ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ททท.”พลิกโฉมท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง“ตลาดในปท.-อินเตอร์-สินค้า”-เที่ยวไทยพุ่งเดือนละ10ล้านคน-พ.ค.65นำธุรกิจบุกขายATM+โร้ดโชว์ซาอุรุกทัวร์รวย

บิ๊ก“ททท.”พลิกโฉมท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง“ตลาดในปท.-อินเตอร์-สินค้า”

ข่าวใหญ่“เที่ยวไทย”พุ่งเดือนละ10ล้านคน-สงกรานต์เน้นวัฒนธรรม

พ.ค.65นำธุรกิจบุกขายATMตะวันออกกลาง+โร้ดโชว์ซาอุรุกทัวร์รวย

คิงเพาเวอร์”จัดทัพช้อปรับซัมเมอร์บูมขาย10แบรนด์ดังไทยหนุนBCG

3ธุรกิจคิงเพาเวอร์รางน้ำ-อักษรา-มหานคร”แชมป์รางวัลSHAAwards

ช้อปคิงเพาเวอร์ปังๆมี.ค.แบรนด์ดังMust Have+Most Wantลด50%

ททท.แอลเอผนึกHotelbedsบิ๊กแบรนด์อเมริการุกขายเที่ยวไทยมี.ค.65

ททท.ถือฤกษ์ครบ62ปีชูดิจิทัลเชื่อมฐานข้อมูลท่องเที่ยว13พับินธมิตร

“เพชรบุรี”ชวนเที่ยวฤดูผีเสื้อนั่งรถรางฟรีขึ้นเขาวังสักการะวัดศักดิ์สิทธิ์

ร้อนนี้ระวัง!!โรคฮีทสโตรกแนะ5กลุ่มเสี่ยงต้องรีบป้องกันตัวเองด่วนๆ

พลิกโฉมจัดฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ฯปี65เอเชียร่วมค้าคึกคัก21-24ก.ย.นี้

บางกอกแอร์เทโปรบิ๊กล็อตบินทั่วไทย6เส้นทางลดราคาตั๋วเบิ้ม ๆ 10%

 


 วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #ทททครบ62ปี  #เที่ยวเพชรบุรีหน้าร้อน

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://fb.watch/bR4xCCAy6T/

ช่วงที่ 1 เกาะติดสถานการณ์ท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง 2565 กับ “ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พลิกโฉม 3 เรื่อง “ตลาดในประเทศ-ต่างประเทศ-จับคู่สินค้ากับนักเดินทาง” ข่าวดี !! ตั้งแต่ ม.ค.65 “สถิติ“ไทยเที่ยวไทย” ใกล้ปกติเที่ยวทะลุเดือนละ 10 ล้านคน-ครั้งขึ้นไป เติมความหวังรายได้เข้าเป้า 5.65 แสนล้าน ด้าน “ต่างประเทศ” สถานการณ์สู้รบรัสเซียกับยูเครนแก้ตามเกม จากตัวเลขต่างชาติลงทะเบียน Thailand Pass ยังฉลุยบางวันเฉลี่ย 8,000 คน ททท.พร้อมใช้จังหวะกระตุ้นตลาดยุโรปทุกฤดู “อีสเตอร์-ซัมเมอร์-วินเทอร์” พฤษภาคมนี้นำเอกชนบุกขายในงาน “ATM อาระเบียน แทรเวล มาร์ต 2022” ดูไบ เจาะตลาดใหญ่ตะวันออกกลาง ทำโร้ดโชว์ต่อ 2 เมืองหลักซาอุดิอาระเบีย “เจดดาห์-ริยาร์ด” ปีนี้ได้แน่ 2 แสนคน บูมทัวร์สุขภาพ เที่ยวทะเล ใช้จ่ายเฉลี่ย 6-70,000 บาท/คน/ทริป สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 2 เท่า

 

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การวางกลยุทธ์ช่วงครึ่งหลังปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นเศรษฐกิจประเทศตามนโยบายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ททท.จะขับเคลื่อน 3 เรื่องใหญ่ ประกอบด้วย

เรื่องที่ 1 กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยปรับไทม์ไลน์ให้สอดคล้องกับกระทรวงสาธารณสุขกำลังเตรียมประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นภายในเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป ททท.ก็ต้องเตรียมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยววันธรรมดา รวมถึงการกำหนดธีมการท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค ตั้งแต่ เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน Trendy C2 ภาคกลาง หร็อยแรงแหล่งใต้ สบ๊ายสบายภาคตะวันออก ควบคู่กับการกลับมาจัดกิจกรรมต่าง ๆ ไฮไลต์เทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เกิดการเดินทางอย่างปลอดภัย

ปี 2565 ยังคงเป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศไว้ที่ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 565,000 ล้านบาท

เรื่องที่ 2 ขับเคลื่อนตลาดต่างประเทศหลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ ตามที่ได้ทำ SandBox เมื่อกรกฎาคม 2564 ต่อด้วย Test & Go เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ตอนนี้ก็มุ่งทำให้เกิด Ease of Travelling หาวิธีเพิ่มความสะดวกให้ในการเดินทางต่างประเทศเข้าไทย จะต้องสอดคล้องกับการแข่งขันของแต่ละประเทศด้วย เพราะหลายประเทศเริ่มกลับมาขายท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว

ปี 2565 เป้าหมายนักท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ ทาง รมว.พิพัฒน์ให้ ททท.ต้องทำประมาณ 10 ล้านคน

เรื่องที่ 3 การปรับโฉมจุดขายทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับ เป้าหมายรายได้ท่องเที่ยว “ช่วงครึ่งปีแรก” ตามงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564-มีนาคม 2565) ถือเป็นเรื่องท้าทาย ททท.จะพยายามไปให้ถึง อย่างน้อยที่สุดไม่ว่าจะ “เปิดประเทศ” ได้หรือไม่ แต่ “ในประเทศ” จะต้องเป็นฐานที่มั่นคง ดังนั้นจึงต้องเร่งสปีดจากนี้เป็นต้นไป



ตัวเลขการท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่ “มกราคม 2565” เป็นต้นมา ในช่วงโควิดโอมิครอนระบาด แต่ “จำนวนนักท่องเที่ยว” สามารถกลับมาเดินทางท่องเที่ยวได้เดือนละ 10 ล้านคน-ครั้ง ใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติมีเดือนละ 15 ล้านคน-ครั้ง ถ้าสามารถรักษาระดับไว้เท่านี้ก็มีโอกาสเป็นไปตามเป้าหมายได้สูง จะต้องดูปัจจัยประกอบกรณีคนไทยเที่ยวในประเทศมีข้อจำกัดบ้าง ประกอบกับการเตือนจากทางสาธารณสุขอาจมีผลต่อการเดินทางอยู่บ้าง

ถ้าวิเคราะห์จากตัวเลขแล้ว หาก “คนไทยยังไม่สามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้” เพื่อความปลอดภัย ททท.ก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ได้ตามเป้าหมายได้

ส่วน “การจัดเทศกาลเที่ยวสงกรานต์ปีขาลอย่างปลอดภัย” จะต้องใช้มาตรการด้านสาธารณสุขเป็นหลัก 1.ตรวจผู้เข้าร่วมงานเน้นเรื่อง “การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น” 2.กิจกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยง ต้องเปิดหน้ากาก หรือรดน้ำ สาดน้ำ จะทดแทนด้วยกิจกรรมวัฒนธรรม

