วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ททท.เร่งขาย “Isan Raincation”ผนึก2แอร์ไลน์8สนง.จัดเที่ยวรัวๆ10 กิจกรรม

 

อรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ททท.เร่งขาย “Isan Raincation : อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน”

ผนึกแอร์เอเชีย-ไลออนแอร์ปลุกทั่วไทยเที่ยวสนั่นอีสาน

8สำนักงานจัดมหกรรมเที่ยวรัวๆ ส.ค.-ก.ย.10 กิจกรรม

ปี’69ดันอีสานโต3กลยุทธ์“เพิ่มรายได้-ความถี่-ใช้จ่ายเงิน”

คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีคลดครั้งแรก 9-12ส.ค.นี้ สูงสุด 50%

ช้อปได้คุ้มกว่าที่คิงเพาเวอร์รางน้ำ/ภูเก็ตวันนี้-24 ส.ค.68

คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิเปิดมหกรรมเคลียร์แรนซ์เซล 80 %

ททท.ปลื้มวันแม่หนุนเที่ยวไทยคนละครึ่งเต็ม3แสนสิทธิ์

บางจากครึ่งปีแรก68รายได้การขาย&บริการ2.6แสนล้าน

TCEBเตรียมไทยเจ้าภาพจัดพลังงานโลกGastech 2026

สุขทันทีพาแม่เที่ยว“บุรีรัมย์”เติมบุญเสริมศรัทธา5พิกัด

5 วิธีป้องกันหลับในขับรถทางไกลภัยเงียบบนท้องถนน

การบินไทยเข้าตลาด4ส.ค.-Q2/68รายได้รวม4.4หมื่นล้าน

AOTเก็บค่าPC Airแอร์ไลน์ในSAT-1เพิ่มรายได้300ล้าน/ปี

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก   #เที่ยววันแม่บุรีรัมย์

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/1DwzFhUjEG/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชูโครงการ “Isan Raincation อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน” ลุยขาย 3 แคมเปญ “ตะลอนอีสานฉ่ำใจ ไปกับแอร์เอเชีย” ตั๋วบิน 950 บาท/เที่ยว “เล ล่องโขง” กับไทยไลออนแอร์ทัวร์ข้ามภาคตะวันออกสู่อีสาน “สุขใจในสายฝน” ปลุกเที่ยว บุรีรัมย์ บึงกาฬ สุรินทร์ สกลนคร ควงช่อง 7 จัด “คนอีสานกินอะไรกัน” ระดม 8 สำนักงานโหมขาย ส.ค.-ก.ย.นี้ 10 กิจกรรม พร้อมดูแลขวัญกำลังใจท่องเที่ยวชายแดน ปี’69 เร่งอีสานโต ด้วย 3 กลยุทธ์ “เพิ่มรายได้-เพิ่มความถี่-ขยายการเติบโตจำนวนคนค่าใช้จ่าย” 

 

นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน 2568 พร้อมนำเสนอโครงการ Isan Raincation อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน” ร่วมกับ 2 สายการบิน 1 บริษัท จัด 3 แคมเปญ เริ่มด้วย แคมเปญแรก “ตะลอนอีสานฉ่ำใจ ไปกับแอร์เอเชีย” โดยจับมือกับ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด จัดขึ้นระหว่างกรกฎาคม – 30 กันยายน 2568 ในราคาเที่ยวเดียวเพียง 950 บาท มุ่งเน้นกระตุ้นการเดินทางสร้างการรับรู้เข้าสู่ภาคอีสานอย่างสะดวกสบาย เที่ยวเมืองรองหน้าฝนสุดฟิน เที่ยวแบบสุดคุ้มใน นครพนม ร้อยเอ็ด เลย อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น บุรีรัมย์ และ สกลนคร หรือเที่ยวลงเมืองหลักขอนแก่น แล้วเที่ยวควบต่อเมืองรองราคารวมเที่ยวเดียว

แคมเปญที่ 2  “เล ล่องโขง” กับไทย ไลอ้อนแอร์ ระหว่าง 15 สิงหาคม - 30 กันยายน 2568 เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวข้ามภาคจากตะวันออกที่สนามบินอู่ตะเภา มายังอีสาน ด้วยส่วนลดค่าตั๋วโดยสารสุดพิเศษ




แคมเปญที่ 3 I-SAN Raincation สุขใจในสายฝน” ททท.ร่วมกับ บริษัท พอล โซลูชั่น จำกัด วันที่ 1 กรกฎาคม – 15 กันยายน 2568 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนในพื้นที่เป้าหมาย 4 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ บึงกาฬ สุรินทร์ และสกลนคร โดยร่วมกับพันธมิตรมอบโปรโมชั่นพิเศษ สร้างการรับรู้สินค้าท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ ชุมชน ประเพณีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เจาะเข้าถึงตลาด กลุ่มวัยทำงาน และผู้สูงอายุ

ททท.ยังได้ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 นำเสนออาหารถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว “คนท้องถิ่นกินอะไรกัน” วันที่ 12 สิงหาคม นี้ เวลา 13.00 น.โดยมีคอนเทนท์ไฮไลต์ โฟกัสที่ จังหวัดนครราชสีมา ให้พิธีกรยกตัวอย่างอาหารถิ่นในแต่ละแหล่งท่องเที่ยวอย่าง ขนมจีนปะโดก หรือการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเมืองมรดกโลก มีอาหารสุขภาพ กับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดีด้วย

ผอ.อรรถพลกล่าวว่า ททท.ภาคอีสานสนับสนุน ททท.สำนักงานพื้นที่ 8 แห่ง ทยอยจัดในเบื้องต้น 11 กิจกรรม ดังนี้ 

