ททท.ปลุกเวียดนามหอบเงินทัวร์ไทยโต2.5หมื่นล้าน
ไทยแลนด์เฟสต์ 2017ในฮานอยยอดทะลุ 2 แสนคน
ชูเที่ยวเชิงกีฬามวยไทยฮ็อตขายทริปละ3หมื่นบาท
คิงเพาเวอร์คัพเปิดฤดูกาลคัดบอลเด็กต.ค.-ธ.ค.นี้
ผุด2แคมเปญโกยญี่ปุ่นมาไทยพ่วงยาวโอลิมปิก’63
บางจากนำโอท็อปชุมชน3ผลิตภัณฑ์ขายในSPAR
เสน่ห์ใหม่ในชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต2จุดมหัศจรรย์
Q4สภาทัวร์หวังพึ่งรายได้จีนพุ่ง-ไทยเศรษฐกิจซึม
รร.ดิโอกุระรังสรรเมนูฝรั่งเศสหนุนเกษตรยั่งยืน
เสิร์ฟสารพัดเมนูเด็ดเห็ดทรัฟเฟิลที่NO.43 เคปเฮาส์
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังมือถือเลือก FM 97.0 อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsaen ฟังทาง youtube พิมพ์ รวยด้วยข่าว 97.0-วัน/เดือน/ปี #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand
ช่วงที่ 1 คุณนภสร ค้าขาย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ สาธารณรัฐเวียดนาม ให้สัมภาษณ์ข้ามประเทศมาอัพเดทสถานการณ์ตลาดเวียดนามปี 2560 ต่อเนื่องต้อนรับปีงบประมาณใหม่ 2561 เริ่มตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
“คุณนภสร ค้าขาย” เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานโฮจิมินห์ ดูแลพื้นที่การตลาดท่องเที่ยวในสาธารณรัฐเวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว ซึ่งทั้ง 3 ประเทศล้วนเป็นตลาดดาวรุ่งที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะ เวียดนามกับกัมพูชาเติบโตชัดเจนเกินกว่า 10 % ขณะนี้เวียดนามมีประชากรมากถึง 96 ล้านคน ในช่วงปีที่ผ่านมาเดินทางเข้าไปเที่ยวเมืองไทย 860,000 คน นับได้ว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เพียง 7.4 แสนคน พร้อมทั้งสร้างรายได้ 25,000 ล้านบาท แต่พอเวลาผ่านมาเพียงปีเดียวทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากตลาดเวียดนามเข้าเมืองไทยกลับเติบโตเกินกว่า 12 % สะท้อนถึงแนวโน้มสดใสเนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศไทย การเดินทางสะดวกรวดเร็ว
ปี 2561 ททท.โฮจิมินห์ วางกลยุทธ์พุ่งเป้าหมายหลักในการทำตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มกำลังซื้อกระเป๋าหนัก ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนเวียดนามเข้าเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 6 % จะสร้างรายได้เพิ่มให้ถึง 10 %
โดยการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวที่เวียดนามนิยมมาไทย ขณะนี้ยังคงเป็นกรุงเทพฯ พัทยา ปี 2561 จะเพิ่มความเข้มข้นในเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว 3 กลุ่ม นำเสนอใหม่ ๆ เพื่อให้กลุ่มเดินทางครั้งแรกและเที่ยวซ้ำมาเที่ยวต่อเนื่องเพิ่มจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว กระจายสู่พื้นที่ หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) เขาใหญ่ (นครราชสีมา) ราชบุรี เป็นพื้นที่รอบปริมณฑล กิจกรรมโดนใจเวียดนามชอบมากคือช็อปปิ้ง เพราะสินค้าไทยมีคุณภาพ เสื้อผ้า เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์
ระหว่างวันที่ 30 กันยายน- 1 ตุลาคม 2560 ททท.โฮจิมินห์ ได้ร่วมกับสถานฑูตไทย และทีม ไทยแลนด์ ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จัดงาน Thailand Fest 2017 นำเสนอความเป็นไทยซึ่งเป็นจุดแข็งอันโดดเด่นทางด้าน วัฒนธรรม ประเพณี อาหารไทย การแสดงศิลปะไทย โดยผนวกไฮไลต์เข้าไว้ด้วยคือ ลงทุนทำ “เวทีแสดงศิลปะการป้องกันแบบมวยไทย” จัดเต็มรูปแบบ เพื่อสอนศิลปะมวยไทยแบบง่าย ๆ แก่ชาวเวียดนาม เพราะคนเวียดนามชอบมากถึงขนาดทุ่มทุนเปิดค่ายมวยไทยในเวียดนามขณะนี้มากกว่า 20 ค่าย ซึ่งมีแฟนคลับกว่า 100,000 คน
ททท.จึงได้คุยกับทางค่ายมวยจัดโปรแกรม SPORT TOURISM นำไปชมมวยไทย เรียนมวยไทย ราคาแพกเกจจะประมาณ 5 วัน 4 คืน เที่ยวกรุงเทพฯ พัทยา ชมมวยไทย ดูแหล่งท่องเที่ยว เฉลี่ยทริปละ 28,000-30,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก กิจกรรมเรียนมวยไทย 1 วัน
นายมานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย เวียดนาม เปิดเผยว่า ในฐานะเจ้าภาพนำ ททท.และทีม ไทยแลนด์ จัดงาน Thailand Fest 2017 ในบริเวณสวนสาธารณะ “ทั้ง เญิด” ใจกลางเมือง ตลอดการจัดงาน 2 วันได้รับความสนใจจากชาวเวียดนามและต่างชาติที่พำนักอยู่ในเวียดนามเกิน 200,000 คน โดยเข้ามาชมและซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารไทย ผ้าไทยย้อมครามสกลนคร ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และไฮไลต์การสาธิตและแข่งขันชกมวยไทยที่ ททท.นำเข้ามาสนับสนุนตลอดการจัดงาน
ส่วน “อาหารไทย” ชาวเวียดนามชื่นชอบมาก โดยเฉพาะอาหารสตรีทฟู้ดพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ชอบกินผัดไทย ส้มตำ แกงเขียวหวาน ข้าวมันไก่ ปกติแล้วอาหารเวียดนามก็จะคล้ายกันกับไทยซึ่งเข้มข้น หวาน เผ็ด กลมกล่อม มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ขณะเดียวกันก็จะส่งเสริม “สินค้า MADE IN THAILAND” ซึ่งครองใจตลาดนักช้อปและประชากรเวียดนามส่วนใหญ่ ททท.ได้ร่วมกับกรมการค้า กระทรวงการต่างประเทศ จัดงาน TOP THAI BRAND เป็นประจำทุกปี คัดสรรนำเสนอสินค้าไทยที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อุปกรณ์ทำครัว เครื่องใช้ในบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นสินค้านำเข้าไปยังเวียดนามระดับเกรดเอ รวมทั้งนำเสนอท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สปาและนวดไทย เรื่อยไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล โดยทำงานร่วมกันเป็นทีม จึงมีผลตอบรับดีมาก ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวเวียดนามเข้าเมืองไทยเติบโตทั้งจำนวนและรายได้ถึงสองหลัก
แนวโน้มกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวเวียดนามปี 2561 ยังมาแรงต่อเนื่อง ได้แก่ คนรุ่นใหม่ซึ่งนิยมใช้ออนไลน์กับภาษาอังกฤษได้ดี ททท.วางแผนรุกเจาะกลุ่มคนหนุ่มสาววัยเพิ่งเริ่มทำงานเรียกว่ากลุ่ม White Colla และกลุ่มพนักงานต่างชาติที่พำนักอยู่ในเวียดนาม (Expat) โดยส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางพักผ่อนในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หรือ weekend destination สร้างการรับรู้ในทุกช่องทางให้คนเวียดนามและต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศนี้ ต้องคิดถึงและเลือกเที่ยวเมืองไทยก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยการเลือกซื้อตั๋ว ห้องพัก โปรแกรมทัวร์ ผ่านออนไลน์ เป็นกลยุทธ์เพิ่มความถี่ในการเดินทาง กลุ่มเหล่านี้นิยมออกเดินทางไปหาประสบการณ์แปลกใหม่ซึ่งตรงเป้าหมายการทำตลาดของ ททท.ในยุคปัจจุบัน
สำหรับ “การเดินทางเข้าถึง” ระหว่างไทยกับเวียดนาม เป็นปัจจัยสำคัญ ด้วยความได้เปรียบเรื่องระยะทางการบินเพียง 1 ชั่วโมงเศษ มีเที่ยวบินตรงจากเมืองต่าง ๆ ในเวียดนามเข้าประเทศไทยกว่า 200 เที่ยวต่อสัปดาห์ ทั้งการบินไทย ไทยแอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยไลออนแอร์ นอกจากนี้ยังมี เวียดนามแอร์ไลน์ อาหรับเอมิเรตส์แอร์ไลน์ บินจากโฮจิมินห์ ฮานอย ดานัง ทุกจุดบินล้วนมุ่งสู่ประเทศไทยทั้งสิ้น
