วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568

บพท.ปลื้มผลงานวิจัยช่วยคนจน “ฮับส่งโฮงยา-โทรเวชกรรม”หนุนบริการสุขภาพ

 

บพท.ปลื้มผลงานวิจัยช่วยคนจน “ฮับส่งโฮงยา-โทรเวชกรรม”

ผนึกมช-สช.-อปท.”หนุนบริการสุขภาพลำปาง-ลำพูน-กระบี่

 


เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #บพท #ฮับส่งโฮงยา #เทเลเมดิซีน

บพท.หนุนงานวิจัย “ฮับส่งโฮงยา-โทรเวชกรรม” ผนึกพลัง มช.+สช.นำลำปางโมเดล ต่อยอดพื้นที่นำร่อง “ลำพูน” 3 เทศบาล ขยายสู่กระบี่ ลุยสร้างระบบนำผู้ป่วยในถิ่นกันดารเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม ลดค่าใช้จ่าย สร้างต้นแบบใหม่ให้องค์กรปกครองถิ่นใช้ทั่วไทย

ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวอช.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและบริหารสุขภาพข้ามองค์กรเพื่อยกระดับสุขภาวะและตอบสนองความต้องการของชุมชมชนท้องถิ่น ถึงเรื่อง “มิติด้านสุขภาพชุมชน” มีความสำคัญอย่างมาก  โดยมีโครงการวิจัยของคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย รศ.ดร.อรัญญา ศิริผล เป็นหัวหน้าโครงการ ได้เติมเต็มพัฒนาขีดความสามารถ “การให้บริการสุขภาพและสาธารณะ” แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและผู้มีภาวะพึ่งพิงขององค์กรปกครองท้องถิ่นระดับตำบลในอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

พื้นที่นำร่องที่ “เทศบาลตำบลเวียงยอง” ต่อยอดขยายผลนำไปใช้ประโยชน์อีกหลายพื้นที่ ได้แก่ เทศบาลตำบลเหมืองจี้ เทศบาลตำบลบ้านแป้น และเทศบาลตำบลหนองหนาม ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการพัฒนา“ฮับส่งโฮงยา”  เป็นระบบบริการใหม่เพิ่มช่องทางให้ประชาชนขอรับ “บริการรับส่งผู้ป่วย” จากที่พักไปโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดหมาย ผ่าน “แพลตฟอร์มออนไลน์” เพื่อจองเวลาและยืนยัน ให้ทีมได้เตรียมรถและบุคลากรเฉพาะที่ได้รับใบอนุญาต เข้ามาช่วยเหลือและยกระดับการเข้ารับบริการสุขภาพคนในท้องถิ่นได้มาก ขยายผลไปสู่ “ยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์” ช่วยให้ “ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง” เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ต่อเนื่องทั่วถึง ช่วยลดรายจ่ายครัวเรือนได้เป็นมากด้วย

            ดร.กิตติ กล่าวว่า บพท. รู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับคณะนักวิจัยและเทศบาลตำบลเวียงยอง ที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เกิดกลไก “ปฏิบัติการใหม่ของเทศบาล” ในการดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง และช่วยลดความเหลื่อมล้ำเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ จนขยายผลสู่การให้บริการรับส่งผู้ป่วยครอบคลุมอปท. 4 พื้นที่ พื้นที่นำร่อง เทศบาลตำบลเวียงยอง สามารถให้บริการประชาชนไปแล้ว 275 ราย “ลดรายจ่าย” ครัวเรือนได้มากกว่า 5 แสนบาท/ปี ช่วยเหลือครัวเรือนที่ยากลำบากให้ได้รับการดูแลด้านสุขภาพอย่างทั่วถึงและมีสุขภาพดีขึ้น

การลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการสนับสนุนทางวิชาการและการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพและกลไกใหม่ของ อปท. ในการดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตามกรอบภายใต้แผนงานนโยบายของกระทรวง อว. ต่อการส่งเสริมและสนับสนุนบทบาทความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่ยั่งยืนต่อไป



“รศ.ดร.อรัญญา ศิริผล” อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่มาของโครงการจุดประกายขึ้นจากการจัดเวทีประชาคมร่วมกับชมรมผู้สูงอายุในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลเวียงยอง และค้นพบว่าชาวบ้านที่เจ็บป่วยมีปัญหาอุปสรรคการเดินทางไปรับบริการด้านสาธารณสุขในสถานพยาบาล และมีข้อจำกัดด้านรายได้การจัดหากายอุปกรณ์ทางการแพทย์มาใช้งาน

การค้นพบปัญหาอุปสรรค และข้อจำกัดข้างต้น จึงได้หาทางออกแบบแก้ไข และลงเอยด้วยการพัฒนาแอพลิเคชั่น “ฮับส่งโฮงยา”(Med Car Hub) นำมาบริหารจัดการคิวให้ “บริการก่อน-หลัง” เรื่องรถรับส่งผู้ป่วยระหว่าง “บ้านกับสถานพยาบาล”  และการ “ยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์”(Medical Prosthesis Borrow-Return) อำนวยความสะดวกอย่างเป็นระบบในการช่วยบริหารจัดการยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์



รวมทั้งมี “โปรแกรมภูมิสารสนเทศชุมชน” (LGIA)   ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ กับระบบฐานข้อมูลประชากรที่พร้อมเชื่อมโยงเข้ากับการเก็บข้อมูลในอนาคต และระบบปฏิบัติการ (Workflow) ที่ทำให้การบริหารจัดการบริการสุขภาพลื่นไหล รวดเร็ว มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะช่วยทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิต และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพแก่ชาวบ้าน แล้วยังสร้างนวัตกรชุมชนด้านสุขภาพในพื้นที่ได้ถึง 10 คน

“นางสาวสิริมาพร  รัตนภูมิสิริ” นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเวียงยอง กล่าวว่า โครงการวิจัยข้างต้นถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งได้อำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านเข้าถึงบริการสุขภาพ ประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทางไปได้ปีละประมาณ 5 แสนบาท ทางเทศบาลเป็นศูนย์ประสานการให้บริการชาวบ้าน มีส่วนร่วมสนับสนุนทั้งด้านจัดสรรงบประมาณจัดซื้อรถบริการรับส่งชาวบ้านไปรับบริการสุขภาพ และบุคลากร ทำให้ชาวบ้านพึงพอใจ มีคุณภาพชีวิต และพลานามัยที่ดี



“นพ.ปรีดา  แต้อารักษ์” ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) หัวหน้าโครงการพัฒนาระบบโทรเวชกรรมและระบบสุขภาพปฐมภูมิในประเทศไทย จังหวัดลำปาง กล่าวว่า โครงการนี้ต้องการยกระดับคุณภาพการให้บริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมทางสังคมตามหลักธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ผ่านการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน 5 มิติ ได้แก่ การพัฒนาคน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ความสงบสุข และความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา

กระบวนการวิจัยจะคัดเลือกพื้นที่นำร่องโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 7 - 10 แห่งจากจทั้งหมด 67 แห่ง ที่ถ่ายโอนสู่ อบจ.ลำปาง เน้นพื้นที่ที่มีประชากรกลุ่มเปราะบาง ยากจนกระจุกตัวหนาแน่น หรืออยู่ที่กันดารห่างไกล มีปัญหาเข้าถึงบริการสุขภาพ แล้วนำระบบ “โทรเวชกรรม” (Telemedicine) เข้าไปสนับสนุน เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ลดความแออัดในโรงพยาบาลหลัก เสริมการดูแลสุขภาพปฐมภูมิ 5 ด้าน คือ 1.การป้องกันและบำบัดโรค 2.การส่งเสริมสุขภาพ 3.การรักษาพยาบาลอย่างง่าย 4.การฟื้นฟูสมรรถภาพ 5.การคุ้มครองผู้บริโภค แล้วยังเน้นกระบวนการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมด้วย  คืออบจ. หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษาเพื่อสร้างบริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ มีระบบธรรมาภิบาล และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้

นพ.ปรีดา กล่าวว่า ตอนนี้ระบบโทรเวชกรรมขยายขอบเขตพื้นที่บริการจาก 10 แห่ง เป็น 20 แห่ง ได้รับยกระดับขึ้นเป็น “ระบบบริการสุขภาพทางไกล” แบบบูรณาการ (Telehealth) ครอบคลุมหลายมิติ คือ การพยาบาล (Telenursing) การให้คำปรึกษาด้านยา(Telepharmacy) การฟื้นฟูสมรรถภาพ (Telerehabilitation) การดูแลด้านจิตเวช (Telementalhealth) การส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) และศูนย์นวัตกรรมการจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิต้นแบบ ขยายผลจากลำปางโมเดลไปลำพูน และกระบี่

“รศ.ดร.อุเทน  คำน่าน” รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรม หน่วย บพท. กล่าวว่า ระบบ”ฮับส่งโฮงยา” และโปรแกรมยืม-คืนกายอุปกรณ์การแพทย์ เน้นอำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนได้รับบริการด้านสาธารณสุข เป็นผลสัมฤทธิ์ด้านการบริการสุขภาพผู้สูงอายุ และผู้มีภาวะพึ่งพิง ทางทีมวิจัยคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประสานการทำงานร่วมกับเทศบาลตำบลเวียงยอง และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ รวมทั้งระบบโทรเวชกรรม ระบบสุขภาพปฐมภูมิ ทำให้สัมฤทธิ์ผลตามโครงการพัฒนาระบบโทรเวชกรรมและระบบสุขภาพปฐมภูมิในไทย จังหวัดลำปาง บพท. ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัยได้เห็นผลลัพธ์โครงการวิจัย มีบทบาทยกระดับคุณภาพชีวิต ลดภาระค่าใช้จ่ายการเข้าถึงบริการสุขภาพแก่ประชาชนอย่างแท้จริง

“รศ.ดร.วีระศักดิ์  เครือเทพ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและยกระดับขีดความสามารถในการจัดการภาครัฐและท้องถิ่น บพท. ย้ำว่า ผลลัพธ์ของโครงการวิจัยทั้งฮับส่งโฮงยา ที่เป็นระบบบริการอำนวยความสะดวกรับส่งผู้ป่วยไปพบบุคลากรทางการแพทย์ที่สถานพยาบาล และระบบโทรเวชกรรม ซึ่งเป็นระบบบริการอำนวยความสะดวกเชื่อมโยงคำแนะนำวินิจฉัยปัญหาสุขภาพระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วย ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ ล้วนช่วยเติมเต็มช่องว่างด้านบริการสุขภาพให้ประชาชน ช่วยขยายขอบเขตการให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพกว้างขวางมากขึ้น ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่าย  ช่วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยกระดับคุณภาพและมาตรฐานบริการด้านสุขภาพที่ดีต่อไป

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดอาณาจักร "เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์" โมเดลพลิกธุรกิจเมืองดอกไม้สู่การท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้

  สมฤดี จิตรจง ที่ปรึกษา เพ ลา เพลิน เปิดความลับโมเดลพลิกธุรกิจเมืองดอกไม้สู่แห่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ เจาะ !! อาณาจักร“เพ ลา เพลิน บุรีรัม...