ททท.ลุย2บิ๊กโปรเจ็กต์เชียงรายแต้แต้-ทัวร์ข้ามภาค
หนุนอีสานขายทัวร์เช่าเหมาลำสู่ภาคเหนือต.ค.นี้
คิงเพาเวอร์เร่งแจกห้องน้ำ4เมืองรองอีสาน/เหนือ
ททท.แจกพระปลุกวัยเก๋าทัวร์ข้ามภาค5จังหวัด
บางจากนำทีมเพิ่มพื้นที่สีเขียวริมน้ำเจ้าพระยา
ทอท.ลั่น6สนามบินปี’61ผู้โดยสารโตเพิ่ม 10%
TCEBชูแคมเปญไมซ์สแตนดาร์ดไทยขึ้นนำเอเชีย
เที่ยวเมืองรองเชียงรายวิถีไทยรอบอำเภอแม่สาย
ระวังภัย7วิถีการกินนำไปสู่โรคอ้วนแบบไม่รู้ตัว
เจ้าท่าตื่นเสนอกฎหมายใหม่คุมทัวร์เรือ244อู่
บินไทยเช่าเหมาฮัจย์14ไฟลต์บริการ 4 พันคน
ท่องเที่ยวโกยเงิน6เดือนเป๋าตุง1.45 ล้านล้าน
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 เกาะติดสถานการณ์หลังเคลียร์ถ้ำหลวง “สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อัดฉีด 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ เที่ยว “เชียงรายแต้แต้” กับ “เที่ยวข้ามภาคอีสานสู่เหนือ” ระดมบริษัทนำเที่ยวไทยจัดแพกเกจขายภาคเหนือเมืองหลักเชียงใหม่เชื่อมเมืองรองเชียงราย พร้อมดึง 10 สมาคมท่องเที่ยว 20 จังหวัด จุดพลุใช้ฝูงบินนกแอร์นำร่องจัดทัวร์เช่าเหมาลำเที่ยวข้ามภาคเริ่มชิมลางตุลาคม 2561 หากสำเร็จะรุกขยายเครือข่ายชวนภาคใต้ ภาคตะวันออก มาเที่ยวเชียงรายและภาคเหนืออย่างคึกคัก กระจายรายได้สู่ชุมชนต่อเนื่องถึงปี 2562
นางสมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังได้จัดทำกลยุทธ์ผนวกเข้าด้วยกัน 2 โครงการ คือ “เที่ยวข้ามภาคกับเชียงรายแต้แต้” ด้วยการสร้างความยั่งยืนใน 3 ขาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ขณะนี้ได้ผนึกความร่วมมือกับ 18 บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวภูมิภาคภาคตะวันออกเหนือ ออกแบบแพกเกจกระตุ้นคนไทยเดินทางข้ามภาคจากอีสานเข้าภาคเหนือในเมืองหลักเชียงใหม่และเมืองรองเชียงราย ตั้งเป้าขยายฐานนักท่องเที่ยวไหลเข้าเมืองรองให้ได้ตามนโยบายขององค์กรและรัฐบาล
เส้นทางนำร่องจะใช้เที่ยวบินประจำ อุดรธานีหรือขอนแก่นตรงสู่เชียงใหม่ พักค้าง 1 คืน แล้วเดินทางไปเที่ยวต่อในเชียงรายพักค้างอีก 2 คืน ขากลับก็ใช้เชียงใหม่เพื่อซื้อของฝากกลับบ้าน หากสามารถทำโครงการนำร่องแล้วประสบความสำเร็จ จะไปหารือกับสายการบินเพิ่มจุดบินจากอีสานเข้าตรงเชียงรายต่อไป
การนำเสนอขายท่องเที่ยวข้ามภาคจากอีสานเข้าเชียงราย ต้องพิจารณาทั้ง 2 ส่วน คือความต้องการของนักท่องเที่ยวกับสินค้าที่โดนใจ รวมทั้งจะปลุกกระแสนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV จาก สสป.ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม เข้ามาเที่ยวข้ามภาคได้ด้วย โดยจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ไร่ชาฉุยฟง สวนดอกไม้ โครงการหลวงในเชียงราย แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ถึงแม้อีสานจะมีความเป็นท้องถิ่นคล้ายกันกับเหนือแต่จะเพิ่มมุมใหม่ให้เห็นความแตกต่างกัน คือชุมชนภาคเหนือมีระบบบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างเข้มแข็ง เป็นต้นแบบการเรียนรู้ให้นำไปใช้พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนภาคอีสานได้เป็นอย่างดี
เป้าหมายสำคัญที่สุดของโครงการนี้ต้องการให้นักท่องเที่ยวอีสานข้ามภาคมาลิ้มรสอาหารถิ่นภาคเหนือ ซึ่งมีมิติความแตกต่างชัดเจนโดยเฉพาะของชนเผ่า เป็นการต่อยอดสร้างกระแสเรื่องการท้ากินข้ามภาค
ขณะนี้ได้วางแผนกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวข้ามภาคจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 สร้างความเข้มแข็งให้บริษัทนำเที่ยวสามารถขายแพกเกจแบบฟรีสไตล์ โดย ททท.จะเข้าไปสนับสนุนในส่วนกิจกรรมชุมชนให้นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มฟรี เพื่อช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อแพกเกจจากบริษัททัวร์
ระยะที่ 2 จัดทำคอนซอร์เตี้ยมทำให้เกิดการขายร่วมกันในกลุ่มสมาคมท่องเที่ยวอีสาน 10 สมาคม ผลิตแพกเกจพูลการขายร่วมกัน โดยเตรียมจัดทำทัวร์เช่าเหมาลำใช้เครื่องบินนกแอร์ขนาดเล็ก บินจากอีสานเข้าเชียงใหม่ เชียงราย เบื้องต้นจะทำ 2 กรุ๊ป ไป-กลับ เริ่มช่วงตุลาคม 2561 ซึ่งตรงกับเทศกาลออกพรรษาที่คนไทยนิยมเดินทางคึกคักไปทำบุญทอดกฐิน
วางกลยุทธ์เจาะตลาดนักท่องเที่ยวจากอีสานเดินทางกับบริษัทนำเที่ยว 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้สูงวัย ครอบครัว ข้าราชการดูงาน/ประชุมสัมมนา เพราะเชียงรายมีชุมชนพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวควบการดูงานได้ด้วย
ขณะเดียวกันในปีงบประมาณ 2562 เริ่ม 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ททท.ได้กำหนดปลุกกระแสทำโครงการใหญ่ “เชียงรายแต้แต้” เน้นการขายธรรมชาติและอาหาร นำจุดเด่น “ความมีน้ำใจของชาวเชียงราย” กับ วัดสายปฏิบัติหลายแห่งผูกเข้าไว้ในโปรแกรม รวมถึงงานศิลป์ของปูชนียบุคคลซึ่งปรากฏอยู่ในเชียงรายหลากหลายรูปแบบ สามารถผูกเข้ามาไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยวได้ โดยจะพิจารณาจากจังหวัดที่มีเที่ยวบินเข้ามาภาคเหนือได้อีก 2 ภาค คือ ตะวันออก กับภาคใต้
ปี 2562 ททท.ได้บรรจุโครงการขายรายการใหญ่ 55 เมืองรอง จะใช้กลยุทธ์นำเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวในลักษณะ “เรื่องเล่า” อาทิ ภาคเหนือ เรื่องเล่าผ้าพื้นเมือง ภาคอีสานเป็นเรื่องเล่าอาหารถิ่นและความศรัทธาทางพระพุทธศาสนา แต่ละภาคจะนำเสนอจุดเด่นเนื้อหาแหล่งท่องเที่ยวเชิงลึกให้สอดคล้องกับการตลาด เล่าเรื่องที่มีความน่าสนใจดึงคนเข้ามาเที่ยวเมืองรอง แต่สิ่งที่ต้องยอมรับข้อจำกัดของที่พัก การเข้าถึงระบบคมนาคมขนส่ง ตามเมืองรองอาจจะยังไม่สะดวกเหมือนเมืองหลัก แต่ด้วยเสน่ห์ความใหม่สดกับเรื่องเล่าแต่ละพื้นที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดได้เป็นอย่างดี
ททท.จึงได้กำหนดเส้นทางพร้อมขาย “เชื่อมโยง” 3 แบบ 1.ขายคู่กับเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ มาเชียงราย หรือแม่ฮ่องสอน 2.ขายเมืองรองกับเมืองรอง เช่น อุบลราชธานี กับศรีสะเกษ 3.จังหวัดที่เข้มแข็งจะขายแบบเดี่ยว ๆ เช่น เชียงราย สามารถขายได้ด้วยตัวเองก็ผลิตเป็นแพกเกจจังหวัดเดียว ทั้งหมดนี้กำลังรวมเข้าไว้ในฐาน Big Data ของเรื่องเล่าเชิงภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือเชิงประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งความแข็งแรงของคนในพื้นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ตั้งแต่ปี 2562 จะรวบรวมแล้วขยายจุดขายต่อไป