ล่าสุดมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำของเวียดนามคือ “เจ็ตสตาร์ แปซิฟิก” โลว์คอสต์แอร์ไลน์ จะพัฒนาเปิดบริการบินตรงแบบประจำ เส้นทางไป-กลับ กว่างบินห์-เชียงใหม่ เริ่มบินช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียง 1.10 ชั่วโมง สำหรับเมืองกว่างบินห์มีถ้ำจำนวนมากหนึ่งในจำนวนนี้คือถ้ำซินด่องขนาดใหญ่ของโลกก็อยู่เมืองนี้ด้วย จึงเป็นช่องทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเข้าสู่เมืองหลักและเมืองรองของไทยควบคู่กันได้ด้วย
ในช่วงปลายตุลาคม 2560 เป็นต้นไป สายการบิน “บางกอกแอร์เวย์ส” เตรียมเปิดบินตรงเพิ่มเส้นทางใหม่ คือ กรุงเทพฯ-เกาะฟูกว๊วก อยู่ทางตอนใต้ของเวียดนาม จากนั้นปลายเดือนมีนาคมปี 2561 จะเพิ่มอีกเส้นทาง ไป-กลับระหว่าง ฮานอย-เชียงใหม่ วันละ 1 เที่ยว
ขณะเดียวกัน ททท.โฮจิมินห์ ก็ได้เร่งทำโครงข่ายเชื่อมโยงท่องเที่ยวกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา สสป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ร่วมมือกันต่อเนื่องมา 3 ปี เพื่อทำให้เป็น One Destination เสนอทางให้กลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศที่สามมาเที่ยวไทยและเพื่อนบ้าน ครั้งแรกได้ร่วมมือกันเชิญเอเย่นต์ทางยุโรป กับแปซิฟิกใต้ ออสเตรเลีย มาเยือน 3 ประเทศ ไปเรียบร้อยแล้ว แนวโน้มมีสัญญาณที่ดี
รวมถึงล่าสุดจัดทริป ไทย กัมพูชา โฮจิมินห์ต่อไปยังเกาะฟูกว๊วก จัดเป็นปีที่ 3 ต่อจากเมื่อ 2 ปีก่อนขึ้นไปทางเส้นภาคเหนือ สปป.ลาว เวียดนามตอนเหนือ และเมืองซาปา กับภาคกลางผ่าน สปป.ลาว กัมพูชา ผ่านภาคกลางของเวียดนาม เข้าสู่ไทย ทำให้นักท่องเที่ยวนานาชาติเพิ่มมากขึ้นในกลุ่ม AEC ได้ท่องเที่ยวเป็นวงกลมระหว่าง ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม
ปี 2561 เตรียมสร้างไฮไลต์โดยเน้นปีการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน กลุ่ม 3 ประเทศชื่นชอบในหมวดหลัก ๆ คือ วัฒนธรรมประเพณี สงกรานต์ ลอยกระทง มวยไทย อาหารไทย อาจจะมีวิถีชีวิตใกล้เคียงกัน
ก้าวใหม่ของ ททท.โฮจิมินห์เน้นรุกหนักในการสร้างไทยเป็นประเทศเชื่อมโยงเครือข่ายการท่องเที่ยวกับประชาคมอาเซียนในแถบอินโดจีนให้เกิดเป็นรูปธรรม เกื้อกูลประโยชน์แบบวิน วิน ไปพร้อม ๆ กัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์คัพชูมาตรฐานใหม่2เรื่อง”
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒน์ประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และรองประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า ในการจัดแข่งขันฟุตบอลรายการ “KING POWER’S CUP 2017” THE BEST U-15 TOURNAMENT ชิงเงินรางวัลทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมค้นหาสุดยอดเยาวชนไทยฝีเท้าดีที่สุด จำนวน 10 คน เข้าร่วมโครงการ FOX HUNT รุ่นที่ 3 โดยจะคัดเยาวชน 10 คนที่ร่วมแข่งขันในรายการนี้ไปเป็นนักเตะเยาวชนในโครงการ FOX HUNT รับทุนบินลัดฟ้าไปเรียนทักษะฟุตบอลมืออาชีพที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ 2 ปี ครึ่ง แล้วนำประสบการณ์กลับมาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป
หัวใจสำคัญปี 2560 ในการจัดแข่งขัน KING POWER’S CUP ต้องการมอบโอกาสให้เยาวชนไทยมีเวทีแสดงความสามารถ โดยเฉพาะทีมโรงเรียนทั่วประเทศในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สร้างความพิเศษของทัวร์นาเม้นท์นี้ ใน 2 เรื่องหลัก คือ
เรื่องแรก ทำเป็นต้นแบบการแข่งขันระดับประเทศในรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี
เรื่องที่ 2 ร่วมมือจากกรมพละศึกษารับรองการแข่งขันรวมถึงกรรมการตัดสินที่ได้มาตรฐานสำหรับทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการดังกล่าว
ส่วนกำหนดการจัดแข่งขันรอบคัดเลือกใน 4 ภาค ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม นี้ ประกอบด้วย
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2560 สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด จังหวัดขอนแก่น “ภาคเหนือ” 7 - 10 พฤศจิกายน 2560 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
“ภาคตะวันออก” 14 – 17 พฤศจิกายน 2560 สนามกีฬาเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา “ภาคใต้” 21 - 24 พฤศจิกายน 2560 สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
“ภาคกลาง” 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2560 สนามกีฬากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ “กรุงเทพมหานคร” 4 – 6 ธันวาคม 2560 สนามซ้อมสโมสรฟุตบอล SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด จังหวัดนนทบุรี
ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย 12 – 16 ธันวาคม 2560 สนามซ้อมสโมสรฟุตบอล SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด จังหวัดนนทบุรี และรอบชิงชนะเลิศ 17 ธันวาคม 2560 สนามเทพหัสดิน จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ข่าวที่ 2 “ททท.งัด2แคมโกยทัวร์ญี่ปุ่นจ่อพ่วงโอลิมปิก’63”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังการเดินทางเข้าร่วมงาน Japan Expo Tourism 2017 เล็งเห็นถึงโอกาสในการนำท่องเที่ยวไทยผนวกขายในช่วงญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกปี 2563 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งจะมีคนจากทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นสูงถึง 40 ล้านคน เพิ่มจากปัจจุบันทำได้ 25 ล้านคน ดังนั้นทางสำนักงาน ททท.โตเกียวควรวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ส่วนปี 2561 ททท.จะบุกเพิ่มรายได้จากตลาดญี่ปุ่นด้วย 2 แคมเปญ ได้แก่ แ1. โอเพ่น ทู เดอะ นิว เฉด ออฟ ไทยแลนด์ ปั้นจุดขายใหม่ ๆ ปลุกกำลังซื้อกลุ่มเดินทางซ้ำ 2.โครงการสนามแม่เหล็กท่องเที่ยว โหมการขายท่องเที่ยวเมืองรอง เสนอขายทางด้านอาหาร การจัดประชุมสัมมนา (ไมซ์) ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สนับสนุนงานประชุมไปจัดตามเมืองรอง และเพิ่มความสนุกสนานอีเวนต์ต่าง ๆ มากขึ้น
ปี 2560 คาดจะมีญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทย 1.5 ล้านคน สร้างรายได้67,000 ล้านบาท ปี 2561 จะทำให้ได้ถึง 70,000 ล้านบาท
ข่าวที่ 3 “บางจากนำ3สินค้าใหม่โอท็อปขายในร้านSPAR”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าสนับสนุน “ผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน” จากทั่วประเทศเข้ามาวางจำหน่ายผ่านช่องทางการขายในร้านค้าปลีก SPAR ของบางจาก ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์โอท็อปใหม่ล่าสุด คือ สินค้า ผลไม้แปรรูป 3 ชนิด ได้แก่ กล้วยอบเนย สุโขทัย ชมพู่แก้ว จันทบุรี และลูกอมสับปะรดกะทิสด ประจวบคีรีขันธ์ นำเข้ามาวางจำหน่ายแล้วที่ SPAR ทุกสาขา ราคา 35.00 บาท เป็นกลยุทธ์การร่วมพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ด้วยสินค้าจากชุมชน นำมาแปรรูปเพื่อจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ประกอบด้วย