3.การเคลื่อนย้ายคนจากแต่ละพื้นที่ไปยังอีกพื้นที่ หลายแห่งหลายหน่วยคงจะเตรียมแล้ว ททท.คงจะขอความร่วมมือเรื่องการตรวจคนเข้างาน เพราะเมษายนนี้คนไทยก็ยังคงต้องอยู่กับโควิด-19 หลายหน่วยงานคาดการระบาดอาจจะเพิ่มด้วย แต่อย่างไรก็ดีก็ต้องไม่ประมาท นักท่องเที่ยวจากต้นทางจะต้องปฏิบัติตนดูแลความปลอดภัยแบบการ์ดไม่ตก ส่วนพื้นที่ท่องเที่ยวปลายทางก็ต้องอำนวยความสะดวกบนพื้นฐานความปลอดภัย

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวถึงประเด็นความร้อนแรงของ “สถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน” ต้องยอมรับว่าหลังจากรัฐบาลไทยประกาศเดินหน้าภายใต้มาตรการ TEST & GO ให้ต่างชาติเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาจาก “ยุโรป” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “นักท่องเที่ววรัสเซีย” เมื่อเกิดการสู้รบเกิดขึ้น ก็คงจะต้องจับตาไม่เฉพาะ ททท.เท่านั้น ทุกฝ่ายในโลกก็อยากเห็นการต่อสู้ยุติโดยเร็ว

กรณียัง “อยู่ในช่วงสถานการณ์ไม่ยุติ” ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว เพราะบางกลุ่มอาจจะเลือกอยู่บ้านดีที่สุด หรือบางกลุ่มอาจจะมองว่าสถานการณ์แบบนี้สามารถขยับไปอยู่สถานที่ปลอดภัย โดยเฉพาะ “ประเทศไทย” ถือเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ ช่วงที่ผ่านมามีผลงานการรับมือกับโควิด-19 ผมถือว่าไทยเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยระดับดีที่ทุกคนอยากเดินทางมา แต่ต้องอยู่ “บนเงื่อนไข -สถานการณ์ตรึงเครียด” ครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง รวมทั้งการทำธุรกรรมต่าง ๆ ยังไม่ได้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะยังคงทำให้ชาวต่างชาติเลือกเดินทางมาไทย แต่จะ “พักนานขึ้น” หรือไม่ เป็นเรื่องตอบยากเหมือนกัน


ดร.ยุทธศักดิ์ ย้ำว่า จากการวิเคราะห์ตัวเลขต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยที่ลงทะเบียนผ่านระบบ THAILAND PASS  สถิติสูงสุดในแต่ละวันประมาณ 8,000 คน จากเดิมเริ่มต้นเพียงวันละหลัก 100 คน หรือบางวันขยับเป็น 3,000 คน ททท.ก็ดีใจแล้ว เพราะในอดีตที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเดือนละ 3 ล้านคน ค่าเฉลี่ยวันละ 10,000 คน เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบันก็อาจเข้าใกล้สถานการณ์ปกติ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีตัวเลขสูงทุกวัน แต่ประเมินจากค่าเฉลี่ยตัวเลขดีขึ้นเรื่อย ๆ

“ผมคิดว่าหากตอนนี้ไม่มีสถานการณ์อะไรหนัก ๆ ตัวเลขการท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศมาไทย ก็น่าจะฟื้นตัว ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็มีตัวแปรคือ “ฤดูกาลเดินทาง” ของตลาดยุโรปช่วงจะยังไม่ค่อยเดินทาง เพราะพ้นวันหยุดช่วงฤดูใบไม้ผลิ (Easter) เข้าสู่ฤดูร้อน (Summer) ก็จะต้องรอดูช่วงฤดูหนาว (Winter) อีกครั้ง”

ดร.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนจะเกิดสถานการณ์รัสเซียบุกยูเครน ทาง ททท.วางแผนเดินหน้าทำตลาดโดยเตรียมกระตุ้นการท่องเที่ยวในฤดูอีทเทอร์กับซัมเมอร์ไว้ แต่พอเกิดเหตุการณ์มากขึ้น ททท.ได้ทำ 1.ประเมินสถานการณ์อยู่ แต่คิดว่า ยังมองซัมเมอร์ชาวยุโรปจะเดินท่องเที่ยวในประเทศใกล้เคียง หรือบางกลุ่มอาจมองหาประเทศที่ปลอดภัย 2.เจาะตลาดกลุ่มใหม่ ๆ พยายามจะเปิดพรมแดน Overland จากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว มาเลเซีย รวมทั้งตลาดใหม่อย่าง ซาอุดิอาระเบีย และอินเดีย ได้เปิดทำ Air Travel Bubble เรื่องการบินระหว่างกันเรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนตลาด “กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง” ตามรายงานของ ททท.สำนักงานดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ให้ความสนใจมาก เพราะสามารถตอบโจทย์หลายรูปแบบ ได้แก่

1.กลุ่มเดินทางดูแลป้องกันรักษาสุขภาพ (Health & Wellness)

 

2.นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน (Leisure) ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเล อาหารอร่อย คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี

3.เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีกำลังการใช้จ่ายเงินระหว่างเดินทางเข้ามาไทยเฉลี่ยคนละเกินกว่า 60,000-70,000 บาท สูงกว่านักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปใช้เงินค่าเฉลี่ย 40,000 บาท/คน/ทริป

4.นักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศตะวันออกกลางสามารถกระจายสู่ท้องถิ่นต่าง ๆ ได้เป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันปี 2565 “ซาอุดิระเบีย” เป็นตลาดใหม่ หลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยี่ยมรัฐบาลซาอุดิอาระเบียเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 หลังจากนั้นทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ “ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งตั้งเป้าจะมองตลาดซาอุดิอาระเบียในช่วงกลับมาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตกันอีกครั้ง มุ่งเน้นเดินหน้าทำ 3 เรื่อง คือ

เรื่องแรก – นักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย ภายในปี 2565 ต้องทำให้ได้ประมาณ 200,000 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีปีละประมาณ 30,000-40,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ หรือผู้ที่เดินทางเข้ามารักษาตัว

เรื่องที่ 2-พยายามแก้ปัญหาเรื่องการเดินทางระหว่างกัน ปลดล็อกอุปสรรคต่าง ๆ ให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้เกิดการเดินทางอย่างสะดวกหรือ Ease of Travelling 

เรื่องที่ 3 -นโยบายของซาอุดิอาระเบีย ต้องการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว หรือ Longterm Partnership พัฒนาด้านต่าง ๆ เช่น ซาอุดิอาระเบียต้องการพัฒนาคนเดินทางมาเรื่องศาสนาปีละ 8 เป็น 40 ล้านคน รวมทั้งยกระดับ “สถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลก” เพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าไปให้ได้เป็น 2 เท่า ดังนั้น ททท.จึงร่วมมือกับซาอุดิอาระเบียเดินหน้าพัฒนาทั้งเรื่อง “วัฒนธรรมและความยั่งยืน” ต่อไป

