วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

 

นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

เม.ย.นี้รอความหวังกลุ่มตลาดมุสลิมเที่ยววันหยุดอีฎิลฟิตริ

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #ต่างชาติเที่ยวไทย

ต่างชาติเที่ยวไทย 3 เดือนแรก “ม.ค.-มี.ค.” แค่ 9.5 ล้านคน สร้างรายได้เพียง 4.62 แสนล้านบาท รอความหวัง “กลุ่มตลาดมุสลิม” เที่ยววันหยุดฉลอง “วันอีฎิลฟิตริ” มาเลเซีย อินโดนีเซีย โตสูง “รัสเซีย-อินเดีย-จีน” เริ่มแผ่ว




นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 68 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยมียอดสะสม 9,549,004 คน เพิ่ม 1.01 % สร้างรายได้ประมาณ 462,747 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

อันดับ 1 สาธารณรัฐประชาชนจีน 1,331,434 คน

อันดับ 2 มาเลเซีย 1,153,496 คน

อันดับ 3 รัสเซีย 722,202 คน

อันดับ 4 อินเดีย 543,770 คน

อันดับ 5 เกาหลีใต้ 497,930 คน

เฉพาะสัปดาห์ระหว่างวันที่ 24 - 30 มีนาคม 2568 นักท่องเที่ยวต่างชาติ แบ่งเป็น



กลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ฟื้นตัวด้านการเดินทางเพิ่มขึ้น เป็นอานิสงจากวันหยุดต่อเนื่อง “วันอีฎิลฟิตริ” หรือวันที่ชาวมุสลิมทั่วโลกจัดเฉลิมฉลองหลังเสร็จสิ้นการถือศีลอดตลอดเดือนรอมฎอนจึงเลือกมาไทย เห็นตัวเลขชัดเจนจาก 2 ตลาด ได้แก่  1.“มาเลเซีย” ขยับขึ้นอันดับที่ 1 หรือเพิ่มขึ้น 42.19 % 2.อินโดนิเซียที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 89.28 %

กลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ยังชะลอตัว เพราะเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว

ภาพรวมตลอดสัปดาห์ที่ 24-30 มีนาคม 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 584,851 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 4,519 คน หรือ 0.77 % ต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเฉลี่ยวันละ 83,550 คน 5 อันดับแรก ได้แก่

มาเลเซีย 81,790 คน สาธารณรัฐประชาชนจีน 64,992 คน รัสเซีย 48,705 คน อินเดีย 41,160 คน และสหราชอาณาจักร 25,625 คน

โดยมีนักท่องเที่ยวปรับตัว “เพิ่มขึ้น” จากสัปดาห์ก่อน 2 ตลาด คือ “มาเลเซีย” 42.19% “สหราชอาณาจักร” 18.68 % ส่วนที่ “ลดลง” 3 ตลาด คือ “รัสเซีย” 10.94 % อินเดีย 6.58 %  และ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” 3.83 %



แนวโน้มสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -6 เมษายน 2568 คาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเพิ่มมากขึ้น จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่

ปัจจัยที่ 1 นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดมุสลิม จะเดินทางท่องเที่ยววันหยุด “วันอีฎิลฟิตริ”

ปัจจัยที่ 2 ไทยประกาศเชิญชวนมาเที่ยวปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025

ปัจจัยที่ 3 การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา

ปัจจัยที่ 4 รัฐบาลไทยยังคงใช้มาตรการ Ease of traveling ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตรตม.6 และกระตุ้นส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากขึ้น

 

ททท.สำรวจตึกหลังแผ่นดินไหวสภาพแข็งแรงกลับเริ่มเปิดได้2 เม.ย.68

 

ททท.โล่งอก ตรวจสภาพตึกสำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ หลังแผ่นดินไหวปลอดภัยทุกส่วน

ททท.สำรวจตึกหลังแผ่นดินไหวสภาพแข็งแรง

พนักงานทั้งหมดกลับเข้าทำงานได้ 2 เม.ย.68

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #ตึกทททแข็งแรง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญ “รศ.ดร. สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์” ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมด้านแผ่นดินไหว จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตรวจสอบอาคาร ททท. สำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ ขนาด18 ชั้น หลังสถานการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคม 2568

“ผลการประเมิน” จากการสำรวจเรียบร้อยแล้วพบว่า อาคาร ททท. ยังคงแข็งแรง สามารถให้พนักงาน และลูกจ้าง ททท. รวมถึงผู้ปฏิบัติงานภายในอาคารสามารถเข้าปฏิบัติงานได้ตามปกติเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสที่ 2 เมษายน 2568 เป็นต้นไป

หลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 ททท.ได้ประกาศใช้แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) ให้พนักงานปฏิบัติงานในรูปแบบ Work From Anywhere เพื่อตรวจกายภาพของอาคาร ด้านความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัย ให้เสร็จสิ้นก่อน



โดยภาพรวมผลการตรวจสอบปรากฏว่า อาคาร ททท. สำนักงานใหญ่ ในส่วนของอาคารสำนักงาน 18 ชั้น มีดังนี้

ส่วนที่ 1 โครงสร้างหลักมีความแข็งแรง ไม่พบปัญหาของการแตกร้าว

ส่วนที่ 2 โครงสร้างรอง พบมีผนังรอยแตกร้าวเล็กน้อย และกระเบื้องเสียหายบางจุด

ทางผู้เชี่ยวชาญฯ ได้ให้ความเห็นว่า อาคารสำนักงานมีความแข็งแรงและปลอดภัย สามารถเข้ามาปฏิบัติงานได้ และให้คำเสนอแนะดำเนินการซ่อมแชมผนังโครงสร้างรองที่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งพิจารณาเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างหลัก เพื่อเพิ่มความต้านทานแผ่นดินไหวในคราวต่อไป

ส่วนที่ 3 อาคารจอดรถ จำนวน 10 ชั้น พบยังสามารถใช้งานได้ มีร่องรอยการแตกร้าว ผู้เชี่ยวชาญฯ ให้คำเสนอแนะเบื้องต้นต้องดำเนินการซ่อมแซมบ้าง

 

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

ททท.LOI Expedia Group นำไทยฮับท่องเที่ยวโลกขยายเมืองน่าเที่ยว

 

ททท.ลงนามความร่วมมือกับ Expedia Group รุกตลาดคุณภาพสูงนำไทยฮับท่องเที่ยวโลก

ททท.LOI เอ็กซ์พีเดียกรุ๊ปรุกคุณภาพสู่ฮับท่องเที่ยวโลก

เปิดจุดขายใหม่กระตุ้นใช้เงินเพิ่มเมืองน่าเที่ยวสู่ยั่งยืน

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #เมืองน่าเที่ยว

ททท. ร่วมลงนาม LOI กับ Expedia แพลตฟอร์มท่องเที่ยวแถวหน้าของโลก ลุยทำยุทธศาสตร์ยาว 3 ปี ดันไทยฮับท่องเที่ยว ปลุกกระแสต่างชาติขยายตัวสู่ “เมืองน่าเที่ยว” เจาะกำลังซื้อคุณภาพสูง เพิ่มจุดหมายใหม่ๆ คึกคัก และยั่งยืน

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  เปิดเผยว่า ททท.กับ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป (Expedia Group) ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ความร่วมมือพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระยะเวลา 3 ปี มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากทั่วโลก ส่งเสริมการเติบโตของเมืองน่าเที่ยว ช่วยผลักดันไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก และเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งทางเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป มีเทคโนโลยีช่วยเสริมการเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายของไทย การแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทรนด์การท่องเที่ยวที่ ททท. สามารถนำมาใช้เป็นอินไซต์จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด ด้วยวิธีนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวได้ตรงตามความต้องการของนักท่องเที่ยว

ประการสำคัญคือส่งเสริม “การท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยวหรือเมืองรอง” โดย ททท. และเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป สามารถร่วมมือกันสร้างการรับรู้จุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ให้นักท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มใช้จ่ายเงินและจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพหลั่งไหลมาไทย 

Mr. Greg Schulze ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท Expedia Group กล่าวว่า ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสำคัญ ทางบริษัทยินดีได้ร่วมงานกับ ททท.พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่ง และใช้เครือข่ายทางการท่องเที่ยวของบริษัทแข็งแกร่งอยู่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม มีฐานข้อมูลระดับโลกมาประยุกต์ใช้กับไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ร่วมมือกันในระยะยาว



สำหรับ “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีการเดินทางชั้นนำของโลก นำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวครบวงจรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีเครือข่ายพันธมิตรโรงแรมและที่พักทั่วโลกกว่า 3 ล้านแห่งพร้อมข้อเสนอเที่ยวบิน กิจกรรมหลายรูปแบบ บริการท่องเที่ยวครบ โดยมีแบรนด์หลัก ได้แก่ Expedia®, Hotels.com® และ Vrbo® 

การลงนามความร่วมมือ LO เป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระยะเวลา 3 ปี ระหว่าง ททท. และ เอ็กซ์พีเรีย กรุ๊ป ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด เพื่อเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวจองมาไทย โดยมุ่งเน้นนตลาดคุณภาพและใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูง การแลกเปลี่ยนข้อมูลและเทรนด์ท่องเที่ยว ร่วมกันสร้างการเติบโตให้ท่องเที่ยวชุมชนในเมืองน่าเที่ยว ด้วยวิธีนำเสนอสินค้าและบริการของเมืองน่าเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มของเอ็กซ์พีเรีย ทั้งจัดเวิร์กชอปเสริมความรู้เพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดโปรโมทเมืองน่าเที่ยว เพิ่มการรับรู้ และยอดการจองเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

 


ททท. มั่นใจความร่วมมือกับเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ครั้งนี้จะส่งเสริมไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก เพิ่มช่องทางส่งเสริมการขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพของไทย กระจายการเดินทางไปสู่เมืองน่าเที่ยว พร้อมยกระดับคุณภาพให้บริการและอำนวยความสะดวกสบายอย่างไร้รอยต่อ และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน

 

สรวงศ์ถกเอกชนสร้างเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทยหลังแผ่นดินไหวชง3มาตรการ

 

สรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา หารือทุกฝ่ายสร้างเชื่อมั่นท่องเที่ยวหลังแผ่นดินไหว

สรวงศ์ถกรัฐ-เอกชนแก้โจทย์ท่องเที่ยวหลังแผ่นดินไหว

เร่ง“ใช้Single Command-สื่อสารเชิงรุก-โรงแรมปลอดภัย”

 

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #ท่องเที่ยวไทยหลังแผ่นดินไหว

รมว.สรวงศ์ เปิดกระทรวงถก ภาครัฐ เอกชน ท่องเที่ยวทุกเครือข่าย หารือด่วน ระดมสมองสร้างความเชื่อมั่น “ท่องเที่ยวไทย”หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว 3 มาตรการ “รัฐบาลตั้ง Single Command-ออกใบรับรองโรงแรมปลอดภัย-สื่อสารเชิงรุกจังหวัดอื่น ๆ เที่ยวได้”


นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 เปิดห้องหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เดินหน้าประเมินผลกระทบการท่องเที่ยวหลังผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 28 มีนาคม 2568 พร้อมร่วมกันกำหนดแนวทางการฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

โดยมีผู้เข้าร่วมพร้อมเพียงกันทั้งนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรี นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรี นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรี นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช  อธิบดีกรมการท่องเที่ยว, พลตำรวจโทศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว


นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้แทนหน่วยงานภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย (PGAT) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), สมาคมสายการบินประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB

เวทีการประชุมครั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เปิดรับฟังข้อเสนอจากเอกชนเพื่อเร่งกำหนดมาตรการเป็นรูปธรรม ที่จะรองรับและแก้ไขผลกระทบหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ทางเอกชนเสนอ



มาตรการที่ 1 ขอให้มี “ผู้สั่งการคนเดียว” (Single Command) เพื่อให้การสื่อสารทั้งในและต่างประเทศชัดเจนและเชื่อถือได้

มาตรการที่ 2 ให้หน่วยงานรัฐออกใบรับรองความปลอดภัยของโรงแรมที่ผ่านการตรวจสอบโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว มีมาตรฐานบริการตามหลักสากล

มาตรการที่ 3 สื่อสารเชิงรุกถึงพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดอื่น ๆ ของไทย ยังคงปลอดภัยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเดินทางได้ตามปกติ

 


กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมดนำไปเสนอให้ “นายกรัฐมนตรี” พิจารณาโดยเร็ว แล้วยังได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชัน “TPB :Thailand Tourist Police Application” ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เครื่องมือสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์เทศกาลรายการใหญ่กลางเดือนเมษายนนี้

รมว.สรวงศ์ กล่าวว่ากระทรวงฯ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมจะร่วมกันดูแลและรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ โดยจะบูรณาการความร่วมมือกันทุกฝ่ายทั้งตำรวจภูธร นครบาล และตำรวจท่องเที่ยว นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยเข้ามาใช้ เช่น กล้อง CCTV  เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ตอกย้ำถึงทุกภาคส่วนจะดูแลนักท่องเที่ยวทุกคนเป็นเป็นอย่างดี

แล้วก็ขอเชิญชวนสื่อมวลชน พี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างภาพลักษณ์อันอบอุ่นและปลอดภัยมอบให้นักท่องเที่ยว นำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางออกมาใช้จ่ายเงินสร้างเศรษฐกิจประเทศแข็งแกร่งตลอดปี 2568

AWC ส่งกำลังใจให้ทีมช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในไทยนำโรงแรม9แห่งลด50%

 


AWC ส่งกำลังใจให้ทีมช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในไทย

นำโรงแรมในเครือ9แห่งลดพิเศษ50%วันนี้-6 เม.ย.68

เรื่องโดย...#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza #รายการรวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #TAT  #เที่ยวกับกู๋ #AWC #ส่งพลังช่วยทีมกู้ภัยแผ่นดินไหว


บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) “AWC แจ้งว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 รวมทั้งเหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ทางโครงการต่าง ๆ ของบริษัท “ได้ตรวจสอบความปลอดภัย” พร้อมให้บริการ และยังคงเดินหน้าร่วมกับวิศวกรและพันธมิตรองค์กรสถาบันที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบในเครือทุกโครงการต่อเนื่องโดยละเอียด เพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยและความมั่นใจของผู้ใช้บริการทุกคน



บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้เช่า ผู้เข้าพัก ลูกค้า พันธมิตร และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมทั้งขอส่งกำลังใจให้ทุกคนและครอบครัว รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยช่วยเหลือและวิศวกรจากองค์กรต่าง ๆ ที่ร่วมดูแลผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวให้กลับสู่สถานการณ์ที่ปลอดภัย

ขอขอบคุณทุกท่านในพลังความช่วยเหลือ และซาบซึ้งในความไว้วางใจและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ทาง AWC ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพันธมิตรและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและไม่สามารถกลับเข้าที่พัก ระหว่างวันนี้- 6 เมษายน 2568 ได้นำโรงแรมในเครือ AWC 9 แห่ง มอบส่วนลด 50%

ผู้ใช้บริการแค่ใส่รหัสพิเศษ AWC50 เพื่อห้องพักตรงกับทางโรงแรมผ่านทางเว็บไซต์ หรือโทรศัพท์จองห้อง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสายฝน 061-394-0941 คุณรวิพร 065-291-9728 และคุณจิราพร 065-978-0287



วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568

ททท.ต่อยอดITB2025ดึงร่วมTTM+2025รับมือTrump2.0เมกา-แคนาดาทัวร์ไทยโต2เท่า

 

ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา ททท.