“กล้วยอบเนย” ผลิตจากกล้วยน้ำว้าคุณภาพดี โดยกลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านหนองตูม จ.สุโขทัย มีรส หวาน กรอบ มีกลิ่นหอมเฉพาะที่ได้จากการเคี่ยวน้ำตาลโตนด
“ชมพู่แก้ว” ผลิตจากชมพู่แก้มแหม่ม กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเขาบายศรี จังหวัดจันทบุรี รสชาติเปรี้ยว หวาน ถูกปากคนไทย
“ลูกอมสัปปะรดกะทิสด” รสชาติหอม หวาน มัน สินค้าจากกลุ่มแม่บ้านหนองกาพัฒนาสามัคคี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีใยอาหาร วิตามินและไขมันดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ข่าวที่ 4 “TCEBลุยต่อยอดTHAILAND CONNECTภาค2ในตลาดโลก”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ เปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดประจำปี 2561 ด้วยแคมเปญ “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” โดยใช้โอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงาน Incentive Travel & Conventions, Meetings Asia (IT&CM Asia) ครั้งที่ 25 และ งาน Corporate Travel World Asia-Pacific (CTW Asia-Pacific) ครั้งที่ 20 ซึ่งมีทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 2,900 คน จาก 50 ประเทศ
โดยวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาธุรกิจไมซ์ในปี 2561 ทาง TCEB เตรียมต่อยอดแคมเปญให้ชัดเจน เพิ่มความเข้มข้นด้วยการดึงจุดขายของไทยที่สอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนไมซ์ของรัฐบาลตามไทยแลนด์ 4.0 โดยพัฒนาเป็น “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey To Business Success, decoded with chapters of possibilities” หรือ “ไทยแลนด์ คอนเน็กต์ สีสันของการเดินทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ ถอดรหัสความสำเร็จด้วยพลังแห่งสีสันของโอกาสที่ไม่รู้จบ” เน้นทั้ง 3 เสาหลักของประเทศไทย ทั้งด้าน destination, business และ people”
สำหรับแคมเปญ “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” นำเสนอจุดเด่นของประเทศไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ ความหลากหลายของสถานที่และจุดหมายในการจัดกิจกรรมไมซ์ (destination) โอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง (business) รวมถึงความมีเอกลักษณ์และความเป็นมืออาชีพของบุคลากรของไทย (People) ที่สามารถรองรับการจัดงานไมซ์ระดับโลก ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้เสริมสร้างภาพลักษณ์ของไทยในการเป็น Bleisure Destination (Business and Leisure) หรือ จุดหมายของการจัดงานที่ความโดดเด่นทั้งการทำธุรกิจและการพักผ่อนระดับภูมิภาคได้อย่างดี
ข่าวที่ 5 “ทอท.งัดที่ดิน4สนามบินปั๊มรายได้เชิงพาณิชย์50%”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า ได้เดินหน้าแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินของ ทอท.สร้างโอกาสพัฒนาในเชิงพาณิชย์ให้เป็นไปตามเป้าหมายภายในปี 2563 จะเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้ถึง 50 % โดยการใช้ที่ดินรอบบริเวณท่าอากาศยาน 4 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ที่ดินแปลง Airport Business Area เนื้อที่รวม 682 ไร่ เชียงใหม่ จำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวม 1.6 ไร่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ รวม 613 ไร่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย 5 แปลง และที่ดินแปลงย่อย รวม 7 จุด รวม 742 ไร่
สำหรับที่ดิน ทอท.ที่ซื้อมาจากราษฎรที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 4 แห่ง แบ่งเป็นที่ดินในเขตลาดกระบัง 3 แห่ง และที่ดินติดถนนทางเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านถนนบางนา-ตราด อีก 1 แห่ง รวมเป็นที่ดินประมาณ 105 ไร่
ตลอดปีงบประมาณ 2560 ทอท. ได้ทยอยเดินหน้าแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานวงเงิน 2.2 แสนล้านบาท ใน 6 สนามบิน ซึ่งเริ่มก่อสร้างบ้างแล้ว ได้แก่ ยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ตั้งเป้าภายในอีก 8 ปีข้างหน้า พ.ศ.2568 จะรองรับผู้โดยสารรวมได้ถึงปีละ 185 ล้านคน
ช่วงที่ 2 ตามไปค้นหารากวัฒนธรรมภูเก็ตใน “ชุมชนเมืองเก่า” กับ 5 จุดมหัศจรรย์ของชาวจีนผู้สร้างความมั่งคั่งบนเกาะสวรรค์แห่งนี้
@มุมใหม่ในชุมชนเก่าภูเก็ต
ในเดือนตุลาคมนี้ขอชวนล่องใต้ไป “เกาะภูเก็ต” เมืองพักผ่อนฝั่งทะเลอันดามันที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี อีกมุมหนึ่งก็เป็นดินแดนทรงเสน่ห์ความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีชุมชนเก่าแก่บ่งบอกถึงอารยธรรมความรุ่งเรืองที่สามารถอนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมมาจนถึงทุกวันนี้
ย่านที่มีเสน่ห์ชวนเดินท่องเที่ยวเพื่อให้เห็นถนนสายวัฒนธรรมอย่างแท้จริง คือ “ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต” ตลอดสองข้างยังคงเก็บรักษาอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ภายในชุมชนก็สร้างพิพิธภัณฑ์รวบรวมเรื่องเล่าครั้งอดีตที่ชาวจีนอพยพมาตั้งรกรากบนเกาะแห่งนี้ปักถิ่นฐานสร้างความมั่งคั่งส่งต่อให้ลูกหลานมาจนถึงวันนี้ โดยมีหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา อยู่รวมกันอย่างมีความสุข และยังทำต้นแบบกิจกรรมให้คนต่างวัยทั้งคนรุ่นใหม่และผู้สูงวัยได้เข้ามามีส่วนร่วมสร้างเสน่ห์ให้ชุมชนโดดเด่นไม่เสื่อมคลาย
เรื่องเล่าเป็นไฮไลต์ของ “พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” คือการแปลงโฉมโรงเรียนจีนชื่อดังในอดีตมาทำเป็นศูนย์รวมบันทึกความเป็นมาตัวตนของบรรพบุรุษ ทำให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจวิถีชีวิตชาวจีนในเกาะภูเก็ตและยังคงมีอยู่จริงในชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต
แหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ที่ต้องแวะชมในชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต ต้องห้ามพลาดมี 4 แห่งด้วยกัน
เริ่มจาก “บ้านเลขที่ 88” ถนนกระบี่ เป็นบ้านของ “อี๋โป้เต๋ง” คนแก่ใจดีที่เปิดบ้านรับนักท่องเที่ยว ภายในบ้านได้รวบรวมภาพเก่าแก่ อุปกรณ์เครื่องครัวโบราณ อาทิ เครื่องโม่แป้ง เตาไฟ ตาชั่ง และบ่อน้ำกลางบ้านเป็นสัญลักษณ์บ้านคนจีนสมัยก่อน ซึ่งใช้งานได้จริงในปัจจุบัน
“ศาลเจ้าแสงธรรม” เมื่อปี 2540 เป็นอาคารอนุรักษ์ที่ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ส่วนอัตลักษณ์อันโดดเด่นเมื่อครั้งอดีตเคยเป็นศูนย์รวมใจของชาวจีนที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาแสวงโชคในบ้านเรา โดยมีเครื่องนำทางของความศรัทธาเชื่อมั่น หลอมเป็นพลังความสามัคคี จนปัจจุบันร่ำรวยได้ ภายในศาลเจ้าจะมีศิลปะทรงคุณค่าให้ชมทั้ง รูปปั้นแกะสลักองค์เทพต่าง ๆ จิตรกรรมฝาผนังโบราณ
“โรงตีเหล็กไต่สุ้นอั้น” ย้อนให้เห็นถึงภาพของยุคเหมืองแร่เฟื่องฟู สองข้างทางบนถนนดีบุกจะเต็มไปด้วยโรงตีเหล็ก ปัจจุบันเหลือไต่สุ้นอั้นเพียงแห่งเดียว ที่เปิดกิจการตีเหล็กแบบดั้งเดิมโดยใช้เตาเผาโบราณขนาดใหญ่ ใช้แรงคนนำค้อนมาทุบเหล็กกล้า เพื่อรักษาสถานที่ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้ชม
