ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผอ.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)
เปิดใจ“ดร.ศุภวรรณ
ตีระรัตน์”ผู้นำใหม่TCEBลุยภารกิจไมซ์
โชว์พลังไทยเจ้าภาพ GASTECH 2026 +EEC
EXPO 2025
ขยายเมืองไมซ์เศรษฐกิจใหม่-วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวESGs
9เดือนปีงบ68โกยแล้ว2แสนล้าน-เร่งตลาดไมซ์ไทย+ทั่วโลกโต
คิงเพาเวอร์MOUมหาลัยเลสเตอร์มอบทุนการศึกษาสู่ยั่งยืน
RANGNAM MEGA CLEARANCE
SALEคิงเพาเวอร์ลด80%
พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรเที่ยวไทย“บุฟเฟต์-ห้องพัก-สปา”
ททท.ปลุกเที่ยว“Vijit@อุดร-ลำปาง-หาดใหญ่”วันนี้-14ก.ย.
บางจากลุยหนุนชุมชน-โรงเรียนรอบโรงกลั่น 4 กิจกรรม
TCEBนำไมซ์ไทยคว้ายอดเยี่ยมM&C Awardsเอเชีย4รางวัล
สุขทันทีที่ได้เที่ยวทั่วอีสานสนุกกับเวิร์คช้อปฟินๆ 5
พิกัด
ด่วน!!เดินเร็ววันละ 15 นาที ลดความเสี่ยงการตายก่อนวัย
ททท.ผนึกLazadaลุยขายเที่ยววันธรรมดาแจก
1 ล้านบาท
“AWC-อรุณพลัส”เปิดบริการรถแทรมไฟฟ้านำทัวร์เชียงใหม่
วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #workshopทั่วอีสาน
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/19HdRM3ccQ/
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !!“ ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์” ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” ใส่เกียร์ลุยอุตสาหกรรมไมซ์ “ตลาดต่างประเทศ” เตรียมพร้อมไทยเจ้าภาพ “GASTECH
2026”มหกรรมพลังงานรายการใหญ่สุดของโลก 15-18
ก.ย.69ต้อนรับนานาชาติกว่า 50,000 คน
เร่งหารือ ททท.สมาคมโรงแรมไทยโกยรายได้ท่องเที่ยว ส่วน“ตลาดไมซ์ในประเทศ” หนุนงาน “EEC
EXPO 2025” 25-26 ส.ค.นี้ที่ไบเทค
ชู “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยว” ตอบโจทย์ ESGs ไมซ์ยั่งยืน ผลดำเนินงาน 9 เดือนแรกปีงบ 68 ตุนรายได้แล้ว 2 แสนล้าน เดินหน้าฝ่าปัจจัยท้าทายทั่วโลก “ในประเทศ”
เพิ่มเมืองไมซ์เศรษฐกิจใหม่ทั่วไทย
ดร.ศุภวรรณ
ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ
(องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บพร้อมนำอุตสาหกรรมไมซ์ดึงงานนานาชาติเข้ามาจัดในไทยทั้งงานประชุมสัมมนา
(M :meeting) การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (I : incentive) จัดนิทรรศการแสดงสินค้า (E
:Exhibition) และการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ (C : Convention) ล่าสุดยังได้เพิ่มเทศกาลอีเวนต์สำคัญๆ ระดับโลก (F
: Festival) เชื่อมโยงสู่การยกระดับ “เมืองไมซ์
: MICE City”
ให้สามารถใช้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกล “สร้างเศรษฐกิจ” กระจายงานและรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองรองระดับสองร่วมรับประโยชน์โดยมีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดงานไมซ์ระดับประเทศและนานาชาติด้วย
ปี 2568
จะเดินหน้าขับเคลื่อนไมซ์ “ตลาดต่างประเทศ” เดินหน้าเตรียมความพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพงาน
“GASTECH 2026” มหกรรมพลังงานอีเวนต์ใหญ่ของโลก
และ “ตลาดในประเทศ” เร่งสนับสนุนงานไมซ์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(Eastern Economic Corridor :EEC ) ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย
ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา โดยได้วางแนวทางยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ดังนี้
“ตลาดไมซ์ต่างประเทศ”
มีภารกิจเตรียมไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ GASTECH 2026 ทีเส็บจับมือกับกระทรวงพลังงาน
บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของไทย อย่าง บริษัท กัล์ฟ เอนเนอร์จี ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด
(มหาชน) “GULF” บริษัท ราช จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.จำกัด
(มหาชน) พันธมิตรกลุ่มงานด้านพลังงานอีกหลากหลายองค์กร
ช่วงกันยายนนี้จะเดินทางไปประกาศในเวทีโลก เพื่อนำงานมาจัดในไทยระหว่างวันที่ 15–18
กันยายน 2569 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค
กรุงเทพฯ
โดยมี บริษัท ดีเอ็มจี อีเวนต์ จำกัด ได้รับสิทธิ์งาน GASTECH 2026 เลือกมาจัดในไทย ทางกระทรวงพลังงานของไทยจะเป็นเจ้าภาพหลัก ดูแลการจัดงานขนาดใหญ่สุดในโลกด้านการประชุมและแสดงเทคโนโลยีด้านก๊าซธรรมชาติ LNG ไฮโดรเจน เทคโนโลยีภูมิอากาศ และ AI ที่ทรงอิทธิพลสุดของโลก คาดจะมีทั่วโลกเดินทางมาร่วมงานในไทย ประกอบด้วย ผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย ผู้เข้าร่วมกว่า 50,000 คน รัฐมนตรีกว่า 100 ประเทศ วิทยากรนานาชาติอีกกว่า 1,000 คน เดินทางมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ความร่วมมือ และกำหนดทิศทางอนาคตของพลังงานโลก
งานนี้จะเป็นพลังผลักดัน “ไทย” ขึ้นเป็นประเทศ “ศูนย์กลางพลังงาน” รองรับการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมพลังงานในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ปี 2569 ทีเส็บเล็งเห็นว่างาน GASTECH 2026 คือโอกาสครั้งใหญ่ของไทย ในการยกระดับประเทศเป็นศูนย์กลางพลังงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว มีระดับผู้บริหารเข้าร่วมกว่า 50,000 คนแล้ว ทีเส็บมองโอกาส “ต่อยอด” โดยจะหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมโรงแรมไทย เพื่อขับเคลื่อนการตลาดต้อนรับผู้เข้าร่วมงานด้วยบริการด้านต่าง ๆ เพื่อสร้าง “รายได้มากขึ้น”
เนื่องจากผู้บริหารทั่วโลกที่จะเดินทางมาร่วมงาน
GASTECH 2026 ยังจะมี “ผู้ติดตาม” อีกกว่า 1,000-2,000
คน พร้อมใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
จึงจะต้องวางแผนนำเสนอโปรแกรมและเส้นทางการท่องเที่ยวก่อนและหลังงานไว้ด้วย
ตอบโจทย์นักเดินทางได้อย่างเต็มที่
“ตลาดไมซ์ในประเทศ”
ทีเส็บได้ร่วมหารือกับทางเลขาธิการ EEC ให้การตอบรับเป็นอย่างดีและสนับสนุนการจัดมหกรรมงาน “EEC EXPO 2025” ระหว่างวันที่ 25-26 สิงหาคม 2568 ที่ ภิรัช คอนเวนชั่น เซนเตอร์
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ
เป็นเวทีการแสดงศักยภาพเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะ
“เพิ่มโอกาสการลงทุน” ในอุตสาหกรรมเป้าหมายและบริการแห่งอนาคต นำเสนอ
“ความก้าวหน้า” ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี ระบบสนับสนุนการลงทุนแบบครบวงจร
เน้นเชื่อมโยงความร่วมมือกับนักลงทุนรายสำคัญทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้ EEC
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะยาว
ด้วยจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม ระบบโลจิสติกส์
และระบบนิเวศเพื่อการลงทุนที่ทันสมัยครบวงจร เชื่อมโยงระดับภูมิภาคอย่างแข็งแกร่ง
ทีเส็บได้ร่วมสนับสนุนจัดงาน
“EEC EXPO 2025” เป็นปีที่ 3 โดยให้
EEC โชว์จัดด้วยตนเองมีทั้งกลุ่มแสดงสินค้า
สัมมนาและการประชุม มีผู้เชี่ยวชาญนานาชาติเข้าร่วมแลกเปลี่ยนมุองใหม่ ๆ
โดยใช้ไมซ์เป็นกลไกขับเคลื่อน “การค้าการลงทุน” ควบคู่ “การกระตุ้นเศรษฐกิจ EEC”
งาน EEC Expo 2025 จะมีไฮไลต์จากภาคอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกมารวมตัวกันจับคู่เจรจาธุรกิจและเสนอบริการจากบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ดิจิทัล หุ่นยนต์อัจฉริยะ AI การแพทย์มูลค่าสูง Cyber Security ซอฟท์แวร์ต่าง ๆ โรงงานสีเขียว และอื่น ๆ
โดยเฉพาะ “อุตสาหกรรมเน้น
Green & Clean” ตอบรับเข้าร่วมคับคั่งทั้ง
“กลุ่มยานยนต์” จะได้เห็นนวัตกรรมรถยนต์สมัยใหม่ไฮบริดจ์
ที่มีทั้งรถยนต์ระบบไฟฟ้าและประหยัดพลังงาน บริการผลิตแบตเตอรี่ชาร์จรถ
เรื่อยไปจนถึงกลุ่ม Smart Mobility กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรีไซเคิล
กลุ่มเกษตรกรรมแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต กลุ่มให้บริการมูลค่าสูง เช่น
โลจิสติกส์ สมาร์ทซิตี้ การบิน คมนาคม ขนส่ง คลังสินค้า โรงงานระดับพรีเมี่ยม
ทีเส็บพร้อมนำเสนอไฮไลต์ “กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว” โดยได้สนับสนุน “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยว” ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีกว่า 30 ราย พัฒนาสินค้ารองรับนักท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งศูนย์การเรียนรู้ อาหาร ศิลปะหัตถกรรม จึงเชิญชวนให้บริษัทต่าง ๆ เดินทางมาเยี่ยมชมบูธในงาน พร้อมกับเชิญชวนผู้ประกอบการ โรงงาน ที่สนใจใช้บริการทำกิจกรรมตอบโจทย์การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนตามมาตรฐาน ESGs Goal : Environmen, Social, Governance ซึ่งจะได้ทั้งการดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วยเหลือสังคมชุมชน และมีธรรมาภิบาล
ดร.ศุภวรรณ