สำหรับเชียงรายหลังเหตุการณ์ช่วยชีวิตนักฟุตบอลเยาวชนทีม 13 หมูป่าออกจากถ้ำหลวง เขาน้ำนางนอน สำเร็จ ทำให้คนไทยและทั่วโลกรู้จักชื่อของเชียงรายเป็นอย่างดีแล้ว ททท.จะใช้โอกาสนี้ซึ่งได้เห็นการรวบรวมพลังกาย ใจ ความรู้ องค์ความรู้ต่าง ๆ เป็นปรากฎการณ์เดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำได้ จึงจะใช้พลังในพื้นที่รักษาสืบทอดองค์ความรู้ สืบทอดเรื่องนี้ไว้ โดยทางจังหวัดเชียงราย กับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังพิจารณาเพื่อนำมาวางแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อจะทำต่อไป
เบื้องต้นระยะเร่งด่วน อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินเชียงรายได้รวมกลุ่มจัดทำงานศิลปะนำเสนอเรื่องราววีระบุรุษและฮีโร่ถ้ำหลวง ซึ่งเป็นโครงการที่ทำให้ได้เร็วที่สุด ส่วนทางด้านวิชาการต้องทำคู่ขนานกันไป และภารกิจของ ททท.ต้องเตรียมข้อมูลเส้นทางถ้ำหลวง ดอยผาหมี กับแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับพื้นที่รอบบริเวณที่มีอยู่มากมาย ซึ่งโจทก์ใหญ่คือเมื่อนักท่องเที่ยวไปยังถ้ำหลวงจะมีวิธีทำให้เม็ดเงินกระจายเข้าถึงชุมชนอย่างเท่าเทียม เป็นความท้าทายการทำงานของ ททท.ภาคเหนือ ในอนาคตอย่างมาก
นับจากวันนี้เป็นต้นไป ททท.ภาคเหนือ จะทำให้ 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ ท้าเที่ยวข้ามภาค กับ ท่องเที่ยวเมืองรอง “เชียงรายแต้แต้” เป็นต้นแบบนำร่องที่จะขยายผลในเชิงบูรณาการกระจายเงินหลั่งไหลสู่ท้องถิ่นด้วยพลังคนไทยด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์เทงบห้องน้ำเพิ่ม4เมืองรองเหนือ/อีสาน”
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รวมพลังกันลงทุน 10 ล้านบาท สร้างห้องน้ำ สำหรับคนธรรมดา 6 ห้อง และผู้สูงวัยกับผู้พิการอีก 1 ห้อง มอบให้ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้บริการในพื้นที่หลักของเมืองท่องเที่ยวรอง ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
หลังจากส่งมอบห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยทุกฝ่ายยังได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ และทาสีผนังห้องน้ำหลังเก่าด้วย
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นเอกชนที่ได้จุดประกายในการเข้ามาร่วมมือใช้เงินลงทุนสร้าวห้องน้ำมอบให้กับจังหวัดท่องเที่ยวหลักและรองทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นต้นแบบืำให้เอกชนรายอื่น ๆ สนใจเข้ามาช่วยกันเพิ่มขึ้นซึ่งตอนนี้ก็มีกลุ่ทธุรกืจประกันภัย และอื่น ๆ ทยอยส่งหนังสือแจ้งมายังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหลายรายด้วยกัน เป็นสัญญาณที่ดีต่อประเทศในภาพรวม
ส่วนห้องน้ำที่คิง เพาเวอร์ ส่งมอบให้จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งนี้ จะได้ใช้งานทันทีช่วงเทศกาลเข้าพรรษาระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม นี้ ที่ทุ่งศรีเมืองจะเป็นศูนย์กลางการจัดงานแห่เทียนพรรษาประจำปี 2561 จะมีคนหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานหลายแสนคน
อีกทั้งยังเป็นจังหวะดีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะใช้โอกาสจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร วันที่ 23-24 กรกฎาคม นี้ เป็นประธานเปิดงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ไปด้วย
นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า ในอีก 5 เดือนข้างหน้า จะทยอยส่งมอบห้องน้ำของคิง เพาเวอร์ ที่ใช้เงินก่อสร้างพื้นที่ละ 10 ล้านบาท กระจายส่งมอบให้ตามเมืองท่องเที่ยวรองอีก 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน เลย เพชรบูรณ์ หนองคาย
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ก็ยังได้นำลูกฟุตบอลคิง เพาเวอร์ จำนวน 1,500 ลูก ราคาลูกละ 300 บาท ไปมอบให้กับเด็กนักเรียนระดับตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงประถมศึกษาซึ่งเป็นโรงเรียนในเขตเทศบาลจังหวัดอุบลราชธานี จาก 15 ชุมชน
เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เด็กได้เล่นกีฬาตั้งแต่วัยเยาว์ เผื่อนาคตจะได้มีโอกาสเข้าสู่วงการกีฬาระดับประเทศและนานาชาติต่อไป ถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เยาวชนในชุมชนทั่วประเทศ และสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมต่างจังหวัดควบคู่กันไปด้วย
นอกจากนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้ใช้โครงการ "Power Community" นำสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนจากทั่วประเทศกว่า 200 รายการ เข้ามาวางจำหน่ายในร้านค้าทุกสาขา โดยได้จัดพื้นที่จำหน่ายเป็นโซนสินค้าไทยคุณภาพดีของชุมชน โดยในปี 2561 เตรียมขยายพื้นที่จำหน่ายสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น ทั้ง 8 สาขา เนื่องจากสินค้าไทยได้นับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาช็อปปิ้ง ประการสำคัญที่สุดจะเป็นอีกช่องทางในการส่งเสริมชาวบ้านในท้องถิ่นทั่วประเทศขยายการสร้างงานในครัวเรือนและเพิ่มรายได้เข้าสู่ครอบครัว
ข่าวที่ 2 “ททท.อีสานต่อยอดวัยเก๋าเที่ยวข้ามภาค”
ททท.อีสานใช้ช่วงเข้าพรรษา 27-28 ก.ค.นี้ จัด ตักบาตรดอกไม้วัดราชบพิธฯ” รวบรวมดอกไม้ไปทำพระผงแจก ต่อยอดแผนตลาดกระตุ้นวัยเก๋าเที่ยวข้ามภาค 5 จังหวัด “เชียงใหม่-นครพนม-นครปฐม-นครศรีฯ-ชลบุรี” ตลอด ก.ย.นี้
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดงานต้อนรับท่องเที่ยวทางบุญ พระพุทธอังคีรส งานเดินเทียนและตักบาตรดอกไม้ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2561 วันที่ 27-28 กรกฎาคม 2561 โดยจะนำดอกไม้ในงานบุญวันดังกล่าวมาจัดทำเป๋นพระผงแจกแก่นักเดินทางวัยเก๋า กระตุ้นการเดินทางข้ามภูมิภาคในช่วงเดือนกันยายน 2561
โดย ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดทำโครงการ “เก๋ายกก๊วน ชวนเที่ยวไทย” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยให้เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดและภูมิภาค ททท. พร้อมทั้งขอมอบ พระผง“พระพุทธอังคีรส” สร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่วัยเก๋าอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เพียงแสดงบัตรประชาชนซึ่งอยู่นอกเหนือภูมิลำเนาใน 5 พื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ นครพนม นครปฐม นครศรีธรรมราช และชลบุรี สามารถติดต่อรับ พระผง“พระพุทธอังคีรส” ได้ที่ ททท. สำนักงาน เชียงใหม่ นครพนม สุพรรณบุรี นครศรีธรรมราช และพัทยาทุกวันตั้งแต่เวลา เวลา 08.30-16.30 น.
สอบถามข้อมูลศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. โทร. 1672 เดือนกันยายน 2561เป็นต้นไป
สำหรับ “พระพุทธอังคีรส” จะทำจากดอกไม้บูชามาสู่ดินสิริมงคล ททท. ได้รับประทานพระอนุญาตจัดทำ พระผง “พระพุทธอังคีรส” ซึ่งเป็นรูปพระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ ประกอบด้วยมวลสารจากดอกไม้ที่พุทธศาสนิกชนนำมาเป็นพุทธบูชาในงานเดินเทียนและตักบาตรดอกไม้ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2561 ดินจากพระธาตุจอมเจดีย์สำคัญ 5 ภาค พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพนม พระปฐมเจดีย์ พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช พระมหาเจดีย์วัดญาณสังวราราม ดินมหามงคล 77 จังหวัด โครงการ “จากดินของพ่อ สู่ดวงใจของคนไทย”
ข่าวที่ 3 “บางจากนำทีมเพิ่มพื้นที่สีเขียวริมเจ้าพระยา”
นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์และพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้เป็นประธานในกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา” เชิญชวนให้ผู้บริหาร เพื่อนพนักงานบางจากฯ พร้อมด้วยนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สำนักโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ กรมป่าไม้ มาร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักเรื่องการดูแลสภาพอากาศ ปลูกจิตสำนึกการอนุรักษ์ ด้วยการปลูกหญ้าแฝกที่บริเวณท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยในการยึดหน้าดิน เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการพังทลายของตลิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน สร้างทัศนียภาพที่สวยงาม เติมอากาศบริสุทธิ์ และช่วยรักษาความสมดุลระบบนิเวศทางธรรมชาติ โดยได้รับการอนุเคราะห์ต้นกล้าหญ้าแฝก จำนวน 200,000 ต้น จากสำนักโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ กรมป่าไม้ สถานีพัฒนาที่ดินสมุทรปราการ และศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อำเภอปากช่อง
ข่าวที่ 4 “ทอท.ดันยอดผู้โดยสาร6สนามบินปี’61โต10%”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า ตั้งเป้าตลอดปี 2561 อัตราการเติบโตของผู้โดยสารที่ใช้ทั้ง 6 สนามบินของ ทอท.จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% สถิติ 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ระหว่างตุลาคม 2560-พฤษภาคม 2561 จำนวนผู้โดยสารเติบโต 9-10% จำนวนผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.จำนวน 95,536,222 คน เพิ่มขึ้น 9.88%
โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลเดินทางหนาแน่นของนานาชาติ (hi season) ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม นี้ หลังเหตุการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าจำนวนเที่ยวบินจากจีนเข้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ยังมีอีกหลายสายการบินรอเข้ามาแทนที่ช่วงตารางการบินฤดูหนาวปีนี้
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2561 อาจส่งผลกระทบระยะสั้น 2-3 เดือน ในระยะยาวไม่น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้จีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทย 10% ของคนจีนที่มีหนังสือเดินทาง 7.5% ของประชากรจีนทั้งหมดกว่า 1,200 ล้านคน อนาคตจีนที่มีหนังสือเดินทางจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งปีนี้ ทอท.มีส่วนแบ่งผู้โดยสารจีนผ่านเข้าออก 6 สนามบินรวมกันปีละ 26% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 130 ล้านคน
ข่าวที่ 5 “TCEBชูแคมเปญใหม่ไมซ์ฯดันไทยผู้นำเอเชีย”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีภารกิจในโครงการ “Thailand MICE Venue Standards 2018” จึงเตรียมเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาด กระตุ้นผู้ประกอบการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน พัฒนาโครงสร้าง่สถานที่จัดประชุมสัมมนาให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในฐานะที่ทีเส็บได้นำร่องบุกเบิกไทยให้เป็นประเทศผู้นำของอาเซียนทางด้าน MICE Venue Standard ตั้งแต่คอนเว็นชั่น โรงแรม เรื่อยไปจนถึงห้องประชุมอื่น ๆ
เนื่องจากทีเส็บมีนโยบายหลักต้องเร่งส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศให้เจริญทัดเทียมนานาชาติทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ ขานรับนโยบายรัฐบาลต้องการให้ไมซ์เป็นอีกหนึ่งกลไกหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระจายรายได้สู่ภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศ
ดังนั้นการเดินหน้าพัฒนา MICE Venue Standard เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการและประเทศ ผลักดันสถานที่จัดงานแบบครบวงจรสามารถขึ้นเป็นผู้นำอาเซียนได้อย่างเข้มแข็งทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป
ช่วงที่ 2 กระแสปีนี้ไม่มีเมืองรองใดแรงเท่า “เชียงราย” เพราะชื่อเสียงของถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลกต่างก็เทความสนใจที่จะเข้ามาค้นหา จึงขอนำแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่อย่างทั้งในอำเภอแม่สาย อำเภอเมือง อำเภอแม่จัน มาชวนกันไปเที่ยว แล้วจะรู้ว่าเชียงรายแต้แต้มีวิถีความสุขอยู่เต็มไปหมด แต่เรื่องสุขภาพก็สำคัญต้องใส่ใจเช่นกันโดยเฉพาะ “7วิถีการกินทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัว” และข่าวน่ารู้ก่อนใคร กรมเจ้าท่าตื่นตัวจัดระเบียบกฎหมายใหม่คุมเรือทั่วประเทศ 244 อู่ล้อมคอกหลังเรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต ส่วน “การบินไทย” จัดชาเตอร์ไฟลต์บริการฮัจย์ 14 เที่ยว 4,000 คน ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดสถิติครึ่งปีแรก 2561 ท่องเที่ยวโกยเงินเป๋าตุง 1.45 ล้านล้านบาท
@เที่ยวเชียงรายแต้แต้ในมุมเท่ๆ หลังถ้ำหลวง
ตอนนี้ชื่อ “จังหวัดเชียงราย” ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งในหมู่คนไทยและทั่วโลก หลังเหตุการณ์นักเตะเยาวชนชาติพันธุ์ 13 หมูป่าเข้าไปติดถ้ำหลวง เขาขุนน้ำนางนอน โดยทุกฝ่ายได้ช่วยกันออกมาอย่างปลอดภัย
จึงถึงเวลาที่จะแนะนำมุมท่องเที่ยวเมืองรองในมิติใหม่ ๆ เริ่มตั้งแต่ใน อำเภอเมือง ต้องที่ “สิงห์ปาร์ค” อาณาจักรการเกษตร มีบริการรถรางคิดค่านำชมเพียงคนละ 100 บาท ทัวร์ไปรอบบริเวณภายในเวลา 1 ชั่วโมง แวะตามสถานีต่าง ๆ เพื่อชมไร่ชาที่ปลูกอยู่ตามเนินเขาในพื้นที่กว่า 8,700 ไร่ รวมทั้งเป็นแหล่งเพาะเห็ดถั่งเช่าคุณภาพดีขายได้ราคากิโลกรัมละ 50,000 บาท แต่ละโซนดีไซน์เก๋ไก๋ในอ้อมกอดธรรมชาติเขียวขจี มีไฮไลต์จัดกิจกรรมการเล่นซิปไลน์โดนใจวัยรุ่น ส่วนมุม “ร้านอาหารภูมิรมย์” เป็นจุดชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา สวยสุดยามตะวันลับขอบฟ้าแสงสีทองฉาบลงผืนทะเลสาบเบื้องล่างตัดกับสีเขียวของไร่ชาและวิวสวนยางธรรมชาติ
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ใน อำเภอแม่สาย ดินแดนแห่งถ้ำหลวง เขาขุนน้ำนางนอน ในบริเวณแม่สายมีแหล่งท่องเที่ยวหลายสไตล์ แห่งแรก “ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน” จัดตั้งขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อแก้ปัญหาป่าเสื่อมโทรม ป้องกันการกัดเซาะพลังทลายของหน้าดินบริเวณเชิงเขาและสร้างรายได้ให้ราษฎร พักรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ณ “ร้านเมล็ดชา”
