เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #TATStakeholder
ททท.เปิดเวที “TAT Stakeholder Management Day 2025” ระดมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมถกอนาคตท่องเที่ยวปี’69 เน้นกลยุทธ์ 3 แกน
“กระตุ้นดีมานต์-ยกระดับซัพพลาย-ส่งเสริมความยั่งยืน ด้าน “ชัย อรุณานนท์ชัย” บอร์ด และประธานสภาฯท่องเที่ยว
ลั่นอนาคตต้องขับเคลื่อน 3 มิติ
“ปัดฝุ่นกลยุทธ์-ส่งเสริมระบบข้อมูลร่วม-ขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน”
นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป็นประธานร่วมกับนายชัย
อรุณานนท์ชัย คณะกรรมการ ททท.และประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เปิดการจัดกิจกรรม “TAT Stakeholder
Management Day 2025” เชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาครัฐและภาคเอกชนกว่า
104 หน่วยงาน เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เสริมสร้างความเข้าใจ บริหารความสัมพันธ์อย่างรอบด้าน
และสร้างความเข้าใจอันดีถึงทิศทางการบริหารจัดการยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย
และสร้างประสบการณ์สู่ความยั่งยืน เพื่อนำไปใช้ในปี 2569 และเปิดเวทีเสวนาหัวข้อ
“ก้าวสู่อนาคตท่องเที่ยวไทยอย่างอัจฉริยะ ยั่งยืน ไร้รอยต่อ : Shaping the
Future : Smart, Sustainable & Seamless Tourism” ที่ห้องคาร์ลตันแกรนด์บอลรูม
ชั้น 9 โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท
โดย ททท.
มุ่งมั่นยกระดับจะเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวคุณภาพ
สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มเป็นหัวใจสำคัญภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในรูปแบบ
Partnership 360 องศา ผ่านกลยุทธ์ 3 แกนสำคัญ ได้แก่
• แกนที่ 1 กระตุ้นดีมานด์
ขยายฐานนักท่องเที่ยวคุณภาพ สร้างแรงจูงใจผ่านเสน่ห์ความเป็นไทย
เชื่อมโยงกับนโยบาย 5 Must Do in
Thailand ถ่ายทอดอัตลักษณ์ไทยในมิติอาหาร ศิลปวัฒนธรรม งานฝีมือ
ประเพณี และประสบการณ์เฉพาะถิ่น
• แกนที่ 2 ยกระดับซัพพลาย
โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว ผ่านกลยุทธ์ City Marketing ทำให้เมืองรองเติบโตใกล้เคียงเมืองหลัก
เพื่อกระจายรายได้ ลดความแออัด เปิดมุมมองใหม่ในการเดินทาง
• แกนที่ 3 ส่งเสริมความยั่งยืน ในมิติสิ่งแวดล้อม
สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือเชิงนโยบาย เช่น STGs (Sustainable Tourism Goals) เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
สะท้อนความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง
“นายชัย อรุณานนท์ชัย” คณะกรรมการ ททท.
และประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวไทยในอนาคตจะต้องขับเคลื่อนด้วย
ข้อมูลอัจฉริยะ (Smart Data) ความร่วมมือรอบด้าน (Cross-sector Collaboration) และจิตสำนึกต่อความยั่งยืน (Sustainability Mindset) ควบคู่กับการพัฒนา 3 มิติหลัก ได้แก่
• มิติที่ 1
ยกระดับแนวคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Foresight) ท่ามกลางบริบทโลกที่ผันผวนจาก Climate Change, เทคโนโลยีดิจิทัล
พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จึงต้องอาศัยข้อมูลจริงและการวิเคราะห์แนวโน้มที่แม่นยำ
เพื่อกำหนดนโยบายที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์อนาคต
• มิติที่ 2
ส่งเสริมระบบข้อมูลร่วม (Shared
Intelligence Ecosystem) มุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลเชื่อมโยงกับพันธมิตร
ภาครัฐ เอกชน ชุมชน และสถาบันการศึกษา เพื่อใช้วิเคราะห์เชิงลึก บริหารความเสี่ยง
และออกแบบประสบการณ์ท่องเที่ยวได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
• มิติที่ 3
ขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน (Stakeholder-driven Governance) การสร้างศักยภาพที่แข็งแกร่งของเครือข่ายที่จะร่วมกันบริหารจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
เพื่อสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวที่แข็งแรง มั่นคงและมีภูมิคุ้มกันในระยะยาว
พร้อมนำการท่องเที่ยวไทยไปสู่อนาคตที่ อัจฉริยะ ยั่งยืน และไร้รอยต่อ
สำหรับกิจกรรมเสวนาหัวข้อ “ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการท่องเที่ยว
อย่างอัจฉริยะ ยั่งยืน และไร้รอยต่อ” เพื่อรองรับ Amazing Thailand Grand
Tourism and Sports Year 2025 มีผู้ร่วมบนเวที นำโดย นายนรินทร์
ทิจะยัง ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ ททท. มีบทบาทขับเคลื่อนการนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้เสริมศักยภาพการจัดการด้านการท่องเที่ยวเพื่อสร้างความยั่งยืน
และความเชื่อมโยงอย่างมีประสิทธิภาพทุกมิติของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ร่วมกับ
นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ หรือ หนุ่ย แบไต๋ เจ้าของเว็บไซต์ beartai.com ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล
มีบทบาทถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวโน้มด้านเทคโนโลยีที่สามารถประยุกต์ใช้กับท่องเที่ยว
ดำเนินรายการโดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน
ปิดท้ายด้วยแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาสัมพันธภาพ
ระหว่าง ททท. กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น
ความต้องการ ข้อเสนอแนะที่มีต่อการบริหารความสัมพันธ์ของ ททท.
เพื่อเสริมสร้างความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
ปัจจุบัน
ททท.พัฒนาการบริหารความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อเนื่อง
ตามแผนยุทธศาสตร์ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระยะยาว
โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก 7 กลุ่ม
ได้แก่
1.กลุ่มลูกค้าและผู้ใช้บริการ 2.
กลุ่มผู้กำกับนโยบายและภาครัฐ 3. กลุ่มชุมชนและสังคม 4. กลุ่มพันธมิตร 5. กลุ่มคณะกรรมการ 6. กลุ่มพนักงาน 7.
กลุ่มคู่เทียบหรือคู่แข่งขัน
โดยให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมาวิเคราะห์และกำหนดประเด็นสำคัญ (Key Issues) ตอบสนองต่อประเด็นดังกล่าวผ่านกระบวนการทบทวนนโยบาย
ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารความสัมพันธ์
และการดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเรียนรู้นำไปสู่การปรับปรุงพัฒนายกระดับความพึงพอใจตลอดจนสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
(Stakeholder Engagement) อย่างยั่งยืนในระยะยาว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น