ขณะเดียวกันก็จะได้สนับสนุนด้านการบินระหว่างประเทศ ตามที่ “สายการบินซาอุดิอาระเบีย” เริ่มกลับมาบินสู่ประเทศไทยอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ด้วยฝูงบินโบอิ้ง B787 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี รวมทั้ง ททท.จะต้องขยายผล “พื้นที่การเดินทางท่องเที่ยว” ที่ซาอุดิอาระเบียชื่นชอบระดับโลก อย่าง ภูเก็ต พังงา พัทยา เชียงใหม่ ทางด้าน “การบินไทย” เองก็มีแผนจะบินตรง ไป-กลับ ซาอุดิอาระเบีย 2 เมือง ได้แก่ เจดดาห์ กับริยาด ด้วย

 


“การทำตลาดเชิงรุก” เชิญชวนนักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียเข้าไทย จะต้องดูตามฤดูเดินทาง เช่น เมษายน ปีนี้เป็นเดือนรอมดอนพี่น้องชาวมุสลิมจะยังไม่เดินทาง ททท.มองช่วง “พฤษภาคม-มิถุนายน” 2565 หลังถือศีลอดและปิดเทอม จะนำเข้านักท่องเที่ยวดังกล่าว ประกอบกับ ททท.มีโปรแกรมไปทำ “โร้ดโชว์ท่องเที่ยว” ในงาน ATM 2022 :ARABIAN TRAVEL MART 2022 ระหว่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม 2565 ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากนั้น ททท.จะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยไปทำโร้ดโชว์ต่อในเมืองเจดดาห์กับริยาด ช่วง 12-17 พฤษภาคม 2565 เพื่อบุกไปเจรจาธุรกิจเพื่อนำนักท่องเที่ยวซาอุดิอาระเบียมาเที่ยวเมืองไทย

ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เป็นภูเก็ตที่จะนำสินค้าเทรนด์หลักไปเจาะกำลังซื้อใน “ซาอุดิอาระเบีย” ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมความต้องการของตลาดนิยมเส้นทางท่องเที่ยวหาดทรายชายทะเล หรูหรา ลักชัวรี่ พื้นที่เป็นส่วนตัวสูง ซึ่ง ททท.มองว่าสามารถขายได้ นอกเหนือจากสินค้าด้านสุขภาพและการแพทย์ (Medical & Wellness) ปกติก็อยู่ในกระแสเป็นปกติอยู่แล้ว

ททท.ให้ความสนใจทำตลาดที่เรียกว่า MENA คือ Middle East and Africa Countries ทั้งหมดนี้พุ่งเป้าเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมด เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นตลาดใดก็ต้องทำ เนื่องจากไม่รู้ว่าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ตลาดหลักของไทยอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเปิดให้คนเดินทางเที่ยวต่างประเทศได้เมื่อไร ดังนั้นหากสามารถตุนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาได้ ก็จะต้องลงมือทำ

ตามนโยบายของรัฐบาลมอบหมายให้ ททท.นำการท่องเที่ยวมาเป็นเครื่องมือหลักฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทย โดยเฉพาะ “นักท่องเที่ยวคุณภาพสูง” อย่างกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ททท.ให้ความสำคัญมากพอสมควร

ดร.ยุทธศักดิ์กล่าวตอนท้ายว่า การเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตของทุกคน จะเที่ยวใกล้ เที่ยวไกล เที่ยวที่ไหน หลังสถานการณ์โควิด-19 สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงมากกว่า “ความสุข” คือท่องเที่ยวอย่าง “ความปลอดภัย” ด้วย แต่ก็ไม่ใช่ “กลัว” จนกระทั่งไม่กล้าเดินทางไปไหน ททท.อยากเห็น “คนไทย” ออกเดินทางเที่ยวไปทั่วทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลัก เมืองรอง ทุกแห่งรอคอยการกลับมาของนักท่องเที่ยวเสมอ

ออกมาเที่ววกัน นอกจากความสุขที่จะได้แล้ว ทุกคนยังมีส่วนร่วมฟื้นเศรษฐกิจของท้องถิ่นให้คลี่คลายลงได้ หลังสถานการณ์โควิด-19

ฟังข่าวต้นชั่วโมง

 



ข่าวที่ 1 “คิงเพาเวอร์”จัดทัพช้อปรับซัมเมอร์บูมขาย10แบรนด์ไทยหนุนBCG 

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ นำ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” จัดทัพสินค้าภูมิปัญญาไทย เกรดพรีเมี่ยม มาต้อนรับนักช้อปช่วงเริ่มซัมเมอร์ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป เลือกซื้อได้ทั้งทางออฟไลน์ ออนกราวนด์ คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ ศรีวารี พัทยา ภูเก็ต และออนไลน์ไทย เพาเวอร์ มาร์เก็ต www.thaipowermarket.com 

ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป ได้เวลาช้อปฟื้นเศรษฐกิจชาติ กระจายรายได้สู่ชุมชนอัตลักษณ์ท้องถิ่นไทย ดีไซน์แปลกแตกต่างจากสินค้าทั่วไป เต็มไปด้วยกลิ่นอายวิถีชีวิตคนไทยในแต่ละชุมชน ช้อปก่อนใครได้ที่ คิง เพาเวอร์ กับมหัศจรรย์สินค้าภูมิปัญญา ดีไซน์เก๋ คุณภาพดี ที่ได้การต้อนรับเป็นอย่างดีจากตลาดต่างประเทศมาแล้ว 2 หมวด “ของที่ระลึก” และ “แฟชั่น” รวม 10 แบรนด์เด่น ว่างปุ๊บคลิกเข้ามาช้อปได้ทุกวัน ดังต่อไปนี้

หมวดแรก-สินค้าที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ “ลายช้างไทย” ซึ่งได้รับความนิยมซื้อเป็นของขวัญ เพราะช้างถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สื่อถึงประเทศไทย ทาง“คิง เพาเวอร์” เชิญชวนมาเลือกช้อปผลิตภัณฑ์ทำมือหรือแฮนด์เมดภูมิปัญญาไทยที่ได้รับความนิยม   กับคอลเลกชัน “ช้างไทย” โดดเด่นด้วยศิลปะงานคราฟต์ แฟชั่นร่วมสมัย และของตกแต่งบ้านที่เพิ่มความมินิมอล สวยมีเสน่ห์ความเป็นไทย 5 แบรนด์ ได้แก่

แบรนด์แรก ลอยฟ้า- Loyfar ผลิตภัณฑ์ แนะนำ “ถาดลายช้างไทย” ของที่ระลึกผ่านงานดีไซน์งานช่างฝีมือประดิษฐ์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกแบบโดยใช้เรื่องราวความเป็นไทย เช่น เรือสุพรรณหงส์ทองคำ ทศกัณฐ์ตัวละครยักษ์ในวรรณคดีไทย ดอกกล้วยไม้ไทย ใบและดอกบัวซึ่งมีความผูกพันกับเรื่องศรัทธาตามหลักศาสนาพุทธ เสาชิงช้า-สถานที่สำคัญในกรุงเทพฯ ช้างไทยหรือรถตุ๊กตุ๊ก และอื่น ๆ  

จึงได้ผลิตของที่ระลึกบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจฝากไว้บนสินค้าแต่ละชนิด เช่น 1.ที่วางนามบัตรทำจากดีบุกผสมเงินดีไซน์เรือสุพรรณหงส์ 2.ช้างเสาชิงช้า 3.กรอบใส่รูปดีไซน์รถตุ๊กตุ๊ก 4.ถาดวางของดีไซน์ทศกัณฐ์ ที่ปักธูปดีไซน์ใบบัว 5.พวงกุญแจรูปไม้ไผ่ คลิก https://bit.ly/3Kk3BU5

แบรนด์ที่ 2 อินมายด์-INMIND ผลิตภัณฑ์ “หัตถกรรมผ้าไทย” ที่ได้นำทักษะการผสานความเป็นไทยผูกไว้กับเอเชียนสไตล์สากล ดึงลวดลายช้างไทยมาอยู่ในชิ้นงานบนผ้าทอไทยพื้นบ้าน แปรรูปหลากหลาย เช่น ผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ ผ้าโพกศีรษะ/พันตัว เสื้อเกาะอกหรือโสร่ง กล่องไม้เก็บของมีค่ารูปทรงต่าง ๆ รวมทั้ง ของแต่งงาน เฟอร์นิเจอร์ เช่น กระจกติดผนังกรอบลายไทย ผ้าคลุมเตียง  คลิก  https://bit.ly/3Km6wvu 

แบรนด์ที่ 3 ตุ๊กตาไม้นายโถ-MR.THOW WOOD CRAFT DOLLS  ผลิตภัณฑ์ “ตุ๊กตาช้างไทย”แกะสลักจากไม้ด้วยภูมิปัญญาและฝีมือสล่าภาคเหนือ คัดเลือก “ไม้พญาสัตบรรณ” จากธรรมชาติอายุ 10 ปี เมื่อตัดมาแล้วก็ปลูกทดแทนด้วย เป็นจิตสำนึกแห่งวิถีชุมชนบ้านลวงเหนือที่มุ่งอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมีแรงบันดาลใจจากสัตว์ ในการสร้างสรรค์สินค้าของที่ระลึกเก๋ ๆ คลิก https://bit.ly/3hFdu2s

แบรนด์ที่ 4 บ้านช้างเซรามิก-Baan Chang Ceramic ผลิตภัณฑ์ “แก้วเซรามิกรูปช้าง” ช่างฝีมือได้รังสรรค์ผลงานด้วยเทคนิคงานปั้นเเฮนด์เมดแบบภูมิปัญญาท้องถิ่น   เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีภายในท้องถิ่นทั้งหมด การผลิตทุกชิ้นทุกขั้นตอนใส่รายละเอียดทั้งรูปร่าง รูปทรงและลวดลาย เผาด้วยอุณหภูมิสูง ชิ้นงานจึงมีความแกร่งแข็งแรงทนทาน โชว์เนื้อแท้ของวัสดุเซรามิกท้องถิ่นชั้นเลิศ คลิก https://bit.ly/3HLBpYJ

แบรนด์ที่ 5 สันสนีย์ กลอรี่-Sunsanee Glory ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยต่อยอดเป็น “ตุ๊กตาผ้าไหมพื้นและผ้าไหมอัตลักษณ์ลายไทย” สะท้อนให้เห็นความงดงามของผ้าไหมไทย เติมความน่ารักสดใสด้วยดิ้นทอง ในช่วงโควิด-19 ทาง คิง เพาเวอร์” เปิดช่องทางหลักให้นำสินค้ามาเสนอขาย ก่อนหน้านี้เคยไปร่วมงานแสดงสินค้ากับกรมส่งเสริมการส่งออกที่ฝรั่งเศส 2 ครั้ง สวิตเซอร์แลนด์ และอียิปต์  คลิก https://bit.ly/3HMcggn

 

                หมวดที่ 2 แฟชั่นไทย พบกับทุกไอเท็มที่ คิง เพาเวอร์ คัดสรรมาเพื่อให้ทุกคนได้สวมใส่ตลอดหน้าร้อน สีสันสะดุดตา ช้อปได้แบบไม่ยั้งทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ คิง เพาเวอร์ กับ 5 แบรนด์ โดน ๆ ดังนี้

แบรนด์ที่ 1 แกลเลอรี่- Gallery ผลิตภัณฑ์ “หมวกปีกกว้าง” มีความเฟมินีนสไตล์อินเตอร์ วัสดุคุณภาพดี แมทช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์ เหมาะสวมใส่รับซัมเมอร์เมืองไทย ทางเจ้าแบรนด์ได้เลือกใช้ผ้าลินินเนื้อดี ควบคู่กับผ้าคอตตอน 100 % ผลิตมาจากเส้นใยธรรมชาติ น้ำหนักเบา สามารถคุมโทนสี คุมธีมการแต่งกายความเป็นตัวตนของแต่ละคนได้ คลิกช้อปที่ https://bit.ly/3tjydOT

แบรนด์ที่ 2 อารยา- Araya ผลิตภัณฑ์ “กระเป๋าสาน” ทำจากวัสดุ ‘ป่านศรนารายณ์’ ของจังหวัดเพชรบุรี ดีไซน์และคุณภาพ สีสันสดใส เก๋ทุกใบถือได้ทุกวัย โด่งดังไปทั่วโลก เพราะความมหัศจรรย์ของกระบวนการถักเป็น “กระเป๋า 1 ใบ ต้องใช้ใบป่านศรนารายณ์เป็นต้นแบบถึง 120 ใบ ตัดให้ได้ขนาดกว้าง 5-13 เซนติเมตร ยาวเกือบ 1 เมตร แล้วนำไปทุบให้นิ่มนำปลายไม้ไผ่มผ่าเป็นร่องหนีบเส้นใยก่อนดึงเนื้อใบหลุดออกเหลือแต่เส้นใยสีขาว ๆ เป็นชิ้นงานประดิษฐ์ที่มีมูลค่าทางใจอย่างมาก คลิก https://bit.ly/3Mo0RXQ

แบรนที่ 3 ฟรีท- FREET ผลิตภัณฑ์ “รองเท้าแตะ” จุดเริ่มจากวิถีถิ่นการกรีดแผ่นยางพาราภาคใต้ของไทย นำยางมาผ่านกระบวนการผลิต ด้วยการใส่สีเข้าไปในแผ่นยาง รอจนหดตัวให้คงรูป ต้องใช้เวลา 30-45 วัน รอให้ยางคงตัวจึงนำเข้าแม่พิมพ์ตัดเป็นพื้นตามรูปแบบตามต้องการ เจาะรู “พิมพ์ลาย” ความเป็นไทยสีสันโดดเด่นทั้ง ดอกไม้ ปลากัด ต้มยำกุ้ง มวยไทย รถตุ๊กตุ๊ก และอื่น ๆ แต่ละคู่ต้องใช้ฝีมือจริง ๆ จึงกลายเป็นสินค้าส่งออกต่างประเทศ คลิก https://bit.ly/3CbJMM4   

แบรนด์ที่ 4 วอเตอร์ เซนท์-Water Scent ผลิตภัณฑ์ กางเกงช้าง” เป็นงานแฮนด์เมดเขียนลายด้วยเทียน ดีไซน์แบบฟรีไซส์เพื่อให้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกรูปร่าง สวมใส่สบายเดินชิลล์ในเมืองหรือเดินเล่นริมหาด ได้แรงบันดาลใจจากหัตถกรรมพื้นบ้านไทยสร้างลวดลายออกแบบตัดเย็บแฟชั่นแนววินเทจ มีทั้งกางเกงทรงขาตรง ป้ายขาบาน ผ้าเอวยางยืดพร้อมเชือก กางเกงทรงม้งหรือยักษ์จีนี่แบบมียางยืดรัดข้อเท้า โสร่งปาเต๊ะลายปักษ์ใต้พื้นบ้านของไทย คลิก https://bit.ly/3K5lDt9

แบรนด์ที่ 5 ชัยศิขริน-Chaisikarin ผลิตภัณฑ์ “โลชั่นว่านหางจระเข้” โอท็อปสปาไทย 5 ดาว ของ บ้านสวนสมุนไพรชัยศิขริน จังหวัดลำพูน ผ่านมาตรฐานการรับรองทั้งจากองค์การอาหาร (อย.) และมาตราฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เหมาะนำมาใช้บำรุงผิวหลังออกแดด จะช่วยสร้างความชุ่มชื้นเย็นสบาย   ใช้วัตถุดิบสมุนไพรธรรมชาติ ใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต มีให้เลือกทั้ง สครับขัดผิว โลชั่นบำรุงผิว น้ำนมอาบน้ำ แชมพูสมุนไพรและอื่น ๆ คลิก https://bit.ly/3suQZ6r



ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์”นำ3ธุรกิจ”รางน้ำ-อักษรา-มหานคร”แชมป์รางวัลSHAAwards2021

กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ รายงานว่า ล่าสุดได้รับรางวัล “The Best of SHA Awards 2021” หรือ สุดยอดสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA :Amazing Thailand Safety and Health Administration” จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ช่วยตอกย้ำถึงการเป็นสถานประกอบการที่ดำเนินการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มมั่นใจอย่างเต็มที่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ต่อเนื่องตามแนวทาง KING POWER CARE POWER

ทาง “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับรางวัล  “The Best of SHA Awards 2021 โดยมี “คุณเพ็ญรุ่ง จินตนามณีรัตน์” ผู้อำนวยการอาวุโสส่วนงานปฏิบัติการร้านค้า บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้แทนบริษัทฯ นำทีมขึ้นรับรางวัลที่ได้รวม 3 ธุรกิจ ประกอบด้วย

ธุรกิจแรก คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้รับรางวัลดีเยี่ยม ในกลุ่มกิจการห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า

ธุรกิจที่ 2 คิง เพาเวอร์ มหานคร ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทกิจการร้านค้าของที่ระลึก และร้านค้าอื่น ๆ

ธุรกิจที่ 3 โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เป็น 1 ใน 11 สถานประกอบการที่ได้รับ The Best of SHA Awards 2021 ประเภทการจัดกิจกรรม/จัดประชุม/โรงละคร/โรงมหรสพ 

สำหรับทั้ง 3 รางวัล ที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับ มาจากการโหวตของผู้เข้าร่วมตอบแบบประเมินรวมทั้งสิ้น 132,256 คน ประเมินผลจากการใช้บริการจริงระหว่าง 10 มิถุนายน – 20 ตุลาคม 2564 ครอบคลุมเกณฑ์ทั้ง 1.เรื่องของมาตรฐาน ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) และ 2.มาตรฐานการท่องเที่ยวสีขาว (สะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) 


ข่าวที่ 3 ช้อปคิงเพาเวอร์2แคมเปญเด็ดแบรนด์ดังMust Have+Most Wantลด50%

รีบไปช้อปที่ “คิง เพาเวอร์” ได้ตอนนี้เลย 2 แคมเปญ ที่สุดของรับหน้าร้อน แคมเปญแรก READY GO SUMMER! SUMMER SALE THAT YOU CAN’T WAIT มีไฟลต์บินหรือไม่มีไฟลต์บินก็ช้อปได้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายทุกวันที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2565

           

เลือกช้อปโดยหยิบไอเทม MUST-HAVES คู่ใจไปคลายร้อน ชุดว่ายน้ำพร้อมผ้าคลุม Versace รองเท้าแฟชั่น Chloe’ กระเป๋าถือ หมวก Burberry แว่นตากันแดด Givenchy ผ้าคลุมไหล่น Salvatore Ferragamo

 

สมาชิก คิง เพาเวอร์ และลูกค้าชาวไทย เพียงลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรีทันที คูปองส่วนลดมูลค่า 1,200 บาท สำหรับช้อปสินค้าตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ (เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ)

           

แคมเปญที่ 2 MOST-WANTED ITEMS ลดสูงสุด 50% โดยไม่ต้องมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำ ก็แค่เข้าไป “รหัสส่วนลด” มาใช้ประโยชน์ได้ที่ที่ www.kingpower.com และ แอปพลิเคชัน KING POWER ตั้งแต่วันนี้ -24 มีนาคม 2565 เท่านั้น

 


ข่าวที่ 4 ททท.แอลเอผนึกHotelbedsบิ๊กแบรนด์อเมริการุกขายเที่ยวไทยเริ่มมี.ค.65

นางสาวศิริวรรณ สีหราช ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลอสแองเจลิส (LA) สหรัฐอมเริกา เปิดเผยว่า ททท.ลงนามความร่วมมือกับ Hotelbeds ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแพลตฟอร์มบริหารจัดการโรงแรมติดอัน 5 ของโลก สถิติในสหราชอาณาจักรปี 2562 มีผู้ใช้ห้องพักกว่า 2 ล้านคืน ถือว่ามีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกระจายอยู่ทั่วโลก

ททท.จึงร่วมเป็นพันมิตร เพื่อกระตุ้นการเลือกจุดหมายปลายทางมายังประเทศไทยหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สามารถใช้เป็นช่องทางให้นักเดินทางจากตลาดอเมริกาและทั่วโลกใช้แพลตฟอร์ม Hotelbeds ซึ่งมีเครือข่ายการจองห้องพักโรงแรมในไทยครอบคลุมมากกว่า 3,000 แห่ง

มร. ฟลอเรียน บลัวส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ประจำภูมิภาคของ Hotelbeds กล่าวว่า "การลงนามความร่วมมือครั้งนี้กับ ททท.ทางแพลตฟอร์มจะช่วยทำโปรโมชั่นภายในประเทศและสนับสนุนให้ตัวแทนสหรัฐอเมริกากระตุ้นนักท่องเที่ยวในพื้นที่จองเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยในอนาคตอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทยประกาศต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยผ่านมาตรการ Test & Go จึงสามารถทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายตลาดสหรัฐอเมริกาบนแพลตฟอร์ม Hotelbeds เริ่มตั้งแต่มีนาคม -กลางเดือนมิถุนายน  2565 ขายห้องพักโรงแรม 2 ช่องทางหลัก 1.Hotelbeds เน้นขายส่งหรือ Wholesale และ 2. Bedsonline ขายรายย่อยโดยให้คำปรึกษาการเดินทางผ่านเว็บไซต์ https://promo.bedsonline.com/en/us/thailand/campaign/promotional/ ดีล

ทั้งนี้ Hotelbeds มีโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีมูลค่าสูงและเสริมกัน เน้นการข่ายผ่านเครือข่าย Hotelbeds B2B ที่มีทั้งผู้ให้บริการทัวร์กว่า 60,000 ราย ตัวแทนท่องเที่ยวรายย่อย เว็บไซต์สายการบิน และแผนกสมาชิกกระจายอยู่ตามตลาดในประเทศต้นทางทั่วโลกกว่า 140 แห่ง

 


ข่าวที่ 5 ททท.ถือฤกษ์ครบ62ปีชูดิจิทัลเชื่อมฐานข้อมูลท่องเที่ยว13พันธมิตร

ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 มีนาคม ของทุกปี เป็นโอกาสวันสถาปนาองค์กร ปี 2565 นี้ ททท.ครบ 62 ปี จึงได้จัดกิจกรรมต่าง  ๆ ขึ้น 3 วัน ระหว่างวันที่ 16-18 มีนาคม 2565 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะมั่งมั่นไปสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูง (High Performance Organization : HPO) และองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดูแล รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยึดหลัก BCG Economy Model ในการทำงาน และพลิกโฉมองค์กรและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