“บ้านโบราณร้อยปี” เป็นบ้านที่มีครัวคุณป้าคุณน้าของชุมชนมารวมตัวกันโชว์ฝีมือการทำอาหารถิ่น การผัดหมี่ฮกเกี้ยน เมนูต้นตำรับดั้งเดิม พร้อมขนมโอต๊าว และของหวานมีทั้งโอ๊ะเอ๋ว รสหวานเย็นชื่นใจ
ส่วนที่จะขาดไม่ได้คือ “สตรีทอาร์ท” ซึ่งแฝงตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วย่านเมืองเก่า มีผลงานของสุดยอดศิลปินรวมอยู่เกือบ 10 ชิ้น ที่แนะนำให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินให้ครบเพื่อเป็นเก็บความทรงจำกลับบ้าน
สนใจท่องเที่ยวชุมชนย่านเมืองเก่า ติดต่อและสอบถามได้ที่ โทร.081-892-0618 และ 084-305-3960
@เติมความสุขให้ชีวตหลังเกษียณด้วย 3 สร้าง
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แนะนำว่าทุกปีในวันที่ 1 ตุลาคม จะเป็นวันผู้สูงอายุสากล และพฤติกรรมส่วนใหญ่ของผู้เกษียนหรือสูงวัยหลายคนจึงอาจมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อม ต้องยอมรับ ไม่ยึดติด อย่าคิดว่าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ทำตัวเองให้เป็นคนที่น่ารัก น่าเคารพ
โดยแนะนำวิธีสร้างสุขวัยเกษียณ ด้วยหลัก 3 สร้าง ได้แก่
1.สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองและผู้อื่น ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น ทำความสำเร็จเล็กๆ ให้ได้ในแต่ละวัน และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
2.สร้างสุขภาพกายและใจให้ตนเอง ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี ฝึกจิต ฝึกสมาธิ ทำจิตใจให้สดใส เมื่อใดรู้สึกหดหู่ เหงา เศร้า ไม่สดชื่น ต้องรู้ตัว รีบปรับตัว อยู่กับคนที่รัก ไปพบเพื่อนฝูง พูดคุยปรึกษาปัญหา ทำกิจกรรมที่ชอบ ช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าทำทุกอย่างแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
3. สร้างกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมในบ้านและนอกบ้าน จะทำคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็ได้ เช่น งานบ้าน งานสวน เข้าชมรม เล่นกีฬา ออกกำลังกาย ตามความชอบความพอใจ รสนิยม และบริบทการใช้ชีวิต เพื่อให้สมองได้ถูกใช้งาน เป็นต้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ไตรมาส4สภาทัวร์หวังรายได้จีน-ไทยเศรษฐกิจซึม”
จีนทะลักเข้าไทยต่อเนื่องปลายปีพุ่ง 2.4 ล้านคน ส่วนไทยเที่ยวไทยเฉาเศรษฐกิจยังซึมอยู่
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.) ปี 2560 คาดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทย 9.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17.76% แบ่งเป็นอาเซียน 2.43 ล้านคน เพิ่ม 3.40% กลุ่มเอเชียตะวันออก 3.89 ล้านคน เพิ่ม34.60% ยุโรป 1.58 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.64% หากเป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว จะทำให้ทั้งปี 2560 มีต่างชาติมาเที่ยวไทยทั้งสิ้น 35.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.59% มีรายได้เข้าประเทศ 1.84 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.49%
ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 2.43 ล้านคน เพิ่มมากสุด 68.75% ตลอดปีนี้จีนจะเที่ยวไทย 9.88 ล้านคน เพิ่ม 12.79% ต่ำกว่าเป้าตั้งไว้ 10 ล้านคน
ข่าวที่สอง “จ่อยกเว้นวีซ่า90วัน6ชาติทัวร์รักษาสุขภาพ”
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้พิจารณายกเว้นวีซ่า 90 วัน กลุ่มนักเดินทางเชิงสุขภาพที่เข้ามารักษาตัวและพักฟื้นในไทย 6 ชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น เนปาล ภูฏาน ศรีลังกา และบังกลาเทศ ต่อจากกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีน เพราะส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาพร้อมกันเป็นครอบครัว ๆ ละ 3 คนขึ้นไป และใช้เงินเฉลี่ย 5,000 บาทต่อคนต่อวัน
ปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดเป็นตลาดญี่ปุ่น ที่เข้าร่วมในงาน Japan Expo Tourism 2017 มีผู้สนใจกว่า 100 ราย สนใจซื้อสมาชิกบัตรท่องเที่ยวอิลิตการ์ดของ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) เพราะได้สิทธิพักระยะยาว
นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี ยืนยันว่า จะเปิดแคมเปญ ADVENTUR THAILAND ผนวกขายสมาชิกที่ซื้อบัตรแล้วได้ท่องเที่ยวเมืองไทยด้วย ปี 2561 พร้อมจะทำยอดขายให้ได้ถึง 670 ล้านบาท เติบโต 10% ปัจจุบันลูกค้าอีลิทการ์ดมีส่วนแบ่งตลาดดังนี้ จีน 30% อังกฤษ 28% สหรัฐ 25% ฝรั่งเศส 22% ญี่ปุ่น 20%
ข่าวที่สาม “ดิโอกุระจัดเมนูฝรั่งเศสหนุนเกษตรยั่งยืนเริ่มที่680บาท”
โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จัดเทศกาลที่ห้องอาหาร เอเลเมนท์ เพื่อสนันสนุนการเกษตรแบบยั่งยืนและไร้สารพิษเลือกใช้วัตถุดิบจากฟาร์ม และสวนปราศจากสารพิษ จากทั้งในและต่างประเทศมาปรุงเป็นอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม – 23 ธันวาคม 2560 อาหารหรูรสเลิศ ราคาคุณภาพเริ่มต้นที่จานละ 680++บาท
ทาง เชฟ แอนโทนี ชอลท์ไมเยอร์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ ได้คัดสรรวัตถุดิบพืชและสัตว์ที่เติบโตตามธรรมชาติโดยปราศจากความเครียดในพื้นที่ที่เลี้ยงดู (Free Range System) เพื่อนำมาปรุงอย่างพิถีพิถันเป็นเมนูอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นน่ารับประทานหลายรายการ อาทิ โดนัทฝรั่งเศสเนื้อปลาเทราท์รมควันรับประทานกับซอสหน่อไม้ฝรั่งและไข่ปลาเทราท์ หอยนางรมสดจากออสเตรเลีย ทาร์ทาร์กุ้งแม่น้ำมาดากัสการ์ เสิร์ฟพร้อมไอศครีมมะเขือเทศรมควัน ขิงดองญี่ปุ่น และโซบะ ซุปถั่วแระญี่ปุ่นใส่กุ้งลายเสือ ซุปผักน้ำรับประทานกับไข่ลวกและครีม
ส่วนเมนูอาหารจานหลักที่แนะนำ อาทิ แซนวิชปลาโซลและกุ้งใส่ผักชีญี่ปุ่นและถั่วแระญี่ปุ่น ปลากระพงนึ่ง เสิร์ฟพร้อมซอสส้มยูซุ หนังปลาทอดกรอบ แครอทและยี่หรา ปลาทรายแดงทะเล รับประทานกับหน่อไม้ฝรั่งขาว ถั่วเหลืองและชาเขียว ปลาค็อดย่างเตาถ่าน รับประทานกับกุ้งทอดกรอบ มะเขือเทศและเนยมงเปอลีเย ไก่ย่างยัดไส้ด้วยตับห่านและเห็ดทรัฟเฟิล หัวไชเท้าและเห็ดผัดเนย เป็ดย่างใส่พริกไทซันโช น้ำผึ้งและรากผัก เนื้อออร์แกนิคพันเบคอนย่าง เสิร์ฟกับ เห็ดกระดุมและหัวหอม
สอบถามที่ โทร.02 687 9000 หรือ www.okurabangkok.com
ข่าวที่สี่ “เทศกาลเห็ดทรัฟเฟิลแห่งปีที่เคปเฮาส์ กรุงเทพฯ”
ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิตาเลียน บิสโทร, เคปเฮ้าส์ กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านพบกับเทศกาลเห็ดทรัฟเฟิล ในวันที่ 8-15 ตุลาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. สัมผัสความอร่อยที่ไม่ธรรมดาของเห็ดทรัฟเฟิลสุดหรูสูตรต้นตำรับ พร้อมเมนูอร่อยของเห็ดหลากหลายชนิด
รังสรรค์ขึ้นโดยเชฟมืออาชีพชาวอิตาเลียน อาทิ เนื้อสันในกับซอสเห็ดพอร์ชินี่เสิร์ฟพร้อมผัก, เนื้อดิบสไลด์บางเสิร์ฟกับทรัฟเฟิล เซเลอรี่และพาเมซานฝานบาง, เค้กแบล็คฟอเรสต์ เพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติของเห็ดทรัฟเฟิลแสนอร่อยอย่างเต็มอิ่ม
เกาะติดข่าวประจำได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทาง FM 97.0 MHz.11.00-12.00 น.
ไทยแลนด์เฟสต์ 2017ในฮานอยยอดทะลุ 2 แสนคน
ชูเที่ยวเชิงกีฬามวยไทยฮ็อตขายทริปละ3หมื่นบาท
คิงเพาเวอร์คัพเปิดฤดูกาลคัดบอลเด็กต.ค.-ธ.ค.นี้
ผุด2แคมเปญโกยญี่ปุ่นมาไทยพ่วงยาวโอลิมปิก’63
บางจากนำโอท็อปชุมชน3ผลิตภัณฑ์ขายในSPAR
เสน่ห์ใหม่ในชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต2จุดมหัศจรรย์
Q4สภาทัวร์หวังพึ่งรายได้จีนพุ่ง-ไทยเศรษฐกิจซึม
รร.ดิโอกุระรังสรรเมนูฝรั่งเศสหนุนเกษตรยั่งยืน
เสิร์ฟสารพัดเมนูเด็ดเห็ดทรัฟเฟิลที่NO.43 เคปเฮาส์
สวัสดีวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2560 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz.ในรายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” (ฟังมือถือเลือก FM 97.0 อ่านใน www.facebook.com/penroongyaisamsaen ฟังทาง youtube พิมพ์ รวยด้วยข่าว 97.0-วัน/เดือน/ปี #gurutourza #thailandfest #AmazingThailand
ช่วงที่ 1 คุณนภสร ค้าขาย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ สาธารณรัฐเวียดนาม ให้สัมภาษณ์ข้ามประเทศมาอัพเดทสถานการณ์ตลาดเวียดนามปี 2560 ต่อเนื่องต้อนรับปีงบประมาณใหม่ 2561 เริ่มตั้งแต่ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
นภสร ค้าขาย ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานโฮจิมินห์ เวียดนาม |
“คุณนภสร ค้าขาย” เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานโฮจิมินห์ ดูแลพื้นที่การตลาดท่องเที่ยวในสาธารณรัฐเวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว ซึ่งทั้ง 3 ประเทศล้วนเป็นตลาดดาวรุ่งที่เดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะ เวียดนามกับกัมพูชาเติบโตชัดเจนเกินกว่า 10 % ขณะนี้เวียดนามมีประชากรมากถึง 96 ล้านคน ในช่วงปีที่ผ่านมาเดินทางเข้าไปเที่ยวเมืองไทย 860,000 คน นับได้ว่าเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เพียง 7.4 แสนคน พร้อมทั้งสร้างรายได้ 25,000 ล้านบาท แต่พอเวลาผ่านมาเพียงปีเดียวทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากตลาดเวียดนามเข้าเมืองไทยกลับเติบโตเกินกว่า 12 % สะท้อนถึงแนวโน้มสดใสเนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศไทย การเดินทางสะดวกรวดเร็ว
ปี 2561 ททท.โฮจิมินห์ วางกลยุทธ์พุ่งเป้าหมายหลักในการทำตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มกำลังซื้อกระเป๋าหนัก ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนเวียดนามเข้าเมืองไทยไม่ต่ำกว่า 6 % จะสร้างรายได้เพิ่มให้ถึง 10 %
โดยการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวที่เวียดนามนิยมมาไทย ขณะนี้ยังคงเป็นกรุงเทพฯ พัทยา ปี 2561 จะเพิ่มความเข้มข้นในเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว 3 กลุ่ม นำเสนอใหม่ ๆ เพื่อให้กลุ่มเดินทางครั้งแรกและเที่ยวซ้ำมาเที่ยวต่อเนื่องเพิ่มจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว กระจายสู่พื้นที่ หัวหิน (ประจวบคีรีขันธ์) เขาใหญ่ (นครราชสีมา) ราชบุรี เป็นพื้นที่รอบปริมณฑล กิจกรรมโดนใจเวียดนามชอบมากคือช็อปปิ้ง เพราะสินค้าไทยมีคุณภาพ เสื้อผ้า เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์
ระหว่างวันที่ 30 กันยายน- 1 ตุลาคม 2560 ททท.โฮจิมินห์ ได้ร่วมกับสถานฑูตไทย และทีม ไทยแลนด์ ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จัดงาน Thailand Fest 2017 นำเสนอความเป็นไทยซึ่งเป็นจุดแข็งอันโดดเด่นทางด้าน วัฒนธรรม ประเพณี อาหารไทย การแสดงศิลปะไทย โดยผนวกไฮไลต์เข้าไว้ด้วยคือ ลงทุนทำ “เวทีแสดงศิลปะการป้องกันแบบมวยไทย” จัดเต็มรูปแบบ เพื่อสอนศิลปะมวยไทยแบบง่าย ๆ แก่ชาวเวียดนาม เพราะคนเวียดนามชอบมากถึงขนาดทุ่มทุนเปิดค่ายมวยไทยในเวียดนามขณะนี้มากกว่า 20 ค่าย ซึ่งมีแฟนคลับกว่า 100,000 คน
ททท.จึงได้คุยกับทางค่ายมวยจัดโปรแกรม SPORT TOURISM นำไปชมมวยไทย เรียนมวยไทย ราคาแพกเกจจะประมาณ 5 วัน 4 คืน เที่ยวกรุงเทพฯ พัทยา ชมมวยไทย ดูแหล่งท่องเที่ยว เฉลี่ยทริปละ 28,000-30,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก กิจกรรมเรียนมวยไทย 1 วัน
นายมานพชัย วงศ์ภักดี เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย เวียดนาม เปิดเผยว่า ในฐานะเจ้าภาพนำ ททท.และทีม ไทยแลนด์ จัดงาน Thailand Fest 2017 ในบริเวณสวนสาธารณะ “ทั้ง เญิด” ใจกลางเมือง ตลอดการจัดงาน 2 วันได้รับความสนใจจากชาวเวียดนามและต่างชาติที่พำนักอยู่ในเวียดนามเกิน 200,000 คน โดยเข้ามาชมและซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารไทย ผ้าไทยย้อมครามสกลนคร ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย และไฮไลต์การสาธิตและแข่งขันชกมวยไทยที่ ททท.นำเข้ามาสนับสนุนตลอดการจัดงาน
ส่วน “อาหารไทย” ชาวเวียดนามชื่นชอบมาก โดยเฉพาะอาหารสตรีทฟู้ดพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก ชอบกินผัดไทย ส้มตำ แกงเขียวหวาน ข้าวมันไก่ ปกติแล้วอาหารเวียดนามก็จะคล้ายกันกับไทยซึ่งเข้มข้น หวาน เผ็ด กลมกล่อม มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ขณะเดียวกันก็จะส่งเสริม “สินค้า MADE IN THAILAND” ซึ่งครองใจตลาดนักช้อปและประชากรเวียดนามส่วนใหญ่ ททท.ได้ร่วมกับกรมการค้า กระทรวงการต่างประเทศ จัดงาน TOP THAI BRAND เป็นประจำทุกปี คัดสรรนำเสนอสินค้าไทยที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อุปกรณ์ทำครัว เครื่องใช้ในบ้าน สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นสินค้านำเข้าไปยังเวียดนามระดับเกรดเอ รวมทั้งนำเสนอท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สปาและนวดไทย เรื่อยไปจนถึงแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล โดยทำงานร่วมกันเป็นทีม จึงมีผลตอบรับดีมาก ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวเวียดนามเข้าเมืองไทยเติบโตทั้งจำนวนและรายได้ถึงสองหลัก
แนวโน้มกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวเวียดนามปี 2561 ยังมาแรงต่อเนื่อง ได้แก่ คนรุ่นใหม่ซึ่งนิยมใช้ออนไลน์กับภาษาอังกฤษได้ดี ททท.วางแผนรุกเจาะกลุ่มคนหนุ่มสาววัยเพิ่งเริ่มทำงานเรียกว่ากลุ่ม White Colla และกลุ่มพนักงานต่างชาติที่พำนักอยู่ในเวียดนาม (Expat) โดยส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการเดินทางพักผ่อนในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หรือ weekend destination สร้างการรับรู้ในทุกช่องทางให้คนเวียดนามและต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศนี้ ต้องคิดถึงและเลือกเที่ยวเมืองไทยก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยการเลือกซื้อตั๋ว ห้องพัก โปรแกรมทัวร์ ผ่านออนไลน์ เป็นกลยุทธ์เพิ่มความถี่ในการเดินทาง กลุ่มเหล่านี้นิยมออกเดินทางไปหาประสบการณ์แปลกใหม่ซึ่งตรงเป้าหมายการทำตลาดของ ททท.ในยุคปัจจุบัน
สำหรับ “การเดินทางเข้าถึง” ระหว่างไทยกับเวียดนาม เป็นปัจจัยสำคัญ ด้วยความได้เปรียบเรื่องระยะทางการบินเพียง 1 ชั่วโมงเศษ มีเที่ยวบินตรงจากเมืองต่าง ๆ ในเวียดนามเข้าประเทศไทยกว่า 200 เที่ยวต่อสัปดาห์ ทั้งการบินไทย ไทยแอร์เอเชีย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยไลออนแอร์ นอกจากนี้ยังมี เวียดนามแอร์ไลน์ อาหรับเอมิเรตส์แอร์ไลน์ บินจากโฮจิมินห์ ฮานอย ดานัง ทุกจุดบินล้วนมุ่งสู่ประเทศไทยทั้งสิ้น
ล่าสุดมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำของเวียดนามคือ “เจ็ตสตาร์ แปซิฟิก” โลว์คอสต์แอร์ไลน์ จะพัฒนาเปิดบริการบินตรงแบบประจำ เส้นทางไป-กลับ กว่างบินห์-เชียงใหม่ เริ่มบินช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียง 1.10 ชั่วโมง สำหรับเมืองกว่างบินห์มีถ้ำจำนวนมากหนึ่งในจำนวนนี้คือถ้ำซินด่องขนาดใหญ่ของโลกก็อยู่เมืองนี้ด้วย จึงเป็นช่องทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเข้าสู่เมืองหลักและเมืองรองของไทยควบคู่กันได้ด้วย
ในช่วงปลายตุลาคม 2560 เป็นต้นไป สายการบิน “บางกอกแอร์เวย์ส” เตรียมเปิดบินตรงเพิ่มเส้นทางใหม่ คือ กรุงเทพฯ-เกาะฟูกว๊วก อยู่ทางตอนใต้ของเวียดนาม จากนั้นปลายเดือนมีนาคมปี 2561 จะเพิ่มอีกเส้นทาง ไป-กลับระหว่าง ฮานอย-เชียงใหม่ วันละ 1 เที่ยว
ขณะเดียวกัน ททท.โฮจิมินห์ ก็ได้เร่งทำโครงข่ายเชื่อมโยงท่องเที่ยวกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา สสป.ลาว เมียนมา เวียดนาม ร่วมมือกันต่อเนื่องมา 3 ปี เพื่อทำให้เป็น One Destination เสนอทางให้กลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศที่สามมาเที่ยวไทยและเพื่อนบ้าน ครั้งแรกได้ร่วมมือกันเชิญเอเย่นต์ทางยุโรป กับแปซิฟิกใต้ ออสเตรเลีย มาเยือน 3 ประเทศ ไปเรียบร้อยแล้ว แนวโน้มมีสัญญาณที่ดี
รวมถึงล่าสุดจัดทริป ไทย กัมพูชา โฮจิมินห์ต่อไปยังเกาะฟูกว๊วก จัดเป็นปีที่ 3 ต่อจากเมื่อ 2 ปีก่อนขึ้นไปทางเส้นภาคเหนือ สปป.ลาว เวียดนามตอนเหนือ และเมืองซาปา กับภาคกลางผ่าน สปป.ลาว กัมพูชา ผ่านภาคกลางของเวียดนาม เข้าสู่ไทย ทำให้นักท่องเที่ยวนานาชาติเพิ่มมากขึ้นในกลุ่ม AEC ได้ท่องเที่ยวเป็นวงกลมระหว่าง ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม
ปี 2561 เตรียมสร้างไฮไลต์โดยเน้นปีการท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน กลุ่ม 3 ประเทศชื่นชอบในหมวดหลัก ๆ คือ วัฒนธรรมประเพณี สงกรานต์ ลอยกระทง มวยไทย อาหารไทย อาจจะมีวิถีชีวิตใกล้เคียงกัน
ก้าวใหม่ของ ททท.โฮจิมินห์เน้นรุกหนักในการสร้างไทยเป็นประเทศเชื่อมโยงเครือข่ายการท่องเที่ยวกับประชาคมอาเซียนในแถบอินโดจีนให้เกิดเป็นรูปธรรม เกื้อกูลประโยชน์แบบวิน วิน ไปพร้อม ๆ กัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์คัพชูมาตรฐานใหม่2เรื่อง”
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒน์ประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และรองประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า ในการจัดแข่งขันฟุตบอลรายการ “KING POWER’S CUP 2017” THE BEST U-15 TOURNAMENT ชิงเงินรางวัลทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมค้นหาสุดยอดเยาวชนไทยฝีเท้าดีที่สุด จำนวน 10 คน เข้าร่วมโครงการ FOX HUNT รุ่นที่ 3 โดยจะคัดเยาวชน 10 คนที่ร่วมแข่งขันในรายการนี้ไปเป็นนักเตะเยาวชนในโครงการ FOX HUNT รับทุนบินลัดฟ้าไปเรียนทักษะฟุตบอลมืออาชีพที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ 2 ปี ครึ่ง แล้วนำประสบการณ์กลับมาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป
หัวใจสำคัญปี 2560 ในการจัดแข่งขัน KING POWER’S CUP ต้องการมอบโอกาสให้เยาวชนไทยมีเวทีแสดงความสามารถ โดยเฉพาะทีมโรงเรียนทั่วประเทศในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สร้างความพิเศษของทัวร์นาเม้นท์นี้ ใน 2 เรื่องหลัก คือ
เรื่องแรก ทำเป็นต้นแบบการแข่งขันระดับประเทศในรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี
เรื่องที่ 2 ร่วมมือจากกรมพละศึกษารับรองการแข่งขันรวมถึงกรรมการตัดสินที่ได้มาตรฐานสำหรับทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการดังกล่าว
ส่วนกำหนดการจัดแข่งขันรอบคัดเลือกใน 4 ภาค ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม นี้ ประกอบด้วย
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” 31 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2560 สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัด จังหวัดขอนแก่น “ภาคเหนือ” 7 - 10 พฤศจิกายน 2560 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
“ภาคตะวันออก” 14 – 17 พฤศจิกายน 2560 สนามกีฬาเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา “ภาคใต้” 21 - 24 พฤศจิกายน 2560 สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
“ภาคกลาง” 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2560 สนามกีฬากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ “กรุงเทพมหานคร” 4 – 6 ธันวาคม 2560 สนามซ้อมสโมสรฟุตบอล SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด จังหวัดนนทบุรี
ส่วนรอบ 16 ทีมสุดท้าย 12 – 16 ธันวาคม 2560 สนามซ้อมสโมสรฟุตบอล SCG เมืองทอง ยูไนเต็ด จังหวัดนนทบุรี และรอบชิงชนะเลิศ 17 ธันวาคม 2560 สนามเทพหัสดิน จังหวัดกรุงเทพมหานคร
ข่าวที่ 2 “ททท.งัด2แคมโกยทัวร์ญี่ปุ่นจ่อพ่วงโอลิมปิก’63”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังการเดินทางเข้าร่วมงาน Japan Expo Tourism 2017 เล็งเห็นถึงโอกาสในการนำท่องเที่ยวไทยผนวกขายในช่วงญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกปี 2563 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งจะมีคนจากทั่วโลกเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นสูงถึง 40 ล้านคน เพิ่มจากปัจจุบันทำได้ 25 ล้านคน ดังนั้นทางสำนักงาน ททท.โตเกียวควรวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ส่วนปี 2561 ททท.จะบุกเพิ่มรายได้จากตลาดญี่ปุ่นด้วย 2 แคมเปญ ได้แก่ แ1. โอเพ่น ทู เดอะ นิว เฉด ออฟ ไทยแลนด์ ปั้นจุดขายใหม่ ๆ ปลุกกำลังซื้อกลุ่มเดินทางซ้ำ 2.โครงการสนามแม่เหล็กท่องเที่ยว โหมการขายท่องเที่ยวเมืองรอง เสนอขายทางด้านอาหาร การจัดประชุมสัมมนา (ไมซ์) ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สนับสนุนงานประชุมไปจัดตามเมืองรอง และเพิ่มความสนุกสนานอีเวนต์ต่าง ๆ มากขึ้น
ปี 2560 คาดจะมีญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทย 1.5 ล้านคน สร้างรายได้67,000 ล้านบาท ปี 2561 จะทำให้ได้ถึง 70,000 ล้านบาท
ข่าวที่ 3 “บางจากนำ3สินค้าใหม่โอท็อปขายในร้านSPAR”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังคงเดินหน้าสนับสนุน “ผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน” จากทั่วประเทศเข้ามาวางจำหน่ายผ่านช่องทางการขายในร้านค้าปลีก SPAR ของบางจาก ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ
สำหรับผลิตภัณฑ์โอท็อปใหม่ล่าสุด คือ สินค้า ผลไม้แปรรูป 3 ชนิด ได้แก่ กล้วยอบเนย สุโขทัย ชมพู่แก้ว จันทบุรี และลูกอมสับปะรดกะทิสด ประจวบคีรีขันธ์ นำเข้ามาวางจำหน่ายแล้วที่ SPAR ทุกสาขา ราคา 35.00 บาท เป็นกลยุทธ์การร่วมพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ด้วยสินค้าจากชุมชน นำมาแปรรูปเพื่อจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ประกอบด้วย
“กล้วยอบเนย” ผลิตจากกล้วยน้ำว้าคุณภาพดี โดยกลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านหนองตูม จ.สุโขทัย มีรส หวาน กรอบ มีกลิ่นหอมเฉพาะที่ได้จากการเคี่ยวน้ำตาลโตนด
“ชมพู่แก้ว” ผลิตจากชมพู่แก้มแหม่ม กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเขาบายศรี จังหวัดจันทบุรี รสชาติเปรี้ยว หวาน ถูกปากคนไทย
“ลูกอมสัปปะรดกะทิสด” รสชาติหอม หวาน มัน สินค้าจากกลุ่มแม่บ้านหนองกาพัฒนาสามัคคี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีใยอาหาร วิตามินและไขมันดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ข่าวที่ 4 “TCEBลุยต่อยอดTHAILAND CONNECTภาค2ในตลาดโลก”
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ “TCEB” เปิดเผยว่า ได้ เปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดประจำปี 2561 ด้วยแคมเปญ “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” โดยใช้โอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงาน Incentive Travel & Conventions, Meetings Asia (IT&CM Asia) ครั้งที่ 25 และ งาน Corporate Travel World Asia-Pacific (CTW Asia-Pacific) ครั้งที่ 20 ซึ่งมีทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 2,900 คน จาก 50 ประเทศ
โดยวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาธุรกิจไมซ์ในปี 2561 ทาง TCEB เตรียมต่อยอดแคมเปญให้ชัดเจน เพิ่มความเข้มข้นด้วยการดึงจุดขายของไทยที่สอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนไมซ์ของรัฐบาลตามไทยแลนด์ 4.0 โดยพัฒนาเป็น “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey To Business Success, decoded with chapters of possibilities” หรือ “ไทยแลนด์ คอนเน็กต์ สีสันของการเดินทางสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ ถอดรหัสความสำเร็จด้วยพลังแห่งสีสันของโอกาสที่ไม่รู้จบ” เน้นทั้ง 3 เสาหลักของประเทศไทย ทั้งด้าน destination, business และ people”
สำหรับแคมเปญ “THAILAND CONNECT Your Vibrant Journey to Business Success” นำเสนอจุดเด่นของประเทศไทยใน 3 ด้าน ได้แก่ ความหลากหลายของสถานที่และจุดหมายในการจัดกิจกรรมไมซ์ (destination) โอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง (business) รวมถึงความมีเอกลักษณ์และความเป็นมืออาชีพของบุคลากรของไทย (People) ที่สามารถรองรับการจัดงานไมซ์ระดับโลก ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้เสริมสร้างภาพลักษณ์ของไทยในการเป็น Bleisure Destination (Business and Leisure) หรือ จุดหมายของการจัดงานที่ความโดดเด่นทั้งการทำธุรกิจและการพักผ่อนระดับภูมิภาคได้อย่างดี
ข่าวที่ 5 “ทอท.งัดที่ดิน4สนามบินปั๊มรายได้เชิงพาณิชย์50%”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” กล่าวว่า ได้เดินหน้าแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินของ ทอท.สร้างโอกาสพัฒนาในเชิงพาณิชย์ให้เป็นไปตามเป้าหมายภายในปี 2563 จะเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้ถึง 50 % โดยการใช้ที่ดินรอบบริเวณท่าอากาศยาน 4 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ที่ดินแปลง Airport Business Area เนื้อที่รวม 682 ไร่ เชียงใหม่ จำนวน 2 แปลง เนื้อที่รวม 1.6 ไร่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ รวม 613 ไร่ และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย 5 แปลง และที่ดินแปลงย่อย รวม 7 จุด รวม 742 ไร่
สำหรับที่ดิน ทอท.ที่ซื้อมาจากราษฎรที่ได้รับผลกระทบทางเสียงจากการดำเนินงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 4 แห่ง แบ่งเป็นที่ดินในเขตลาดกระบัง 3 แห่ง และที่ดินติดถนนทางเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านถนนบางนา-ตราด อีก 1 แห่ง รวมเป็นที่ดินประมาณ 105 ไร่
ตลอดปีงบประมาณ 2560 ทอท. ได้ทยอยเดินหน้าแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานวงเงิน 2.2 แสนล้านบาท ใน 6 สนามบิน ซึ่งเริ่มก่อสร้างบ้างแล้ว ได้แก่ ยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ตั้งเป้าภายในอีก 8 ปีข้างหน้า พ.ศ.2568 จะรองรับผู้โดยสารรวมได้ถึงปีละ 185 ล้านคน
ช่วงที่ 2 ตามไปค้นหารากวัฒนธรรมภูเก็ตใน “ชุมชนเมืองเก่า” กับ 5 จุดมหัศจรรย์ของชาวจีนผู้สร้างความมั่งคั่งบนเกาะสวรรค์แห่งนี้
@มุมใหม่ในชุมชนเก่าภูเก็ต
ในเดือนตุลาคมนี้ขอชวนล่องใต้ไป “เกาะภูเก็ต” เมืองพักผ่อนฝั่งทะเลอันดามันที่ทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี อีกมุมหนึ่งก็เป็นดินแดนทรงเสน่ห์ความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีชุมชนเก่าแก่บ่งบอกถึงอารยธรรมความรุ่งเรืองที่สามารถอนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมมาจนถึงทุกวันนี้
ย่านที่มีเสน่ห์ชวนเดินท่องเที่ยวเพื่อให้เห็นถนนสายวัฒนธรรมอย่างแท้จริง คือ “ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต” ตลอดสองข้างยังคงเก็บรักษาอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ภายในชุมชนก็สร้างพิพิธภัณฑ์รวบรวมเรื่องเล่าครั้งอดีตที่ชาวจีนอพยพมาตั้งรกรากบนเกาะแห่งนี้ปักถิ่นฐานสร้างความมั่งคั่งส่งต่อให้ลูกหลานมาจนถึงวันนี้ โดยมีหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา อยู่รวมกันอย่างมีความสุข และยังทำต้นแบบกิจกรรมให้คนต่างวัยทั้งคนรุ่นใหม่และผู้สูงวัยได้เข้ามามีส่วนร่วมสร้างเสน่ห์ให้ชุมชนโดดเด่นไม่เสื่อมคลาย
เรื่องเล่าเป็นไฮไลต์ของ “พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” คือการแปลงโฉมโรงเรียนจีนชื่อดังในอดีตมาทำเป็นศูนย์รวมบันทึกความเป็นมาตัวตนของบรรพบุรุษ ทำให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจวิถีชีวิตชาวจีนในเกาะภูเก็ตและยังคงมีอยู่จริงในชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต
แหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ที่ต้องแวะชมในชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต ต้องห้ามพลาดมี 4 แห่งด้วยกัน
เริ่มจาก “บ้านเลขที่ 88” ถนนกระบี่ เป็นบ้านของ “อี๋โป้เต๋ง” คนแก่ใจดีที่เปิดบ้านรับนักท่องเที่ยว ภายในบ้านได้รวบรวมภาพเก่าแก่ อุปกรณ์เครื่องครัวโบราณ อาทิ เครื่องโม่แป้ง เตาไฟ ตาชั่ง และบ่อน้ำกลางบ้านเป็นสัญลักษณ์บ้านคนจีนสมัยก่อน ซึ่งใช้งานได้จริงในปัจจุบัน
“ศาลเจ้าแสงธรรม” เมื่อปี 2540 เป็นอาคารอนุรักษ์ที่ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ส่วนอัตลักษณ์อันโดดเด่นเมื่อครั้งอดีตเคยเป็นศูนย์รวมใจของชาวจีนที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาแสวงโชคในบ้านเรา โดยมีเครื่องนำทางของความศรัทธาเชื่อมั่น หลอมเป็นพลังความสามัคคี จนปัจจุบันร่ำรวยได้ ภายในศาลเจ้าจะมีศิลปะทรงคุณค่าให้ชมทั้ง รูปปั้นแกะสลักองค์เทพต่าง ๆ จิตรกรรมฝาผนังโบราณ
“โรงตีเหล็กไต่สุ้นอั้น” ย้อนให้เห็นถึงภาพของยุคเหมืองแร่เฟื่องฟู สองข้างทางบนถนนดีบุกจะเต็มไปด้วยโรงตีเหล็ก ปัจจุบันเหลือไต่สุ้นอั้นเพียงแห่งเดียว ที่เปิดกิจการตีเหล็กแบบดั้งเดิมโดยใช้เตาเผาโบราณขนาดใหญ่ ใช้แรงคนนำค้อนมาทุบเหล็กกล้า เพื่อรักษาสถานที่ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้ชม
“บ้านโบราณร้อยปี” เป็นบ้านที่มีครัวคุณป้าคุณน้าของชุมชนมารวมตัวกันโชว์ฝีมือการทำอาหารถิ่น การผัดหมี่ฮกเกี้ยน เมนูต้นตำรับดั้งเดิม พร้อมขนมโอต๊าว และของหวานมีทั้งโอ๊ะเอ๋ว รสหวานเย็นชื่นใจ
ส่วนที่จะขาดไม่ได้คือ “สตรีทอาร์ท” ซึ่งแฝงตัวอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วย่านเมืองเก่า มีผลงานของสุดยอดศิลปินรวมอยู่เกือบ 10 ชิ้น ที่แนะนำให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินให้ครบเพื่อเป็นเก็บความทรงจำกลับบ้าน
สนใจท่องเที่ยวชุมชนย่านเมืองเก่า ติดต่อและสอบถามได้ที่ โทร.081-892-0618 และ 084-305-3960
@เติมความสุขให้ชีวตหลังเกษียณด้วย 3 สร้าง
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แนะนำว่าทุกปีในวันที่ 1 ตุลาคม จะเป็นวันผู้สูงอายุสากล และพฤติกรรมส่วนใหญ่ของผู้เกษียนหรือสูงวัยหลายคนจึงอาจมีภาวะซึมเศร้าเกิดขึ้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อม ต้องยอมรับ ไม่ยึดติด อย่าคิดว่าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ทำตัวเองให้เป็นคนที่น่ารัก น่าเคารพ
โดยแนะนำวิธีสร้างสุขวัยเกษียณ ด้วยหลัก 3 สร้าง ได้แก่
1.สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองและผู้อื่น ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น ทำความสำเร็จเล็กๆ ให้ได้ในแต่ละวัน และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ
2.สร้างสุขภาพกายและใจให้ตนเอง ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี ฝึกจิต ฝึกสมาธิ ทำจิตใจให้สดใส เมื่อใดรู้สึกหดหู่ เหงา เศร้า ไม่สดชื่น ต้องรู้ตัว รีบปรับตัว อยู่กับคนที่รัก ไปพบเพื่อนฝูง พูดคุยปรึกษาปัญหา ทำกิจกรรมที่ชอบ ช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าทำทุกอย่างแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
3. สร้างกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมในบ้านและนอกบ้าน จะทำคนเดียวหรือเป็นกลุ่มก็ได้ เช่น งานบ้าน งานสวน เข้าชมรม เล่นกีฬา ออกกำลังกาย ตามความชอบความพอใจ รสนิยม และบริบทการใช้ชีวิต เพื่อให้สมองได้ถูกใช้งาน เป็นต้น
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “ไตรมาส4สภาทัวร์หวังรายได้จีน-ไทยเศรษฐกิจซึม”
จีนทะลักเข้าไทยต่อเนื่องปลายปีพุ่ง 2.4 ล้านคน ส่วนไทยเที่ยวไทยเฉาเศรษฐกิจยังซึมอยู่
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาส 4 (ต.ค.-ธ.ค.) ปี 2560 คาดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทย 9.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17.76% แบ่งเป็นอาเซียน 2.43 ล้านคน เพิ่ม 3.40% กลุ่มเอเชียตะวันออก 3.89 ล้านคน เพิ่ม34.60% ยุโรป 1.58 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.64% หากเป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว จะทำให้ทั้งปี 2560 มีต่างชาติมาเที่ยวไทยทั้งสิ้น 35.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.59% มีรายได้เข้าประเทศ 1.84 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.49%
ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 2.43 ล้านคน เพิ่มมากสุด 68.75% ตลอดปีนี้จีนจะเที่ยวไทย 9.88 ล้านคน เพิ่ม 12.79% ต่ำกว่าเป้าตั้งไว้ 10 ล้านคน
ข่าวที่สอง “จ่อยกเว้นวีซ่า90วัน6ชาติทัวร์รักษาสุขภาพ”
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้พิจารณายกเว้นวีซ่า 90 วัน กลุ่มนักเดินทางเชิงสุขภาพที่เข้ามารักษาตัวและพักฟื้นในไทย 6 ชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น เนปาล ภูฏาน ศรีลังกา และบังกลาเทศ ต่อจากกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และจีน เพราะส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาพร้อมกันเป็นครอบครัว ๆ ละ 3 คนขึ้นไป และใช้เงินเฉลี่ย 5,000 บาทต่อคนต่อวัน
ปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดเป็นตลาดญี่ปุ่น ที่เข้าร่วมในงาน Japan Expo Tourism 2017 มีผู้สนใจกว่า 100 ราย สนใจซื้อสมาชิกบัตรท่องเที่ยวอิลิตการ์ดของ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) เพราะได้สิทธิพักระยะยาว
นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี ยืนยันว่า จะเปิดแคมเปญ ADVENTUR THAILAND ผนวกขายสมาชิกที่ซื้อบัตรแล้วได้ท่องเที่ยวเมืองไทยด้วย ปี 2561 พร้อมจะทำยอดขายให้ได้ถึง 670 ล้านบาท เติบโต 10% ปัจจุบันลูกค้าอีลิทการ์ดมีส่วนแบ่งตลาดดังนี้ จีน 30% อังกฤษ 28% สหรัฐ 25% ฝรั่งเศส 22% ญี่ปุ่น 20%
ข่าวที่สาม “ดิโอกุระจัดเมนูฝรั่งเศสหนุนเกษตรยั่งยืนเริ่มที่680บาท”
โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ จัดเทศกาลที่ห้องอาหาร เอเลเมนท์ เพื่อสนันสนุนการเกษตรแบบยั่งยืนและไร้สารพิษเลือกใช้วัตถุดิบจากฟาร์ม และสวนปราศจากสารพิษ จากทั้งในและต่างประเทศมาปรุงเป็นอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม – 23 ธันวาคม 2560 อาหารหรูรสเลิศ ราคาคุณภาพเริ่มต้นที่จานละ 680++บาท
ทาง เชฟ แอนโทนี ชอลท์ไมเยอร์ หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ ได้คัดสรรวัตถุดิบพืชและสัตว์ที่เติบโตตามธรรมชาติโดยปราศจากความเครียดในพื้นที่ที่เลี้ยงดู (Free Range System) เพื่อนำมาปรุงอย่างพิถีพิถันเป็นเมนูอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นน่ารับประทานหลายรายการ อาทิ โดนัทฝรั่งเศสเนื้อปลาเทราท์รมควันรับประทานกับซอสหน่อไม้ฝรั่งและไข่ปลาเทราท์ หอยนางรมสดจากออสเตรเลีย ทาร์ทาร์กุ้งแม่น้ำมาดากัสการ์ เสิร์ฟพร้อมไอศครีมมะเขือเทศรมควัน ขิงดองญี่ปุ่น และโซบะ ซุปถั่วแระญี่ปุ่นใส่กุ้งลายเสือ ซุปผักน้ำรับประทานกับไข่ลวกและครีม
ส่วนเมนูอาหารจานหลักที่แนะนำ อาทิ แซนวิชปลาโซลและกุ้งใส่ผักชีญี่ปุ่นและถั่วแระญี่ปุ่น ปลากระพงนึ่ง เสิร์ฟพร้อมซอสส้มยูซุ หนังปลาทอดกรอบ แครอทและยี่หรา ปลาทรายแดงทะเล รับประทานกับหน่อไม้ฝรั่งขาว ถั่วเหลืองและชาเขียว ปลาค็อดย่างเตาถ่าน รับประทานกับกุ้งทอดกรอบ มะเขือเทศและเนยมงเปอลีเย ไก่ย่างยัดไส้ด้วยตับห่านและเห็ดทรัฟเฟิล หัวไชเท้าและเห็ดผัดเนย เป็ดย่างใส่พริกไทซันโช น้ำผึ้งและรากผัก เนื้อออร์แกนิคพันเบคอนย่าง เสิร์ฟกับ เห็ดกระดุมและหัวหอม
สอบถามที่ โทร.02 687 9000 หรือ www.okurabangkok.com
ข่าวที่สี่ “เทศกาลเห็ดทรัฟเฟิลแห่งปีที่เคปเฮาส์ กรุงเทพฯ”
ห้องอาหารนัมเบอร์ 43 อิตาเลียน บิสโทร, เคปเฮ้าส์ กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านพบกับเทศกาลเห็ดทรัฟเฟิล ในวันที่ 8-15 ตุลาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. สัมผัสความอร่อยที่ไม่ธรรมดาของเห็ดทรัฟเฟิลสุดหรูสูตรต้นตำรับ พร้อมเมนูอร่อยของเห็ดหลากหลายชนิด
รังสรรค์ขึ้นโดยเชฟมืออาชีพชาวอิตาเลียน อาทิ เนื้อสันในกับซอสเห็ดพอร์ชินี่เสิร์ฟพร้อมผัก, เนื้อดิบสไลด์บางเสิร์ฟกับทรัฟเฟิล เซเลอรี่และพาเมซานฝานบาง, เค้กแบล็คฟอเรสต์ เพื่อให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติของเห็ดทรัฟเฟิลแสนอร่อยอย่างเต็มอิ่ม
เกาะติดข่าวประจำได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทาง FM 97.0 MHz.11.00-12.00 น.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น