เจาะ!!ความสำเร็จTCEBนำไทยคว้างานพืชสวนโลก2026 พลิกโฉม“อุดร”4มิติ“นวัตกรรม-พลังงานสะอาด-ไมซ์-ฮับทัวร์ลุ่มน้ำโขง
เจาะลึก!!เบื้องหลังความสำเร็จTCEBนำไทยคว้างานพืชสวนโลก2026
พลิกโฉม“อุดร”4มิติ“นวัตกรรม-พลังงานสะอาด-ไมซ์-ฮับทัวร์ลุ่มน้ำโขง
รวมพลังก.เกษตร+จังหวัดอุดร+อบจ+อบต.อัดฉีดงบท้องถิ่นสู่ยั่งยืน
ช้อปก่อนใครได้ที่”คิงเพาเวอร์”กระเป๋า-นาฬิกา-สินค้าดังโปรเด็ดเพียบ
คิงเพาเวอร์จัดพิเศษช้อปซัมเมอร์“EXCLUSIVE CODE”ลดสูงสุด 45 %
สมาชิกคิงเพาเวอร์ลด30%ซันเดย์บรั๊นท์รร.พูลแมนรางน้ำ13,27มี.ค.65
ททท.ภูเก็ตชูTEST&GOทางน้ำดึงเงินเศรษฐีต่างชาติล่องยอร์ชจ่ายหนัก
ททท.+นกแอร์บูม"บินลัดฟ้าท้าลองเส้น"ลำปางฟรี20ร้านดังถึง30เม.ย.
“บางจาก”บริษัทไทยรายเดียวผงาดคว้ารองแชมป์UN Women2021
คนปีขาลไหว้วัดพระธาตุช่อแฮเดือน4เมืองแพร่เติมบุญ9สิ่งศักดิ์สิทธิ์
12 ข้อรู้ไว้รับมือกับภัยไซเบอร์วิธีป้องกันโดนแฮ็กโดนหลอกเอาข้อมูล
“นายกฯประยุทธ์”เปิดปฐมฤกษ์บินเบตง14มี.ค.-ตั๋วนกแอร์โปร3,200บ.
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง“วัลลภ
พุกกะณะสุต”อดีตผู้บริหารการบินไทยไม่ผิด
บางกอกแอร์ปี65จ่อโกยเฉียดหมื่นล้านบินเพิ่มไทย-อินเตอร์10เส้นทาง
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB”
วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #Summerนี้ช้อปก่อนใครที่คิงเพาเวอร์ #TAT #TCEB #อุดรธานีเจ้าภาพพืชสวนโลก2026 #พลเอกประยุทธ์เปิดบินปฐมฤกษ์สู่เบตง
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้… https://fb.watch/bHSCVjq8bG/
ช่วงที่ 1 เอ็กซ์คลูซีฟเบื้องหลังไทยได้งานพืชสวนโลก 2026 กับ
“จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB”
ไทยเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในอีสานดึงงาน “International Horticultural
Expo 2026 ในชื่อ Udon Thani International Horticultural
Expo 2026” ปักธงจัดที่ในพื้นที่ใหม่ถอดด้าม “หนองแด จ.อุดรธานี”
ครั้งแรกปี’69 โชว์ 4 เรื่อง
“คน-น้ำ-พืช-ธรรมชาติ” องค์กรท้องถิ่นลั่นเทงบหนุนเต็มเหนี่ยวเกือบ 100 ล้านบาท กอดคอพันธมิตรระดับชาติ เดินหน้าพลิกโฉมจุดขายสู่ตลาดโลก 4 โปรเจ็กต์ 1.เมืองแห่งนวัตกรรมและวิจัย” 2.เมืองพลังงานสะอาด 3.ศูนย์แสดงสินค้าแบบไม่ก่อสร้างอาคารถาวร 4.เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
เปิดแนวรุกไมซ์ 5 กลุ่มเป้าหมาย หวังดึงคนร่วมกว่า 3.6 ล้านคน
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า เบื้องหลังการลุ้นอย่างที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน “มหกรรมพืชสวนโลก ปี 2569 : International Horticultural Expo 2026 ในชื่อ Udon Thani International Horticultural Expo 2026” ภายใต้ธีม Diversity of Life P e o p l e , W a t e r and P l a n t s 2026 นำมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ในลุ่มน้ำพื้นที่ใหม่ในอีสานเป็นครั้งบริเวณ หนองแด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ปี 2569 คาดการณ์จะมีคนไทยและชาวต่างชาติเข้าชมงานรวมกว่า 3.6 ล้านคน
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ทีเส็บ พร้อมนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหรกรณ์ นำทีมปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปร่วมงาน “เวิรลด์ เอ็กซ์โป ดูไบ 2022” เพื่อทำภารกิจหลักในการนำเสนอข้อมูลความพร้อมชิงเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2026 อย่างละเอียด ต่อที่ประชุมสามัญประจำปี 2565 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producers หรือ “AIPH” ต้องใช้เวลารอด้วยใจระทึกตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงบ่าย 2 โมง นาทีที่รู้ผลตัวแทนจากประเทศไทยต่างแสดงความดีใจอย่างมาก
เพราะทุกฝ่ายได้ใช้เวลาหารือกันนานถึง
3 ปี กว่าจะมาเห็นผลสำเร็จในวันนี้ ตอนรัฐบาลประกาศ
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้จัดตั้ง “คณะกรรมการกลั่นกรองระดับจังหวัด”
