“ททท.ภาคกลาง”สู้ยิบตางัดทุกโปรเจ็กต์ฟื้นรายได้ท่องเที่ยว20จังหวัด ”อาหารถิ่นกินที่บ้าน”ดูดเงินเข้าชุมชน-จัดทัพรอเราเที่ยวด้วยกันเฟส3
“ททท.ภาคกลาง”สู้ยิบตางัดทุกโปรเจ็กต์ฟื้นรายได้ท่องเที่ยว20จังหวัด
”อาหารถิ่นกินที่บ้าน”ดูดเงินเข้าชุมชน-จัดทัพรอเราเที่ยวด้วยกันเฟส3
คิงเพาเวอร์+แอพโรบินฮู้ดนำไทยเทสต์ฮับ3สาขาเสิร์ฟ200เมนูถึงบ้าน
“คิงเพาเวอร์”ช็อกเซลช้อป6.6สุดฟิน6เดือน6ซื้อแบรนด์คู่ลดทันที20%
ช้อป MAKE MY DAY“คิงเพาเวอร์”รับเพิ่มคูปองส่วนลดสูงสุด4,500บ.
ททท.ชูปฏิบัติการSOPรับมือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์รับต่างชาติเริ่ม1ก.ค.64
ททท.ชวนกินบุฟเฟต์ทุเรียนทองผาภูมิ19-27 มิ.ย.จองล่วงหน้าลด100บ.
“TCEB”ดึงภาคเหนือตอนล่างใช้งบประชุมเมืองไทยฯฟื้นศก.ครึ่งปีหลัง
ชวนปั่นชมศิลปะ“วัดอัมพวัน-บ้านปิ่นสุวรรณเบญจรงค์”สมุทรสงคราม
แพทย์ทั่วโลก-หมอไทยยืนยันโควิด-19ไม่ติดทางอาหารปรุงสุกกินโลด
ไทยสมายล์เด้งรับแซนด์บ็อกซ์บินภูเก็ต-ฮ่องกง2ก.ค.ตั๋ว3.8พัน/เที่ยว
โรงแรมเครืออิมพีเรียลเทโปรทั่วไทยพักยาวจ่ายแค่6พันบาท/เดือน
นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ต้อนเข้าสู่รายการ “รวยด้วยข่าวเสาร์-อาทิตย์” ในวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00-12.00 น.พบกับ “เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย FM 97.0 MHz. ฟังทางfacebookLiveFM97.0 และอ่านได้ทาง www.facebook.com/penroongyaisamsaen บล็อกเกอร์ #gurutourza #รวยด้วยข่าวเสาร์อาทิตย์FM97 #เที่ยวกับกู๋ #Kingpower #TAT
ฟัง Live สดจากลิงค์นี้ https://www.facebook.com/watch/?v=1460900227591911
ช่วงที่
1 ภาคกลาง
20
จังหวัด สู้ยิบตา กับผู้นำ “จุฑาทิพย์ เจริญลาภ” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
เดินหน้าไทม์ไลน์ความสำเร็จ โปรเจ็กต์แรก เม.ย.-พ.ค.หยุดเที่ยวอยู่บ้าน “อาหารถิ่น
กินที่บ้าน” กับ “เชฟบุ๊ค” ดันยอดขายออนไลน์สินค้าชุมชน ผัก ผลไม้ วัตถุดิบอาหาร
ทำเงินทะลุทะลวง เดือนมิ.ย.นี้ ลุยโปรเจ็กต์ 2 “บุฟเฟต์ทุเรียน” 2แหล่งใหญ่
“ชุมชนชะอม” สระบุรี “ทองผาภูมิ” เมืองกาญจน์ ควบมหาโปร อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม
เพิ่มสิทธิ 2 เรื่อง ขยายวันจองซื้อโปรออนไลน์ยาวทุกวันที่ 5-วันที่10 ของทั้งสองเดือน เอกชนใจดีซื้อแล้วนำคูปองเก็บใช้ได้นานถึง
8 เดือน “ก.ค.-ส.ค.”เร่งเครื่องโปรเจ็กต์ 3 “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ผนึกแบงก์กรุงไทยเปิดถุงเงินให้ผู้ประกอบการยืนยันเข้าร่วมรอบใหม่
และให้นักท่องเที่ยวโอนสิทธิคงค้างจากเฟส 2 มาใช้ต่อได้
นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการ ภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ระหว่างคนในประเทศชะลอการเดินทางลงจากไวรัสโควิดระบาดรอบ 3 คนก็ยังต้องกินและปรุงอาหาร ททท.ได้ทำชวน “เชฟบุ๊ค-บุญสมิธ พุกกะณะสุต” มาช่วยกันคิดทำโครงการ “กินเที่ยวภาคกลาง : อาหารถิ่น กินที่บ้าน” เลือกคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นที่ได้มาตรฐาน GI : Geographical Indication จากชุมชนแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคกลางมาปรุงเมนูอาหารผ่านการไลฟ์สดทางออนไลน์ทั้ง เฟซบุ๊คและแอพลิเคชั่น Zoom เพื่อเชิญชวนคนเข้ามาร่วมสนุกไปด้วยกัน
พร้อมทั้งกระตุ้นให้คนสั่งซื้อสินค้าท้องถิ่นโดยมีเชฟบุ๊คเป็นเซนเตอร์รวมวัตถุดิบทำเมนูอาหารต่าง
ๆ แล้วกระจายให้ทางผู้ที่สนใจสั่งซื้อได้ต่อเนื่องในกลุ่มอาหารเป็นหลัก พืช ผัก
ผลไม้ พอไลฟ์สดจบเรียบร้อย กระแสตอบรับเข้าเป้าดีมาก
คนที่เข้ามาชมเชฟบุ๊คทำอาหารได้สั่งซื้อ เช่น ปลาช่อนแดดเดียว สิงห์บุรี
ขายได้เกือบ 100 กิโลกรัม ส้มโอขาวแตงกว่า ขายได้กว่า 100 กิโลกรัม แห้ววางยาง สุพรรณบุรี ทำแกงส้ม และของหวานทับทิมกรอบ ขายได้ 74
กิโลกรัม สับปะรด ประจวบคีรีขันธ์ ทำแกงคั่ว และท้าต ก็ขายได้ถึง 39
กิโลกรัม
