ททท.”เคลื่อนทัพใหญ่บุกแล้วตลาดเอเชีย&แปซิฟิกใต้เป้า 1.5ล้านคน ชูTTMPlus2022ภูเก็ตมิ.ย.เชิญทั่วโลกบูมไทยดึงอินเดีย5แสนคน-รุกออสเตรเลีย
“ททท.”เคลื่อนทัพใหญ่บุกแล้วตลาดเอเชีย&แปซิฟิกใต้เป้า 1.5ล้านคน
ชูTTMPlus2022ภูเก็ตมิ.ย.เชิญ250เอเย่นต์+100สื่อทั่วโลกบูมเที่ยวไทย
ดึงอินเดียทัวร์ไทย5แสนคน-รุกออสเตรเลียกลุ่มหรู-เจาะญี่ปุ่นคุณภาพ
“คิง เพาเวอร์”อัดโปรReady Go Summer!ช้อป3เติมสุขแจกเงินสมาชิก
สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับจุใจ4สิทธิ์ใหญ่+เคล็ดลับ4สเต็ปช้อปสุดคุ้ม
บัตรคิงเพาเวอร์5ประเภทรับเลย2สนามบิน“สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต”ลด15%
ททท.บูมใช้เงินดิจิทัลบล็อคเชนช้อปเที่ยวไทยใน“Thailand Holideals”
“บางจาก”มอบบัตรเติมน้ำมันรถรับผู้ป่วยโควิด-ทำปั๊มลดเสี่ยงเลี่ยงสัมผัส
ปักหมุดเที่ยวกระบี่สวยเบิ้มๆฟู้ดเฟสต์-ท่าปอมคลองสองน้ำ-อ่าวมาหยา
ด่วน!!ปรับตัว5อย่างเปลี่ยนพฤติกรรมกินปลอดภัยต้อนรับซัมเมอร์ปีขาล
รร.เพนนินซูลากรุงเทพฯรุกขายเวลเนสเฟสต์กิจกรรมสุขภาพ18-20
มี.ค.
“รมว.พิพัฒน์”หนุนเที่ยวเชิงกีฬาบูมเอ็กซ์ตรีมปูพรมไทยจัดระดับอินเตอร์
วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม
2565 ต้อนเข้าสู่รายการ
“รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน”
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0
MHz. ฟังได้ทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen
บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน
#เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT
#ทททตลาดเอเชีย #TTMPlus2022
#ReadyGoSummer #KrabiFoodFest2565 #
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้… https://fb.watch/byEzzWdfbx/
ช่วงที่ 1 เดินหน้าลุยกับ “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ”
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กวาดต้อนเอเชียเที่ยวไทยตลอดปีขาล
1.5 ล้านคน ชูหมัดเด็ดจัด
“Thailand Travel Mart Plus 2022 : TTM +” ดึงตลาดเอเชียและทั่วโลกกลับเข้าไทย
สร้างจุดขาย 3 เรื่อง
“ชวนเอเย่นต์คู่ค้า+สื่ออินเตอร์
350 ราย-โชว์ศักยภาพด้วยไฮบริดเทรดครั้งแรก-เปิดยิ่งใหญ่
Visit Thailand Years :Amazing New Chapters” แจกของขวัญธุรกิจไทยลดค่าบูธในงานลง 50
% พร้อมฉายภาพใหญ่เล็งโกยนักท่องเที่ยวขาใหญ่
“อินเดีย” 5 แสนคน หลังรัฐบาลปลดล็อก
Air Travel Bubble เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มาเลย์จ่อเปิดทัวร์ข้ามแดนด่านสะเดา เอเชียตะวันออกมีสัญญาณดีจาก “ญี่ปุ่น” ส่วน “ออสเตรเลีย”
การบินไทยนำร่องบินแล้ว เตรียมนำเอกชนลัดฟ้าไปน็อกดาวน์เจาะตลาดเที่ยวหรูหรามาไทย
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบการเตรียมจัดงานใหญ่ “Thailand Travel Mart Plus (+) : TTM +2022” ระหว่าง 7-10 มิถุนายน 2565 ที่จังหวัดภูเก็ต สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ว่าการ ททท.ให้เดินหน้าการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศหลังประกาศใช้ Test & Go อนุญาตให้นักเดินทางทั่วโลกเข้ามาไทยได้แล้ว ผนวกกับช่วงโควิดระบาดก็งดจัด TTM Plus + ไป 2 ปี ปี 2565 เป็นโอกาสดีได้กลับมาจัดอีกครั้ง
โดยสรุปปี
2565 รวม ๆ กันแล้ว
ททท.ตั้งเป้าหมายจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยตลอดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน
เป็นตัวเลขต้อนรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง
โดยทางผมได้รายงานให้ทางคณะกรรมการ (บอร์ด) ททท.รับทราบเรียบร้อยแล้ว
เหตุผลที่เลือกจัด TTM + 2022 ที่ภูเก็ตเพราะก่อนเกิดโควิดระบาด ททท.สัญจรจัดตามจังหวัดท่องเที่ยวหลักในแต่ละภาคทั้ง พัทยา (ภาคตะวันออก) เชียงใหม่(ภาคเหนือ) แล้วพอมาถึง “ภูเก็ต” (ภาคใต้) ก็เกิดการระบาดพอดีต้องเลื่อนออกไป เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงจึงต้องทำตามสัญญา รวมทั้งมีความเหมาะสมหลายปัจจัย เช่น เป็นพื้นที่แรกนำร่องเปิดโครงการ Sand Box ทดลองใช้มาตรการต่าง ๆ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบันตามมาด้วยโครงการ Test & Go ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวดีขึ้นเรื่อย ๆ มีสายการบินต่าง ๆ จากตะวันออกกลาง อย่าง เอมิเรตส์ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) หรือ การบินไทยก็มีเที่ยวบินตรงจากออสเตรเลียเข้าภูเก็ต
ความสำคัญของ
TTM + 2022 มีความหมายอย่างมากต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