ปี 2565 ได้เน้นการนำดิจิทัลเข้ามาใช้ประโยชน์เชื่อมโยงฐานข้อมูลระหว่าง ททท.กับ 13 องค์กรพันธมิตร ที่ทางด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา ททท.เป็นแกนนำจัดทำกิจกรรมดังกล่าว

วันที่ 16 มีนาคม 2565 จัดกิจกรรม “TAT OPEN HOUSE OPEN DATAนำเสนอองค์ความรู้ขององค์กร ข้อมูล และวัฒนธรรมดิจิทัล

วันที่ 17 มีนาคม 2565 จัดกิจกรรมออนไลน์ “ททท. 62 ปี ร้อยความร่วมมือ สู่ ความยั่งยืน” โดยกองบริหารความยั่งยืน สำนักผู้ว่าการ ททท. เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสร้างสรรค์

วันที่ 18 มีนาคม 2565 ประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อเสริมสิริมงคล เฉลิมฉลองวันสถาปนาครบรอบปีที่ 62

สำหรับการจัด “TAT OPEN HOUSE OPEN DATA” เมื่อ 16 มีนาคม 2565 ชูคอนเซปต์ “Data Driven Mart : ขับเคลื่อนแลกเปลี่ยนข้อมูล เพิ่มพูนประสิทธิผลองค์กร” ขานรับปัจจุบันทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อพฤติกรรมและวิถีชีวิตของคนทั่วโลกในทุกมิติ รวมถึงการเติบโตและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว

ดังนั้น การขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล องค์ความรู้และนวัตกรรมและวัฒนธรรมดิจิทัลจากการปฏิวัติข้อมูล (Data Revolution) การพัฒนาระบบข้อมูลให้เป็นดิจิทัล (Data Digitizing) รวมถึงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการท่องเที่ยวจึงเป็นหัวใจสำคัญในการร่วมพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่อย่างยั่งยืน

จัดด้วยรูปแบบ “ออฟไลน์” กับพนักงานภายในหน่วยงาน  และ “ออนไลน์-Webinar” กับบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ นำพาไปรู้จักกับฐานข้อมูลดิจิทัลและเชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อยอดสู่เป้าหมายการพัฒนาองค์กรต่อเนื่องสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูง

 


ข่าวที่ 6 “บางจาก”ปลุกกระแสปีขาล’65ตั้งเป้าเลิกใช้100%พลาสติก4ชนิด

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ชวนนับถอยหลังได้เวลา “ลด-เลิกใช้พลาสติก” โดยจะเดินหน้าเลือกใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบ 100% ตั้งเป้าหมายภายในปี 2565 ต้องยกเลิกใช้พลาสติก 4 ชนิดนี้อย่างสิ้นเชิง ประกอบด้วย

1.พลาสติกที่บางจากตั้งเป้ายกเลิกใช้ภายในปีนี้ให้ได้ 100% นำร่อง 4 ชนิด ได้แก่ 1.ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบบาง 2.กล่องโฟมบรรจุอาหาร 3.แก้วพลาสติกแบบบาง 4.หลอดพลาสติก

2. พลาสติกที่รีไซเคิลใหม่ 50% ได้แก่ 1.ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบหนา 2.บรรจุภัณฑ์ฟิล์มพลาสติกชั้นเดียว 3.ขวดพลาสติกทุกชนิด 4.ฝาขวด  5.แก้วพลาสติก  5.ถาด และ 6.กล่องอาหาร ช้อน ส้อม มีดพลาสติก

บมจ.บางจากฯ คาดว่าจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกได้ถึง 780,000 ล้านกิโลกรัม/ ปี รวมถึงประหยัดพื้นที่ฝังกลบ และกำจัดขยะมูลฝอยพลาสติกไม่ต่ำกว่า 2,500 ไร่ พร้อมกับการลดปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจก เทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ 1.2 ล้านตัน

จึงขอรณรงค์ให้บรรดา กรีน เลิฟเวอร์ ทั้งหลาย ช่วยกันบอกต่อชวนเพื่อน ๆ มาร่วมลดขยะดังกล่าวด้วยกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

                ช่วงที่ 2 เที่ยวกันเถอะพี่น้องชาวไทย “เพชรบุรี” ชวนเที่ยวฤดูชม “ผีเสื้อ” มี.ค.-พ.ค.65 ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมรดกโลกแห่งที่ 6 ของไทย แวะนั่งรถรางขึ้นเขาเขาวัง ดูถ้ำเขาหลวง ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุวรวิหาร สถาปัตยกรรมล้ำเหลือ อีกทั้งตอนนี้อากาศร้อนมากแนะ “รับมือ!! โรคฮีทสโตรก” 5 กลุ่มเสี่ยงต้องฟังให้เคลียร์ ส่วนข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “ฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022” พลิกโฉมจัดงานดึงธุรกิจเอเชียแห่ร่วมคับคั่ง 21-24 ก.ย.65 ข่าวที่สอง เซอร์ไพรส์ “บางกอกแอร์เทโปรลด10%บินทั่วไทย” 6 เส้นทางสุดฮ็อต

 


พาเที่ยว -“เพชรบุรี”ชวนเที่ยวฤดูผีเสื้อนั่งรถรางฟรีขึ้นเขาวังสักการะวัดศักดิ์สิทธิ์

ช่วงเวลาที่รอคอยมาถึงแล้ว ที่จะชวนนักท่องเที่ยวไป “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” จังหวัดเพชรบุรี ต้อนรับฤดูชม “ผีเสื้อ” หลายร้อยสายพันธุ์นับล้านตัว ตอนเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ของทุกปี ในผืนป่าได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งที่ 3 ของไทย


ตอนนี้เจ้าผีเสื้อได้ยึด “บ้านกร่าง” ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่ายตามองไปทางไหนก็เห็นเหล่าผีเสื้อตัวเล็กตัวน้อยเต็มกางปีกโบยบินอย่างมีความสุข บินละเลี่ยดินมากินอาหารจากดินโปร่งกันอย่างสนุกสนาน สีสันสวยงาม

ทาง “บ้านกร่างแคมป์” จึงได้เปิดพื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะยกครอบครัวไปดูผีเสื้อกันอย่างเต็มอิ่มทั้งวัน แบบไปเช้ากลับเย็น หรือกางเต็นท์พักค้างแรมก็ได้ โทร.สอบถามได้ที่ 032 772 311

 


เมื่อไปถึง “เพชรบุรี” แล้ว ก็ถือโอกาสขึ้น “เขาวัง หรือ พระนครคีรี”  อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี แลนด์มาร์กสำคัญอายุกว่า 160 ปี เพลิดเพลินกับการเดินสำรวจโบราณสถานและสถาปัตยกรรมอันงดงามไม่เสื่อมคลาย ได้แก่

1.พระที่นั่งเพชรภูมิไพโรจน์ พระที่นั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเขาวัง 2.พระที่นั่งปราโมทย์มไหสวรรย์ 3.พระที่นั่งเวชยันต์วิเชียรปราสาท 4.พระที่นั่งราชธรรมสภา 4.วัดพระแก้วน้อย 5.พระธาตุจอมเพชร 6.หอชัชวาลเวียงชัย 7. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี

 

ตอนนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนการท่องเที่ยวเพชรบุรี ด้วยการแจก “คูปองฟรี” นำไปใช้ขึ้นรถรางไฟฟ้าและเข้าชมพิพิธภัณฑ์  (อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี) เริ่มวันนี้ จนถึง 30 เมษายน 2565 ให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปลงทะเบียน 100 คนแรกเท่านั้น ด้วยวิธีง่าย ๆ

1.กดเข้าไปเพิ่มเพื่อนทางไลน์  Official LINE: @tat_phet  แล้ว 2.คลิกลงทะเบียนเล่นกิจกรรม "เพชรบุรี Lucky Sunshine

 

            หรือจะไปชม “ถ้ำเขาหลวง” ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงาม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่ “หลวงพ่อโต” และพระประธานประจำรัชกาล 1-4 ประดิษฐาน กล่าวกันว่าอาจสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระราชประสงค์จะสร้างวัดบนยอดเขา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเสด็จประพาสมายังถ้ำแห่งนี้ด้วย

 


            ต่อด้วย “วัดมหาธาตุวรวิหาร” ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง เป็นวัดที่มีมาแต่ครั้งโบราณ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ภายในวัดนักท่องเที่ยวจะได้ชมสถาปัตยกรรมสวยงาม ได้แก่

“พระปรางค์ห้ายอด” อายุกว่าพันปี เป็นสัญลักษณ์ สูงตระหง่านในเขตพุทธาวาส สามารถมองเห็นได้แต่ไกลทั้ง 4 ทิศ วัดจากฐานถึงยอดนภศูลได้ 55 เมตร รอบฐานยาว 120 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุมีระเบียงคตรอบพระปรางค์ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส บรรจุพระพุทธรูป 193 องค์ พร้องทั้งมีตัวแบกตรงฐานพระ  

“พระวิหารหลวง” สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ. 2275 - 2301) ภายในพระวิหารหลวงมีพระพุทธรูปที่สำคัญคือ “พระประธาน” ศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม เรียงซ้อนกัน 3องค์ องค์เล็กที่สุดเป็นหลวงพ่อวัดมหาธาตุ องค์กลางเป็นรูปจำลองหลวงพ่อบ้านแหลม องค์ใหญ่ที่สุดเป็นรูปจำลองหลวงพ่อวัดเขาตะเครา

โดยจะมี “จิตรกรรมฝาผนัง” ภายในพระวิหารหลวงผนังทุกด้านสวยงาม ทั้งภาพชาดก และเทพชุมนุม ที่หน้าบันประดับด้วยลาย ปูนปั้น รูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค มีพญาวานรแบกครุฑ อยู่อีกชั้นหนึ่ง พื้นหลังเป็นลายกนก ก้านขดออกช่อลายหางโต เป็นรูปครุฑ นาค ยักษ์ มีเรื่องราวที่น่าติดตาม 

ซัมเมอร์นี้ “เพชรบุรี” มีดีชวนไปเที่ยวทั้งชม “ผีเสื้อ” บ้านกร่าง ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นั่งรถรางขึ้นเขาวัง เข้าถ้ำเขาหลวง สักการะสถานศักดิ์สิทธิ์วัดต่าง ๆ เป็นอีกประสบการณ์ เที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม


สุขภาพ - ร้อนนี้ระวัง!!โรคฮีทสโตรกแนะ5กลุ่มเสี่ยงต้องรีบป้องกันตัวเองด่วน

เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนแล้ว ประชาชนจึงควรเฝ้าระวังป่วย “โรคฮีทสโตรก :Heat stroke  อาการที่บ่งชี้คือ ตัวร้อน อุณหภูมิร่างกายสูง ทำให้เกิดอาการหน้ามืด เสี่ยงชักเกร็ง และอาจช็อกหมดสติได้

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค การรับมืออากาศร้อนในประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยง มีโอกาสป่วยโรคฮีทสโตรก (Heat stroke) ได้ ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยมีอาการสำคัญ ได้แก่ ตัวร้อน อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิน 40 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดอาการหน้ามืด เพ้อ กระสับกระส่าย มึนงง หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชักเกร็ง ช็อก

“คำแนะนำ” ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองดังนี้ สวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ระบายความร้อนได้ดี ควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ลดหรือเลี่ยงทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงกลางแจ้งนาน ๆ สวมแว่นกันแดด กางร่ม สวมหมวกปีกกว้าง ควรดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อชดเชยการเสียน้ำในร่างกายจากเหงื่อออก หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผู้ที่ออกกำลังกาย ควรเลือกในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก และเป็นเวลาที่เหมาะสม

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป ที่จะเกิดฮีทสโตรกจะมี 5 กลุ่ม ได้แก่

1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น ออกกำลังกาย เด็กเล็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว

2.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง

3.ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก4.ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ โดยร่างกายของคนอ้วนและผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอจะตอบสนองต่อความร้อนที่ได้รับช้ากว่าปกติ

5.ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม ซึ่งแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิต

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 


ข่าวแรก –พลิกโฉมจัดฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ฯปี65เอเชียร่วมค้าคึกคัก21-24ก.ย.65

 

ายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับโลก เปิดเผยว่า ปีนี้วางแผนจัดมหกรรม ฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ ที่จัดต่อเนื่องมา โดยเปลี่ยนชื่อเป็น “งานฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022” งานแสดงสินค้าสำคัญในเอเชีย ที่มีทั้งกลุ่มธุรกิจอาหาร ท่องเที่ยว โรงแรม เข้าร่วมซื้อขายมากมาย ปีนี้จะขยายให้ครอบคลุมมากขึ้นในกลุ่มธุรกิจบริการ สปา โรงพยาบาล ค้าปลีก โลจิสติกส์ และอื่น ๆ

 

การจัดงาน ฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 เตรียมจัดงระหว่าง 21 - 24 กันยายน 2565 เปลี่ยนมาจัดที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พื้นที่โอ่โถงกว่า 10,000 ตารางเมตร สะดวกให้คนเข้าชมงาน โดยจะเพิ่มพื้นที่จัดแสดงใหม่อีก 2 โซน คือ 1.โซนธุรกิจกาแฟและเบเกอรี่ (Coffee & Bakery Thailand) โซนธุรกิจร้านอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar Thailand)    

 

พร้อมทั้ง “ขยายพื้นที่จัดแสดงและพาวิลเลี่ยนนานาชาติ” ขณะนี้ตอบรับมาแล้ว 2 พาวิลเลี่ยน จากญี่ปุ่นและอิตาลี กว่า 20 บริษัท คาดจะมีอีกหลายประเทศตอบรับเข้าร่วมอย่างแน่นอน

 

ภายในงานยังมี กิจกรรม 1.การฝึกอบรม 2.การประชุมและสัมมนา จากสมาคมพันธมิตรกว่า 20 องค์กร 3.การแข่งขัน การประกวด และ 4.ไฮไลท์การจัดแสดงสินค้าและบริการชั้นนำทั่วโลกกว่า 300 บริษัท

 

ตลอดงานนี้จะเป็นโอกาสอันดีของผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการ ในกลุ่มวัตถุดิบอาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้ในร้านอาหารและธุรกิจบริการ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ และผู้บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมและบริการ จะนำสินค้ามาจัดแสดงและจับคู่เจรจาซื้อขายกับเจ้าของกิจการ นักธุรกิจ นักลงทุนตัวจริงได้โดยตรง