กิจกรรมที่ 1  Amazing Isan Lady Golf 2025” ททท.นครราชสีมา จัดแข่งขันกอล์ฟส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬา ร่วมกับชมรมผู้บริหารสนามกอล์ฟเขาใหญ่ - โคราช วันที่ 6 กันยายน 2568 ที่สนามกอล์ฟ เขาใหญ่ คันทรี่ คลับ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มเป้าหมายเป็นนักกอล์ฟ160 คน

กิจกรรมที่ 2 “อยู่ดีมีฝน” ททท.นครพนม รวมการท่องเที่ยวจังหวัดสนุก นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กระตุ้นการเดินทางและเข้าพัก เมื่อนักท่องเที่ยวพักค้างคืนตามโรงแรมที่เข้าร่วมกิจกรรม 2 คืนรับทันทีกระเป๋าหน้าฝน Green Isan Raincation นำโดยนครพนม เข้าพัก 21 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม มุกดาหาร 1-12 สิงหาคมและสกลนคร 23-31 สิงหาคม

กิจกรรมที่ 3 ท่องเที่ยวเชื่อมโยงสุรินทร์-ศรีสะเกษ ททท.สุรินทร์ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวฯ จังหวัดสุรินทร์และสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวฯจังหวัดศรีสะเกษจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว 17 สิงหาคม นี้ นำคณะนักท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างกันเพื่อคลายเครียดของผู้ประกอบการในพื้นที่


กิจกรรมที่ 4 “ภารกิจเช็คอิน @อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ” ททท.อุดรธานี ร่วมกับ TripNiceDay ส่งเสริมการท่องเที่ยวชวนคนออกไปเช็คอิน สถานที่ท่องเที่ยว  อุดรธานี  หนองคาย และบึงกาฬ รายชื่อจุดเช็คอิน ดังนี้ 

“อุดรธานี” : พิพิธภัณฑ์พระธาตุพระอริยสงฆ์  คำชะโนด  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง เวียดนามทาวน์  ศาลเจ้าปู่ย่า อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท  วัดป่าภูก้อน ศาลหลักเมือง  พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ (หลวงตามหาบัว) พิพิธภัณฑ์เมือง

“หนองคาย” : ชุมชนบ้านเดื่อ  ลานพญานาคคู่ หน้าวัดลำดวน  พระธาตุ  หล้าหนอง  วัดผาตากเสื้อ  วัดโพธิ์ชัย  ลานเบิ่งเวียง ศรีเชียงใหม่  พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหนองคาย วัดพระธาตุบังพวน ชุมชนปะโค

“บึงกาฬ” : หินสามวาฬ  แก่งอาฮง  วัดป่าเมืองเหือง  วัดเซกาเจติยาราม บึงโขงหลง  หินสามวาฬ  พิพิธภัณฑ์มีชีวิต บึงกาฬ (โซ่พิสัย)

นักท่องเที่ยวสะสมจุดเช็คอินแล้วแลกรับคูปองส่วนลดไปใช้กับ คาเฟ่ ร้านอาหาร และที่พักที่เข้าร่วมรายการ 500 สิทธิ์ ด้วยวิธี 1.เพิ่มเพื่อนไลน์ @TripNiceDay 2. ลงทะเบียนรับภารกิจ และเดินทางไปสถานที่ตามที่กำหนด ในสมุดเช็คอินออนไลน์ และใส่รูปถ่ายของเราแทนรูปเดิม เพื่อบันทึกความทรงจำ 3.เช็คอินสถานที่ 2 ที่ขึ้นไป รับคูปอง 50 บาท เช็คอินสถานที่ 4 ที่ขึ้นไป รับคูปอง 120 บาท คนเดินทางไปเช็คอินมากที่สุดในรอบสัปดาห์ จะได้ลุ้นของรางวัลสุดพิเศษจาก ททท. ทั้งกระเป๋าผ้า กระเป๋าเดินทาง และของที่ระลึก

 


สำหรับ “คูปอง” สามารไปใช้เป็นส่วนลดได้ 1.ที่พัก เจริญ โฮเทล อุดรธานี, Hotel MOCO อุดรธานี, De Princess อุดรธานี ประจักษ์ตรา อุดรธานี, เฮือนหาดคำ หนองคาย, คริสตัลหนองคาย, กลางเมือง แอท หนองคาย และ โรงแรมอัศวรรณ หนองคาย 2.คาเฟ่-ร้านอาหาร  ในอุดรธานี : BEYOND CAFE, ร้านอาหารฟาโรห์เฮาส์, Jude’s journey scoop, Brunch & Munch, สวนอาหารเลอบัวเด้อ, ร้านกาเฟเวียด, ตำหนักเว้, ร้านกาแฟผิงอัน, ก๋วยเตี๋ยวทองใหญ่,

หนองคาย :  The For Rest cafe, กาแฟบ้านทวด, Bruce Coffee, สวนอาหารบ่อปลาวี.เอส,กาแฟเวียด และตำหนักเว้ และ บึงกาฬ : ครัวเคียงตะวัน, จีจี จิ้มจุ่ม GG, ครัวคุณเพชร, รฦก cafe n' camp และ นาคีมีมนตร์ คาเฟ่ 

จะต้องต้องเดินทางไปสถานที่ในรัศมี 300 เมตร แล้วกดเช็คอินบนไลน์ในสมุดเช็คอินออนไลน์ โทรศัพท์ต้องเปิดสัญญาณ GPS และอินเตอร์เน็ต ใกล้ที่ไหน ก็เดินทางไปเช็คอินที่นั่นได้เลย แลกคูปองได้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เมื่อแลกแล้วจะไม่สามารถแลกอย่างอื่นได้อีก ไม่จำเป็นต้องเดินทางเช็คอินให้ครบในวันเดียว  โดยกิจกรรมนี้เช็คอินได้ถึง17 สิงหาคม 2568

กิจกรรมที่ 5 จุ้ม บ้านเชียง Art & Craft สไตล์บ้านเชียง ครั้งที่ 2 วันที่ 19-21 กันยายน 2568 ที่บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี  คอนเซ็ปต์จากมรดกโลกสู่รากเหง้า จากรากเหง้าที่มาจาก “ดิน” สู่งาน “ลาย-สี-เส้น-ศิลป์” นำเสนอผ่านดิน ทรัพยากรหลักที่ก่อกำเนิดอารยธรรมโลก และมรดกโลกบ้านเชียงแห่งนี้

• ดินสู่สี สีสู่ลาย ลายสู่เส้น เส้นสู่งานศิลป์ ที่ปรากฏบนไหบ้านเชียง เป็น Timeless Stylistic Ban Chiang

อะไรทำให้ ”ดิน“ กลายเป็นสิ่งสำคัญต่ออารยะธรรมโลก โปรดติดตาม #งาน จุ้ม บ้านเชียง Art & Craft ๐.๒ 19 - 21 กันยายน นี้ เวลา 16:00-21:00 น. ณ ลานวัฒนธรรมบ้านเชียง บริเวณบึงหนองนาคำ บ้านเชียง อุดรธานี

กิจกรรมที่ 6 zipline tower Jump ททท.ขอนแก่น จัดงานที่หอโหวด 101 ดึงดูดนักท่องเที่ยว สัมผัสประสบการณ์ชมวิวเมืองมุมสูง ราคาเพียง 101 บาท จะเปิดให้บริการครั้งแรก 24 สิงหาคม นี้ พร้อมจะร่วมมอบประสบการณ์สุดประทับใจให้ผู้กล้าด้วยกิจกรรม "101 Excited Moment"

กิจกรรมที่ 7 “โคราชวิ่ง  9 วัด”  ททท.ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา  การกีฬาแห่งประเทศไทยนครราชสีมา เปิดเส้นทางท่องเที่ยววิ่งในนครราชสีมา 9 วัด ได้แก่ วัดพายัพ วัดอีสาน วัดบุรพ์ วัดพระนารายณ์ วัดบึง วัดสระแก้ว วัดสุทธจินดา วัดหนองบัวรอง วัดแจ้งใน มีผู้เข้าร่วม 500 คน

กิจกรรมที่ 8 จัดวิ่ง Triple Heritage @ Geopark Night Run 2025 ททท.นครราชสีมา ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา จัด “วิ่ง 3 มรดกโลก” สนามที่สอง วันที่ 9 สิงหาคม นี้ ที่พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน รับสมัครผู้เข้าแข่งขัน 700 คน

กิจกรรมที่ 9 Ballon Jam Fest 2025 สีคิ้วฟิลกู๊ด ททท.นครราชสีมาสนับสนุนงานเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ระหว่าง 9-10 สิงหาคม 2568 ที่อ่างเก็บน้ำซับประดู่ อ.สีคิ้ว


กิจกรรมที่ 10 "อีสานเขียวเที่ยวน่าฝน มหัศจรรย์อีสานใต้" ททท.อุบลราชธานี ร่วมกับอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ชวนเที่ยวเส้นทางทางธรรมชาติลงทะเบียนรับของที่ระลึกวันที่ 15 สิงหาคม - 30 กันยายน 2568  ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่เสนอขายท่องเที่ยวผนวกสายมูสายศรัทธาช่วงวันเข้าพรรษา

สำหรับการดูแล “สถานการณ์แนวชายแดน” ททท.จัดทำกิจกรรมส่งกำลังใจไปยังพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันตามแนวรอยต่อ 7 จังหวัด โดยมอบนโยบายรวมพลังสร้างขวัญและกำลังใจให้คนในพื้นที่ชายแดนภาคอีสาน พร้อมกับฟื้นฟูสร้างความเชื่อมั่นการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในพื้นที่ เช่น แคมเปญ ”เที่ยวบ้านเรา” และสร้างขวัญและกำลังใจจัดกิจกรรม ทำบุญเมือง ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดภายในภาค

การร่วมเป็นจิตอาสาดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการอพยพ โดยสนับสนุนอุปกรณ์ยังชีพ อาหารและเครื่องดื่ม พร้อมของใช้ส่วนตัว ตามศูนย์อพยพฯ เช่น สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ มอบสาธารณูปโภคให้แก่แนวหน้าที่ว่าการอำเภอประโคนชัยและอำเภอบ้านกรวด 

สนับสนุน “โรงแรมและที่พัก” ในบุรีรัมย์ได้จัดสรรห้องพักพร้อมอาหาร “ราคาพิเศษ” ให้บุคคลากรที่มีส่วนช่วยเหลือและประชาชนที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ททท.สำนักงานทุกพื้นที่ภาคอีสาน ร่วมกันใช้ช่องต่าง ๆ ทำประชาสัมพันธ์รับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือแนวหน้าและประชาชน รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ให้นักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความมั่นใจ ด้านความปลอดภัย

ผอ.อรรถพล กล่าวว่า “เร่งกระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง” สิงหาคม-ธันวาคม 2568 โดยพยายามแก้จุดอ่อนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี “จำนวนผู้เยี่ยมเยือนคนไทย” ติดอันดับ 2 แต่ “รายได้” อยู่ลำดับสุดท้าย  จึงจะใช้แนวทางการขับเคลื่อนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด และโครงสร้างการเติบโตทางการท่องเที่ยว ด้วย 3 กลยุทธ์ ดังนี้

กลยุทธ์ที่ 1 “เพิ่มรายได้” ทำกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเงินมากขึ้น จากสินค้า  “5 Must do in ISANควบคู่ เทศกาล งานประเพณี การแสดงดนตรี สายศรัทธา ความเชื่อต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นสินค้ามูลค่าสูง เป็นจุดขายของอีสาน นำเสนอขายสินค้ายั่งยืน (TTA / STAR / CF Hotel)

กลยุทธ์ที่ 2 กระตุ้นความถี่ โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “ประเพณีสีอีสาน วิถีแห่งศรัทธา” ปลุกกระแสนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมตลอดทั้งปี และส่งเสริม “เที่ยวซ้ำความสุขไม่ซ้ำ ISAN MUANIVERSE” ไปพร้อม ๆ กัน

กลยุทธ์ 3 ขยายการเติบโตจำนวนและค่าใช้จ่าย แบ่งตามโครงสร้าง 4 กลุ่มพื้นที่ ได้แก่

กลุ่มที่ 1 เติบโตโดดเด่นด้านค่าใช้จ่าย แต่จำนวนยังไม่ฟื้นตัว เช่น จ.หนองบัวลำภู จ.เลย

กลุ่มที่ 2 เติบโตโดดเด่นทั้งด้านจำนวนและค่าใช้จ่าย เช่น จ.บุรีรัมย์ จ.ชัยภูมิ  จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ

กลุ่มที่ 3 ยังไม่ฟื้นตัวทั้งจำนวนและค่าใช้จ่าย เช่น จ.สุรินทร์

กลุ่มที่ 4 เติบโตโดดเด่นด้านจำนวน แต่ค่าใช้จ่ายยังไม่ฟื้นตัว เช่น จ.กาฬสินธุ์ จ.นครพนม จ.สกลนคร จ.อุบลราชธานี

ตลอดครึ่งปีหลัง ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เชิญชวนออกไปเที่ยว “Isan Raincation อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน” มีสายการบินต่าง ๆ เข้าถึง สามารถเติมความสดชื่น สูดไอดินกลิ่นฝนกับธรรมชาติตามอุทยานแห่งชาติ และแหล่งท่องเที่ยวอันหลากหลาย พร้อมกินอาหารถิ่น เช็คอินที่พัก ซื้อของฝากมากมาย กระจายรายได้สู่ชุมชน

ฟังข่าวต้นชั่วโมง


ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์ซิตี้บูทีคลดครั้งแรก9-12ส.ค.นี้สูงสุด50%

คิง เพาเวอร์ พร้อมนำเสนอดีลจัดเต็มครั้งแรก ลดสูงสุด 50 % ที่ คิง เพาเวอร์ ซิตี้ บูทีค ชั้น 1-2 โซนพาเหรด ตึก วัน แบงค็อก กรุงเทพฯ  ช้อปได้ตั้งแต่วันนี้ 9-14 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป! จะมีไฟลต์ หรือไม่มีไฟลต์ก็ช้อปได้ พิเศษ! สมาชิก POWER PASS ON-TOP สูงสุด 20%

 

แผนกแฟชั่น ลดแบบไม่ยั้ง 50 % + ออนท็อป 20 %

แผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง ลดเต็มคาราเบลสูงสุด 30 % + ออนท็อป 5 %

แผนกแว่นตา เลือกได้หลากหลายแบรนด์ดังระดับโลก ลดสูงสุด 30 % ช้อปผ่านบัตรเครดิตรับเงินคืนสูงสุดอีก 22 % และรับเพิ่มคูปองส่วนลด 40%

แผนกนาฬิกา เพียงซื้อแคชการ์ด 5,000 บาท รับทันที กิฟท์ การ์ด 2,200 บาท

            ช้อปเสร็จแล้วรับฟรี “ปอปคอร์น” เมื่อนำใบเสร็จรับเงินมาแสดง รับได้คนละ 1 สิทธิ์/วัน แจกวันละ100 สิทธิ์

            เฉพาะสมาชิก POWER PASS ร่วมกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย Extreme

Extreme Party : เอนจอยสุด ! รับเครื่องดื่มพิเศษ 1 แก้ว เพียงช้อปให้ครบ 5,000 บาท/ใบเสร็จ(สุทธิ) คนละ 1 สิทธิ์/วัน วันละ 50 สิทธิ์

Extreme Fun : สนุกสุด ! กิจกรรมปาเป้า ลุ้นรับของรางวัลพิเศษจากแบรนด์ดัง เพียงช้อปให้ครบตั้งแต่ 8,000บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ปาเป้า 1 ครั้ง คนละ 1 สิทธิ์/วัน วันละ 100 สิทธิ์

Extreme Beats : ช้อปมันส์สุด ! กับเสียงเพลง จาก ไลว์ ดีเจ ชื่อดัง วันละ 4 รอบ เวลา 11.00-12.00 น., 14.00-15.00 น., 16.30-17.30 น. และ 19.00-20.00 น.

ข่าวที่ 2 -ช้อปได้มากกว่าที่คิงเพาเวอร์รางน้ำ/ภูเก็ต วันนี้-24 ส.ค.68

ช้อปมาก ได้มากกว่า! ที่ คิง เพาเวอร์ วันนี้ -24 สิงหาคม 2568 ที่คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี สาขาในเมือง 2 ทำเลดัง คิงเพาเวอร์ รางน้ำ และ คิงเพาเวอร์ ภูเก็ต

1.ได้รับส่วนลด สูงสุด 30% สินค้าที่ร่วมรายการ + พิเศษ! สมาชิก POWER PASS รับส่วนลด ON - TOP 5% เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข (สำหรับสินค้าราคาปกติ เฉพาะแผนกน้ำหอมและเครื่องสำอาง)

2.ได้คุ้มกว่า เมื่อสมัครสมาชิก POWER PASS ฟรี! รับทันที 400 CARAT (ใช้เป็นส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท) สมาชิกไม่มีวันหมดอายุ

ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิเปิดแล้วเคลียร์แรนซ์เซล 80 %

นักเดินทางทุกคน ทันทีที่มีไฟลต์บินแล้วใช้สนามบินขาออก ต้องแวะด่วนที่ “คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ” จัดมหกรรมใหญ่ “King Power Clearance Sale” ลดสูงสุดถึง 80% ช้อปสินค้า CLEARANCE SALE แบบจุใจ  วันนี้ -30 กันยายน 2569

สินค้าแฟชั่น ลดสูงสุด 80 % ส่วนสินค้าบิวตี้-น้ำหอม, นาฬิกา, แว่นตา และเครื่องประดับ ลดสูงสุด 50%

ยังไม่เป็นสมาชิก? POWER PASS สมัครฟรี! สมาชิกไม่มีวันหมดอายุ

ข่าวที่ 4-ททท.ปลื้มวันแม่หนุนเที่ยวไทยคนละครึ่งเต็ม3แสนสิทธิ

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดต่อเนื่อง “วันแม่แห่งชาติ” ระหว่าง 9-12 สิงหาคม 2568 คนไทยได้ใช้สิทธิ์โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” จองที่พัก “เมืองหลัก” เต็มแล้ว 300,000 สิทธิ์ เฉพาะช่วงวันแม่ใช้สิทธิ์มากถึง 46,732 สิทธิ์ จึงเชิญชวนให้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์จองที่พัก “เมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว”ทั่วประเทศ 55 จังหวัด ที่เปิดไปจนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ทางแอปพลิเคชัน Amazing Thailand หรือ https://www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com

 

ระหว่าง 9-12 สิงหาคม 2568 ททท. คาดบรรยากาศการท่องเที่ยวจะคึกคัก เพราะประกาศเพิ่มวันหยุดกรณีพิเศษอีกวันคือ 11 สิงหาคม คาดจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเที่ยวภายในประเทศทั้งสิ้น 3.16 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 13,750 ล้านบาท ซึ่งภูมิภาคที่มีการเดินทางเข้ามากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ภาคกลาง 898,000 คน-ครั้ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 609,600 คน-ครั้ง และภาคตะวันออก 600,500 คน-ครั้ง

 

นักท่องเที่ยวไทยได้ใช้สิทธิ์จองผ่านโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ระหว่าง 9-12 สิงหาคม นี้ มากถึง 46,732 สิทธิ์ แบ่งเป็น เมืองหลัก 30,503 สิทธิ์ ในจังหวัดมียอดจองที่พักสุงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี และระยอง และเมืองน่าเที่ยว 16,229 สิทธิ์ จองสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จันทบุรี ตราด ราชบุรี นครศรีธรรมราช และนครนายก 

 

ขณะที่สถานที่ท่องเที่ยว “เมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว” ช่วงกรีนซีซั่นมีธรรมชาติความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ เช่น เทศกาลชมผีเสื้อปางสีดา จ.สระแก้ว ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ ล่องแก่ง จ.นครนายก และปราจีนบุรี เที่ยวอุทยานแห่งชาติพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และโดดเด่นของวัฒนธรรมตามอัตลักษณ์ท้องถิ่น

 

รวมทั้ง “อีเวนต์กิจกรรม” เทศกาลงานประเพณีต่าง ๆ ที่ ททท. จัดและสนับสนุนต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการเดินทาง เพิ่มค่าใช้จ่ายและขยายวันพักในเมืองน่าเที่ยว เดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2568 มีให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่น

 

งานที่ 1 Black Moon Music Camp 2025 จ.ฉะเชิงเทรา งานที่ 2  Street Fight เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก จัดช่วงเดียวกัน 8–9 สิงหาคม นี้

 

งานที่ 3 MAE SOT 21 International Half Marathon 2025 จ.ตาก งานที่ 4 ขนอมเฟสติวัล จ.นครศรีธรรมราช จัดช่วงเดียวกัน 9-10 สิงหาคม นี้

 

งานที่ 5 เทศกาลล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี 9-12 สิงหาคม

 

งานที่ 6 Chumphon Night Run Lighting” In The City #2 จ.ชุมพร 10 สิงหาคม

งานที่ 7 Prachinburi Night at the Museum .ปราจีนบุรี 22-24 สิงหาคม

งานที่ 8 VIJIT @ Udonthani แสงศรัทธาแห่งอีสานเหนือ จ.อุดรธานี 22-31 สิงหาคม 2568

งานที่ 9 Lady Golf Uttaradit 2025 จ.อุตรดิตถ์ 3-31 สิงหาคม

งานที่ 10  VIJIT @ Lampang เสน่ห์เหนือกาลเวลา จ.ลำปาง 5-14 กันยายน

งานที่ 11  ประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม 29 กันยายน–8 ตุลาคม  

 

ส่วนสถานการณ์ลงทะเบียนของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งตั้งแต่ 1 กรกฎาคม- 8 สิงหาคม 2568 เวลา 9.00 . เป็นดังนี้

 

“ประชาชน” ลงทะเบียน  2,076,394 ราย จองที่พักและชำระเงินเพื่อใช้สิทธิ์แล้ว 416,762 สิทธิ์ สิทธิ์คงเหลือ 83,238 สิทธิ์ 

 

“ผู้ประกอบการ” ลงทะเบียนและอนุมัติแล้ว 7,923 ราย แบ่งเป็น โรงแรม/ที่พัก 4,062 ราย ร้านอาหาร 3,400 ราย แหล่งท่องเที่ยว 106 ราย สปา/สุขภาพ 161 ราย สินค้า OTOP 133 ราย บริการรถเช่า/เรือเช่า 61 ราย

 

“จุดหมายปลายทาง” ยอดนิยมที่มีผู้ใช้สิทธิ์เดินทางท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี นครราชสีมา และ กรุงเทพมหานคร

 

“ช่องทางลงทะเบียน” ผ่านทางแอปพลิเคชัน Amazing Thailand หรือ https://www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com แอปพลิเคชัน Line Official Account: @ThaiTravelCopay หรือโทร. 02-483-0963 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.

  

ข่าวที่ 5-“บางจาก”ครึ่งปีแรก68ทำรายได้การขาย&บริการ2.6แสนล้าน

            นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทบางจากมีผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก2568 มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 260,474 ล้านบาท มี EBITDA  16,331 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลาง “ราคาน้ำมัน” ปรับลดลงต่อเนื่องและภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังคงสามารถ “รักษาระดับการดำเนินงาน” ได้ในกลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะ 2 กลุ่มธุรกิจ คือ “กลุ่มโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน” มีกำลังการผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปี 2567 และ “กลุ่มธุรกิจการตลาด” ยังรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดได้ต่อเนื่อง

 

แม้ช่วงครึ่งปีแรก บางจากฯ ต้องเผชิญแรงกดดันจาก “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ผนวก “สภาวะเศรษฐกิจโลก” ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แล้วบริษัทฯ สามารถทำ “กำไร” จากการดำเนินงานปกติ (ไม่รวมรายการพิเศษ) จากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันและกลุ่มธุรกิจการตลาด ซึ่งมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนรายได้หลักของบริษัทฯ

 

แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และบูรณาการกับ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) ทำได้อย่างราบรื่น รวมทั้งการจัดตั้งบริษัท BCPT FZCO ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจการค้าน้ำมันในภูมิภาคตะวันออกกลาง

 

“บางจากฯ” ยังได้รับคัดเลือกให้อยู่ในดัชนี SET50 ต่อเนื่อง และปี 2568ได้รับการจัดอันดับที่ 17 จาก 500 บริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยนิตยสาร Fortune ปี 2568 สูงขึ้นจากปีก่อนอยู่อันดับ 24 สะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว

 

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญ “ครึ่งปีแรกปี 2568 ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

 

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA  1,399 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเยวกับปีก่อน 6,570 ล้านบาท เนื่องจากค่าการกลั่นพื้นฐาน (Operating GRM) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 4.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากส่วนต่างราคาน้ำมัน (Crack Spread) อ่อนตัวลงในทุกผลิตภัณฑ์ บวกกับการรับรู้ผลขาดทุนจาก Inventory Loss และการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ (NRV) รวม 3,750 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ต่ำกว่าน้ำมันดิบดูไบในช่วงเวลาดังกล่าว และต้นทุนน้ำมันดิบภาพรวมลดลง ช่วยลดแรงกดดันจากค่าการกลั่นอ่อนตัวลงได้บางส่วน โดยมีกำลังการผลิตเฉลี่ยช่วงครึ่งปีแรกรวม254,900 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงเดินเครื่องเต็มกำลังโดยไม่ปิดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผนงานเช่นเดียวกับช่วงครึ่งปีแรกปี 2567

 

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด มี EBITDA 3,022 ล้านบาท ลดลง 3,977 ล้านบาท ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไว้ได้ที่ระดับประมาณ 29 % สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายและคุณภาพให้บริการ

 

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด มี EBITDA 1,881 ล้านบาท ลดลง 2,424 ล้านบาท จากผลกระทบการสิ้นสุด Adder โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย และการจำหน่ายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเมื่อมิถุนายน 2567 จำนวน 9 โครงการ

 

กลุ่มที่ 4 ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มี EBITDA 380 ล้านบาท ลดลง 493 ล้านบาท มีปัจจัยหลักจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนโรงงานผลิตเอทานอลในไตรมาส 1 และต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกากน้ำตาลซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอล ส่วน “ยอดขายผลิตภัณฑ์” ทรงตัวใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ทำให้ผลประกอบการภาพรวมของธุรกิจลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี 2567

 

กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA 10,128 ล้านบาท ลดลง13,074 ล้านบาท คิดเป็น 23 % โดยได้รับผลกระทบจากราคาขายน้ำมันเฉลี่ยปรับลดลงตามแนวโน้มราคาตลาดโลก และปริมาณการจำหน่ายที่ลดลงจากการรับรู้ผลกระทบเต็มครึ่งปีจากการจำหน่ายแหล่งผลิต Yme เมื่อปลายปี 2567 ขณะที่ OKEA ปี 2568 เพิ่มประมาณการการผลิตเป็น 30,000 – 32,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ปี 2569 เพิ่ม 31,000  35,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากแหล่งผลิตปิโตรเลียมที่สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้เพิ่มขึ้น

 

“ไตรมาส ปี 2568 กลุ่มบริษัทบางจากมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 125,827 ล้านบาท ลดลงจากช่วงไตรมาสก่อน 7 % และลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน 20 % มี EBITDA 3,664 ล้านบาท มี”กำไร”จากการดำเนินงานปกติ 1,247 ล้านบาท เมื่อรวมผลกระทบจาก Inventory Loss และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ มีผลขาดทุนสุทธิ 2,560 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 1.86 บาท จากผลประกอบการได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงเป็นหลัก

 

ข่าวที่ 6-TCEBเตรียมไทยเจ้าภาพจัดพลังงานโลก Gastech 2026

 

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บ  ร่วมกับกระทรวงพลังงาน และบริษัท ดีเอ็มจี อีเวนต์ จำกัด ผู้จัดงานงานระดับโลก และพันธมิตรในอุตสาหกรรมพลังงาน เตรียมความพร้อมประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัด Gastech 2026 ระหว่างวันที่ 15–18 กันยายน 2569 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค กรุงเทพฯ เลือกมาจัดอีกครั้งในรอบ 18 ปี เป็นเวทีระดับโลกด้านการประชุมและแสดงเทคโนโลยีด้านก๊าซธรรมชาติ LNG ไฮโดรเจน เทคโนโลยีภูมิอากาศ และ AI ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ตั้งเป้าหมายจะมีผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย ผู้เข้าร่วมกว่า 50,000 คน และวิทยากรระดับโลกกว่า 1,000 คน เดินทางมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ความร่วมมือ และกำหนดทิศทางอนาคตของพลังงานโลก

 

นับเป็นโอกาสของ “ไทย” ที่ได้รับเลือกเป็นประเทศเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความพร้อมครอบคลุมด้านโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรมืออาชีพ และทีเส็บซึ่งมีบทบาทผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ของไทยก้าวสู่เวทีนานาชาติ ด้วยการใช้กลไกความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Gastech 2026” เป็นหนึ่งในผลงานตัวอย่างของทีเส็บในการสร้างความสำเร็จสามารถสร้างเครือข่ายการทำงานเชิงบูรณาการร่วมมือร่วมกับหน่วยงานรัฐในการดึงงานระดับโลกมาจัดในไทย เช่น งานประชุม World Bank ของกระทรวงการคลัง และงานอื่น ๆ สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างภาพลักษณ์ชื่อเสียงไทยในเวทีโลกอย่างเป็นรูปธรรม

 

ทีเส็บได้บูรณาการทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนดึงดูดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ด้วยยุทธศาสตร์สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานความรู้ ยกระดับไทยเป็นประเทศศูนย์กลางไมซ์แห่งอาเซียน สร้างโอกาสใหม่ให้อุตสาหกรรมพลังงาน เทคโนโลยี และบริการระดับสากล ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางตลาดไมซ์เชิงมูลค่าสูงในนานาชาติทั้งปัจจุบันและอนาคตได้ด้วย

 

ช่วงที่ 2

 

ท่องเที่ยว –สุขทันทีพาแม่เที่ยว“บุรีรัมย์”เติมบุญเสริมศรัทธา5พิกัด

ชวน “คนพิเศษ” ออกเดินทางมาสัมผัสหลังแห่งศรัทธา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดสวย บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ เต็มเปี่ยมด้วยความขลัง และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ พาแม่ไปเที่ยว อิ่มบุญ อิ่มใจบุญไหว้พระ เสริมสิริมงคล ในเมือง “บุรีรัมย์”

พิกัดที่ 1 ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์" สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์รวมจิตใจของชาวบุรีรัมย์ สถาปัตยกรรมแบบศิลปะขอมโบราณคล้ายปราสาทหินพนมรุ้ง บ่งบอกเอกลักษณ์และความเป็นตัวตนของชาวบุรีรัมย์ และยังมีต้นแปะขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมือง “บุรีรัมย์” อีกด้วย

 

พิกัดที่ 2 พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1” แลนด์มาร์คแห่งศรัทธาใจกลางเมืองบุรีรัมย์ ชมทัศนียภาพความงดงามของฉัตร ทองคำ 9 ชั้น จำนวน 364 ต้น ที่ส่องแสงเรืองรองในยามค่ำคืน อีกทั้งยังมีน้ำพุพญานาคตกแต่งประดับประดา พร้อมด้วยรูปปั้นราชสีห์และคชสีห์สวยงาม ผู้คนหลั่งไหลกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล และความสำเร็จในหน้าที่การงาน

 

พิกัดที่ 3 ไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลองค์พระใหญ่ "พระสุภัทรบพิตร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองบุรีรัมย์ องค์พระใหญ่ หน้าตักกว้าง 12 เมตร ฐานยาว 14 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดเศียร 24 เมตร ประดิษฐานบนยอดสูงสุด 'ภูเขาไฟกระโดง' ที่ดับสนิทแล้ว ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองบุรีรัมย์และสูดอากาศบริสุทธิ์ของความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไปพร้อมกัน

 

พิกัดที่ 4 "สักการะพระธาตุ ชมเจดีย์ทรงปราสาทหิน" วัดป่าเขาน้อย วัดป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บรรยากาศรอบวัดเป็นป่าเขา ร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ยลความงามของพระบรมธาตุเจดีย์ศรีสุวจคุณานุสรณ์ เจดีย์ทรงปราสาทหิน งดงามอลังการ สูงกว่า 31 เมตร

 

พิกัดที่ 5 สักการะพระธาตุเขี้ยวแก้ว(จำลอง) และหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์จากต้นเก่าแก่ อายุกว่า 2,300 ปี เพื่อเสริมสิริมงคล สิ่งศักดิ์สิทธิ์จากประเทศศรีลังกาที่มาประดิษฐานยังเจดีย์สถูปแกะสลักหิน ภายในเพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ พร้อมทั้งเช็คอินถ่ายรูปสุดปังในโรงเรือนดอกไม้ พักผ่อนค้างคืนให้ธรรมชาติบำบัด หรือจะเที่ยวแบบ One Day Trip สนุกครบรส ก็ตอบโจทย์ สอบถาม : Play La Ploen - เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ หรือ โทร. 08 7798 1039

 

สุขภาพ –5 วิธีป้องกันหลับในขับรถทางไกลภัยเงียบบนท้องถนน

 

ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว การขับรถทางไกลกลับบ้านต้องระวัง “หลับใน” คือ ภัยเงียบบนท้องถนนที่อันตรายกว่าที่คิด ระหว่างการขับรถทางไกล ผู้ขับควรสร้างความตื่นตัวให้กับตัวเอง 5 วิธีดังนี้ 

 

เปิดหน้าต่างเป็นระยะเพื่อการถ่ายเทอากาศ

 

สวมแว่นตากันแดด หรือ ใช้ที่บังแดดเพื่อลดแสงจ้าหรือแสงสะท้อนที่ทำให้มองเห็นไม่ถนัดขณะขับรถในช่วงที่แสงแดดแรง 

 

หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรแวะพักเป็นระยะหรือมีคนขับสับเปลี่ยนกัน

 

ช่วงรถติด หรือ ติดไฟแดง สามารถลดอาการเมื่อยล้าของสายตาและกล้ามเนื้อ โดยมองไปยังต้นไม้สีเขียวหรือหลับตาพักสายตาสักครู่ และนวดบริเวณต้นคอและบ่า 2 ข้าง

 

ควรหยุดพักบ่อยๆ จิบน้ำหรือหาเครื่องดื่มมาช่วยเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นเพื่อให้ตื่นตัวตลอดเวลา

 

 ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

 

ข่าวแรก –การบินไทยเข้าตลาด4ส.ค.-Q2/68รายได้รวม 4.4หมื่นล้าน

 

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)THAI” จัดพิธีเมื่อวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2568 ในโอกาสเปิดการกลับเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ราคาเปิดเทรดวันแรก 10.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 134.4 % จากราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 4.48 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเกือบ 3 แสนล้านบาท

 

จากนั้นก็ บมจ.การบินไทย และบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 44,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% มีรายได้รวม 43,981 ล้านบาท โดยได้เพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางยอดนิยม เช่น เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง เดนปาซาร์  ทำให้มีผู้โดยสารรวมไตรมาสที่ 2 รวม 3.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.2% มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ย 77.0% ซึ่งเพิ่มจากปีก่อนทำไว้ 73.2%

 

“มีค่าใช้จ่ายรวม” (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 34,648 ล้านบาท ลดลง 9% ปัจจัยหลักมาจากค่าน้ำมันเครื่องบินลดลงตามราคาน้ำมันเฉลี่ยปรับตัวลง ถึงแม้ว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยาน และค่าใช้จ่ายอื่นที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ

 

“มีกำไร” จากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 10,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.8% จากไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนทำไว้ 5,925 ล้านบาท มีอัตรากำไร (EBIT Margin) 22.7%

 

บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 3,392 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,404 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้รวม 5,347 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากรายการปรับปรุงทางบัญชีจากการเปลี่ยนสัญญาจากเช่าเป็นซื้อเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 4 ลำ ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 12,134 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 314 ล้านบาท และมี EBITDA 13,408 ล้านบาท

 

ข่าวที่สอง – AOTลุยเก็บค่าPC Airแอร์ไลน์สในSAT-1เพิ่มรายได้300ล้าน/ปี

 

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้พิจารณาและอนุมัติอัตราค่าบริการระบบไฟฟ้า 400 Hz และระบบปรับอากาศ PC-AIR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานบริการด้านอุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง (GSE) การให้บริการที่ “อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 : SAT-1” ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บค่าบริการครั้งนี้กว่า 300 ล้านบาท/ปี รวมทั้งเมื่อมีสายการบินใช้บริการมากขึ้นรายได้ก็จะเติบโตตามไปด้วย

 

ที่ผ่านมา AOT จัดเก็บค่าบริการระบบไฟฟ้า 400 Hz และระบบปรับอากาศ PC-AIR “ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการภายในท่าอากาศยาน” (Main Terminal Building) เท่านั้น แต่ไม่รวมพื้นที่อาคารใหม่ที่สร้างขึ้นภายหลังอย่าง SAT-1 เข้าไปด้วย

 

PC-AIR เป็นบริการให้สายการบินซึ่งจำเป็นต้องรับเมื่อจอดเทียบอาคาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการเดินทางอากาศกำลังเติบโต หลังจากที่ AOT ได้เริ่มเปิดให้บริการระบบดังกล่าวตั้งแต่ 28 กันยายน 2566 ปัจจุบันที่อาคาร SAT-1 มีผู้ใช้ประมาณ 30 สายการบิน/เดือน เฉลี่ย2,000 เที่ยวบิน/เดือน  

 

นางสาวปวีณา กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเก็บค่าบริการระบบไฟฟ้า 400 Hz และระบบปรับอากาศ PC-AIR ที่อาคาร SAT-1 เป็นอีกช่องทาง “เพิ่มรายได้”ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) สอดรับกับแนวโน้มสายการบินที่จะมาใช้บริการสุวรรณภูมิเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจะช่วยเสริมแหล่งรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นบริการที่สนามบินชั้นนำทั่วโลกใช้กัน ช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดมลพิษทางอากาศและเสียงรบกวนจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขณะที่เครื่องบินเข้าหลุมจอดอากาศยานประจำเครื่องบิน

 

AOT ตระหนักและให้ความสำคัญกับการลดปัญหาที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว ไปจนถึงเตรียมความพร้อมให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาคต่อไป

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เปิดอาณาจักร "เพ ลา เพลิน บุรีรัมย์" โมเดลพลิกธุรกิจเมืองดอกไม้สู่การท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้

  สมฤดี จิตรจง ที่ปรึกษา เพ ลา เพลิน เปิดความลับโมเดลพลิกธุรกิจเมืองดอกไม้สู่แห่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ เจาะ !! อาณาจักร“เพ ลา เพลิน บุรีรัม...