เพราะงานขนาดใหญ่ระดับโลก ตัวอย่าง ITB 2022 -International Travel Berlin ศูนย์รวมการเจรจาธุรกิจท่องเที่ยวของทั่วโลกปีนี้ยังต้องงดจัดอีกครั้ง
เพราะโควิดยังระบาดต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทยเลือกที่จะอยู่กับโควิด-19 อย่างเข้าใจ
และมั่นใจมาตรการในระบบสาธารณสุขของไทย
ซึ่งสามารถใช้ศักยภาพการท่องเที่ยวฟื้นฟูรายได้ ตามแผนงานจะประกอบด้วย
ส่วนที่ 1 ททท.ตั้งเป้าหมายเชิญชวนผู้เกี่ยวข้องทั่วโลกมาไทย ไม่ต่ำกว่า 350 ราย (ยกเว้นสาธารณรัฐประชนจีน ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลจีน) ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการซึ่งเป็นตัวแทนผู้ซื้อท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาให้ได้ไม่ต่ำกว่า 250 ราย กลุ่มที่ 2 สื่อมวลชนจากนานาชาติอีก 100 ราย
ส่วนที่ 2 การสร้างงานให้ดึงดูดความสนใจ ททท.วางแผนจัดงานรูปแบบใหม่เป็น Hybrid Trade ได้ด้วย ถึงแม้ “ผู้ประกอบการหรือบริษัทผู้ซื้อซึ่งเป็นตัวแทนจากจีนยังไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ แต่ก็จะไม่ได้ปิดโอกาส เพราะ ททท.ทุกสำนักงานใน 5 เมือง ร่วมมือทำกิจกรรมต่อเนื่องกับผู้ประกอบการจีนมาตลอด แต่ด้วยเหตุผลที่รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางต่างประเทศ ททท.จะใช้วิธีไฮบริด โดยเซ็ตระบบดิจิทัลเข้าไป เพื่อเปิดช่องทางให้ผู้ซื้อใช้ระบบออนไลน์เจรจาการค้ากับผู้ข่ายออนไซต์ในงานได้ ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการพูดคุยกับผู้อำนวยการ
ทททท.สำนักงานทั่วโลก
พบว่าเอเย่นต์ท่องเที่ยวนานาชาติอยากจะเดินทางมาร่วมงานในเมืองไทย
เมื่อรัฐบาลเปิดระบบ Test & Go ก็ยิ่งได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น
ซึ่งผู้ซื้อที่จะเดินทางมามีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน 250 ราย
ตอนนี้แบ่งพื้นที่นำเสนอเอเย่นต์มาอย่างละครึ่ง คือ ทวีปใกล้ ผมรับผิดชอบในโซนเอเชีย
และแปซิฟิกใต้50 % และ ทวีปไกล 50
% คุณฉัตรทันต์ กุญชร ณ อยุธยา
รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา อะเมริกา รับผิดชอบ
ซึ่งได้พิจารณาถึงกรณีการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน จะกระทบผู้ประกอบการแถบนี้ด้วยหรือไม่
หรืออาจจะจบเร็วก็ได้
ส่วนที่ 3 เสนอจุดขาย Visit Thailand Year 2022 - Amazing New Chapters กับการคัดเลือกกลุ่มผู้ซื้อ (buyers) จากทั่วโลก กับตัวแทนขายท่องเที่ยวในไทย (Sallers) จะต้องเน้นด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการโชว์เคสสร้างความมั่นใจในการเปิดประเทศไทยต้อนรับการท่องเที่ยวหลังโควิดตามคอนเซ็ปต์ที่ผมเสนอให้เปิดตัวปีท่องเที่ยวไทย 2565 ไปพร้อมกัน คือ Visit Thailand Year 2022 - Amazing New Chapters แล้ว TTM+2022 ก็จะเป็นหนึ่งของปีท่องเที่ยวไทย
ดังนั้นเอเย่นต์ที่ ททท.จะเชิญเข้าร่วมการซื้อขายมีทั้ง”เอเย่นต์เก่า” ซึ่งไม่สามารถทอดทิ้งได้ กับ “เอเย่นต์ใหม่” มาจากพื้นที่ใหม่ ที่จะเข้ามาดูสินค้าท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่พลิกโฉมไปมากแล้ว
รายละเอียดการจัด TTM + 2022 นอกเหนือจากการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างวันที่ 8-9-10 มิถุนายน 2565 แล้ว ในวันที่ 11 มิถุนายน 2565 ททท.จะจัดเป็นโพสต์ทัวร์ไปสัมผัส New Chapters ของไทย มีเส้นทางหลัก ๆ ไปยัง 1.เกาะสมุย 2.เชียงใหม่ 3.อีสาน 4.ภาคตะวันออก เห็นโฉมใหม่พื้นที่ตัวอย่างในแต่ละภาคที่ ททท.จะเสนอขายต่อไป
ททท.เองก็ให้สิทธิ์ “ผู้ขาย -Sallers” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในประเทศไทย ก็จะใช้เกณฑ์การคัดเลือกตามมาตรฐานของ TTM + ที่มีอยู่แล้ว 1.ผู้ที่ได้รับรางวัลกินรี Tourism Awards สัดส่วน 10 % ของผู้ประกอบการทั้งหมด 2.เอกชนโรงแรมทุกระดับที่มีอนุญาตประกอบการถูกต้องตามกฎหมาย
ไฮไลต์ปี TTM +2022 ททท.ได้ลดค่าบูธลงราว 50 % ให้ผู้ขายไทยเหลือประมาณ 17,000 บาท/บูธ จากปกติจะเก็บ 35,000 บาท/บูธ เพราะเข้าใจสถานการณ์โควิด-19 เอกชนต้องปรับตัวให้อยู่รอด
นายธเนศวร์ กล่าวเพิ่มถึงแผนการรุกทำตลาดท่องเที่ยวแถบเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ปี 2565 ใส่เกียร์สี่เดินหน้าเต็มที่ เล็งไปยัง 3-4 ตลาด ได้แก่
ตลาดแรก “อินเดีย” มีความมั่นใจมาก เพราะตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 รัฐบาลไทยปลดล็อกเรื่อง Air Bubble เรียบร้อยแล้ว เปิดทางให้ชาวอินเดียเดินเข้ามาไทยได้ต่อเนื่อง
เพราะสถานการณ์กักตัวก็คลี่คลายแล้ว
ในช่วงก่อนหน้านี้ไม่มีเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ให้บริการบินกับเดินทางได้
เพราะไทยกับอินเดียไม่มีข้อตกลงเรื่อง Air Bubble แต่เมื่อปลดล็อกเรื่องนี้แล้วก็สามารถมีเที่ยวบินพาณิชย์บริการได้
พอผมมารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นรองผู้ว่าการด้านตลาดเอชีย และแปซิฟิกใต้ โดยมีอินเดียรวมอยู่ด้วย รู้ดีต้องปลดล็อกกุญแจเรื่อง Air Travel Bubble ให้ได้ก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อทำให้นักเดินทางอินเดียเข้ามาได้ กระทั่งได้รับความอนุเคราะห์จากกระทรวงคมนาคม และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปลดล็อกสำเร็จ ทำข้อตกลง Air Bubble Agreement เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เว็บไซต์บริษัทตัวแทนนำเที่ยวอินเดียเสนอขายโปรแกรมเที่ยวเมืองไทยกันเป็นจำนวนมาก
เป้าหมายหลังปลดล็อก Air Travel Bubble ระหว่างไทยกับอินเดียแล้ว ททท.ตั้งเป้าจะนำเข้านักท่องเที่ยวอินเดียตลอดปี 2565 มาให้ได้ 500,000 คน โดยจะมีผู้ให้บริการ 13-14 สายการบินนานาชาติบิน ช่วยกันสร้างอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยให้สายการบินไม่ต่ำกว่า 70 % ถึงแม้จะไม่ถึง 100 % ก็ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจแล้วท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังต้องจับตาดูเรื่องโควิด-19
อดีตเมื่อปี
2562 “อินเดีย”
เคยเป็นตลาดหลักทางการท่องเที่ยวที่มาไทยปีละ 2 ล้านคน หากปี 2565 นำกลับมาได้ 500,000 คน คิดเป็นเกือบ 30 % ก็ถือว่าดีมากแล้วในสถานการณ์เช่นทุกวันนี้
ตลาดที่ 2 “ออสเตรเลีย” ยืนยันแล้วมีผู้โดยสารจองตั๋วโดยสารเที่ยวบินมาไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ประมาณปลายเดือนมีนาคม 2565 ผมในนามตัวแทน ททท.จะพาเอกชนไทยบางส่วนประมาณ 10 ราย “กลุ่มขายสินค้าท่องเที่ยวแบบหรูหรา Luxury” ไปเคาะประตูเจรจาการค้ากับเอเย่นต์ในเมืองซิดนีย์ และจัดฟังก์ชั่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางเอกอัครราชฑูตไทยด้วย
ตลาดที่ 3 “สิงคโปร์ มาเลเซีย”
ตอนนี้มีข้อตกลงความร่วมมือของผู้นำเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางมาเยือนประเทศไทยพร้อมพบปะนายกรัฐมนตรีไทย
หลังจากกลับไปก็จะเริ่มพิจารณาเปิดการเดินทางท่องเที่ยวข้ามประเทศทางบกตามแนวรอยต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย
เริ่มตรง “ด่านสะเดา” ซึ่งเป็นจุดสำคัญให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียหลั่งไหลเข้ามา
ตอนนี้ทาง ททท.กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย
เสนอการเจรจากับสายการบินเพื่อเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เข้ามายังกรุงเทพฯ
และเชียงใหม่ อยู่ในขั้นตอนสรุปกัน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ททท.ลงนามกับไทยเวียดเจ็ท รุกตลาดเวียดนาม
กับกัมพูชา และขยายไปยังเส้นทางอื่น ๆ ทั่วเอเชีย
ตลาดที่ 4 “ญี่ปุ่น” อาจจะได้เห็นสัญญาณที่ดี
นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะกลับมายังไทย ถึงแม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ได้ห้ามเดินทาง
แต่ถ้ามาแล้วเมื่อกลับไปจะต้องถูกกักตัวจึงทำให้คนไม่อยากเดินทาง
คงมีเพียงนักธุรกิจไป ๆ มา ๆ แต่หลังจากวันที่ 1 มีนาคม 2565 เมื่อเดินทางต่างประเทศกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว
ดังนั้น ททท.ญี่ปุ่นทั้ง 3 สำนักงาน
คือ โตเกียว โอซาก้า ฟูกูโอกะ ร่วมมือทำงานอย่างเต็มที่
สำหรับตลาดที่ยังต้องจับตา ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง คงจะยากอยู่เหมือนกัน เพราะใช้นโยบายเดียวกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยสรุปแล้วผู้เล่นหลักที่ ททท.สามารถเจาะตลาดเชิงรุกและมีสัญญาณเชิงบวกปี 2565 จะอยู่ในโซน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันใต้ ส่วน เอเชียตะวันออก พุ่งเป้าไปยังญี่ปุ่น ส่วนประเทศอื่น ๆ คงต้องรออีกสักระยะ
นายธเนศวร์ กล่าวว่า ททท.เดินหน้าจับมือกับ “สายการบินนานาชาติ” ในแถบเอเชีย และแปซิฟิกใต้ เริ่มจาก 1.อินเดียหลังปลดล็อกทำ Air Bubble แล้ว ก็ได้เจรจากับสายการบิน เช่น Go First อินดิโก้ การบินไทย วันที่ 10 มีนาคม 2565 ท่านฑูตไทยในเดลี อินเดีย จะแถลงข่าวความร่วมมือดังกล่าว
2.เวียดเจ็ท ลงนามความร่วมมือกับ ททท.เน้นเจาะตลาด กัมพูชา เวียดนาม พร้อมทั้งใส่กลยุทธ์การตลาดเต็มรูปแบบด้วยโปรโมชั่นแรงมาก ๆ ไฮไลต์คือ “ขายตั๋วโดยสารเครื่องบินราคาโดนใจ” เช่น ซื้อตั๋วบินระหว่างประเทศ 1 ใบ แถมตั๋วบินในประเทศไทยไม่อั้น 2.2 แพกเกจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Medical Tourism ตั๋วบินซื้อ 1 ใบ แถมฟรี 1 ใบ เพื่อกระตุ้นนักเดินทางให้ซื้อแพกเกจบินมาตรวจร่างกายในประเทศไทยเจ้าของสิทธิ์ที่ซื้อตั๋ว 1 ใบ แถมให้ผู้ติดตามบินฟรี 1 ใบ
ขณะเดียวกันเรื่องการส่งสัญญาณถึง “ผู้ประกอบการไทย” ให้เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตอนนี้คนไทยเองรับรู้แล้วว่าช่วงไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ตอนนี้มาตรการด้านสาธารณสุขของไทยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากลทำให้เกิดความมั่นใจรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ว ดังนั้นเรื่องที่จะขอความร่วมมือคือคลายความกังวล แล้วทำให้เกิดการ “พลิกโฉมท่องเที่ยวไทย” อย่างแท้จริง สอดคล้องกับธีมของ ททท.คือ Amazing New Chapters
เพราะนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เข้ามาไทยแล้วก็จะกระจายการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงขอให้ช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยว ป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ในทุกท้องถิ่น และทุกจังหวัด เป็นสิ่งที่ ททท.อยากจะขอความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทำให้นักท่องเที่ยวเพิ่มจำนวนกลับมามากขึ้น ซึ่งระยะ 2 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดศักราชปี 2565 คนท่องเที่ยวหนาตามากขึ้น แล้วก็หวังให้เป็นปีที่ดีของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 “คิง เพาเวอร์”อัดโปรReady Go Summer!ช้อป3เติมสุขแจกเงินสมาชิก
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับช้อปเติมสุขกับแคมเปญแรก “เรดี้ โก ซัมเมอร์ :Ready Go Summer!” ที่สุดของการเริ่มต้นหน้าร้อน ตั้งแต่มีนาคม 2565 เป็นต้นไป คิง เพาเวอร์ เพิ่มองศาความสนุกให้นักช้อปได้ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2565 แวะมาเยี่ยมชมและช้อปได้ที่ร้านค้าปลอดอากรในเมือง หรือ ดิวตี้ฟรี ดาวน์ทาวน์ ครอบคลุมเมืองท่องเที่ยวทั้ง 4 สาขา คือ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี พัทยา และภูเก็ต
เติมสุขที่ 1 “รับคูปองส่วนลด” ทันที คนละ 1 สิทธิ์/วัน ลงทะเบียนก่อนช้อป รับฟรี ! คูปองมูลค่า 1,200 บาท เพื่อใช้ช้อป 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ โดยจะนับสิทธิ์รวมทุกสาขาที่ลงทะเบียนไว้ และทุกช่องทางการช้อปรวมถึงทาง Call to Shop หรือ Chat to Shop รับปุ๊บคูปองส่วนลดปุ๊บช้อปปั๊บรับสิทธิ์ทันที ภายในวันที่ได้แลกรับคูปองดังกล่าว พร้อมทั้งใช้ร่วมกับการจ่ายผ่านบัตรเครดิตร่วมของ คิง เพาเวอร์ กับธนาคารไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย ได้ด้วย
เติมสุขที่ 2 “ซื้อบัตรช้อปเงินสด หรือ Cash Card” ช้อปคุ้มค่า ท้าลมร้อน คลิกซื้อได้ทางออนไลน์ www.kingpower.com เลือกซื้อ Cash Card ราคา 10,000 บาท รับบัตรกำนัลฟรี (Gift Card) มูลค่า 3,000 บาท หรือเลือกซื้อ 25,000 บาท รับบัตรกำนัลฟรีมูลค่า 10,000 บาท ได้สิทธิ์แล้วรีบใช้เลือกซื้อสินค้าแบบด่วน ที่ คิง เพาเวอร์ในเมืองทุกสาขา บัตรเงินสดและบัตรกำนัลจะหมดอายุภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 แล้วยังสามารถนำยอดซื้อแต่ละครั้งมาคำนวณคะแนนกะรัตสะสม รวมถึงอัพเกรดสถานะสมาชิกได้
เติมสุขที่ 3 “สมัครสมาชิก” สมัครได้เลยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในเมืองไทย (EXPAT) ได้สิทธิ์นี้ทันทีด้วยการสมัครสมาชิกใหม่หรือไม่เคยเป็นสมาชิกมาก่อน หรือลูกค้าสมาชิกเก่าที่บัตรหมดอายุแล้ว
ทันทีที่สมัครสมาชิกบัตร คิง เพาเวอร์” 1.ประเภทบัตร SCARLET ด้วยวิธีง่าย ๆ เติมเงินเข้าไปในบัตรมูลค่า 6,000 บาทจะได้รับยอดเงินเข้าบัญชีสมาชิกเพิ่มอีก 1,500 บาท และ 2.บัตรประเภท ONYX เติมเงินเข้าไปในบัญชีสมาชิกครบ 60,000 บาท รับยอดเงินเข้าบัญชีสมาชิกเพิ่มมากถึง 18,000 บาท โดยมีรายละเอียดปัง ๆ คือ
เมื่อสมัครบัตรสมาชิกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับยอดเงินเพิ่มในบัญชีสมาชิกมูลค่า
1,500
บาท และ มูลค่า 18,000 บาท
กำหนดหมดอายุใช้เลือกซื้อสินค้าภายในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 พร้อม ๆ
กับได้สิทธิพิเศษเพิ่มนั่นคือ บัตรสมาชิกใหม่ทั้ง 2 ประเภท “สามารถใช้ร่วม”
กับ ส่วนลดสมาชิก คิง เพาเวอร์ การซื้อสินค้าดิวตี้ ฟรี สินค้าป้ายฟ้า
และส่วนลดสินค้าบริการส่งถึงบ้านตามเงื่อนไขปกติ (Home Delivery)
ข่าวที่ 2 สมัครสมาชิกคิงเพาเวอร์รับจุใจ4สิทธิ์ใหญ่+เคล็ดลับ4สเต็ปช้อปสุดคุ้ม
คิง เพาเวอร์ให้แบบจุใจ “สิทธิ์ประโยชน์หลัก” เมื่อสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ SCARLET และ ONYX นับจากวันที่สมัครรับรวม 4 สิทธิ์ใหญ่ ๆ นานถึง 24 เดือน ดังนี้
1.บัตรสมาชิกแต่ละประเภทจะมีอายุใช้งานได้ภายใน 2 ปี สามารถสะสมยอดชื้อ และคะแนนเป็นกะรัตได้ตลอดอายุบัตร 2 ปี สะสมคะแนนกะรัตรีวอร์ด 100 บาท = 1 กะรัต และ 1 กะรัต = 1 บาท อายุคะแนนกะรัตรีวอร์ด 2 ปี
2.รับส่วนลดพิเศษฉลองวันเกิด (Birthday Celebration) เป็นเครดิตเงินคืนสูงสุด 25% จํานวน 2 สิทธิ์ (สิทธิ์ละ 1 ชิ้น) ตามร้านสาขา คิง เพาเวอร์ ทุกแห่ง ยกเว้นทางออนไลน์
3.รับส่วนลดร้านอาหารสูงสุด 25 % ภายในสนามบินนานาชาติหลักของเมืองไทย ในสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต
4.ใช้บริการห้องรับรองพิเศษ “คิง เพาเวอร์ เลาจน์” สมาชิกประเภท SCARLET ใช้ได้ปีละ 6 สิทธิ์ / ปี สมาชิกประเภท ONYX แต่ละปีใช้ได้ไม่จํากัดสิทธิ์
“วิธีช้อปอย่างคุ้มค่า” ที่คิง เพาเวอร์ ทุกวันทุกสาขา ก่อนช้อปหากยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกก่อนเพื่อรับสิทธิ์ได้ทันที จากนั้นก็ลุยเลือกซื้อสินค้าที่ชอบ ง่ายและคุ้มสุด ด้วย 4 ขั้นตอน
STEP 1 : เดินเข้าไปแวะชมสินค้าที่ต้องการไว้ก่อนที่สาขาใดก็ได้ คือ รางน้ำ พัทยา ภูเก็ต และศรีวารี(เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์)
STEP 2 : ดูยอดรวมราคาสินค้าที่ต้องการจะซื้อทั้งหมด เพื่อเลือกโปรโมชั่นอย่างเหมาะสม
STEP 3 : ยังไม่เป็นสมาชิก ก่อนช้อปแนะนำให้สมัครสมาชิก ง่าย รวดเร็ว เพื่อที่จะได้สิทธิ์เพิ่มมากมาย – 30 เมษายน 2565 คือ 1.สมัครสมาชิก SCARLET แล้วเติมเงิน 6,000 บาท เพื่อรับเงินเพิ่มอีก 1,500 บาท ใช้ช้อปปิ้งรวมได้มากถึง 7,500 บาท 2.สมัครสมาชิก ONYX แล้วเติมเงิน 60,000 บาท เพื่อรับเงินเพิ่มอีก 18,000 บาท นำไปใช้ช้อปได้สูงสุด 78,000 บาท ระหว่างวันนี้ – 30 เมษายน 2565 จะงดส่งเสริมการขายโปรโมชั่นนี้ช่วงเทศกาลหยุดยาว 6-17 เมษายน 2565
STEP 4 :
เช็กโปรโมชั่นบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เพื่อเลือกรับคืนสูงสุด 17% หรือเลือกผ่อน
0% สูงสุด 10 เดือน ตั้งแต่วันนี้– 31 มีนาคม 2565
ข่าวที่ 3 บัตรคิงเพาเวอร์5ประเภทรับเลย2สนามบิน“สุวรรณภูมิ-ภูเก็ต”ลดรัวๆ15%
นักเดินทางที่ถือ “บัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์” รับทันทีส่วนลด 15 % ให้สิทธิ์บัตรทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ VEGA, CROWN, ONYX, SCARLET และ NAVY เพียงแค่แสดงบัตรเพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดสูงสุด 15% จากร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ ช้อปสบายใจพร้อมส่วนลดสินค้าแบรนด์ดังที่สนามบินหลัก 2 แห่ง คือ
“สนามบินสุวรรณภูมิ” ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2565 บรรดาแบรนด์ดัง ๆ พร้อมใจมอบส่วนลดสูงสุด 15 % อย่างคับคั่ง เช่น BONCHON, BURGER KING, COFFEE WORLD, ONE MINUTE GOURMET, GLORIA JEAN’S COFFEES, IMM RICE&NOODLE, KANOM, KIN JAPANESE RESTAURANT, KOH HOP BAR, MILCH, REES, SUBWAY, THAI STREET FOOD, THE VILLA HALAL และกาแฟพันธุ์ไทย
“สนามบินภูเก็ต” ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2565 สินค้าแบรนด์ระดับอินเตอร์กอดคอกันมอบส่วนลด 15 % เช่น AIMM’S CAFÉ, SUBWAY, THE HUGS, THAI STREET FOOD และ ZURICH BREAD CAFÉ
“คิง เพาเวอร์”
พร้อมที่จะเติมความสุขด้วยแคมเปญคุ้มที่สุด พร้อมดีลดี ๆ และสิทธิประโยชน์มากมาย
ช้อปออนไลน์กราวนด์ได้ทุกสาขา และทางคิงเพาเวอร์ออนไลน์ คิงเพาเวอร์แอพลิเคชั่น Chat to Shop, Call
to Shop
เลือกซื้อสินค้านับหมื่นรายการได้ทุกช่องทาง
ช้อปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ข่าวที่ 4 ททท.บูมใช้เงินดิจิทัลบล็อคเชนช้อปเที่ยวไทยใน“Thailand Holideals”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้ เป็นประธาน เปิดตัวโครงการ "Thailand Holideals" พร้อมนำการท่องเที่ยวปูพรมขานรับเทรนด์ดิจิทัลโลกแห่งอนาคต ด้วยเทคโนโลยี "บล็อกเชน : Blockchain" การใช้เหรียญดิจิทัลจ่ายค่าสินค้าและบริการ เป็นแม่เหล๋กกระตุ้นตลาดด้านการท่องเที่ยวในประเทศ
ล่าสุด ททท.จับมือกับ บริษัท กู๊ดมู๊ด จำกัด พร้อมพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว เช่น MVP, KLOOK และ Ascend Travel ทำโครงการ “Thailand Holideals” โดยได้รวบรวมแพ็กเกจ และ Voucher ท่องเที่ยวราคาสุดพิเศษ จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวชั้นนำทั่วเมืองไทยมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกช้อปบนเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/holideals ราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาท ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
มีสินค้าท่องเที่ยวให้เลือกซื้อครอบคลุมทุกหมวด ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา นันทนาการ และบริษัทนำเที่ยว โดยสามารถเลือกชำระด้วยระบบโทเคนดิจิทัลได้ด้วย
สำหรับโครงการ “Thailand Holideals” ได้จัดแคมเปญช้อปสุดพิเศษ 3.3 (วันที่ 3 มีนาคม 2565) และ 4.4 (วันที่ 4 เมษายน 2565) จะมี Voucher เลือกซื้อสินค้าท่องเที่ยวราคาสุดพิเศษได้ตามต้องการ คือ ห้องพัก/โรงแรม ร้านอาหาร สปา นันทนาการ ทัวร์ และอื่น ๆ ทาง www.tourismthailand.org/holideals
“Thailand Holideals” เป็นโครงการนำร่องเปิดโลกท่องเที่ยวสู่ดิจิทัลครั้งแรกของเมืองไทยที่เปิดให้ใช้ "เหรียญดิจิทัล" จ่ายค่าสินค้าท่องเที่ยวในโครงการ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวหลัก ๆ ในไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว Free Individual Traveller และ Group Individual Traveller
ข่าวที่ 5 “บางจาก”มอบบัตรเติมน้ำมันรถรับส่งผู้ป่วยโควิด-ทำปั๊มลดเสี่ยงเลี่ยงสัมผัส
นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ส่งมอบบัตรเติมน้ำมันบางจากเพื่อสนับสนุนภารกิจรถรับ-ส่งผู้ป่วยของกลุ่มอาสาดุสิต โดยมี นางปิยาภรณ์ วงษ์บัณฑูรย์ ประธานกลุ่มอาสาดุสิต (Arsa Dusit) เป็นผู้รับมอบ สำหรับใช้ในยานพาหนะที่ปฏิบัติภารกิจรับส่งผู้ป่วย เพื่อร่วมบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้โครงการบางจากฯ ปันน้ำใจสู้ภัยโควิด-19
ขณะเดียวกันกลุ่มบางจากฯ
ได้ร่วมบรรเทาภาวะวิกฤตโควิด-19 ด้วยรูปแบบต่าง ๆ
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจด้านสาธารณสุข
และลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มและประชาชนทั่วไป
ผ่านโครงการของบริษัทฯ และส่งมอบความช่วยเหลือผ่านหน่วยงานราชการ องค์กรสาธารณกุศล
ศาสนสถาน ทีมงานอาสาสมัคร ด้วยเช่นกัน
รวมทั้ง
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รายงานถึงการจัดทำโครงการเด่น “ลดเสี่ยง เลี่ยงสัมผัส เติมน้ำมันไม่ต้องลดกระจก”
มั่นใจ ปลอดภัย ที่ปั๊มบางจากเพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ จึงขอเชิญชวนลูกค้าเลือกใช้บริการเติมน้ำมันแบบ
“ลดเสี่ยง เลี่ยงสัมผัส เติมน้ำมันไม่ต้องลดกระจก” ผ่าน Bangchak Line
Official เพื่อลดความเสี่ยง และรักษาระยะห่าง
ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.เข้าใช้ Bangchak
Line Official แล้วกดเลือกเมนู ลดเสี่ยง เลี่ยงสัมผัส
2.แจ้งสะสมคะแนนสมาชิกเพียงใส่หมายเลขโทรศัพท์
3.เลือกวิธีการชำระเงินผ่าน
QR Code
สถานีบริการน้ำมันบางจากเปิดให้บริการรับชำระเงินด้วยระบบนี้แล้วกว่า 500 แห่ง ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.bangchakmarketplace.com
ช่วงที่ 2 ออกเที่ยวกันเถอะ ไปปักหมุดฟินได้ที่ “กระบี่” เดือนมีนาคม 2565 มีไฮไลต์ชวนกินเมนูเด่นแห่งปีในงาน “กระบี่ ฟู้ด เฟสต์-กินเปลี่ยนโลก” 11-13 มี.ค.นี้ ที่อ่าวนาง เช็คอินต่ออีก 2 แห่ง ชมมหัศจรรย์ธรรมชาติระบบนิเวศน์อันน่าพิศวง “ท่าปอมคลองสองน้ำ” กับตลุยไปทักทาย “อ่าวมาหยา” ที่ปิดมายาวนานถึง 3 ปี ตอนนี้เปิดให้เที่ยวแล้วรอบละไม่เกิน 375 คน จากนั้นฟังเรื่องด่วน “5อย่างควรเปลี่ยนพฤติกรรมการกินช่วงหน้าร้อน” ปิดท้ายฟังข่าวดี ๆ ข่าวแรก “โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ” จัดงานเทศกาลเวลเนส เฟสติวัล ขายราคาสบายกระเป๋า 18-20 มี.ค.นี้ ข่าวที่สอง “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวหนุนจัดท่องเที่ยวเชิงกีฬา เปิดหาดใหญ่จัดเอ็กซ์ตรีม ดันไทยศูนย์รวมจัดระดับอินเตอร์ในอนาคต
พาเที่ยว -ปักหมุดเที่ยวกระบี่สวยเบิ้มๆฟู้ดเฟสต์-คลองสองน้ำท่าปอม-อ่าวมาหยา
เริ่มต้นซัมเมอร์แล้ว
ได้เวลาลงใต้ไปปักหมุดหยุดเที่ยว “กระบี่” เดือนมีนาคม นี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ มีโปรแกรมเด่น ๆ มาชวนนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรม
กลับมาอีกครั้ง...ปังกว่าเดิมงานเทศกาลอาหาร “Krabi Food Fest
: กินเปลี่ยนโลก จังหวัดกระบี่” ช่วงวันที่ 11-13 มีนาคม 2565
ชวนเดินทางไปฟินกินบรรยากาศสูดโอโซนริมทะเลอันดามัน
ในบรรยากาศสุดชิล ตามหาเส้นทางกิน ในงาน “Krabi Food
Fest” บริเวณริมอ่าวนาง ทุกเย็นเริ่มตั้งแต่ 16.00 น. ไปจนถึง 21.00 น. ทางผู้ประกอบการดังในเมืองกระบี่
60 ร้าน พร้อมแล้วที่จะคัดสรรเมนูจานเด็ดอาหารถิ่น มาต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้กินเพื่อสุขภาพ
กินเป็นยา กินตามฤดูกาล กินได้ทุกเมนู
งานนี้
“เชฟกิ๊ก กมล /เชฟเก่ง ราชวัติ” จากรายการดังเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย คุณชลิต เฟื่องอารมณ์ จากครัวคุณตุ่ม
ที่จะมารังสรรค์วัตถุดิบท้องถิ่น เป็นเมนูใหม่หนึ่งเดียวในกระบี่
ให้นักท่องเที่ยวที่แวะมางานได้ชิมด้วย
ยามเย็นช่วงชมดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าฝ่าเกลียวคลื่นลงสู่ทะเลอ่าวนาง ในงานจัดให้มีไลฟ์มิวสิคดนตรีคลาสสิกเบา ๆ เคล้าเสียงคลื่น ไปพร้อม ๆ กับลุ้นรางวัลห้องพัก และคูปองรับประทานอาหารจากร้านดังได้ด้วย
“ก่อนเข้างาน”
ขอความร่วมมือทุกคนโชว์หลักฐานการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
หรือผลรับรองการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง “ระหว่างชมงาน”
ช่วยสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพื่อให้เที่ยวอย่างปลอดภัยสบายใจกันทุกคน
ตอนนี้ “กระบี่” ยังมีไฮไลต์แหล่งท่องเที่ยวอีก
2 แห่ง มาแนะนำ ไหน ๆ ก็มาถึงแล้วลองแวะไปเช็คอินชมมหัศจรรย์ธรรมชาติเมืองทะเลที่มีมากกว่าทะเลได้
เช็คอินจุดแรก “ท่าปอมคลองสองน้ำ” ตอนนี้กลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว ตื่นตากับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ จุดนัดพบระหว่าง “น้ำจืดจากใต้ดินกับน้ำเค็มทะเลอันดามัน” ทำให้น้ำอุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิด น้ำในคลองจะปรับสีและเปลี่ยนแปลงได้ตามการขึ้นลงของน้ำทะเล
อีกทั้งท่าปอมยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติอันน่าพิศวงของระบบนิเวศน์ ในการมาบรรจบกันของ 3 ป่า คือ ป่าโกงกาง ป่าชายเลน และป่าพรุ
บริเวณท่าปอมตอนนี้มีกิจกรรมชวนนักท่องเที่ยวร่วมสนุกด้วยการ “พายคะยัค” ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอันหลากหลายหาชมได้ยาก
จุดเช็คอินที่สอง “อ่าวมาหยา” อยู่ในตความดูแลของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตอนนี้มีข่าวดีจะกลับมาเปิดให้ท่องเที่ยวได้แล้ว หลังปิดให้ธรรมชาติฟื้นตัวยาวนานกว่า 3 ปี โดยยังคงมาตการท่องเที่ยวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ละช่วงเวลาจะให้นักท่องเที่ยวหมุนเวียนเข้าไปได้รอบละ 375 คนเท่า
แฟนคลับอ่าวมาหยาที่รอกันมายาวนาน ออกเที่ยวได้แล้ว
เรือทุกลำจะไปจอดเทียบท่าบริเวณอ่าวโล๊ะซามะ พร้อม ๆ กับแนะนำนักท่องเที่ยวให้เที่ยวอย่างรับผิดชอบดังนี้
1.จองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ 2.เมื่อไปถึงต้องปฏิบัติตามกติกานั่นคือห้ามลงเล่นน้ำในอ่าวมาหยาเด็ดขาด เพราะตอนนี้ฉลามครีบดำมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก 3.ทุกครั้งต้องเที่ยวด้วยการรักษาระยะห่างระหว่างคน ทว่าได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นได้
ออกเที่ยว
ไม่ต้องเดี๋ยวอีกต่อไป กระบี่ ฟู้ด เฟสติวัล มหัศจรรย์ท่าปอมคลองสองน้ำ และอ่าวมาหยา
สุดสวย กำลังรอนักท่องเที่ยวแวะไปหยอกเย้าทักทายเมืองแห่งท้องทะเลอันดามันทุกวัน
สุขภาพ -ด่วน!!ปรับตัว5อย่างเปลี่ยนพฤติกรรมกินปลอดภัยต้อนรับซัมเมอร์ปีขาล
การกินอาหารในหน้าร้อนควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากอากาศร้อนอาจทำให้เชื้อโรคเติบโตได้เร็วขึ้นและส่งผลให้อาหารเน่าเสียเร็วกว่าปกติ เมื่อกินเข้าไปอาจทำให้เกิดความผิดปกติได้ ซึ่งอาจป้องกันได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้
1.ดื่มน้ำต้มสุกหรือน้ำสะอาดให้มากขึ้นและบ่อยขึ้น เนื่องจากร่างกายอาจสูญเสียเหงื่อไปกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ อุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ตามมา
2.กินอาหารที่มีน้ำปริมาณมาก อย่างแตงโม แตงกวา ฟัก หรืออาหารอื่น ๆ ที่ช่วยคลายร้อนได้ อย่างไอศกรีมหรือน้ำแข็งไส แต่ก็ควรกินในระดับที่เหมาะสมเนื่องจากมีน้ำตาลสูง
3.หลีกเลี่ยงอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบและอาหารที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคที่อาจเป็นสาเหตุของโรคท้องเสียและโรคพยาธิต่าง ๆ เนื่องจากในหน้าร้อนความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเหล่านี้อาจสูงขึ้น รวมถึงอาหารที่มีนมและไข่แดงเป็นส่วนประกอบก็อาจเน่าเสียเร็วยิ่งขึ้นด้วย
4.กินอาหารอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นอาหารทั่วไปหรืออาหารที่มีนม กะทิ ไข่แดง และอาหารทะเลเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากอาหารเหล่านี้อาจเน่าเสียง่ายเมื่อเจอกับอากาศร้อน โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ผู้ค้าบางรายอาจเติมสารฟอร์มาลีนเพื่อให้อาหารเหล่านั้นเน่าเสียช้าลง
5.เก็บรักษาวัตถุดิบอย่างเหมาะสมตามชนิดของอาหาร
ทั้งก่อนและหลังการปรุง เพื่อลดความเสี่ยงโรคท้องร่วง และอาหารเป็นพิษจากการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรค
ข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก -รร.เพนนินซูลากรุงเทพฯรุกขายเวลเนสเฟสติวัลสุขภาพ18-20มี.ค.65
โรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ เชิญชวนช้อปงานเทศกาล Wellness Festival การดูแลสุขภาพและความสุข ระหว่าง 18 – 20 มีนาคม 2565 ทางโรงแรมได้นำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพ พร้อมฟังการบรรยายหัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่น่าสนใจ เช่น เวิร์คช็อปการทำอาหารเพื่อสุขภาพโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ คลาสออกกำลังกายกับโค้ชผู้มากประสบการณ์ และวิทยากรที่มีชื่อเสียง
โดยมีแพกเกจให้คนรักสุขภาพเข้าร่วมพักผ่อนและทำกิจกรรมได้ด้วยราคา
ดังนี้
1.จ่าย 600
บาทสุทธิ ต่อการเข้าร่วมกิจกรรม 1
คลาส
2.จ่าย 1,500
บาทสุทธิ ต่อ 1 วัน
ร่วมกิจกรรมวันละ 3 คลาส
3.จ่าย 2,500 บาทสุทธิ ต่อ 3 วัน ร่วมกิจกรรมได้วันละ 3 คลาส
สามารถพิเศษในการร่วมกิจกรรมเพิ่มดังนี้
1.จ่ายคนละ 1,800 บาทสุทธิ รวมบริการอาหารกลางวันรวม 3 วัน ณ ห้องอาหาร ริเวอร์ คาเฟ่ แอนด์ เทอร์เรซ
2.จ่ายคนละ 800 บาทสุทธิ เพื่อเพิ่มความชีลได้บริเวณ Barbecue ริมสระว่ายน้ำ ในวันที่ 18 มีนาคม 2565
จองเข้าร่วมกิจกรรมกับเพนนินซูลา กรุงเทพฯ พร้อมชำระเงินล่วงหน้าโทร. 02 020 2888 อิเมล spapbk@peninsula.com หรือเว็บไซต์ https://www.peninsula.com/en/bangkok/special-offers/spa/wellness-festival
ข่าวที่สอง -“รมว.พิพัฒน์”หนุนเที่ยวเชิงกีฬาบูมเอ็กซ์ตรีมปูพรมไทยจัดระดับนานาชาติ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
มอบนโยบายให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวเชิงกีฬา
(Sport tourism) เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ล่าสุดทั้งสองหน่วยงานได้ร่วม สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย และ
สมาคมกีฬากระดานโต้คลื่นแห่งประเทศไทย ในการจัดการแข่งขันกีฬาเอ็กซ์ตรีม รายการ “HATYAI
EXTREME FESTIVAL 2022” เปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมฟรี
วันที่ 7-10
เมษายน 2565 ณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับจัดการแข่งขันกีฬา
3 อย่าง
ได้แก่ SKATEBOARD, INLINE SPEED
SKATE และ SURF SKATE ชิงรางวัลมูลค่ากว่า
500,000.00 บาท ปูพรมให้ไทยเป็นประเทศที่พร้อมจัดการแข่งขันกีฬาเอ็กซ์ตรีมระดับนานาชาติในอนาคตด้วย
ความพิเศษการจัดงาน HATYAI
EXTREME FESTIVAL 2022 คือ
การติดอาวุธให้ผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินกีฬา SKATEBOARD ของไทย
โดยได้เชิญวิทยากรระดับโลกมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และให้ความรู้ในหัวข้อ FUNDAMENTALS
OF SKATEBOARD JUDGING & COACHING กับผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินกีฬา SKATEBOARD
ระหว่างวันที่ 4 – 7 เมษายน 2565 ณ
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
วิทยากรจะมาจาก WORLD SKATE
SKATE อาทิ MR.MARTIN KARUS ตำแหน่ง
WORLD SKATE – TECHNICAL DELEGATE FOR SKATEBOARDING, MR.DANIEL LEBRON ตำแหน่ง
WORLD SKATE GLOBAL และ OLYMPIC STREET JUDGE, MR. SEAN
HAYES ตำแหน่ง OLYMPIC SKATEBOARD COACH ของ
ประเทศแคนาดา ในการ
โดยมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาศักยภาพผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินกีฬา
SKATEBOARD ของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐาน WORLD
SKATE และเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการจัดการแข่งขันกีฬา
SKATEBOARD ระดับนานาชาติในประเทศไทยในอนาคต
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น