ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สมาคมธุรกิจนำเที่ยวในประเทศนำทีมผ่าแผนตลาดททท.ปี62 วันที่ 9 ก.ค.61-เที่ยวกาญจนบุรีมีดีเพียบ

เอกชนทัวร์ไทยลุยถกททท.ผ่า3ปมตลาดปี’62
วอนช่วยอุ้มธุรกิจป้องต่างชาติแห่ดูดเงินออก
คิงเพาเวอร์แจกกิฟว์โวเชอร์4ช้อปดาวน์ทาวน์
ททท.3ทวีปโชว์แผนรุกตลาดโกย2.2ล้านล้าน
ผู้นำบางจากเทหนุนทำวิจัยพลังงานไทยยั่งยืน
บีซีพีจีปลื้มติดอันดับหุ้นยั่งยืนESG 100ปี’61
ต่างชาติสนลงทุนโปรเจ็กต์“ทอท.สุวรรณภูมิ”
ทริปสนุกเที่ยวได้งาน“เมืองกาญจน์”ใกล้กรุง
รู้แล้วต้องบอก6วิธีป้องกันอันตรายผงเข้าตา
ททท.ชวนแชะแชร์55จังหวัดลุ้นรับ2แสนบาท
กรมอุทยานฯเปิดให้เข้าฟรีทั่วไทย 28ก.ค.61
ผู้สูงวัยไปแล้วคุ้มงานอินเตอร์แคร์12-14ก.ค.

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 เปิดใจ “ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช” ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) แกนนำธุรกิจท่องเที่ยวเอชนพร้อมใช้เวทีแถลงแผนการตลาดใหม่ปี’62 ลุยเสนอ ททท. 3 แนวทางใหญ่ “เพิ่มฐานนักท่องเที่ยวพันธุ์ใหม่-ผนึกความร่วมมือกับเอกชนจัดแคมเปญนอกเหนือ 6 เทศกาลใหญ่ประจำปี-อัดฉีดโฆษณากระตุ้นแฟนคลับเที่ยวกับทัวร์ในเมืองรองต้องห้ามพลาด กระจายเม็ดเงินสู่ชุมชนฐานราก รอความหวัง ททท.ช่วยฟื้นกิจการทัวร์ไทยที่ร่วงระนาวคืนชีพกลับสู่เวทีแข่งขันสากลอีกครั้ง



นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้คร่ำหวอดอยู่วงการนำเที่ยวภายในประเทศพร้อมจะสะท้อนความต้องการบูรณาการความร่วมมือเรื่องการจัดทำแผนการตลาดประจำปี 2562 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะเปิดให้เอกชนสมาคมท่องเที่ยวต่าง ๆ ร่วมแสดงความคิดเห็นในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 เตรียมข้อเสนอหลัก ๆ  เพื่อเสนอให้พิจารณาแนวทางจัดทำเครื่องมือการตลาดอย่างชัดเจน เรื่องของความร่วมมือของรัฐกับเอกชนท่องเที่ยว

เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวคนไทยเลือกเที่ยวกับบริษัทนำเที่ยวเหลือไม่ถึง 7 %  หลังจากปี 2560 ททท.ตั้งเป้าจะมีคนไทยเที่ยวในประเทศ 146 ล้านคน-ครั้ง ประมวลผลแล้วเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยวที่มีทั้งหมดเพียงแค่ 2 ล้านคนเศษเท่านั้น (ซึ่งพฤติกรรมจะตรงกันข้ามกับคนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างชาติยังคงพึ่งพาบริษัทนำเที่ยว)

สาเหตุที่คนไทยเลือกใช้บริษัทนำเที่ยวน้อยลงอาจมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสายการบินโลว์คอสต์ขายตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาถูก ห้องพักโรงแรมทำโปรโมชั่นลดแรง ๆ ส่วนผู้ประกอบการนำเที่ยวปรับตัวเข้าหาผู้บริโภคล่าช้า ขณะที่ ททท.เองก็มีหน้าที่ทำการตลาดเชิงรุกบุกหนักตลอดทั้งปี

ในฐานะผู้ประกอบการท่องเที่ยวคงจะไม่ได้ตำหนิ ททท.เพียงแต่จะเสนอขอให้สร้างทางเลือกทำงานเคียงข้างกเบื้องต้น 2 เรื่อง คือ



เรื่องที่ 1 “มอบเครื่องมือทางการตลาด” ให้ชัดเจนมากขึ้นเพื่อร่วมมือกัน “เจาะกลุ่มเป้าหมาย” ที่ยังมีความผูกพันกับการท่องเที่ยวในประเทศซึ่งมีความพร้อมจะใช้บริษัทนำเที่ยว  เช่น ผู้สูงอายุ เจนวาย ผู้เริ่มเดินทางครั้งแรก เอกชนจะขอให้ ททท.ช่วยจัดทำแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งหันมาใช้บริษัทนำเที่ยวบ้าง ตัวอย่างเช่น ตลาดกลุ่มฮันนีมูน สามารถให้บริษัทท่องเที่ยวเข้าไปร่วมวางโปรแกรมนำเสนอเส้นทางขายได้ด้วย ทั้งเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก บริการครบวงจร โดย ททท.สามารถเป็นตัวกลาง



