“เพ ลา เพลิน
บุรีรัมย์”บูมเที่ยวสุขภาพ “อโรคาเวลเนสศาลา”
ปั้น“นครชัยบุรินทร์”อีสานใต้ชูขายแพทย์แผนไทย-วาซาบิเวิลด์
ผนึกโรงพยาบาล-ชุมชน-ผลิตแพกเกจเช็คสุขภาพราคาปัง
ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์สวยเบอร์แรงแบรนด์ดังลด50%
สมาชิกคิงเพาเวอร์ลดแลกรับใช้กะรัตอิ่มคุ้มทุกสนามบิน
ททท.ปั้นกลุ่มธุรกิจTravel Tech Startupดันเที่ยวมูลค่าสูง
บางจากแชร์คลังความรู้เร่งนำไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
เที่ยว“สุโขทัย”กรีนซีซั่นสนุกได้3พิกัด ที่พัก/คาเฟ่ลด50%
9 วิธีแก้ไขปัญหาการนอนหลับไม่สนิทรู้ไว้นำไปใช้ได้จริง
AOT-3แอร์ไลน์MOUแผนย้ายเครื่องบินรับกฎCAAT-ICAO
CEAเปิดเทศกาลดีไซน์วีคเที่ยวปักษ์ใต้ปี68ปั๊ม 300 ล้าน
วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋ #KingPower #TAT #บางจาก #เที่ยวสุโขทัย
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1Q5gf7tALC/
ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “ปริวรรตน์ จารุชลีย์ภรณ์” ผู้จัดการ
อโรคยา เวลเนส ศาลา เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ เปิดโมเดลธุรกิจ
“การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” แดนอีสานใต้ ยกระดับเศรษฐกิจ “นครชัยบุรินทร์” 4 จังหวัด “นครราชสีมา-ชัยภูมิ-บุรีรัมย์-สุรินทร์”
ผนึกพลังสร้างเครือข่ายชุมชนแหล่งวัตถุดิบสมุนไพรไทย ผสานมือโรงพยาบาลคูเมือง
มหาลัยเชียงใหม่ ราชภัฎบุรีรัมย์ ค้นคว้าข้อมูลเชิงวิชาการ ปี’68 ชูโรง “กะเม็ง” ขึ้นทะเบียนยาหลักแห่งชาติ
ต้นตำรับรักษาแผลกดทับผู้ป่วยติดเตียง พร้อมลุยลงทุน “วาซาบิเวิลด์”
นำเสนออาหารเป็นยา และจัดเต็มแพกเกจบริการ “เช็คสุขภาพ+ที่พักเพ
ลา เพลิน” ได้ตลอดทั้งปี ในราคาสบายกระเป๋าเริ่ม 500 บาทขึ้นไป/ครั้ง
นายปริวรรตน์ จารุชลีย์ภรณ์ หรือ “หมอนนนท์” ผู้จัดการ อโรคยา เวลเนส ศาลา เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ได้นำความรู้จากการเรียนในคณะการแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มาใช้พัฒนาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ศูนย์อโรคยา เวลเนส ศาลา เพ ลา เพลิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน มีสวนดอกไม้ และโซนให้ความรู้อย่างหลากหลาย ผสมผสานการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพต้อนรับได้ทุกกลุ่มวัย มีบริการครบวงจรทั้งการแพทย์แผนไทยประยุกต์ แผนจีน การแพทย์แผนปัจจุบัน เป็นลักษณะองค์รวมดูแลรักษาร่วมกัน
คอนเซ็ปต์ “บริการเวลเนส” ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นจะต้องเจ็บป่วย แล้วความประทับใจแรกที่ทุกคนเดินเข้ามาในอโรคยา เวลเนส จะสัมผัสได้ถึงธรรมชาติ ผนวกกับดีไซน์เรื่อง กลิ่น แสง โทน สี สร้างความอบอุ่น เพื่อที่จะได้ตรวจเช็คสุขภาพก่อนจะแยกตามลักษณะที่จะใช้บริการ เริ่มจาก “แพทย์แผนไทย” มีการนวดรักษา “แพทย์แผนจีน” ทำกัวซา และใช้เครื่องมืออุปกรณ์นวัตกรรมทันสมัย “แพทย์แผนปัจจุบัน” มีทีมงานให้ความรู้เรื่องสุขภาพเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องเจ็บป่วยก็แวะมาได้
“อโรคยา เวลเนส ศาลา เพ ลา เพลิน” ได้ผนวกบริการเข้ากับแหล่งท่องเที่ยวในอาณาจักรเพ ลา เพลิน กว่า 300 ไร่ สามารถที่จะเสริมจุดขายเชื่อมโยงให้นักท่องเที่ยวรับ “ประสบการณ์ที่มีคุณค่า” เพิ่มกลับไปด้วยคือ “สุขภาพทางการแพทย์ที่ดี” มีข้อมูลความรู้กลับไปใช้ประโยชน์ได้จริง
รวมทั้งมีกิจกรรม “เวิร์คช้อป” เช่น การทำ D.I.Y.ยาดมสมุนไพร การสมยาสมุนไพร นวดสมุนไพร ยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ มากมาย
“แพทย์ผู้บริการ”
ทางอโรคยา เวลเนส ศาลา
ได้จัดทำความร่วมมือเชื่อมโยงกับเครือข่ายหน่วยงานการแพทย์ทั้งการนำและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
โดยเฉพาะ โรงพยาบาลคูเมือง จ.บุรีรัมย์ องค์การเภสัชกรรม เช่น
