AWCไตรมาส2/68รายได้รวม5.2พันล้านกำไรสุทธิ1.4 พันล้าน
โรงแรมพอร์ตทรัพย์สิน2.12แสนล้าน-ห้าง/สำนักงานค่าเช่าโต
เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT #เที่ยวกับกู๋ #AWC
AWC นำธุรกิจไตรมาส 2
ปี’68 โกยรายได้รวม 5,211 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,404 ล้านบาท โต 12.7 % “กลุ่มโรงแรม” สร้างมูลค่าทรัพย์สิน 2.12 แสนล้าน
ทำรายได้ 2,612 ล้านบาท “กลุ่มคอมเมอร์เชียล” รายได้ “ค่าเช่า”
ศูนย์การค้าพุ่ง 11.6 % สำนักงานขยายตัว 8.8 %
นางวัลลภา
ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ แอสเสท เวิรด์
คอร์ปอเรชั่น หรือ “AWC” เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกันปีก่อนเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง
มี“รายได้รวม” 5,211 ล้านบาท เติบโต 7.7% “กำไร” จากดำเนินงาน (EBITDA) 2,723 ล้านบาท เติบโต
9.3% และ “กำไรสุทธิ” 1,404 ล้านบาท
เติบโต 12.7% ด้วย Growth-Led
Strategy รับรู้รายได้ของทรัพย์สินใหม่ และการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ
ทั้งยังรักษาโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
“กลุ่มโรงแรม” สร้างรายได้รวม 2,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการรับรู้รายได้จาก ทรัพย์สินใหม่ และโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ทระดับลักชัวรี
กับรายได้เติบโตโดดเด่นของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมเปิดตัวโรงแรม พัทยา
แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา เสริมพอร์ตโฟลิโอโตก้าวกระโดดมากกว่า 2 เท่านับตั้งแต่ IPO รวมมูลค่าทรัพย์สินสิ้นไตรมาส 2/2568 รวม 212,616 ล้านบาท
โดยพร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอคุณภาพเพื่อเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศ
เช่น โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ไทย โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา โรงแรม
สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา กำลังเตรียมรีแบรนด์เป็นโรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก
รัชดาภิเษก
“ภาพรวมรายได้โรงแรม”
เติบโตในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงได้ต่อเนื่อง
ส่งผลให้รายได้ของโรงแรมเพิ่มขึ้น 6.9 % จากอัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อวัน
(ADR) เพิ่มขึ้น และมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR)
เติบโต 7.1 % (YoY) โดยเฉพาะในจุดหมายปลายทางยอดนิยม
เช่น เกาะสมุย เชียงใหม่มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเติบโต 8.4 %
AWC มีพอร์ตโฟลิโอโรงแรมแข็งแกร่งด้วยดัชนีการสร้างรายได้ (Revenue
Generation Index หรือ RGI) เฉลี่ย 102 โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี มี RGI สูงถึง 118 และโรงแรมในกรุงเทพฯ 109
รายได้จากพอร์ตโฟลิโออาหารและเครื่องดื่มยังขยายตัว
8.7 % จากโครงการ “เอ-ญ่า” รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์ นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ
และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โรงแรมของบริษัทสามารถสร้างอัตราส่วนกำไรขั้นต้นระดับที่สูง
เช่น บันยันทรี สมุย ทำได้ 46 % โรงแรม
แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ทำได้ 45 % ส่วนโรงแรม
หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา และโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา มีจองห้องพักระดับสูง
แล้ว AWC ยังนำ อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่
แม่ปิง โฮเทล ได้รับรางวัล LEED Gold แห่งแรกในไทย ตามมาตรฐานเวอร์ชัน 4BD+C
: Hospitality การเพิ่มพอร์ตโฟลิโอไตรมาสที่ผ่านมาได้สร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องโดยเปิดโรงแรม
พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา รวมถึงรับรู้รายได้จากโรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล
ประเทศไทย และโรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา โครงการ จูบิลี่ เพรสทีจ ทาวน์เวอร์
สิ้นสุดไตรมาส 2 AWC มีโรงแรมทั้งสิ้น
24 แห่ง รวม 6,834 ห้อง สูงที่สุดในตลาดนับตั้งแต่
IPO โดยเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 3 โรงแรม
รวม 930 ห้องพัก
“กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล” สร้างกระแสเงินสดอย่างมั่นคง
จากการเสริมกลยุทธ์พัฒนาศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานตามแนวคิด AWC’s
Lifestyle Destination ควบคู่การเปิดตัว
Jurassic World: The Experience โดยมี Hatch
Dome ในเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สร้างประสบการณ์พิเศษและปรากฏการณ์ระดับโลกสนับสนุนกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน
ทำให้รายได้และผู้เช่าเติบ สามารถสนับสนุนกรุงเทพฯ และไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก
ในไตรมาส 2/2568 “ศูนย์การค้า”
มีรายได้ค่าเช่าเติบโต 11.6 % ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเช่าพื้นที่ที่สูง 8.4%โดยได้ปรับตำแหน่งทางการตลาด
เช่น 1.พันธุ์ทิพย์
แอท งามวงศ์วาน พันธุ์ทิพย์ 2.ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ 3.โครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น
“กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน” รายได้ค่าเช่าเติบโตเพิ่มขึ้น 8.8 % จากการรับรู้ผลการดำเนินงานอาคารสำนักงานใหม่
“จูบิลี่ เพรสทีจ ทาวน์เวอร์” โครงการอาคารสำนักงานคุณภาพใจกลางย่านรัชดา แล้วยังได้พัฒนาอาคารสำนักงานในเครือภายใต้แนวคิด
Lifestyle Workplace เปิดตัว The Empire Food Lounge ที่อาคาร “เอ็มไพร์”
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ และรักษาอัตราการเช่าพื้นที่และผู้เช่า (Retention
Rate) ไว้สูงถึง 99 % กลยุทธ์โดยรวมทำให้บริษัทมี
“กำไร” จากการดำเนินงานต่อรายได้ 85 % สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น