ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.เปิดแผนตลาดปี62โกยรายได้3.3ล้านล้าน-เที่ยวมุมใหม่ในนครปฐมพิพิธภัณฑ์เพียบ

ททท.เปิดแผนตลาดปี’62ตั้งเป้าโกย3.3ล้านล้าน
ปั้นเดสติเนชั่นแบรนด์55เมืองรองเร่ดิจิตอลApp
คิงเพาเวอร์มุมใหม่สไตล์ไทย-เอเชียนคอนเนอร์
5พันธมิตรเปิดTAT Startupหาแชมป์ไปWTM
บางจากคว้าคว้าเจ้าแห่งผู้นำอาคารลดคาร์บอน
ทอท.4ทศวรรษจ่อปฎิรูปใหญ่อุตฯบินไทยปี’62
6เดือนแรก6สนามบินกวาดกำไร1.3หมื่นล้าน
ทริปดี๊ดีเที่ยวศูนย์ศิลปาชีพเนินธัมมังนครศรีฯ
แพทย์แผนไทยแนะให้กินขิงดักโรคภัยหน้าฝน
25ปีROPบินไทย1-2ก.ค.จัดบิ๊กโปรตั๋วลด50%
ก.ท่องเที่ยวสั่ง4.8พันแหล่งทำแผนป้องกันภัย
กทพ.ปลื้มแอร์ยุโรปขอบินเข้าไทยเพียบต.ค.นี้

ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 2561 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังเรียลไทม์ได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen    และบล็อกเกอร์ #gurutourza

ช่วงที่ 1 เกาะติดสถานการณ์กับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่จะมาเปิดแผนการตลาดปี 2562 ที่ได้ระดมสำนักงาน ททท.ในประเทศและทั่วโลก มาถกกันในวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2561 โดยชูธงโกยรายได้ท่องเที่ยว 3.3 ล้านล้านบาท คนไทยจะใช้เงินเที่ยวทะลุเกินปีละ 1ล้านล้าน พร้อมติดอาวุธการขายสำนักงานทั่วโลกคัดสรรโปรดักต์แชมเปี้ยม สร้างเดสติเนชั่นแบรนด์ เพิ่มความเข้มข้น 55 เมืองรอง หาวิธีให้ต่างชาติใช้เงินเพิ่มคนละ 5หมื่น และถึงเวลาจุดพลุ “ดิจิตอล แพลทฟอร์ม” มาเป็นเครื่องมือบริการท่องเที่ยวแบบครบวงจร จ่อผุด Application รวมบิ๊กดาต้าลุยเจาะลูกค้าเทรนด์ใหม่ ๆ และโหมลดโลกเลอะเต็มรูปแบบ



ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมจัดประชุม แผนปฏิบัติการตลาดประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2561 ซึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์ระยะ 4 ปี ระหว่าง 2560-2564 ตั้งเป้าหมายจะทำรายได้เข้าประเทศประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10 % มาจากตลาดต่างประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12 % และในประเทศ 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8 %

โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่จะทำให้ตลาดต่างประเทศขยายการเติบโตปีหน้าได้มากถึง 12 %  ประกอบด้วย 1.กระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศที่ใช้เวลาเดินทางมาไทยไม่เกิน 6 ชั่วโมง ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย เอเชียใต้ อาเซียน ปีนี้จีนเข้ามาไทยจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมด เพิ่มขึ้น 20 % ดังนั้น ททท.จะต้องรักษาสัดส่วนดังกล่าวไว้ 2.ตลาดระยะไกล จากอเมริกา ยุโรป อย่าง รัสเซีย เยอรมัน สหราชอาณาจักร จะรักษาค่าเฉลี่ยการเติบโตให้ใกล้เคียงกับปีนี้ 3.ตลาดในประเทศ อาศัยเศรษฐกิจช่วงขาขึ้น จะทำให้คนไทยหันมาท่องเที่ยวปี 2562 ไม่ต่ำกว่า 160 ล้านคน-ครั้ง



ขณะเดียวกันก็เตรียมติดอาวุธให้ ททท.แต่ละสำนักงาน ซึ่งตามปกติจะมีแนวทางหลักทำการตลาดเชิงรุกในต่างประเทศด้วยการเปลี่ยนตามกลยุทธ์ไปตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เลือกเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ใช้จ่ายเงินสูง โดยแต่ละสำนักงานได้รับโจทก์ให้ไปคัดเลือกโปรดักซ์ แชมเปี้ยน มาสนองความต้องการนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะหลัก ๆ ได้แก่ 1.กลุ่มฮันนีมูน 2.แต่งงาน 3.ดูแลรักษาสุขภาพ 4.ท่องเที่ยวเชิงกีฬา 5.ท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม

ควบคู่กับการขยายตลาดในประเทศ เน้นบุกขยายฐานนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินสูงเช่นกัน เป็นความพยายามลดปัญหาโครงสร้างให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวไปตามพื้นที่เมืองรอง และเดิมเที่ยวเฉพาะวันหยุด จึงต้องเล็งเพิ่มกลุ่มครอบครัว วัยเก๋า และเจนวาย มากขึ้น
อีกทั้ง ททท.ทุกสำนักงานได้รับการย้ำเน้นเรื่อง “การกระจายรายได้สู่ฐานราก” มากขึ้น ในหมวดสินค้าอาหารถิ่น ประสบการณ์เดินทางสู่ท้องถิ่น (Local Experience) โดยคำนึงถึงธรรมาภิบาลทางด้านสิ่งแวดล้อม เพราะขณะนี้ยังมีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขในปี 2562 เรื่องหลัก คือ “ค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อทริป” จากตลาดต่างประเทศตั้งเป้าเติบโต 12 % แต่ปัจจุบันใช้เงินเฉลี่ยเพียงแค่ 53,150 บาท/คน/ทริป ส่วนตลาดในประเทศตั้งเป้าเติบโต 8 % เฉลี่ยใช้เงินเพียง 4,120 บาท/คน/ทริป จะต้องหาวิธีเพิ่มค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

รวมถึง ททท.ทุกสำนักงานได้รับโจทก์ใหม่ในการลงทุนแต่ละโครงการ จะต้องกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากไปสู่ชาวบ้าน และเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยด้วย



ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การพุ่งเป้าพัฒนาจุดขายแหล่งท่องเที่ยว Area Base จัดกลุ่มแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองโดยใช้เกณฑ์จาก “จำนวนนักท่องเที่ยว” ที่เดินทางเข้าไปยังมีจำนวนไม่ถึงจังหวัดละ 4 ล้านคน ฉะนั้น ททท.จะเดินหน้ากระตุ้นโดยปรับสัดส่วนนักท่องเที่ยวให้ไหลจากเมืองหลักสู่เมืองรองเป็น 65 ต่อ 35 % และปีถัดไปเพิ่มเป็น 60 ต่อ 40 %

ส่วนพื้นที่เมืองรองในภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีนโยบายให้กำหนดธีมอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นเพราะขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับใน นราธิวาส ปัตตานี ยะลา โดยเฉพาะแถบเบตงมีชาวต่างชาติเข้าไปเที่ยวจำนวนแต่คนไทยกลับไปน้อยเพราะยังติดภาพจำเดิม ๆ หน้าที่ของ ททท.จะต้องเข้าไปเปลี่ยนภาพมุมใหม่ให้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันก็จะขยายส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนติดเมียนมาร์ อาทิ ชุมพร ระนอง มีโอกาสจะพัฒนาเป็น 1 ใน Area base สำคัญในปี 2562 ได้

ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวว่าปี 2562 ยังจะใช้แคมเปญ “ไทยเท่” บุกตลาดในประเทศ โดยเพิ่มน้ำหนักต่อยอดทุกจังหวัดทุกพื้นที่ทำเป็น Destination Branding สร้างแบรนด์ของแต่ละจังหวัดขึ้นมาโปรโมตอย่างจริงจัง เพื่อสื่อสารการตลาดเต็มรูปแบบ อีกทั้งนโยบายของคณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.เห็นชอบให้เดินหน้าเปิดสำนักงานใหม่ภายในประเทศเพิ่มอีก 6 แห่ง เพื่อตอบสนองการทำงานอย่างใกล้ชิดกับท้องถิ่นและความต้องการของในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันบางสำนักงานรับผิดชอบดูแลตลาด 2-3 จังหวัด จึงมีกำลังไม่เพียงพอจำเป็นจะต้องเพิ่มสำนักงานเพิ่มความเข้มข้นรองรับการเติบโต



เบื้องต้นจะเปิดเพิ่ม 6 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดน่าน  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ที่สกลนคร กับ บุรีรัมย์ ซึ่งมีภารกิจใหญ่ต้องเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลก โมโตจีพีต่อเนื่องถึง 3 ปี ภาคกลาง จังหวัดราชบุรี (แยกจากกาญจนบุรี) เพราะการท่องเที่ยวเข้มแข็ง ภาคตะวันออก ที่จันทบุรี จะเชื่อมต่อกับแผนรองรับการเติบโตของระเบียงเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลตะวันออก (EEC) และภาคใต้ ที่สตูล ในโอกาสได้รับการยกย่องจากยูเนสโก้ให้เป็นเมืองจีโอพาร์ค เมื่อเปิดสำนักงานใหม่แล้วจะเข้าไปช่วยส่งเสริมการตลาดแบบครบวงจรต่อไป

ส่วนต่างประเทศใช้แคมเปญ Open to the New Shades เป็นหัวหอก โดย ททท.ได้ศึกษาการตลาดท่องเที่ยวของประเทศแล้วมีมุมใหม่ทั้งเรื่องโปรดักซ์ อาหาร วัฒนธรรม วิถีชีวิต แต่ละเฉด แต่ละพื้นที่ ภูมิภาค ในมุมมองของนักท่องเที่ยวแต่ละตลาด จะไม่ได้เพิ่มเฉพาะเรื่องเฉด แต่ละสำนักงานจะต้องกระตุ้นโดยลงมือทำจริงเรื่องกลยุทธ์เพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าเมืองไทยเพิ่มตามเป้า 12 %

ปี 2562 ททท.มีโจทก์ใหญ่ต้องทำควบคู่กันอีกภารกิจที่ได้รับนโยบายจากรัฐบาลให้เร่งเดินหน้าการตลาดดิจิตอลท่องเที่ยวมาทำด้วย ตามแนวคิดของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กำหนดให้ทุกรัฐวิสาหกิจและกระทรวงตื่นตัวทำ Digital transformation ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ 1.ปรับปรุงการให้บริการ 2.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ของ ททท.ในยุคที่กำลังเข้าสู่ Big DATA ดังนั้นทุกสำนักงานจึงได้รับคำสั่งให้ทำบิ๊กดาต้าอย่างน้อย 1 โครงการ รวมศูฯย์ข้อมูลให้ครบถ้วนทั้งเรื่องเครือข่าย แหล่งท่องเที่ยว พฤติกรรมนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับ ททท.สำนักงานในประเทศก็ต้องทำเหมือนกัน

ตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย กรณีรัฐบาลประกาศยกเลิกใช้ ใบ ตม.6 นักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางเข้า-ออก ประเทศ ไปเรียบร้อยแล้ว และเร็ว ๆ นี้ก็จะเลิกใช้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยเช่นกัน จึงจำเป็นที่ ททท.จะต้องหาวิธีเก็บข้อมูลบิ๊กดาต้า เพื่อวิเคราะห์ สื่อสารการตลาด ดังนั้น ททท.ทุกสำนักงานในประเทศและทั่วโลกต้องริเริ่มทำ Digital Transformation ผ่าน Big Data ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้จริง



นอกจากนี้การประชุมแผนการตลาดปี 2562 ททท.ยังจะเพิ่มน้ำหนักแผนลดขยะท่องเที่ยวในโครงการ “ลดโลกเลอะ” ทำต่อเนื่องจาก กิจกรรมร่วมกับจิตอาสาปัจจุบันก็มีโครงการ ฮีโร่ทัชโดยร่วมกับ ปตท.โกลบอล เคมิคอล เก็บขยะในทะเลเรียกว่า Up Clying the Ocen ดังนั้นจะต่อยอดทำเพิ่ม 1.เตรียมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำเป็นห่วงโซ่อุปทานการลดโลกเลอะ พุ่งเป้า “หยุดการใช้พลาสติกหรือใช้ครั้งเดียวทิ้ง” หรือ single use เบื้องต้นหารือกันไว้หลายหน่วยงานแล้วกับกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยการสร้างปฏิญญาฝังให้อยู่ใน DNA ใต้จิตสำนึกนักท่องเที่ยว 2.สร้างนักท่องเที่ยวพันธุ์ใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมรับผิดชอบทรัพยากรธรรมชาติ เรียกกลุ่ม Less Waste Traveller : LWC นอกจากความสุขส่วนตัวแล้วยังต้องช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย เนื่องจากมีข้อมูลน่ากังวลจากตัวเลขอันดับของไทยในเวทีโลกเปรียบเทียบใน 122 ประเทศ ไทยมีปัญหาขยะรุนแรง ดังนั้นจึงต้องให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยกันปลูกเรื่องช่วยกันลดขยะไว้ใน DNA นักท่องเที่ยวด้วย

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์มุมใหม่ที่เอเชียนฟู้ดคอนเนอร์รางน้ำ”



กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ผู้นำแห่งใหม่ด้านไลฟ์สไตล์ที่เป็นมากว่าร้านค้าดิวตี้ฟรี มีข้อเสนอมาชวนไปสัมผัส มุมใหม่ใน “Thai Street Food by Asian Corner” ชั้น 1 ในอาคาร คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ กับเอกลักษณ์อาหารไทยรสเลิศและหลากหลายเมนูอาหารสไตล์เอเชีย

เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่เนรมิตเมนูไข่ให้มีลูกเล่นเหนือกว่าไข่ดาวธรรมดาคือไข่กรอบนุ่มในเป็นยางมะตูมรับประทานคู่กับ ข้าวผัดกะเพราตามความชอบ อาทิ เนื้อวากิวไข่กรอบ ราคาจานละ 230 บาท ปลาแซลมอน 220 บาท หมูดำ 190 บาท หรือกุ้ง 190 บาท

แล้วยังแนะนำเมนูไทยต้นตำรับ อย่าง ต้มยำซีฟู้ด หม้อละ 190 บาท ต้มยำไก่บ้าน 160 บาท ทอดมันกุ้ง 150 บาท ผัดผักบุ้งไฟแดง 140 บาท) และหมูสะเต๊ะ 120 บาท

นอกจากเมนูไทย ยังมีอาหารเอเชียจานเด็ดเป็นตำนานของคิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้แก่ ราเมนต้มยำกุ้ง 190 บาทเสิร์ฟพร้อมไข่ยางมะตูม และสารพัดเมนูสไตล์ญี่ปุ่นเลื่องชื่อ อาทิ ข้าวหน้าปลาแซลมอนโรยหน้าด้วยไข่ปลา เสิร์ฟพร้อมขิงและวาซาบิ จานละ 260 บาท รวมทั้งเมนูสเต็กนานาชนิด ซูชิ ซาชิมิ มากิ และสลัดเพื่อสุขภาพ

ข่าวที่ 2 “ททท.ผนึก4กลุ่มดันTATสตาร์ตอัพร่วมWTM”



ททท.นำ 4 พันธมิตรรุกใหญ่โปรเจ็กต์ TAT Startup ประกวดธุรกิจดาวรุ่งท่องเที่ยวพันธุ์ใหม่ชิง1.5 ล้าน ผู้ชนะได้ร่วมโชว์เวทีใหญ่ WTM 2018

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิเดเผยว่า ได้จัดทำโครงการ "TAT Startup  จัดประกวดหาผู้ประกอบการยุคใหม่ เพื่อจุดประกาย Traveltec ในยุคดิจิตอลตลาดการท่องเที่ยวไร้พรมแดน โดยจับมือกัน 5 กลุ่ม ได้แก่  ททท.ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และ ผู้บุกเบิกก่อตั้งสตาร์ตอัพท่องเที่ยว Take Me Tour

พร้อมเปิดรับสมัคร ผู้ประกอบการสตาร์ตอัพท่องเที่ยว นำเสนอรูปแบบการพัฒนาธุรกิจต้นแบบ ระหว่างวันนี้ -31 กรกฎาคม 2561 ทาง ww.tourismthailand.org/startup หรือที่งานส่งเสริมการลงทุนธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศ กองประสานการลงทุน ททท.โทร.02-250-5500 ต่อ 2940-43

บรรดาสตาร์ตอัพทั้งหลาย สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ประกอบด้วย 2 ประเภท คือ 1.ธุรกิจเกิดใหม่ 2.ต่อยอดธุรกิจ เพื่อชิงรางวัล โล่รางวัล มูลค่า 1.5 ล้านบาท รวมทั้งผู้ชนะจากโครงการนี้ ททท.ให้โอกาสเข้าร่วมงานขายรายการใหญ่1 ใน 2 ของโลก World Travel Mart 2018 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พฤศจิกายน นี้

นายระวี อุ่นภัทร ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ทางธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัพ ซึ่งมีเงินอยู่ในระบบรองรับมากกว่า 20,000 ล้านบาท โดยเน้นเจาะลึกกระจายการสนับสนุนสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ และนับจากนี้เป็นต้นไปเพิ่มช่องทางสนับสนุนภาคท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

ทางด้านนายปริวรรต วงษ์สำราญ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ได้จัดสรรเงินสนับสนุนสตาร์ตอัพคนไทยแบบให้ฟรี เริ่มต้น 1.5 ล้านบาท ขณะนี้มีสตาร์ตอัพในกลุ่มธุรกิจเสนอขอเข้ามากว่า 400 ราย ได้รับอนุมัติไปแล้ว 100 ราย และจะทยอยส่งเสริมอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อที่จะได้นำต้นแบบธุรกิจไปตอยอดขยายผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยในระยะยาว

ข่าวที่ 3 “บางจากคว้าใบรับรองอาคารลดคาร์บอนครั้งที่ 3”

นายวัชระพงษ์ ศุภพิทักษ์ ผู้จัดการอาวุโส ส่วนพัฒนาประสิทธิภาพสำนักงาน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นผู้แทนบริษัทขึ้นรับมอบใบรับรองอาคารลดคาร์บอน ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ในงาน “TBCSD ร่วมกันดำเนินธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทย” โดยมีนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และนางนิศากร โฆษิตรัตน์ กรรมการมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)  เป็นผู้มอบใบรับรองดังกล่าว

ตามที่บริษัทบางจากฯ มีการบริหารจัดการอาคารสำนักงานภายในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ที่คำนึงถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีมาตรการอนุรักษ์พลังงานและการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ทรัพยากรน้ำ ไฟฟ้า การกำจัดของเสียในอาคาร เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณภาพ โดยบริษัท บางจากฯ เป็น 1 ใน 4 องค์กรที่ได้รับมอบใบรับรองอาคารลดคาร์บอนในปี 2561

ข่าวที่ 4 “ทอท.วางแผนฉลอง40ปีปฏิรูปใหญ่อุตฯบินปี62”





นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  “AOT/ทอท.” เปิดเผยว่า วางแผนก้าวขึ้นสู่ปีที่ 40 ในปี 2562 โดยจะทำ 2 โปรเจ็กต์ใหญ่ ได้แก่ โปรเจ็กต์ที่ 1 พัฒนาการลงทุนสุวรรณภูมิให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Cargo Hub) และได้เจรจาจนกระทั่งขณะนี้ยกระดับสู่มาตรฐานถึงขึ้นเป็น Cirtifly Airport Hub ได้ เป็นสนามบินที่สามารถตรวจสอบสินค้าเกษตรทุกรูปแบบของไทยและลูกค้าในกลุ่มประเทศใกล้เคียงมาผ่านออกทางสุวรรณภูมิเข้ายุโรปได้ทันที โดยไม่ต้องตรวจซ้ำ และจะนำไปใช้ได้กับสนามบินที่ ทอท.เป็น Sister Airport ทั่วโลกด้วยอีก 15 สนามบิน

พร้อมทั้งเตรียมเจรจากับกลุ่มประเทศ CLMV กัมพูชา-สปป.ลาว-เมียนมาร์-เวียดนาม ให้เข้ามาเป็นลูกค้าเพื่อใช้บริการขนส่งสินค้าผ่านทางสุวรรณภูมิซึ่งมีความพร้อมเป็นคาร์โก้ฮับแบบครบวงจร

ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่รองรับการสร้างคาร์โก้ ฮับ กำลังเดินหน้า 3 เรื่อง คือ 1.เตรียมเปิดที่ดินแปลง 37 ของกรมธนารักษ์ที่อยู่ในใกล้สุวรรณภูมิขนาดกว่า 700 ไร่ กับที่ดินของ ทอท.อีกแปลงขนาด 700 ไร่ เพื่อให้เอกชนที่สนใจเสนอแผนการลงทุนสร้างคลังรองรับการพักสินค้าและจัดทำระบบอีคอมเมอร์ซอย่างเป็นระบบ 2.ระหว่างนี้ ทอท.กำลังเร่งจัดทำแผนแม่บทคาร์โก้ฮับสุวรรณภูมิควบคู่กันไปด้วย เป็นโครงการที่ใช้วิธีร่วมทุน โดย ทอท.จะแปลงทรัพย์สินเป็นทุน แล้วให้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านคาร์โก้เข้ามาลงเงิน อาจจะใช้เงินเพียงแค่ประมาณ 1,500 ล้านบาทเท่านั้น

ซึ่งแผนแม่บทดังกล่าวจะสรุปได้หลังเสร็จสิ้นการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม  AOT Sister Airport CEO Forum ระหว่างวันที่ 11-13 กรกฎาคม 2561 ณ โรงแรมเซนทารา แกรนด์ แอนด์ แบงคอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ แอท เซนทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ 3.วิเคราะห์แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมขนส่งทางอากาศที่จะเกิดขึ้นอีก 3-5 ปีข้างหน้า เมื่อยกระดับสุวรรณภูมิเป็นฮับอย่างสมบูรณ์แล้ว จะช่วยเพิ่มสินค้าการเกษตรของไทยและเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นได้ปีละ 2 หลัก ต่อเนื่องทุกปี

โปรเจ็กต์ที่ 2 ทอท.จะต้องจัดทำ Digital transformation ตามนโยบายรัฐบาลเร่งให้ทุกรัฐวิสาหกิจนำดิจิตอลเข้ามาพัฒนาขีดความสามารถ ทอท.ก็ต้องก้าวสู่ AOT 4.0 ตอนนี้ทยอยทำดิจิตอลแพลทฟอร์ม เพื่อลดความแออัดของสนามบินด้วยบริการสมัยใหม่ด้วยการใช้ดิจิตอลทำแบบจำลอง “โลกเสมือนจริง” สร้าง application ขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์รวบรวม Big Data แล้วบริหารจัดการบริการตั้งแต่หน้าอาคารสนามบิน ลานจอดรถ เข้าสู่ตัวอาคาร เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมือง เลาจน์สายการบิน ร้านค้า ร้านอาหาร สายพานลำเลียงกระเป๋า CTX สิ่งอำนวยความสะดวกแต่ละประเภท ทั้งการผ่านเข้าและออกของผู้โดยสาร

เพราะขณะนี้สนามบินของ ทอท.ทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ มีผู้โดยสารใช้บริการเกินขีดความสามารถในการรองรับแต่ละปีไปมากแล้ว คงจะไม่สามารถรอการขยายเฟส 2 หรือสนามบินแห่งที่ 2 แล้วเสร็จได้ ภายใน 1-2 ปีหน้า ต้องนำดิจิตอลแพลทฟอร์ม แอพลิเคชั่น มาจัดการ Big Data เพื่อลดความแออัดของผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าออกทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการบริหารให้เกิดความรื่นไหลในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนแทน

นอกจากการนำดิจิตอล แพลทฟอร์มเข้ามาใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2562 แล้ว ยังต้องเตรียมช่องทางการนำที่ดินติดสนามบินสุวรรณภูมิมาเปิดประมูลพัฒนาเป็น “ตลาดหรือแหล่งแวะพัก” ให้ผู้โดยสารมีพื้นที่ชมตลาดหรือนั่งพักผ่อนนอกตัวอาคารสนามบิน โดยไม่ต้องรีบมารวมกันอยู่ในสนามบินก่อนเวลาขึ้นเครื่องล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง เหมือนปัจจุบัน แนวทางนี้จะเป็นช่องทางในการลดความแออัดในอาคารผู้โดยสารลงได้ ก่อนการเปิดใช้สุวรรณภูมิเฟส 2 และ 3 จะสำเร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า

ข่าวที่ 5 “ทอท.ครึ่งปีแรกโกยกำไรอื้อ 1.34หมื่นล้าน”
ส่วนในเดือนมิถุนายน 2561 ทอท.ดำเนินการครบ 39 ปี ทำสถิติมีบริการเที่ยวบินทั้งสิ้น 10,503,326 เที่ยว มีผู้โดยสาร 1,573,696,970 คน ปัจจุบันมีสายการบินประจำกว่า 130 สายการบิน เชื่อมต่อจุดหมายปลายทางกว่า 200 จุดบิน
โดยมีผลประกอบการในรอบ 6 เดือน ระหว่าง 1 ตุลาคม 2560 – 31 มีนาคม 2561 (งบการเงินเฉพาะบริษัท) ทำกำไรได้ 13,435.35 ล้านบาท มาจากรายได้รวม 31,259.90 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายหรือให้บริการ 30,501.27 ล้านบาท กับรายได้อื่น ๆ 758.63 ล้านบาท  และมีค่าใช้จ่าย 14,495.72 ล้านบาท กับค่าภาษีเงินได้ 3,328.83 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานรอบ 8 เดือนปีงบประมาณ 2561 ระหว่างตุลาคม 2560 – พฤษภาคม 2561 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง รวม 95,536,222 คน เพิ่มขึ้น 9.88 %  แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 55,021,195 คน เพิ่มขึ้น 14.03 % และผู้โดยสารภายในประเทศ 40,515,027 คน เพิ่มขึ้น 4.71 %

ช่วงที่ 2 ใกล้จะถึงเดือนแห่งวันแม่แล้ว ต้องเตรียมมองหาแหล่งท่องเที่ยวศูนย์ศิลปาชีพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะต้อง “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง” จังหวัดนครศรีธรรมราช แหล่งผลิตชุดโขน แหล่งศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน มนต์เสน่ห์ที่ต้องห้ามพลาด จากนั้นต้องดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝน แพทย์แผนไทยแนะนำให้กินขิงสารพัดประโยชน์ป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง การบินไทยจัดบิ๊กโปรโมชั่นฉลอง 25 ปี รอยัล ออร์คิด พลัส 1-2 ก.ค.นี้ ที่ เอ็ม ควอเทียร์ กรุงเทพฯ ลดตั๋วแลกไมล์ใช้แค่ 50 % บินได้ทั่วโลก

@ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง นครศรีฯ




สถานที่ยังประโยชน์ได้หลายอย่างทั้งเพื่อการท่องเที่ยว การศึกษาเรียนรู้ ดูงานกลุ่มประชุมสัมมนา ในโครงการพระราชดำรินั้นมีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึง “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง” ในตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในช่วงกว่า 23 ปีที่ผ่านมา ราว พ.ศ. 2537 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้ก่อตั้งโครงการ “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง” เพื่อลดปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียง

พระอง์ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ก่อสร้างศิลปาชีพขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น ต่อมาในปี 2540 พระองค์ทรงมีพระราชเสาวีนีย์ให้ก่อสร้างอาคารศิลปาชีพหลังใหม่ขึ้นแทนหลังเก่า เป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นห้องโถงเปิดโล่ง ใช้พื้นที่เปฏิบัติงานของ “กลุ่มทอผ้า” ส่วนชั้นบนเป็น “ห้องทรงงานส่วนพระองค์”

 
จากนั้นปี 2547 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้เชี่ยวชาญการทอผ้ายกมาฝึกสอนจนสามารถ “ทอผ้ายกเมืองนคร” ได้อย่างสวยงาม สมาชิกสามารถทอผ้ายกตามแบบราชสำนักที่ได้รับการฟื้นฟู ถูกต้องตามองค์ประกอบของผ้าโบราณ ซึ่งนำมาใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ๆ ในราชสำนัก และยังสามารถ “ทอผ้ายกสำหรับโขน” เพื่อใช้ในการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติในสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9

ซึ่งทางสวนจิตรลดาจะส่งเส้นด้ายและเส้นไหมทองมาให้ แล้วทางกลุ่มจะทำการทอผ้าส่งกลับไปเพื่อนำไปตัดเป็นชุดโขน ซึ่งเป็นลายพุ่มข่าวบิณฑ์เล็ก ใช้คนทอกี่ละ 5-6 คน แต่ละผืนยาว 3.50 เมตร บางผืนทอขึ้นเพื่อนำทูลเกล้าถวายฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อใช้เป็นฉลองพระองค์

นอกจากนั้นศูนย์ศิลปาชีพแห่งนี้ยังส่งเสริมให้ชาวบ้านทำนา ปลูกปาล์ม เลี้ยงปลา จักสานกระจูด ด้วย

เรื่องน่ารู้ใน “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง” ที่สอนการผลิตสินค้าสร้างรายได้จาก“ต้นกระจูด” จากพืชพื้นบ้าน ลักษณะต้นกลมสีเขียวอ่อน ชอบขึ้นในน้ำขัง ทว่าสามารถนำมาแปรรูปออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใช้สอยรูปลักษณ์สวยงามทั้ง กระเป๋า ตะกร้า เสื่อ และของที่ระลึกต่าง ๆ



ส่วน “กิจกรรม” เมื่อไปถึงแล้วต้องทำคือ ชมการทอผ้าผืนและปักผ้าด้วยมือ การทอผ้ายกดอกเมืองนคร และ เยี่ยมชมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จักสานกระจูด พร้อมกับซื้อกลับบ้าน อุดหนุนชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และหากสนใจก็สามารถฝึก ทอผ้าอย่างง่าย ๆ หรือทดลองจักสานเสื่อกระจูดกับชาวบ้านซึ่งยินดีสอนวิธีทำให้แก่นักท่องเที่ยวหรือคณะที่แวะไปดูงานทุกกลุ่มได้เรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านไปด้วยกัน

เป็นการท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่นที่ได้ประโยชน์ทั้งต่อตนเองและช่วยสร้างความยั่งยืนให้เกิดกับสินค้าพื้นบ้านของคนไทย

สนใจไปท่องเที่ยว ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง นครศรีธรรมราช โทร. 081-678-7668

@แพทย์แผนไทยแนะกินขิงรับหน้าฝน

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศในช่วงฤดูฝนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้ง่าย หากร่างกายอ่อนแอ มักจะป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอย่ายิ่งอาการของโรคหวัด จากการติดเชื้อไวรัส มีอาการแสบคอ เจ็บคอ จึงอยากแนะนำสมุนไพรที่เป็นทั้งอาหารและเป็นยา อยู่คู่กับคนไทยมานาน คือ “ขิง” ซึ่งเป็นสมุนไพรที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดี และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะรสและกลิ่น

จากการศึกษาวิจัยพบว่า ขิง มีน้ำมันระเหยง่าย (volatile oil) และสารสำคัญหลายชนิดที่ทำให้ขิงมีกลิ่นฉุน รสเผ็ดร้อน ขิงช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการน้ำมูกไหล อาการคลื่นเหียน เจ็บคอ ไอ และมีเสมหะ

สมุนไพรขิงรับประทานได้ทั้งสดและแห้ง หากต้องการรับประทานขิงสด สามารถใช้ขิงแก่ขนาดประมาณ  2 หัวแม่มือ หรือน้ำหนัก 5 กรัม ล้างให้สะอาด ทุบให้แตก ต้มดื่มครั้งละ 1/3 ถ้วยแก้ว วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร หรือฝานขิงสด 4 -5 แว่น เคี้ยวกิน หรือชงเป็นชาดื่ม โดยนำขิงมาปอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นใส่หม้อที่เตรียมน้ำไว้ ตั้งไฟต้ม จนเดือด ยกลง กรองเอาขิงออก ชิมรสตามชอบ ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ข้อควรระวังสำหรับการใช้ขิง  ควรระมัดระวังการใช้ร่วมกับยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulant) ยาละลายลิ่มเลือด (antiplatelet) และผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการจับตัวของเกล็ดเลือด และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหานิ่วในถุงน้ำดี

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “บินไทย25ปีROPจัดบิ๊กโปรลดตั๋วแลกไมล์50%”



บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ได้จัดมหกรรมฉลอง 25 ปี “รอยัล ออร์คิด พลัส” เพื่อมอบความพิเศษให้แก่สมาชิกที่จะเข้าไปร่วมงานระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2561 ณ ลานควอเทียร์ แกลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็ม ควอเทียร์ จะได้พบกับโปรโมชั่นตั๋วโดยสารราคาพิเศษของการบินไทย ซึ่งสามารถใช้คะแนนในบัตร ROP แลกได้ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 50 % พร้อมบริการครบวงจร ทั้งสมัครสมาชิก สอบถามข้อมูลบัญชีไมล์ ดาวน์โหลด my ROP และลุ้นรับของที่ระลึกมากมายตลอดงาน

โปรโมชั่นที่ 1 แลกรางวัลตั๋วโดยสาร เมื่อเดินทางเป็นคู่ก็ใช้สิทธิ์นำไมล์เพียง 50 % ไปแลกเป็นตั๋วเดินทางเป็นคู่ 2 คน ในเที่ยวบินต่างประเทศ ที่รหัสเที่ยวบินขึ้นต้นด้วย TG 3 หลัก ที่นั่งตั้งแต่ชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจ และชั้นเฟิร์สคลาส จะสำรองตั๋วเดินทางภายในงานหรือแลกซื้อได้ภายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ที่ คอลเซ็นเตอร์ 02-356-1111

โปรโมชั่นที่ 2 สมาชิก ROP สามารถใช้ไมล์เพียง 50 %  แลกตั๋วรางวัลการบินไทย เที่ยวบินระหว่างประเทศ ชั้นประหยัด ในเส้นทางที่กำหนด ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากเจ้าหน้าที่ และจะต้องออกตั๋วโดยสาร ภายในงาน 2 วันนี้เท่านั้น

โปรโมชั่นที่ 3 ซื้อตั๋วการบินไทยราคาพิเศษ เพยงแค่ใช้ เงินสดบวกไมล์ เริ่มต้น 2,500 ไมล์ขึ้นไป เมื่อซื้อตั๋วผ่านเคาน์เตอร์ดิจิตอล เซลส์

ตลอดงานจะมีสินค้าของ THAI SHOP, ผลิตภัณฑ์จากร้านพัฟ แอนด์ พาย โปรโมชั่นจากไทย สไมล์ เข้าร่วมด้วย พร้อมกับกลุ่มบัตรเครดิต กสิกรไทย เคทีซี, SCBไทยพาณิชย์ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

ข่าวที่สอง “ก.ท่องเที่ยวสั่ง4,800แหล่งทัวร์ทำแผนป้องกันภัย”



ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่นช่วยกันสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีลักษณะเป็นการผจญภัยในเบื้องต้นมีประมาณ 4,800 แหล่ง จะต้องมีแผนปฏิบัติการป้องกันภัย รวมทั้งวางระบบสื่อสารกับหน่วยงานท้องถิ่น การป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน มีการซักซ้อมเป็นช่วงๆ หากเกิดมีภัย ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ

เป็นมาตรการที่ต้องจัดเตรียมไว้ หลังเกิดเหตุการณ์ผู้ฝึกสอนและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี่จำนวน 13 คน พลัดหลงภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย และจนถึงขณะนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุกหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศมาร่วมค้นหาอย่างเต็มที่


ข่าวที่สาม “กทพ.ชี้แอร์ไลน์ยุโรปแห่ขอบินเข้าไทยปลายต.ค.61”

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่ามีสายการบินใหม่จากต่างชาติทั้ง รัสเซีย อิตาลี และในยุโรป ยื่นขออนุญาตเปิดเส้นทางบินเข้าไทย ศูนย์กลางจะขึ้นลงในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วงตารางบินฤดูหนาวตั้งแต่ปลายตุลาคม 2561 เป็นต้นไป
รวมทั้งเตรียมเสนอนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาอนุมัติออกใบอนุญาตประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศ (AOL) ให้ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจสายการบิน 1 ราย คือ THAI EASTAR JET เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มทุนไทยกับ EASTAR JET โลว์คอสต์แอร์ไลน์จากเกาหลีใต้ ที่เตรียมเปิดบริการปี 2562

ติดตามรายการได้เป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM97.0


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai