ททท.ในประเทศรุกเที่ยวไทยเปิดYear Celebration10แคมเปญ
ระดมโรงแรม/สปา/รถเช่า/แหล่งเที่ยวโปรโมท
55 เมืองน่าเที่ยว
ถกTATAP2026แผนตลาดเที่ยวปี69กระตุ้นทัวร์ไทย222ล้านคน
ช้อปคิงเพาเวอร์“TRAVELERS’ BEST BUDDIES”รับฟรีเพียบ
พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดA Love Weddingแจกห้องพักทั่วเอเชีย
Drunk Elephant คิง
เพาเวอร์ จัดมหกรรมผิวสวยลุ้นรางวัล
ผู้ว่าฯททท.ชูธงปี68ดึงเศรษฐีทัวร์ไกล11ตลาดแทนจีนหดตัว
บางจากร่วมพันธมิตรปันน้ำใจผ่านสภากาชาดไทยสู่เมียนมา
TCEBปลื้มไทยคว้าสิทธิ์งานไมซ์พลังงานโลก“IEEEAsia 2025”
สุขทันทีที่เที่ยวเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนังปังสุด2-5
พ.ค.68
4 ช่วงเวลาในการเลือก “กินผลไม้” ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ
การบินไทยจัด“รักคุณเท่าฟ้า68”ช้อปตั๋วทัวร์ลุ้นรางวัลกว่า3ล้าน
ททท.รับสมัครTME6เพิ่มฟังก์ชั่นAIวิเคราะห์เที่ยวเรียลไทม์
วันเสาร์ที่
26 เมษายน 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ
“เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen
#gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #TCEB #เทศกาลหุ่นเพชรบุรี
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1Bc8vw1Hpi/
ช่วงที่
1 สัมภาษณ์ !! “อภิชัย
ฉัตรเฉลิมกิจ” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เปิดแผนเที่ยวไทยไตรมาส 2-3 พ.ค.-ก.ย.68 จัดกระหึ่ม “Year Celebration”
ปลุกกระแสเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด 10 แคมเปญ ปล่อยพลังกันให้สุด ๆ ไปเลย พร้อมระดมสมอง แผนตลาดปี’69 TATAP 2026 ปั๊มยอดในประเทศเที่ยวไทย 222 ล้านคน 5 ภูมิภาค ลุยใช้ 5 ธีม
“สีสันตะวันออก-เหนือ Grand Moment-ประเพณีศรีอีสานวิถีศรัทธา-Go
South เสน่ห์ใต้หลากหลายวัฒนธรรม-ภาคกลางเที่ยวง่ายไปได้เลย”
ผนึกขายร่วมกับ 5 Must Do เน้นเพิ่มรายได้จาก 2 กลยุทธ์ “จับมือพันธมิตร-ชูโรงเฮลท์เวลเนส” สินค้าเที่ยวทำเงินสูง
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
พร้อมนำกลยุทธ์กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาส 2 และ3 ระหว่างพฤษภาคม-กันยายน 2568 ด้วยโครงการไฮไลต์ “Year Celebration” ส่งเสริมการขายเมืองน่าเที่ยวครอบคลุม 55 จังหวัด
ทยอยดทำกิจกรรม 10 แคมเปญ ตั้งเป้าการขายแพกเกจให้ได้ 250,000
แพ็ก แคมเปญตัวหลัก ๆ มีดังนี้
แคมเปญที่ 1 Get Wet Getaway การท่องเที่ยวในจังหวัดริมแม่น้ำ น้ำตก ต้อนรับกรีนซีซันซึ่งมีกิจกรรมหลากหลายอย่าง พายคายัค นอนแช่ออนเซ็น สามารถดึงตลาดที่สนใจเฉพาะ (Niche Market)
แคมเปญที่
2 เที่ยวนี้มีหมูกะทะ
เสิร์ฟอาหารเมนูยอดขณะนี้กำลังเป็นกระแสทั่วประเทศมีนักเดินทางท่องเที่ยวชื่นชอบการไปชิมหมูกะทะกันเป็นจำนวนมาก
ผนวกการขายท่องเที่ยวในเมืองได้ด้วย
แคมเปญที่
3 แซ่บซ่าส์ท้าเที่ยว
มีกิจกรรมสนุก ๆ เหมาะกับตลาดผู้สูงวัย โดยมีพันธมิตรกลุ่มโรงแรม รีสอร์ต
เข้าร่วมนำเสนอความสนุกสนานตลอดปีนี้
แคมเปญที่
4 ลั่ลล๊ากับม่ามี๊
ต้อนรับเดือนสิงหาพาแม่เที่ยว ชวนคุณแม่ออกไปเที่ยว หาพันธมิตรรวบรวมสินค้า
“มอบส่วนลด” มากมาย ทั้งที่พักโรงแรม ร้านอาหาร
กิจกรรมต่าง ๆ
แคมเปญที่ 5 ชีเสิร์ฟไม่พัก เลือกจุดเช็คอินต้อนรับนักเดินทางไปถ่ายรูปสวย ๆ เท่ ๆ เก๋ ๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อทำคอนเทนท์ หรือการใช้มือถือแต่ละคนถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียส่วนตัว ลงสตอรี่ได้รับรู้เชิญชวนเครือข่ายมาสนุกด้วยกัน
แคมเปญที่
6 Love
Out Land คัดสินรีสอร์ต สถานที่เก๋ ๆ
ให้กับคู่แต่งงานไปถ่ายทำพรี-เวดดิ้ง จัดแต่งงาน ฮันนีมูน
สามารถใช้พื้นที่กลางแจ้งหรือ Outdoor เพื่อเชิญแขกมาร่วมงานได้ด้วย
แคมเปญที่
7 Burn Out Break พักผ่อนกายใจเผาผลาญพลังงานได้ทุกที่ทุกเวลา
แคมเปญที่
8 ดิจิทัล ดีท็อกซ์ /Digital Detox การพักผ่อนแบบเงียบสงบล้างพิษปิดโหมดรบกวนจากการสื่อสารผ่านดิจิทัลต่าง
ๆ
แคมเปญที่
9 Alone but NOT Lonely คนเดียวก็เที่ยวได้อย่างสนุกสนาน
ไม่ใช่ความเงียบเหงาโดดเดี่ยวใด
ๆ
แคมเปญที่
10 บูส เอนเนอร์จี้ ทริปนี้ไม่มีอ่อม
ปล่อยพลงงานให้เต็มที่ มันส์ให้สุดกับกิจกรรมเที่ยวเชิงผจญภัย
ขณะนี้ททท.กำลังรวบรวมหาพันธมิตรเข้าร่วมโครงการ
“Year Celebration” ทั่วประเทศ ทั้งผู้ประกอบการ โรงแรม
รีสอร์ต ที่พัก สปา รถเช่า ที่พัก สถานที่จัดกิจกรรม
กระจายทั่วทุกเมืองน่าเที่ยวทั้ง 55 จังหวัด เข้ามาร่วมทำกิจกรรมต่าง
ๆ สร้างแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว
เน้นการลดแลกแจกแถมสร้างแรงจูงใจเข้าสู่พื้นที่ให้ได้มากที่สุด
นายอภิชัยกล่าวว่า
เดือนพฤษภาคมนี้ กำลังจัดประชุม “แผนแม่บทการตลาดท่องเที่ยวปี 2569
