“TCEB”+ก.เกษตร+อุดร”นำไทยคว้าเจ้าภาพจัดพืชสวนโลก2026ที่อุดร ทุ่ม 2.5พันล้านบูมวิถีอนุลุ่มน้ำโขงขานรับBCG+SDGsดันเศรษฐกิจโต
“TCEB”+ก.เกษตร+อุดร”นำไทยคว้าเจ้าภาพจัดพืชสวนโลก2026ที่อุดร
ทุ่ม 2.5พันล้านบูมวิถีอนุลุ่มน้ำโขงขานรับBCG+SDGsดันเศรษฐกิจโต
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
#รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TCEB #ไทยเจ้าภาพพืชสวนโลกอุดรธานี2026
สดจากดูไบ...8 มีนาคม 2565
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รับมอบที่ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมพืชสวนโลก 2026 อุดรธานี
“TCEB”พร้อมกระทรวงเกษตรและผู้ว่าอุดรธานี นำไทยคว้าเจ้าภาพ “มหกรรมพืชสวนโลก 2569 :International Horticultural Expo 2026 เลือกพื้นที่ใหม่ “หนองแด” อุดรธานี จัดงานระดับโลกครั้งแรก 1 พ.ย.2569 -14 มี.ค.2570 ชูสร้างแลนด์มาร์คอีเว้นต์ครั้งแรกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
ภายใต้แนวคิด Diversity of Life: People, Water and Plants วิถีชีวิต สายน้ำ และพืชพรรณ
ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของพื้นที่ ความเชื่อมโยงของสายน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ
และผู้คนในท้องถิ่น ผนวกแนวคิดโมเดล BCG ผนวกนโยบายการเกษตรและอาหาร
“3S” ขานรับ SDGs ขององค์การสหประชาชาติ
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บเป็นตัวแทนชิงประมูลงานรายการใหญ่ของโลกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ในการประชุมสามัญประจำปี 2565 ของสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producers หรือ AIPH) ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในงานงาน World Expo Dubai ได้ลงมติให้ไทยได้สิทธิ์เป็นประเทศเจ้าภาพการจัดงานมหกรรม “พืชสวนโลก 2569 : International Horticultural Expo 2026 ปี 2569 หรือ Udon Thani International Horticultural Expo 2026 จะจัดขึ้นในพื้นที่ใหม่ "หนองแด" อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 ถึง 14 มีนาคม 2570
การจัดงาน
Udon Thani International Horticultural Expo 2026 คาดจะใช้เงินลงทุน
2,500 ล้านบาท และสามารถดึงดูดผู้เข้าชมงานจำนวน
3.6 ล้านคน ตลอดการจัดงานทั้ง 134 วัน
ทีเส็บในฐานะตัวแทนประเทศไทยในการยื่นประมูลสิทธิ์ครั้งนี้ ได้กล่าวแสดงความมั่นใจต่อความสำเร็จของการจัดงานที่ถือเป็นงานแลนด์มาร์คระดับโลก ซึ่งไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกมาแล้วถึง 2 ครั้ง ที่เชียงใหม่ รวมทั้งได้เน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของรัฐบาล และวาระแห่งชาติในการส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ BCG : Bio-Circular-Green Economy Model เศรษกิจทฤษฎีใหม่ที่ผสมผสานการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อพัฒนาสังคมเศรษฐกิจ
ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยมุ่งลดและพลิกฟื้นผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดงานที่จะเกิดขึ้นในปี 2569
ประเทศไทยวางกลยุทธ์จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พ.ศ. 2569 (Udon Thani International Horticultural Expo 2026) ภายใต้แนวคิด
“Diversity of Life: Connecting Water, Plants, and
People for sustainable living หรือ ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต: สายสัมพันธ์แห่งน้ำ พืชพรรณ และผู้คนสู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน”
อันสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำของจังหวัดอุดรธานี
ที่สร้างความเชื่อมโยงระหว่างสายน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติ
และผู้คนในท้องถิ่นเข้าไว้ด้วยกัน
โดยมี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ทำพิธีรับมอบการเป็นเจ้าภาพจัดงาน พร้อมได้กล่าวแสดงความขอบคุณในนามของรัฐบาลไทยต่อสมาชิก AIPH ที่ความไว้วางใจและการสนับสนุนประเทศไทย ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นำโดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อีกทั้งยังได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อการมีส่วนร่วมด้านความมั่นคงทางอาหารโลกตามนโยบายเกษตรและอาหาร
“3S” มุ่งเน้น S 1 : Safety ด้านความปลอดภัยทางอาหาร S 2 : Security ความมั่นคงทางอาหาร
และ S 3 : Sustainability ความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศการเกษตร
เป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) และยึดมั่นต่อเจตจำนงด้านสภาพภูมิอากาศตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) อีกด้วย
ความมุ่งมั่นขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าวสามารถผนวกใช้เป็นพื้นฐานของแนวคิดและการนำเสนอสาระของงาน และหวังจะช่วยขับเคลื่อนประเด็นความยั่งยืนได้ชัดเจนขึ้น จนเป็นแรงผลักดันให้มีการขับเคลื่อนมาตรการแนวปฏิบัติที่ทำได้จริงในระดับสากลเพื่อความยั่งยืนที่ลดทอนผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ต่อไป
นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ กล่าวย้ำว่า จังหวัดอุดรธานีมีความพร้อมและการสร้างความมั่นใจต่อความสำเร็จของการจัดงาน “มหกรรมพืชสวนโลก” ที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในพื้นที่ชุ่มน้ำ ผนวกกับอุดรธานีมีสถานะความเป็นประตูสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงศูนย์กลางด้านการคมนาคมและเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค
ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดงานครั้งนี้จะสามารถสะท้อนภาพแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมตลอดถึงพันธุ์ไม้นานาชนิดซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของการจัดงานอีกด้วย
นายทิม ไบรเออร์คลิฟฟ์ (Mr. Tim
Briercliffe) เลขาธิการสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (Secretary
General of AIPH) กล่าวว่า ในนามของสมาคม AIPH มุ่งหวังจะเห็นการจัดงานที่สามารถตอบโจทย์วาระการพัฒนาโลกในด้านต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงโดยรวม
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่จัดงานและพื้นที่เชื่อมโยงของทั้งไทยและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น