชน โดยได้นำร่องเปิดให้เข้าไปใช้ชีวิตท่องเที่ยว 7 แห่ง ได้แก่
       
1. ศูนย์การเรียนรู้ตำบลกระแชง อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

2. ชุมชนบ้านบางพลับ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
3. ชุมชนบ้านน้ำทรัพย์ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          4. ศูนย์การเรียนรู้บ้านทุ่งกระโปรง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
          5. บุไทรโฮมสเตย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
          6. ศูนย์การเรียนรู้มหาวิทยาลัยบ้านนอกโฮมสเตย์บ้านจำรุง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
          7. โฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

ข่าวที่ 4 “บางจากเปิดแล้วฮับนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว”

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) ได้จัดงาน Breaking the Green Ceiling Exclusive Seminar เปิดสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ Bangchak Initiative and Innovation Center หรือ BiiC โดยร่วมมือกับเครือข่ายและหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศน์สาหรับนวัตกรรมสีเขียว (Green Ecosystem) ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมต่างๆ ที่สนับสนุนการก้าวกระโดดของพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ นามาต่อยอดธุรกิจให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (Breakthrough) มุ่งใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการใช้วัสดุหมุนเวียน ย่อยสลายได้ ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้าง S-curve ใหม่ที่ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและสังคมไทย

อีกทั้งสถาบัน BiiC ยังได้พัฒนา Live Lab ขึ้นเป็นพื้นที่จัดงาน Startup Pitching Event ระดมสมอง แลกเปลี่ยนไอเดียนวัตกรรมใหม่ๆ และเป็นจุดเริ่มต้นความร่วมมือระหว่าง Startup และหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากในไทยและต่างประเทศ  ตามแนวทางการทำธุรกิจของสถาบัน BiiC ร่วมกับ Startup เป็นไปได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การเข้าลงทุนเพื่อเป็นเงินลงทุนระยะเริ่มต้น (Seed Money) หรือ กองทุนร่วมทุน (Venture Fund) แล้วแต่ความเหมาะสมและแนวทางการพัฒนาธุรกิจของ Startup แต่ละราย

ในส่วนของการวิจัยและพัฒนา (R&D) มีการให้ทุนวิจัยแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนาไปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาสิทธิบัตรของเทคโนโลยีด้านนวัตกรรมสีเขียว ให้สามารถนามาใช้งานได้ในเชิงอุตสาหกรรม เช่น ร่วมมือกับคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อนาผลงานวิจัยชุดปรับองศาของแผง เซลล์แสงอาทิตย์ตามการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ และชุดระบบแจ้งเตือนการล้างแผงเซลล์แสงอาทิตย์ซึ่งมีต้นทุนต่ากว่าเทคโนโลยีที่ใช้โดยทั่วไปมาใช้กับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท บางจากฯ และมีการวิจัยด้านสาหร่ายเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูง

 ข่าวที่ 6 “ธนะศักดิ์นำทัพบูมปีท่องเที่ยวโกย3ล้านล้าน”


พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีนโยบายทำ “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ อย่างยั่งยืน : AMAZING THAILAND YEAR 2018” ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 – 1 มกราคม 2562 โดยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 ได้เปิดตัวโครงการด้วยการผนึกความร่วมมือกับทุกฝ่าย แสดงพลังครั้งใหญ่ของประเทศไทย ในการนำโปรดักซ์มาบูรณาการทำโปรโมชั่นผลักดันให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 2561 มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 10 % หรือคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท เพื่อจะกระจายลงเม็ดเงินลงสู่ชุมชนท้องถิ่น ซึ่งได้เดินสายเปิดอบรมโครงการเจ้าบ้านที่ดีต่อเนื่องทุกภาคทั่วประเทศ โดยจะใช้งบประมาณตามหน้าตักทั้งของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ได้รับจัดสรรมาทำอย่างเต็มที่โดยจะไม่ขอเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลัง

ส่วนหน่วยงานที่เข้าร่วมผลักดัน “ปีการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ อย่างยั่งยืน” นั้น มีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นแกนหลัก ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.”
อีกทั้งผู้นำตัวแทนภาคเอกชนสาขาๆ คือ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมนำเที่ยวในประเทศ สมาคมโรงแรมไทย สมาพันธุ์อัญมณีและเครื่องประดับ (นายสมชาย พรจินดารักษ์) กลุ่มสายการบิน ได้แก่ การบินไทย ไทยแอร์ เอเชีย นกแอร์ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า อาทิ เซ็นทรัล กรุ๊ป เดอะมอลล์ กรุ๊ป โชว์ดีซี


@ กลุ่มการบินแถวหน้าพร้อมใจปลุกตลาดไทย-เทศ

“ทอท.” ประกาศเปิดพื้นที่ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลทั้ง 6 แห่ง สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต  หาดใหญ่ ติดโลโก้ส่งเสริมปีท่องเที่ยวเผยแพร่ทุกสนามบิน
“การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ จัดเตรียมสนับสนุนงบประมาณจัดทำโครงการปีท่องเที่ยว ควบคู่กระตุ้นนักท่องเที่ยวเดินทางโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว ที่จะมีตั๋วโปรโมชั่นพิเศษ แพกเกจฟรีตั๋วเดินทาง ห้องพัก รถรับส่ง เสริมกับ Thailand Destination Showcase ส่วนการประชาสัมพันธ์จะนำไปอยู่ใน inflight Megazine และออนไลน์
“ไทย แอร์เอเชีย” เน้นโปรโมชั่นทยอยออกมาลดไม่ต่ำกว่า 50 % และประชาสัมพันธ์การขายโดยใช้ชื่อ “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ อย่างยั่งยืน” อีกทั้งยังจะแร็บโฆษณาปีท่องเที่ยวบนลำตัวเครื่องบินลำที่ 4


“นกแอร์” จะนำโลโก้ และจัดทำโปรโมชั่น และกิจกรรมท่องเที่ยวในประเทศทั่วไทย และเปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ร่วมทำกิจกรรมพิเศษกับนกแอร์เพื่อสื่อถึงปีท่องเที่ยวฯ อย่างยั่งยืน

@ห้างสรรพสินค้าโชว์เหนือเครือข่ายสมาชิก

“โชว์ ดีซี” จะเชื่อมโยงบริการขายทางด้านการเดินทางทางบก-มีรถบัสฟรีโดยติดโลโก้ปีท่องเที่ยวนำนักท่องเที่ยวไปยังจุดสำคัญทั่วกรุงเทพฯ ต่อกับทางน้ำ-เรือเจ้าพระยา สนับสนุนไทยเป็น Tourism Hub จุดประกายสร้างตลาดทัวร์คุณภาพ และจัดแสดงโชว์อย่างองค์บากในราคาถูกมาก ๆ

“เดอะ มอลล์ กรุ๊ป” จะส่งเสริมโครงการ Gastronomy Live จัดมหกรรมงานอาหารที่มีกว่า 100 งาน และการสร้างความเชื่อมั่นผ่านโซเชียล มีเดีย และการเป็นเจ้าภาพที่ดีจะนำเสนอข้อดีของทุกท้องถิ่นผ่านวิดีโอ

“เซ็นทรัล กรุ๊ป” ซึ่งมีทั้งร้านค้าปลีกและโรงแรม ย้ำว่ามีสมาชิก 1 การ์ด และเซ็นทรัลการ์ด ฐานข้อมูลเกือบ 10 ล้านใบ อีกทั้งยังมีสาขาในอิตาลี เยอรมัน เดนมาร์ก เวียดนาม ทุกสาขาจะนำโปรแกรมปีท่องเที่ยวฯ ไปใส่ให้เต็มที่

@5พลังสมาคมเสาหลักอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เน้นเรื่องให้สมาชิกสภาฯ ทุ่มเททำโปรแกรมท่องเที่ยวชุมชน จัดงาน เที่ยวทั่วไทย เก๋ไก๋ ทุกชุมชน 20-24 พฤศจิกายน นี้ เชิญผู้ประกอบการทัวร์อินบาวนด์กับเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นมาแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำไปขายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวคนไทยและนานาชาติ

“ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ” นายกสมาคมโรงแรมไทย ประกาศให้สมาชิกโรงแรมทั่วประเทศจัดโปรโมชั่นราคาห้องพักและบริการต่าง ๆ โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง เมษายน-พฤษภาคม และกรกฎาคม-พฤศจิกายน เพื่อมอบส่วนลดห้องพัก และห้องอาหาร รวมถึงสปาโรงแรม และอัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังซื้อทุกรูปแบบ

“มิ่งขวัญ เมธเมาลี” เลขาสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) พุ่งเป้าทำโครงการ 1 Village 1 Operators โดยจะนำสินค้าโอท็อป อาหาร ของที่ระลึก มาแนะนำแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และในงาน World Travel Mart 2017 ก็ได้ไปเช่าบูธเปิดสินค้าด้วยกัน

@แต่งไทยปีท่องเที่ยวได้ลดทั้งปี 50 %

สมาคมท่องเที่ยวในประเทศ ประกาศทำไฮไลต์ให้นักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยไปท่องเที่ยวในประเทศจะได้รับส่วนลด 50 % แล้วจะดึงกลุ่มผู้ประกอบการรถบัสเข้ามาร่วมสร้างพลังการขายทัวร์ในประเทศด้วย

“สมชาย พรจินดารักษ์” สมาพันธ์อัญมณีและเครื่องประดับ พร้อมจะเข้าร่วมเพิ่มรายได้ ตามสถิติปีที่ผ่านมาสามารถส่งออกอัญมณีได้ถึง 430,000 ล้านบาท และแนวโน้มปี 2561 จะส่งออกให้ได้ถึง 480,000 ล้านบาท ขณะนี้ไทยแซงหน้าอิตาลีไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งปีท่องเที่ยวฯ ก็ทำขึ้นเพื่อสนองนโยบายจัดกิจกรรมเพิ่มรายได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ทางสมาพันธ์ฯ จะเน้นการจัดทำใบรับรองมาตรฐานของอัญมณีที่นักท่องเที่ยวซื้อจากเมืองไทย สร้างความเชื่อมั่นแก่ทั่วโลก

สมาคมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ตอกย้ำการระดมสมาชิกให้ร่วมกันทำโปรแกรมขายท่องเที่ยววิถีชุมชน สร้างความเข้มแข็งทางด้านสังคม วัฒนธรรม และรักษาสิ่งแวดล้อม ดูแลรักษาให้ครบทุกส่วน

@รัฐบาลทุ่มคัดโปรดักซ์15ประเภทดูดเงิน3ล้านล้าน

ทั้งนี้รัฐบาลได้ประกาศจัดหมวดสินค้าเพื่อโปรโมต “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” แบ่งออกเป็น 15 ประเภท ประกอบด้วย 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 โปรดักซ์หลัก 7 ประเภท ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) 2.การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)   3. การท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) 4.การท่องเที่ยวเพื่อการแต่งงานและการฮันนีมูน (Wedding & Honeymoon Tourism) 5. การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Tourism) 6. การท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism) 7.การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ (Leisure Destination)

ส่วนที่ 2 โปรดักซ์เสริม 8 ประเภท ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Green Tourism)  2.การท่องเที่ยวยามค่ำคืน (Night Tourism)  3. การท่องเที่ยวในธุรกิจไมซ์ (MICE Tourism)  4.การจัดงานแสดงสินค้า (Trade Fair)

5. การจัดกิจกรรมการตลาดระหว่างธุรกิจกับธุรกิจที่ต่างประเทศ (B2B Marketing Activity Aboard) 6.การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว (Logistics) 7.การเป็นเจ้าบ้านที่ดี (Human Resource Development) และ 8.การจัดกิจกรรมเพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Country Relationships)

ช่วงที่ 2 ขึ้นดอยไปเรียนรู้และสานต่อที่พ่อสอนไว้ใน “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย แม่ฮ่องสอน” ตามด้วยการสังเกตสัญญาณเตือนโรคต่อมหมวกไตล้า และข่าวการบินไทยดิ้นชิงตลาดจน ขณะที่คมนาคมเพิ่งตื่นเสนอของบปรับปรุงสนามบินทั่วอีสานกว่า 8,000 ล้านบาท และงาน Food & HOTEL Thailand 2017 จะสร้างผลงานทำเงินเข้าประเทศกว่า 4,500 ล้านบาท

@ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย

ความเงียบสงบของในอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอีกสถานที่ตั้งของ “โครงการหลวงแม่ลาน้อย” โครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 จัดตั้งมาด้วยพระราชทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อช่วยเหลือพัฒนาอาชีพให้แก่ชาวเขาในพื้นที่

โครงการนี้ตั้งอยู่ในท่ามกลางทิวทัศน์สวยงามของขุนเขาและวิวตลอดสองข้างทางมีทั้งทุ่งนาขั้นบันได ไร่กระหล่ำปลี แปลงผักปลอดสารพิษของชาวเขาเขียวขจีตลอดทั้งปีที่มีเรื่องราวการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและพื้นที่ศึกษาเรียนรู้การเกษตรแห่งสำคัญของภาคเหนือ

โดย “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย” ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่ออบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีและส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้และทักษะการประกอบอาชีพที่เหมาะสม พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความเข้มแข็งของชุมชน รวมถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เหมาะที่องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนจะนำพนักงานไปเรียนรู้และร่วมทำ  “กิจกรรมศึกษาดูงาน” ดูการทำหัตถกรรมเครื่องเงิน การสาธิตปลูกพืชผักภายใต้โรงเรือนไม้ไผ่ ได้แก่ เบบี้ฮ่องเต้ หรือ จะไปชมแปลงกาแฟอาราบิก้า พร้อมชิมกาแฟสดรสดี ผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก “บ้านห้วยห้อม” สวนกาแฟที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP อีกทั้งยังเปิดเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ด้วย หรือจะไปชมการสาธิตทอผ้าขนแกะล้วน ทอผ้าขนแกะผสมฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ และที่ขาดไม่ได้คือ การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของท้องทุ่ง ได้รับประทานพืชผักปลอดสารพิษ ที่ดีต่อสุขภาพ

ส่วน “กิจกรรมสันทนาการ” คือวัฒนธรรมประเพณีการไหว้ผีหมู่บ้าน จะจัดในช่วงมิถุนายนของทุกปี เป็นพิธีกรรมเซ่นไหว้เจ้าที่เพื่อการเกษตรให้ผลผลิตที่ดี เริ่มจากการเพาะปลูกไปจนถึงเก็บเกี่ยว การเรียกขวัญและผูกด้ายขวัญ รวมถึงการเดินเที่ยว น้ำตกทีราชันย์ น้ำตกกลาง สูง 3 ชั้น หากจากศูนย์ราว 6 กม. น้ำตกทีลอเล สูง 5 ชั้น อยู่ห่างจากศูนย์ฯ 15 กม.เหมาะจะเดินชมพรรณไม้ป่าและธรรมชาติ

ภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย มี “สถานที่พัก” ให้เลือกทั้ง บ้านพักรองรับได้ 2 หลัง พักเป็นหมู่คณะได้หลังละ 20 คน ใน “หมู่บ้านห้วยห้อม” มีบริการโฮมสเตย์ 5 หลัง รับนักท่องเที่ยวราว 20 คน ราคาค่าพักคืนละ 100 บาท/คน “บ้านห้วยผึ้ง” ราคาพักคืนละ 200 บาท/คน “บ้าน A เฟรม” ราคาคืนละ 500 บาท/คน นอกจากนี้ยังมี “สถานที่กางเต็นท์” ของศูนย์ฯ ราคาหลังละ 100 บาท/คน

สำหรับร้านอาหารก็มี “ครัวสะเบื๊อก” ไว้บริการอาหารจากวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่นและเป็นเมนูอาหารรสชาติถูกปากผู้ที่เข้าไปใช้บริการทุกกลุ่มวัย


สนใจเดินทางไปศึกษาดูงานและสัมผัสธรรมชาติ ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน สอบถามได้ที่ 081-784-9869, 083-324-3062