เรื่องที่ 2 ททท.ช่วยเพิ่มบทบาทบุกเบิกการออกแบบ “แนวคิดใหม่ ๆ ทางการตลาด” โดยให้ธุรกิจเอกชนท่องเที่ยวอยู่ได้ด้วยแทนการที่นักท่องเที่ยวคนไทยจะลืมเลือนบริษัทนำเที่ยวลงไปเรื่อย ๆ เพราะผู้ประกอบการไทยจำนวนมากมีประสบการณ์สั่งสมมาอย่างยาวนาน ยังสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี

นายยุทธชัยย้ำว่า ในการประชุมแผนการตลาดประจำปี 2562 ของ ททท.จะใช้ในปีงบประมาณ เริ่ม 1 ตุลาคม 2561- 30 กันยายน 2562  โดยกำหนดให้เอกชนท่องเที่ยวเข้าร่วมเสนอความเห็นได้ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สนท.เตรียมเสนอ ททท. 3 เรื่องหลักดังนี้



1.เพิ่มการขยายตลาดใหม่ ๆ เพื่อให้เอกชนมีช่องทางเข้าไปร่วมวงการขายไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ได้รับอานิสงส์จากการทำตลาดตลอดครึ่งปีหลัง 2561 ต่อเนื่องถึงปี 2562



2.การขยายฤดูการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการพัฒนาต่อยอดท่องเที่ยวหน้าฝน หรือ Green Season ควรอัดฉีดโปรแกรมพิเศษร่วมมือกับผู้ประกอบการ จับมือกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชน หันมากระตุ้นการท่องเที่ยวนอกฤดูกาลให้กว้างและระยะยาวมากขึ้น นอกเหนือจากการทำเฉพาะเทศกาลใหญ่ปีละ 6 เทศกาล ได้แก่ เคาน์ดาวน์/ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เข้าพรรษา-ออกพรรษา วันแม่ ปิดเทอม



3.ขอนำยุทธศาสตร์ภาคเอกชนไปบูรณาการตลาดร่วม ททท.อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการจัดทำแคมเปญพิเศษเพื่อกระจายรายได้ทุกภาคส่วน ซึ่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศได้นำสมาชิก สทน.ลงนาม MOU กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME BANK) จัดหาดอกเบี้ยราคาพิเศษ 1-3 % ให้บริษัทนำเที่ยว เพราะสูญเสียตลาดท่องเที่ยวไปมากจนเริ่มจะอ่อนแอ จึงต้องหาสถาบันการเงินมาสนับสนุนการระดมนำเงินทุนเข้าไปฟื้นฟูการขาย โครงการนี้เป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับแบงก์เอสเอ็มอี อย่างเข้าใจในนโยบายของรัฐที่ต้องการให้เอกชนปรับฐานการทำระบบบัญชีธุรกิจเอสเอ็มอีด้วย

ระหว่างนี้ทางสมาคมฯ เตรียมหารือกับสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ช่วยเสริมเขี้ยวเล็บผู้ประกอบการมุ่งทำการตลาดอย่างประหยัดพุ่งตรงเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่างตรงเป้า โดยต้องการดูผลการหารือในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 นี้ว่า ททท.จะสามารถชี้ทางให้เอกชนเข้าเป้าได้เลยหรือไม่

ส่วนทางสมาคมฯ เมื่อรู้ว่า ททท.สามารถเข้ามาช่วยได้ก็ได้จะประสานกับฝ่ายอบรมของ สสว.เพิ่มเขี้ยวเล็บระดมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเจาะลึกเข้าสู่ตลาดเป้าหมายทันที ไม่ทำตลาดการขายแบบสะเปะสะปะอีกต่อไป

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการรายใหม่เองก็จะได้ทำความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลมากขึ้น เพื่อก้าวเข้าสู่การใช้เงินลงทุนหรือโหมการขายต่อไปได้โดยเอกชนจะต้องการความมั่นใจถึงการบูมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เช่น กระจายการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง อย่าง นครศรีธรรมราช พัทลุง ลำปาง และอื่น ๆ เป็นเมืองที่เอกชนยังคงทำการตลาดได้โดยมีท่องเที่ยวชุมชนสามารถพัฒนาต่อเนื่อง หากทำเส้นทางที่นักท่องเที่ยวเข้าถึงลำบากหรือมีต้นทุนสูงกว่า คนก็จะหันมาเที่ยวกับบริษัททัวร์แทน

นายยุทธชัยกล่าวถึงแผนพัฒนาธุรกิจของเอกชนมีความต้องการจะก้าวเข้าสู่ดิจิตอลสูงมาก แต่กำลังมองหาเจ้าภาพหลัก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยหารือกับทางกระทรวง ICT ขอให้จัดทำแพลตฟอร์มโดยฝากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไว้ด้วย แต่จนกระถึงขณะนี้รัฐบาลเปลี่ยนเป็นกระทรวงดิจิตอล อีกทั้งคุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายุคนนั้นได้หารือกับหอการค้าไทย ร่วมมือกันวางระบบป้องกันตระกูล ด็อตคอม (.com) ทั้งหลายจากต่างประเทศเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดท่องเที่ยวของคนไทยนำเงินออกนอกประเทศไปเกือบหมด จึงตื่นตัวจะทำเว็บไซต์

แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยขนาดเล็กและขนาดกลางเคว้งมาจนถึงปัจจุบัน เพราะยังไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางผู้ประกอบการตอนนี้ก็อ่อนแอลงมากไม่มีพลังเพียงพอ จึงฝากความหวังไว้กับภาครัฐจะมอบให้องค์กรใดขับเคลื่อนทำให้ง่าย ๆ โดยทำให้ผู้ประกอบการไทยฝั่งผู้ขายนำข้อมูลเข้าถึงผู้ซื้อได้สะดวก และนำร่องทำการตลาดให้ก่อนระยะเริ่มต้น จากนั้นก็ปล่อยมือให้เอกชนเข้ามาทำเอง

แล้วบริษัททัวร์ในประเทศกลุ่มเก่าที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนานได้บูรณาการความร่วมมือกับธุรกิจพันธุ์ใหม่กลุ่ม Start up ท่องเที่ยว ด้วยหรือไม่ อย่างไร

นายยุทธชัยกล่าวว่า ทางสมาคม สทน.กำลังพยายามหาช่องทางเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการกลุ่มเก่ากับ Start up กลุ่มใหม่ไฟแรง สามารถนำกิจการไปเติบโตไปได้ดีกว่าเพราะเชี่ยวชาญในช่องทางการใช้ดิจิตอลเข้ามาเป็นเครื่องตลาดการขาย แต่มีจุดอ่อนตรงขาดประสบการณ์ทางด้านโปรดักซ์ท่องเที่ยว จึงต้องการแลกเปลี่ยนกัน รวมถึงยังขาดความเข้าใจในการสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ส่วนเอกชนภาคท่องเที่ยวของไทยตอนนี้ยังขาดข้อมูลที่ชัดเจนว่า “หน่วยงานใด” จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพดูแล Start up ท่องเที่ยว เพราะบางส่วนไปอยู่กับกระทรวงอุตสาหกรรมบ้าง กระทรวงพาณิชย์บ้าง และบางส่วนก็ไม่ได้อยู่ภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อีกทั้งไม่มีแผนงานชัดเจน จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย




ล่าสุดเอกชนเริ่มหารือกับ ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ บ้างแล้วถึงประเด็นการสร้างแผนพัฒนา Start up ท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ นอกเหนือจากเรื่องกรมการท่องเที่ยว เป็นเจ้าภาพทำ MOU แหล่งเงินกู้จาก SME Bank

ในปี 2562 สทน.มองโอกาสทางการตลาดไว้อย่างไรบ้าง หลังจาก ททท.กำหนดเป้าหมายชัดเจนจะกระตุ้นให้มีคนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ (domestic) สูงถึง 160 ล้านคน-ครั้ง เติบโต 8-10 %

นายยุทธชัยกล่าวว่าหากภาครัฐสามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเติบโตอย่างมหาศาล ภาคเอกชนก็ย่อมมีโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งตลาดรายได้ที่เพิ่มขึ้น ต่อเนื่องถึงผลดีที่จะตามมาอีกหลาย ๆ เรื่อง เช่น โครงการรณรงค์ให้ธุรกิจจัดทำระบบบัญชีเดียว การสร้างงานสร้างอาชีพมากขึ้น บริษัทนำเที่ยวสัญชาติไทยแข็งแรง ป้องกันต่างชาติเข้ามาครอบงำโดยมีกิจการของคนไทยเป็นกำแพงค้ำยันไว้

ภายใต้เงื่อนไขภาครัฐกับเอกชนท่องเที่ยวทั้งระบบจะต้องร่วมมือกัน สร้างความแข็งแรงในอุตสาหกรรมเดินหน้าไปด้วยกัน โดยมีเครื่องมือทางการตลาด การขาย อย่างชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องถึงผลดีของการเลือกเดินทางกับบริษัทนำเที่ยวคนไทย หากบูรณาการได้ตามแนวทางนี้ จะทำให้เครือข่ายอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศก้าวขึ้นไปอีกระดับส่งเสริมธุรกิจคนไทยเข้มแข็งเป็นฐานทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศอย่างแท้จริง เพราะถึงอย่างไรแล้วนักลงทุนต่างชาติก็ไม่สามารถเข้าใจพฤติกรรมความต้องการของคนไทยได้ดีเท่ากับคนไทยด้วยกัน

โดยสรุปแล้วหากทุกฝ่ายร่วมมือกันทำให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวสัญชาติไทยแข็งแกร่ง ต่อไปก็จะสามารถยกระดับกิจการคนไทยเข้าสู่สนามแข่งขันนานาชาติในเชิงการสร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่นตามเจตนารมย์ของรัฐบาลอย่างสมบูรณ์แบบต่อไป

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์แจกกิฟท์โวเชอร์ช้อปดิวตี้ฟรี4สาขา”



กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จัดเต็มให้สมาชิกบัตรคิง เพาเวอร์ เพียงซื้อสินค้าวันนี้ – 31 สิงหาคม 2561 ที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีสาขาในเมือง (downtown) 4 แห่ง ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และ ภูเก็ต รับทันที เมื่อช้อปทุก 15,000 บาท (สุทธิ)  รับคืน  Gift Voucher  600 บาท  (จากยอดซื้อทุก 15,000 บาท ) และ ช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) รับเพิ่ม Gift Voucher 5,000 บาท

สำหรับโปรโมชั่นดังกล่าว จำกัดยอดซื้อสินค้าไม่เกิน 150,000 บาท / วัน และจำกัด 1สิทธิ์ / ท่าน / วัน

เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบได้ ณ จุดขาย สินค้า สามารถผ่อนชำระ 0% ได้ ส่วนที่ไม่สามารถร่วมรายได้การได้ คือ คูปอง 30% VEGA & CROWN  บัตรเครดิตร่วมคิงเพาเวอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ บัตรกสิกรไทย สิทธิ์ Birthday Celebration , ยอดเงินในบัตรสมาชิก, E- Cash, Cash Card , Gift Card , Gift Voucher, Cash Voucherรวมถึงคูปองส่วนลดอื่น ๆ

สอบถามได้ที่ คอล เซ็นเตอร์ 1631 หรือ www.kingpower.com

ข่าวที่ 2 “ททท.3ทวีปทำเงินโชว์ตลาดเชิงรุกปี’62”



ในการประชุมแผนการตลาดประจำปี 2562 : Tourism Autority of Thailand Action Plan /TATAP 2019 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2561 ประกาศเป้าหมายจะสร้างรายได้ให้ถึง 3.41 ล้านล้านบาท จากตลาดต่างประเทศ 2.29 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ อีก 1.12 ล้านล้านบาท

จึงภารกิจท้าทายในพื้นที่รับผิดชอบหลัก ๆ ใน 3 ทวีป ทั้ง เอเชียแปซิฟิก ยุโรป และตะวันออกกลาง
นายสันติ ชุดินทรา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าการวางแผนการตลาดเชิงรุกปี 2562 สำนักงาน ททท.ในเอเชียจะพุ่งเป้าเพิ่มรายได้จากการจับคู่ตลาดสำคัญ ๆ กับพื้นที่ท่องเที่ยวในไทย 15 เมืองรอง ช่วงนำร่องต้องใช้วิธีคัดเลือกบางส่วนจาก 55 เมืองรอง โดยดูพฤติกรรมความต้องการของแต่ละประเทศแล้วกระจายการเดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งความสนใจเฉพาะ (Niche Market) เช่น เกาหลีใต้ต้องขายเชียงราย อินเดียขายจันทบุรี จีนเปิดเส้นทางใหม่ขายไปยัง ลำปาง เชียงราย สตูล ส่วนญี่ปุ่นขายไปตรังและอุดรธานี

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ให้โจทก์ ททท.สำนักงานในยุโรปทั้งหมด ใช้กลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาดแนวใหม่ให้สอดรับธีมหลักภายใน 5 Go ประกอบด้วย 1. Go High รุกเจาะกลุ่มตลาดระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง 2. Go for low เพิ่มช่องทางการกระจายการท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว 3. Go to new customer ขยายฐานนักท่องเที่ยวคู่ขนานกันทั้งกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ทำการตลาดเมืองเศรษฐกิจรองที่อยู่รอบเมืองหลัก

4. Go local จัดทำโครงการขายท่องเที่ยวในไทยพ่วงกันทั้งเมืองหลักกับเมืองรองอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายรัฐบาลต้องการใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้เสริมเพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และ 5. Go Digital marketing นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเป็นช่องทางดึงตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลข้ามทวีปทั้ง 4 ภูมิภาค ยุโรป อเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง ตามโจทก์ของผู้นำ ททท.ต้องการเห็น 1 โครงการ 1 การตลาดดิจิตอล

นายพิชยา แสงจันทร์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พื้นที่ตลาดใหญ่ในกลุ่มตะวันออกลาง กล่าวว่า การขยายฐานรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลางปี 2561 ต่อเนื่องปี 2562 มีความท้าทายมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ถึงแม้ปี 2560 จะทำรายได้รวมเข้าเมืองไทยกว่า 46,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 % ส่วนสถิติช่วง 4 เดือนแรกปี 2561 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 10 % เป็นผลมาจากกำลังซื้อหลักในตลาดอิหร่านถูกแซกแซงอย่างรุนแรงทำให้กำลังซื้อซบเซาลงอย่างมาก แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง ททท.ดูไบเตรียมเร่งเครื่องอย่างหนักเพื่อเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวและรายได้ให้เข้าเป้า 3 %

การบุกทำตลาดตะวันออกกลางช่วงครึ่งปีหลัง 2561 ต่อเนื่องถึงปี 2562 เล็งไปยัง 3 ตลาดหลัก ได้แก่

1.กลุ่มผู้หญิง ตามสถิติ 3-4 ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวผู้หญิงเดินทางเข้าไทยสูงถึง 65 % ขณะนี้ได้เข้าไปจับมือกับกลุ่มภาคีพันธมิตร Lady Club กับบริษัทตัวแทนนำเที่ยวกลุ่มตลาดผู้หญิง (Agent Tour Operators) เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้หญิงจากตะวันออกกลางใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวในไทยเฉลี่ยมากกว่า 7,700 บาท/คน/วัน (สูงกว่าค่าเฉลี่ยนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเมืองไทยเฉลี่ยเพียง 5,130 บาท/คน/วัน) และมีวันพักเฉลี่ย 12.30 คนต่อทริป
2.กลุ่มครอบครัว พฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของชาวตะวันออกกลางมีขนาดใหญ่ครอบครัวละ 5 คนขึ้นไป ตอนนี้จึงจะต้องหารือกับโรงแรมในไทย ซึ่งยังมีข้อจำกัดเรื่องห้องพักยังไม่รองรับให้ได้ถึง 3 ห้องขึ้นไป/ครอบครัว

3.กลุ่มเดินทางเพื่อดูแลและป้องกันสุขภาพ Health & Wellness นิยมเข้ามาใช้บริการแพทย์ทางเลือกในไทย และเป็นกลุ่มเดินทางซ้ำ ๆ มากถึงปีละ 70 %

ข่าวที่ 3 “บางจากหนุนวิจัยพลังงานไทยยั่งยืน”



นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ร่วมลงนามความร่วมมือส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้าเพื่อการพัฒนาประเทศ พร้อมร่วมเสวนาในงาน CEO Forum: Electricity R&I Challenges in the 21st Century “พลังงานไฟฟ้าก้าวไกล วิจัยนำไทยยั่งยืน”

ทั้งนี้ พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ที่ร่วมกันจัดโดย 4 องค์กร ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท. )

ข่าวที่ 4 “BCPG ติดอันดับหุ้นยั่งยืน ESG 100 ปี 2561”


นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาบันไทยพัฒน์ ประกาศให้บีซีพีจี ติดอันดับ ESG 100 ประจำปี 2561 ด้วยการคัดเลือกจาก 683 บริษัทจดทะเบียน  (ไม่รวมหลักทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟู)    ให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) ในกลุ่มทรัพยากร (Resources)

ทั้งนี้ การจัดอันดับพิจารณาข้อมูลจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และผลประกอบการของบริษัทควบคู่ไปพร้อมกันโดยใช้เรตติ้งโมเดลที่พัฒนาขึ้นจากหลักการแนวทางตามมาตรฐานการประเมิน ความยั่งยืนของ GISR (Global Initiative for Sustainability Ratings)

ขณะที่การจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนด้านการพัฒนาความยั่งยืนของธุรกิจนี้ ถือเป็นแหล่งข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้น้ำหนักการลงทุนในบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญและเป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและได้รับผลตอบแทน ที่มิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป

ข่าวที่ 5 “ทอท.ผุดเชิงพาณิชย์รอบสุวรรณภูมิต่างชาติสนลงทุน”



นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมวางแผนพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าพัฒนาทำกิจกรรมโครงการเชิงพาณิชย์ โดยจะทำให้เกิดความชัดเจนได้ในช่วงปลายปี 2561 ถึงต้นปี 2562 ในที่ดิน 2 แปลง มูลค่าการลงทุนเบื้องต้นประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งพร้อมเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าควบคู่กับใช้เงินลงทุนด้วย ในบริเวณรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบด้วย 1.พื้นที่ 990 ไร่ ของราชพัสดุ จะครบกำหนดสัญญาที่ ทอท.เช่าปี 2575 และ 2.พื้นที่ 723 ไร่ ของ ทอท.พร้อมให้เช่าทำธุรกิจได้ 30 ปี

โดย ทอท.จะใช้วิธีเปิดประมูลหาผู้ชนะเพื่อให้สิทธิสัมปทานด้วยการจะวิเคราะห์จุดคุ้มทุนของกิจการที่ขอเข้ามา เพื่อให้สอดคล้องกับอายุเวลาสัมปทาน เช่น ธุรกิจเอมีจุดคุ้มทุน 3 ปี จะได้สัมปทานอายุ 5 ปี ธุรกิจบีมีจุดคุ้มทุน 7 ปี จะได้สัมปทานอายุ 10 ปี เป็นต้น

ล่าสุดคณะกรรมการ ทอท. มีมติให้ดำเนินการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ 9 กิจกรรม ได้แก่ 1.โรงแรม 2.การขนส่งและ โลจิสติกส์ 3.สำนักงานและศูนย์ธุรกิจ 4.ร้านค้า และศูนย์การค้า 5.การท่องเที่ยวและนันทนาการ 6.การประชุม สัมมนา และนิทรรศการ 7.ที่พัก อาศัย 8.การกีฬา และ 9.การรักษาพยาบาล

ขณะที่มีรายงานจากทางกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การเปิดพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.ให้เอกชนเข้ามาพัฒนากิจกรรมเชิงพาณิชย์ 2 แปลงใหญ่ ล่าสุดพบมีเอกชนรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนใจเข้ามาลงทุนพัฒนาแบบครบวงจร โดยเฉพาะ การลงทุนโครงการธุรกิจโลจิสติกส์ ก่อสร้างคลังสินค้า เรื่อยไปจนถึงโรงแรมหรูที่ได้มาตรฐานสากล แต่ก็จะต้องพิจารณาให้เป็นไปตามกติกาความโปร่งใสเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ช่วงที่ 2 เตรียมตัวให้พร้อมแล้วชวนเพื่อน ๆ กอดคอกันไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำกิจกรรมสนุก ๆ ระหว่างท่องเที่ยวในรอบอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ในเขตรักษาพันธุ์ป่าสลักพระ ค่ายสุรสีห์ วิสาหกิจชุมชน แล้วช่วยแวะไปเยี่ยมเยาวชน “โรงเรียนมูลนิธิเด็ก” กัน ส่วนการดูแลสุขภาพต้องรู้กับ “6วิธีป้องกันผงเข้าตา” แล้วตามติดข่าวใกล้ตัว “ชวนก๊วนเพื่อน” ลุ้นเที่ยวถ่ายภาพ 55 จังหวัด ลุ้นรับ 2แสนบาท “28 กรกฎาคมนี้” กรมอุทยานฯ เปิดให้เข้าไปเที่ยวฟรีทั่วประเทศ “ผู้สูงวัย” ห้ามพลาดงานอินเตอร์แคร์ 12-14 กรกฎาคม นี้ที่ไบเทค บางนา

@ลุยเที่ยวได้งานในกาญจนบุรี

ได้เวลาชวนเพื่อน ๆ หลบความวุ่นวายในเมืองกรุงไปทำกิจกรรมตามแหล่งท่องเที่ยวสไตล์เก๋ ๆ ใน “กาญจนบุรี” กันดีกว่า แค่ในเขต “อำเภอเมือง” ก็มีให้เลือกมากเสียจนตัดสินใจลำบาก ทว่ามีคุณค่าแห่งวิถีชีวิตอยู่ทุกพื้นที่



จุดแรก ชวนกันไปยิงเม็ดไม้ ปลูกป่า ทำแนวกันไฟ ฝายชะลอน้ำ ที่ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ” เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกในเมืองไทย เปิดเมื่อปี 2508  เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณนี้มีสัตว์ป่าอย่างช้างอาศัยอยู่ เหมาะกับการศึกษาวิจัยหรือทำงานอาสาสมัครเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวชอบที่จะไปทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับเดินศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง คือ ห้วยลำอีซู  ห้วยสะด่อง และสลักพระ ซึ่งเดินไปได้ถึงอ่างเก็บน้ำศรีนครินทร์ และ ห้วยแม่ละมุน

หากไปท่องเที่ยวก็แวะได้ทุกวัน ยกเว้นถ้าจะไปทำกิจกรรมเป็นหมู่คณะต้องแจ้งทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ล่วงหน้า 15-30 วัน โทร. 0-2561-0777 , 0-2579-6666



จุดที่สอง คนไทยหัวใจนักอนุรักษ์ แนะนำให้เข้า “ค่ายสุรสีห์” ของหน่วยทหาร กองพลทหารราบที่ 9 กาญจนบุร มีกลิ่นอายของยุคสงครามเวียดนามให้สัมผัส ภายในมีประติมากรรมเสาเกียรติ พล.ร.9 ให้ชื่นชมไปพร้อมกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม สวนสัตว์นานาชาติในค่าย  ตลาดน้ำกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องตำนานพระนเรศวรมหาราช

ส่วนไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวชอบเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ อาทิ เดินป่าเชิงอนุรักษ์ เรียนรู้การดำรงชีพในป่า เข้าร่วมฐานผจญภัยต่าง ๆ ได้แก่ โรยตัวจากที่สูง กระโดดหอความสูง 34  ฟุต รอกข้ามลำน้ำ ยิงปืน ปั่นจักรยานเสือภูเขา



จุดที่สาม นักท่องเที่ยวที่ชอบดดงดอกไม้ ทั้งแบบธรรมชาติและประดิษฐ์ ต้องที่ “วิสาหกิจชุมชนผลิตดอกไม้แห้งจากวัสดุธรรมชาติบ้านหนองสองตอน” ตำบลแก่งเสี้ยน ที่ชาวบ้านกลุ่มสตรีรวมตัวกันนำ ไม้กระถิน กิ่งไม้ ดอกหญ้า มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำเป็นชิ้นงานเชิงสร้างสรรค์ กลายเป็นสินค้าส่งออกขึ้นชื่อของเมืองกาญจน์ไปเรียบร้อยแล้ว



สำหรับนักท่องเที่ยวจิตอาสาชอบการช่วยเหลือทำบุญ แนะนำให้แวะไปที่ “โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก มูลนิธิเด็ก” ที่ตำบลวังด้ง ศูนย์รวมเด็กด้อยโอกาสที่ถูกพ่อแม่ทิ้งกลายเป็นกำพร้า ทางกระทรวงศึกษาธิการจึงเปิดเป็นโรงเรียนกินนอนสอนฟรีให้เด็กในหมู่บ้านกว่า 250 ชีวิต แวะไปให้กำลังใจเด็ก ๆ เหล่านี้ได้ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวกาญจนบุรี

@6 วิธีป้องกันอันตรายจากผงเข้าตา
หมอชาวบ้าน มีข้อแนะนำมาบอกเรื่อง "ผง" ที่จะเข้าตา หรือ "สิ่งแปลกปลอม"  อย่างขี้เลื่อย ขี้แกลบ ปีกแมลงเศษแก้ว เศษเหล็ก เขม่าถ่าน ฯลฯ นอกเหนือจากนี้ไม่ค่อยพบ เพราะอาจจะละลายไปกับน้ำตา หรือหลุดออกเสียก่อนขณะกระพริบตา กลอกตาไปมาเองได้ ควรหลีกเลี่ยงผงเข้าตาได้ด้วย 6 วิธี คือ

1. พยายามเลี่ยงต่อการเดินผ่านบริเวณที่กำลังมีฝุ่น, เศษผง, เศษกระดาษกำลังล่วงลอยฟุ้งอยู่ บางครั้ง ตัวเราอาจจะมองไม่เห็น เศษฝุ่น, ผง ที่กำลังลอยไปมาขณะนั้นชัดเจน