น้ำตาลโตนดเพชรบุรี ทำเมนูขนมวง(โดนัทไทย) ขายได้ 38 กิโลกรัม มะพร้าวน้ำหอม ราชบุรี ทำพุดดิ้ง ขายได้ 68 กิโลกรัม ลิ้นจี่ค่อม สมุทรสงคราม ผลผลิตออกปีละครั้งเดียว นำมาทำแกงเผ็ดลิ้นจี่กับขนมพานาค็อตตา ขายลิ้นจี่ได้ถึง 90 กิโลกรัม กระท้อนปุยฝ้าย ตำบลตะหรุ ลพบุรี ทำแกงคั่วกับกระท้อนทรงเครื่อง ขายได้ 90 กิโกกรัม
ตอกย้ำถึงความสำเร็จในช่วงหยุดอยู่บ้านป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดรอบ 3 ททท.สามารถทำโครงการ “อาหารถิ่น กินที่บ้าน” ระยะสั้น ๆ ที่เพิ่งจบไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ สามารถสร้างการรับรู้ด้านเผยแพร่ประชาสัมพันธ์” ผ่านโซเชียล มีเดีย ออนไลน์ 1.คนในประเทศรับรู้มากถึง 1,115,085 คน-ครั้ง 2.มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกับทำอาหารกับเชฟบุ๊คผ่านแอพลิเคชั่น Zoom กว่า 200 ราย
ยืนยันได้ว่าถึงแม้จะยังออกเดินทางท่องเที่ยวไม่ได้ คนส่วนใหญ่ในประเทศก็พร้อมมีส่วนร่วมทำกิจกรรม ซึ่งสามารถช่วยชุมชนต่าง ๆ ทั่วภาคกลางขายวัตถุดิบทำอาหารได้อย่างหลากหลาย เป็นจำนวนมาก ช่วยเศรษฐกิจพืชผักผลไม้ GI ท้องถิ่นได้ด้วยนั่นเอง
ขณะนี้รอสถานการณ์โควิดคลี่คลายทางเชฟบุ๊ค จะคัดเลือกแฟนคลับที่เข้าร่วมทำกิจกรรม ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งผลิตวัตถุดิบอาหารชุมชนด้วยอย่างแน่นอน
ผอ.จุฑาทิพย์ กล่าวว่า ตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดยังไม่นิ่ง ไม่น่าไว้วางใจ บางจังหวัดทำท่าจะเป็น 0 แต่ก็พบคนติดเชื้อบ้างแล้ว หรือในบางพื้นที่ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ เช่น ชายหาด จังหวัดเพชรบุรี หรือพักค้างคืนได้เงื่อนไข แต่นักท่องเที่ยวจะต้องเข้าไปโหลด “แอพลิเคชั่น” เพื่อลงทะเบียนว่าจะเดินทางไปพักค้างที่ไหน จำนวนกี่คืน หรือตัวอย่างสัปดาห์นี้วันเสาร์ที่ 5-6 มิถุนายน 2564 ชาวสวนได้เปิดให้จองล่วงหน้าผ่านออนไลน์ ชวนไปกิน “บุฟเฟต์ทุเรียน วิสาหกิจชุมชนชะอม” อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพิ่มมาตรการเกี่ยวข้อง D-M-H-T-T-A ของสาธารณสุข ททท.สามารถช่วยชุมชนได้ด้วยการประชาสัมพันธ์ต่อเนื่องหลังงานได้เพื่อสั่งซื้อทุเรียนทางออนไลน์มีบริการส่งถึงบ้าน
ขณะที่
“พระนครศรีอยุธยา” มีบริการนำเที่ยวนั่งเรือโบราณ “สุริยัน-จันทรา” ล่องแม่น้ำน้อย
จัดทำแพกเกจขาย “ล่องเรือแต่งงาน” ขนาดกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 20 คน มีโปรโมชั่นลดราคาด้วย เป็นกิจกรรมที่
ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยาร่วมสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์
กระทั่งนักท่องเที่ยวเริ่มรู้จัก
มีศิลปินดาราไปล่องแม่น้ำน้อยถ่ายภาพกันจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
รวมถึงโครงการขายท่องเที่ยวราคาพิเศษของทุกภาคผ่านทางเว็บไซต์ในโครงการ “มหาโปร อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม” จะขยาย 2 แนวทาง ได้แก่
แนวทางที่ 1 ขยายเวลาให้เข้าไปจองโปรโมชั่นแรง ๆ จากเดิมทุกวันที่ 5 ของเดือน ในช่วง 2 เดือนนี้ ระหว่างมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 ให้คลิกเข้าไปเลือกซื้อได้ยาวขึ้น ตั้งแต่วันที่ 5 ถึงวันที่ 10 ของทั้ง 2 เดือนนี้
แนวทางที่
2 ช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม 2564
หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงมากขึ้น เอกชนก็จะมีโปรเด็ด ๆ สามารถเข้ามาส่องดูได้
รวมทั้งเปิดโอกาสให้ซื้อแล้วเก็บไว้ใช้ได้ถึง 6-8 เดือนหน้า
การปรับขยายวันเข้าไปเลือกซื้อและโปรเด็ด
ๆ มากขึ้น เนื่องจากเริ่มเปิดตัวโครงการนี้เมื่อเดือนเมษายน 2564
มียอดจองซื้อสูงมาก แต่เจอโควิดรอบ 3 ทำให้เดือนพฤษภาคมผู้ซื้อเกิดความลังเล
ไม่มั่นใจในการเดินทาง จึงต้องปรับให้สอคคล้องกับสถานการณ์
ผอ.จุฑาทิพย์
กล่าวว่า ททท.ภูมิภาคภาคกลาง เป็นเจ้าภาพขับเคลื่อนโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ชะลอออกไปในช่วงโควิดรอบ 3 ขณะนี้รอรัฐบาลหรือ
คณะรัฐมนตรีมีมติประกาศให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่เท่าไร
เพื่อรับเงินสนับสนุนค่าห้องพัก ตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยว
ระหว่างรอรัฐบาล