@สัญญาณเตือนต่อมหมวกไตล้าตื่นยากหลังกลางวันบ่อย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตื่นยาก และแอบงีบหลับตอนกลางวันอยู่บ่อยครั้งเพราะความอ่อนเพลีย รู้ไว้ว่าอาจไม่ได้เป็นเพราะคุณขี้เกียจ แต่กำลังเสพติดความเครียด ที่ต้องเจอในแต่ละวัน จนทำให้ ภาวะต่อมหมวกไตล้า จนมีอาการแสดงออกอย่างที่เห็น ลองสังเกตตัวเองว่า กำลัง ‘เสพติด’ ความเครียด อยู่หรือไม่
เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดไม่ได้มาจากปัญหาครอบครัว และเรื่องงานเท่านั้น ยังมีสิ่งเร้าที่เข้ามากระตุ้นเพียงเล็กๆ น้อยๆ จนเกิดอาการเสพติดความเครียด (Adrenal addict)

พญ.ภาวิณี มณีไพโรจน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ศูนย์ Royal Life Anti-aging Center โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า คนทั่วไปจะเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว เพราะในระยะแรก ร่างกายมีความทนทานสูงต่อกับความเครียด ที่เข้ามาในแต่ละวัน แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็ล้มป่วย ติดเชื้อเฉียบพลันจนต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์วินิจฉัยอาการของโรคนี้ว่าเป็น ‘ภาวะต่อมหมวกไตล้า หรือ ‘Adrenal fatigue’ ที่เกิดจากอาการผิดปกติของร่างกายอย่างหนึ่งที่มี ความเครียดเรื้อรัง (Chronic stress) เป็นตัวกระตุ้น

 อาการที่ปรากฎชัดเจนของภาวะต่อมหมวกไตล้า คือ อาการขี้เกียจตื่นนอนตอนเช้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง อยากงีบหลับ ช่วงกลางวัน ง่วงแต่นอนไม่หลับ มีอาการวิงเวียน ศีรษะ หน้ามืด เวลาเปลี่ยนท่าทาง (ลุก-นั่ง) อยากของหวาน, ของเค็ม ในขณะที่บางรายปัสสาวะบ่อยผิดปกติ ปวดประจำเดือนบ่อย เป็นภูมิแพ้กำเริบบ่อยๆ ผิวแห้งและแพ้ง่าย ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก เครียดซึมเศร้า คุมอาหาร ออกกำลังกายหนักเป็นประจำแต่น้ำหนักไม่ลดลง เป็นต้น

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บินไทยเพิ่งตื่นเข้าAlitripชิงตลาดจีน”


นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดเป็นประธานการประชุมเปิดตัว “การบินไทย Online Flagship Store” บน Alitrip ในตลาดดิจิทัลที่มีชื่อเสียงระดับโลก Alibaba Group โดยวางเป้าหมายในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ด้วยการเปิดจำหน่ายบัตรโดยสารออนไลน์บนแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ อาลีทริป (Alitrip)
  อีกทั้งการบินไทยยังมีแผนขยายช่องทางการขายออนไลน์โดยการเปิด Online Flagship Store ในลักษณะเดียวกันนี้บนแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมในจีน อันเป็นการสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service ) สร้างรายได้ที่มากกว่าสายการบินตลาดเดียวกัน

ข่าวที่สอง “บินไทยจับมือTMBทำตั๋วโปร3ต่อบินเวียนนา”


การบินไทย ผนึกบัตรเครดิต TMB กระตุ้นการขายเส้นทางบินที่กลับมาเปิดใหม่ตรง “กรุงเทพ-เวียนนา” ออสเตรีย ราคาพิเศษสุดตั้งแต่วันนี้– 31 ตุลาคม 2560 เพียงลูกค้าชำระค่าบัตรโดยสารด้วยบัตรเครดิต TMB และสำรองที่นั่งผ่านทาง http://www.thaiairways. รับถึง 3 ต่อ

ต่อที่ 1 รับทันทีส่วนลด 3,000 บาท/ ที่นั่ง สำหรับชั้นประหยัด 800 ที่นั่งและส่วนลด 5,000 บาท/ ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ  100 ที่นั่ง สงวนสิทธิ์ 2 ที่นั่ง/ บัตร ตลอดรายการ

ต่อที่ 2 บัตรเครดิต TMB มีบริการแบ่งจ่าย TMB So Good 0% 3 เดือน เพื่อให้ลูกค้าชิลล์ได้กับการแบ่งจ่ายสบายๆ