กล่าวว่าประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยตามปีงบประมาณ 9 เดือนแรก (ตุลาคม 2567-30 มิถุนายน 2568) พบ “ตลาดไมซ์ต่างประเทศ” ต้องเผชิญความท้าทายมากมายทำให้
“เศรษฐกิจภาพรวม” ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งจากปัจจัย วิกฤตเศรษฐกิจโลก
นโยบายภาษีทรัมป์ 2.0 ความเชื่อมั่นของนักเดินทางตลาดสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งมีไมซ์รวมอยู่ด้วย
ส่งผลให้ “รายได้” ตามเป้ารวมทั้งหมดตั้งไว้ 300,000 ล้านบาท
ขณะนี้ทำได้เกือบ 200,000 ล้านบาท
แนวโน้มอาจจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ 10-15 %
“ตลาดไมซ์ในประเทศ”
ค่อนข้างคึกคักจากห่วงโซ่อุปทานจากภาครัฐ เอกชน ชุมชน และการตื่นตัวของเมืองไมซ์
ซิตี้10 แห่ง
ปีนี้ทีเส็บได้เพิ่มเมืองเศรษฐกิจใหม่แต่ละภาคเข้าไปด้วยอีกภาคละ 2 จังหวัด เช่น “ภาคเหนือ”
มีเชียงใหม่ เพิ่ม เชียงราย พิษณุโลก “ภาคอีสาน” มีขอนแก่น อุดรธานี เพิ่ม
บุรีรัมย์ อุบลราชธานี “ภาคใต้” มีภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา เพิ่ม นครศรีธรรมราช
“ภาคตะวันออก” มีพัทยา/ชลบุรี เพิ่ม ระยอง จันทบุรี
ขณะนี้แต่ละ ไมซ์ ซิตี้ และเมืองเศรษฐกิจใหม่ ล้วนมีความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานต่าง ๆ ทีเส็บจึงจะเดินหน้ากระตุ้นงาน เน้นจัดกิจกรรมเพิ่มเพื่อดึงคนเข้าไปร่วมมากขึ้น กระจายการใช้จ่ายเงิน ด้วยกลยุทธ์ สร้างมาตรฐานบริการ และจัดงานไมซ์อย่างยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อม อำนวยความสะดวกทำให้เศรษฐกิจกับชุมชนเติบโตเคียงข้างกันไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์MOUมหาลัยเลสเตอร์มอบทุนการศึกษาสู่ยั่งยืน
คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษลงนาม MOU โครงการ “The University of Leicester and King Power Thailand Scholarship”
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และในฐานะประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ร่วมกับ ศาสตราจารย์นิชาน คานาการาจาห์ ประธานและรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการศึกษา (MOU) ระหว่างกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์, สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ในโครงการ “The University of Leicester and King Power Thailand Scholarship” ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
เดินหน้า “สานต่อโอกาสทางการศึกษา” ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาต่อมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้เข้าถึงการศึกษาในระดับสากล และนำความรู้กลับมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศและสังคมอย่างยั่งยืน
ข่าวที่ 2 -คิงเพาเวอร์จัด“RANGNAM MEGA CLEARANCE SALE” ลด80%
“คิง เพาเวอร์”
ให้สายช้อปได้พบกับมหกรรม “KING POWER RANGNAM MEGA CLEARANCE
SALE” เมกะเซลแห่งปี ระดม“แบรนด์ดัง” ลดแรงกว่าที่เคยสูงสุดถึง 80%” ลดแรงแบบไม่เคยมีมาก่อน ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม
-21 กันยายน 2568 ที่ “คิง เพาเวอร์
รางน้ำ” จัดโปรโมชั่นยิงยาวต่อเนื่อง 1 เดือนเต็ม
งานนี้ให้สิทธิเต็มที่จะมีหรือไม่มีเที่ยวบินต่างประเทศก็ช้อปได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
● “ลดสูงสุด
80 %” นำโดยสินค้าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากทั่วโลก
และสินค้าไทยคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม
● “ลดสูงสุด 50 %” จัดเต็มทั้ง น้ำหอม เครื่องสำอาง และ แว่นตา
● “POWER PASS” บัตรคู่ใจนักช้อป ยังไม่ได้เป็นสมาชิกรีบสมัครด่วนตามขั้นตอนง่ายมาก และสมัครฟรีทาง www.powerpass.kingpower.com หรือสมัครผ่าน LINE Official Account @KINGPOWER สมัครปุ๊บ รับทันที 400 CARAT เพื่อให้นำไปใช้ช้อปแทนเงินสดต่อได้ด้วย
ข่าวที่ 3-รร.พูลแมนคิงเพาเวอร์จัดโปรเที่ยวไทย“บุฟเฟต์-ห้องพัก-สปา”
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ จัดโปรโมชั่นนำเสนอขายใน “งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 75” ได้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 เปิดให้ซื้อผ่านทาง 1.ออนไลน์ได้โดยไม่ต้องไปถึงงาน ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ -31 สิงหาคม หรือหากใครสนใจเลือกซื้อที่งานแวะไปบูธหมายเลข E09 และ E10 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 23-24 สิงหาคม นี้ เวลา 10.00 – 21.00 น.
“โปรโมชั่นพิเศษ” : บุฟเฟต์นานาชาติ ทรีตเมนท์สปา และห้องพักโรงแรม ประกอบด้วย
“บุฟเฟต์นานาชาติ” ภายในโรงแรมมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งมื้อค่ำ ซันเดย์บรันช์ โปร 10 ฟรี 1 ราคาเริ่มต้น 1,734 บาทสิทธิ ดังนี้
● 1,743 บาทสุทธิ (จาก 2,490 บาทสุทธิ) บุฟเฟ่ต์นานาชาติและซีฟู้ดมื้อค่ำ (ศุกร์-เสาร์) โปรโมชั่น 10 ฟรี 1 ที่งานเท่านั้น
● 1,743 บาทสุทธิ (จาก 2,490 บาทสุทธิ) บุฟเฟ่ต์ซันเดย์ บรันช์ (วันอาทิตย์) โปรโมชั่น 10 ฟรี 1 ที่งานนี้เท่านั้น
“ทรีตเมนต์สปา” เมนูยอดนิยมที่ห้อง เลอ สปา โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ มีให้เลือก 4 รายการ
● 2,000
บาทสุทธิ (จาก 4,899
บาทสุทธิ) ชุดน้ำชายามบ่าย พร้อมทรีตเมนท์ สำหรับ 2 คน
● 1,590
บาทสุทธิ ทรีตเมนท์ยอดนิยม
60 นาที ที่ เลอ สปา มอบโปรโมชั่น 5
ฟรี 2 ที่งานเท่านั้น
● 1,200
บาทสุทธิ ฮัมมัมทรีตเมนท์
60 นาทีที่ เลอ สปา
● 2,800 บาทสุทธิ ฮัมมัมทรีตเมนท์ 120 นาทีที่ เลอ สปา
“ห้องพัก”
โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กับแพกเกจที่พัก
หรือรวมซีฟู้ดบุฟเฟต์ พร้อมส่วนลดสมาชิกบัตร All เครือแอคคอร์
ตามรายละเอียดดังนี้
● 4,500 บาทสุทธิ ห้องพักสุดคุ้ม Relaxation Package พักห้องดีลักซ์พร้อมอาหารเช้า และนวดแผนไทย 1 ชั่วโมง สำหรับ 2 คน
● 5,500 บาทสุทธิ ห้องพักสุดคุ้ม Premium Seafood Buffet Package พักห้องดีลักซ์พร้อมอาหารเช้าและบุฟเฟ่ต์มื้อเย็น สำหรับ 2 คน
● 6,500 บาทสุทธิ ห้องพักสุดคุ้ม Premium Seafood Buffet Package พักห้องพรีเมียร์ดีลักซ์พร้อมอาหารเช้าและบุฟเฟ่ต์มื้อเย็น สำหรับ 2 คน
สมาชิก All รับส่วนลดห้องพักสูงสุด 25%สอบถามเพิ่มโทร. 02 680 9999
ข่าวที่
4-ททท.ปลุกเที่ยวแสงสี“Vijit@อุดร-ลำปาง-หาดใหญ่”วันนี้-14ก.ย.
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ 22 สิงหาคม-14 กันยายน 2568 ททท.ชวนมาเปิดประสบการณ์ “Amazing
Experience” กับการท่องเที่ยวชมปรากฏกการณ์ แสง สี เสียง
สุดตระการตา การประดับไฟสวยงามตามแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เป้าหมาย “เสน่ห์ไทย :
Vijit” 3 อลังการ กระจายจัดในเมืองน่าเที่ยว 3
ภูมิภาค ได้แก่ “ภูมิภาคภาคอีสาน” จังหวัดอุดรธานี “ภูมิภาคภาคเหนือ”
จังหวัดลำปาง และ “ภูมิภาคภาคใต้” หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จัดเต็มมาให้ชมสมการรอคอย
และเพื่อตอกย้ำแนวคิด 5 Must Do in Thailand ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยคุณค่าและความหมาย
พื้นที่ 1
Vijit @อุดรธานี “เสน่ห์แสง
ศิลป์ ถิ่นอีสาน” ระหว่าง 22–31 สิงหาคม
2568 เวลา 18.00–23.00 น. บริเวณสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติมหาราชินี
วังมัจฉาหนองบัว จังหวัดอุดรธานี
พื้นที่
2 Vijit @หาดใหญ่
"เสน่ห์ไทย Ice Dome" วันที่ 29 สิงหาคม–21 กันยายน 2568 เวลา
11.00–21.00 น. บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
พื้นที่
3 Vijit @ลำปาง
"เสน่ห์ เหนือกาลเวลา" วันที่ 5–14 กันยายน 2568 เวลา18.00–23.00 น. ที่
3 ย่านชุมชน เมืองลำปาง
ไฮไลต์ “วิจิตร @ อุดรธานี–เสน่ห์แสง ศิลป์ ถิ่นอีสาน”
เปิดให้นักท่องเที่ยวชมฟรีความงดงามของแสง สี และงานศิลป์ที่ถ่ายทอดตำนาน ความเชื่อ
วัฒนธรรมอีสาน กับงานแสดงไฟ 11 จุด ได้แก่
1. ถือกำเนิดเอ็งกอ ณ ดินแดนอุดรธานี 2. สะพานแห่งกาลเวลา 3. บทเพลงวิถีเอ็งกอ 4. ค่ำคืนแห่งการบูชา 5. พญานาคาล่องทะเลบัวแดง 6. แสงสนุกแห่งอนาคต 7. คืนแห่งแสงกลางหนองบัว 8. ลายเส้นศิลป์แห่งการเวลา 9. ลมหายใจใหม่ของชนเผ่า 10. สรวงสวรรค์บันดาลพร11. ศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณอุดร
พร้อมสนุกเพลิดเพลินตลอดงานกับกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง
ข่าวที่ 5-บางจากลุยหนุนชุมชน-โรงเรียนรอบโรงกลั่น
4 กิจกรรม
นางกลอยตา
ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการมูลนิธิใบไม้ปันสุข เปิดเผยว่า
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้จัดทำภารกิจร่วมกับโรงเรียนและชุมชนรอบโรงกลั่น 4 กิจกรรม เริ่มจาก
● กิจกรรมที่
1 ร่วมเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการ "สถานี Fry to Fly" ปี
2568 ตั้งเป้าขยายผลเป็น 40 โรงเรียน
จากปี 2567 มีต้นแบบเพียง 4 โรงเรียน เปิดให้เข้าร่วมเป็นจุดรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว
นำเข้าสู่กระบวนการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable
Aviation Fuel: SAF) ของบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด ในเครือบางจากพร้อมทั้งปลูกฝังจิตสำนึกเยาวชนด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
(Circular Economy)
โดยมีวิทยากร
บริษัท บางจากฯ และมูลนิธิใบไม้ปันสุข
ร่วมให้ความรู้การบริหารจัดการขั้นตอนรับซื้อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วให้กับครูและนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
– มัธยมศึกษาปีที่ 2 รวมกว่า 200 คน ที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง สุขุมวิท 64
● กิจกรรมที่
2 “ผู้สูงวัย
สู้ภัยไซเบอร์” ร่วมสังเกตุการณ์กิจกรรมที่จัดให้ผู้สูงอายุในชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก
พระโขนง เสริมความรู้ด้านความปลอดภัยบนโลกออนไลน์
สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยมี นางสาวนัปกานต์
บุญประสม Elderly Curriculum & Activity Leader จากบริษัท ยังแฮปปี้ จำกัด เป็นวิทยากร
● กิจกรรมที่ 3 การพัฒนาอาชีพ บางจากได้จัด โครงการ “บางจากฯ สร้างงาน ปั้นอาชีพ” อย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุด เปิดโอกาสให้ผู้แทนจาก 8 ชุมชนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก
พระโขนง เข้าร่วมอบรมอาชีพ เช่น การทำอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม
พร้อมมีการประกวดผลงานเข้าแข่งขันทั้งเมนูทอดและเมนูเครื่องดื่ม
ดำเนินการสอนโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ นางสาววรินทร์ทิพย์ อาคมวิชิตชัย (เชฟปูน) และ
นางสาววรลักษณ์ ระเบ็ง (เชฟรัน) จาก Little Bite Studio
● กิจกรรมที่ 4 จัดเวิร์คช้อป "AI ช่วยครูคิด Canva ช่วยครูทำ : Workshop สำหรับครูยุคดิจิทัล" เป็นโครงการพัฒนาทักษะครูในยุคดิจิทัล
ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยมี ดร.อวิรุทธ์ ฉัตรมาลาทอง
ผู้อำนวยการศูนย์บริหารความเสี่ยง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยากรการใช้งาน AI ถ่ายทอดความรู้ให้คุณครูจากโรงเรียนรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง กว่า 100 คน เสริมศักยภาพการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ChatGPT,
Canva และ CapCut การสร้างสื่อการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์พัฒนาการเรียนรู้สู่อนาคต
นางกลอยตากล่าวว่า
ตลอดการดำเนินธุรกิจ 41 ปี บางจากฯ ยึดมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับสิ่งแวดล้อมและสังคม
ภารกิจต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นเพื่อ “ชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการ” ได้พัฒนาและปรับให้ทันสมัยต่อเนื่องตลอด
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตได้ครบหลากหลายมิติ เช่น สิ่งแวดล้อม
การสร้างอาชีพ การศึกษา สุขภาพ ความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมากมาย
ข่าวที่
6- TCEBนำไมซ์ไทยคว้ายอดเยี่ยมM&C Awardsเอเชีย4รางวัล
TCEB พร้อมเอกชนนำอุตสาหกรรมไมซ์ไทยผงาดในเวที
M&C Asia Stella Awards กวาดยอดเยี่ยมแห่งเอเชียถึง 4
รางวัล “TCEB” องค์กรสร้างจุดหมายการประชุม
“ศูนย์สิริกิติ์” ศูนย์ประชุมที่ยั่งยืน “เดอะ เอธินี เอ ลักชัวรี คอลเลคชั่น”
โรงแรมยั่งยืนดีที่สุด “ไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพ สุขุมวิท”
โรงแรมจัดการประชุมดีที่สุด
นางสาวศุภนิช
เฑียรสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” นำอุตสาหกรรมไมซ์ของเมืองไทย พร้อมผู้ประกอบการศูนย์การประชุม โรงแรม
และสถานที่จุดหมายการจัดงานประชุม สร้างความสำเร็จในเวที M&C Asia
Stella Awards ที่จัดขึ้นโดย M&C Asia by Northstar
Meetings Group เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีพิธีมอบรางวัล ที่โรงแรมไฮแอท
รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท ซึ่งวงการไมซ์เมืองไทยสร้างชื่อเสียงได้รับเลือกคว้าตำแหน่งยอดเยี่ยมที่สุดในเอเชียถึง
4 รางวัล ดังนี้
“TCEB” คว้ารางวัล
“จุดหมายปลายทางการประชุมที่ดีที่สุดในเอเชีย”
ในฐานะองค์กรขับเคลื่อนประเทศไทยได้รับเลือกเป็นจุดหมายปลายทางการประชุมทั้งในประเทศและทั่วโลก
“ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”
คว้ารางวัลศูนย์การประชุมที่มีแนวปฏิบัติความยั่งยืนดีที่สุดในเอเชีย โดยมี
นายสุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์
ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นตัวแทนรับรางวัล
“โรงแรมเดอะ เอธินี เอ ลักชัวรี คอลเลคชั่น”
คว้ารางวัลโรงแรมมีแนวปฏิบัติความยั่งยืนดีที่สุดในเอเชีย
“โรงแรมไฮแอท รีเจนซี กรุงเทพ สุขุมวิท”
คว้ารับเลือกโรงแรมสำหรับการประชุมที่ดีที่สุดในเอเชีย
สำหรับรางวัล
“M&C Asia Stella Awards” มอบให้แก่องค์กรที่มีบทบาทโดดเด่นทำให้อุตสาหกรรมไมซ์ในเอเชียมีพัฒนาการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง
มีทั้งหมด 7 หมวด ได้แก่ 1.จุดหมายปลายทางไมซ์
2.ศูนย์การประชุม 3.พันธมิตรของประเทศ
4.จุดหมายการจัดงาน 5.โรงแรมสำหรับการประชุม 6.รีสอร์ทแบบครบวงจร 7.ผลงานด้านความยั่งยืน
หน่วยงานที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย
เพื่อพิจารณารับรางวัลแต่ละหมวด จะต้องผ่านการคัดเลือกอย่างโปร่งใส
แล้วผู้ได้รับรางวัลแต่ละหมวดจะต้องได้รับเสียงส่วนใหญ่โหวตลงคะแนนโดยบุคลากรมืออาชีพในอุตสาหกรรมไมซ์จากทั่วภูมิภาคเอเชีย
ซึ่งทั้ง 4 องค์กรของไทย ได้แสดงศักยภาพความสามารถคว้ามาได้ถึง 4
รางวัล
ช่วงที่ 2 นักท่องเที่ยวสายฟินแพ็กกระเป๋าเสร็จแล้ว
ปักหมุดตลุยอีสาน กรีน ซีซัน เพลิดเพลินกับการเดินทางแล้วได้ลองทำ เวิร์คช้อป ฟิน
ๆ แต่ละจังหวัด 5 พิกัด “ยาดมสมุนไพร-ย้อมผ้าธรรมชาติ-Eco
Print-แหวนหางช้าง-ตุ้มนกต้มหนูหัวใจไทดำ”
แล้วฟัง “เดินเร็วแค่ 15 นาที” ลดความเสี่ยงตายก่อนวัย
เกาะติดข่าวปัง ๆ ข่าวแรก “ททท.-Lazada”แจกโปรเที่ยววันธรรมดาลุ้นรับล้านบาท
ข่าวที่สอง “AWC-อรุณพลัส”
เปิดแห่งแรกในไทยรถแทรมไฟฟ้าท่องเที่ยวเชียงใหม่
ท่องเที่ยว
–สุขทันทีที่ได้เที่ยวทั่วอีสานสนุกกับเวิร์คช้อปฟินๆ 5 พิกัด
เที่ยวไปสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช้อปได้ทั่วภาคอีสาน “อรรถพล วรรณกิจ”
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนนักเดินทางควงคนที่รักมาฟินเปลี่ยนหน้าฝนให้เต็มไปด้วยความสุขกับสุดสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในแต่ละทริปกับ
“5
Workshop” 5 พิกัด
พิกัดที่ 1 เวิร์คช้อป D.I.Y.ผลิตภัณฑ์สุขภาพยาดมสมุนไพร ที่ เพ ลา เพลิน
จ.บุรีรัมย์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้เปิดให้นักท่องเที่ยวลงมือทำด้วยตัวเอง
สมุนไพรไทยแต่ละชนิดมีสรรพคุณต่างกัน ด้วยการได้ผสมผสานกลิ่นต่าง ๆ สร้างกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ทำเสร็จแล้วนำเป็นของฝากกลับบ้านได้ สูดดมแล้วช่วยเพิ่มรู้สึกสดชื่นและมีพลังตลอดทั้งวัน
โทร. 087 798 1039
https://maps.app.goo.gl/aEAwGk1iNeY4J7nv6
พิกัดที่ 2 เวิร์คช้อปย้อมผ้าจากธรรมชาติ คุ้มจันทร์หอม
จ.อุบลราชธานี อีกหนึ่งศูนย์เรียนรู้ด้านการทอผ้าไหมครบวงจร ชวนคนรักงานฝีมือมาร่วมเรียนรู้การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติแบบดั้งเดิม
ใช้พืชพรรณท้องถิ่นนำมาย้อมผ้า เช่น เปลือกไม้ หรือใบไม้ต่าง ๆ
มาสร้างสรรค์ลวดลายและสีสันที่ไม่ซ้ำใครลงบนผืนผ้า
เป็นกิจกรรมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
และอยากสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โทร.082 828 8959
https://maps.app.goo.gl/7EnCUy36ds58NtFX9
พิกัดที่ 3 เวิร์คช้อป Eco Print มีกินฟาร์ม/MEKIN FARM จ.ขอนแก่น บ้านสวนเล็ก ๆ ที่อยากให้ทุกคนที่มาเยือนได้สัมผัสกับธรรมชาติ ทำกิจกรรมชวนเปลี่ยนใบไม้และดอกไม้ให้กลายเป็นงานศิลปะสวยงาม
กับเวิร์กช็อป Eco Print กับเทคนิคการพิมพ์ลวดลายจากดอกไม้ลงบนผืนผ้า
จากการเดินไปเก็บดอกไม้จากธรรมชาติมาจัดวางบนผ้า แล้วใช้ทุบให้สีและลวดลายดอกไม้ติดลงบนผ้า
เป็นเอกลักษณ์สร้างสรรค์งานอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมีกิจกรรมอื่น ๆ
อีกมากมาย โทร.094 492 8226
https://maps.app.goo.gl/jT77tGQk61mNbYQTA
พิกัดที่ 4 เวิร์คช้อปทำแหวนจากหางช้าง ที่ชุมชนบ้านหนองบัว
จ.สุรินทร์ ถ่ายทอดกรรมวิธีการทำแหวนจากหางช้าง ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมายาวนาน
ตามความเชื่อว่าช่วยนำโชคลาภและปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่ ยิ่งได้ลงมือทำด้วยตัวเองเท่ากับได้ร่วมสืบสานวัฒนธรรมและรับรู้ถึงความเชื่ออันล้ำค่าของชาวสุรินทร์
ส่วนใครอยากเล่นกับน้องช้าง ก็ต้องรีบตามมาเช็กอิน โทร.090 827 1858
https://maps.app.goo.gl/Y19Cu2yt4omew2V3A
พิกัดที่ 5 เวิร์คช้อปทำหัวใจไทดำ ตุ้มนกตุ้มหนู
ที่เฮือนอ้ายเอ้ม จ.เลย เป็นอีกหนึ่งศูนย์การเรียนรู้งานหัตถกรรมของชาวไทดำ แหล่งทำ ตุ้มนก
ตุ้มหนู และหัวใจไทดำ
ซึ่งเป็นเครื่องรางงานฝีมือประดิษฐ์จากเส้นด้ายหรือเชือกถักทอ
ใช้เป็นเครื่องบรรณาการในพิธี แซปางไทดำ สะท้อนถึงความเชื่อ ความงดงามทางวัฒนธรรม
และภูมิปัญญาการดำเนินชีวิตของชาวไทดำ มีความหมายเกี่ยวข้องกับความสุข ความมั่นคง
ความเป็นสิริมงคล ต้องมาลองทำด้วยตัวเอง โทร.080 195 5199
https://maps.app.goo.gl/a393tMmd1CkkNKjF6
สุขภาพ –ด่วน !!เดินเร็ววันละ 15 นาที ลดความเสี่ยงการตายก่อนวัย
หลายคนอาจคิดว่า
“ออกกำลังกาย” ต้องใช้เวลามากหรือเข้าฟิตเนส แต่
งานวิจัยล่าสุดจาก CNN Health และ American Journal
of Preventive Medicine ระบุเพียงแค่เดินเร็ววันละ 15 นาที ก็เพียงพอที่จะช่วยให้คุณมี สุขภาพดี
ลดความเสี่ยงโรคร้าย และยืดอายุได้ โดยมีงานวิจัยยืนยัน “เดินเร็ววันละ 15 นาที” ลดความเสี่ยงตายก่อนวัย
ดร.เหว่ย
เจิ้ง และทีมวิจัยได้ติดตามพฤติกรรมของคนกว่า 85,000 คน ตั้งแต่ปี 2002–2009
และทำการวิเคราะห์ต่อเนื่องจนถึงปี 2023 โดยเก็บข้อมูลด้าน
การออกกำลังกาย ความเร็วในการเดิน และสุขภาพ
ผลการวิจัยพบว่า
- ผู้ที่เดินเร็ววันละ 15
นาทีขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัย ลดลงเกือบ 20%
- ผู้ที่เดินช้าแม้ใช้เวลามากถึง 3
ชั่วโมงต่อวัน กลับลดความเสี่ยงได้เพียง 4%
โดยพบ
“5 ประโยชน์การเดินเร็วต่อสุขภาพ” การเดินเร็วเป็นประจำไม่ได้ช่วยแค่เรื่องร่างกายแต่ยังเสริมสุขภาพโดยรวม
ดังนี้ :
1.ควบคุมน้ำหนักและระดับน้ำตาล ลดความเสี่ยงเบาหวาน มะเร็ง และเสริมภูมิคุ้มกัน
2.ดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอล
ป้องกันหัวใจล้มเหลวและโรคหัวใจ
3.ลดความเสี่ยงสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ กระตุ้นสมองให้ทำงานดีขึ้น
4.ช่วยให้นอนหลับดีและลดการอักเสบ ฟื้นฟูสมองและร่างกาย
5.ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่ 2 และจังหวะหัวใจผิดปกติ
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก –ททท.ผนึกLazadaลุยขายเที่ยววันธรรมดาลุ้นรับ1ล้านบาท
นางสาวฐาปนีย์
เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จับมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ปลุกเทรนด์เที่ยวทั่วไทย
ไปได้เลย ไม่ต้องรอวันหยุด กับแคมเปญ #เที่ยววันธรรมดาน่าค้นหากว่าที่เคย
พร้อมร่วมสนุกอวดลุค จากทริปสุดประทับใจ ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท
สายท่องเที่ยวห้ามพลาด เริ่มเก็บคูปองพร้อมจองได้ทันที ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน
2568 ทาง : https://shorturl.asia/rWhFP
ททท.พร้อมเอาใจสายเที่ยว
สายแฟชั่น เสิร์ฟดีลเด็ดผ่าน Lazada รับ 2 ต่อ ดังนี้
● ต่อที่
1 “ตั๋วโดยสารเครื่องบิน” ราคาพิเศษ ลดสูงสุด 10% และ
ที่พัก ลดสูงสุด 15% เมื่อจองผ่าน LazTravel
● ต่อที่
2 รับส่วนลดสูงสูด 20% สำหรับช้อปกับ LazLook ให้คุณอัพลุคสุดปัง พร้อมเที่ยวกันได้เต็มที่
● กติการ่วมสนุกกิจกรรม
ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 1,000,000 บาท เพียงแค่ Upload ภาพและข้อความในสไตล์ของตัวเองจากทริปสุดประทับใจ ลงในเว็บไซต์ของโครงการ
เริ่มตั้งแต่วันนี้- 10 ตุลาคม 2568 จัดแข่ง 5 ครั้ง ระยะเวลาครั้งละ 1 สัปดาห์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.amazingweekdayspecial.com
ข่าวที่สอง –“AWC-อรุณพลัส”บริการรถแทรมไฟฟ้านำเที่ยวเชียงใหม่
แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ “AWC”
จับมือกับ “บริษัท อรุณ พลัส จำกัด” ผู้ให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ร่วมพัฒนา “Chiang Mai Tram By Lannatique” รถแทรมไฟฟ้าล้อยางนำเที่ยวแห่งแรกของไทยใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ทำระบบขนส่งสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และต้นแบบการเดินทางสะอาด
รองรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เติบโตในเชียงใหม่ สะท้อนอัตลักษณ์ล้านนาด้วยมิติร่วมสมัย
ตามเส้นทางวิ่งเชื่อมโยงรอบคูเมืองในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยั่งยืน
สร้างลานจอดรถส่วนตัวรอบนอกตัวเมืองได้กว่า 1,500 คัน
ใช้พื้นที่โครงการในเครือ AWC สามารถใช้รถแทรมไฟฟ้าเชื่อมต่อการเดินทาง
ลดใช้รถยนต์เข้าสู่เขตเมืองเก่า และเชื่อมต่อกับโครงการ “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น”
แลนด์มาร์กศิลปวัฒนธรรมแห่งใหม่ใจกลางย่านช้างคลาน
ทั้ง 2 องค์กรได้สะท้อนวิสัยทัศน์สร้างภูมิทัศน์ใหม่ในการเดินทางเชื่อมโยงเมือง
ผู้คน และวัฒนธรรม ด้วยนวัตกรรมทันสมัยและสมดุล ตามคอนเซ็ปต์ “Building
Better Future For All” สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคน บริการ
“Chiang Mai Tram By Lannatique” เตรียมเปิดอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี
2568 พร้อม “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น”
“นายไมเคิล ฮาริท” หัวหน้าคณะกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล
แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า
AWC ยินดีสานต่อความร่วมมือกับ “อรุณ พลัส” พัฒนาให้เกิด “Chiang Mai Tram By Lannatique” ความร่วมมือกันครั้งนี้ทั้งสององค์กรมุ่งมั่นขับเคลื่อนนวัตกรรม
“เชื่อมโยงเมือง-ผู้คน-วัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างสมดุล” ด้วยระบบขนส่งมวลชนสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยผสานอัตลักษณ์ล้านนาออกแบบเป็นเอกลักษณ์ในมิติร่วมสมัย
พร้อมเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์กับชุมชนโดยรอบ และโครงการ
‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’
ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์กด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยแห่งใหม่ใจกลางย่านช้างคลาน
“รายได้สุทธิ” จากโครงการ ‘Chiang
Mai Tram By Lannatique’ จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อชุมชนอย่างยั่งยืนในเชียงใหม่
ตามเจตนารมณ์สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคน ซึ่งเชื่อมั่นถึงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะสร้างคุณค่าได้ทุกมิติ
ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
สนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่มีบทบาทขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตไปพร้อมกับเมือง
สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เรื่องส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด
การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และร่วมพัฒนาสู่ความยั่งยืน
ล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญการพัฒนาเมืองอย่างสมดุลในระยะยาว และร่วมขับเคลื่อน “คุณภาพชีวิตผู้คนในท้องถิ่น”
เติบโตเคียงข้างการพัฒนาเมืองเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลกอย่างแท้จริง
“นายเอกชัย ยิ้มสกุล”
กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด กล่าวว่าในฐานะผู้ให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร
รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ‘Chiang
Mai Tram By Lannatique’ ถือเป็นก้าวสำคัญของไทยในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้าเชื่อมโยงการเดินทางอย่างยั่งยืนเข้ากับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
มีความภูมิใจที่ได้ร่วมทำงานอย่างใกล้กับ AWC ออกแบบและพัฒนารถแทรมไฟฟ้าล้อยางคันแรกของไทย
ให้รองรับบริการอย่างมีประสิทธิภาพทั้งเทคโนโลยี ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย
ภายใต้แนวคิดร่วมสมัยเอกลักษณ์ล้านนา
“รถแทรม” ได้ออกแบบให้กลมกลืนกับบริบทเมืองเชียงใหม่
พร้อมติดตั้งระบบปรับอากาศและระบบฟอกอากาศสามารถกรอง PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อยกระดับคุณภาพอากาศและประสบการณ์การเดินทางผู้โดยสาร
เลือกใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก ประกอบขึ้นโดยผู้ประกอบการไทย
สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
บนพื้นฐานคุณภาพและความปลอดภัยด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและได้รับการรับรองในระดับสากล
ทางอรุณ พลัส เชื่อมั่นโครงการนี้สามารถช่วยทั้ง
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นต้นแบบสำคัญการเดินทางแห่งอนาคตสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น