ททท.เตรียมข้อมูลหลังบ้านไว้ให้พร้อม เนื่องจากตามสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2” นักท่องเที่ยวได้สิทธิ์จองห้องพัก 15 คืน/คน
หากยังใช้สิทธิ์พักไม่ครบ 15 คืน
ค้างอยู่กี่สิทธิ์ก็นำมาใช้ต่อในเฟส 3 ได้
ตอนนี้
ททท.ประสานกับทางธนาคารกรุงไทยจัดทำข้อมูลในระบบออนไลน์ให้ “กลุ่มผู้ประกอบการ”
ทั้ง โรงแรม/ที่พัก ร้านอาหาร รถเช่า เรือท่องเที่ยว ร้านของที่ระลึก และอื่น ๆ
ที่เคยเข้าร่วมแล้วเฟส 1- 2 ทยอยเข้ามาลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์มในระบบ E-from
แล้วให้รอจนกระทั่งทางธนาคารกรุงไทย เปิดให้ “ถุงเงิน”
ให้ผู้ประกอบการเข้าไปกด “รับ-Consent” ใหม่อีกครั้ง
เพื่อยืนยันว่าพร้อมจะเข้าร่วมเฟส 3 รองรับบริการประชาชนที่จะไปใช้จ่ายเงินตามสิทธิ์ดังกล่าว
ทาง ททท.ได้เปิดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้ามาลงทะเบียนอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีการให้เข้าไปทำการยืนยันหรือ Consent ใหม่ จนกว่ารัฐบาลจะประกาศวันที่ที่จะให้เริ่มกลับมาดำเนินการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ได้ แต่ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปตรวจเป็นระยะ ๆ ได้ ทางเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com จะมี Popup ขึ้นมา แจ้งว่า ยังมีผู้ประกอบการบางรายกรอกข้อมูลในระบบการลงทะเบียนไม่ครบ
หากมีรายชื่อ
“ผู้ประกอบการรายใด” ปรากฎอยู่บน Popup อยู่ในเว็บไซต์ของ
www.เราเที่ยวด้วยกัน.com แสดงว่าผู้ประกอบการรายนั้น ๆ
จะต้องเข้าไปกรอกรายละเอียดข้อมูลให้ครบ เมื่อธนาคารกรุงไทยเปิดให้แอพลิเคชั่น
“ถุงเงิน” จะได้ไม่มีปัญหา
เดือนมิถุนายน 2564 ททท.ยังคงเปิดให้ผู้ประกอบการ เข้ามาตรวจสอบรายชื่อ และกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนทางเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ให้เรียบร้อยแล้ว หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ คอล เซนเตอร์ 1672 กับทางอีเมล ttogetherfeedback@gmail.com ติดต่อสอบถามกับทางทีมงานได้ เพราะ ททท.ตั้งใจทำให้ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” เป็นโครงการช่วยพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วประเทศฟื้นฟูธุรกิจและรายได้กลับสู่ปกติโดยเร็ว
ขณะที่ “กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้ใช้สิทธิ์” ก็มีคนในประเทศอีกจำนวนมากที่ได้สิทธิ์ใช้บริการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” อีก 1 ล้านคืนพัก และผู้ที่จะนำสิทธิ์ที่ค้างอยู่จากเฟส 2 มาใช้ในเฟสนี้ก็สามารถทำได้ เพื่อช่วยท่องเที่ยวของประเทศกลับมาคึกคักเหมือนปกติต่อไป
ฟังข่าวต้นชั่วโมง
ข่าวที่ 1 คิงเพาเวอร์ผนึกแอพโรบินฮู้ดนำไทยเทสต์ฮับ3สาขาเสิร์ฟ200เมนูถึงทุกบ้าน
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ปรับแผนบริการ “ไทย เทสต์ ฮับ” ศูนย์อาหารที่รวบรวมสตรีตฟู้ดระดับตำนาน อำนวยความสะดวกบริการรับออร์เดอร์ผ่านแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี “โรบินฮู้ด” โดยให้ลิ้มรสชาติความอร่อยเลือกได้กว่า 200 เมนู จาก 2 แห่ง คือ 1.ไทย เทสต์ ฮับ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ และ 2.ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 – 20.00 น. ทาง ไทย เทสต์ ฮับ ทุกสาขา ได้เพิ่มความอุ่นใจให้ผู้รับบริการด้วยมาตรการ “คัดกรอง” ผ่านฉลากระบุชื่อร้านอาหาร พร้อมรายละเอียดให้สามารถตรวจสอบได้ด้วย
ล่าสุดได้ขยายไลน์เพิ่มที่ คิง เพาเวอร์ ศรีวารี เปิดให้บริการ ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.00 – 19.30 น. จะเริ่มบริการเดลิเวอรีผ่านแอปพลิเคชั่น“โรบินฮู้ด” เริ่มตั้งแต่ 5 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้าที่สั่งอาหารเดลิเวอรีจาก ไทย เทสต์ ฮับ ทุกสาขา ได้ยกระดับมาตรการคัดกรอง โดยทำฉลากแปะหน้ากล่องอาหาร ระบุชื่อร้าน รายการอาหาร ชื่อและอุณหภูมิของผู้ผลิตอาหาร รวมถึงวันที่และเวลาที่รับอาหารของพนักงานเดลิเวอรีโรบินฮู้ด ระบบดังกล่าวลูกค้าจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับมายังศูนย์อาหาร ร้านอาหาร เพื่อความอุ่นใจในการใช้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรีมากขึ้น รับประทานได้อย่างปลอดภัยทุกมื้อนั่นเอง
ข่าวที่ 2 “คิงเพาเวอร์”จัดใหญ่ช้อป6.6ฟิน6เดือน6ซื้อแบรนด์คู่ลด20%
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์
จัดมหกรรมช้อปต้อนรับ “เดือนมิถุนายน 2564” เชิญชวนสมาชิกและแฟนคลับร่วม “ช้อปฟิน” กับแคมเปญใหม่ ๆ
เลือกซื้อผ่านทางออนไลน์ www.kingpower.com แอพลิเคชั่น King Power และหน้าร้านเปิดให้บริการสาขา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศรีวารี มหานคร พัทยา
ภูเก็ต
“ช้อปสุดฟิน” ได้ด้วยการคลิกช้อปออนไลน์ได้ในทุกสถานที่ และเหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้าน ประหยัด ปลอดภัย กับโปรโมชั่นพิเศษสุด
แคมเปญ “6.6 Beauty Duo -ช้อปเป็นคู่รับส่วนลด 20%” ในวันที่ 6 เดือน 6 หรือ วันที่ 6 มิถุนายน 2564 เลือกช้อปแบรนด์อินเตอร์ดัง ซื้อคู่สุดคุ้ม เพียงจับคู่กันครบ 2 ชิ้นขึ้นไป ลดทันที 20% ระหว่างวันที่ 1 – 7 มิถุนายน 2564 ห้ามพลาด!! ไฮไลต์วันที่ 6 มิถุนายน 2564
พร้อมทั้งร่วมรับสิทธิประโยชน์เพิ่มอย่างคุ้มค่าถึง 6 รายการ ได้แก่ 1.บริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศแบบเดลิเวอรี่เมื่อมียอดซื้อครบ
699 บาทสุทธิ 2.แบ่งชำระ 0% ได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน 3.รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 600 บาท 4.รับฟรี!ของสมนาคุณสุดพิเศษ จากแบรนด์ดัง ซึ่งของแถมมีจำนวนจำกัด 5.รับส่วนลด 200 บาทเมื่อสมัครสมาชิกออนไลน์ และ6.รับสิทธิ์การสมัครสมาชิก คิง เพาเวอร์ เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทสุทธิ
สินค้าไฮไลต์ที่ คิง เพาเวอร์ นำมาเสนอให้ช้อปสุดฟิน ตามตัวอย่างดังนี้
1.CHLOÉ +POLA ลดเหลือ 4,448 บาท จากราคาปกติ 5,560 บาท ประกอบด้วย CHLOÉ MINIATURES COFFRET 2019 ราคาปกติ
1,735 บาท และ POLA
WHITE SHOT SXS 20 g ราคาปกติ 3,825 บาท
2. MONTBLANC + THE HISTORY OF WHOO ลดเหลือ 6,084 บาท จากราคาปกติ 7,605 บาท ประกอบด้วย MONTBLANC EXPLORER EDP 100 ml ราคาปกติ 2,840 บาท และ THE HISTORY OF WHOO CHEONGIDAN SPECIAL SET 4,765 บาท
3. SULWHASOO + COACH ลดเหลือ 3,828 บาท จากราคาปกติ 4,785 บาท ประกอบด้วย SULWHASOO GENTLE CLEANSING FOAM DUO ราคาปกติ 1,645 บาท และ COACH DREAMS EDP 90
ml ราคาปกติ 3,140 บาท
อีกทั้งมีสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าอื่น ๆ ให้เลือกช้อปอีกจำนวนมากมายกับแคมเปญ วันที่ 6 เดือน 6 หรือ วันที่ 6 มิถุนายน 2564 คลิกได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่ 3 ช้อป MAKE MY DAY “คิงเพาเวอร์”รับเพิ่มคูปองส่วนลดสูงสุด4,500บาท
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเดือนมิถุนายน 2564 ให้สิทธิ์ผู้ถือบัตรสมาชิก ร่วมช้อปอย่างคุ้มค่ากับช้อปแคมเปญ “MAKE MY DAY“ ระหว่างวันนี้ -30 มิถุนายน 2564 แจกคูปองส่วนลดรวมสูงสุดถึง 4,500 บาท โดยลงทะเบียนก่อนช้อปทุกครั้งเพื่อรับสิทธิดังกล่าว 1.ซื้อสินค้าครบ 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรีทันทีคูปองส่วนลด 1,500 บาท และ 2.ช้อป 10,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ รับฟรีคูปองส่วนลด 3,000 บาท
“วิธีรับสิทธิ” เพื่อใช้คูปองส่วนลด 1,500 บาท และ 3,000 บาท ลูกค้ารับสิทธิ์ได้เพียง 1 สิทธิ์ / คน/ วัน ซึ่งจะนับรวมสิทธิ์รวมทุกสาขาทั้งที่รางน้ำ มหานคร พัทยา และภูเก็ต โดยคูปองส่วนลดทั้ง 2 มูลค่า สามารถใช้ร่วมได้ในใบเสร็จเดียวกันเมื่อมียอดช้อปครบมูลค่า 16,000 บาทขึ้นไป แคมเปญนี้มีสินค้าที่ไม่เข้าร่วมรายการได้แก่ แผนกอิเล็กทรอนิกส์ สุรา และบุหรี่
พิเศษ !! เฉพาะการช้อปที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เมื่อช้อปครบ 5,000 บาท/ใบเสร็จ รับฟรีทันทีคูปองมูลค่า 300 บาท เพื่อนำไปใช้รับประทานอาหารสตรีทฟู้ดดังที่ “ไทย เทสต์ ฮับ - THAI TASTE HUB” หรือ หรือห้อง ECLIPSE ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
“การใช้คูปองฟรี” ที่ THAI TASTE HUB ต้องนําคูปอง ไปแลกเป็นบัตรเงินสดหรือ
Cash Card เพื่อชําระค่าอาหาร และการใช้คูปองที่ห้อง ECLIPSE
สามารถใช้ชําระค่าอาหารได้ทันทีด้วยเช่นกัน คูปองหมดอายุภายในวันที่ทําการแลกรับ และไม่สามารถแลกคืนหรือทอนเป็นเงินสด
ข่าวที่ 4 ททท.ชูปฏิบัติการSOPรับมือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์รับต่างชาติเริ่ม1ก.ค.64
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และ อเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้เสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 พิจารณาโครงการ “เอกสารขั้นตอนแนวทางปฏิบัติ หรือ Standard operating procedure : SOP” รองรับนโยบาย “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ของรัฐบาลจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของรัฐบาลไทย นั่นคือได้รับการฉีดวีคซีนครบเรียบร้อยแล้ว จากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ-กลาง ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขเรื่องประเทศที่พบเชื้อกลายพันธ์) เดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่จะต้องอยู่ในภูเก็ตให้ครบ 14 วันก่อน จึงจะเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ได้
ขณะเดียวกันทางกระทรวงสาธารณสุข กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอที่ประชุม ศบศ.เพิ่มเติมพ่วงพื้นที่ใหม่ซึ่งมีความพร้อมรอบ ๆ ภูเก็ตในกลุ่มอันดามัน สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ตามรูปแบบ Sealed Routes ประกอบด้วย
1.พังงา-เขาหลัก ไม่ต้องกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
2.กระบี่ โซนเกาะพีพี ไร่เล และเกาะไหง
รับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่กรกฎาคม 2564 กักตัวใน 4 คืน สามารถท่องเที่ยวได้ตามเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวที่กำหนดไว้
โดยให้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ในวันที่ 4-5
3.เกาะลันตา อ่าวนาง และทับแขก เดือนสิงหาคม 2564 เข้าไปเที่ยวได้แต่ต้องกักตัว 4 คืน
โดยจะปลดล็อกกระบี่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ไม่กักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกต่อไป
4.เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี เริ่มกรกฎาคม 2564 กักตัวไม่เกิน 4 คืน
5.เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตั้งแต่สิงหาคม 2564 เฉพาะ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า และจะต้องอยู่เชียงใหม่จนครบ 7 คืน จึงสามารถเดินทางไปพื้นที่อื่นได้ กระทั่งถึงเดือนตุลาคม 2564 จึงไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป
6.ชลบุรี ขอเริ่มไม่กักตัวเริ่ม 1 ตุลาคม 2564 3 พื้นที่หลักเมืองพัทยา อ.บางละมุง และ อ.สัตหีบ
สำหรับอีกพื้นที่เสนอขอเพิ่มเข้าไปหลังสุด 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน และบุรีรัมย์ คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เห็นชอบเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 7 พฤษภาคม 2564 รอที่ประชุมคณะกรรมการ ศบศ.และ ศบค.พิจารณาเรื่องไทม์ไลน์ไม่ต้องกักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติเหมือนกัน 6 พื้นที่แรก นั่นเอง
ข่าวที่ 5 ททท.ชวนกินบุฟเฟต์ทุเรียนทองผาภูมิ19-27 มิ.ย.จองล่วงหน้าลด100บาท
นางสาวปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ททท.สนับสนุนการเทศกาลผลไม้ “ทุเรียนทองผาภูมิและผลไม้กาญจนบุรี” ระหว่างวันที่ 19-27 มิถุนายน 2564 ทุกวันเริ่มเปิดให้อิ่มอร่อยได้ตั้งแต่ 11.00 น. จนถึง 17.00 น. ณ สวนไทรโยค รีสอร์ท
ห้ามพลาด !! จองล่วงหน้าเข้าร่วมกิน “บุฟเฟต์ทุเรียน” ภายในงาน ลดทันที 100 บาท จ่ายแค่คนละ 599 บาท เท่านั้น จากราคาเต็ม 699 บาท การเข้าร่วมบุฟเฟต์ทุเรียนจะจำกัดจำนวนไม่เกินวันละ 30 คน ครั้งละ 1 ชั่วโมง สามารถอิ่มได้ไม่อั้นกับทุเรียนทองผาภูมิ ปลายเดือนมิถุนายนนี้
สามารถจองบุฟเฟต์ทุเรียนทองผาภูมิ ได้ที่โทร. 02-967-8181 ถึง 3 หรือเพิ่มไลน์ไอดี @suansaiyokresort
แล้วโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคากสิกรไทย เลขที่บัญชี 865-1-00975-9 ชื่อบัญชี นายเอกฉัตร สุนทรหัทยา สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต ประเภทบัญชี ออมทรัพย์
ทั้งนี้ทุเรียนทองผาภูมิแท้ทุกลูก เหล่าสาวกที่หลงรักการกินทุเรียน
สามารถสแกนคิวอาร์โค้ด (QR
CODE) เพื่อค้นหาข้อมูลย้อนกลับถึงที่มาของแต่ละสวนได้
การันตีคุณภาพโดยนักวิชาการและพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี
นางจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) ภาคเหนือ กล่าวว่า ร่วมประชุมกับพันธมิตรเพื่อนำเสนอโครงการ “ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า” ขยายไปยังผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ทำความเข้าใจกับการยื่นขอรับการสนับสนุนงานประชุมสัมมนาในประเทศผ่านเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com
รวมทั้งได้นำเสนอแพ็กเกจกิจกรรมองค์กรในโครงการ “ขึ้นเหนือที่เดียว ครบทั้งเที่ยวทั้งประชุม” ก็สามารถของบประชุมเมืองไทยได้ด้วยเช่นกัน โดยมีความมั่นใจจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือตอนล่างผ่านโครงการประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่าได้เป็นอย่างดี
การประชุมร่วมกันระหว่างทีเส็บกับพันธมิตรครั้งนี้ได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมกว่า 100 คน จึงทำให้ทีเส็บและหอการค้าภาคเหนือ สามารถเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ผลักดันงานใหม่ระดับภาคจัดเพิ่มขึ้น สนับสนุนการฟื้นตัวครึ่งหลังปี 2564 สร้างมูลค่าเงินหมุนเวียนได้กว่า 50 ล้านบาท
ตามที่คณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (ภาคเหนือ) ประธานหอการค้าในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ประธานหอการค้าจังหวัด เลขาธิการหอการค้าจังหวัด ประธาน YEC และเครือข่ายร่วมประชุมและหาแนวทางออกร่วมกันที่จะใช้ทั้งโครงการ ประชุมเมืองไทย ปลอดภัยกว่า และโครงการ ขึ้นเหนือที่เดียว ครบทั้งเที่ยวทั้งประชุม เป็นเครื่องมือสำคัญผลักดันเศรษฐกิจภาคเหนือโดยรวมกลับสู่ปกติโดยเร็ว
ช่วงที่ 2 เริ่มเปิดแล้วกิจกรรมชวนปั่นจักรยานชมแดนศิลปินเมืองสมุทรสงคราม ตะลึงกับจิตรกรรมฝาผนัง “วัดอัมพวันเจติยาราม” กับเรื่องเล่า “บ้านปิ่นสุวรรณเบญจรงค์” ส่วนใครที่ยังไม่รู้ รีบเช็คด่วน “5อาการวิตกกังวลที่ไม่ควรละเลย” ทั้งตัวเองและคนในครอบครัว แล้วรีบคุยกับหมอเพื่อชีวิตที่ดี สำหรับข่าวฮ็อตฮิต “ไทยสมายล์ลั่นบินข้ามประเทศ “ภูเก็ต-ฮ่องกง” 4 เที่ยว/สัปดาห์ ขายตั๋วแค่เที่ยวละ 3,850 บาท เริ่ม 2 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ทางด้าน “อิมพีเรียลกรุ๊ป” ยกโรงแรมทั้งเครือย่านทำเลทองในกรุงเทพฯ และทั่วไทย มาเทโปรโมชั่นขายห้องพักระยะยาว แค่เดือนละ 6,000 บาท ลูกค้ารับฟรีเกือบทุกอย่าง
ปั่นเที่ยวชมศิลป์“วัดอัมพวัน-บ้านปิ่นสุวรรณเบญจรงค์”สมุทรสงคราม
การเดินทางบางพื้นที่เริ่มผ่อนคลาย ทำให้กลุ่มนักปั่นจักรยานท่องเที่ยว ตอนนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับเอกชน ชวนสมัครปั่นจักรยานท่องเที่ยวกับคู่ปักนักปั่น “หมู&วรรณ” ชวนปั่นชมสวนเยือนถิ่นศิลปินสมุทรสงคราม 2 วัน 1 คืน ระหว่าง 19-20 มิถุนายน นี้
ทำกิจกรรมสบาย ๆ
วันที่ 19 มิถุนายน ปั่นไปคุยไปกับคู่รักนักปั่น
“หมู&วรรณ” ตกเย็นก็แวะไปรับประทานอาหารที่ร้าน
“แมงโกรฟ” ริมแม่น้ำแม่กลอง จากนั้นวันที่ 20
มิถุนายน ตื่นเช้าเข้าขบวนปั่นกันตั้งแต่ 7
โมง เป้าหมายมี 2 จุดพัก
จุดที่ 1 แวะชมงาน “จิตรกรรมฝาผนังวัดอัมพวันเจติยาราม” มีจิตรกรรมบริเวณระหว่างช่องประตูด้านล่างเป็นภาพการเสด็จพระราชดำเนิน เลียบพระนครโดยกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค รวมทั้งกุฏิใหญ่ พระที่นั่งทรงธรรม พระตำหนัก พระวิหาร พระบรมรูปรัชกาลที่ 2 สะท้อนศิลปะและสถาปัตยกรรมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นแทบทั้งสิ้น สามารถเข้ารับชมได้ทุกวัน เวลา 8.00-16.00 น.
จุดที่ 2 เยือน “บ้านปิ่นสุวรรณเบญจรงค์” ร่วมฟังเรื่องเล่าจากช่างยอดบอกถึงตำนานลายเบญจรงค์ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และโรงงานผลิตเครื่องเบญจรงค์แบบโบราณแห่งแรกของจังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีคุณลุงวิรัตน์ ปิ่นสุวรรณ ก่อตั้งริเริ่มทำอาชีพนี้มานานกว่า 50 ปี
เป็นแหล่งผลิตเครื่องถ้วยเบญจรงค์ที่เลียนแบบของโบราณได้เหมือนที่สุดในประเทศไทย
สามารถสร้างอาชีพให้คนในชุมชนอัมพวา มีรายได้ มีความรู้ความสามารถทำเครื่องเบญจรงค์
กระทั่งคุณลุงวิรัตน์ได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติเป็น “”ครูศิลป์ของแผ่นดิน”
ทุกวันนี้ “บ้านปิ่นสุวรรณ” ยังคงอนุรักษ์ทั้ง ลวดลายแบบโบราณ กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม และใช้ศิลปะชั้นสูงในการออกแบบที่ละเอียด อ่อนช้อย เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในหมู่เจ้านายชั้นสูง คหบดี บริษัทห้างร้านต่างๆ และชาวต่างชาติ แวะเวียนกันเข้ามาเยี่ยมชมอยู่ตลอด
สมัครเข้าร่วมปั่นท่องเที่ยวชมสวน เยือนถิ่นศิลปิน ได้ที่ https://forms.gle/faAqupFSjTsd93Lt7 ทางผู้จัดลดพิเศษ!! ค่าสมัคร 1. ทริปปั่น 2 วัน 1 คืน คนละ 1,900 บาท จากราคาเต็ม 2,900 บาท พักเดี่ยวเพิ่มเงิน 900 บาท หรือ 2.สมัครทริปปั่นจักรยานอย่างเดียว ราคา 600 บาท จากราคาเต็ม 1,200 บาท) โทร.สอบถามได้ที่ 080- 591-0959 , 098-945-6568
ปั่นจักรยานท่องเที่ยวชมสวน แวะบ้านศิลปิน สมุทรสงคราม เป็นอีกหนึ่งเที่ยวเมืองไทย อะเมซิ่ง ยิ่งกว่าเดิม ภายใต้การท่องเที่ยววิถีใหม่ต้องรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุดควบคู่กันไป
แพทย์ทั่วโลก-หมอไทยยืนยันโควิดไม่ติดต่อทางอาหารปรุงสุกกินได้ปกติ
โควิด-19 อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง
อย่างไรก็ตามในส่วนของอาหารการกิน มีข้อมูลจากงานวิจัย
รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมายืนยันว่า โควิด-19 ไม่ติดต่อทางอาหารได้อย่างแน่นอน
เรื่องนี้ผู้บริโภคต้องทำความเข้าใจก่อนจะกังวลจนเกินไป
เพราะทุกหน่วยงานทั้งองค์กรสากล และแพทย์ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ หน่วยงานภาครัฐของไทย
ต่างบอกตรงกันว่า “โรคโควิด-19 ไม่ติดต่อทางการกินอาหาร
และทางการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์อาหารทุกชนิด” ที่สำคัญพวก
“เนื้อไก่-หมู-เป็ด-กุ้ง-ปลา ปลอดภัยไม่นำโรคโควิด-19”
องค์กรระดับโลกทั้ง WHO FAO การันตีด้วยการยืนยันว่า
อาหารไม่ใช่แหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 กรณีที่เนื้อสัตว์ปนเปื้อนเชื้อโควิดจากผู้ป่วยก็มีโอกาสน้อยที่จะทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคได้
เพราะโควิดเป็นเชื้อไวรัสที่มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมได้ต่ำและถูกทำลายได้ง่าย
ปริมาณของเชื้อไวรัสจึงไม่เพียงพอที่จะก่อให้เกิดโรค แนะผู้บริโภคควรทานเนื้อสัตว์ปรุงสุกเท่านั้น
เพราะเชื้อโควิดสามารถทำลายได้ด้วยความร้อน
สอดคล้องกับแถลงการณ์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ
(USFDA) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ
(CDC) ที่ว่า โรคโควิด-19 ไม่ติดต่อทางระบบทางเดินอาหารและทางการสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์ทุกชนิด
ไม่ใช่โรคติดต่อทางการกินอาหารเหมือนอย่างโรคไวรัสตับอักเสบA โรคท้องร่วงจากโนโรและโรตาไวรัส
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ
หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การันตีอีกเสียงว่า สัตว์เศรษฐกิจ เช่น หมู ไก่ เป็ด งานวิจัยพบว่าไม่สามารถติดโรคโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน
ประชาชนจึงสบายใจได้ในการบริโภคเนื้อสัตว์เหล่านี้ แต่ต้องปรุงอาหารให้สุก สะอาด
ไม่แนะนำให้ทานอาหารดิบๆสุกๆเด็ดขาด
เพราะอาหารที่สุกความร้อนสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทุกชนิดรวมทั้งโควิด-19
ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า ผู้บริโภคสามารถกินเนื้อสัตว์ได้ปกติ
แต่แนะนำให้ปรุงสุกทุกครั้งก่อนรับประทาน และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
ก่อนนำมาปรุงสุกควรล้างให้อาด โดยเฉพาะภายนอกบรรจุภัณฑ์ก่อนนำมาเก็บหรือเตรียมปรุง
การปรุงสุกต้องใช้ความร้อนสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส
ไม่น้อยกว่า 5 นาที จะเป็นการทำลายเชื้อโรคต่างๆรวมถึงโควิด-19
ด้วย ย้ำว่าควรล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดทั้งก่อนและหลังปรุง
หรือมีการหยิบจับ รวมทั้งหลรกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ปาก จมูกและตา เพื่อสุขภาพที่ดี
นางชาริตา ลีลายุทธ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ทันทีที่รัฐบาลอนุมัติให้เดินหน้าโครงการ
“ภูเก็ต แซนด์ บ็อกซ์” ทางไทยสมายล์ก็พร้อมกลับมาให้บริการเส้นทางต่างประเทศ ไป-กลับ
ภูเก็ต-ฮ่องกง 4
เที่ยว/สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
โดยเปิดให้ผู้โดยสารจองซื้อตั๋วได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ไทยสมายล์จะบิน 4 เที่ยว/สัปดาห์ ทุกวันจันทร์ / พุธ/ ศุกร์/ อาทิตย์) ราคาตั๋วโดยสารรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว บริการแบบฟูลเซอร์วิส เริ่มต้น 3,840 บาท/คน/เที่ยว
โดยไทยสมายล์เล็งเห็นโอกาสและศักยภาพเส้นทางบินในภูมิภาค สู่ภูเก็ตและเชื่อมต่อมายังสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความพร้อมด้านการบินและมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงมาตรฐานเดียวกับการบินไทย
ปัจจุบันไทยสมายล์ให้บริการบินในประเทศ 9 เส้นทาง ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น กระบี่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และนราธิวาส
ข่าวที่สอง โรงแรมเครืออิมพีเรียลเทโปรทั่วไทยพักยาวจ่ายแค่6พันบาท/เดือน
โรงแรมเครืออิมพีเรียล รายงานว่า
ได้จัดทำโปรโมชั่นพิเศษ ! ขายห้องพักระยะยาวโรงแรมในเครือทั่วไทย
ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหาที่พักดี ๆ คุณภาพระดับโรงแรม จ่ายราคาเริ่มต้นเพียง 6,000 บาท/เดือน
จองและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2564 ฟรีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต
เหมาะกับผู้ที่หาห้องพักแบบจ่ายทีเดียวจบ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือมัดจำอื่น ๆ
มีโรงแรมเครืออิมพีเรียลให้เลือกใช้บริการตั้งอยู่ในทำเลหลัก ๆ ใกล้รถไฟฟ้า BTS, MRT ใกล้ห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง หาของกินง่าย เดินทางสะดวก ใจกลางเมือง ให้คุณได้เลือกพักผ่อนระยะยาวในเครือโรงแรมอิมพีเรียลทั้ง กรุงเทพฯ ภาคเหนือ ภาคกลาง หรือโรงแรมริมทะเล ให้เราจะเปลี่ยนวันพักผ่อนระยะยาวของคุณให้เป็นวันที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ค่าที่พัก “รายสัปดาห์” เริ่มต้น 2,500 บาท/สัปดาห์ “รายเดือน” ราคาเริ่ม 6,000 บาท/เดือน แต่จะไม่รวมค่าอาหารเช้าในแต่ละวัน
โดยมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ตั้งแต่ 1.บริการสระว่ายน้ำ ฟิสเนส (ขึ้อยู่กับโรงแรม)
2.แม่บ้านทำความสะอาดห้องอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
3.กล้องวงจรปิด CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
24 ชั่วโมง 4.พนักงานต้อนรับเพื่อช่วยเหลือ
24 ชั่วโมง และ 5.ฟรี! ค่าน้ำ และ
ค่าไฟ
จองได้ที่ Website: www.imperialhotels.com Email:
rsvn@imperialhotels.com
ติดตามฟังรายการได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
เวลา 11.00-12.00 น.ทาง สวท.FM
97.0 MHz.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น