ต่อที่ 3 ลูกค้า 3 คนแรกที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต TMB ผ่านเว็บไซต์ www.thaiairways.com สูงสุดในช่วงแคมเปญ รับบัตรโดยสาร รางวัลละ 2 ที่นั่ง บินสู่ยุโรป มูลค่ารางวัลละ 120,000 บาท

สอบถามรายละเอียดได้ที่  www.tmbbank.com

ข่าวที่สาม “ชงใช้งบ8.1พันล้านปรับใหญ่5สนามบินอีสาน”

นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ได้ทำแผนเสนองบประมาณใหม่ 8,100 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ลงทุนพัฒนาสนามบินในภาคอีสาน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่อาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV กัมพูชา-เวียดนาม-สสป.ลาว-เมียนมา ซึ่งตอนนี้มีผู้โดยสารเข้าออกสนามบินในอีสานปีละ 7 ล้านคน คิดเป็น 40% โดยมีแผนงานพัฒนาสนามบินในอีสาน 5 แห่ง ดังนี้

1.ขอนแก่น วงเงิน 2,600 ล้าน ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ อาคารจอดรถรองรับ 1,000 คัน ขยายลานจอดรับเครื่องบินเพิ่ม 50% เพื่อรองรับเพิ่มเป็นปีละ 5 ล้านคน จากปัจจุบัน 2.5 ล้านคน

ปัจจุบันขอนแก่นมีผู้ให้บริการ 4 สายการบิน คือ  ไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ ไทยไลอ้อนแอร์ วันละรวมทั้งหมด 38 เที่ยว บริการผู้โดยสารอยู่ที่ปีละ1.5 ล้านคน คาดการณ์สิ้นปี 2560 จะทำได้ 1.8 ล้านคน

 2.สนามบินอุดรธานี วงเงิน 2,000 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารจอดรถ 1,000 คัน ขยายรันเวย์ เพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารเป็นปีละ 7.4 ล้านคน จาก 2.3 ล้านคน

3. สนามบินอุบลราชธานี วงเงิน 2,000 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และอาคารจอดรถ 800 คัน รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 5 ล้านคน จาก 2.5 ล้านคน

4. สนามบินสกลนคร วงเงิน 900 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ขยายรันเวย์และหลุมจอด รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 3.4 ล้านคน จาก 8 แสนคน

5.สนามบินเลย วงเงิน 600 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่และขยายรันเวย์ รองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 1.7 ล้านคน จากเดิม 5 แสนคน


ข่าวที่สี่ “ไทยได้Food&Hotelsปั๊มเงินเพิ่ม4.5พันล้าน”

นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูบีเอ็ม บีอีเอส จำกัด กล่าวว่า ผลสรุปการจัด Food & Hotels Thailand ฟ2017 มหกรรมจัดแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและบริการพรีเมียมนานาชาติระดับภูมิภาค เมื่อวันที่ 6-9 ก.ย. 2560 ใช้พื้นที่จัดแสดงงานกว่า 18,000 ตรม. ในศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ต้อนรับนักธุรกิจชาวไทยและต่างประเทศสนใจเข้าชมงานกว่า 30,000 คน และ สร้างมูลค่าการค้าและการเจรจาธุรกิจรวมกว่า 4,500 ล้านบาท

สำหรับการจัดงานครั้งนี้ในปี 2560 ,uความพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากครบรอบ 25 ปี จึงเพิ่มพื้นที่อีก 12% และมีจำนวนผู้เข้าร่วมจัดแสดงงานเพิ่มขึ้น 18% หรือกว่า 390 ราย จากทั่วโลก 30 ประเทศ โดยมี 7 พาวิลเลี่ยนใหญ่ จากเบลเยี่ยม จีน เยอรมัน ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ไต้หวัน และ สหรัฐอเมริกา นำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาจัดแสดงและเจรจาซื้อขายกันอย่างคับคั่ง

ติดตามรายการได้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์  ทาง  FM 97.0  เวลา 11.00-12.00 น.

เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน
ผู้ดำเนินรายการ และบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai