3ค่ายดังโลกใช้งานATM2025เปิดผลวิจัยเทรนด์เที่ยวใหม่
“ตะวันออกกลาง”โตเร็ว-การบินแกร่ง-สนามแข่งใหม่OTA
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #ATM2025
ATM 2025 เปิดผลวิจัย 3
ค่ายใหญ่ของโลก “Tourism Economics-Trip.com-VIDEC” ชี้เทรนด์ท่องเที่ยวชั้นนำและโอกาสทางการตลาดใน “ตะวันออกกลาง” ดึงดูดทั่วโลกกว่า
85 % แกร่งด้าน “การบิน” ปี’71 โตเกิน 5,400
ล้านดอลล์ และสนามแข่งใหญ่ธุรกิจ OTA
Tourism Economics บริษัทในเครือ
ออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิคส์ เปิดเผยผลวิจัยในงาน ATM :Arabian Travel Market 2025” ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงสถานการณ์แนวโน้มล่าสุดในอุตสาหกรรมการพักผ่อนหย่อนใจ
ความหรูหรา และไมซ์ ส่วน VIDEC ได้แบ่งปันผลการศึกษา
“การกำหนดขนาดตลาดการท่องเที่ยวและการเปรียบเทียบธุรกิจการท่องเที่ยวออนไลน์/OTA” ในตลาดสำคัญที่น่าสนใจ
Tourism
Economics ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจาก “ATM Trends Report:
Leisure, Luxury and MICE – Leading Trends for the Middle East” โดยได้ได้รายงานผลสำรวจเชิงการเจาะลึก
ซึ่งมีความสำคัญกับการนำมาประยุกต์ใช้ ประกอบด้วย
เรื่องที่
1 แรงผลักดันสำคัญที่ส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวในตะวันออกกลางและอ่าวอาหรับ
เรื่องที่
2 ผลวิเคราะห์แนวโน้มการเดินทางที่เกิดขึ้นใหม่
เรื่องที่
3 การเปลี่ยนแปลงของความต้องการเดินทาง
และผลกระทบทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างเจาะลึก
เรื่องที่
4 รายงาน ATM Trends ได้สำรวจจำนวนผู้เยี่ยมชม
จำนวนคืนพัก การใช้จ่ายช่วงการเดินทางทั้งขาเข้าและขาออก โดยเน้นตลาดซึ่งเป็นแหล่งที่มาหลักและโอกาสในอนาคต
“Dave
Goodger” กรรมการผู้จัดการ EMEA,
Tourism Economics กล่าวว่า ปี 2568 ทั่วโลกจะเเดินทางทั่วโลกจะแตะระดับสูงสุดใหม่
กำลังกลับมาบรรจบกับแนวโน้มก่อนเกิดโควิด
โดยอุปสงค์ระหว่างประเทศและในประเทศฟื้นตัวขึ้นทั่วทุกภูมิภาคของโลก จากผลสำรวจพบว่าผู้คนให้ความสำคัญกับการเดินทางมากกว่าการใช้จ่ายในด้านอื่น
ๆ “ตะวันออกกลาง” เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC :Gulf
Cooperation Council) กำลังเติบโตแซงหน้าค่าเฉลี่ยทั่วโลก
และการเดินทางในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนอุปสงค์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ “ที่พัก”
ในตะวันออกกลางมาจากตลาดต่างประเทศมากกว่า 85%
Trip.com
Group ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับศักยภาพของตะวัน
ในเวทีประชุม “การสร้างความร่วมมือเพื่อความก้าวหน้า :
การปลดล็อกการเติบโตของการท่องเที่ยวผ่านความร่วมมือที่สร้างสรรค์” พุ่งเป้าเรื่องแนวโน้มใหม่
ๆ ทางการท่องเที่ยว 3 เทรนด์ ได้แก่ 1.การท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิง
2.การท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา 3.การท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุ
กำลังนำโอกาสใหม่ ๆ ในภูมิภาคนี้
Jane
Sun ซีอีโอ Trip.com Group กล่าวว่า ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่มีโอกาสเติบโตมหาศาลและเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างยุโรป
แอฟริกา และเอเชีย ด้วยนโยบายการเข้าประเทศสะดวก มีเที่ยวบินตรงเพิ่มขึ้น
และการลงทุนที่มั่นคงภาคการท่องเที่ยว ทำให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยข้อมูลเชิงลึกเรื่องเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภคและการทุ่มเทในธุรกิจและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
จึงมุ่งหวังจะเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาคนี้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและสร้างอนาคตเชื่อมโยงกันให้รุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น
“VIDEC” ที่ปรึกษาการวิจัยและการควบรวมและซื้อกิจการด้านการท่องเที่ยว
ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในงาน ATM 2025 ระบุจากการวิจัยล่าสุดพบโอกาสทางการตลาด
“การบินและโรงแรม” ทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย โดยมีเอเจนซี่ท่องเที่ยวออนไลน์
(OTA) นำเสนอด้วยหัวข้อ “การกำหนดขนาดตลาดการท่องเที่ยวและการเปรียบเทียบ
OTA ของ VIDEC” ชี้ถึงการศึกษาดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่ปี
