ทอท.ผ่าลงทุน1.5 แสนล้านสุวรรณภูมิเฟส2-5
นำสื่อสำรวจอุโมงค์สนามบินAPMยาวกิโลครึ่ง
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รวยด้วยข่าวสวท97
นำสื่อสำรวจอุโมงค์สนามบินAPMยาวกิโลครึ่ง
เรื่องและภาพโดย...เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza #รวยด้วยข่าวสวท97
ดร.นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” เปิดเผยว่าภาพรวมการลงทุนขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2-3-4-5 ระหว่างปี 2561-2568 จะใช้เงินลงทุนรวมประมาณไม่เกิน 150,000 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดแผนขยายพื้นที่งานก่อสร้างเพื่อเปิดบริการภายในปี 2568 จะรองรับผู้โดยสารได้เกินกว่าปีละ 120 ล้านคน โดยมีทางวิ่งเครื่องบินรวม 4 รันเวย์ส ส่วนในปี 2564 ตามผลประเมินอย่างเป็นทางการอาจจะต้องกู้เงินระยะเร่งด่วนเข้ามาใช้จ่ายหมุนเวียนอีกไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ แต่ในมุมของผู้บริหารมองว่าอาจจะไม่ใช้เงินกู้ก็เป็นได้ จะต้องรอดูสถานการณ์ข้างหน้าควบคู่กันไป
โดยเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการเฟส 2 (Sattlelight terminal) รวม 8 โครงการ 7 สัญญา ซึ่งจะเปิดบริการเต็มรูปแบบได้ภายในปี 2563 มีขนาดพื้นที่ 270,000 ตารางเมตร แซตเทิลไลท์จากการก่อสร้างใต้ดินขึ้นมายังเหนือพื้นดินมีอยู่ 5 ชั้น ภายในปีนี้จะเห็นการก่อสร้างอาคารบนพื้นดินหลังจากงานใต้อุโมงค์ใต้ดินทั้งหมดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
ไฮไลต์หลัก ๆ คือ 1.การเพิ่ม 28 หลุมจอด รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ แอร์บัส A380 โดยจะบริหารจัดการให้มาใช้พื้นที่จอดบริเวณตรงกลางแล้วสามารถระบายผู้โดยสารจำนวนมากออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว 2.ขีดความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบินได้ 68 เที่ยว/ช่วงโมง ปัจจุบันใช้งานความถี่หนาแน่นอยู่ประมาณ 60-63 เที่ยว/ชั่วโมง แต่เนื่องจากรันเวย์ของสุวรรณภูมิกับดอนเมืองสอบเข้าหากัน 20 องศา กรณีเที่ยวบินหนาแน่นระหว่าง 2 สนามบิน ก็อาจจะมีผลกระทบต่อจราจรการบินบ้าง เป็นปัญหาเรื่องการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ
3.ระบบรถขนส่งอัตโนมัติ APM แบบไร้คนขับจากอาคารหลักมายังอาคารรองระยะทาง 1.5 กม.จะใช้เวลาเชื่อมต่อเพียง 2-5 นาที
4.พื้นที่เชิงพาณิชย์ (commercial Area) ภายในอาคารจะเปิดบริการได้ช่วงปี 2563 ตรงกับที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ หมดสัญญาสัมปทาน ขณะนี้มีหลายฝ่ายให้ความสนใจแต่ในทางปฏิบัติกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาถึงความต้องการของลูกค้าจะมีจำนวนมากน้อยขนาดไหน ก่อนจะกำหนดเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารหลังใหม่ได้อย่างเหมาะสม
ดร.นิตินัยกล่าวเมื่อเฟส 2 แล้วเสร็จ จะดำเนินการเฟส 3 ควบคู่กันไปวงเงินรวมกัน 63,000 ล้านบาท โดยทำรันเวย์ 3 (กำลังส่งเอกสารให้กระทรวงคมนาคม) อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (ประกวดแบบวันที่ 26 กรกฎาคม 2561) ใช้งานได้ปี 2564 สุวรรณภูมิจะรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 90 ล้านคน และมีขีดการรองรับ 96 เที่ยว/ชั่วโมง
สำหรับอาคารแซตเทิลไลท์ 8 โครงการ ประกอบด้วย
1.การจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ชั้น B2-B1-G และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (CC1/1) กำหนดแล้วเสร็จภายในพฤศจิกายน 2561 ก่อสร้างโดยบริษัท อิตาเลียน ไทยดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
2.งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ชั้น 2-4 และส่วนต่ออุโมงค์ด้านใต้งานระบบย่อย (CC1/2) กำหนดแล้วเสร็จพฤศจิกายน 2562 ก่อสร้างโดยกลุ่มร่วมทุน PCS ได้แก่ บมจ.เพาเวอร์ไลน์เอ็นจิเนียริ่ง บริษัท ไชน่าสเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเสาด้านตะวันตกและตะวันออกของอาคารมิดฟิลด์ แซตเทิลไลท์ 1 และกำแพงคอนกรีตในอุโมงค์ด้านทิศใต้
3.งานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก จะประกาศประกวดราคาเดือนตุลาคม 2561 ประกาศชื่อผู้รับจ้างงานเดือนมกราคม 2562 ใช้เวลา 18 เดือนสร้างให้เสร็จพร้อมใช้งานมิถุนายน 2563
4.งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก จะประกวดราคาพฤศจิกายน 2561 ประกาศผู้รับจ้างกุมภาพันธ์ 2562 ใช้เวลาสร้าง 29 เดือนให้แล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้มิถุนายน 2564
5.งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค จะแล้วเสร็จเปิดใช้ได้พฤษภาคม 2562 โดยกิจการร่วมค้า เอสจี แอนด์ อินเตอร์ลิงค์ สร้างคืบหน้าไปแล้ว 38.85 %
6.งานซื้อพร้อมที่ติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) จะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานเมษายน 2563 โดยนิติบุคคลร่วมทำงาน ไออาร์ทีวี
7.งานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) ขาออก จะแล้วเสร็จเมษายน 2563 โดยนิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกเลย์-แอลพีเอส
8.งานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) ขาเข้า จะแล้วเสร็จเมษายน 2563 ขณะนี้อยู่ระหว่างประกวดราคาให้ได้ภายสิงหาคม 2561ประกาศชื่อผู้รับจ้างพฤศจิกายน 2561
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น