: Tourism Authority of Thailand Action Plan :TATAP 2026” ในส่วนตลาดท่องเที่ยวในประเทศ
ตั้งเป้าหมาย 222 ล้านคน-ครั้ง อยู่ในขั้นตอนการระดม ททท.ทั้ง 5
ภูมิภาค เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยว เน้นยกระดับ 5
Must Do in Thailand ครบทุกเรื่อง ได้แก่ 1.MUST TASTE อาหารการกินในแต่ละท้องถิ่น 2.MUST TRY กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไปถึงแล้วต้องได้ทดลองลงมือทำ
3.MUST BUY ช้อปปิ้งสินค้าอัตลักษณ์ชุมชน 4. MUST SEEK วิวสวยเป็นจุดเช็คอิน ถ่ายรูป ยอดนิยม
ทุกคนมาแล้วต้องได้สัมผัสความสวยงาม 5.MUST SEE ไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับวิถีชีวิตท้องถิ่น
ตามแผนการตลาดในประเทศปี 2569 จะเน้นการนำเสนอแหล่งกับเส้นทางแนะนำเดินทางจุดหมายหลัก ๆ ด้วยวิธีใช้เกณฑ์การจัดลำดับเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน เช่น 1.เป็นสถานที่ได้รับรางวัลท่องเที่ยวดีเด่นหรือ TTA :Thailand Tourism Awards 2.สถานที่พักควรผ่านเกณฑ์มาตรฐาน CF-Hotels หรือ Carbon Footprint Hotels ททท.พยายามส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่พักลงทุนพัฒนาโรงแรมอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์ธรรมชาติหลากหลาย ซึ่งมีเครื่องมือวัดมาตรฐานชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบได้ 3.กระจายพื้นที่นักท่องเที่ยวในช่วงเวลาเหมาะสม ดำเนินการให้ทุกวันโดยมีสินค้าการท่องเที่ยวมากมายตามฤดูกาล โดย ททท.จะสรรหาไว้ให้
เพื่อเป้าหมายหลัก คือ “การเพิ่มค่าใช้จ่าย” จากนักท่องเที่ยวด้วยการขยายวันพักเฉลี่ย (OR :Occupacy Rate ) ผนวกกับสินค้าท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และความถี่ในการเดินทางบ่อยมากขึ้นทุกวันตลอดทั้งปี
ผอ.อภิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ ททท.แต่ละภูมิภาคเริ่มนำเสนอแผนการตลาดบ้างแล้ว โดยยึดโยงจุดขาย 5 Must Do in Thailand ประกอบด้วย “ภูมิภาคภาคตะวันออก” ชูธีม “สีสันตะวันออก” ภาพรวมจะเน้นคอนเซ็ปต์ 1.สีสันสวรรค์นักกิน” ซึ่งมีความโดดเด่นอย่าง อาหารทะเลสด อาหารถิ่น ผลไม้ คาเฟ่ต่าง ๆ 2.สีสันสวรรค์นักกีฬา โดยมีกิจกรรมกลางแจ้งที่ได้รับความนิยมสูง 3.สีสันสวรรค์ทะเลตะวันออก ทั้งหาดทรายชายทะเล หมู่เกาะต่าง ๆ พร้อมที่พักซีวิว พูลวิลล่า และเวลเนสสปา และสินค้าหัตถรรมเลื่องชื่อคืออัญมณี พลอยสวย ๆ
“ภูมิภาคภาคเหนือ” ชูธีม Grand Moment ใหม่ ๆ นำจุดเด่นเมืองหนาวโปรโมทการให้รางวัลกับชีวิตของกลุ่มคนวัยทำงาน ด้วยโลเกชั่น สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
“ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”
ชูธีม “ประเพณีศรีอีสาน วิถีแห่งศรัทธา” นำทุนวัฒนธรรมความศรัทธาผนวกเข้าด้วยกัน
เพราะมี วัดสวยงาม ความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประเพณีเก่าแก่ องค์พญานาค
และเทศกาลงานดนตรีพื้นบ้าน
“ภูมิภาคภาคใต้” ชูธีม “Go South เสน่ห์ใต้ หลากหลายวัฒนธรรม” เน้นแหล่งศิลปะวัฒนธรรมในภาคใต้ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะท้องถิ่นส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเข้าถึงแต่ละพื้นที่ อย่างแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย (Eco Adventure) ซึ่งกลุ่มเจนวายนิยมสูงมาก หรือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์และวิถีชีวิตเด่น ๆ เรื่องด้านสุขภาพองค์รวม (Health & Wellness) การท่องเที่ยวเชิงกีฬา กอล์ฟ และอื่น ๆ
“ภูมิภาคภาคกลาง” ชูธีม “เที่ยวกลาง เที่ยวใกล้ เที่ยวได้เลย” สามารถใช้เวลาสั้น ๆ เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทุกวัน ซึ่งมีกิจกรรมครบทั้ง พายซับบอร์ด ดนตรี แฟชั่น ผจญภัย และการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย
สำหรับการจัดทำแผนการตลาดในประเทศปี 2569 TATAP 2026 จะต้องรอสรุปอีกครั้งช่วงเดือนมิถุนายน แล้วรอประกาศอย่างเป็นทางการเดือนกรกฎาคม 2568
นายอภิชัยกล่าวว่า
ททท.ตลาดในประเทศได้รับโจทย์ที่ท้าทายเรื่องการเพิ่มรายได้จากฐานปี 2568
ประมาณ 1.08 ล้านล้านบาท ปี 2569 จะต้องเพิ่มขึ้นอีก เบื้องต้นจะใช้ 2 กลยุทธ์หลัก กลยุทธ์ที่
1 ร่วมกับพันธมิตรทั้งสมาคมโรงแรมไทย
สมาคมภัตตาคารร้านอาหาร กลุ่มชุมชนผลิตสินค้าโอท็อป กลุ่มรถเช่า บริการทางเรือ
โดยสอดแซกให้เข้ากับคอนเซ็ปต์เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการขายสินค้าท่องเที่ยวได้ด้วย
กลยุทธ์ที่ 2 คัดเลือกสินค้าท่องเที่ยวเจาะกำลังซื้อคุณภาพสูงอย่างการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
Health & Wellness เนื่องจากไทยมีบุคลากรทางแพทย์ศักยภาพสูงทั่วโลกยอมรับสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการและพักผ่อนไปด้วยในตัว
แล้วก็ขอเชิญชวนคนในประเทศเลือกเดินทางสู่เมืองท่องเที่ยว
55 จังหวัด ททท.พยายามสร้างสรรค์นำวัฒนธรรม ประเพณี
เสน่ห์วิถีถิ่น ซอฟท์ พาวเวอร์อันเป็นอัตลักษณ์พื้นที่ มานำเสนอในโครงการ Year
Celebration ผ่านแคมเปญมากมาย
รวมทั้งจะเร่งกระจายรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน
ข่าวที่ 1-ช้อปคิงเพาเวอร์“TRAVELERS’ BEST BUDDIES”รับฟรีเพียบ
คิง เพาเวอร์ เปิดให้นักท่องเที่ยวทุกคนเมื่อออกเดินทางทุกครั้งด้วยความมั่นใจทุกทริป! กับ “TRAVELERS’ BEST BUDDIES ไอเทมโปรดสุดฮิต” ที่จะต้องมีติดตัวไว้กับไอเทมที่คัดสรรมาเพื่อนักเดินทางตัวยง พร้อมดีลสุดพิเศษที่ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์
“ไอเทมหลายสไตล์” ที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง! วันนี้คลิกเลือกไอเทมที่ใช่ แล้วออกไปสร้างความทรงจำดี ๆ ได้แล้ว จากนั้นก็ไปรอรับของที่สนามบินขาออกนอกประเทศ
“พิเศษ” นักท่องเที่ยวสามารถรับสิทธิ์ช้อปอย่างคุ้มค่าทุกการใช้จ่ายเมื่อเลือกซื้อสินค้าทาง คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ 2 ฟรี ดังนี้
ฟรีแรก : ออนไลน์ สปีเชียล ออฟเฟอร์ !! บัตรชม มหานคร สกายวอล์ค และสกายเวิร์ส มูลค่า 1,200 บาท มาก่อนรับทันที 300 สิทธิ์แรก เมื่อช้อปครบ 12,000 บาท ช้อปออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 เมษายน 2568
ฟรีที่ 2 : รับคูปองอาหารโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ด้วยวิธี “สะสมยอดช้อปออนไลน์” ตลอดเดือนเมษายนนี้ รับทันทีเมื่อทำยอดซื้อสะสม 25 คนแรก ฟรี! คูปองส่วนลดอาหาร
• รางวัลที่ 1 - 5 รับฟรีคูปองส่วนลดอาหารมูลค่า 2,000 บาท 1 รางวัล/ 2 คน นำไปใช้ได้ที่ห้องอาหาร OJO
• รางวัลที่ 6 - 25 รับฟรีคูปองส่วนลดอาหารมูลค่า 1,000 บาท 1 รางวัล/ 1 คน นำใช้ที่ห้องอาหาร เดอะ สแตนดาร์ด กริลล์
ข่าวที่ 2 -พูลแมนคิงเพาเวอร์จัด A Love Weddingแจกห้องพักทั่วเอเชีย
โรงแรมพูลแมน
คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในเครือ คิง เพาเวอร์ จัดใหญ่ “A
Love Story Wedding Showcase” วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 26-27 เมษายน 2568 ที่ห้องอีเทอร์นิตี้ บอลรูม ของโรงแรม
ทีมเวดดิ้งและอีเวนต์แพลนเนอร์มากประสบการณ์เนรมิตบรรยากาศวิวาห์ในฝันแสนโรแมนติก
พร้อมมอบข้อเสนองานแต่งดีที่สุดไว้ต้อนรับทุกคู่รัก เริ่มต้น 289,000 บาท แพกเกจที่มีผู้เข้าร่วม 120 คน และทุกคู่รักที่เลือกจัดแต่งงาน 450,000 บาทขึ้นไป รับฟรีแพกเกจห้องพักฮันนีมูน 3 วัน 2 คืน ที่โรงแรมและรีสอร์ท พูลแมน ทั่วเอเชีย ที่ สิงคโปร์
โตเกียว(ญี่ปุ่น) บาหลี(อินโดนีเซีย)
ดานัง (เวียดนาม)
“บัตรกำนัลเงินสด”
นำไปใช้ที่ห้องอาหาร ควิซีน อันปลั๊ก “ส่วนลด 10%”
แพคเกจจัดงานอีเวนท์เป็นส่วนตัว ที่ห้องอาหารเท็นโกะ ขนาด10-14 คน “ส่วนลดพิเศษ” ที่คิง เพาเวอร์ บัตรกำนัลสตาร์บัคส์ มูลค่า 100 บาทสูงสุด 10 ใบ
“ส่วนลดพิเศษ”
ผู้มียอดใช้จ่ายสูงสุดในงาน 3 คู่รัก :
1.เข้าพักห้องเอ็กซ์เซคคูทีฟพร้อมบริการคลับเลานจ์ 1
คืน อาหารเช้า 2 คน มูลค่า 9,500 บาท
2.มื้อกลางวันโอมากาเสะ 12 คอร์ส ที่ห้องอาการเท็นโกะ
มูลค่า 5,800 บาท
3.นวดอะโรม่าที่ เลอ สปา 2 คน มูลค่า 5,600 บาท
พบกับการจำลองบรรยากาศงานแต่งงานในฝัน
“A Love Story Wedding Showcase” ที่โรงแรมพูลแมน คิง
เพาเวอร์ กรุงเทพ พร้อมลิ้มลองรายการอาหารจัดเลี้ยงเมนูจริงทั้งคาวหวาน
ได้ตรงตามรูปแบบงานแต่งงานที่ต้องการ คือ 1.แต่งงานพิธีไทยพร้อมขบวนขันหมากท่ามกลางบรรยากาศสบาย
ๆ ในสวนสวย 2.แต่งงานพิธีจีนพร้อมธรรมเนียมการยกน้ำชาดั้งเดิม
3.แต่งงานพิธีตะวันตกแลกแหวนแทนใจ หรืองานเลี้ยงฉลองแต่งงานสมัยใหม่พร้อมอาฟเตอร์
ปาร์ตี้ ด้วยแพกเกจตัวเลือกสุดคุ้ม
“สิทธิพิเศษ”
ทุกคู่รักที่เข้าร่วมงาน สามารถเลือกให้ตรงตามทุกความต้องการของบ่าวสาว ได้ถึง 8 รายการ ดังนี้
•
ส่วนลด 50% สำหรับแพ็คเกจ After Party มูลค่า
20,000 บาท สำหรับ 100 คน
•ส่วนลดค่าเปิดขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มูลค่า 10,000 บาท (ยกเว้นเบียร์)
• สมนาคุณ
ซุ้มอาหาร 1 ซุ้ม สำหรับ 100 คน มูลค่า 10,000 บาท
•
สมนาคุณ โฟโต้บูธ ไม่จำกัดจำนวนภาพ มูลค่า 15,000 บาท
•
ห้องพักซูพีเรีย 2 คืน พร้อมอาหารเช้า 2 คน
•
ส่วนลดค่านำเข้าซุ้มอาหาร มูลค่า 10,000 บาท
•
สมนาคุณ ดราฟต์เบียร์ 1 ถัง 30 ลิตร มูลค่า 10,000 บาท
•
สะสมคะแนนได้ทุกการใช้จ่ายจาก ALL member meeting planners
ข่าวที่ 3-Drunk
Elephant คิง เพาเวอร์ จัดมหกรรมผิวสวยลุ้นรางวัล
Drunk
Elephant ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ชวนนักช้อปเตรียมยกระดับการดูแลผิวสวยได้ตั้งแต่วันนี้ - 11
พฤษภาคม 2568 พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมาย
“ลุ้นรางวัล”
ทุกใบเสร็จ กับทุกการช้อปสกินแคร์ Drunk Elephant รับสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีรับของรางวัล
Lucky Draw
“ร่วมถ่ายภาพ”
อวดผิวสวยๆ ของคุณให้โลกเห็น บริเวณจุดถ่ายภาพ Skin P-Hitness เคาน์เตอร์ Drunk Elephant
“เวลเนส”
กิจกรรมสุดเอกซ์คลูซิฟ ต้องห้ามพลาด
ในแต่ละวันหมุนเวียนให้นักช้อปได้ร่วมสนุกสนานตลอดแคมเปญ
รับความพิเศษง่าย
ๆ เพียงช้อปสกินแคร์ Drunk Elephant ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
แล้วลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมสุดพิเศษ วันเสาร์ที่ 26 เมษายน
2568
ร่วมผ่อนคลายกับกิจกรรมโยคะ การทำสมาธิด้วยเสียง และเคล็ดลับการดูแลผิวจากผู้เชี่ยวชาญ
ที่จะช่วยรีเฟรชทั้งจิตใจและผิวสวย ๆ
ข่าวที่ 4-ผู้ว่าฯททท.ชูธงปี68ดึงเศรษฐีทัวร์ไกล11ตลาดแทนจีนหดตัว
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศจากสถิติสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ตั้งแต่ 1 มกราคม – 21 เมษายน 2568 ภาพรวมเดินทางมาไทยแล้ว 11,350,463
คน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนพบ “ตลาดระยะไกล/Longhaul” มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งด้านจำนวนนักเดินทางมีสัญญาณเป็นบวกตัวเลขเพิ่มสองหลัก
11 ตลาด ประกอบด้วย
“ยุโรป” 7 ตลาด ได้แก่ รัสเซีย 839,463
เพิ่ม 15.41% สหราชอาณาจักร 423,324 คน เพิ่ม 20.61% ฝรั่งเศส 364,262 คน เพิ่ม 22.65% เยอรมนี 407,378 คน เพิ่ม 13.14% อิตาลี 114,808 คน เพิ่ม 28.6% เนเธอร์แลนด์ 94,074 คน เพิ่ม 17.88% สเปน 52,629 คน เพิ่ม 17.75%
“ตะวันออกกลาง” 2 ตลาด ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย 43,356 คน เพิ่ม 15.26%
อิสราเอล 131,958 คน เพิ่ม 97.43%
“สหรัฐอเมริกา” 1 ตลาด 379,472 คน เพิ่ม 12.83%
“เอเชีย
แปซิฟิกใต้” โซนโอเชเนีย1 ตลาด คือ ออสเตรเลีย 255,420 คน
เพิ่ม 16.85 %
ปัจจัยหลักมาจาก
ททท.ได้ใช้กลยุทธ์ Airline Focus ร่วมมือกับเครือข่ายสายการบินนานาชาติทั่วโลกเพิ่ม
“จำนวนที่นั่งเที่ยวบิน” (Seat Capacity) โดยเพิ่มความถี่เที่ยวบิน
และขยายเส้นทางบินใหม่ทั้งจากเมืองหลักและเมืองรองในต่างประเทศมายังไทย ตั้งแต่ปลายปี
2567 ถึงปัจจุบันปี 2568 ยุโรปหลายประเทศเพิ่มเที่ยวบินตรงสู่ไทย
ได้แก่
“เที่ยวบินตรง”
ไป-กลับ เช่น สายการบินอลิตาเลีย บิน อิตาลี - กรุงเทพฯ สายการบินคอนดอร์
บินแฟรงก์เฟิร์ต – กรุงเทพฯ และภูเก็ต Evelop Airline
S.L. บิน มาดริด – กรุงเทพฯ แอร์เซเลโดเนีย อินเตอร์เนชั่นแนล บิน ปารีส – กรุงเทพฯ
“เพิ่มความถี่เที่ยวบิน” ไป-กลับ
เช่น สายการบินไอเบอโร่เจ็ท บิน มาดริด-กรุงเทพฯ Norse
Atlantic Airways บินลอนดอน (สนามบินแกตวิก) – กรุงเทพฯ
ระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน
2568 สายการบินนานาชาติกจากตลาดระยะไกลมีแนวโน้มทำยอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้า
(Forward Booking) การเดินทางเข้าไทยสดใส โดยเฉพาะ 5 ตลาดหลัก อย่าง สหราชอาณาจักร
อิตาลี สเปน อิสราเอล รัสเซีย
ททท.วางกลยุทธ์การสื่อสาร
360 องศา ผ่านช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ สื่อโซเชียล
เมนสตรีม มีเดีย ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ผลักดันให้ไทยครองใจคนทั่วโลกหรือเป็น Top
of Mind เชื่อมั่นจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยตามเป้าหมายปี
2568 ได้ถึง 39 ล้านคน สร้างรายได้ 2.23
ล้านล้านบาท
ขณะนี้
ททท. ปรับกลยุทธ์เร่งกระตุ้นตลาดระยะไกลคุณภาพการเติบโตสูงเข้ามาชดเชยนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้/Shorthaul
คือ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ปีนี้มีแนวโน้มหดตัวลง จะเน้นเพิ่ม 3
ตลาด ได้แก่
ตลาดที่
1 นักท่องเที่ยวเดินทางพักผ่อนคุณภาพสูง (Quality
Leisure) ตลาดที่ 2 กลุ่มครอบครัว
ตลาดที่ 3
กลุ่มได้รับรางวัลการเดินทางท่องเที่ยว (Incentive) จากนักเดินทางหลัก ๆ ดังนี้
“ตลาดระยะไกล”
รวมทั้งหมด 15 ตลาด ได้แก่ “ยุโรป” มี อังกฤษ เยอรมนี อิตาลี อิสราเอล สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์
นอร์เวย์ ออสเตรีย “อเมริกา” อาร์เจนตินา บราซิล “ตะวันออกกลาง” มี
ซาอุดีอาระเบีย คูเวต “แอฟริกา” มี แอฟริกาใต้ และโอเชียเนีย มี ออสเตรเลีย
“ตลาดระยะใกล้” 9
ตลาด มี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย อินเดีย
ศรีลังกา
“กลุ่มเป้าหมาย” ที่
ททท.จะเร่งขยายการเติบโตเน้นเจาะกำลังซื้อพร้อมใช้จ่ายเงินมูลค่าสูง (High
Value) 4 กลุ่ม ได้แก่
• กลุ่มที่
1 นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์รวม (Health &
Wellness) เช่น นวดแผนไทย
สปา โยคะ อาหารสุขภาพ และทำโปรแกรมสุขภาพประเภทต่าง ๆ จากตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง
อาเซียน และจีน
• กลุ่มที่
2 นักท่องเที่ยวยอร์ช/ซูเปอร์ยอร์ช จากยุโรป ออสเตรเลีย
และเอเชียแปซิฟิก
• กลุ่มที่
3 นักท่องเที่ยวเชิงกีฬาและบันเทิง (Sport and
Entertainment) เช่น นักกอล์ฟ มาราธอน วิ่งเทรล มวยไทย ดำน้ำ
จักรยาน จากรัสเซีย ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น
• กลุ่มที่
4 ทำงานได้เที่ยวด้วย
ทั้ง Digital Nomad และ Workation
นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการหลายจังหวัดเป็นสถานที่ทำงานและท่องเที่ยวควบคู่กันไป เช่น
เชียงใหม่ กทม. ภูเก็ต เกาะสมุย หัวหิน และ กระบี่
ททท.พร้อมจะใช้จุดแข็งของไทยทั้ง ซอฟท์ พาวเวอร์ วัฒนธรรม จัดกิจกรรม เทศกาล
สปอร์ตอีเวนต์ต่าง ๆ ภายใต้ Grand Festivity สร้างแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวมาไทย
พร้อมกระจายตัวสู่จังหวัดหลักและเมืองท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
โดยเตรียมกิจกรรมอีเวนต์ต่อเนื่องหลังประสบความสำเร็จจากเทศสงกรานต์
เตรียมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตลาดในและต่างประเทศต่อด้วยธีม “Thailand
Summer Festivals” จัดเทศกาล
• “ดนตรี” EDC,
Wonderfruit, Big Mountain, ปลาร้าหมอลำ
• “กีฬา” UTMB,
Regatta, WGP#1, FIVB, SEA Games
• “ศิลปะ”
ตัวอย่างเทศกาล ณ สัทธาอุทยานไทย จ.ราชบุรี เทศกาลพลุนานาชาติ พัทยา จ.ชลบุรี
• “วัฒนธรรมและอาหาร”
Amazing Thailand Grand Taste ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ข่าวที่
5-บางจากร่วมพันธมิตรปันน้ำใจผ่านสภากาชาดไทยสู่เมียนมา
นายชัยวัฒน์
โควาวิสารัช
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย
นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน
และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน และนางกลอยตา ณ ถลาง
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมส่งมอบเงินบริจาค 1,288,888 บาท
บริษัท
บางจากฯ ได้ระดมทุนร่วมกับพันธมิตรและผู้มีจิตศรัทธา จากหลากหลายภาคส่วน นำโดย
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด
นายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ประธานบริหาร บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
และผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่น 34 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา
ให้แก่ นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย
เป็นผู้แทนรับมอบ ที่อาคาร เอ็ม ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่บางจาก
“ผู้ที่ประสงค์บริจาค” ผ่านหน่วยงานสภากาชาดไทยโดยตรง
สามารถบริจาคผ่านบัญชี “สภากาชาดไทย เพื่อภัยพิบัติ” ประเภทบัญชีกระแสรายวัน
ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม เลขที่ 001-1-34567-0
ข่าวที่ 6-TCEBปลื้มไทยคว้าสิทธิ์งานไมซ์พลังงานโลก“IEEEAsia
2025”
TCEB ปลื้มไทยคว้าสิทธิ์เจ้าภาพจัดมหกรรมพลังงานโลก
“IEEE
PES GTD Asia 2025” 26-29 พ.ย.68 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ดึงผู้เชี่ยวชาญ เอกชนไฟฟ้า พลังงานชั้นนำ
ร่วมถ่ายทอดนวัตกรรมความเป็นกลางทางคาร์บอน นำเศรษฐกิจไทยอู้ฟู่ปลายปี
นายจิรุตถ์
อิศรางกูร ณ อยุธยา
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ล่าสุดไทยคว้าสิทธิ์เจ้าภาพจัดงานพลังงานระดับโลก “IEEE
PES GTD Asia 2025” ระหว่างวันที่ 26-29 พฤศจิกายน
2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร
จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Accelerating The Energy Transition toward Carbon
Neutrality – A Sustainable Energy Future for All : การเปลี่ยนแปลงพลังงานสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนเพื่ออนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน”
โดยมีสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) ดูแลรับผิดชอบ
เป็นมหกรรมพลังงานที่จะมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นักพัฒนา
ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานชั้นนำทั่วโลก
มาร่วมกันนำเสนอนวัตกรรมไฟฟ้าและพลังงาน
เพื่อเปลี่ยนผ่านสังคมสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน ในเมืองไทย
ทีเส็บในฐานะหน่วยงานหลักมีภารกิจโดยด้านการพัฒนาและสนับสนุนธุรกิจไมซ์ของเมืองไทย
พร้อมผสานความร่วมมือกับ IEEE PES Thailand เดินหน้าผลักดันและประมูลสิทธิ์งานประชุมนานาชาติหลั่งไหลเข้ามายังเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งทุกภาคส่วนพร้อมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
รวมทั้งมีความเชื่อมั่นผู้ร่วมงานที่เดินทางมาจากทั่วโลกจะได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันน่าประทับใจ
ทำให้อุตสาหกรรมไมซ์เกิดผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ขับเคลื่อนไทยเป็นประเทศจุดหมายปลายทางตลาดไมซ์คุณภาพสูงที่สามารถเพิ่มการใช้จ่ายเงินทุกการจัดงานระดับโลกในเมืองไทย
ช่วงที่ 2 เที่ยวใกล้ไปเช็คอิน
“เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง” 2-5 พ.ค.นี้ ชมทั้งหนังตะลุง
หุ่นนานาชาติ มรสพที่วังบ้านปืน แล้วฟัง “4ช่วงเวลา”
เลือกกินผลไม้ให้ถูกวิธี เกาะติดข่าวดี ๆ ข่าวแรก “การบินไทยจัดรักคุณเท่าฟ้า 2568” มหกรรมคืนกำไรตั๋ว ท่องเที่ยว “ททท.เปิดรับหลักสูตร TME6” รุ่นพิเศษเพิ่ม AI วิเคราะห์ท่องเที่ยวเรียลไทม์
ท่องเที่ยว
–สุขทันทีเที่ยวเทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง 2-5
พ.ค.68
สุขทันทีที่เที่ยวเมือง
“เพชรบุรี” กับการกลับมาอีกครั้งกับความยิ่งใหญ่งาน “เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง :
Phetchaburi Harmony Puppet Festival 2025” วันที่
2 - 4 พฤษภาคม 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) สำนักงานเพชรบุรี ชวนเที่ยวงานที่ได้รับรางวัล Asia Local and
Traditional Art Festival Tangible Heritage ประจำปี 2025 จากสมาคมเทศกาลและงานอีเวนต์นานาชาติแห่งภูมิภาคเอเชีย IFEA Asia ได้นำเทศกาลอันโดดเด่นก้าวสู่สากล
ปีนี้มูลนิธิหุ่นสายเสมาได้การสนับสนุนจากสมาพันธ์หุ่นนานาชาติ
Unima ในความรับรองของยูเนสโกเจ้าของลิขสิทธิ์การจัดเทศกาลหุ่นโลก
Harmony Puppet Thailand นำมาจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ในเพชรบุรี
ให้นักท่องเที่ยวที่รอคอยเดินทางมาชมได้ทุกวัน 2 จุด
จุดที่
1 บริเวณถนนสายศิลปะถนนดำรงรักษ์ จุดที่ 2
พระรามราชนิเวศน์ จัดให้ชมมหรสพอันสง่างาม นำเสนอเรื่องราวให้ได้ชมจาก
“วรรณกรรมรามเกียรติ์”หลากหลาย มี “บริการรถราง” นำชมศิลปะสกุลช่างเมืองเพ็ชร
งานปูนปั้นรามเกียรติ์ ประดับตลอดเส้นทางจัดเทศกาล งานนิทรรศการภาพถ่าย
พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ วัดพลับพลาชัย
“เทศกาลหุ่นเพชรบุรีเมืองหนัง : Phetchaburi
Harmony Puppet Festival 2025” เกิดขึ้นจากการฟื้นฟู
“ศิลปะหุ่นหนังใหญ่” วัดพลับพลาชัย
ที่สร้างขึ้นในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี นำศิลปะหนังใหญ่สืบทอดกันมา และเคยจัดแสดงต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ฯ ที่พระรามราชนิเวศน์ หรือ “วังบ้านปืน”
ที่สร้างขึ้นเมื่อเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี
ปี 2568 เทศกาลหนังจึงจัดขึ้นในรูปแบบ “มหรสพหลวง” การแสดงหนังใหญ่อย่างงามสง่าหน้าพระที่นั่ง
พร้อมเชิดชูการแสดงหนังตะลุง ซึ่งเป็นต้นแบบหนังเมืองเพชร โดยมีคณะหนังตะลุงจากบรมครู
นายหนังจากภาคใต้ สมาคมศิลปินพื้นบ้านจังหวัดสงขลา เข้าร่วมด้วย นำโดย ศิลปินดีเด่นจังหวัดสงขลา
3 คน ทำให้เพชรบุรีเป็นศูนย์รวมของหนังใหญ่ และหนังตะลุง ตลอดไป
ปีนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวจะได้ชมอย่างจุใจถึง
37 คณะ ตลอด 3 วัน บริเวณพระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี และบริเวณถนนดำรงรักษ์ งดงาม กว้างขวาง เป็นถนนสายศิลปะที่มีภาพเขียน
“สตรีทอาร์ต” โดดเด่นทันสมัย
ตื่นตาตื่นใจกับคณะจากต่างประเทศนำการแสดงหุ่นเงานานาชาติ
International Shadow Puppet และหุ่นร่วมสมัยมาร่วมแสดงด้วย
12 ประเทศ คือ
• Ty Chean Sbek Thom หนังใหญ่ สแบกธม จาก กัมพูชา
• Kohamkulov puppet troupe หุ่นเงาดั้งเดิม จากคาซัคสถาน
• Utervision Company Japan หุ่นเงาร่วมสมัย จากญี่ปุ่น
• Theatrical Association of Artists
Animating the Shadow TOXOT หุ่นเงาผสมผสานเทคโนโลยี จาก รัสเซีย
• Paper Monkey Theatre หุ่นเงาเพื่อการศึกษา
จาก สิงคโปร์
• Gnayaw Puppets หุ่นเงาแนวศิลปะผสมผสาน
ผลงานร่วมสร้างสรรค์ จาก เม็กซิโก-อินโดนีเซีย
• การแสดงหุ่นนานาชาติในรูปแบบแปลกใหม่ทันสมัย
Viet Lotus Group จาก เวียดนาม Sky Bird Puppet
Group จาก ฮ่องกง, Wanlu and his Puppets จาก
ฟิลิปปินส์, การแสดงหุ่นสายร่วมสมัย Nicov
botelladearroz จาก โคลัมเบีย
• การแสดงผสมผสานระหว่างหุ่นเงาวายัง
และนักแสดงระบำพื้นเมือง Sena Wangi (Indonesia National Wayang Secretariat) จาก
อินโดนีเซีย
• นิทรรศการภาพถ่าย
A Life In shadow ทำเวิร์คช้อปการถ่ายภาพหุ่นเงา โดย Constantine
Korsovitisออสเตรเลีย
สุขภาพ –4 ช่วงเวลาเลือกการกินผลไม้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ
นักโภชนาการเมืองไทย มีข้อมูลดี ๆ มาแนะนำการดูแลสุขภาพ เลือกรับประทาน
“ผลไม้” แต่ละมื้อที่เหมาะสมวันละ 4 ช่วง ดังนี้
1.
ช่วงเช้า : กิน สับปะรด เชอรี่ กีวี่ แอปเปิล
การกินผลไม้ในตอนเช้าจะช่วยทำให้เรามีพลังไปตลอดทั้งวัน
โดยแนะนำให้เลือกกินผลไม้ให้หลากหลายชนิด ซึ่งผลไม้ที่ดีสำหรับตอนเช้า เช่น
สับปะรด เชอร์รี่ กีวี่ สตรอว์เบอร์รี่ และแอปเปิ้ล
“สับปะรดกับเชอร์รี่”
: มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ
ช่วยควบคุมความดันโลหิต และช่วยลดโรคหัวใจได้ “กีวี่” มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน “แอปเปิ้ล”
หากกินตอนเช้าก็จะช่วยดีท็อกซ์และลดไขมันหน้าท้องได้เป็นอย่างดี
2.ช่วงกลางวัน : กินกล้วยกับมะม่วง
เวลากลางวัน
ช่วงนี้เราสามารถกินผลไม้หวาน ๆ ที่มีน้ำตาลได้ เพราะถือเป็นน้ำตาลธรรมชาติ
และเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเราจะต้องการ “เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด”
เพื่อย่อยอาหาร โดยเฉพาะ “กล้วยและมะม่วง” ซึ่งถือเป็นแหล่งของน้ำตาลและพลังงาน
กินแล้วทำให้เรารู้สึกตื่นจากความเหนื่อยล้าช่วงบ่าย ๆ ได้
3.ช่วงก่อนออกกำลังกาย
กิน ส้ม แอปเปิล ลูกแพร์
ก่อนออกกำลังกายแนะนำให้กินผลไม้จำพวก
แอปเปิ้ล ส้ม ลูกแพร์ เพราะผลไม้เหล่านี้กินก่อนออกกำลังกายแล้วดี
เพราะจะให้พลังงานทันที เพราะการออกกำลังกายแต่ครั้งล้วนต้องการพลังงาน
ดังนั้นแนะนำให้เลือกกินผลไม้ที่จะให้พลังงานเลย
4.ช่วงเย็น
กิน สับปะรด อะโวคาโด กีวี่
มื้อเย็น
อย่าลืมเพิ่มผลไม้เข้าไปในมื้ออาหารของเราด้วย โดยเฉพาะ “สับปะรด-อะโวคาโด-กีวี่”
กินตอนเย็นหรือค่ำแล้วดี โดยแนะนำให้กินก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง
จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หลับง่ายสบายขึ้น แต่ไม่ควรกินแล้วนอนทันทีนะ
เพราะจะเป็นการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –การบินไทยจัด“รักคุณเท่าฟ้า68”-ช้อปตั๋วทัวร์ลุ้นรางวัลกว่า 3 ล้าน
การบินไทยจัดกระหึ่ม
“รักคุณเท่าฟ้า 2568” 24-27 เม.ย.นี้ ที่สยามพารากอน พร้อมฉลอง 65
ปี คืนความสุขให้ลูกค้าด้วยข้อเสนอพรีเมี่ยม 9 รายการ ร่วมสนุกหมุนลุ้นรับรางวัลมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
บริษัท
การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดมหกรรมส่งเสริมการขาย “รักคุณเท่าฟ้า
2568” รายการใหญ่แห่งปี ระหว่าง 24 – 27 เมษายน 2568 บริเวณลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน มุ่งตอบแทนลูกค้าที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาตลอด พร้อมกับฉลองการก่อตั้งสายการบินรอบ
65 ปี โดยมีข้อเสนอสุดพิเศษและกิจกรรมมากมายให้ได้ร่วมสนุกตลอดงาน
ดร.
ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวาระการบินไทยก่อตั้งมาครบ 65 ปี ต้องขอขอบคุณพนักงาน ผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า
สำคัญที่สุดคือ “ผู้โดยสาร” ทุกคนที่มอบความไว้วางใจ และสนับสนุนการบินไทยด้วยดีเสมอมา
จึงใช้โอกาสการจัดงาน “รักคุณเท่าฟ้า 2568” มอบของขวัญพิเศษตอบแทนอุปการคุณลูกค้าและตอกย้ำความมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพการบริการและมาตรฐานการบิน
กับประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้นต่อไป ด้วยศักยภาพและความพร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายชาย
เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่าการจัดงาน “รักคุณเท่าฟ้า 2568” ปีนี้ชูแนวคิด “Always
THAI ยังไงก็การบินไทยเสมอมา” เพื่อขอบคุณลูกค้าทุกคนที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด
จึงพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษทั้งการจองตั๋วโดยสารการบินไทยทุกเส้นทางแพ็กเกจทัวร์
สินค้าที่ระลึก ประสบการณ์ใหม่ ๆ เพิ่มเต็มความสุขและความอบอุ่นใจในทุกการเดินทาง
โดยนำมาให้สัมผัสก่อนใครในงานครั้งนี้
สำหรับ
“กิจกรรมและสิทธิพิเศษ” ในงาน “รักคุณเท่าฟ้า 2568” นำมาให้ลูกค้าได้เลือกช้อปมากมาย
ถึง 9 รายการ ดังนี้
• บินลัดฟ้าในราคาสุดพิเศษ
: มอบตั๋วโดยสารการบินไทยราคาพิเศษทุกเส้นทาง
ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากบัตรเครดิตและพันธมิตรทางธุรกิจ
• สะสมไมล์ง่าย
ๆ รับโบนัสสุดคุ้ม : ภายในงานสมัครสมาชิก ROP
-Royal Orchid Plus รับฟรีโบนัสไมล์สะสม 500
ไมล์ เมื่อเลือกเดินทางกับเที่ยวบินระหว่างประเทศรับเพิ่มอีก 650 ไมล์ฟรี
• เที่ยวสุดคุ้มกับทัวร์เอื้องหลวง
: แพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษทัวร์เอื้องหลวง (Royal
Orchid Holidays) ชวนมาสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจทุกทริป
• เปิดประสบการณ์สุดล้ำกับ
VR 3D : สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงเทคโนโลยี
VR 3D สุดล้ำบนห้องโดยสารของเครื่องบินรุ่นใหม่
• ลิ้มลองรสชาติใหม่แห่งการเดินทาง
: ชิมและเลือกซื้อเบเกอรี่แสนอร่อยจาก Puff & Pie
• ช็อปของที่ระลึกสุดพิเศษ
: เลือกซื้อของที่ระลึกราคาพิเศษ THAI Shop นำมาให้เลือกช้อปจุใจ
• ร่วมสนุกกับกิจกรรม
: เมื่อมียอดค่าใช้จ่ายสะสมครบ 65,000 บาท
รับสิทธิ์ร่วมสนุก “หมุนตู้กาชาปอง” รับของรางวัลพิเศษมากมาย มูลค่ารวมกว่า 3
ล้านบาท เช่น ตั๋วโดยสารชั้นธุรกิจ เส้นทาง กรุงเทพฯ-ออสโล 2 ที่นั่ง และรางวัลบัตรโดยสารอีกมากมาย
แพ็กเกจทัวร์ ของสมนาคุณอื่น ๆ
• สนุกกับกิจกรรมบันเทิง
: เพลิดเพลินกับเวทีกิจกรรมบันเทิงทุกวัน
• ชมภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ชุดใหม่
“Fly for The New High ToGether” : สัมผัสเรื่องราว
การเดินทางที่ทุกคนมีส่วนร่วมและเติบโตไปด้วยกัน
ด้วยประสบการณ์เหนือระดับ การบินไทยตั้งใจมอบให้ผู้โดยสาร
สะท้อนผ่านรอยยิ้มแห่งความสุข โดยยกระดับคุณภาพการบริการและมาตรฐานการบิน
กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก
ข่าวที่สอง –ททท.รับสมัครTME6เพิ่มฟังก์ชั่นAIวิเคราะห์เที่ยวเรียลไทม์
นายกิตติพงษ์
ประพัฒน์ทอง รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย
และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.
และศูนย์พัฒนาวิชาการด้านตลาดการท่องเที่ยว (TAT
Academy) เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “Tourism
Management Program for Executives :TME 6” รุ่นที่
6 ตั้งแต่วันนี้-10 พฤษภาคม 2568 เพื่อเข้าอบรมระหว่างเดือนพฤษภาคม
– สิงหาคม 2568 โดยมีเป้าหมายมุ่งพัฒนาผู้บริหารระดับสูงและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้มีศักยภาพสูงขึ้น
พร้อมปรับตัวสู่ทิศทางการท่องเที่ยวยุคใหม่ได้อย่างมั่นคง
เปิดรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ
จำนวนจำกัด ค่าลงทะเบียน 200,000 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พิเศษ!
สำหรับผู้สมัครเป็นกลุ่มตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป รับส่วนลด 10% หลักสูตรนี้จะมีกิจกรรมลงพื้นที่การท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เช่น กรุงเทพมหานคร
สมุทรสงคราม จันทบุรี นครปฐม และการศึกษาดูงานต่างประเทศที่ญี่ปุ่น
ททท. เล็งเห็นถึงผู้นำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะแข็งแกร่งและมองการณ์ไกล
แล้วการอบรมTME6 ออกแบบมาเพื่อให้ “ตัวจริง”
ในวงการได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่อนาคตอย่างมั่นคง
และเพิ่มเติมฟังก์ชัน AI เข้ามาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจนักท่องเที่ยวได้แบบเรียลไทม์
ช่วยให้ผู้นำวางแผนธุรกิจได้แม่นยำขึ้น
สำหรับพิธีเปิดหลักสูตรจะจัดวันที่
16 พฤษภาคม 2568 เริ่มเรียนอย่างเป็นทางการวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป
หลักสูตร
TME6 จัดในธีม “Path
to Greatness: Signature Destinations, Unforgettable Experiences” เน้นการเรียนรู้ครอบคลุมด้านกลยุทธ์
เทคโนโลยี และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ ผ่านการออกแบบเนื้อหาการเชื่อมโยงกับบริบทของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างแท้จริง
ปี 2568 เน้นการเรียนรู้ใน 6 มิติหลัก ได้แก่
• การเข้าใจ Mega
Trends และพฤติกรรมใหม่ของนักท่องเที่ยว
• การใช้มรดกวัฒนธรรมเป็นรากฐานสร้างเสน่ห์ปลายทาง
• การออกแบบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล
• การพัฒนาตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness & Well-being)
• การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง Smart Tourism
• การสร้าง Signature
Destinations ของไทยให้มีความยั่งยืน
รวมทั้งได้เพิ่มความสำคัญเรื่องการนำเทคโนโลยี
AI มาวิเคราะห์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวแบบเรียลไทม์
เพื่อให้ผู้นำวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำ ผนวกกับพัฒนาแนวคิด Smart Tourism
และต่อยอด ซอฟท์ พาวเวอร์ ที่เป็นอัตลักษณ์ไทย ครอบคลุมอาหาร
ภาพยนตร์ แฟชั่น หรือประเพณี
ส่วน Smart Tourism และ ซอฟท์ พาวเวอร์ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้แหล่งท่องเที่ยวไทยสร้างความหมายในเวทีโลก
ได้มากกว่าการจดจำเพียงอย่างเดียว
ผู้สมัครเข้าร่วม
TME6 จะได้เรียนรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญกว่า
35 คน จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ททท. นายศิเวก
สัจเดว ผู้ก่อตั้ง ServiceMind Asia นายวรรณสิงห์
ประเสริฐกุล นักเดินทางและผู้สนับสนุน UNHCR นายไผ สมศักดิ์
บุญคำ ผู้ก่อตั้ง Local Alike นายโอลิเวอร์ กิตติพงษ์
วีระเตชะ กรุ๊ป ซีเอ็มโอ จากจากเดนสึ ไทยแลนด์
ผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำ
เช่น แมคเคนซี่ Agoda Fastwork และตัวแทนจากห่วงโซ่คุณค่าการท่องเที่ยว
โรงแรม การแพทย์ การขนส่ง ดิจิทัล และธุรกิจชุมชน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น