 

 ส่วนแนวโน้มปี 2565 ของธุรกิจเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารและบริการ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อผู้ประกอบการธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้เกือบ 100%  รวมถึงมาตรการผ่อนคลายและลดข้อจำกัดการเดินทางจากต่างประเทศของภาครัฐที่เปิดรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้คาดว่าไตรมาส 3 และ 4 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจึงต้องเตรียมความพร้อมในทุกส่วนอย่างเต็มที่

 

การจัดงานฟู้ดแอนด์ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 จะเป็นตัวช่วยสำคัญและครบวงจรที่สุด ที่จะทำให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ไปพร้อมกับเทรนด์ธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้

 


ข่าวที่สอง –บางกอกแอร์เทโปรบิ๊กล็อตบินทั่วไทย6เส้นทางลดราคาตั๋วเบิ้ม ๆ 10%

 

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส รายงานว่า ได้จัดโปรโมชั่น “Summer Break มอบส่วนลดตั๋วโดยสารเที่ยวบินในประเทศราคาพิเศษ 10 %  จองได้ตั้งแต่ 16 – 20 มีนาคม 2565 แล้วนำไปใช้เดินทางได้ตั้งแต่ 16 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2565  ในเที่ยวบิน ไป-กลับ 6 เส้นทาง ดังนี้

 

1.กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ 2.กรุงเทพฯ – สุโขทัย  3.กรุงเทพฯ – ตราด  4.กรุงเทพฯ – ภูเก็ต 5.ภูเก็ต – อู่ตะเภา 6.ภูเก็ต – หาดใหญ่

 

สำรองที่นั่งหรือซื้อโปรโมชั่นตั๋วโดยสารได้ทางเว็บไซต์ www.bangkokair.com/summerbreak หรือ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) โทร. 1771 หรือ สำนักงานขายบางกอกแอร์เวย์ส

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง 1.ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) โทร 1771 หรือ 02-270-6699  ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. 2.PG Live Chat:  https://bit.ly/PGLiveChatTH  3.เว็บไซต์ www.bangkokair.com

                ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท.คุนหมิงดึงจีน3มณฑลเที่ยวไทยทางบก4ด่านเงินสะพัด

ททท.ปั๊มทัวร์จีนคุนหมิงแบบโอเวอร์แลนด์เงินสะพัดไทย 4 ด่าน ส.ค. 66- ปี ’67 กระหน่ำขาย “ New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าจีน 4 ตลาดใช้จ่ายแสนบาท/ทริป-ดันอีสานอู้ฟู่ 20 จังหวัด ช้อป!!ของขวัญวันแม่ที่คิงเพาเวอร์ลด20%- Firster9 หมื่นไอเท็ม ฉลองวันแม่!พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดบุฟเฟต์พรีเมี่ยมกลางวัน/ค่ำ กินฟินที่คิงเพาเวอร์มหานคร-รร.เดอะสแตนดาร์ดตลอดส.ค. 66 ททท.จัดแข่งผัดกะเพราโลก“ World Kaphrao 2023”ชิงเงินล้าน กลุ่มบริษัทบางจากโชว์ครึ่งปีแรก66กวาดรายได้1.48 แสนล้าน TCEB บุกจีนจัด Thailand MICE in China 2023 โกยไมซ์ 990 ล้าน เที่ยววันแม่ใกล้กรุงได้ที่อุทยานเบญจสิริ/ดรีมเวิลด์/สวนนงนุช เคล็ดลับ!!การรักษาแผลให้หายไวด้วยขั้นตอนง่ายๆทำได้เอง บินไทยฟื้นเร็ว!!ครึ่งแรกปี’66กำไร329%พกเงินสด5.1หมื่นล้าน เปิดขายแล้ว!!บัตรชม“โขน”สุดยิ่งใหญ่แห่งดูได้ 5 พ.ย.- 5 ธ.ค. 66   วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ

TCEB นำงานวิจัยMICE for Sightแนะธุรกิจปรับตัวรับไมซ์10ปีหน้า

  นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) "TCEB" “ TCEB ”เปิดคัมภีร์ MICE for Sight ปลุกไมซ์จัดทัพใหม่ 10 ปีหน้า รับมือ Gen Z ผงาดผู้ทรงอิทธิพลไมซ์โลกเขย่าตลาดครั้งใหญ่ ปี 67 เร่งโกย 1.4 แสนล้านโหมซอฟท์เพาเวอร์/ไมซ์ซิตี้/ไมซ์ชุมชน รีบช้อป!!คิงเพาเวอร์เป็นไปได้5รายการรางวัลสูงสุดกว่า 4 ล้าน ด่วน 4 วันสุดท้าย!คิงเพาเวอร์อัดโปร SurpriseOnlineSale ลด 50% คิงเพาเวอร์ช้อปวนไปแจกทันที 3 ฟรี คูปอง/ตั๋ว/รถยนต์ LEXUS ท่องเที่ยวรุกเจรจาธุรกิจ TEJ 2023ฉลุย300นัดโกยญี่ปุ่น9ตลาด บางจาก-กรุงไทยเปิดแอปเป๋าตังจองซื้อหุ้นกู้ดิทัลดีเดย์ 30 ต.ค. เที่ยวประจวบนอนแคมป์ทะเลหมอกบ้านป่าหมาก-วิ่งปราณบุรี บินไทยโชว์ยูนิฟอร์มใหม่ลูกเรือแฟชั่นผ้าลดโลกร้อนเริ่ม1ม.ค.67 คาเธ่ย์ กรุ๊ปทุ่มลงทุนฝูงบินใหม่ A 320 neo เพิ่ม32ลำบินจีน/เอเชีย   วันเสาร์ที่  28 ตุลาคม 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97

ททท.ภาคเหนือ7เดือนปี66โกยแล้ว1.08แสนล้าน

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ททท.ภาคเหนืออู้ฟู่ 7 เดือนแรกโกยได้แล้ว 1 แสนล้าน ต.ค.-ธ.ค. 66 ลุยขายเที่ยวไฮซีซัน 4 เทรนด์ใหม่มาแรง นำ The Link จับคู่ทัวร์ข้ามภาคสำเร็จ 3 เส้นทางสุดฮ็อต คิง เพาเวอร์แจกมันส์แจกฟินที่รางน้ำเสาร์16ก.ย.นี้ ช้อป KingPowerOnline รับแบบไม่ยั้ง2สุดคุ้มถึง24ก.ย. ช้อป DUTY FREE SALE นำบิวตี้แบรนด์โลกมาเต็ม ททท.ใช้ฟรีวีซ่าปั๊ม1.4แสนล้านชาเตอร์จีนเฮเข้าไทย บางจากโชว์อุตฯไทย-ไต้หวันชูนวัตกรรมธุรกิจสีเขียว TCEB ผนึก EECAutoPark หนุนไมซ์เอ็กซิบิชั่นอินเตอร์ เที่ยว Unseen “พิพิธภัณฑ์ป่าสัก-วัดขุนอิน-วัดปัญญา” 4วิธี“ปิดล้างเลี่ยงหยุด”ป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกพันธุ์ “สุดาวรรณ”รมว.ใหม่ท่องเที่ยวดึงต่างชาติ40ล้านคน กพท.-สมาคมแอร์ไลน์สไทยแบไต๋ตั๋วบินราคาแพง วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทาง facebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyai