ททท.บุกเวียดนาม4เมืองใหม่บูมศก.ไทยคึกคักปี’63
เปิดมหกรรมขายเมืองหลัก-รอง“ตะวันออก-อีสาน”
ช้อปคิงเพาเวอร์ผ่อน0%10เดือนข้ามปีถึงมี.ค.63
สุวรรณภูมิ-ดอนเมืองช้อปขาเข้าลดสูงสุด800บาท
เมืองรอง-โรงแรมตีปีกTTM+2019สำเร็จเกินคาด
เติมบางจากลุ้นโชครับทองกว่า5ล้านบาทถึงส.ค.นี้
เที่ยวหน้าฝน”แพร่-อุตรดิตถ์”ฟันฟินกินครบทุกรส
ระวัง! ขยะอันตรายภัยใกล้ตัวต้องรีบกำจัดด่วนๆ
จุฬาผุดโปรเจ็กต์พัฒนาเที่ยวสร้างสรรค์ปี’63-65
บินไทยลั่นลดค่าธรรมเนียมน้ำมันทำตั๋วถูกทั่วโลก
ชูEECHDCโมเดลปั้นคนป้อน12อุตสาหกรรมเด่น
ต้อนรับเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย.2562 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังได้ทางมือถือ และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen และบล็อกเกอร์ #gurutourza #สวท97 #รวยด้วยข่าว #เที่ยวกับกู๋ #TATHOCHIMINH #
ช่วงที่ 1 เกาะติดตลาดมาแรงกับ “นภสร ค้าขาย” ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ เวียดนาม รายได้ 4เดือนแรกปี’62 โตพุ่งกว่า 7 % ใส่เกียร์เดินหน้าแผน TATAP’63 โหมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวใหม่ไทย 3 ภูมิภาคหลัก “ตะวันออก” พัทยาเชื่อมโยงจันทบุรี และ EEC “อีสาน” เที่ยว 3 ประเทศ เวียดนาม-สสป.ลาว-ไทย” “ภาคเหนือ” เชียงใหม่ เชียงราย ผนึกสายการบิน เอเย่นต์ เวียดนามบุกทะลวงเจาะตลาดคุณภาพพื้นที่รองมาแรง 4 เมือง “เกิ่นเธอ-ญาจาง-ดาลัต-ไฮฟอง” ดึงกลุ่มออกเที่ยวครั้งเที่ยวครั้งแรกมาไทย ใช้จังหวะช่วงงาน TTM+2019 พาสื่อตลุยสำรวจชุมชนริมน้ำจันทบูร สวนผลไม้ แมนเมดมหาสนุกทั่วชลบุรี จ่อบรรจุขายในโปรแกรมทัวร์ปีหน้า
นางนภสร ค้าขาย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ เวียดนาม เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวเวียดนามปี 2562เติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งมีปัจจัยหนุนหลายส่วนหลังจากปี 2561 มีจำนวนมากถึง 1 ล้านคน ปีนี้มีเที่ยวบินเปิดใหม่จากเมืองรองของเวียดนาม เมืองเกิ่นเธอ ทางตอนใต้ เมืองญาเกอติดทะเลมีความสวยไม่แพ้ดานัง เมืองไฮฟองอยู่ทางตอนเหนือ อีกหลายเมืองตื่นตัวด้านการท่องเที่ยว ทำให้การส่งเสริมท่องเที่ยวได้ประโยชน์ทั้งเวียดนามซึ่งมีคนไทยไปท่องเที่ยวจำนวนมาก และไทยมีเวียดนามมาเที่ยวเกินปีละล้านคน ช่วยเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และมีแนวโน้มการเติบโตมีอนาคตสดใส
ช่วงมกราคม-เมษายน 2562 อัตราการเติบโตจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตประมาณ 4 % แต่รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเกิน 7 % สะท้อนถึงเศรษฐกิจเวียดนามเป็นช่วงขาขึ้นส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายเงินได้อย่างเต็มที่ และเม็ดเงินสามารถกระจายไปยังท้องถิ่นหรือเมืองรองอื่น ๆ มากขึ้น เมื่อปีที่ผ่านมาได้นำร่องขายเชียงใหม่เชื่อมโยงสู่เมืองรองเชียงรายตอนนี้ได้รับความนิยมมาก ตั้งแต่ลอยกระทง เรื่อยมาจนถึงสงกรานต์ปีนี้ ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรง ไป-กลับ ฮานอย-เชียงใหม่ เป็นปัจจัยหนุนทำให้รายได้ท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไทยมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตสูงกว่าจำนวนคน ตอบโจทย์นโยบายของ ททท.
ดังนั้นในการประชุมแผนการตลาด ททท.ประจำปี 2563 จะใช้โอกาสมีเที่ยวบินตรงจากเวียดนามเข้าไทย เตรียมเจาะกลุ่มตลาดหลักได้แก่ 1.กลุ่มเวียดนามเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรก (first visit) 2.กลุ่มครอบครัวคุณภาพอายุไม่เกิน 40 ปี มีลูกเล็ก ๆ ครอบครัวละ 2 คน 3.กลุ่มใหม่ในพื้นที่มีเที่ยวบินตรงมาไทย 4 เมือง ได้แก่ เกิ่นเธอ ญาจาง ดาลัต ไฮฟอง เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวไทย โดยใช้กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์เชิงรุก ทำงานกับสายการบิน และเอเย่นต์ เพิ่มมากขึ้น
ตั้งเป้าหมายเจาะกลุ่มเวียดนามเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกจากทั้ง 4 เมืองหลัก ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 คน
ระหว่างงาน Thailand Travel Mart Plus 2019 : TTM+2019 เมื่อวันที่ 5-7 มิถุนายน 2562 ณ โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ พัทยา ได้เข้าร่วมพร้อมทั้งวางกลยุทธ์เน้นส่งเสริมจุดขายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองหลัก พัทยา ชลบุรี ไปสู่เมืองรองรอบบริเวณภาคตะวันออก ได้นำสื่อแขนงต่าง ๆ จากเวียดนามสำรวจเส้นทางในจังหวัดจันทบุรี และพัทยา ชลบุรี ซึ่งโด่งดังในตลาดนี้รู้จักเป็นอย่างดี สามารถโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงโดยได้สร้างประสบการณ์ต่อเนื่องสู่จันทบุรี ซึ่งมีชุมชนชาวเวียดนามอาศัยอยู่รอบบริเวณริมน้ำจันทบูร และมีไฮไลต์เป็นโบสถ์แคทอลิก ได้นำเสนอถึงวิถีชีวิตการอยู่ร่วมกันระหว่าง เวียดนาม ไทย จีน อยู่กันมากว่า 300 ปี รวมทั้งเป็นแหล่งผลิตพลอยชั้นเยี่ยม จึงพาไปยังที่พลอยเหล็กเพชรสร้างประสบการณ์พร้อมกับรับรู้ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์
ประการสำคัญได้พาชมสวนชิมผลไม้ควบคู่กับการให้ความรู้ถึงศักยภาพของจันทบุรีเป็นหนึ่งในมหานครผลไม้ของไทย สามารถนำข้อมูลไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อให้บริษัทนำเที่ยวบรรจุขายโปรแกรมท่องเที่ยวสวนผลไม้ได้
ซึ่งจะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในพัทยา สามารถนำเสนอขายได้ทั้งแหล่งท่องเที่ยวดั้งเดิมผนวกเข้าแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ไฮไลต์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ The Legent Pattaya เป็นเรื่องราววิถีความเป็นไทย 3 ยุค ตั้งแต่สมัยอยุธยา รัตนโกสินทร์ และปัจจุบัน บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งเรื่องการแต่งกาย วัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งชีวิตสมัยกรุงศรีอยุธยาผ่านภาพยนตร์โดนใจชาวเวียดนาม เรื่องแม่นาคพระโขนง ได้จำลองสถานที่บ้านพักอาศัยของแม่นาคไว้ให้ด้วย และการแสดงของ KANN SHOW ได้รับการบรรจุขายไว้ในโปรแกรมทัวร์โดยในช่วงงาน TTM+2019 มีชาวเวียดนามเข้าคิวซื้อชมโชว์รอบละกว่า 100 คน
ผอ.นภสรกล่าวว่าขณะนี้วางกลยุทธ์การขายเชื่อมโยง 3 ประเทศ จากเวียดนาม-สปป.ลาว-กัมพูชา ตามปกติจะมีชาวเวียดนามภาคกลางจากเมืองเว้ ดานัง นิยมเดินทางบกเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยผ่านมาทางภาคอีสาน ปัจจุบันได้บุกเจาะตลาดทางตอนแหนือของเวียดนามโดยหารือกับนำเที่ยวและสายการบิน ทำแพกเกจบินตรงจากฮานอยเข้าเวียงจันทน์ สปป.ลาว พักค้าง 1 คืน แล้วบินตรงเข้าจังหวัดอุดรธานี ท่องเที่ยวตามเส้นทางสำคัญทางประวัติศาสตร์บ้านลุงโฮ อนาคตอันใกล้จะขยายจุดเชื่อมต่อเส้นทางที่ลุงโฮเคยมาพำนักอาศัยอยู่ทั้งในหนองคาย อุบลราชธานี นครพนม สร้างการท่องเที่ยวกระจายจำนวนและรายได้อย่างทั่วถึงสู่ท้องถิ่น
โดยสรุปการนำสื่อมวลชนเวียดนามเข้ามาร่วมงาน TTM+2019 เพื่อปูพรมข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เมืองรอง และพื้นที่เป้าหมายตามเส้นทางเชื่อมโยงก่อน หลังจากนั้นจะนำบริษัทตัวแทนจัดนำเที่ยวเวียดนามเดินทางเข้ามาพบปะกับตัวแทนการขายในแต่ละจังหวัดของไทย ตอนนี้จันทบุรีน่าสนใจสามารถเชื่อมโยงเข้ากับพัทยาได้
ขณะเดียวกันการขยายเส้นทางท่องเที่ยวรอบระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) สามารถทำได้เพราะตามปกติชาวเวียดนามนิยมขับรถเที่ยวเข้ามาถึงบริเวณนี้ได้ แต่หน่วยงานเกี่ยวข้องก็ควรจะพัฒนาความสะดวกระเบียบการขออนุญาตนำรถเข้าไทย พิธีการผ่านแดน และการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพราะความต้องการของนักท่องเที่ยวเวียดนามขณะนี้ต้องการมาเป็นครอบครัวโดยขับรถมาเอง เพียงแต่ต้องการความชัดเจนจากไทยทุกขั้นตอนการเดินทางมายังจุดหมายปลายทาง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “ช้อปคิงเพาเวอร์ทุกสาขาผ่อน0%10เดือนข้ามปี”
สมาชิกคิง เพาเวอร์ ช้อปสนุก แบ่งจ่ายสบาย แบ่งชำระ 0% สูงสุด10เดือน เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2563 ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และมหานคร คิงเพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และศูนย์ปฏิบัติการ การบินไทย
โดยมีกติกาให้ร่วมช้อปปิ้งอย่างสนุก ดังนี้ ทำยอดซื้อสินค้าเพื่อรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% ต้องเป็นยอดซื้อหลังจากหักส่วนลดต่างๆ (ยอดสุทธิ) ภายในแผนกสินค้าเดียวกัน เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ ตรวจสอบสินค้าเพิ่มเติม ณ จุดขาย
ยอดซื้อที่เกิดจากการเข้าร่วมโครงการผ่อนชำระ 0% สามารถร่วมรายการส่งเสริมการขายประจำเดือนได้ รวมถึงรายการ CARAT Rewards และการสะสมยอดซื้อเพื่อปรับสถานภาพสมาชิกสามารถใช้ร่วมกับส่วนลดสำหรับสมาชิกคิง เพาเวอร์ สำหรับรายการ Birthday Celebrations ไม่สามารถร่วมรายการ ยกเว้น บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ สามารถร่วมรายการ และผ่อนชำระได้ 3 เดือน
ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์ชวนช้อปขาเข้าลดสูงสุด800บาทถึง30มิ.ย.”
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดแคมเปญให้ช้อปในร้านค้าบริเวณขาเข้า รับส่วนลดสูงสุด 800 บาท ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต (ร้านค้าขาเข้า) ระหว่างวันนี้ – 30 มิถุนายน 2562
พิเศษ สำหรับพาสปอร์ตไทย และสมาชิกคิง เพาเวอร์ ช้อปครบ 3,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ลดทันที 300 บาทช้อปครบ 5,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) / ใบเสร็จ ลดทันที 800 บาท
เงื่อนไข – เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดจากบัตรสมาชิกคิง เพาเวอร์
ไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์ Birthday Celebration , E-Purse, E- Cash, Cash Card , Gift Card , Gift Voucher, Cash Voucher รวมถึงคูปองส่วนลดอื่นๆ ยกเว้น E-Purse ที่ได้รับจากการสมัครบัตรสมาชิก สามารถร่วมรายการ
ผ่อนชำระ 0% สามารถร่วมรายการ และบัตรเครดิตร่วมคิง เพาเวอร์กับธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย สามารถร่วมรายการ
ข่าวที่ 3 “เอกชนยัน TTM+2019ดันเมืองหลัก-รองสำเร็จเกินคาด”
ผู้สื่อข่าวรายงานตลอดการจัดงาน Thailand Travel Mart Plus 2019 : TTM+2019 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่าง 6-7 มิถุนายน 2562 ที่โอเชียนมารีน่า ยอร์ช คลับ พัทยา กลุ่มตัวแทนผู้ขายคนไทยจากทั้ง 5 ภูมิภาค พึงพอใจสูงมากกับการได้เจรจาธุรกิจกับกลุ่มผู้ซื้อจากทั่วโลกซึ่งเป็นกลุ่มที่ฐานลูกค้ากลุ่มคุณภาพสูงอยู่ในมือเป็นจำนวนมาก สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของไทย
@เมืองรองสำเร็จเกินคาดเหนือ-อีสาน-ใต้เข้าตาลูกค้าTTM+2019
นายสมชาย ยี่จอหอ ผู้ก่อตั้ง Doister แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ประสบความสำเร็จสูงมากจากการนำเสนอของฝาก ของที่ระลึก ของใช้ พร้อมขายผลิตภัณฑ์ของภาคต่าง ๆ รวมกว่า 1 ล้านบาท ส่วนไฮไลต์หลักตั้งเป้าร่วมเผยแพร่ศิลปะ วัฒนธรรม สอนทำ D.I.Y.สร้างประสบการณ์แก่ผู้ซื้อและผู้ขายได้เรียนรู้การท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน เมืองรอง ในงาน TTM+2019 ตลอด 3 วัน ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน โชว์ผ้าย้อมครามบ้านมัดใจ กับดอยสเตอร์ ส่วน จ.เลย มีกลุ่ม โฟล์คคราม ภาคอีสาน กลุ่มสกลเฮด จ.สกลนคร โชว์ผ้าพื้นเมือง ภาคใต้ โชว์เสื่อกระจูด จ.พัทลุง ได้รับความสนใจอย่างคับคั่ง
โดยมีบริษัทผู้ซื้อหลายประเทศแวะเวียนมาเยี่ยมชมร่วมทำ D.I.Y. เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ประการสำคัญสนใจจะไปเที่ยวในชุมชน เช่น บริษัทท่องเที่ยวกลุ่มจีน จึงให้ข้อมูลพร้อมช่องทางการเข้าถึงสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวในเครือข่าย ซึ่งขณะนี้มีจีนไปเที่ยว อำเภอปาย ปางมะผ้า และเตรียมขยายไปยัง ขุนยวม แม่ลาน้อย ได้ ซึ่งทางแม่ฮ่องสอนได้รวมตัวกัน 16 ชุมชนจับมือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวตั้งบริษัท ไทยโลคอลลิสต้า จำกัด ขึ้น เพื่อทำงานร่วมกับสมาคมท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Thailand Resiponsible Tourism Association : TRTA) พัฒนาแหล่งและทำการตลาดคุณภาพเดินหน้าการท่องเที่ยวชุมชนในระยะยาวให้ยั่งยืนตลอดไป
นายแดนนี่ สุโกมล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มสันธิยา รีสอร์ต แอนด์ สปา เปิดเผยว่า การเข้าร่วมงานมีโอกาสนัดพบเจรจาธุรกิจมากกว่า 30 นัดหมาย คู่ค้าส่วนใหญ่ของกลุ่มยังคงเป็นตลาดยุโรป โดยเริ่มมีจีนกลุ่มระดับบนเป็นน้องใหม่มาแรงด้วย และในช่วงปลายปีนี้เตรียมเปิดบริการโรงแรมใหม่ สันธิยารีสอร์ตแอนด์สปาเกาะช้างอีก 1 แห่ง ได้นำมาขายด้วยก็ได้รับความสนใจดีมาก
กลุ่มโรงแรม โซล ทวิน ทาวเวอร์ สะท้อนผลการเข้าร่วมงานครั้งนี้ว่า ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย ได้เจรจาธุรกิจกับคู่ค้าหลากหลายตลาดที่มีศักยภาพ ทั้ง ยุโรป จีน และอื่น ๆ
และโดยภาพรวมผู้ประกอบการไทยจากเมืองหลักและเมืองรองที่นำโปรดักซ์การท่องเที่ยวเข้าร่วมขายในงาน ส่วนใหญ่ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าประสบความสำเร็จดีเกินคาด
ข่าวที่ 4 “บางจากอัดบิ๊กโปรเติมน้ำมันลุ้นโชคทองกว่า5ล้าน”
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนเติมน้ำมันลุ้นรับโชคทอง กับแคมเปญสุดปัง “ลุ้นโชค...ทองมหามงคล กับ น้ำมันบางจาก ระหว่างวันนี้ - 15 ส.ค. 62 เพียงแค่เติมน้ำมันบางจากครบทุก 700 บาท รับคูปองชิงโชค 1 ใบ และพิเศษ! สมาชิกบัตรบางจาก และบัตรเกษตรสุขใจ รับสิทธิ์คูปอง 2 ใบ ลุ้นรับโชคทองรวมกว่า 1,000 รางวัล มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากทุกสาขาทั่วประเทศ
กติกาง่าย ๆ ในการลุ้นรับโชคทองคำ 1. เติมน้ำมันบางจากทุกผลิตภัณฑ์ครบทุก 700 บาท รับคูปอง 1 ใบ (สมาชิกบัตรบางจาก และบัตรเกษตรสุขใจ รับสิทธิ์ 2 ใบ) 2. เขียนรายละเอียดในคูปองให้ครบถ้วน หย่อนกล่องชิงโชค 3.บางจากกำหนดประกาศรายชื่อผ่านเว็บไซต์บางจากเพื่อให้ผู้โชคดีติดต่อขอรับรางวัล ภายใน 60 วัน หลังจากวันประกาศรายชื่อ หากเลยกำหนดดังกล่าวถือเป็นโมฆะ 4.ผู้โชคดีจะต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่าของรางวัล
สำหรับรางวัล รางวัลที่ 1 : ทองคำแท่ง 1 บาท มูลค่า 21,961.22 บาท 15 รางวัล รางวัลที่ 2 : สร้อยคอทองคำ 1 สลึง มูลค่า 5,278.98 บาท 990 รางวัล
จะจับรางวัลทุกเดือนรวม 3 ครั้ง 335 รางวัล/ครั้ง รวม1,005 รางวัล ตามรายละเอียดดังนี้
ครั้งที่ 1 รวบรวมคูปองที่ส่งตั้งแต่ 15 พ.ค.- 15 มิ.ย. 62 จับรางวัล 9 ก.ค. 62 เวลา 10:00 – 12:00 น. ประกาศผล 15 ก.ค. 62 แจกทองคำหนัก 1 บาท 5 รางวัล และสร้อยคอทองคำ 1 สลึง 330 รางวัล
ครั้งที่ 2 รวบรวมคูปองที่ส่งตั้งแต่ 16 มิ.ย. - 15 ก.ค. 62 จับรางวัล 7 ส.ค. 62 เวลา 10:00 – 12:00 น.ประกาศผล 14 ส.ค. 62 แจกทองคำหนัก 1 บาท 5 รางวัล สร้อยคอทองคำ 1 สลึง 330 รางวัล
ครั้งที่ 3 รวบรวมคูปองที่ส่งตั้งแต่ 16 ก.ค. - 15 ส.ค. 62 จับรางวัล 6 ก.ย. 62 เวลา 10:00 – 12:00 น.ประกาศผล 13 ก.ย. 62 แจกทองคำหนัก 1 บาท 5 รางวัล และสร้อยคอทองคำ 1 สลึง 330 รางวัล
สอบถามเพิ่มเติม : Call Caenter โทร 1651 กด 3 หรือ Call Center ธ.ก.ส. โทร 02555 0555
ช่วงที่ 2 ชวนกันเที่ยวหน้าฝนใน “แพร่-อุตรดิตถ์” ปักหมุดเที่ยวชุมชน “บ้านทุ่งโฮ้ง” แหล่งผลิตผ้าหม้อห้อม ย้อมคราม” สุดปังของเมืองไทย แล้วไปเพลิดเพลินกับการกินทุเรียนพันธุ์เด็ด “หลิน-หลง ลับแล” สำรวจถนนราษฎร์อุทิศ กินแหลกกับเมนูคาวหวานพื้นบ้านแห่งเดียวในประเทศ จากนั้นมาดูว่า “ขยะอันตรายใกล้ตัวต้องรีบจำกัด” มีอะไรบ้าง ปิดท้ายด้วยข่าวประเด็นเด็ดในรอบสัปดาห์
กระแสเที่ยวภาคเหนือหน้าฝนเป็นอีกทางเลือกมาแรง เที่ยวแพ็กคู่เมืองรอง 2 จังหวัด “แพร่กับอุตรดิตถ์” ใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ ปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามถนน ในบรรยากาศสายฝนเย็นฉ่ำ สบายตากับทุ่งนาป่าเขาเขียวขจี และคลื่นทะเลหมอกสีขาวสวยงาม
ปักหมุดเที่ยวชุมชนก่อนเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิต ซึ่งเป็นจุดเริ่มที่ทำให้คนรู้จักแพร่ในฐานะเมืองหม้อฮ่อม กันที่ “หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง” ใน “ศูนย์เรียนรู้การย้อมผ้าหม้อห้อม...ป้าเหงี่ยม” ดื่มด่ำกับเรื่องราวของภูมิปัญญาพื้นบ้านกว่า 200 ปี ด้วยกรรมวิธีนำต้นครามมาย้อมเป็น สีน้ำเงิน สีคราม สีฟ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสนุกกับการลองย้อมด้วยตนเองได้
จากนั้นแนะนำให้ตลุยไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่รบอเมือง ไฮไลต์ต้องแวะ “วัดพระธาตุช่อแฮ” ปีนี้ฉลองครบ 666 ปี “วัดสูงเม่น” ซึ่งมีโบราณวัตถุล้ำค่า โดยเฉพาะความโดดเด่นของพระพุทธรูป มีทั้งแบบแกะสลักไม้ ถอดชิ้นส่วนได้ และเจดีย์พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทยกับภาษาบาลี ลัดเลาะต่อไปยังพระธาตุถิ่นแถนหลวง พิพิธภัณฑ์ไทลื้อบ้านถิ่น คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ ชมสถาปัตยกรรมทรงไทยผสมยุโรปยุคต้นสมัยรัชกาลที่ 5
ต่อด้วย “อุตรดิตถ์” ช่วงหน้าฝน ปักหมุดเที่ยวทั่วอำเภอลับแล ดินแดนเมืองผลไม้ยอดนิยม “ทุเรียน” พันธุ์ หลง-หลิน ลับแล” เป็นทุเรียนพื้นบ้านปลูกในบ้านและขึ้นบนภูเขารสชาติอร่อยแปลกแตกต่างจากพันธุ์อื่น ๆ สามารถแวะชมชิมช้อตามบ้านและตลาดเทศบาลตำบลหัวดงได้
ไฮไลต์ในลับแลมี“ถนนคนกิน-ถนนราษฎร์อุทิศ” มีร้านเรียงรายให้เลือกชิมได้นับสิบร้านตลอดสองข้างทาง มีให้เลือกหลากหลายทั้งคาวหวานของรับประทานเล่น อย่าง “ข้าวแคบ” ทำจากแป้งข้าวเจ้าหมักนำไปตากแดด โรยหน้าด้วยงาดำ กุ้งแห้ง พริกสด ใบเตยหอม ส่วน “หมี่พัน” เป็นขนมกินเล่น ซึ่งเกิดจากการนำเส้นหมี่ขาวลวก เติมผัก เติมกากหมู ปรุงน้ำตาล น้ำปลา พริกป่น มะนาว ม้วนและพันเป็นแท่งบาง ๆ “ข้าวพันผัก” ลักษณะคล้ายข้าวเกรียบปากหม้อราดซอสสุกี้หรือซอสสูตรของแต่ละร้าน “ตะบองทอด” ทำจากหน่อไม้ยัดไส้หมูสับ หากินได้ที่ลับแลแห่งเดียวเท่านั้น
จะไปเที่ยวแพร่และอุตรดิตถ์สามารถสอบถามเพิ่มได้ที่ ททท. สำนักงานแพร่ โทร. 0-5452-1127
@ขยะอันตราย...ที่ใกล้ตัว ต้องรีบคัดแยกโดยด่วน
ขึ้นชื่อว่าเป็นขยะอันตราย ย่อมต้องอันตรายสมชื่อแน่นอนค่ะ แล้วเราควรทิ้งและจัดการอย่างไร อ่านต่อได้ที่นี่เลยนะคะ
1.ถ่านไฟฉาย : มีแมงกานีส - ทำให้ปวดหัว เป็นตะคริวที่แขนขา สมองอักเสบ
2.หลอดฟลูออเรสเซนต์ : มีปรอท - ทำให้เหงือกบวม ท้องร่วงรุนแรง กล้ามเนื้อกระตุก
3.แบตฯรถยนต์ : มีตะกั่ว - ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ความจำเสื่อม ชักกระตุก
4.น้ำยาทำความสะอาด : มีแอมโมเนีย - มีเสมหะ เจ็บหน้าอก ชัก ถ้าสัมผัสจะไหม้ผิ
5.แบตฯมือถือ – มีนิกเกิล - มีอาการแพ้ตามผิวหนัง มีแผลไหม้ แน่นหน้าอก
6.ทินเนอร์ – มีสารทำละลาย - คลื่นเหียน ระบบทางเดินอาหารอาจหยุดทำงาน
คัดแยก “ขยะอันตราย” ตั้งแต่วันนี้ :
-ทิ้งในถังขยะอันตรายสีเทาส้มเท่านั้น
-ไม่นำไปเผา ฝัง หรือทิ้งแหล่งน้ำ
-ถ้าเป็นของเหลว อย่าเทรวมกัน
-ถ้าเป็นของแข็ง ระวังภาชนะไม่ให้แตกหัก
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “จุฬาฯทุ่มพัฒนาท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์วิถีชุมชนยั่งยืน”
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สร้างศักยภาพท้องถิ่นและชุมชนด้วยนวัตกรรม ปักหมุดน่านและอันดามันพื้นที่ต้นแบบ ผนึกกำลังของนักวิจัยจากสหสาขาวิชาจาก 11 คณะและสถาบัน พร้อมภาคีเครือข่าย สร้างมิติความร่วมมือ 4 ประสาน รัฐ เอกชน ชุมชน และสถาบันการศึกษา ยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวสู่ชุมชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและสังคมไทยอย่างยั่งยืน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสถาบันเอเชียศึกษา ได้จัดทำโครงการการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Development of Creative Tourism) ระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากโครงการสร้างเสริมพลังจุฬาฯ ก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 จำนวน 54.4 ล้านบาท ประกอบด้วยชุดโครงการ 2 ชุด ได้แก่ ชุดโครงการที่ 1 การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในพื้นที่จังหวัดน่าน ชุดโครงการที่ 2 การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เพื่อสังคมพหุวัฒนธรรม
ข่าวที่สอง “บินไทยลดค่าธรรมเนียมน้ำมันทำตั๋วถูกลงทั่วโลก”
นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า การบินไทยเตรียมปรับลดค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) ตามระยะทางที่ทำการบินจริง ทุกเส้นทางบิน ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ราคาตั๋วโดยสารถูกลงในเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก เป็นผลดีที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาเลือกใช้บริการการบินไทยเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ดูข้อมูลเพิ่มที่ www.thaiairways.com หรือโทร.สอบถาม 0-2356-1111 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
@EEC โมเดลปั้นแรงงานป้อน12อุตปี63กว่าหมื่นคน
ดร.อภิชาต ทองอยู่ ประธานคณะทำงานศูนย์ประสานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก EEC HDC เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษากลุ่มอาชีวะศึกษาทั่วประเทศและต่างประเทศ จัดทำโมเดลต้นแบบเทรนด์ใหม่ในการผลิตบุคลากรเข้าสู่อาชีพตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไปให้ได้ปีละกว่า 10,000 คน เพื่อเตรียมไว้ป้อน EEC 12 อุตสาหกรรมหลัก ซึ่งมีความต้องการแรงงานอีก 5 ปีข้างหน้ารวมกว่า 4.75 หมื่นคน
ขณะนี้หารือกันเรียบร้อยแล้วจะใช้วิธีให้เด็กระดับอาชีวะศึกษาเรียนและเข้าไปทำงานจริงกับโรงงาน เพื่อฝึกทักษะเรียนรู้ของจริงจนมีความชำนาญพอจบการศึกษาก็เข้าทำงานได้ทันที โดยจัดทำเป็ฯหลักสูตรยะสั้น 3 แบบ ประกอบด้วย 1.New Skill 2.Up Skill 3.Re Skill เพื่อเร่งผลิตป้อนอุตสาหกรรมที่มีเปอร์เซ็นต์ความต้องการสูง ได้แก่ 1.ดิจิตอล ต้องการมากถึง 1.16 แสนคน คิดเป็น 24 % 2.โลจิสติกส์ 1.09 แสนคน คิดเป็น 23 % เพื่อรองรับเมืองการบินอู่ตะเภาในอนาคต 3.อิเลคทรอนิกส์อัจฉริยะ 5.8 หมื่นคน คิดเป็น 12 % และ 4.ท่องเที่ยวกับภาคบริการ ต้องการสูงถึง 1.69 หมื่นคน คิดเป็น 4 %
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
รุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ททท.นครสีมานำธุรกิจพลิกโฉมตลาดปี 67 เที่ยวโคราช-ชัยภูมิ ปลุกกระแส 3 วัยเที่ยวมุมใหม่เมืองย่าโม 3 มรดกโลก 10 อำเภอ จัดชุดใหญ่ Soft Power365 วัน 2 จว. 5 จุดขาย-สงกรานต์สนุกแน่ สมัคร!!สมาชิกคิงเพาเวอร์มี.ค.รับกิฟท์โวเชอร์/กะรัต/ส่วนลด THE POWER BAND# 4คิงเพาเวอร์แจก2ล้านนักดนตรีอาชีพ พลูแมนคิงเพาเวอร์ชูแพ็คเกจ Wedding แจก12รายการ2-3มี.ค. ททท.หนุน PELUPO ปักหมุดพัทยาบูมเที่ยวเทศกาลดนตรีโลก บางจากนำโมเดลสมดุลเพื่อโลกยั่งยืน ESG ส่งต่อผู้อบรมกปร. สุขทันทีนั่งรถม้าเที่ยวลำปาง-วัดพระพุทธบาทผาหนามลำพูน นายกฯจุดฝันไทยฮับบินโลกดันสุวรรณภูมิติดท็อป 20 รุก 5 ส่วน 800 บูธร่วมมหกรรมลดกระหน่ำเทศกาลเที่ยวไทยถึง 3 มี.ค. 67 วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen #gurutourza # รวยด้วยข่าวเสาร์อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น