การใช้น้ำมันกัญชาเพื่อการรักษา หรือร่วมกับภาคส่วนอื่นในพื้นที่ท้องถิ่น เช่น
วิสาหกิจชุมชนต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกสมุนไพรทางการแพทย์
แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างหลากหลาย
“แหล่งวัตถุดิบสมุนไพรจากต้นน้ำ” ได้ร่วมกับเครือข่ายในการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจากกลุ่มจังหวัด “นครชัยบุรินทร์” แถบอีสานใต้ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เบื้องต้นทาง อโรคยา ศาลาฯ มีแบรนด์ของตนเองชื่อ “เอกายา :AKAYA” นำเสนอโปรดักซ์สุขภาพต่าง ๆ โดยมีผลิตภัณฑ์เป็นอัตลักษณ์เฉพาะ คือ “หญ้ากะเม็ง” พืชท้องถิ่นได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลคูเมือง ใช้เป็น “ตำรับยาแผลกดทับ” สำหรับ “ผู้ป่วยติดเตียง” ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการยื่นเรื่องขึ้นทะเบียนใน “บัญชียาหลักแห่งชาติ” ขณะนี้ทางอโรคยา เวลเนส ศาลา ได้นำมาต่อยอดทำ สบู่เหลว แชมพู ครีมนวดผม เพื่อให้ลูกค้าในโรงแรม เพ ลา เพลิน ได้ใช้ด้วย
ปี 2568 มีการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ “วาซาบิ เวิลด์” กำลังวิเคราะห์ที่จะนำวาซาบิมาต่อยอดวิเคราะห์ เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพหมวดใดได้บ้าง ซึ่งปัจจุบันในเมืองไทยมีแหล่งเพาะปลูกไม่กี่แห่ง การพัฒนาแต่ละผลิตภัณฑ์จะต้องมีข้อมูลวิจัยทางวิชาการ แล้วตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยราชบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ส่งนักศึกษามาช่วยงานปลูก เก็บ ค้นคว้า วิเคราะห์ สกัด เพื่อรวบรวมเป็นงานวิชาการ
“คุณสมบัติหลักของวาซาบิ” มีช่วยค่าเชื้อแบคทีเรีย ต้นเหตุโรคท้องเสีย ท้องร่วง หรือช่วยโรคหอบหืด และอื่น ๆ ภายในสิ้นปี 2568 ต่อเนื่องปี 2569 ก็น่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากวาซาบิ ที่อโรคยา เวลเนส ศาลา
นายปริวรรตน์ กล่าวว่า ปัจจุบัน เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ แบ่งผู้ใช้บริการเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 นักท่องเที่ยว ที่สนใจเข้ามาศึกษาศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติ สมุนไพร ต่าง ๆ ประเภทที่ 2 นักเดินทางเพื่อสุขภาพ สามารถรับบริการได้ 2 กรณี คือ
กรณีแรก เช็คอินที่ศูนย์หัตถการเพื่อใช้ตรวจสุขภาพทั่วไป แล้วเดินชมสถานที่ท่องเที่ยวภายในโครงการ
กรณีที่สอง จองล่วงหน้าเพื่อทำเวลเนสโดยตรง จะมีแพกเกจ ห้องพัก+เวลเนส ตั้งแต่ 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน หรืออาจจะให้ทางทีมแพทย์ของอโรคยา เวลเนส ศาลาฯ จัดคอร์สเฉพาะเป็นรายบุคคลให้ด้วยก็ได้เช่นกัน สามารถจองผ่านทาง โซเชียลมีเดีย facebook :Arokayawellnesssala หรือโทร. 092-515-6458
“ราคาแพกเกจสุขภาพ” เริ่มต้นโปรแกรมทำหัตถกรรม นวดรักษา ราคาประมาณ 500 บาท/คอร์ส หรือทำครอบแก้วแผนแผนจีน และอื่น ๆ จะไม่เกิน 1,000 บาท/คอร์ส ส่วนแพกเกจ 2 วัน 1 คืน หรือ 3 วัน 2 คืน จะเพิ่ม “ค่าห้องพัก+อาหารเช้า” ที่โรงแรมใน เพ ลา เพลิน เข้าไปด้วย
ส่วนการดีไซน์คอร์สให้เป็นรายบุคคลเพื่อวางแผนทำโปรแกรมสุขภาพ มีหลายปัจจัยที่จะต้องให้บริการ ดังนั้น “ราคาแพกเกจ” ก็จะแตกต่างกันไปตามความเป็นจริงเกี่ยวกับคอร์สที่เลือกใช้ของแต่ละคน
นายปริวรรตน์ กล่าวว่า การใช้บริการ อโรคยา เวลเนส ศาลา เพ ลา เพลิน มาใช้บริการแล้วจะได้ประโยชน์แบบครบวงจรทั้งการท่องเที่ยวและการป้องกันดูแลสุขภาพให้แข็งแรงโดยไม่ต้องรอให้เจ็บป่วยก่อน แล้วยังได้รับประสบการณ์มากมายที่มีอยู่ในโครงการ ทั้งผลิตภัณฑ์สุขภาพ ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองจากเครือข่ายชุมชนภาคอีสาน ภาคเหนือ และองค์ความรู้ ซึ่งสามารถนำกลับไปใช้ประโยชน์ที่บ้านและในครอบครัวได้ด้วย
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1-ช้อปคิงเพาเวอร์ออนไลน์สวยเบอร์แรงแบรนด์ดังลด50%
สวยเบอร์แรง ที่ “คิง เพาเวอร์
ออนไลน์” กับแบรนด์ดัง สวยสะพรั่งแบบเซเลบด้วยไอเทมขายดีจากแบรนด์ ESTEE LAUDER, KIEHL'S, GUCCI, NARS, TOM
FORD, LANCÔME, L'OCCITANE , BOBBI BROWN, GIORGIO ARMANI และอื่น ๆ
อีกมาก เข้าชมสินค้าพร้อมช้อปและรับดีลพิเศษได้
ลดแหลก ! คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! CLEARANCE SALE: DUTY FREE ONLINE! ลิสต์ที่นักช้อปตัวจริง
รีบเลย !
จัดหนักจัดเต็มกับสินค้าลดราคาสูงสุด
เพราะสินค้ามีจำนวนจำกัด
มาช้อปสินค้าแบรนด์ดังที่นักเดินทางทั่วโลกไว้วางใจ
ได้ที่เฉพาะที่คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ วางแผนเดินทางท่องเที่ยวแล้ว
ก็ต้องรีบพ่วงแผนช้อปปิ้งกับ คิง เพาเวอร์ ช้อปแล้วรอรับของที่สนามบินขาออกประเทศ
ช้อปสินค้า “บิวตี้” แบบจุใจ ลดสูงสุด
50% ช้อปไม่มีขั้นต่ำ รหัสส่วนลด CRONLINE ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2568
สินค้า Duty-Free สุดฮอต
มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน
1.แบ่งชำระ 0%
นานสูงสุดถึง 6 เดือน 2.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4,600 บาท 3.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง
(ของแถมมีจำนวนจำกัดและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
4.รับเลย! ส่วนลด 800 บาท เมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ และ 5.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก
คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ)
ข่าวที่ 2 -สมาชิกคิงเพาเวอร์ลดแลกรับใช้กะรัตอิ่มคุ้มทุกสนามบิน
คิง
เพาเวอร์ เปิดมหกรรม “ลด – แลก – รับ” ให้สมาชิก POWER
PASS แลกใช้ CARAT REWARDS ได้ในร้านค้าภายในสนามบินแต่ละแห่งกว่า
60 ร้าน ชวนให้มาอิ่มคุ้มก่อนบิน ด้วยการแลกได้ครบทั้ง 1.อาหาร
2.เครื่องดื่ม 3.เบเกอรี่ & ขนม
รับทันที
400 CARAT* ใช้ช้อปแทนเงินสด หรือแลกรับสิทธิพิเศษใน CARAT
REWARDS ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
วันนี้– 30 กันยายน 2568 เท่านั้น
สมัครฟรีได้แล้ววันนี้
! สมัครง่าย ๆ ได้ทางเว็บไซต์ powerpass.kingpower.com
หรือสมัครผ่าน Line Official Account พิมพ์ @KINGPOWER
ข่าวที่
3-ททท.ปั้นกลุ่มธุรกิจTravel Tech Startupดันเที่ยวมูลค่าสูง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ได้จัดกิจกรรม “TAT Travel Tech Startup Networking :
Together for Future Travel” ภายใต้โครงการส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เพื่อสร้างเวทีเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการ Travel Tech
Startup และภาคธุรกิจท่องเที่ยว
เสริมศักยภาพและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่มาตรฐานสากลและความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล
โดยเชื่อมั่นนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญช่วยยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน
กิจกรรมนี้จึงมุ่งประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน
ทั้ง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม
และกลุ่มใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดำเนินงาน (Travel
Tech Startup) เพื่อส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว
มุ่งพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวมูลค่าสูง เพิ่มกุญแจสำคัญเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของไทยบนเวทีโลก
“TAT Travel Tech Startup Networking : Together for Future Travel” ได้ต่อยอดคัดเลือกผู้ประกอบการ Travel Tech Startup ทั่วประเทศจากเวที TAT Travel Tech Startup ที่ ททท.
ทำต่อเนื่องมาแล้ว 3 รุ่น มาพบปะสร้างเครือข่ายพันธมิตร
ทั้งกับกลุ่มผู้ประกอบการด้วยกันและหน่วยงานภาครัฐ
เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
สำหรับกิจกรรม
TAT Travel Tech Startup ได้จัดแข่งขันผู้ประกอบการ Travel
Tech Startup ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่อเนื่องจำนวน 3 รุ่น ผู้ชนะจะได้รับโอกาสเสริมศักยภาพทางธุรกิจ
และเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ปีนี้ได้รับความสนใจจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน
แพลตฟอร์มออนไลน์ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานกว่า 100 ราย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ
ททท. ในการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน
สามารถติดตามข้อมูลต่าง
ๆ ของ TAT Travel Tech Startup ได้ที่ Page Facebook:
TAT Startup Thailand
ข่าวที่ 4-บางจากแชร์คลังความรู้เร่งนำไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท
บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธาน Carbon Markets
Club ขึ้นเวทีเมื่อเร็ว
ๆ นี้ เดินหน้าแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านตลาดคาร์บอน
บรรยายให้ผู้บริหารระดับสูง เจ้าของกิจการ นักธุรกิจ ภาคธนาคาร ที่เข้าร่วมหลักสูตร Green
Transition Academy หัวข้อ Carbon Markets &
Credit Acquisition, Offsets, and Utilization ของธนาคารกรุงเทพ
จัดที่โรงแรม ชาเทรียม แกรนด์ แบงค็อก เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ดำเนินธุรกิจได้จริง
เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันและการเติบโตภายใต้กฎเกณฑ์สภาพภูมิอากาศใหม่
โดยได้นำเสนอแนวทางการเดินหน้าร่วมกันใน
“ตลาดคาร์บอน” ครอบคลุมสาระสำคัญ 7 ประเด็น ได้แก่
1.ความจำเป็นของคาร์บอนเครดิต 2.บทบาทของคาร์บอนเครดิตในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
3.กลไกและการใช้ประโยชน์ 4.ความเชื่อมโยงกับเส้นทางสู่เป้าหมาย Net
Zero 5.บทบาทของประเทศไทยในบริบทตลาดคาร์บอนโลก 6.ทิศทางและก้าวต่อไปของตลาดคาร์บอนในอนาคต 7.บทเรียนและประสบการณ์จริงจากการดำเนินงานของบางจากฯ
ในการวางแผนสู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2593 (ค.ศ. 2050) ผ่านแผน BCP316NET และขับเคลื่อน Carbon
Markets Club
บางจากฯ
และบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) พร้อมสนับสนุนตลาดคาร์บอนของไทยเติบโต
ควบคู่การสื่อสารให้ความรู้เกี่ยวกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
ล่าสุดได้ร่วมผลักดัน “กรอบความร่วมมือตลาดคาร์บอนในระดับอาเซียน”
เพื่อให้ระดับสากลยอมรับด้วย
นางกลอยตาบรรยายครั้งนี้
มุ่งต่อยอดจากครั้งก่อนเดือนมีนาคม
ทางธนาคารกุงเทพฯ ได้รับเชิญร่วมเสวนา “The Great Green
Transition: ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างไร?” มีผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำ
ถึงแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ “กติกาสภาพภูมิอากาศใหม่” บางจากมุ่งตอกย้ำบทบาทความเป็น
“ผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน” และสนับสนุนทุกภาคธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ช่วงที่ 2 ทริปนี้ชวนออกเดินทางเช็คอิน “สุโขทัย” เมืองมรดกโลก ต้อนรับกรีนซีซัน
ที่พัก คาเฟ่ พร้อมใจลดราคา 50 % และมีสถานที่เที่ยวเด่น
มาแนะนำ 3 พิกัด อุทยานประวัติศาสตร์ เขาหลวง
และทุ่งดาวเรือง แล้วฟัง “9 วิธีป้องกันนอนหลับไม่สนิท”
รู้ไว้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมเกาะติดข่าวต้นชั่วโมง ข่าวแรก “AOT-3แอร์ไลน์” ลงนามแผนเคลื่อนย้ายเครื่องบินขัดข้องรับกฎ CAAT และ ICAO ข่าวที่สอง “CEA
ผนึกพันธมิตร” เปิดเทศกาลดีไซน์วีคเที่ยวปักษ์ใต้ปี 68 หวังรายได้
300 ล้านบาท
ท่องเที่ยว –เที่ยว“สุโขทัย”กรีนซีซั่นสนุก
3 พิกัด ที่พัก/คาเฟ่ลด50%
เช็คอินเที่ยว “สุโขทัย” กรีนซีซั่น
ธรรมชาติเขียวสวย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดแมเปญ “Sukhotime Green Sale”
โรงแรมที่พักจัดพิเศษมอบช่วงเวลาแห่งความสุข จองห้องพัก 2 คืน
คืนที่ 2 ลด 50%
เมื่อเข้าพักวันนี้–
30 กันยายน 2568 รับกระเป๋า ททท.เป็นของที่ระลึกได้ด้วย
จากที่พักเข้าร่วมโครงการกับ
ททท.สำนักงานสุโขทัย ได้แก่ 1.บ้านอัคระ บ้านชมปรางค์ 2.สุขเสมอ 3.บ้านมะขวิด หรือจะอุดหนุน 4.“คาเฟ่บ้านมยุรา” ครบ 500
บาท ก็จะได้สิทธิ์นี้เช่นกัน
“นักท่องเที่ยว”
จองห้องพักกับที่พักที่เข้าร่วมโครงการฯโดยตรง
2 คืน คืนที่ 2 รับส่วนลด 50% แล้วรับฟรี กระเป๋า Sukhotime จาก ททท.สุโขทัย ได้ครั้งละ 1 การจอง / 1ใบ
สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อใน “สุโขทัย” คือแหล่งประวัติศาสตร์ บ่งบอกอารยธรรมอันรุ่งเรืองของอาณาจักรซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของไทย
พิกัดที่ 1 เที่ยวมรดกโลก “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” ที่ตั้งของพระราชวังและศาสนสถานเก่าแก่
มีคูเมืองและกำแพงเมืองโบราณล้อมรอบ ไฮไลต์อยู่ที่ “วัดศรีชุม” มีพระอจนะหรือพระพูดได้
ประดิษฐานอยู่ในมณฑปที่เหลือเพียงผนังสี่ด้าน แวะสักการะวัดมหาธาตุ
ซึ่งมีเจดีย์ประธานทรงพุ่มข้าวบิณฑ์อันเป็นศิลปะเอกลักษณ์โดดเด่น
พิกัดที่ 2 ทุ่งดอกดาวเรืองบ้านปากแคว
อำเภอทุ่งเสลี่ยม เปิดให้ใกล้ชิดธรรมชาติและอารยธรรมล้านนา
ตื่นตาตื่นใจกับเครื่องสังคโลก หัตถศิลป์อันทรงคุณค่าแห่งเมืองศรีสัชนาลัย
พิกัดที่ 3 เขาหลวง ใน อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ตำบลบ้านน้ำพุ อำเภอคีรีมาศ จ.สุโขทัย
เป็นยอดเขาสูงที่สุดในจังหวัดสูงกว่า 1,200 เมตร นักผจญภัยต้องห้ามพลาดชมแต่ละจุดสวยต่างกัน
4 ยอด คือยอดเขาเจดีย์ ยอดเขานารายณ์ ยอดเขาภูลังกา และ ยอดเขาแม่ย่า
เขาหลวง มีฉายา “ภูเขาปราบเซียน” การเดินป่าของภาคเหนือ มีความชันในหลายช่วง
ใช้เวลาเดินราว 3 - 6 ชั่วโมง เพื่อแวะพักตามจุดต่าง ๆ
สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอบริการลูกหาบคิดสัมภาระตามน้ำหนัก 25 บาท/กก.ได้คนละไม่เกิน
40 กก.