จากอุดรธานีและหลายจังหวัดเข้ามาร่วมพูดคุย กระทั่งกรกฎาคม 2562 “อรธานี” ได้รับคัดเลือกเป็นสถานที่เตรียมความพร้อมจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2026 โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานหลักเข้าร่วมในคณะกรรมการกลั่นกรอง เช่น
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้า และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด
หลังทราบผลจาก
AIPH เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 แล้ว ต้องขอแสดงความดีใจกับประเทศไทยและจังหวัดอุดรธานี
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของ “ภาคอีสาน” ที่จะได้ทำอีเวนต์ใหญ่ระดับโลกมหกรรมพืชสวนโลก 2026
หลังจากไทยเคยจัดพืชสวนโลกที่เชียงใหม่ไปแล้ว 2 ครั้ง
สำหรับ
“หนองแด” อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
อยู่ใกล้ตัวเมืองเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาเพียง 10 นาที
ทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานียืนยันจะก่อสร้างรถไฟรางคู่เข้าไปยังพื้นที่หนองแด
เรื่อยไปจนถึง “สนามบินอุดรธานี” มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมครบวงจร
โดยจะดีไซน์ให้มีจุดแข็งและจุดขายหลัก
ๆ 4 ด้าน คือ 1.เมืองแห่งนวัตกรรมและวิจัย” 2.เมืองพลังงานสะอาด แยกพื้นที่ลานจอดรถไว้ด้านนอก
และมีรถพลังงานสะอาดคอยบริการ พร้อม ๆ กับมี “ลานกิจกรรม” รองรับการจัดอีเวนต์ มหกรรมคอนเสิร์ต 3.ศูนย์แสดงสินค้าแบบไม่ก่อสร้างอาคารถาวร และ 4.เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงระหว่างอุดรธานีกับประเทศลุ่มแม่น้ำโขง
เพราะมีรอยต่อตามโครงการพื้นฐานเดิมคือ GMS :Greated Mekhong Sub Region อยู่แล้ว ภาคอีสานจึงมีข้อตกลงความร่วมมือกับ สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม
กัมพูชา
ซึ่งจะเชื่อมโยงเข้ากับจุดขาย “เมืองไมซ์” ในอนาคต ทางทีเส็บได้กำหนด “5 กลุ่มเป้าหมาย” สนใจมาใช้บริการ 1.กลุ่มคนรักสุขภาพ รักธรรมชาติ Nature Lover 2.กลุ่มครอบครัว 3.กลุ่มที่สนใจเรื่องเส้นทางอาหาร Gastronomy เพราะพืชสวนโลกไม่ได้จำกัดเฉพาะพันธุ์พืชอย่างเดียว แต่จะมีสวนสวย และอาหาร รวมอยู่ด้วย 4.กลุ่มคนเล่นกีฬาทางน้ำ Water Sport เนื่องจากในพื้นที่เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ 5.กลุ่มไมซ์จัดแสดงสินค้าแบบไร้โครงสร้างอาคารถาวร ใช้ “ลานกิจกรรม” แบ่งจัดอีเวนต์ต่าง ๆ หรือเอ็กซิบิชั่นแบบลอยได้
ขณะนี้ทีเส็บพัฒนาภาคอีสานประกาศให้มีเรียบร้อยแล้ว 3 เมืองไมซ์ : MICE CITY ได้แก่
1.นครราชสีมา ดูแลพื้นที่ไมซ์ในอีสานตอนล่าง มีงานอุตสาหกรรมหนักจำนวนมาก
2.อุดรธานี ดูแลพื้นที่ตลาดไมซ์ในอีสานตอนบน ปัจจุบันรองรับการจัดงานเฟสติวัล เมื่อได้เป็นเจ้าภาพพืชสวนโลกแล้วก็จะได้ยกระดับเป็นเมืองจัดงาน “เมกะอีเวนต์” เพิ่มมากขึ้น
3.ขอนแก่น ดุแลพื้นที่ตลาดตอนกลาง
ซึ่งมีศักยภาพสูงรับจัดงานระดับอินเตอร์ทั้ง คอนเว็นชั่น และเอ็กซิบิชั่นบางส่วน
รวมทั้งมีอินเซ็นทีฟค่อนข้างมาก
นายจิรุตถ์ กล่าวว่า การเชื่อมโยงอีสานให้เป็นเมืองไมซ์มิติใหม่ ตามที่ทีเส็บได้หารือกับทางกระทรวงเกษตรฯ พัฒนาอีสานเป็นเมืองศูนย์กลาง “งานนวัตกรรมและวิจัย” เพื่อสร้างให้เกิด “ความยั่งยืน” อย่างแท้จริงในอนาคต จะต้องมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วย ตัวอย่างการเข้าเสนอเป็นเจ้าภาพพืชสวนโลก 2026 มีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เดินทางมานำเสนอรายละเอียดด้วย
ทั้ง 2 หน่วยงาน คือ อบจ.อุดรธานี กับ อบต.หนองแดและ อบต.ทั่วทั้งจังหวัด ยืนยันลงงบประมาณสมทบงานพืชสวนโลกรวม 90 ล้านบาท แต่ละ อบต.จะทยอยนำเงินเข้ามาปีละ 5 ล้านบาท/ปี เพื่อให้รัฐส่วนกลางมั่นใจว่ามีหน่วยงานดูแลพื้นที่จัดงานต่อเนื่องในระยะยาว พร้อมทั้งดึงกิจกรรมไปจัดเพื่อสร้างรายได้
สำหรับ “ขั้นตอน” หลังพิธีรับธงเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก 2026 มีเจ้าภาพหลายประเทศก่อนถึงปี 2569 ได้มารายงานที่ประชุม AIPH ทำให้ทีเส็บและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เรียนรู้ขั้นตอนต่าง ๆ สิ่งที่ไทย/อุดรธานี ต้องทำต่อจากนี้ไปก็คือ
1.ทำแผนแม่บทการก่อสร้าง Master Plan ประกอบด้วย
ศูนย์ประชุม และการแบ่งพื้นที่ มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ออกเป็น 4 โซนใหญ่ ประกอบด้วย
โซนที่ 1 เรื่องน้ำ : Water -
มีพื้นที่เป็นทะเลสาบถึง 60 % การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่ลุ่มน้ำ
โซนที่ 2 เรื่องคน : People – ร้อยเรื่องราววิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ
โซนที่ 3 เรื่องพืช : Plants - จะมีราชภัฎอุดรธานี กับกรมวิชาการเกษตร ทำวิจัย
ศึกษาและดูแลพันธุ์พืชต่าง ๆ ที่จะนำมาจัดแสดงในงาน
โซนที่ 4 เรื่องธรรมชาติ : Nature มีแนวคิดจะขยายผลต่อเนื่องพัฒนาเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอนาคต
2.หลังจากนั้นจะมีเวลาประมาณ 4 ปี จะต้องปลูกพืชพันธุ์ไม้ให้เต็มพื้นที่ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กรมวิชาการเกษตร ได้เตรียมแปลงไว้ในแผนเรียบร้อย
3.งานใหญ่พุ่งเป้าไปยังใช้เวลาช่วง 4 ปีข้างหน้า เตรียมความพร้อมให้ครบทุกด้าน ทางจังหวัดอุดรธานี จะต้องตั้งคณะกรรมการโดยเชิญชวนตัวแทนหน่วยงานราชการเข้ามาร่วมด้วย
ทางด้าน
“งบประมาณ” ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565
มีวาระพิเศษพิจารณาเรื่องเงินสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก จ.อุดรธาน ปี 2569 อนุมัติเบื้องต้น 2,500 ล้านบาท ตามกรอบงบประมาณเน้นหนักการจัดการพื้นที่
พร้อมกับกระจายส่วนใหญ่ไปให้ทางจังหวัด ต้องดูแลพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคม ส่วนกรมวิชาการเกษตรจะดูแลเรื่องต้นไม้
จัดสวนพันธุ์ไม้
โดยมีหน่วยงานสนับสนุนควบคู่ไปด้วย ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และทีเส็บ ต้องช่วยทำภารกิจไปจนถึงการจัดงานเสร็จสิ้น
ผอ.จิรุตถ์ ย้ำตอนท้ายว่า อยากจะบอกกับชาวอุดรธานีที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นพื้นที่จัดอีเวนต์โลก “พืชสวนโลก 2026” เป็นผลมาจากทุกฝ่ายร่วมมือกันมาเป็นอย่างดี มีความพร้อมสูง ตามปรัชญาชัดเจนเรื่องการระเบิดจากข้างใน ซึ่งมีนายก อบจ.ขึ้นไปนำเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมสมาคม AIPH ด้วย บ่งบอกถึงแผนงานที่จะพัฒนาพันธุ์พืชและวิถีชีวิตการอยู่กับธรรมชาติ รวมทั้ง “การบริหารจัดการ” เรื่องเอ็กซ์โปอย่างแท้จริง
ข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 ช้อปก่อนใครได้ที่”คิงเพาเวอร์”กระเป๋า-นาฬิกา-สินค้าเด็ดโปรเพียบ
คิง เพาเวอร์ ชวนให้มาช้อป “SUMMERSALE” ร้อนนี้ไม่มีเอาต์ รีบไปช้อป อัปเดตลุคหน้าร้อนก่อนใคร ที่ คิง เพาเวอร์ ห้ามพลาดไอเทมเเฟชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า นาฬิกา ชุดว่ายน้ำ หมวก เเละอื่นๆ อีกเพียบ แถมโปรโมชั่นพิเศษๆ เพิ่มดีกรีความฮอตขึ้นอีก! ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 2565
โปรโมชั่น คุ้มสุด ๆ เเบบนี้ ช้อได้ทุกวันที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี (คิง เพาเวอร์ ศรีวารี เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์) พัทยา และภูเก็ต
รับเลยคูปองส่วนลด 1,200 บาท* สำหรับช้อป 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ เพียง ลงทะเบียนก่อนช้อปเลย https://onestop.kingpower.com/PreRegister โดยจำกัด 1 สิทธิ์/คน/วัน พร้อมทั้งนับสิทธิ์รวมกันทุกช่องทางการช้อป
1.รับฟรี GIFT CARD 3,000 บาท* เมื่อซื้อ CASH CARD มูลค่า 10,000 บาท
2.สมัครสมาชิกบัตรคิงเพาเวอร์ก่อนช้อป ได้ทั้ง 2 บัตร 1.SCARLET เเละเติมเงิน 6,000 บาท รับวงเงินช้อปปิ้ง 7,500 บาท 2. ONYXเติมเงิน 60,000 บาท รับวงเงินช้อปปิ้ง 78,000 บาท
ข่าวที่ 2 คิงเพาเวอร์จัดพิเศษช้อปซัมเมอร์“EXCLUSIVE CODE” ลดสูงสุด 45%
คิง
เพาเวอร์ จัดช้อปรับซัมเมอร์ พิเศษ! “EXCLUSIVE CODE” ลดสูงสุด 45% ลดเพิ่มทันที 5%
รีบใช้ก่อนโค้ดหมด! โค้ดพิเศษสุด EXCLUSIVE เพื่อนักช้อป ราคาสุดคุ้มต้อนรับซัมเมอร์ ลดสูงสุด 45% ลดเพิ่มทันที 5% เมื่อช้อปครบ 3,000.- รหัสส่วนลด EXSUMMERช้อปเลยที่ - https://bit.ly/3vGcNhF
พิเศษ!
สำหรับลูกค้าช้อปออนไลน์ รับฟรีทุกออเดอร์ PASTEL POCKET
INHALER (คละสี) 1 ชิ้น
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกสี*ของแถมจำนวนจำกัดส่งฟรี! ทั่วประเทศ เมื่อช้อปครบ 699.- (สุทธิ)
1.แบ่งชำระ 0%* นานสูงสุดถึง 10 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 8,000.-* > http://bit.ly/2OzUV1k 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง > http://bit.ly/31yjocR (ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) 4.รับเลย! ส่วนลด 200.- เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ > http://bit.ly/2S4uJyi และ 5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000.- (สุทธิ) > https://bit.ly/3lyQbrs
ข่าวที่ 3 สมาชิกคิงเพาเวอร์ลด30%ซันเดย์บรั๊นท์รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์13,27มี.ค.65
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ จัดใหญ่อีกแล้ว พร้อมให้สิทธิพิเศษสุด ๆ กับ “สมาชิกบัตร “คิง เพาเวอร์” จองออนไลน์ลดทันที 30 % เพื่อรับประทาน “บุฟเฟ่ต์ซันเดย์บรันซ์ และบาร์บีคิว” วันอาทิตย์ที่ 13 และ 27 มีนาคม 2565 เวลา 12.00 – 15.00 น. ณ ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก ของโรงแรม
สมาชิกคิง เพาเวอร์ จองออนไลน์และรับส่วนลด 30% บุฟเฟต์ซันเดย์บรันช์ เหลือเพียง 1,399.30 บาทสุทธิ ฟรีเด็ก 1 คน อายุต่ำกว่า 12 ปี วันนี้ – 01 พฤษภาคม 2565 ส่วนราคาปกติจ่ายคนละ 1,999 บาทสุทธิ รวมน้ำ 1 ขวด พร้อมฟรีเด็ก 1 คน อายุต่ำกว่า 12 ปี
มาอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ซันเดย์บรันซ์ซีฟู้ด พร้อมเพลิดเพลินกับเสียงเพลงแซกโซโฟนอันไพเราะ โดย “โว้ก คุณนิธิ” นักแซกโซโฟนชื่อดังผู้เคยร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทยมากมาย
ชวนครอบครัวและเพื่อน ๆ มาอิ่มอร่อยกับโปรโมชั่น Sunday Brunch ที่ห้องอาหารควิซีน อันปลั๊ก พร้อมบาร์บีคิวสุดหรู น่ารับประทานทุกอย่าง เช่น ปูอลาสก้า หอยนางรมฝรั่งเศส ฟิน เดอ แคลร์ หอยนางรมแปซิฟิค หอยแมลภู่นิวซีแลนด์ กั้งทะเล กุ้งแดง พร้อมบาบีคิวอาหารทะเล
ทางพ่อครัวใหญ่ยังได้คัดสรรอย่างพิถีพิถันอีกหลากหลายเมนูอร่อย เช่น กุ้งแม่น้ำ เนื้อแกะนิวซีแลนด์ และเนื้อวากิว และเนื้อโทมาฮอว์คจากออสเตรเลีย หมูคุโรบุตะ หมูหัน ปรุงจากวัตถุดิบออร์แกนิคและโครงการหลวงที่ดีต่อสุขภาพ
ได้จัดมุมไว้ให้เด็ก ๆ ได้เล่นเกมลูกโป่งบอลลูน
ทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.00
– 15.00 น. ท่ามกลางเสียงแซกโซโฟนอันไพเราะ วันที่ 13 และ
27 มีนาคม
2565 รวมทั้งการแสดงตัวตลก
ในวันที่ 20 มีนาคม
2565
ข่าวที่ 4 ททท.ภูเก็ตชูTEST&GOทางน้ำดึงเงินเศรษฐีต่างชาติล่องยอร์ชจ่ายหนัก
นางสาวนันทาศิริ รณศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) สำนักงานภูเก็ต เปิดเผยว่า จากการที่ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยตามมาตการ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นมา โดยรวมการผ่านเข้ามาทางน้ำได้ด้วย จึงส่งผลดีกับจังหวัดภูเก็ต กระตุ้นการท่องเที่ยวทางเรือเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวยอร์ช และเรือสำราญ ซึ่งมีศักยภาพใช้จ่ายเงินสูง ส่วนใหญ่มาจากแถบยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 จังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่เดินทางเข้าไทยทางน้ำในรูปแบบ Test & Go ด้วยเรือส่วนตัว (Private Yacht) โดยเรือ The Maggie สัญชาติเรือมาเลเซีย เดินทางมาจากสิงคโปร์ นำชาวอินโดนีเซีย 4 คน จอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรืออ่าวปอ
ผอ.นันทาศิริ กล่าวว่า ตามปกติรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือของชาวต่างชาติที่เข้ามายังภูเก็ตมีทั้ง 1.อาจมาโดยเครื่องบิน แล้วเช่าเหมาเรือไปท่องเที่ยวในทะเลภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง แล้วกลับมาจังหวัดภูเก็ตเพื่อเดินทางกลับ หรือ 2.นั่งเรือจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเพื่อพักผ่อนบนเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทางยอร์ช
โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้งท่าเรือรองรับเรือได้หลากหลายขนาด
มีท่าเรือน้ำลึก 1
ท่า ท่าเรือของรัฐและเอกชนอีกกว่า 30 ท่า
มีบริการซ่อมเรือ บริการทางการท่องเที่ยว ที่พัก สปา แหล่งช้อปปิ้ง
ตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี
ขณะนี้ยังมีเรืออีกจำนวนมากแจ้งขอเดินทางเข้าภูเก็ตภายใต้ Test & Go
สถิติ 2 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังมีต่างชาติเที่ยวภูเก็ตทางเรือหรูรวมกว่า 118 ลำ ประกอบด้วย ปี 2564 มีเรือยอร์ชนำนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ต 91 ลำ มีพนักงานประจำเรือพร้อมผู้โดยสาร รวม 323 คน ปี 2565 ช่วง 2 เดือนแรก ระหว่างมกราคม-กุมภาพันธ์ 2565 มีเรือยอร์ชเข้ามา 27 ลำ จำนวนผู้โดยสาร 92 คน
ข่าวที่ 5 ททท.+นกแอร์บูม"บินลัดฟ้าท้าลองเส้น"กินฟรีที่ลำปาง20ร้านดัง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้รับการสนับสนุนจาก "สายการบินนกแอร์" ช่วยกระตุ้นการเดินทางในประเทศ สู่จังหวัดลำปาง จัดแคมเปญ "บินลัดฟ้า ท้าลองเส้น"
ชวนนักท่องเที่ยวบินเที่ยวบินไปลำปาง ร่วมกิจกรรมมากขึ้นบนเครื่องในเส้นทางบินลำปาง
สำหรับแคมเปญ “บินลัดฟ้า ท้าลองเส้น” มุ่งให้นักท่องเท่ยวทุกคนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยวลำปางไม่รู้ลืม
ร่วมกิจกรรมง่าย ๆ ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 เมษายน 2565 เพียงผู้โดยสาร นำบัตรที่นั่งของนกแอร์เส้นทาง กรุงเทพฯ-ลำปาง มาแลกความอร่อยกับเมนูเส้นจากร้านอาหารชื่อดังในลำปางกว่า 20 ร้าน
ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ททาง เพจ : ททท.สำนักงานลำปาง
ข่าวที่ 6 “บางจาก”บริษัทไทยรายเดียวผงาดคว้ารองแชมป์UN Women2021
นายโชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร พร้อมผู้บริหาร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง UN Women 2021 Thailand Women’s Empowerment Principles Awards (WEPs) สาขาสถานที่ทำงานที่มีความเท่าเทียมทางเพศ (1st Runner Up in the Gender-Inclusive and Workplace Category) จากการผลักดันแนวปฏิบัติด้านความเท่าเทียมและหลากหลายทางเพศไปใช้ในสถานที่ทำงาน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมและบทบาทของสตรีในภาคธุรกิจ
งานนี้ บางจากฯ เป็นบริษัทจากประเทศไทยรายเดียวที่ได้รับรางวัลสาขานี้ ส่วนผู้ชนะเลิศ คือ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และรองชนะเลิศอันดับ 2 คือบริษัท โนวาร์ตีส (ประเทศไทย) จำกัด
อีกทั้งบางจากยังได้รับ“รางวัลชมเชยในสาขาการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศผ่านกิจกรรมชุมชนและอุตสาหกรรม : Honourable Mention Community Engagement and Partnerships Category” โดยมีนโยบายส่งเสริมกิจกรรมร่วมกับชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เพื่อส่งเสริมสิทธิสตรีและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยโครงการ “คุณแจ๋ว คลีนเซอร์วิส” สนับสนุนการสร้างอาชีพ เสริมรายได้แก่สตรีในชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก จากการปฏิบัติงานทำความสะอาดตามสถานที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโด ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ขอรับบริการ
สำหรับ “รางวัล UN Women 2021 Thailand WEPs Awards” แบ่งเป็น 6 สาขารางวัล จัดขึ้นโดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) นับเป็นครั้งแรกของการมอบรางวัล WEPs Awards ในประเทศไทย ที่เน้นย้ำถึงบทบาทขององค์กรเอกชนในด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในภาคธุรกิจ ภายใต้หลักการเสริมสร้างศักยภาพสตรี (Women’s Empowerment Principles) ซึ่งเป็นหลัก 7 ประการสำหรับการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงในโลกธุรกิจ และเสริมสร้างความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ เพื่อนำไปสู่การเจริญเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจและเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ บริษัท บางจากได้ร่วมลงนามแสดงเจตจำนงผลักดันและเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย WEPs ด้วยเห็นความสำคัญของความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กร และสร้างสถานที่ทำงานที่ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (NAP) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ SDG5: Gender Equality / SDG16: Peace & Justice และ SDG17: Partnerships for the Goals จาก UN Women 2021 Thailand Women’s Empowerment Principles Awards (WEPs)
ช่วงที่ 2 ได้เวลาสายมู ชวนคนเกิดปีขาล ขึ้นเหนือไป “ไหว้พระธาตุช่อแฮ” จังหวัดแพร่ รับเทศกาลบุญเดือน 4 จัดแล้ววันนี้ ถึง 17 มีนาคม 2565 พร้อมสักการะ 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนที่ต้องระวังเรื่องใหญ่ตอนนี้กับ “12 ข้อรู้ไว้รับมือภัยไซเบอร์ป้องกันโดนแฮ็กโดนหลอก” จัดเต็มข่าวท้ายชั่วโมง ข่าวแรก “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี เปิดด้วยตนเองเที่ยวบินปฐมฤกษ์ “ดอนเมือง-เบตง” 14 มี.ค.65 นกแอร์จัดโปรตั๋วบิน 3,200 บาท ข่าวสอง “ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง-วัลลภ พุกกะณะสุต” อดีตผู้บริหารไร้ความผิดใดๆ ข่าวสาม “บางกอกแอร์” หวังปี65 โกยรายได้เฉียดหมื่นล้าน วางแผนบินเพิ่มในประเทศและต่างประเทศ 10 เส้นทาง
พาเที่ยว-คนปีขาลไหว้วัดพระธาตุช่อแฮเดือน4เมืองแพร่เติมบุญ9สิ่งศักดิ์สิทธิ์
นักท่องเที่ยวสายมู
ตั้งใจฟังดี ๆ การเดินทางรับบุญใหญ่ปีขาล 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ภูมิภาคภาคเหนือ แนะนำต้องไปไหว้ “พระธาตุช่อแฮ” จังหวัดแพร่ สำหรับคนเกิดปีขาล
ทุกปีทางวัดจะจัดให้มีงานนมัสการพระธาตุช่วงเดือน 4 ของทุกปี
ปีนี้ ททท.ชวนไปงาน“ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮเมืองแพร่แห่ตุงหลวง ประจำปี 2565” จัดระหว่างวันที่ 11-17 มีนาคม 2565 ณ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่
“วัดพระธาตุช่อแฮ” เป็นพระอารามหลวง อยู่ในบริเวณเขตเทศบาลตำบลช่อแฮ ห่างจากตัวเมืองแพร่ราว 9 กิโลเมตร จากตัวเมืองจังหวัดแพร่ ภายในเมืองจะร้านชิค ๆ ยอดสถาปัตยกรรมอาคารกับวัดเก่าแก่กระจายอยู่ทั่วไปหมด
ทุกปีจะมีประเพณี “ไหว้พระธาตุช่อแฮ” ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน
ตอนนี้จัดต่อเนื่องถึง 7 วัน 7 คืน วันแรกของงาน จะเริ่มขึ้นในวันขึ้น 9 ค่ำเดือน
6 เหนือ เดือน 4 ใต้ ของทุกปี ถือว่าการจัดงานไหว้พระธาตุช่อแฮ
ยึดถือตามจันทรคติเป็นหลัก ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่ แห่ตุงหลวง
ภายในงานมีขบวนแห่อันยิ่งใหญ่ด้วยริ้วขบวนของทุกอำเภอ
การฟ้อนรำ ขบวนช้างเจ้าหลวง และเครื่องบรรณาการ ขบวนแห่กังสดาล ขบวนแห่หมากเป็ง
ขบวนต้นผึ้ง ขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระธาตุ 12 ราศี ซึ่งประกอบด้วย ขบวนตุง 12 ราศี
ขบวนข้าวตอกดอกไม้ ต้นหมาก ต้นผึ้ง ต้นดอก ขบวนแห่ผ้าห่มองค์พระธาตุ 12 ราศี
ขบวนกังสดาล ขบวนตุงขบวนฟ้อนรำการเทศน์และมีการเทศน์และฟังเทศน์มหาชาติ
มหาเวสสันดรชาดก ทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับกลางคืนมีมหรสพสมโภชให้ชมทุกคืน
สิ่งสำคัญภายในวัด ได้แก่พระธาตุช่อแฮ
พระธาตุประจำปีขาลโดยพระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดปีเสือ (ปีขาล) พระธาตุช่อแฮ
เป็นพระธาตุ 1 ใน12 ราศี คือ เป็นพระธาตุประจำปีเกิด สำหรับคน ที่เกิดปีเสือ
(ปีขาล) หากนำผ้าแพรสามสีไปถวายจะทำให้ชีวิตมีพลังคุ้มครองป้องกันศัตรูได้
การสวดและไหว้ ให้เริ่มต้นนะโม 3 จบ แล้วสวดตามด้วยคาถาบูชาพระธาตุ 5 จบ
พลังบารมีจะดลบันดาลให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ห้ามพลาด สักการะและเยี่ยมชมสิ่งที่น่าสนใจภายในวัด
9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์
1. หลวงพ่อช่อแฮเป็นพระประธานประดิษฐานในพระอุโบสถ ศิลปะล้านนา เชียงแสน สุโขทัย
2. พระเจ้าทันใจหรือหลวงพ่อทันใจ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิปูนปั้น ลงรักปิดทอง
3. พระพุทธโลกนารถบพิตร และวิหารศิลปะล้านนาประยุกต์เป็นพระพุทธรูปปางพระนาคปรก ประดิษฐานอยู่ในวิหารศิลปะลานนาประยุกต์ ภายในมีภาพจิตกรรมฝาผนังอย่างสวยงาม สร้างขึ้น ในปี 2534 โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร ป.ธ.9)
4. พระเจ้านอนเป็นพระพุทธรูปที่ชาวจังหวัดแพร่เคารพนับถือ ก่อนจะขึ้นไหว้องค์พระธาตุช่อแฮ ชาวบ้านมักจะแวะไหว้พระเจ้านอนก่อนเสมอ สร้าง เมื่อขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เหนือ พ.ศ. 2459 เป็นพระเจ้านอนศิลปะพม่า
5. ธรรมมาสน์โบราณ มีความสวยงามวิจิตรบรรจง ลวดลายไทยผสมศิลปะทางล้านนา
6. กรุอัฐิครูบาศรีวิชัยบรรจุอัฐิธาตุส่วนที่ 5 จากจำนวน 7 ส่วนของครูบาศรีวิชัย
7. บันไดนาคโบราณภายในวัดพระธาตุช่อแฮมีบันไดนาค อยู่ 4 ด้าน และบันไดสิงห์ 1 ด้าน รวม 5 บันได ซึ่งล้วนมีความยาวและจำนวนขั้นไม่เท่ากัน
8. เจ้ากุมภัณฑ์มีความเชื่อว่า นาคที่เฝ้าบันไดกุมภัณฑ์ ด้านทิศตะวันออกขององค์พระธาตุช่อแฮ ชอบหนีออกไปเล่นน้ำที่ลำน้ำแม่สาย หมู่บ้านใน เป็นประจำ ชาวบ้านจึงสร้างเจ้ากุมภัณฑ์นั่งทับขดหางนาคไว้ เพื่อมิให้หนีไปเล่นน้ำอีก
9. แผ่นศิลาจารึกตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระเจ้าทันใจ จารึกเรื่องราวการสร้างบันไดด้านทิศตะวันตกและสวนรุกขชาติช่อแฮ
คนเกิดปีขาลและพุทธศาสนิกชน มีโอกาสต้องแวะมาไว้
“พระธาตุช่อแฮ” ได้ตลอดทุกวัน
สุขภาพ - 12 ข้อรู้ไว้รับมือภัยไซเบอร์ป้องกันโดนแฮ็กโดนหลอกเอาข้อมูล
มาทำความเข้าใจแนวคิดของการปกป้องความเป็นส่วนตัวในโลกออนไลน์ รอยเท้าดิจิทัล การรักษาความปลอดภัยทางดิจิทัล ช่วยป้องกันภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์ได้ ข้อแนะนำต่อไปนี้ มี 12 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
1.ไม่ตั้งรหัสผ่านที่ง่ายเกินไป -รหัสผ่านเป็นกุญแจที่ไขเข้าสู่ข้อมูล และเอกสารของเรา อาชญากรไซเบอร์จะใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อที่จะเข้าผ่าน เข้ารหัสให้ได้ เพื่อที่จะไม่ให้คนพวกนี้เข้าถึงได้ง่าย ควรตั้งรหัสที่ยาก ซับซ้อน และไม่ควรบันทึกรหัสผ่านไว้ในอุปกรณ์ดิจิทัล
2. ใส่ใจกับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว -แอพส่วนใหญ่จะมีตัวเลือกในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้งาน
เพื่อที่จะตัดสินใจได้ว่าข้อมูลไหน จะแบ่งปันให้ใครได้เท่าไร
ทางที่ดีควรจะเลือกตั้งค่าให้มีความเป็นส่วนตัวให้มากที่สุด ระมัดระวังการเปิดเผยชื่อและที่ตั้งของเรา
และปฏิเสธแอพที่พยายามจะเข้าถึงกล้องถ่ายรูปของเรา
3. ใส่ใจรอยเท้าดิจิทัล -สิ่งที่ผู้ใช้โพสต์ลงโลกออนไลน์แล้ว สิ่งนั้นจะคงอยู่ตลอดไป
แม้ว่าโพสต์ต้นทางจะลบแล้ว คนอื่นก็จะตามร่องรอยเราจนได้ เมื่อคิดจะโพสต์
ควรโพสต์แต่เรื่องที่ดี ๆ และระมัดระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
4. ควรติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ดิจิทัลทุกตัว -รวมถึงโทรศัพท์ด้วย
เพื่อที่จะปกป้องอุปกรณ์เหล่านั้นจากภัยคุกคามในโลกไซเบอร์
5. สำรองข้อมูลไว้เสมอ - การสำรองข้อมูลมักถูกมองข้ามเสมอ
แต่เป็นเรื่องสำคัญที่จะปกป้องข้อมูลที่สำคัญ
โปรแกรมเรียกค่าไถ่จะยึดข้อมูลของผู้ใช้งานไว้เป็นตัวประกัน
6. ติดตั้งเครื่องมือติดตามอุปกรณ์หรือล็อคหน้าจอ -ในกรณีที่ทำหาย
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่เอาไปเข้าถึงข้อมูลในเครื่องได้
7. ระมัดระวังการใช้บลูทูธ - ถึงแม้ว่าจะสะดวกสบาย แต่บลูทูธก็ยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ควรจะปิดโหมดบริการนี้ไว้เสมอ เมื่อไม่ได้ใช้งาน
8. อัพเดตระบบปฏิบัติการอยู่เสมอ - ทั้งระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ ดิจิทัล และโปรแกรมและแอพลิเคชั่นที่ติดตั้งในอุปกรณ์นั้น
เพื่อที่จะรับบริการด้านความปลอดภัย และซ่อมแซมข้อบกพร่องของรุ่นเก่า ๆ
9. ระมัดระวังการใช้ไวไฟ - อุปกรณ์ไวไฟที่ใช้ควรจะมีความปลอดภัย ควรตั้งรหัสผ่านไว้ตลอดเวลา
และไม่ใช้ไวไฟสาธารณะ เมื่อต้องเปิดเผย Wi-Fi ข้อมูลส่วนตัวหรือทำธุรกรรม
10. ลบข้อมูลหรือโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
-หากมีโปรแกรม หรือแอพที่ไม่ได้ใช้งานหลายเดือนแล้ว
ควรจะเอาออกเสีย เช่นเดียวกับข้อมูลที่ไม่ได้ใช้แล้ว ควรจะลบออก
หรือไม่ก็ควรจะเก็บข้อมูลเหล่านั้น ในฮาร์ดไดร์ฟต่างหาก
หรือเก็บไว้ในลักษณะออฟไลน์ เพื่อที่จะปกป้องข้อมูลส่วนตัว
ในกรณีที่ผู้ใช้งานอาจจะลืม
11. ระมัดระวังการหลอกลวงให้กรอกข้อมูล
(Phishing) -มิจฉาชีพจะปลอมตัวเป็นองค์กรที่เป็นที่รู้จัก
และหลอกล่อให้ผู้ใช้งานเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
เพื่อจะเข้ารหัสผ่านหรือเพื่อติดตั้งมัลแวร์ ควรสังเกต URL ของเว็บไซต์ให้ชัดเจนและอย่ากดลิ้งก์หรือเปิดไฟล์ที่แนบเข้ามา
ระมัดระวังการหลอกลวงของแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่พยายามล้วงข้อมูลส่วนตัว
และนำไปเปิดบัญชีอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งที่สามารถโอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ใช้งานออกไปได้
12. ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างระมัดระวัง -ไม่ควรรับคนที่ไม่รู้จักเป็นเพื่อน หลีกเลี่ยงการแชตกับคนแปลกหน้า ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในโหมดสาธารณะ เเละลบบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่ได้ใช้แล้ว
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก “นายกฯประยุทธ์”เปิดปฐมฤกษ์บินเบตง14มี.ค.65นกแอร์ขายตั๋วโปร3,200บาท
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) -เบตง (จังหวัดยะลา เที่ยวแรกจะบินวันที่ 14 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมี “นกแอร์” ให้บริการบินรับส่งผู้โดยสารแบบประจำ ไป-กลับ สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์
ขณะนี้ “นกแอร์" ได้จัดทำโปรโมชั่นต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์เส้นทางใหม่เรียบร้อยแล้ว ไป-กลับ ดอนเมือง - เบตง (ยะลา) ใช้เครื่องบินแบบ Q400 ขนาด 86 ที่นั่ง/ลำ “ราคาตั๋วโดยสาร” เริ่มต้น 3,500 บาท/ที่นั่ง ระหว่าง 14 มีนาคม – 30 กันยายน 2565
ตามตารางบิน แต่ละวัน “ขาไป” กำหนดออกจาก สนามบินดอนเมือง (DMK) โดยรหัสเที่ยวบิน DD 6260 เวลา 10.00 น. ถึงสนามบินเบตง (BTZ) 11.45 น. ได้จัดทำราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินให้เลือกซื้อในราคา ไม่รวมค่าธรรมเนียมการชำระเงิน ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ช่องทางการชำระเงิน
“ขาไป” จากดอนเมือง สามารถเลือกซื้อตั๋ว 3 แบบ คือ 1.ตั๋ว Nok Lite ราคา 3,500 บาท 2.ตั๋ว Nok X-tra ให้น้ำหนักสัมภาระ 15 กิโลกรัม/คน ราคา 3,830 บาท 3. Nok Max ให้น้ำหนักสัมภาระ 25 กิโลกรัม/คน ราคา 4,150 บาท
“ขากลับ” โดยรหัสเที่ยวบิน DD 6261
ออกจากเบตง เวลา 15.00 น. ถึงดอนเมือง เวลา 16.45 น. มีตั๋วโดยสารให้เลือกซื้อ 1.Nok Lite ราคา
3,200.01 บาท/คน 2.Nok
X-tra ราคา 3,530 บาท/คน 3.Nok Max ราคา
3,850 บาท
ข่าวที่สอง-ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง“วัลลภ พุกกะณะสุต”อดีตผู้บริหารบินไทยไม่ผิด
นายวัลลภ พุกกะณะสุต อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม ตาม “คำสั่งศาลอุทธรณ์” แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ มีคำพิพากษาตัดสินเรียบร้อยแล้ว ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 “ให้เป็นผู้บริสุทธิ์ มิได้ใช้อำนาจของตนในการปฏิบัติหน้าที่ตามการวิจัยฉัยของศาลชั้นต้น” และการกระทำ “ไม่อาจเป็นความผิดดตามฟ้อง” ในคดีที่ถูกกล่าวหาเมื่อปี 2553 ขณะทำงานในตำแหน่งบริหารอยู่ใน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
คดีดังกล่าวเป็นการต่อสู้กันระหว่าง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)” เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องตนเอง (นายวัลลภ พุกกะณะสุต) เป็นผู้ถูกกล่าวหาในฐานะจำเลย ใช้อำนาจในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังจากศาลชั้นต้นตัดสิน จำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ประทับรับอุทธรณ์ ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564
จากนั้นศาลอุทธรณ์ฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและพยานแวดล้อมตามข้อกล่าวหาของ ปปช.แล้ว ตัดสิน “ยกฟ้อง” เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ตามที่ศาลอุทธรณ์ระบุคำตัดสินว่า พบข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า “จำเลย” เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามข้อกล่าวหา กรณีใช้อำนาจหน้าที่ของตนโดยมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่
ดังนั้นในขณะที่จำเลยเดินทางกลับในวันเกิดเหตุ จำเลยจึงอยู่ในฐานะ “ผู้โดยสารคนหนึ่ง” และจำเลย “มิได้ใช้อำนาจของตนในการปฏิบัติหน้าที่” ตามคำวินิจฉัยข้างต้น
“การกระทำของจำเลยจึง “ไม่อาจเป็นความผิดตามฟ้องได้” การไต่สวนพยานหลักฐาน “รับฟังไม่ได้ว่ามีความผิดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น”
เมื่อวินิจัยดังนี้แล้ว อุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยไม่จำต้องวินิจฉัยที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น “ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ” ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น “พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง” ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
ข่าวที่
3 บางกอกแอร์โชว์แผนปี65จ่อโกยเฉียดหมื่นล้านบินใน-อินเตอร์เพิ่ม10เส้นทาง
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะเจ้าของสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส วางแผนการดำเนินธุรกิจปี 2565 ตั้งเป้ามีรายได้รวมกว่า 8,175 ล้านบาท ปริมาณเที่ยวบินกว่า 3.4 หมื่นเที่ยว และจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน มีอัตราการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย 65% ราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ย 3,100 บาท/เที่ยว โดยพร้อมกลับมาเปิดเส้นทางบินอีกครอบคลุมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และคาดการณ์อุตสาหกรรมการบินภาพทั้งในไทยและทั่วโลกรวมจะเริ่มฟื้นตัวได้ในปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567
สำหรับปี 2565 คาดธุรกิจการบินจะฟื้นได้ประมาณ 40% หลังการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นกับมาตรการผ่อนคลายควบคุมการระบาดโควิด-19 ดังนั้นบางกอกแอร์เวย์สวางแผนปี 2565 จะบินเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10 เส้นทาง ได้แก่ วันที่ 27 มีนาคม 2565 บิน ไป-กลับ 1.กรุงเทพฯ-กระบี่
“ไตรมาส 3” เตรียมบิน 2.สมุย–เชียงใหม่ 3.สมุย-ฮ่องกง 4.กรุงเทพฯ-เสียมราฐ “ไตรมาส 4” เตรียมบิน 5.เชียงใหม่-กระบี่ (เที่ยวเดียว) 5.เชียงใหม่-ภูเก็ต (เที่ยวเดียว) 6.สมุย-กระบี่ 7.กรุงเทพฯ–ดานัง 8.กรุงเทพฯ - หลวงพระบาง 9.กรุงเทพฯ ย่างกุ้ง และ 10. กรุงเทพฯ– มัลดีฟส์
ทั้งนี้การกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินต่าง ๆ นั้น ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยว มาตรการการเดินทางของแต่ละประเทศ และการควบคุมสถานการณ์โควิด–19 ที่อาจยังไม่คลี่คลายก็เป็นได้
นายพฤติพงศ์ กล่าวว่า สถานการณ์ช่วงปีที่ผ่านมา ตั้งแต่พฤษภาคม 2564 โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ระบาดอีกครั้งกระทบเดินทางลดลงถึงเดือนสิงหาคม บางกอกแอร์เวย์สต้องใช้วิธีบินแบบ sealed route เพื่อสนับสนุนนโยบายเปิดประเทศผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัส กระทั่งรัฐบาลประกาศเปิดประเทศอีกครั้งช่วงพฤศจิกายน 2564 ผู้โดยสารเริ่มทยอยเพิ่มขึ้น
เมื่อปี 2564 “สมุย” ยังคงเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำรายได้จากผู้โดยสารอยู่ที่ 63% ของทั้งหมด ส่วนเส้นทางภายในประเทศอื่น ๆ ทำได้ 35% ขณะที่ กลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กรุงเทพ-พนมเปญ เปิดบินเมื่อธันวาคม มีสัดส่วนรายได้ 2% ของรายได้ทั้งหมดปี 2564
ปัจจุบัน บมจ.การบินกรุงเทพ มีฝูงบินรวม 37 ลำ ภายในสิ้นปี 2565 จะบริหารจัดการให้เหลือทั้งสิ้น 30 ลำ โดยจะทยอยคืนเครื่องที่ครบสัญญา ได้แก่ 1.Airbus A320 รวม 5 ลำ 2.ขายเครื่องบิน ATR72-500 อีก 2 ลำ
อีกทั้งยังได้ยกระดับ “มาตรฐานด้านการซ่อมบำรุงเครื่องบิน” โดยได้รับ “ใบรับรองหน่วยซ่อม” ซึ่งผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการและมาตรฐาน ตามข้อกำหนดใหม่ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยพัฒนาขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศยานแบบ Airbus และ ATR นระดับ Base Maintenance และ Line Maintenance ด้วย
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น