“อุทยานเวฬุวันพระเจ้าสาน วัดหิรัญญาวาส” ชมพลังความสามัคคีในการนำไม้ไผ่มาสานเป็นองค์พระขนาดใหญ่ “พระสิงห์สานชนะมาร” ตั้งอยู่ในวิหาร ชาวบ้านร่วมใจกันใช้เวลาสาน 99 ด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะสิงห์เชียงแสนปางมารวิชัย องค์พระเป็นสีทองห่อหุ้มด้วยจีวรสีแดงเข้มทำจากสีต้นไม้ชาด
และ “บ้านปางห้า” เป็นชุมชนเข้มแข็งแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำอยู่เหนือสุดของไทย ผู้คนได้ผันจากอาชีพดั้งเดิมการทำกระดาษสาหันมาทำ “หน้ากากมาร์กหน้าไหมทองคำ” ทุกวันนี้โด่งดังไปทั่วโลก เริ่มต้นตั้งแต่นำตัวไหมพันธุ์ไทยมาเลี้ยง สาวไหม นำน้ำลายที่มีคุณสมบัติพิเศษมาศึกษาวิจัยจนกลายเป็นหน้ากากใช้มาร์กหน้าทำให้ผิวเรียบเนียนไร้กระ ฝ้า และยังมีสบู่ โลชั่น ผลิตภายใต้แบรนด์ CEILK (ซิลค์) เพิ่มความงาม ชะลอวัย ด้วยธรรมชาติจำหน่ายนักท่องเที่ยวด้วย
บริเวณใกล้ ๆ กัน ตอนนี้มีบริการเพิ่มด้วยการพานั่งรถอีแต๊กไปชมสวนฝรั่งของป้าลัดดา หนึ่งในครอบครัวชาวบ้านที่ผันชีวิตจากการทำไร่ข้าวโพดราคาถูก มาปลูกฝรั่งพันธุ์ผสมไส้สีแดงกลายเป็นผลไม้ประจำอำเภอแม่สาย นำไปขายยังตลาดชายแดน แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ทำรายได้เป็นกอบกำ
ส่วนการลิ้มลองอาหารถิ่นช่วงมื้อเย็น แนะนำให้แวะ “ร้านครัวสุโขทัย” ที่มีดอยผาหมีเป็นแบล็คกราวด์ให้ถ่ายรูปได้แบบวิวพาโนรามา ส่วนเมนูอาหารก็มีให้เลือกทั้งแบบไทยและท้องถิ่น
วันต่อมาตื่นแต่เช้าไปสักการะอนุสาวรีย์พญาเม็งราย แวะตลาด Hobby Market ตลาดเช้าในท้องถิ่นเน้นขายพืชผักเกษตรอินทรีย์พื้นบ้าน และสินค้ามือสองคล้ายจตุจักรในกรุงเทพฯ
ก่อนจะมุ่งหน้าไปชมความงดงามของ “วัดร่องเสือเต้น” หรือวัดสีน้ำเงิน สถาปัตยกรรมการก่อสร้างตามแบบพุทธศิลป์จากฝีมือ “สล่านก-พุทธา กาบแก้ว” ลูกศิษย์อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ช่วงบ่ายไป “ไร่ชาฉุยฟง” อ.แม่จัน นักท่องเที่ยวนิยมไปละเอียดจิบชาอู่หลงเบอร์ 12 , 17 ทอดสายตาดื่มด่ำกับทิวทัศน์สีเขียวกลางหุบเขา ไปพร้อม ๆ กับแชะแชร์รูปผ่านโซเชียลกันอย่างเพลิดเพลิน
เข้าสู่วันที่สามชวนกันขึ้นเขาไปชมแดนธรรมะในอุทยาน “ไร่เชิญตะวัน” ของท่าน ว.วชิระเมธี ออกแบบเป็นสถานวิปัสสนากลิ่นอายเซนแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเนินเขาสงบ ร่มเย็น สะอาดตา มีศูนย์เรียนรู้ทั้งธรรมชาติ งานศิลป์ ผสมผสานกับธรรมะ และแหล่งรวมการสอนชุมชนรอบพื้นที่ได้ทำอาชีพนำผลิตภัณฑ์มาวางขายเลี้ยงครอบครัวอย่างมีคุณภาพ เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ต่าง ๆ
ท่องเที่ยวเมืองรองแบบสโลไลฟ์ใน “เชียงรายแต้แต้” มีความสุขทุกนาทีกระจายอยู่ทั่วทุกตารางนิ้ว
@7วิถีการกินสู่ความอ้วนโดยไม่รู้ตัว
จากการศึกษาวิถีการกินกับความอ้วนของกลุ่มประชาการตัวอย่าง 5,200 ราย พบว่า วิธีการกินอาหารที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับความอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกินมีอยู่ 7 แบบ หรือ 7 วิถีการกิน คือ
1. การกินตามอารมณ์ บางคนใช้การกินเป็นการระบายอารมณ์จัดการความรู้สึก เช่น ยิ่งเครียดยิ่งกิน ยิ่งเศร้าก็ยิ่งกิน ดีใจก็กินฉลอง เสียใจก็กินประชด พูดง่ายๆว่า อารมณ์แบบไหนก็กินทั้งนั้น
2. กินแต่ของสำเร็จรูป เพราะหาง่าย อยู่ใกล้มือ ไม่ชอบกินของสด เพราะรู้สึกเหม็นเขียว ไม่อร่อย จืดชืด รสชาติไม่สะใจ ของสำเร็จรูปโดยเฉพาะฟาสต์ฟู้ดจะมีไขมัน แป้ง น้ำตาลค่อนข้างสูง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อ้วนได้หากรับประทานประจำ
3. กินแก้กลุ้ม กังวลมากไปก็หิวบ่อย เครียดมากไปก็กินบ่อย
4. กินของ "ว่าง" (ที่ไม่ว่าง) ทั้งวัน กินไปทำงานไป กินไปดูทีวีไป
5. กินเติมเต็มความสุขทางใจ ทางจิตวิญญาณ การกินเป็นเครื่องแสดงความมีบุญวาสนามีอันจะกิน กินดีอยู่ดี กินให้อ้วน แสดงว่ามีความอุดมสมบูรณ์
6. กินตามบรรยายกาศ สุนทรียภาพ เช่น กินในที่สงบ ร่มรื่นเย็นสบาย จะกินได้มากเป็นพิเศษ หรือนักชิม ผู้ชอบในศิลปะการทำอาหารหรือการกินอาหาร ทำให้เกินนิสัย "กินเกิน"
7. กินออกสังคม เช่น กินสังสรรค์ในหมู่เพื่อนญาติมิตรสหาย ในครอบครัวกับคนที่รู้ใจ จะทำให้กินได้นานและมากกว่าปกติ
ดังนั้น ใครที่ไม่อยากอ้วนหรือจะลดน้ำหนักต้องระวังการกินในสถานการณ์ หรือวิถีการกินสู่ความอ้วนทั้ง 7 นี้ไว้ให้ดี ไม่เผลอตัวจนพุงยื่นออกมานอกตัว
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “เจ้าท่าจัดระเบียบเร่งทำกฎหมายใหม่ล้อมคอกเรือทัวร์”
นายจีรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าท่าทั่วประเทศ เข้าตรวจสอบอู่ต่อเรือพบมีทั้งรายเล็กและรายใหญ่รวมทั้งสิ้น 244 อู่ เพื่อเตรียมจัดระเบียบครอบคลุมทุกประเภท หลังเกิดเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอกฎกระทรวงใหม่ เพื่อออกเป็นกฎหมายบังคับให้เรือทุกประเภทต้องมาขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย หากตรวจพบรายใดไม่ขึ้นทะเบียนในแต่ละประเภทจะมีความผิดตามกฎหมายทันที
ระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสุ่มตรวจเรือทุกขนาดทุกประเภท ยกเว้น ประเภทเรือพื้นบ้าน เรือพาย ตามพื้นถิ่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะเข้าควบคุมและตรวจสอบอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ที่มีขนาด 500 ตันกรอสขึ้นไปเท่านั้น รวมถึงได้ออกระเบียบไปยังทุกอู่ต่อเรือหากมีเรือทุกประเภทจะเข้ามาซ่อมแซม หรือต่อเติม ไม่ว่ากรณีใดทางอู่ต่อเรือจะต้องรายงานการซ่อมแซม หรือ ต่อเรือ ต่อกรมเจ้าท่าทุกกรณี
ข่าวที่สอง “บินไทยทำเช่าเหมา14เที่ยวบริการฮัจย์4,000คน”
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ สมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ภาคใต้ และสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ สามจังหวัดชายแดนใต้ จัดเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาเพื่อขนส่งผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2561 มีผู้แสวงบุญเดินทางกับการบินไทยประมาณ 4,000 คน
โดยได้จัดเที่ยวบินพิเศษไป – กลับ รวม 14 เที่ยวบิน ออกจากไทย 3 จุด ได้แก่ นราธิวาส กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) และกระบี่ เพื่อบินไปซาอุดีอาระเบีย 2 จุด ได้แก่ เจดดาห์และมะดีนะห์ โดยเที่ยวบินขาไปเดินทางระหว่าง 2 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2561 ขากลับเดินทางระหว่าง 5 – 12 กันยายน 2561
การบินไทยพร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้แสวงบุญอย่างมีมาตรฐานความปลอดภัยและตรงต่อเวลาทุกเที่ยวบิน พร้อมทั้งมีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตโดยครัวฮาลาลการบินไทย ซึ่งมีขั้นตอนการประกอบอาหารเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลาม ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล HAL – Q
ข่าวที่สาม “6เดือนไทยโกยเงินท่องเที่ยว1.45ล้านล้าน”
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานสรุปสถิตินักท่องเที่ยวและรายได้ 6 เดือนแรก ระหว่างมกราคม - มิถุนายน 2561 มีรายได้รวม 1,458,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 % มาจาก ต่างชาติเที่ยวไทย 1,016,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.88 % คนไทยเที่ยวไทย (ระหว่างมกราคม-พฤษภาคม 2561) 442,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.90 %
ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยมีจำนวน 19,481,749 คน เพิ่มขึ้น 12.46 % สร้างรายได้รวม 1,015,893.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % การใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวเรียงตามลำดับ 10 อันดับแรก ได้แก่ จีนใช้จ่ายสูงสุด 31,900 ล้านบาท 2.รัสเซีย 6,700 ล้านบาท 3.มาเลเซีย 5,000 ล้านบาท 4.อเมริกา 4,200 ล้านบาท 5.สหราชอาณาจักร 4,000 ล้านบาท 5.เกาหลี 3,900 ล้านบาท 7.อินเดีย 3,500 ล้านบาท 8.ญี่ปุ่น 3,200 ล้านบาท 9.ออสเตรเลีย 3,100 ล้านบาท 10.เยอรมันี 3,100 ล้านบาท
เฉพาะมิถุนายน 2561 เพียงเดือนเดียว ต่างชาติเที่ยวไทย 3,025,279 คน อันดับ 1 เอเชียตะวันออกมากที่สุด 2,284,904 คน อันดับรองลงไปได้แก่ ยุโรป เอเชียใต้ อเมริกา โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สำหรับ 10 อันดับแรก ยังคงเป็น จีน มาเลเซีย อินเดีย ลาว เกาหลี เวียดนาม ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา
ตลาดคนไทยเที่ยวไทยเฉพาะพฤษภาคม 2561 มีจำนวน 13.72 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.03% สร้างรายได้ 84,807.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.38%
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
หนุนอีสานขายทัวร์เช่าเหมาลำสู่ภาคเหนือต.ค.นี้
คิงเพาเวอร์เร่งแจกห้องน้ำ4เมืองรองอีสาน/เหนือ
ททท.แจกพระปลุกวัยเก๋าทัวร์ข้ามภาค5จังหวัด
บางจากนำทีมเพิ่มพื้นที่สีเขียวริมน้ำเจ้าพระยา
ทอท.ลั่น6สนามบินปี’61ผู้โดยสารโตเพิ่ม 10%
TCEBชูแคมเปญไมซ์สแตนดาร์ดไทยขึ้นนำเอเชีย
เที่ยวเมืองรองเชียงรายวิถีไทยรอบอำเภอแม่สาย
ระวังภัย7วิถีการกินนำไปสู่โรคอ้วนแบบไม่รู้ตัว
เจ้าท่าตื่นเสนอกฎหมายใหม่คุมทัวร์เรือ244อู่
บินไทยเช่าเหมาฮัจย์14ไฟลต์บริการ 4 พันคน
ท่องเที่ยวโกยเงิน6เดือนเป๋าตุง1.45 ล้านล้าน
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza
ช่วงที่ 1 เกาะติดสถานการณ์หลังเคลียร์ถ้ำหลวง “สมฤดี จิตรจง” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อัดฉีด 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ เที่ยว “เชียงรายแต้แต้” กับ “เที่ยวข้ามภาคอีสานสู่เหนือ” ระดมบริษัทนำเที่ยวไทยจัดแพกเกจขายภาคเหนือเมืองหลักเชียงใหม่เชื่อมเมืองรองเชียงราย พร้อมดึง 10 สมาคมท่องเที่ยว 20 จังหวัด จุดพลุใช้ฝูงบินนกแอร์นำร่องจัดทัวร์เช่าเหมาลำเที่ยวข้ามภาคเริ่มชิมลางตุลาคม 2561 หากสำเร็จะรุกขยายเครือข่ายชวนภาคใต้ ภาคตะวันออก มาเที่ยวเชียงรายและภาคเหนืออย่างคึกคัก กระจายรายได้สู่ชุมชนต่อเนื่องถึงปี 2562
สมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) |
นางสมฤดี จิตรจง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังได้จัดทำกลยุทธ์ผนวกเข้าด้วยกัน 2 โครงการ คือ “เที่ยวข้ามภาคกับเชียงรายแต้แต้” ด้วยการสร้างความยั่งยืนใน 3 ขาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ขณะนี้ได้ผนึกความร่วมมือกับ 18 บริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวภูมิภาคภาคตะวันออกเหนือ ออกแบบแพกเกจกระตุ้นคนไทยเดินทางข้ามภาคจากอีสานเข้าภาคเหนือในเมืองหลักเชียงใหม่และเมืองรองเชียงราย ตั้งเป้าขยายฐานนักท่องเที่ยวไหลเข้าเมืองรองให้ได้ตามนโยบายขององค์กรและรัฐบาล
เส้นทางนำร่องจะใช้เที่ยวบินประจำ อุดรธานีหรือขอนแก่นตรงสู่เชียงใหม่ พักค้าง 1 คืน แล้วเดินทางไปเที่ยวต่อในเชียงรายพักค้างอีก 2 คืน ขากลับก็ใช้เชียงใหม่เพื่อซื้อของฝากกลับบ้าน หากสามารถทำโครงการนำร่องแล้วประสบความสำเร็จ จะไปหารือกับสายการบินเพิ่มจุดบินจากอีสานเข้าตรงเชียงรายต่อไป
การนำเสนอขายท่องเที่ยวข้ามภาคจากอีสานเข้าเชียงราย ต้องพิจารณาทั้ง 2 ส่วน คือความต้องการของนักท่องเที่ยวกับสินค้าที่โดนใจ รวมทั้งจะปลุกกระแสนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV จาก สสป.ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม เข้ามาเที่ยวข้ามภาคได้ด้วย โดยจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ไร่ชาฉุยฟง สวนดอกไม้ โครงการหลวงในเชียงราย แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ถึงแม้อีสานจะมีความเป็นท้องถิ่นคล้ายกันกับเหนือแต่จะเพิ่มมุมใหม่ให้เห็นความแตกต่างกัน คือชุมชนภาคเหนือมีระบบบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างเข้มแข็ง เป็นต้นแบบการเรียนรู้ให้นำไปใช้พัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนภาคอีสานได้เป็นอย่างดี
เป้าหมายสำคัญที่สุดของโครงการนี้ต้องการให้นักท่องเที่ยวอีสานข้ามภาคมาลิ้มรสอาหารถิ่นภาคเหนือ ซึ่งมีมิติความแตกต่างชัดเจนโดยเฉพาะของชนเผ่า เป็นการต่อยอดสร้างกระแสเรื่องการท้ากินข้ามภาค
ขณะนี้ได้วางแผนกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวข้ามภาคจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 สร้างความเข้มแข็งให้บริษัทนำเที่ยวสามารถขายแพกเกจแบบฟรีสไตล์ โดย ททท.จะเข้าไปสนับสนุนในส่วนกิจกรรมชุมชนให้นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มฟรี เพื่อช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อแพกเกจจากบริษัททัวร์
ระยะที่ 2 จัดทำคอนซอร์เตี้ยมทำให้เกิดการขายร่วมกันในกลุ่มสมาคมท่องเที่ยวอีสาน 10 สมาคม ผลิตแพกเกจพูลการขายร่วมกัน โดยเตรียมจัดทำทัวร์เช่าเหมาลำใช้เครื่องบินนกแอร์ขนาดเล็ก บินจากอีสานเข้าเชียงใหม่ เชียงราย เบื้องต้นจะทำ 2 กรุ๊ป ไป-กลับ เริ่มช่วงตุลาคม 2561 ซึ่งตรงกับเทศกาลออกพรรษาที่คนไทยนิยมเดินทางคึกคักไปทำบุญทอดกฐิน
วางกลยุทธ์เจาะตลาดนักท่องเที่ยวจากอีสานเดินทางกับบริษัทนำเที่ยว 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ผู้สูงวัย ครอบครัว ข้าราชการดูงาน/ประชุมสัมมนา เพราะเชียงรายมีชุมชนพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวควบการดูงานได้ด้วย
ขณะเดียวกันในปีงบประมาณ 2562 เริ่ม 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ททท.ได้กำหนดปลุกกระแสทำโครงการใหญ่ “เชียงรายแต้แต้” เน้นการขายธรรมชาติและอาหาร นำจุดเด่น “ความมีน้ำใจของชาวเชียงราย” กับ วัดสายปฏิบัติหลายแห่งผูกเข้าไว้ในโปรแกรม รวมถึงงานศิลป์ของปูชนียบุคคลซึ่งปรากฏอยู่ในเชียงรายหลากหลายรูปแบบ สามารถผูกเข้ามาไว้ในโปรแกรมท่องเที่ยวได้ โดยจะพิจารณาจากจังหวัดที่มีเที่ยวบินเข้ามาภาคเหนือได้อีก 2 ภาค คือ ตะวันออก กับภาคใต้
ปี 2562 ททท.ได้บรรจุโครงการขายรายการใหญ่ 55 เมืองรอง จะใช้กลยุทธ์นำเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวในลักษณะ “เรื่องเล่า” อาทิ ภาคเหนือ เรื่องเล่าผ้าพื้นเมือง ภาคอีสานเป็นเรื่องเล่าอาหารถิ่นและความศรัทธาทางพระพุทธศาสนา แต่ละภาคจะนำเสนอจุดเด่นเนื้อหาแหล่งท่องเที่ยวเชิงลึกให้สอดคล้องกับการตลาด เล่าเรื่องที่มีความน่าสนใจดึงคนเข้ามาเที่ยวเมืองรอง แต่สิ่งที่ต้องยอมรับข้อจำกัดของที่พัก การเข้าถึงระบบคมนาคมขนส่ง ตามเมืองรองอาจจะยังไม่สะดวกเหมือนเมืองหลัก แต่ด้วยเสน่ห์ความใหม่สดกับเรื่องเล่าแต่ละพื้นที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดได้เป็นอย่างดี
ททท.จึงได้กำหนดเส้นทางพร้อมขาย “เชื่อมโยง” 3 แบบ 1.ขายคู่กับเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ มาเชียงราย หรือแม่ฮ่องสอน 2.ขายเมืองรองกับเมืองรอง เช่น อุบลราชธานี กับศรีสะเกษ 3.จังหวัดที่เข้มแข็งจะขายแบบเดี่ยว ๆ เช่น เชียงราย สามารถขายได้ด้วยตัวเองก็ผลิตเป็นแพกเกจจังหวัดเดียว ทั้งหมดนี้กำลังรวมเข้าไว้ในฐาน Big Data ของเรื่องเล่าเชิงภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือเชิงประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งความแข็งแรงของคนในพื้นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ตั้งแต่ปี 2562 จะรวบรวมแล้วขยายจุดขายต่อไป
สำหรับเชียงรายหลังเหตุการณ์ช่วยชีวิตนักฟุตบอลเยาวชนทีม 13 หมูป่าออกจากถ้ำหลวง เขาน้ำนางนอน สำเร็จ ทำให้คนไทยและทั่วโลกรู้จักชื่อของเชียงรายเป็นอย่างดีแล้ว ททท.จะใช้โอกาสนี้ซึ่งได้เห็นการรวบรวมพลังกาย ใจ ความรู้ องค์ความรู้ต่าง ๆ เป็นปรากฎการณ์เดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำได้ จึงจะใช้พลังในพื้นที่รักษาสืบทอดองค์ความรู้ สืบทอดเรื่องนี้ไว้ โดยทางจังหวัดเชียงราย กับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำลังพิจารณาเพื่อนำมาวางแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เพื่อจะทำต่อไป
เบื้องต้นระยะเร่งด่วน อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินเชียงรายได้รวมกลุ่มจัดทำงานศิลปะนำเสนอเรื่องราววีระบุรุษและฮีโร่ถ้ำหลวง ซึ่งเป็นโครงการที่ทำให้ได้เร็วที่สุด ส่วนทางด้านวิชาการต้องทำคู่ขนานกันไป และภารกิจของ ททท.ต้องเตรียมข้อมูลเส้นทางถ้ำหลวง ดอยผาหมี กับแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับพื้นที่รอบบริเวณที่มีอยู่มากมาย ซึ่งโจทก์ใหญ่คือเมื่อนักท่องเที่ยวไปยังถ้ำหลวงจะมีวิธีทำให้เม็ดเงินกระจายเข้าถึงชุมชนอย่างเท่าเทียม เป็นความท้าทายการทำงานของ ททท.ภาคเหนือ ในอนาคตอย่างมาก
นับจากวันนี้เป็นต้นไป ททท.ภาคเหนือ จะทำให้ 2 บิ๊กโปรเจ็กต์ ท้าเที่ยวข้ามภาค กับ ท่องเที่ยวเมืองรอง “เชียงรายแต้แต้” เป็นต้นแบบนำร่องที่จะขยายผลในเชิงบูรณาการกระจายเงินหลั่งไหลสู่ท้องถิ่นด้วยพลังคนไทยด้วยกัน
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์เทงบห้องน้ำเพิ่ม4เมืองรองเหนือ/อีสาน”
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รวมพลังกันลงทุน 10 ล้านบาท สร้างห้องน้ำ สำหรับคนธรรมดา 6 ห้อง และผู้สูงวัยกับผู้พิการอีก 1 ห้อง มอบให้ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้บริการในพื้นที่หลักของเมืองท่องเที่ยวรอง ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
หลังจากส่งมอบห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยทุกฝ่ายยังได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ และทาสีผนังห้องน้ำหลังเก่าด้วย
ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นเอกชนที่ได้จุดประกายในการเข้ามาร่วมมือใช้เงินลงทุนสร้าวห้องน้ำมอบให้กับจังหวัดท่องเที่ยวหลักและรองทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นต้นแบบืำให้เอกชนรายอื่น ๆ สนใจเข้ามาช่วยกันเพิ่มขึ้นซึ่งตอนนี้ก็มีกลุ่ทธุรกืจประกันภัย และอื่น ๆ ทยอยส่งหนังสือแจ้งมายังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหลายรายด้วยกัน เป็นสัญญาณที่ดีต่อประเทศในภาพรวม
ส่วนห้องน้ำที่คิง เพาเวอร์ ส่งมอบให้จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งนี้ จะได้ใช้งานทันทีช่วงเทศกาลเข้าพรรษาระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม นี้ ที่ทุ่งศรีเมืองจะเป็นศูนย์กลางการจัดงานแห่เทียนพรรษาประจำปี 2561 จะมีคนหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานหลายแสนคน
อีกทั้งยังเป็นจังหวะดีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะใช้โอกาสจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร วันที่ 23-24 กรกฎาคม นี้ เป็นประธานเปิดงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ไปด้วย
นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า ในอีก 5 เดือนข้างหน้า จะทยอยส่งมอบห้องน้ำของคิง เพาเวอร์ ที่ใช้เงินก่อสร้างพื้นที่ละ 10 ล้านบาท กระจายส่งมอบให้ตามเมืองท่องเที่ยวรองอีก 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน เลย เพชรบูรณ์ หนองคาย
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ก็ยังได้นำลูกฟุตบอลคิง เพาเวอร์ จำนวน 1,500 ลูก ราคาลูกละ 300 บาท ไปมอบให้กับเด็กนักเรียนระดับตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงประถมศึกษาซึ่งเป็นโรงเรียนในเขตเทศบาลจังหวัดอุบลราชธานี จาก 15 ชุมชน
เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เด็กได้เล่นกีฬาตั้งแต่วัยเยาว์ เผื่อนาคตจะได้มีโอกาสเข้าสู่วงการกีฬาระดับประเทศและนานาชาติต่อไป ถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เยาวชนในชุมชนทั่วประเทศ และสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมต่างจังหวัดควบคู่กันไปด้วย
นอกจากนี้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้ใช้โครงการ "Power Community" นำสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนจากทั่วประเทศกว่า 200 รายการ เข้ามาวางจำหน่ายในร้านค้าทุกสาขา โดยได้จัดพื้นที่จำหน่ายเป็นโซนสินค้าไทยคุณภาพดีของชุมชน โดยในปี 2561 เตรียมขยายพื้นที่จำหน่ายสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น ทั้ง 8 สาขา เนื่องจากสินค้าไทยได้นับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาช็อปปิ้ง ประการสำคัญที่สุดจะเป็นอีกช่องทางในการส่งเสริมชาวบ้านในท้องถิ่นทั่วประเทศขยายการสร้างงานในครัวเรือนและเพิ่มรายได้เข้าสู่ครอบครัว
ข่าวที่ 2 “ททท.อีสานต่อยอดวัยเก๋าเที่ยวข้ามภาค”
ททท.อีสานใช้ช่วงเข้าพรรษา 27-28 ก.ค.นี้ จัด ตักบาตรดอกไม้วัดราชบพิธฯ” รวบรวมดอกไม้ไปทำพระผงแจก ต่อยอดแผนตลาดกระตุ้นวัยเก๋าเที่ยวข้ามภาค 5 จังหวัด “เชียงใหม่-นครพนม-นครปฐม-นครศรีฯ-ชลบุรี” ตลอด ก.ย.นี้
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดงานต้อนรับท่องเที่ยวทางบุญ พระพุทธอังคีรส งานเดินเทียนและตักบาตรดอกไม้ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2561 วันที่ 27-28 กรกฎาคม 2561 โดยจะนำดอกไม้ในงานบุญวันดังกล่าวมาจัดทำเป๋นพระผงแจกแก่นักเดินทางวัยเก๋า กระตุ้นการเดินทางข้ามภูมิภาคในช่วงเดือนกันยายน 2561
โดย ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดทำโครงการ “เก๋ายกก๊วน ชวนเที่ยวไทย” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยให้เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดและภูมิภาค ททท. พร้อมทั้งขอมอบ พระผง“พระพุทธอังคีรส” สร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่วัยเก๋าอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป เพียงแสดงบัตรประชาชนซึ่งอยู่นอกเหนือภูมิลำเนาใน 5 พื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ นครพนม นครปฐม นครศรีธรรมราช และชลบุรี สามารถติดต่อรับ พระผง“พระพุทธอังคีรส” ได้ที่ ททท. สำนักงาน เชียงใหม่ นครพนม สุพรรณบุรี นครศรีธรรมราช และพัทยาทุกวันตั้งแต่เวลา เวลา 08.30-16.30 น.
สอบถามข้อมูลศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. โทร. 1672 เดือนกันยายน 2561เป็นต้นไป
สำหรับ “พระพุทธอังคีรส” จะทำจากดอกไม้บูชามาสู่ดินสิริมงคล ททท. ได้รับประทานพระอนุญาตจัดทำ พระผง “พระพุทธอังคีรส” ซึ่งเป็นรูปพระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ ประกอบด้วยมวลสารจากดอกไม้ที่พุทธศาสนิกชนนำมาเป็นพุทธบูชาในงานเดินเทียนและตักบาตรดอกไม้ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ปี 2561 ดินจากพระธาตุจอมเจดีย์สำคัญ 5 ภาค พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุพนม พระปฐมเจดีย์ พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช พระมหาเจดีย์วัดญาณสังวราราม ดินมหามงคล 77 จังหวัด โครงการ “จากดินของพ่อ สู่ดวงใจของคนไทย”
ข่าวที่ 3 “บางจากนำทีมเพิ่มพื้นที่สีเขียวริมเจ้าพระยา”
นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวางแผนยุทธศาสตร์และพัฒนาความยั่งยืนองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้เป็นประธานในกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา” เชิญชวนให้ผู้บริหาร เพื่อนพนักงานบางจากฯ พร้อมด้วยนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สำนักโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ กรมป่าไม้ มาร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม สร้างความตระหนักเรื่องการดูแลสภาพอากาศ ปลูกจิตสำนึกการอนุรักษ์ ด้วยการปลูกหญ้าแฝกที่บริเวณท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยในการยึดหน้าดิน เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการพังทลายของตลิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน สร้างทัศนียภาพที่สวยงาม เติมอากาศบริสุทธิ์ และช่วยรักษาความสมดุลระบบนิเวศทางธรรมชาติ โดยได้รับการอนุเคราะห์ต้นกล้าหญ้าแฝก จำนวน 200,000 ต้น จากสำนักโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ กรมป่าไม้ สถานีพัฒนาที่ดินสมุทรปราการ และศูนย์วิจัยการอนุรักษ์ดินและน้ำ อำเภอปากช่อง
ข่าวที่ 4 “ทอท.ดันยอดผู้โดยสาร6สนามบินปี’61โต10%”
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท./AOT” เปิดเผยว่า ตั้งเป้าตลอดปี 2561 อัตราการเติบโตของผู้โดยสารที่ใช้ทั้ง 6 สนามบินของ ทอท.จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% สถิติ 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ระหว่างตุลาคม 2560-พฤษภาคม 2561 จำนวนผู้โดยสารเติบโต 9-10% จำนวนผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่งของ ทอท.จำนวน 95,536,222 คน เพิ่มขึ้น 9.88%
โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลเดินทางหนาแน่นของนานาชาติ (hi season) ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม นี้ หลังเหตุการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าจำนวนเที่ยวบินจากจีนเข้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติก็ยังมีอีกหลายสายการบินรอเข้ามาแทนที่ช่วงตารางการบินฤดูหนาวปีนี้
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2561 อาจส่งผลกระทบระยะสั้น 2-3 เดือน ในระยะยาวไม่น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้จีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทย 10% ของคนจีนที่มีหนังสือเดินทาง 7.5% ของประชากรจีนทั้งหมดกว่า 1,200 ล้านคน อนาคตจีนที่มีหนังสือเดินทางจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งปีนี้ ทอท.มีส่วนแบ่งผู้โดยสารจีนผ่านเข้าออก 6 สนามบินรวมกันปีละ 26% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 130 ล้านคน
ข่าวที่ 5 “TCEBชูแคมเปญใหม่ไมซ์ฯดันไทยผู้นำเอเชีย”
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “สสปน./TCEB” เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีภารกิจในโครงการ “Thailand MICE Venue Standards 2018” จึงเตรียมเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาด กระตุ้นผู้ประกอบการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกัน พัฒนาโครงสร้าง่สถานที่จัดประชุมสัมมนาให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในฐานะที่ทีเส็บได้นำร่องบุกเบิกไทยให้เป็นประเทศผู้นำของอาเซียนทางด้าน MICE Venue Standard ตั้งแต่คอนเว็นชั่น โรงแรม เรื่อยไปจนถึงห้องประชุมอื่น ๆ
เนื่องจากทีเส็บมีนโยบายหลักต้องเร่งส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศให้เจริญทัดเทียมนานาชาติทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ ขานรับนโยบายรัฐบาลต้องการให้ไมซ์เป็นอีกหนึ่งกลไกหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระจายรายได้สู่ภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศ
ดังนั้นการเดินหน้าพัฒนา MICE Venue Standard เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการและประเทศ ผลักดันสถานที่จัดงานแบบครบวงจรสามารถขึ้นเป็นผู้นำอาเซียนได้อย่างเข้มแข็งทั้งปัจจุบันและอนาคตต่อไป
ช่วงที่ 2 กระแสปีนี้ไม่มีเมืองรองใดแรงเท่า “เชียงราย” เพราะชื่อเสียงของถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จึงทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลกต่างก็เทความสนใจที่จะเข้ามาค้นหา จึงขอนำแหล่งท่องเที่ยวมุมใหม่อย่างทั้งในอำเภอแม่สาย อำเภอเมือง อำเภอแม่จัน มาชวนกันไปเที่ยว แล้วจะรู้ว่าเชียงรายแต้แต้มีวิถีความสุขอยู่เต็มไปหมด แต่เรื่องสุขภาพก็สำคัญต้องใส่ใจเช่นกันโดยเฉพาะ “7วิถีการกินทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัว” และข่าวน่ารู้ก่อนใคร กรมเจ้าท่าตื่นตัวจัดระเบียบกฎหมายใหม่คุมเรือทั่วประเทศ 244 อู่ล้อมคอกหลังเรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต ส่วน “การบินไทย” จัดชาเตอร์ไฟลต์บริการฮัจย์ 14 เที่ยว 4,000 คน ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดสถิติครึ่งปีแรก 2561 ท่องเที่ยวโกยเงินเป๋าตุง 1.45 ล้านล้านบาท
@เที่ยวเชียงรายแต้แต้ในมุมเท่ๆ หลังถ้ำหลวง
ตอนนี้ชื่อ “จังหวัดเชียงราย” ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งในหมู่คนไทยและทั่วโลก หลังเหตุการณ์นักเตะเยาวชนชาติพันธุ์ 13 หมูป่าเข้าไปติดถ้ำหลวง เขาขุนน้ำนางนอน โดยทุกฝ่ายได้ช่วยกันออกมาอย่างปลอดภัย
จึงถึงเวลาที่จะแนะนำมุมท่องเที่ยวเมืองรองในมิติใหม่ ๆ เริ่มตั้งแต่ใน อำเภอเมือง ต้องที่ “สิงห์ปาร์ค” อาณาจักรการเกษตร มีบริการรถรางคิดค่านำชมเพียงคนละ 100 บาท ทัวร์ไปรอบบริเวณภายในเวลา 1 ชั่วโมง แวะตามสถานีต่าง ๆ เพื่อชมไร่ชาที่ปลูกอยู่ตามเนินเขาในพื้นที่กว่า 8,700 ไร่ รวมทั้งเป็นแหล่งเพาะเห็ดถั่งเช่าคุณภาพดีขายได้ราคากิโลกรัมละ 50,000 บาท แต่ละโซนดีไซน์เก๋ไก๋ในอ้อมกอดธรรมชาติเขียวขจี มีไฮไลต์จัดกิจกรรมการเล่นซิปไลน์โดนใจวัยรุ่น ส่วนมุม “ร้านอาหารภูมิรมย์” เป็นจุดชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา สวยสุดยามตะวันลับขอบฟ้าแสงสีทองฉาบลงผืนทะเลสาบเบื้องล่างตัดกับสีเขียวของไร่ชาและวิวสวนยางธรรมชาติ
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ใน อำเภอแม่สาย ดินแดนแห่งถ้ำหลวง เขาขุนน้ำนางนอน ในบริเวณแม่สายมีแหล่งท่องเที่ยวหลายสไตล์ แห่งแรก “ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน” จัดตั้งขึ้นจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อแก้ปัญหาป่าเสื่อมโทรม ป้องกันการกัดเซาะพลังทลายของหน้าดินบริเวณเชิงเขาและสร้างรายได้ให้ราษฎร พักรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ณ “ร้านเมล็ดชา”
“อุทยานเวฬุวันพระเจ้าสาน วัดหิรัญญาวาส” ชมพลังความสามัคคีในการนำไม้ไผ่มาสานเป็นองค์พระขนาดใหญ่ “พระสิงห์สานชนะมาร” ตั้งอยู่ในวิหาร ชาวบ้านร่วมใจกันใช้เวลาสาน 99 ด้วยสถาปัตยกรรมศิลปะสิงห์เชียงแสนปางมารวิชัย องค์พระเป็นสีทองห่อหุ้มด้วยจีวรสีแดงเข้มทำจากสีต้นไม้ชาด
และ “บ้านปางห้า” เป็นชุมชนเข้มแข็งแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำอยู่เหนือสุดของไทย ผู้คนได้ผันจากอาชีพดั้งเดิมการทำกระดาษสาหันมาทำ “หน้ากากมาร์กหน้าไหมทองคำ” ทุกวันนี้โด่งดังไปทั่วโลก เริ่มต้นตั้งแต่นำตัวไหมพันธุ์ไทยมาเลี้ยง สาวไหม นำน้ำลายที่มีคุณสมบัติพิเศษมาศึกษาวิจัยจนกลายเป็นหน้ากากใช้มาร์กหน้าทำให้ผิวเรียบเนียนไร้กระ ฝ้า และยังมีสบู่ โลชั่น ผลิตภายใต้แบรนด์ CEILK (ซิลค์) เพิ่มความงาม ชะลอวัย ด้วยธรรมชาติจำหน่ายนักท่องเที่ยวด้วย
บริเวณใกล้ ๆ กัน ตอนนี้มีบริการเพิ่มด้วยการพานั่งรถอีแต๊กไปชมสวนฝรั่งของป้าลัดดา หนึ่งในครอบครัวชาวบ้านที่ผันชีวิตจากการทำไร่ข้าวโพดราคาถูก มาปลูกฝรั่งพันธุ์ผสมไส้สีแดงกลายเป็นผลไม้ประจำอำเภอแม่สาย นำไปขายยังตลาดชายแดน แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ทำรายได้เป็นกอบกำ
ส่วนการลิ้มลองอาหารถิ่นช่วงมื้อเย็น แนะนำให้แวะ “ร้านครัวสุโขทัย” ที่มีดอยผาหมีเป็นแบล็คกราวด์ให้ถ่ายรูปได้แบบวิวพาโนรามา ส่วนเมนูอาหารก็มีให้เลือกทั้งแบบไทยและท้องถิ่น
วันต่อมาตื่นแต่เช้าไปสักการะอนุสาวรีย์พญาเม็งราย แวะตลาด Hobby Market ตลาดเช้าในท้องถิ่นเน้นขายพืชผักเกษตรอินทรีย์พื้นบ้าน และสินค้ามือสองคล้ายจตุจักรในกรุงเทพฯ
ก่อนจะมุ่งหน้าไปชมความงดงามของ “วัดร่องเสือเต้น” หรือวัดสีน้ำเงิน สถาปัตยกรรมการก่อสร้างตามแบบพุทธศิลป์จากฝีมือ “สล่านก-พุทธา กาบแก้ว” ลูกศิษย์อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ช่วงบ่ายไป “ไร่ชาฉุยฟง” อ.แม่จัน นักท่องเที่ยวนิยมไปละเอียดจิบชาอู่หลงเบอร์ 12 , 17 ทอดสายตาดื่มด่ำกับทิวทัศน์สีเขียวกลางหุบเขา ไปพร้อม ๆ กับแชะแชร์รูปผ่านโซเชียลกันอย่างเพลิดเพลิน
เข้าสู่วันที่สามชวนกันขึ้นเขาไปชมแดนธรรมะในอุทยาน “ไร่เชิญตะวัน” ของท่าน ว.วชิระเมธี ออกแบบเป็นสถานวิปัสสนากลิ่นอายเซนแบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเนินเขาสงบ ร่มเย็น สะอาดตา มีศูนย์เรียนรู้ทั้งธรรมชาติ งานศิลป์ ผสมผสานกับธรรมะ และแหล่งรวมการสอนชุมชนรอบพื้นที่ได้ทำอาชีพนำผลิตภัณฑ์มาวางขายเลี้ยงครอบครัวอย่างมีคุณภาพ เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ต่าง ๆ
ท่องเที่ยวเมืองรองแบบสโลไลฟ์ใน “เชียงรายแต้แต้” มีความสุขทุกนาทีกระจายอยู่ทั่วทุกตารางนิ้ว
@7วิถีการกินสู่ความอ้วนโดยไม่รู้ตัว
จากการศึกษาวิถีการกินกับความอ้วนของกลุ่มประชาการตัวอย่าง 5,200 ราย พบว่า วิธีการกินอาหารที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับความอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกินมีอยู่ 7 แบบ หรือ 7 วิถีการกิน คือ
1. การกินตามอารมณ์ บางคนใช้การกินเป็นการระบายอารมณ์จัดการความรู้สึก เช่น ยิ่งเครียดยิ่งกิน ยิ่งเศร้าก็ยิ่งกิน ดีใจก็กินฉลอง เสียใจก็กินประชด พูดง่ายๆว่า อารมณ์แบบไหนก็กินทั้งนั้น
2. กินแต่ของสำเร็จรูป เพราะหาง่าย อยู่ใกล้มือ ไม่ชอบกินของสด เพราะรู้สึกเหม็นเขียว ไม่อร่อย จืดชืด รสชาติไม่สะใจ ของสำเร็จรูปโดยเฉพาะฟาสต์ฟู้ดจะมีไขมัน แป้ง น้ำตาลค่อนข้างสูง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อ้วนได้หากรับประทานประจำ
3. กินแก้กลุ้ม กังวลมากไปก็หิวบ่อย เครียดมากไปก็กินบ่อย
4. กินของ "ว่าง" (ที่ไม่ว่าง) ทั้งวัน กินไปทำงานไป กินไปดูทีวีไป
5. กินเติมเต็มความสุขทางใจ ทางจิตวิญญาณ การกินเป็นเครื่องแสดงความมีบุญวาสนามีอันจะกิน กินดีอยู่ดี กินให้อ้วน แสดงว่ามีความอุดมสมบูรณ์
6. กินตามบรรยายกาศ สุนทรียภาพ เช่น กินในที่สงบ ร่มรื่นเย็นสบาย จะกินได้มากเป็นพิเศษ หรือนักชิม ผู้ชอบในศิลปะการทำอาหารหรือการกินอาหาร ทำให้เกินนิสัย "กินเกิน"
7. กินออกสังคม เช่น กินสังสรรค์ในหมู่เพื่อนญาติมิตรสหาย ในครอบครัวกับคนที่รู้ใจ จะทำให้กินได้นานและมากกว่าปกติ
ดังนั้น ใครที่ไม่อยากอ้วนหรือจะลดน้ำหนักต้องระวังการกินในสถานการณ์ หรือวิถีการกินสู่ความอ้วนทั้ง 7 นี้ไว้ให้ดี ไม่เผลอตัวจนพุงยื่นออกมานอกตัว
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “เจ้าท่าจัดระเบียบเร่งทำกฎหมายใหม่ล้อมคอกเรือทัวร์”
นายจีรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าท่าทั่วประเทศ เข้าตรวจสอบอู่ต่อเรือพบมีทั้งรายเล็กและรายใหญ่รวมทั้งสิ้น 244 อู่ เพื่อเตรียมจัดระเบียบครอบคลุมทุกประเภท หลังเกิดเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอกฎกระทรวงใหม่ เพื่อออกเป็นกฎหมายบังคับให้เรือทุกประเภทต้องมาขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย หากตรวจพบรายใดไม่ขึ้นทะเบียนในแต่ละประเภทจะมีความผิดตามกฎหมายทันที
ระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสุ่มตรวจเรือทุกขนาดทุกประเภท ยกเว้น ประเภทเรือพื้นบ้าน เรือพาย ตามพื้นถิ่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะเข้าควบคุมและตรวจสอบอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ที่มีขนาด 500 ตันกรอสขึ้นไปเท่านั้น รวมถึงได้ออกระเบียบไปยังทุกอู่ต่อเรือหากมีเรือทุกประเภทจะเข้ามาซ่อมแซม หรือต่อเติม ไม่ว่ากรณีใดทางอู่ต่อเรือจะต้องรายงานการซ่อมแซม หรือ ต่อเรือ ต่อกรมเจ้าท่าทุกกรณี
ข่าวที่สอง “บินไทยทำเช่าเหมา14เที่ยวบริการฮัจย์4,000คน”
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ สมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ภาคใต้ และสมาคมผู้ประกอบกิจการฮัจย์ สามจังหวัดชายแดนใต้ จัดเที่ยวบินพิเศษเช่าเหมาเพื่อขนส่งผู้แสวงบุญชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2561 มีผู้แสวงบุญเดินทางกับการบินไทยประมาณ 4,000 คน
โดยได้จัดเที่ยวบินพิเศษไป – กลับ รวม 14 เที่ยวบิน ออกจากไทย 3 จุด ได้แก่ นราธิวาส กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) และกระบี่ เพื่อบินไปซาอุดีอาระเบีย 2 จุด ได้แก่ เจดดาห์และมะดีนะห์ โดยเที่ยวบินขาไปเดินทางระหว่าง 2 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2561 ขากลับเดินทางระหว่าง 5 – 12 กันยายน 2561
การบินไทยพร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้แสวงบุญอย่างมีมาตรฐานความปลอดภัยและตรงต่อเวลาทุกเที่ยวบิน พร้อมทั้งมีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตโดยครัวฮาลาลการบินไทย ซึ่งมีขั้นตอนการประกอบอาหารเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลาม ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล HAL – Q
ข่าวที่สาม “6เดือนไทยโกยเงินท่องเที่ยว1.45ล้านล้าน”
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานสรุปสถิตินักท่องเที่ยวและรายได้ 6 เดือนแรก ระหว่างมกราคม - มิถุนายน 2561 มีรายได้รวม 1,458,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 % มาจาก ต่างชาติเที่ยวไทย 1,016,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.88 % คนไทยเที่ยวไทย (ระหว่างมกราคม-พฤษภาคม 2561) 442,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.90 %
ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยมีจำนวน 19,481,749 คน เพิ่มขึ้น 12.46 % สร้างรายได้รวม 1,015,893.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % การใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวเรียงตามลำดับ 10 อันดับแรก ได้แก่ จีนใช้จ่ายสูงสุด 31,900 ล้านบาท 2.รัสเซีย 6,700 ล้านบาท 3.มาเลเซีย 5,000 ล้านบาท 4.อเมริกา 4,200 ล้านบาท 5.สหราชอาณาจักร 4,000 ล้านบาท 5.เกาหลี 3,900 ล้านบาท 7.อินเดีย 3,500 ล้านบาท 8.ญี่ปุ่น 3,200 ล้านบาท 9.ออสเตรเลีย 3,100 ล้านบาท 10.เยอรมันี 3,100 ล้านบาท
เฉพาะมิถุนายน 2561 เพียงเดือนเดียว ต่างชาติเที่ยวไทย 3,025,279 คน อันดับ 1 เอเชียตะวันออกมากที่สุด 2,284,904 คน อันดับรองลงไปได้แก่ ยุโรป เอเชียใต้ อเมริกา โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สำหรับ 10 อันดับแรก ยังคงเป็น จีน มาเลเซีย อินเดีย ลาว เกาหลี เวียดนาม ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา
ตลาดคนไทยเที่ยวไทยเฉพาะพฤษภาคม 2561 มีจำนวน 13.72 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.03% สร้างรายได้ 84,807.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.38%
ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน คอลัมนิสต์ท่องเที่ยว/การบิน และผู้ดำเนินรายการ |
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น