“สุโขทัย” เมืองมรดกโลกขึ้นชื่อ สามารถเที่ยวสนุกได้หลากหลายประสบการณ์
เมืองไทยเที่ยวได้ทุกที่ ทุกวัน ตลอด 365 วัน
สุขภาพ –9
วิธีแก้ไขปัญหาการนอนหลับไม่สนิทรู้ไว้ใช้ได้จริง
ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่มักต้องเผชิญปัญหา
“นอนหลับไม่สนิท” จึงมีข้อแนะนำให้หันมาสร้างกิจวัตรก่อนนอนให้เป็นกิจวัตร
สามารถช่วยลดหรือแก้ปัญหานี้ได้ด้วย 9 วิธี ดังนี้
1.ฝึกผ่อนคลายก่อนนอน : การหายใจลึก ๆ
การทำสมาธิ หรือยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ
สามารถช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและพร้อมสำหรับการนอนหลับ
2.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : เป็นประจำช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนนอน
3.รับแสงธรรมชาติในตอนเช้า : การสัมผัสแสงแดดในตอนเช้าช่วยปรับนาฬิกาชีวภาพและส่งเสริมการนอนหลับในเวลากลางคืน
4.จำกัดการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน : แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์จะไปรบกวนการผลิตเมลาโทนิน
(ฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ) ลองเปลี่ยนไปอ่านหนังสือเบาๆ หรือฟังเพลงช้าๆ แทน
5.กินอาหารเย็นเบา ๆ และไม่ดึกเกินไป : การกินอาหารมื้อหนักก่อนนอนอาจทำให้ระบบย่อยทำงานหนัก
ส่งผลให้ “หลับไม่ลึก” หรือมีอาการจุกเสียดในตอนกลางคืน
6.หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และนิโคตินก่อนนอน : จะทำให้รู้สึกง่วงในช่วงแรก
แต่จริงๆ แล้วมันรบกวนการนอนหลับลึก
ส่วนสารนิโคตินในบุหรี่ก็เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้นอนหลับยาก
7.กินอาหารเย็นเบา ๆ และไม่ดึกเกินไป การกินอาหารมื้อหนักก่อนนอนอาจทำให้ระบบย่อยทำงานหนัก
ส่งผลให้หลับไม่ลึกหรือมีอาการจุกเสียดในตอนกลางคืน
8.ใช้กลิ่นบำบัด : กลิ่นลาเวนเดอร์ คาโมมายล์
หรือเซนต์จอห์นวอร์ต สามารถช่วยผ่อนคลายสมอง ลดความเครียด และทำให้หลับง่ายขึ้น
9.จัดห้องนอนให้เหมาะกับการพักผ่อน : ห้องนอนควรมีอุณหภูมิที่สบาย
ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป ไม่มีเสียงรบกวน
และควรจัดให้แสงน้อยเพื่อกระตุ้นการหลั่งเมลาโทนิน เพื่อเลี่ยงการหลับไม่สนิท
สร้างกิจวัตรก่อนนอนให้เป็นกิจวัตรเดิมทุกวัน : การทำกิจกรรมเดิมๆ
เช่น แปรงฟัน ดื่มน้ำอุ่น หายใจลึกๆ ฟังเพลงเบาๆ
จะช่วยให้ร่างกายเรียนรู้ว่านี่คือ “เวลานอน”
ลองจด
Sleep Diary : การบันทึกพฤติกรรมการนอนหลับ เช่น
เข้านอน/ตื่นกี่โมง กินอะไร รู้สึกอย่างไร
ช่วยให้เห็นรูปแบบปัญหาและหาทางแก้ได้ง่ายขึ้น
เลี่ยงการ
“ฝืนหลับ” เมื่อไม่ง่วง : ถ้าข่มตานอนแล้วนอนไม่หลับ
ให้ออกจากเตียงไปทำกิจกรรมผ่อนคลาย (เช่น อ่านหนังสือ) จนกว่าจะเริ่มง่วง
แล้วค่อยกลับมานอนใหม่
หากปัญหานอนหลับเรื้อรัง
ควรพบแพทย์ : บางครั้งปัญหาอาจมาจากภาวะผิดปกติ
เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) หรือภาวะวิตกกังวล
แพทย์สามารถแนะนำแนวทางรักษาที่เหมาะสมได้
ฟังข่าวท้ายชั่วโมง
ข่าวแรก – AOT-3แอร์ไลน์ MOUแผนย้ายเครื่องบินรับกฎCAAT-ICAO
นางสาวปวีณา
จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “AOT” เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเคลื่อนย้ายอากาศยานที่ขัดข้องระหว่างท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ
AOT กับ 3 สายการบิน ได้แก่ บริษัท
สายการบินนกแอร์ จำกัด บริษัท ไทย ไลอ้อน เมนทารี จํากัด และ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย
เอ็กซ์ จํากัด เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างผู้ดำเนินการเดินอากาศ กับทางสนามบินด้านการให้บริการโดยคำนึงถึงความปลอดภัย
รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
โดยจะนำไปสู่ปฏิบัติการตามแผนฉุกเฉิน
ที่ได้การรับรองจากรัฐเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
และการช่วยเหลือกู้ภัยต่อผู้ประสบเหตุอย่างทันท่วงที
ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถการขนส่งทางอากาศที่ปลอดภัยตามมาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
(CAAT) และองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้
จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมทางอากาศของไทยให้พร้อมรองรับธุรกิจการบินเติบโตสอดคล้องกับวิสัยทัศน์
AOT ที่พร้อมจะเป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก
โดยมุ่งเน้นการบริการ ความปลอดภัย และการสร้างรายได้อย่างสมดุล
ผู้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ
ประกอบด้วย นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายวิจิตต์
แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง นายมนต์ชัย ตะโหนด
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่
นายกฤษฎา พุกะทรัพย์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ นาวาอากาศตรี สมชนก
เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
เป็นผู้ร่วมลงนามกับนายวุฒิภูมิ จุฬางกูร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด นายอัศวิน
ยังกีรติวร บริษัท ไทย ไลอ้อน เมนทารี จํากัด นางภัทรา บุศราวงศ์ บริษัท
ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จํากัด
ข่าวที่สอง–CEAเปิดเทศกาลดีไซน์วีคเที่ยวปักษ์ใต้ปี68ปั๊มรายได้300 ล้าน
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
(องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับจังหวัดสงขลา
และเครือข่ายพันธมิตร เปิด “เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2568” หรือ “Pakk Taii Design Week 2025” (PTDW2025) ภายใต้แนวคิด
“South Paradise – มาใต้ บายใจให้ถึงหวัน” ระหว่างวันนี้– 7
กันยายน 2568 ครอบคลุมพื้นที่ย่านเมืองเก่าสงขลา
และหาดใหญ่ ชูศักยภาพความหลากหลายภาคใต้ 14 จังหวัด
สู่การพัฒนาเมืองสร้างสรรค์ โอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ผ่านโปรแกรม ศิลปะ
งานฝีมือ อาหาร แฟชั่น ดนตรี และสถาปัตยกรรม ขานรับ “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ” (De-Stress
Economy) ยกระดับภาคใต้สู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural
Tourism) ตั้งเป้าสร้างมูลค่ารายได้กว่า 300 ล้านบาท
ปี 2568 เทศกาลฯ เดินหน้ายกระดับศักยภาพทั้ง 14 จังหวัดใต้กลายเป็นจุดหมายใหม่ “การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” จากปี 2565
มีมูลค่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคใต้สูงถึง 68,170 ล้านบาท สะท้อนบทบาทเทศกาลนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่ได้ร่วมมือกับนักสร้างสรรค์ภาคใต้ถ่ายทอดเรื่องราวและภาพลักษณ์ของแต่ละจังหวัดให้โดดเด่น
สอดคล้องกับ “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ”หรือ De-Stress Economy ผ่านโอกาสการลงทุน 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.สงบ (Moment of Calm) 2.ผ่อนคลาย (The Art of
Relaxing) 3.ปลดปล่อย (Place of Energize) 4.ไร้กังวล
(Stage of Worry-Free)
รวมทั้งเป็นพื้นที่กลางให้นักสร้างสรรค์
และธุรกิจได้มาร่วมพัฒนาและทดสอบแนวคิดใหม่ ๆ ที่ใช้ทุนทางวัฒนธรรมเป็นหัวใจการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ตลอดเทศกาล 11 วัน มีกิจกรรมกว่า 160
โปรแกรม ซรวมนักสร้างสรรค์จากภาคใต้และทั่วประเทศกว่า 250 คน พร้อมเครือข่ายความร่วมมือจาก George Town Festival 2025
(GTF2025) ประเทศมาเลเซีย
คาดดึงดูดผู้ร่วมงานและนักท่องเที่ยวไทย–ต่างชาติรวมกว่า
200,000 คน
ให้มาท่องเที่ยวจุดประกายไอเดียและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมของภาคใต้สู่เวทีสากล
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กล่าวว่า
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ควบคู่กับโมเดล
BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและคุณภาพชีวิตประชาชนทุกภูมิภาค
การจัด “เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้”
จึงเป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้
เป็นโอกาสใหม่ให้กับเศรษฐกิจของเมืองและชุมชน
ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสทั้งความสงบ ผ่อนคลาย และแรงบันดาลใจ
ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้สงขลาและเมืองต่าง ๆ
ในภาคใต้ก้าวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ชั้นนำบนเวทีโลก โดยเชื่อมโยงการค้า
การลงทุน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับอาเซียนและนานาชาติอย่างเต็มศักยภาพ”
ดร. ชาคริต พิชญางกูร
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า “เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้
จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตอกย้ำเป้าหมายการขับเคลื่อนภาคใต้สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานพร้อมรองรับเศรษฐกิจรูปแบบใหม่
ทั้งภูมิศาสตร์ ทรัพยากร ระบบคมนาคม และวัฒนธรรมของ 14 จังหวัด
ส่งผลให้ภูมิภาคนี้กลายเป็น “โมเดลต้นแบบ” แนวคิด “เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ”
พร้อมทั้งสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคใต้ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักของ CEA
สงขลา ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต ควบคู่กับเศรษฐกิจ
โดยได้จัดเทศกาลสร้างสรรค์
(Festival Creator 2025) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์
(THACCA) และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล
ในภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ฉาด เฟสติวัล จังหวัดพัทลุง และ
“มาหาเสน่ห์ – C’MON SANEHA” ย่านเสน่หานุสรณ์ หาดใหญ่
จังหวัดสงขลา ดึงนักสร้างสรรค์และคนรุ่นใหม่ให้กลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง
อีกทั้งการจัดตั้ง TCDC ในสงขลา และอีก 2 จังหวัด คือ ภูเก็ต และปัตตานี
ถือเป็นการวางรากฐานระบบนิเวศสร้างสรรค์ให้ครอบคลุมทั่วภาคใต้
และเสริมศักยภาพเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้แข็งแกร่ง เทศกาลนี้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาได้สร้างมูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท
นายโชตินรินทร์
เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “จังหวัดสงขลา
ถือเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงวัฒนธรรม การค้า และการท่องเที่ยวของภาคใต้
โดยการท่องเที่ยวสงขลาและภาคใตเติบโตต่อเนื่องและโดดเด่น
มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 15 – 20% และรายได้จากการท่องเที่ยวสูงกว่า 200,000 ล้านบาท
สะท้อนให้เห็นศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ควบคู่การท่องเที่ยว การจัด
“เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้” ในย่านเมืองเก่าสงขลาและหาดใหญ่ครั้งนี้ จึงนับเป็นการเปิดเมืองให้ผู้คนได้สัมผัส
“ตัวตนที่มีชีวิต” พร้อมปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่
และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภูมิภาค
สอดคล้องกับเป้าหมายการเป็นเมืองสร้างสรรค์
โดยเฉพาะ “ย่านเมืองเก่าสงขลา” ที่อุดมด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรม ทั้งสถาปัตยกรรมโบราณ
อาคารไม้เก่า วัดวาอาราม ศาลเจ้า อาหารพื้นถิ่น
และวิถีชีวิตชุมชนที่สืบทอดกันมายาวนาน สะท้อนรากเหง้าและความหลากหลายทางเชื้อชาติ
ศาสนา และวัฒนธรรม เมื่อนำมาผสานกับความคิดสร้างสรรค์ จะเกิดมูลค่าเพิ่ม สร้างงาน
สร้างรายได้
และยกระดับจังหวัดและภูมิภาคสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน
ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้สงขลาและภาคใต้ก้าวสู่เวทีโลก”
เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้
2568 ทุกภาคส่วนร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากเครือข่ายนักสร้างสรรค์
ศิลปิน ผู้ประกอบการ และภาคประชาสังคมในภาคใต้ รวมถึงพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศ
ได้แก่ AIS 3BB Fibre3 บริษัท เชฟรอน ประเทศไทย สำรวจและผลิต
จังหวัดสงขลา บริษัท หาดทิพย์ จํากัด
(มหาชน)สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เอปสัน (ประเทศไทย) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท
เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด และ บริษัท โบลท์
ซัพพอร์ต เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย)
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น