ททท.ลุยต่อยอด ITB2025 เอกชนไทยจับคู่ธุรกิจโกย 6,000 ล้าน

ดึงทั่วโลกร่วมTTM+2025มิ.ย.68ที่เชียงใหม่-รุกใช้Airline+Sustain

ลั่นมือTrump2.0ได้ม.ค.-มี.ค.68 “เมกา-แคนาดา”ทัวร์ไทยโต2หลัก

คิงเพาเวอร์จัดอภิมหาสงกรานต์รางน้ำ“สาด-เต้น-เล่น-กิน-ช้อป”

ช้อปโปร“บิวตี้ โบนัส”48ชม.ที่คิงเพาเวอร์ออนไลน์30-31มี.ค.68

คิงเพาเวอร์ชวนช้อปสุดขีดสงกราน์3สาขาลดเบอร์แรงสุด25%

CEO บางจากถ่ายทอดภาวะผู้นำที่ดียุคเปลี่ยนผ่านด้วย 4 หลัก

เทศกาลเที่ยวเมืองไทยจัดถึง30 มี.ค.เสน่ห์5ภูมิภาคลดคาร์บอน

TCEBเปิดครั้งแรกบิ๊กดาต้า“MICE Data Platform”พลิกโฉมไมซ์

สุขที่ภาคตะวันออกถึงฤดูเที่ยวผลไม้“อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” 

“เวียตเจ็ทไทยแลนด์”เทโปรตั๋วบินทั่วไทยเก็บได้3ปีเริ่ม1,700บ.

AOTถกRoutes Asia 2025เพิ่มไฟลต์เร่งไทยฮับบินของเอเชีย

วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2568 ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 อ่านในwww.facebook.com/penroongyaisamsen #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97  #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #เที่ยวกับกู๋  #KingPower  #TAT   #บางจาก #TCEB  #อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวน

ฟัง Live สดจากลิงค์นี้... https://www.facebook.com/share/v/14x3GDGY2K/

ช่วงที่ 1 สัมภาษณ์ !! “ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร” รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่อยอดความสำเร็จ ITB Berlin 2025 ขยายตลาดระยะไกล 4 ทวีป 3 มิติ “ภาพลักษณ์” เมืองไทยครองใจตลาดโลก “เศรษฐกิจปัง” ดึงรายได้ตามเป้า 6,000 ล้าน “สร้างโอกาส” เมืองน่าเที่ยว แทรเวลเทค เข้าตาคู่ค้าอินเตอร์ ลุยขายต่อเนื่องใน TTM+2025 มิ.ย.นี้ที่อุทยานราชพฤกษ์ เชียงใหม่ ชี้ไทยเฝ้าระวังปรากฎการณ์ Trump 2.0 สถานการณ์ 1 ม.ค.-24 มี.ค.68 “อเมริกา-แคนาดา” เที่ยวไทยโต 2 หลัก ขานรับ Coolcation รุกเทรนด์ “A+S” การบินผนึกเที่ยวยั่งยืนตอบโจทย์ทั่วโลก

 

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หลังเสร็จสิ้นงานซื้อขายการท่องเที่ยวระดับโลก ITB Berlin 2025 ได้เห็นโอกาสต่อเนื่องที่จะขยายการเติบโตตลาดระยะไกล (Longhaul Market) สามารถสร้างผลลัพธ์ต่อเนื่องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยปี 2568-2569 หลัก ๆ  3 มิติ ได้แก่

มิติที่ 1 สร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเชิงบวกในเวทีโลก เป็นปีแรกที่รัฐบาลสนับสนุน ททท.รวมรวมคูหาประเทศไทยอยู่ในพื้นที่เดียวกันทั้งหมดขนาดใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมาเกือบ 4 เท่า จาก 500 ตรม.เป็น 1,820 ตรม.ทำให้เกิดความสะดวกกับการจับคู่เจรจาธุรกิจ และการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวของไทยใหม่ ๆ เป็นภาพจำที่ดีในตลาดโลก

 


มิติที่ 2 ด้านเศรษฐกิจ จากผลสำรวจผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เข้าร่วมเจรจาซื้อขายกับทั่วโลก 160 ราย เบื้องต้นปี 2568 เกิดการสร้างเศรษฐกิจเบื้องต้นกว่า 4,000 ล้านบาท แล้วก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายถึง 6,000 ล้านบาท นำรายได้เข้าประเทศเกิน 100 เท่าจากการลงทุนสร้างคูหาประเทศไทยใช้เงินเพียง 40 ล้านบาท แล้วยังมีมูลค่ากว่าสูงกว่าปี 2567 งานดังกล่าวมียอดธุรกิจเข้าเมืองไทยประมาณ 3,000 ล้านบาท

มิติที่ 3 สร้างโอกาสเปิดตัวเมืองน่าเที่ยว Hidden Gems Cities ก้าวสู่ตลาดนานาชาติ รัฐบาลได้อนุมัติให้ ททท.นำ 18 เมืองน่าเที่ยว และ 1 Start up Travel Tech เข้าร่วม ITB Berlin 2025 โดยได้จัดอบรมก่อนเดินทางเพราะเพิ่งเข้าร่วมเป็นครั้งแรก หลังเสร็จสิ้นงานเห็นโอกาสใหม่เกิดขึ้นทั้งเรื่องภาพลักษณ์สินค้าท่องเที่ยว เช่น มีบริษัทผู้ซื้อต่างชาติเดินมาตามหาโรงแรมที่พักจันทบุรีเมืองน่าเที่ยวมาแรงภาคตะวันออก ตอบโจทย์อีกหลายคู่ค้าซึ่งกำลังมองหาพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่เพื่อนำไปเสนอขายเพิ่มมากขึ้น

ททท.วางกลยุทธ์ต่อยอดนำเมืองน่าเที่ยวบุกตลาดระยะไกลในยุโรป อเมริกา ซึ่งต้องการพักผ่อนด้วยการหลีกหลีความวุ่นวายจากเมืองหลักสู่ชุมชนมากขึ้น แล้วสิ่งที่บริษัทผู้ซื้อการท่องเที่ยวต้องการมากที่ไทยเองต้องเตรียมความพร้อมขยายฐานตอบรับกระแสดังกล่าว ประกอบด้วย

1.บริษัทจัดการท่องเที่ยวสู่พื้นที่จุดหมายปลายทางในเมืองไทย หรือ DMC : Destination Management Company หรือแม้แต่กโรงแรมที่พักก็ควรจะแนะนำวิธีการเดินทางเชื่อมโยงจากสนามบินเมืองหลักไปยังที่พักเมืองน่าเที่ยวและการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้

2.สร้าง Cluster เมืองน่าเที่ยว ในแต่ละภูมิภาคซึ่งอยู่ใกล้เมืองหลักรวมตัวกันนำเสนอการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเข้าหากันให้ได้ ตัวอย่างโมเดลต้นแบบคลัสเตอร์เมืองน่าเที่ยว ททท.จะทำทุกภูมิภาค โดยใช้เมืองท่องเที่ยวหลักซึ่งยุโรป อเมริกา นิยม เป็นจุดตั้งต้น เช่น กรุงเทพฯ หัวหิน/ประจวบคีรีขันธ์ (ภาคกลาง) พัทยา(ภาคตะวันออก) เชียงใหม่(ภาคเหนือ) สมุย(ภาคใต้) 

จะทำในลักษณะ “ดาวกระจาย” เช่น ภาคเหนือ -เชียงใหม่ ไปยัง ลำปาง เชียงราย ภาคใต้-สมุย ไปยัง กระบี่ พังงา ตรัง นครศรีธรรมราช หรือ ภาคตะวันออก -พัทยา ไปยัง ระยอง จันทบุรี ตราด ภาคอีสาน-อุดรธานี หนองคาย ไปยังอีสานเหนือ อีสานใต้ และภาคอื่น ๆ ก็ทำรูปแบบเดียวกัน

3.นำ 18 เมืองน่าเที่ยว และ 1 แทรเวล เทค ที่ได้รับเลือกไป ITB Berlin 2025 เข้าร่วมมหกรรมขายการท่องเที่ยวรายการใหญ่สุดของประเทศจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 22 คืองาน TTM+ :Thailand Travel Mart Plus 2025 เดือนมิถุนายน 2568 ที่อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่


นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีปรากฏการณ์การเมืองในประเทศขนาดใหญ่ หรือ Trump 2.0 ส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงหลายส่วน ททท.กับผู้ประกอบการไทยพร้อมรับมือด้วยการใช้มอนิเตอร์ข้อมูลทุกสัปดาห์วิเคราะห์ “เทรนด์กับสถิติ” นักท่องเที่ยวที่เคลื่อนตัวเข้ามายังไทย

ปี 2568 สิ่งแรกจะเร่งขยายผลต่อจากปี 2567 ตลาดระยะไกลยุโรป อเมริกา ทำนิวไฮมีจำนวนนักท่องเที่ยวแซงปี 2562 เรียบร้อยแล้ว สถิติ 2 เดือนแรก ตั้งแต่ 1 มกราคม-2 มีนาคม 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยทุกตลาดระยะไกลทั้ง 4 ทวีปเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนเติบโตขึ้นถึง 2 หลัก ยอดรวม 2.61 ล้านคน เพิ่มเฉลี่ย 19%  ประกอบด้วย “ยุโรป” 2.079 แสนคน เพิ่ม 19 % “อเมริกา” 3.43 แสนคน เพิ่มขึ้น 17 % “ตะวันออกกลาง” 1.64 แสนคน เพิ่มขึ้น 33 % “แอฟริกา” 2.63 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 32 %


โฟกัสเฉพาะนักท่องเที่ยวในพื้นที่ทรัมป์ 2.0 เดินทางเข้ามายังไทยแล้ว ระหว่าง 1 มกราคม -24 มีนาคม 2568 “อเมริกา” จำนวน 298,266 คน เพิ่มขึ้น 14.76 % “แคนาดา” จำนวน 91,257 คน เพิ่มขึ้น 12.68 % สะท้อนถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวยังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากไทยวางตัวเป็นกลางอยู่เหนือความขัดแย้ง ผนวกกับสายการบินต่างๆ ร่วมมือเพิ่มความถี่และเส้นทางบินตรงมาไทยมากขึ้น

ขณะที่ตลาดการท่องเที่ยว “สหภาพยุโรป” เดินทางมาไทย ระหว่าง มกราคม-มีนาคม 2568 มีกระแสบางอย่างเกิดขึ้นคือ Coolcation :Cool+Vaction หรือหนีร้อนมาพึ่งเย็น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศร้อนขึ้นมากในช่วงซัมเมอร์ จึงส่งผลให้ชาวยุโรปหันมาเดินทางพักผ่อนในเมืองไทยสูงขึ้น จึงเป็น “โอกาส” ที่จะสร้างโมเมนตั้มให้เมืองไทยเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ขณะที่ “ตลาดตะวันออกกลาง” สถิติเที่ยวเมืองไทย ระหว่างมกราคม -2มีนาคม 2568 มีจำนวน 164,166 คน เติบโตเพิ่มขึ้น 33 % ถือเป็นโมเมนตั้มที่ดีมาก แล้วก็มาช่วยเติมการใช้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยช่วง “ฤดูฝน” ระหว่างพฤษภาคม-สิงหาคม” นี้ โดยมีหลายประเทศเป็น “ตลาดดาวรุ่ง” สำคัญที่จะใช้จ่ายเงินกระจายในหลายพื้นที่ได้

 


นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ททท.วางกลยุทธ์ขยายตลาดระยะไกล 4 ทวีป ด้วยวิธีแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ได้แก่ ตลาดประจำ กับ ตลาดดาวรุ่ง ปี 2568 เป็นต้นไป จะเน้นความโดดเด่นจุดขายตอบโจทย์พฤติกรรมกระแสความนิยมนักเดินทางทั่วโลกด้วย “2 เทรนด์ :A+S” ประกอบด้วย “A :Airline Focus” ต้องร่วมมือกับสายการบินนานาชาติรักษา เส้นทางบินตรง ความถี่เที่ยวบิน เข้าออกจากประเทศต้นทางมายังเมืองไทย และ “S :Sustainable” การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตอนนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับเรื่องนี้ไม่เฉพาะยุโรป อเมริกา ทางผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต และชุมชน หันมาใส่ใจยกระดับสถานที่พัก แหล่งท่องเที่ยว ที่ได้มาตรฐานสากล ดังนั้นจึงแนะนำให้เอกชนท่องเที่ยวของไทยสมัครเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ โดยเร็วทั้ง CF-Hotel , STGs :Star Tourism Goals และ Thailand Tourism Awards ปี 2568 กำหนดประกาศผลตัดสินเดือนกันยายน นี้ โดยได้เพิ่มรางวัลการท่องเที่ยวยั่งยืนไว้เรียบร้อยแล้ว

ฟังข่าวต้นชั่วโมง




ข่าวที่ 1-คิงเพาเวอร์จัดอภิมหาสงกรานต์รางน้ำ“สาด-เต้น-เล่น-กิน-ช้อป”

คิง เพาเวอร์ พร้อมจัดยิ่งใหญ่ “อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” เตรียมยกทุกชายหาดดังของเมืองไทยเตรียมตัวให้พร้อม! แล้วมาสาด เต้น เล่น กิน ช้อป ให้โลกจำไปด้วยกัน

เปิดพื้นที่ย่านรางน้ำให้ร่วมสนุกสุดขีด ต่อเนื่องถึง 5 วันเต็ม วันที่ 10-15 เมษายน 2568 พบกันที่ย่านรางน้ำ รวมความสวยงามมาไว้ที่รางน้ำให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำแบบฉ่ำ ๆ  4 หาด ภูเก็ต เสม็ด พะงัน พัทยา ครบทั้ง 5 กิจกรรม ดังนี้

กิจกรรมที่ 1 “สาดสุดขีด” กับศิลปินกว่า 100 ชีวิต ขวัญใจแฟนคลับทุกวัย

กิจกรรมที่ 2 “เต้นสุดขีด” กับขบวนพาเหรดสุดอลังการ

กิจกรรมที่ 3 “เล่นสุดขีด” กับเกมส์มหาสนุก มาร่วมประลองฝีมือ

กิจกรรมที่ 4 “กินสุดขีด” กับเมนูเด็ด ริมทะเล

กิจกรรมที่ 5 “ช้อปสุดขีด” ลดสูงสุด 25% คัดสินค้าที่เข้าร่วมรายการมาให้นักช้อปเลือกซื้อได้เต็มที่

 


 ข่าวที่ 2 -ช้อปโปร“บิวตี้ โบนัส”48ชม.ที่คิงเพาเวอร์ออนไลน์30-31มี.ค.68

 

เตรียมตัวกดช้อป! คิง เพาเวอร์ 2 วันเท่านั้น! วันที่ 30-31 มีนาคม2568 กับ BEAUTY BONUS เพราะความงามไม่มีที่สิ้นสุด เติมความสวยให้ไม่มีวันหมดกับ “บิวตี้โบนัส” สุดพิเศษ คัดสินค้ามากมายหลายรายการมารวมไว้ที่ “คิง เพาเวอร์ ออนไลน์”

 

ทั้งแบรนด์ สกินแคร์ เมคอัพ หรือผลิตภัณฑ์ดูแลความงาม ช่วยให้ทุกสวยจากภายในสู่ภายนอก พิเศษเฉพาะช่วงเวลาเท่านั้น! อย่ารอช้า รีบมาคว้าบิวตี้โบนัสของคุณไปเลย! แค่มีไฟลต์บิน กดด่วนๆ หมดแล้วหมดเลยไม่รู้นะ พร้อมรอรับของที่สนามบินขาออกประเทศ

 

1.สินค้า Duty-Free สุดฮอต มีไฟลต์บินแล้วรีบเลย! รับสินค้าที่สนามบิน 2.แบ่งชำระ 0% นานสูงสุดถึง 6 เดือน 3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 16,500 บาท 4.ฟรี! ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน ของแจกฟรีหมดแล้วหมดเลย 5.รับเลย! ส่วนลด 800 บาทเมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์  6.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาท(สุทธิ)

 

ข่าวที่ 3-คิงเพาเวอร์ชวนสงกรานต์ช้อปสุดขีด3สาขาลดเบอร์แรงสุด25%

 

สงกรานต์นี้ เตรียมช้อปสุดขีด ให้โลกจำ ที่ “คิง เพาเวอร์” กับส่วนลดสูงสุด 25% เริ่มวันที่ 1-15 เมษายน 2568 ช้อปได้เต็มพิกัดในร้านดิวตี้ฟรีสาขาในเมือง 3 แห่ง  ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี และ ภูเก็ต ใกล้ที่ไหนแวะไปได้ทันที แล้วใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ 3 รายการ

 

1.ลดทันที 20% เมื่อช้อปครบ 8,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ หรือ

 

2.ลดทันที 25% เมื่อช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ

 

3.สมาชิก คิง เพาเวอร์ รับฟรี! ตั๋วเครื่องบิน ไป - กลับ กรุงเทพฯ - ฮ่องกง* 1 ที่นั่ง เมื่อช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไป (สุทธิ) ให้สิทธิ์ได้คนละ 1 สิทธิ์วัน)

 

ข่าวที่ 4-เทศกาลเที่ยวเมืองไทยจัดถึง30มี.ค.เสน่ห์5ภูมิภาคลดคาร์บอน

 

นายสรวงศ์  เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย”  ช่วงเย็นวันพุธที่ 26 มีนาคม 2568 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 26-วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะดึงนักท่องเที่ยวเข้างานตลอด 5 วัน ประมาณ 130,000 คน แวะมาเยี่ยมชมภายในงานเน้นนำเสนอความเป็น Grand Festivity เสน่ห์เทศกาลไทย มีทั้งหมด 9 โซน ไฮไลต์ด้วย “หมู่บ้านท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค” ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคเหนือ 

 

เทศกาลเที่ยวเมืองไทย มุ่งโปรโมทการท่องเที่ยว โดย ททท.ตั้งเป้าหมายจะทำให้คนทั้งประเทศรับรู้และเข้าถึงได้ไม่ต่ำกว่า 45 ล้านคน-ครั้ง เมื่อเดินทางมาชมงานจะได้รับความสุข ข้อมูลเพื่อนำไปต่อยอดวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทยได้ตลอดทั้งปี เพื่อกระจายรายได้ สร้างรอยยิ้ม และสร้างเศรษฐกิจทั่วประเทศเติบโตอย่างเข้มแข็ง

 

         

          นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2568 ครั้งที่ 43 ททท. นำแนวความคิดนวัตกรรมมาผสมผสานกับวัฒนธรรมและเอกลักษณ์รูปแบบต่างๆ  5 ภูมิภาค ชูแนวคิด “5 Must Do in Thailand” กับ “Carbon Neutral Tourismขับเคลื่อนปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ปลุกแรงบันดาลใจให้คนออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดี ๆ หรือ Grand Moment

           

            ภายในงานทำโมเดลการท่องเที่ยวยั่งยืนต่อเนื่องปีที่ 3 ผ่านกิจกรรม ลดโลกเลอะ Zero Waste to Landfills กำหนดให้แยกขยะทั่วงาน 14 จุด เพื่อช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังบ่อฝังกลบให้น้อยที่สุด ตั้งเป้าหมายท้าทายลดปริมาณขยะที่ไม่ได้แยกไว้สูงสุด 10%

 

 

เทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปีนี้ มีทั้งหมด 9 โซน กิจกรรมใหญ่สุดอยู่ตรง หมู่บ้าน 5 ภูมิภาค  5 โซน ได้ยกขบวนเสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค  ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนออกเดินทางรับ“สุขทันที ที่เที่ยวไทย” แต่ละโซนจัดเต็มนำเสนอแลนด์มาร์กสุดไอคอนิก จุดถ่ายภาพต้องเช็กอินผสานนวัตกรรมการท่องเที่ยวสุดล้ำสมัย ชวนเพลิดเพลิน ชอป ชิม ฟินกับอาหารและสินค้าท้องถิ่นจากทั่วประเทศ เรียนรู้ภูมิปัญญาผ่านกิจกรรมสาธิตและ DIY ที่น่าสนใจมากมาย และเพิ่มความสนุกตื่นตาตื่นใจไปพบโชว์วัฒนธรรมและร่วมสมัยที่ไม่ควรพลาด

 

เปิดให้เข้าชมงานฟรีตั้งแต่วันที่ 26-30 มีนาคม 2568 เริ่ม 10.00 - 21.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถเลือกใช้ใช้บริการขนส่งสาธารณะได้หลายช่องทาง คือ 1.รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 2.รถแท็กซี่มีจุดบริการรับ - ส่ง ตรงชั้น G บริเวณฝั่งทะเลสาบ 3.รถประจำทาง สาย 136 สอบถามเพิ่มได้ที่ 1672

 

ข่าวที่ 5-CEO บางจากถ่ายทอดภาวะผู้นำที่ดียุคเปลี่ยนผ่านด้วย4หลัก

 

            นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้รับเชิญเป็นวิทยากรงาน A Night Out with CEOs on Transformation ของสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดขึ้นที่โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เปิดเวทีให้ผู้นำองค์กรร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การขับเคลื่อนองค์กรด้วย Transformation & Synergy : เส้นทางที่มั่นคง ชัดเจน และปรับตัวไวสู่ความสำเร็จที่จับต้องได้” จึงได้สะท้อนประสบการณ์การบริหารจากเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งในฐานะวิศวกร นักการเงิน/วาณิชธนกิจ และที่ปรึกษาทางการเงินในและต่างประเทศ ก่อนจะก้าวสู่ผู้นำบางจากฯ นำพาองค์กรพลังงานชั้นนำเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยศักยภาพของทีมงาน การบริหารเชิงกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและทันต่อการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ

 

ด้วยการใช้หลักการสำคัญ นำพาองค์กรก้าวสู่ยุคเปลี่ยนผ่านแล้วสร้างความสำเร็จได้ด้วย 4 หลักสำคัญ คือ

 

หลักที่ 1 การตั้งคำถามว่า “ทำไม” การคิดนอกกรอบ การบริหารสภาพคล่องอย่างรัดกุม และการตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลที่อัปเดตทุกวัน พร้อมกับย้ำให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่ของ “ผู้นำ”ต้องไม่ปล่อยให้วิกฤตผ่านไปโดยไม่เรียนรู้ เพราะในทุกปัญหามีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ หาก “กล้าคิด-กล้าทำ-กล้าเผชิญ”

 

หลักที่ 2 สะท้อนแนวคิดเรื่อง “อย่ากลัวที่จะล้ม” เพราะการล้มคือบทเรียนทำให้ลุกได้เร็วและแข็งแรงขึ้น แต่ต้องเข้าใจเหตุแห่งความผิดพลาด แล้วใช้เป็นบทเรียนเพื่อเดินต่ออย่างชาญฉลาด

 

หลักที่ 3 ต้องสนุกกับงานที่ทำ และมองปัญหาเป็นความท้าทาย ไม่ใช่อุปสรรค

 

หลักที่ 4 ทำในสิ่งที่อธิบายได้ โดยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แล้วยืนหยัดบนเหตุผล ความถูกต้อง มากกว่าการตัดสินใจตามกระแสหรือความนิยม จะไม่ก่อให้เกิดการตัดสินใจที่ดี

 

นายชัยวัฒน์ ได้แสดงให้ถึงตลอดการทำหน้าที่ผู้นำบางจากฯ ได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ ขยายจาก “ธุรกิจพลังงานดั้งเดิม” มุ่งเน้นสร้าง “นวัตกรรมสีเขียวและผลิตภัณฑ์”ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่ เช่น การพัฒนาสถานีบริการน้ำมันดีไซน์ทันสมัย เสริมธุรกิจ non-oil พลังงานหมุนเวียน น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) และอีกหลากหลาย

 

ขณะเดียวกันก็ได้ “สร้างความมั่นคงทางพลังงาน” ด้วยกลยุทธ์ การเข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัท OKEA ประเทศนอร์เวย์ เข้าซื้อกิจการเอสโซ่ ประเทศไทย ปัจจุบันคือ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) “BSRC” และสร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มบริษัทบางจากมีธุรกิจครบวงจร

 

ข่าวที่ 6-TCEBเปิดครั้งแรกบิ๊กดาต้า“MICE Data Platform”พลิกโฉมไมซ์

 

          นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB เปิดเผยว่า ทีเส็บ เปิดตัวแพลตฟอร์มครั้งแรก "MICE Data Platform" ที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data เดินหน้าช่วยยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ในไทยให้แข่งขันในเวทีสากลได้อย่างยั่งยืน โดยได้สนับสนุนข้อมูลอุตสาหกรรมไมซ์และอื่น ๆ  ลงทุนสร้างเครื่องมือสำคัญด้วยการรวบรวม วิเคราะห์ นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์ ตามแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนและพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ของอุตสาหกรรมไมซ์ ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2568 - 2570) ตั้งเป้าสร้างระบบนิเวศด้านข้อมูล มุ่งใช้ข้อมูลในอุตสาหกรรมไมซ์ และยกระดับธรรมาภิบาล

 

ร่วมมือกันกันขับเคลื่อน “MICE Data Platform เป็นเครื่องมือสำคัญพลิกโฉมอุตสาหกรรมไมซ์ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีโลกได้

 

สำหรับ “MICE Data Platform มีคุณสมบัติโดดเด่นและให้บริการสำคัญ ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่

 

ส่วนที่ 1 ข้อมูลอัจฉริยะในรูปแบบ Interactive Dashboard : รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ICCA WEF GDS และ CEIC การแสดงสถิติอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย เปรียบเทียบศักยภาพกับประเทศในภูมิภาค และวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง

 

ส่วนที่ 2 เชื่อมโยงข้อมูลกับ Travel Link : ทีเส็บร่วมกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (BDI) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม แทรเวล ลิงค์ เชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยวให้ครอบคลุมมากขึ้นในระยะยาว

 

ส่วนที่ 3 บทวิเคราะห์เชิงลึก (Insight Report) : เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

 

ส่วนที่ 4 บริการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะ (Open Data) และ API (Application Programming Interface) : เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าถึงและนำข้อมูลไปใช้ต่อยอดได้

 

โดยเน้นให้บริการ “กลุ่มเป้าหมาย” ที่สนใจใช้แพลตฟอร์มดังกล่าว คือ กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น โทรคมนาคม การเงิน และการวิจัย

 

ภายในงานทีเส็บได้จัดเวทีเสวนา หัวข้อ "MICE Data Platform พลิกโฉมอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ด้วยข้อมูลขนาดใหญ่" เชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์สูงร่วมพูดคุยถึงทิศทางและโอกาสของอุตสาหกรรมไมซ์สามารถใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ให้เป็นประโยชน์ มีความโปร่งใสและความปลอดภัยในยุคดิจิทัลนำโดย 

 

ดร.จารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Chief Information Officer : CIO) ทีเส็บ

 

รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน)

 

คุณปกาสิต วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด

 

ดำเนินรายการโดย คุณสุทธิพงษ์ คุรุหงษา อุปนายกสมาคมดาต้า เมเนจเม้นต์ (ประเทศไทย-กรุงเทพ)

 

ทีเส็บเปิดให้ผู้สนใจเข้าใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มที่ https://datahub.tceb.or.th/

 

 

ช่วงที่ 2 ภาคตะวันออกตะโกนชวน “ฟรุ้ตเลิฟเวอร์” ออกไปตะลอนทัวร์ตลุยกินผลไม้พร้อมเปิดแล้ว “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” เริ่ม 1 เม.ย.รวมผลไม้แต่ละจังหวัดมาให้ไปเที่ยวกันใน 9 จังหวัด แล้วฟัง “6 วิธีชะลอความแก่ได้ง่าย ๆ” และข่าวเด่น ๆ ข่าวแรก “เวียตเจ็ทไทยแลนด์” ขายตั๋ว Power Pack ราคาเริ่ม 1,700 บาท บินทั่วไทย เก็บไว้ใช้ได้ 3 ปี ข่าวที่สอง “AOT ถก Route Asia 2025” กระตุ้นแอร์ไลน์สเพิ่มเที่ยวบินดันไทยเป็นฮับการบิน

 

ท่องเที่ยว –สุขที่ภาคตะวันออกเปิดฤดูเที่ยวผลไม้“อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” 

               

ได้เวลาเที่ยวสวนผลไม้ใกล้กรุงกันแล้ว “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ภูมิภาคภาคตะวันออก เปิดฤดูกาลผลไม้ภาคตะวันออก “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” ไปพร้อม ๆ  กับการสัมผัสเสน่ห์แดนบูรพาตลอดทั้งปี พร้อมมีโปรโมชั่นสุดพิเศษโดน ๆ จากพันธมิตร ให้ปักหมุดเดินทางได้ตลอดปีนี้ทั้ง 365 วัน

               

นางกนกกิตติกา  กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. ชวนสายผลไม้ Fruit Lover มาเที่ยวเทศกาล “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” ชิมสด ๆ ได้จากต้นกันเลย แถมยังเสิร์ฟ Must Taste อาหารทะเลและเสน่ห์เมนูท้องถิ่นตะวันออก 9 จังหวัด ในชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ

 

พิกัดที่ 1 ตราด เสิร์ฟความอร่อยด้วยแคมเปญ “ตราดหวานฉ่ำ ชิมทุกคำสดจากไร่” จัดเต็มโปรโมชั่น  1 เมษายน -30 มิถุนายน 2568 “นอนหลักพัน รับคืนหลักร้อย”   โปรเด็ดโดนใจคนรักผลไม้

 

รับส่วนลด 100 บาท เมื่อจองห้องพักราคา 1,000 บาท หรือบุฟเฟต์ผลไม้จุกๆ 550 บาท ลดไปเลย 100! บาท คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว คูปองบุฟเฟต์ผลไม้

 

พบกับ บุฟเฟต์ทุเรียน มังคุด และเงาะ แบบไม่อั้น

 

พิกัดที่ 2 จังหวัดจันทบุรี แคมเปญ “อร่อยฟิน เที่ยวกิน ผลไม้เมืองจันท์” เพียงเข้าพักโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการฯ 20 แห่ง รับคูปองส่วนลด 100 บาท นำไปซื้อผลไม้ ของฝากและคาเฟ่ในสวนที่เข้าร่วมโครงการ 15 ร้านค้า

พิกัดที่ 3 ระยอง ชวนไปใช้แคมเปญ Rayong Wonder Fruits : ตะลุยชิมผลไม้ของดีเมืองระยอง  ร่วมกับผู้ประกอบการสวนผลไม้จังหวัดระยอง 33 สวน ให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยวสวนผลไม้ที่เข้าร่วมให้ส่วนลดดังนี้

 

มูลค่าตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป รับส่วนลดทันที 100 บาท เริ่ม 10 เมษายน –  15 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด

 

พิกัดที่ 4 จังหวัดชลบุรี พบกับเทศกาลทุเรียน ผลไม้และของดีบ่อทอง (OTOP)  ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี บริเวณที่ว่าการอำเภอบ่อทอง

• เมษายน-มิถุนายน นี้ เอาใจสายสับปะรดศรีราชา สินค้า GI ของจังหวัดชลบุรี รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เกือบทั้งปี ผลผลิตจะออกมากช่วงเดือน เมษายน – มิถุนายน 2567

เดือนตุลาคม- ธันวาคม มีคาเฟ่ Fashion Fruit ให้คนรักทุเรียนต้องมามุงเมนู Recommend
รังสรรค์จากทุเรียน

พิกัดที่  5 จังหวัดฉะเชิงเทรา ชวนเที่ยวชมสวนมะพร้าว (เที่ยวได้ตลอดปี) และสวนมะม่วง (เที่ยวชมได้ตั้งแต่วันนี้– พฤษภาคม 2568) อร่อย ฟินกับอัตลักษณ์โดดเด่นดังนี้

 

มะม่วงสายพันธุ์ต่าง ๆ  เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มะม่วงขายตึก มะม่วงแรด มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงอกร่อง มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงทวายเดือนเก้า มะม่วงโชคอนันต์ ฯลฯ และมะพร้าวน้ำหอม รวมค่าเฟ่เก๋ๆ ให้นักท่องเที่ยวนั่งสบาย รวมทั้งผ่อนคลายไปกับเมนูสร้างสรรค์จากวัตถุดิบมะม่วงและมะพร้าว อาทิ Coco Milky Coffee, Coconut Latte ข้าวเหนียวมะม่วงเจลลี่ชีสเค้ก ไอศกรีมมะม่วง

 

พิกัดที่ 6 จังหวัดนครนายก จัดแคมเปญ เส้นทางอร่อยสุดฟิน กินทุเรียนมะยงชิดมะปรางหวาน @นครนายก ร่วมกับ 15 สวน จัดโปรโมชันมอบส่วนลดวันนี้ -เมษายน 2568 เมื่อซื้อมะยงชิด/มะปรางหวาน ครบ 300 บาทขึ้นไป ได้รับส่วนลด 100 บาท ทั้งหมด 1,500 สิทธิ์

 

โปรโมชัน เส้นทางอร่อยสุดฟินกินทุเรียน@นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้วเมื่อซื้อทุเรียนครบ 500 บาท ได้รับส่วนลดทันที 100 บาท/สิทธิ์ จากสวนต่างๆ (ระยะเวลาเดือนพฤษภาคม เดือนกรกฎาคม 2568) แล

 

 

พิกัดที่ 7 จังหวัดสมุทรปราการ เที่ยวคุ้งบางกระเจ้า 6 ตำบล ลิ้มรสอาหารถิ่นขึ้นชื่อที่รังสรรค์เมนูจากวัตถุดิบพื้นบ้าน ผสมผสานการปรุงรสอย่างพิถีพิถัน เช่น เมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ แกงกระเจี๊ยบกุ้ง ห่อหมกปลาช่อนบางยอ แกงมัสมั่นลูกจากพริกเกลือคั่วมะพร้าว แกงส้มพริกสด ปลาทอดซอสตะลิงปิง

เมื่อได้มาสัมผัสรสชาติอาหารถิ่นของคุ้งบางกระเจ้า รับรองติดใจ แล้วจะต้องหาโอกาสมาเยือนซ้ำ
อีกทั้ง ชุมชนบ้านสาขลา เมนูกุ้งเหยียด ที่มาแล้วพลาดไม่ได้ สามารถ เที่ยว กิน ฟิน ฟัน ได้ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน

 

ดูข้อมูลเพิ่มทาง Facebook  เที่ยวตะวันออก และFacebook 6 สำนักงาน ททท. พัทยา ระยอง ททท. จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา (ดูแลพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ) และ ททท.นครนายก (ดูแลพื้นที่ จ.นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว)

 

สุขภาพ –6 วิธีชะลอความแก่ทำง่ายๆ ด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัย

         คนส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการ “ชะลอวัย” หรือหาวิธีทำให้ตัวเองแก่ช้าลง ปัจจุบันมี “เวชศาสตร์ชะลอวัย” ชี้เป้าวิธีปฏิบัติที่จะทำให้สามารถชะลอความแก่ได้ง่าย ๆ ทำตามได้  6 วิธี ดังนี้

1.การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ -ถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดของร่างกาย และเป็นหนึ่งในวิธีที่เวชศาสตร์ชะลอวัยแนะนำให้กับทุกคนได้ทำ โดยปกติแล้วเราควรนอนหลับพักผ่อนเป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน

 

2.การรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์และเพียงพอ -โดยจะต้องรับประทานอย่างครบถ้วนและเพียงพอ ส่วนของเครื่องดื่มก็ควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์  หันมาดื่มเครื่องดื่มอย่างน้ำเปล่าให้เพียงพอที่ 6 – 8 แก้วต่อวัน

3.การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ -ถือเป็นยาวิเศษที่คุณสามารถสร้างได้ด้วยตนเอง ศาสตร์ชะลอวัยในทุก ๆ ศาสตร์จะแนะนำการออกกำลังกายพ่วงด้วยเสมอ และถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เวชศาสตร์ชะลอวัยแนะนำด้วย เพราะในทุก ๆ ครั้งที่คุณออกกำลังกายไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่จะทำให้จิตใจเบิกบานแจ่มใสด้วย

4.การทำจิตใจให้แจ่มใสเบิกบานอยู่เสมอ -ต้องฝึกจิตใจให้เบิกบานแม้ต้องเผชิญกับกลุ่มคนหรือมลภาวะที่นำมาซึ่งความเครียดหรือความกดดัน

5.หลีกเลี่ยงจากมลภาวะที่ทำให้เกิดความเครียดหรือความกดดัน - ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่สร้างผลกระทบต่อร่างกายอย่างฝุ่น ควัน หรือ แสงแดด หรือ สิ่งที่สร้างผลกระทบต่อจิตใจอย่างกลุ่มคนหรือหน้าที่ความรับผิดชอบต่อการงานที่ไม่เหมาะสม

6.การหมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี เพื่อให้สามารถเฝ้าระวังและป้องกันอันตราย หรือ โรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้

 

ฟังข่าวท้ายชั่วโมง

ข่าวแรก “เวียตเจ็ทไทยแลนด์”เทโปรตั๋วบินทั่วไทยเก็บได้3ปีเริ่ม1,700บาท

 

“เวียตเจ็ทไทยแลนด์” จัดเต็มโปรตั๋ว “Power Pack” ซื้อวันนี้-25 เม.ย. ไป-กลับ ในประเทศ เริ่ม 1,700 บาทเก็บไว้ใช้ได้นาน 3 ปี

“เวียตเจ็ทไทยแลนด์” เปิดโปรโมชั่นใหม่ล่าสุด “Power Pack ซื้อตั๋วล็อคไว้ล่วงหน้าราคาสุดคุ้ม แล้วเก็บไว้ใช้ได้นาน 3 ปี กับเครือข่ายเส้นทางบินเวียเจ็ทในประเทศ ราคาเริ่มต้นเที่ยวละ 1,700 บาท (ไป-กลับ) เปิดขายตั้งแต่วันนี้- 25 เมษายน 2568  เริ่มใช้ดั้งแต่ 21 เมษายน 2568 – 21 เมษายน 2571 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ลามเงื่อนไขกำหนด) จองทางเว็บไซต์ www.vietjetair.com หรือ แอป Vietjet Thailand

 

ตั๋วเครื่องบิน “Power Pack เป็นชุดบัตรกำนัลตั๋วโดยสารนำเสนอให้ “ซื้อตั๋วล่วงหน้าในราคาสุดคุ้ม”ประกอบด้วยชุด “ตั๋วโดยสาร ใช้เดินทางบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศ อายุการใช้งานภายใน 3 ปี ได้แก่ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี และหาดใหญ่ มีให้เลือก 4 แบบ ดังนี้

ชุดบัตรโดยสาร 4 ใบ ราคา 8,900 บาท

ชุด 6 ใบ ราคา 11,900 บาท

ชุด 12 ใบ ราคา 21,900 บาท และชุด 24 ใบ ราคา 40,800 บาท

เฉพาะผู้โดยสารถือบัตรสมาชิก Fun Member และสมาชิกใหม่ลงทะเบียนซื้อ Power Pack กับกำนัลได้

 

สำหรับ ตั๋วโดยสารแบบชำระเงินล่วงหน้า” เที่ยวบินเที่ยวเดียว ไปหรือกลับ โดยแลกเป็นบัตรโดยสารในราคา 0 บาท ไม่รวมภาษี ค่าธรรมเนียม และบริการเสริม และตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

 

ข่าวที่สอง –AOTถกRoutes Asia 2025หนุนไทยฮับบินภูมิภาคเอเชีย

AOT ร่วมหารือ Routes Asia 2025 กรุงเพิร์ธ ออสเตรเลีย รุกเจรจากระตุ้นแอร์ไลน์สบินเพิ่มเข้าไทยดันขึ้นสู่ศูนย์กลางการบินแห่งเอเชีย

 

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) พร้อมผู้บริหารและพนักงาน AOT เข้าร่วมการประชุมเจรจาธุรกิจ   การบิน “The Route Development Forum For Asia” (Routes Asia 2025) เมื่อ 25 – 27 มีนาคม 2568 ที่ The Perth Convention and Exhibition Centre กรุงเพิร์ธ ออสเตรเลีย

 

AOT เข้าร่วมการประชุม Routes Asia 2025 ครั้งนี้ มุ่งกระตุ้นพันธมิตรสายการบิน 1.เพิ่มเส้นทางบินใหม่ 2.เพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางบินเดิมมายังท่าอากาศยานของ AOT 3.ติดตามผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเส้นทางการบิน (Air Service Development (ASD) Feasibility Study Report) ระหว่างท่าอากาศยานของ AOT และท่าอากาศยานต่างประเทศ เพื่อตอบสนองผู้โดยสารกำลังเติบโตในอนาคต จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินตามนโยบายรัฐบาล

รวมทั้งเดินหน้าทำตลาดเชิงรุกด้วยกลยุทธ์ “เจรจาธุรกิจ” กับสายการบินต่างๆ เช่น สายการบินอินดิโก อินเดีย เวอร์จินออสเตรเลีย สายการบินคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน สายการบินการูดา สายการบินไลอ้อนแอร์ อินโดนีเซีย โอมานแอร์  สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ และสายการบินอลาสกาแอร์ไลน์ สหรัฐอเมริกา  

 

โดยได้นำเสนอข้อมูลประกอบการตัดสินใจเปิดเส้นทางบินใหม่ รวมทั้งนำเสนอโครงการสนับสนุนการตลาดเพื่อเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจจากสายการบินต่าง ๆ เป็นอย่างดี

 

แล้ว AOT ยังได้เจรจาธุรกิจกับท่าอากาศยานชั้นนำอีกหลายแห่ง เช่น ท่าอากาศยานเพิร์ธ (PER) ท่าอากาศยานไครสต์เชิร์ช (CHC) ท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์ (MAN) ท่าอากาศยานซานฟรานซิสโก (SFO) เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อเส้นทางบินกับท่าอากาศยานของ AOT ในอนาคตอันใกล้นี้

การประชุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมประชุมจากสายการบิน ท่าอากาศยาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ในอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวทั่วโลกกว่า 400 หน่วยงาน เมื่อ
AOT ได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ไทยตามนโยบายรัฐบาล เป็นอีกกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทย  ส่งผลดีด้านขยายการค้าและการลงทุน การสร้างงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การ

ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM 97.0 MHz.

จับตา!!ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว3เดือนแรกไม่ถึง10ล้านคน

  นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ได้แค่ 9.5 ล้านคน จับตา !! ต่างชาติเที่ยวไทยแผ่ว 3 เดือนแรกไม่ถึง 10 ล้านคน เม.ย.นี้ร...