2562-2571 (ค.ศ.2019-2028) และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “กลุ่มตลาดการท่องเที่ยว”
เติบโตเร็วที่สุด การคาดการณ์ตลาดอนาคต และแนวโน้มการขายหลักเพื่อกำหนดรูปแบบตลาดแต่ละแห่ง
Virendra Jain ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ
VIDEC Consultants กล่าวว่า
จากผลงานวิจัยเกี่ยวกับ ATM's Future
Stage ทั้ง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย ส่วนใหญ่มีกลุ่มประชากรอายุน้อย นิยมเชื่อมต่อผ่านดิจิทัล
มีอำนาจการซื้อเอื้อต่อการท่องเที่ยวออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”เป็นหมู่บ้านระดับโลกอย่างแท้จริง
และความเป็นสากล รวมถึงเมืองศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ได้การยอมรับสูง
ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางครองความนิยมจากชาวซาอุดีอาระเบียและอินเดีย
ตลาดทั้ง
3 ประเทศนี้คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย
อินเดีย ยังมีความผูกพันทางวัฒนธรรมและศาสนา การเชื่อมต่อทางอากาศ ศาสนา
ความหรูหรา ทัศนวิสัยไกล สุขภาพที่ดี จะส่งผลให้กลายเป็นเส้นทางการเดินทางและท่องเที่ยวเติบโตอย่างรวดเร็วต่อไป
VIDEC คาดการณ์
“ตลาดการบินโดยรวม” ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Total Air Market :TAM) ภายในปี 2571 จะสูงถึง 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต (CAGR) 6.9 %
จากปี 2561 ทำไว้ 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2562
เพิ่มขึ้น 32 % สถานการณ์ตลาดการบินภาพรวมในภูมิภาคนี้มีตัวชี้วัดจากอุปสงค์
โดยการจองขายที่นั่งในพื้นที่เท่านั้น
โดยไม่รวมการขนส่ง/การเปลี่ยนเครื่องและการจองผ่านสถานที่ขายอื่น ๆ จึงสามารถสรุปศักยภาพที่แท้จริงของอุปสงค์การเดินทางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้อย่างเหมาะสม
“การจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์”
มูลค่ารวมในเอมิเรตส์ ปี 2567 ทำได้ราว 679 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 20 % ยอดจองผ่าน “เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น”
ของสายการบินคิดเป็น 56% และ 1 ใน 5 ของตลาดการบินภาพรวมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขนาดตลาดมีมูลค่าถึง 851 ล้านเหรียญสหรัฐ
VIDEC วิเคราะห์การเติบโตนี้เกิดจากอินเทอร์เฟซการจองที่มีประสิทธิภาพของสายการบินและโปรแกรมสะสมคะแนนที่น่าสนใจของสายการบินหลัก ๆ เช่น เอมิเรตส์
เอทิฮัด ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์โดยตรงมากขึ้น
เปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้นกับประสบการณ์การเดินทางปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล
ขณะที่ “ฟลายดูไบ/flydubai” ก็เพิ่มประสบการณ์ให้ลูกค้าด้วยวิธีบูรณาการกับ
Emirates Skywards
พร้อมกับระบุว่า “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” เป็นประเทศที่ธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์
OTA มีภูมิทัศน์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากมีสายการบินให้เลือกหลากหลายและมีประชากรต่างชาติจำนวนมาก
VIDEC ชี้ให้เห็นถึงแม้ปัจจัยเหล่านี้จะก่อให้เกิดความท้าทายเรื่องการรักษาฐานลูกค้าที่ภักดี
แต่ก็สร้างการแข่งขันสูงและทำกำไรได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
จากการนำระบบดิจิทัลมาใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ออนไลน์” จึงกลายเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมของกลุ่มนักเดินทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
แล้ว OTA กลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
ฟีเจอร์เน้นผู้บริโภค และโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีการเงิน เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางอย่างราบรื่น
“Virendra
Jain” กล่าวถึงตลาดการท่องเที่ยวและ OTA ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอรายงานดังกล่าวและจัดทำข้อมูลเชิงลึกไว้
เพื่อเป็นทางเลือกที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป
- VIDEC’s
UAE Travel Market Opportunity, 2019-2028
- VIDEC’s
Saudi Arabia Travel Market Opportunity, 2019-2028
- VIDEC’s
India Travel Market Opportunity, FY22-FY27