2.ไม่พยายามเดินสวนทางกับทิศที่กำลังมีลมพายุพัด เพื่อเลี่ยงการปะทะกับฝุ่นและผงโดยตรง โอกาสที่จะมีสิ่งสกปรกแปลกปลอมปลิวเข้าตาตลอดเวลา

3. ขณะปัดกวาดบ้าน หรือข้างฝาบ้านสูงกว่าระดับสายตา ควรหาแว่นตากันลมกันแดดที่ไม่เกี่ยวกับสายตา (เท่าที่ท่านมีหรือพอจะหาได้ขณะนั้น) มาส่วนใส่กันขี้ผงล่วงหล่นใส่ตาไว้ก่อน

4. ระหว่างออกนอกบ้าน ถ้ามีพาหนะที่เป็นรถเครื่อง รถมอเตอร์ไซค์ ควรจะสวมแว่นกันลมกันแดดขณะขับขี่ หรือหมวกกันน็อคที่มีกะจังกันลมช่วยได้มาก นอกจากกันลมกันฝุ่น กันพวกแมลงอีกด้วย

5. อย่าพยายาม ยืนหรือหันหน้าสวนทิศทางลม ใต้กองไฟที่กำลังสุมอยู่ ขี้เขม่าเถ้าถ่านปลิวเข้าตาได้

6. อย่าพยายามยืนดูหรือเข้าไปใกล้บริเวณที่กำลังมี การรื้อถอน ก่อสร้าง หรือการกระทำที่ทำให้เกิดฟุ้งกระจายของฝุ่น, ผง, เศษขยะใดๆ

เป็น 6 วิธีป้องกันผงเข้าตาอย่างง่าย ๆ ที่ทุกคนทำได้ด้วยความไม่ประมาท

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “ททท.ชวนแชะแชร์55จังหวัดลุ้นรางวัล2แสน”



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนร่วมสนุกกับโครงการ TAKE A BREAK เปิดให้นักท่องเที่ยวชวนเพื่อนกลุ่มละ 4 คน มาร่วมสนุกกับกิจกรรม Photo Fashion Contest 2018 ระหว่างวันนี้ - 20 กรกฎาคม 2561 เพียงส่งภาพถ่ายแต่งกายเป็นธีม ชิคๆ เก๋ๆ เลือกสถานที่ท่องเที่ยว 55 จังหวัด ลงโพสต์และแชร์ ลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยติดตามการเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ ได้ที่https://www.facebook.com/TakeaBreakThailand/m.me/TakeaBreakThailand/

เลือกมุมถ่ายภาพตามแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภาคของประเทศ ดังต่อไปนี้

  ภาคเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี

  ภาคอีสาน 18 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครพนม บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี

  ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง

ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว

  ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ระนอง ยะลา และสตูล




คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประกวดและกติกาการแข่งขัน ดังนี้

1.ภาพที่ส่งเข้าประกวดต้องประกอบด้วย แกงค์เพื่อนตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป พร้อมแต่งตัวภายใต้ Theme เดียวกัน 2.กด Like Fanpage Take A Break Thailand 3.กด Share Post กิจกรรมไปที่หน้า Facebook ของท่านพร้อมตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ 4.โพสต์ภาพถ่ายจำนวน 1 รูป ลง Facebook ของท่าน ตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ พร้อมตั้ง Caption อธิบายรูปภาพในแบบฉบับของคุณพร้อมบอกสถานที่และจังหวัดที่คุณไป และใส่ hashtag #TakeABreakThailand #Photofashioncontest #LocalRunwayTH #TAT

5.ภาพถ่ายที่นำมาประกวดทั้งหมดต้องไม่เคยเผยแพร่ในงานใด หรือไม่เคยได้รับรางวัลในการประกวดอื่น ๆ              6.ลิขสิทธิ์ของภาพยังคงเป็นของโครงการ Take a break เท่านั้น โดยโครงการจะใช้ภาพถ่ายของผู้เข้าแข่งขันไปใช้ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์

รางวัลสำหรับผู้ชนะ 3 อันดับ  ได้แก่ รางวัลที่ 1: 30,000 บาท + ที่พัก High Season Pool Villa&Spa koh kood 3 วัน 2 คืน สำหรับ 4 ท่าน มูลค่า 100,000 บาท รางวัลที่ 2: 20,000 บาท รางวัลที่ 3: 10,000 บาท รางวัลชมเชย: ที่พัก 3 วัน 2 คืน จำนวน 7 รางวัล

ข่าวที่สอง “กรมอุทยานฯเปิดให้เข้าฟรี 28 ก.ค.61”



กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศ ด้วยในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ดังนั้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมถวายความจงรักภักดีสนองต่อพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงประกาศยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติสำหรับบุคคลชาวไทยและยานพาหนะ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2561

ข่าวที่สาม “จัดใหญ่งานอินเตอร์แคร์เอาใจผู้สูงวัย12-14ก.ค.”



นายสืบพงษ์ สมิตทันต์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ บริษัทเอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนซ์เซอร์ จำกัด กล่าวว่า เตรียมจัดงาน อินเตอร์แคร์ เอเชีย 2018 ระหว่าง 12-14 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา คาด 3 วันจะมีผู้เข้างานกว่า 5,000 คน สร้างเม็ดเงินซื้อขายกว่า 550 ล้านบาท จะเป็นงานเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทยด้วย
ภายในงานมีผู้ประกอบการชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี  นำผลิตภัณฑ์เข้ามาร่วมจำหน่าย แบ่งเป็น 5 โซน ประกอบไปด้วย

 1. Homecare & Equipment อุปกรณ์และเครื่องมือในการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน 2. Rehabilitation อุปกรณ์และเครื่องมือดูแลช่วยเหลือและปกป้องผู้สูงอายุ เช่น หุ่นยนต์ผู้ช่วย ศูนย์กระดูกและข้อ เครื่องช่วยฟัง 3. Medical Tourism/การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น สปา ฟิตเนส และสถานบริการนวดแผนไทย ลองสเตย์ 4. Service มีสินค้าและสถานบริการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ เช่น Nursing Home วีลแชร์ โรงพยาบาลที่ดูแลผู้สูงอายุโดยเฉพาะ 5. Nutritional Food โซนแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเสริมและสมุนไพร อาหารเฉพาะโรค

ไฮไลต์ในงานยังจะมีบริการโปรแกรมแนะนำการท่องเที่ยวผู้สูงวัยแบบไม่หักโหมหรือเดินทางไกล เช่น เที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ทำบุญไหว้พระ ตักบาตร ฟังเทศน์ และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลกับผู้ประกอบการได้ถึง 100% ของเงินที่จ่ายให้ลูกจ้างสูงอายุเข้าทำงาน การสร้างที่พักอาศัยพร้อมสินเชื่อ การบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญเพื่อผู้สูงอายุ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ภาคเอกชนที่ประกอบการเกี่ยวกับการจัดสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ การส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ การจัดระบบสวัสดิการ และการดูแลผู้สูงอายุ

ติดตามฟังรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 -12.00 น. ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.นครราชสีมาพลิกโฉมตลาดท่องเที่ยวปี67

  รุ่งทิพย์ บุกขุนทด  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่  2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ

TCEBนำไมซ์ปี67โร้ดโชว์เทรดโชว์ทั่วโลก-จัดยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" บิ๊ก TCEB ปี 67 ปั๊มยอดไมซ์โตลุยโร้ดโชว์/เทรดโชว์ทั่วเอเชีย ในประเทศจัดกระหึ่ม“ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทย”พ.ค.นี้   3-7 มี.ค.ประชุมโดฮาลุ้นข่าวดี !! ไทยเจ้าภาพ Korat Expo2029 ดับร้อน!!ที่คิงเพาเวอร์ช้อป4มันส์ลดแจกแลกฟรี-31มี.ค.67 คิงเพาเวอร์จัดเต็ม 3.3 BEAUTY TRIO” ช้อป 3 อย่างลด 25% ททท.นำร่องจัด AIR-MAZING ไทยฮับท่องเที่ยว/การบินปี67 บางจากแจกมี.ค.67นำปั๊มเอสโซ่เดิม & บางจากมอบ2โปรดี สุขทันทีที่เที่ยวแดนใต้นราธิวาสเมืองพหุวัฒนธรรม5พิกัด AWC ปี’66ทำ5นิวไฮ-ปี67ทุ่ม1.9หมื่นล้านเปิด18โครงการ Trip.com- ททท.ไลฟ์สตรีมขายสงกรานต์โกยต่างชาติ150ล. วันอาทิตย์ที่   3 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์ FM97  # เพ็ญรุ่งใยสามเสน # เท

เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก

  เปิดใจ “พศิน ลาทูรัส”ทายาท”นารายา”พลิกโมเดลแบรนด์ไทย ถอดบทเรียนโควิดปรับมุมคิดธุรกิจรุ่งปั้นสินค้าใหม่บุกทั่วโลก คิงเพาเวอร์ชวนช้อปออนไลน์แบรนด์เนมลด 70%26-31 ต.ค.นี้ สนุกกับ SUPER SURPRISE ดีลพิเศษราคาดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ ก.ท่องเที่ยวตีปีกรับทัวร์ต่างชาติ 3 เฟส-ไฟเขียวแล้ว 10 แอร์ไลน์ ไทยจ่อดึงลองสเตย์ต่างชาติซื้ออสังหาฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด “ TCEB” ชูไทยแลนด์ไมซ์สตาร์ตอัพปั้นนวัตกรรมใหม่5โปรเจ็กต์ หนาวนี้เที่ยว“นครพนม”ปลอดภัยมั่นใจเส้นทางสาย SHA ริมโขง วิธีเลือกกินเพื่อหลีกเลี่ยงความอ้วนควบคู่การลดโรคมากมาย ไทยสมายล์ขายตั๋วชุดเที่ยวไทยเหมาจ่าย4ใบเริ่มที่3.8พันบาท ไทยเวียตเจ็ทขายตั๋ว5บาท/เที่ยวโปร2เส้นทางใหม่ในประเทศ กรมเจ้าท่าฟุ้งแผนทำ10ท่าเรือรองรับวันสต็อปเที่ยวเจ้าพระยา   นายพศิน ลาทูรัส ซีอีโอฝ่ายพัฒนาธุรกิจ  บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง